ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Thu Jun 28, 2007 7:26 pm ชื่อกระทู้: ปะมะนบี |
|
|
อยากถามว่า ปะมะนบี เป็นอิสลาม เป็นมุสลิมหรือป่าวครับ เพราะผมคิดว่า ตอนที่นบีได้รับอิสลามมาเผยแพร่นั่น ปะมะนบีก้อเสียแล้วหนิ่ครับ เลยงงๆ ...และก้อ กระทู้นี่ผมเคยถามไปแล้วรู้สึกจะโดนลบ อย่าลบอีกน่ะครับ เพราะไม่เห็นจะผิดตรงไหนที่ถามแบบนี้ เหอๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jun 28, 2007 8:14 pm ชื่อกระทู้: Re: ปะมะนบี |
|
|
ฟารุก บันทึก: | อยากถามว่า ปะมะนบี เป็นอิสลาม เป็นมุสลิมหรือป่าวครับ เพราะผมคิดว่า ตอนที่นบีได้รับอิสลามมาเผยแพร่นั่น ปะมะนบีก้อเสียแล้วหนิ่ครับ เลยงงๆ ...และก้อ กระทู้นี่ผมเคยถามไปแล้วรู้สึกจะโดนลบ อย่าลบอีกน่ะครับ เพราะไม่เห็นจะผิดตรงไหนที่ถามแบบนี้ เหอๆ |
...........
ขอสักเรื่องเถอะครับ อย่าไปยุ่งกับบุพการีของท่านนบี เลย ขอให้เป็นเรื่องของอัลลอฮเถอะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Thu Jun 28, 2007 8:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอโทดน่ะที่ถาม เพราะผมไม่รู้ว่าถามที่นี่ไม่ได้ ผมไม่ได้มีเจตนาถามเพื่ออะไรน่ะครับ ผมถามไปตามความเข้าใจความรู้สึกของผมจริงๆ พอจะเข้าใจในความสงสัยของผมน่ะครับ หากไม่ประสงค์จะตอบก็ไม่เป็นไรครับ ค่อยเอาไว้ถามคนอื่นก็ได้ ขอบคุณครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Thu Jun 28, 2007 8:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ตอบไม่ได้ไม่อยากตอบก็บอกเหตุผล ชี้แจง มาในรูปแบบนิ่มนวลก็ได้น่ะครับ คนกันเอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Sat Jul 07, 2007 7:52 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ชาวยตอบหน่อยดิ่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ทีมงานสื่ออนุรักษ์ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 25/02/2004 ตอบ: 47
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 3:10 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำถามที่ 21 พ่อกับแม่ของท่านนบีเป็นมุสลิมหรือไม่
คำถามโดย คุณฟารุก
อยากถามว่า ปะมะนบี เป็นอิสลาม เป็นมุสลิมหรือป่าวครับ เพราะผมคิดว่า ตอนที่นบีได้รับอิสลามมาเผยแพร่นั่น ปะมะนบีก้อเสียแล้วหนิ่ครับ เลยงงๆ ...และก้อ กระทู้นี่ผมเคยถามไปแล้วรู้สึกจะโดนลบ อย่าลบอีกน่ะครับ เพราะไม่เห็นจะผิดตรงไหนที่ถามแบบนี้ เหอๆ
คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
ขอมะอัฟท่านสมาชิกที่ชื่อ ฟารุก ด้วยครับ ผมไม่เห็นคำถามที่ท่านโพ้สไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับระยะหลังก็ไม่ค่อยได้สำรวจกระทู้ และไม่ค่อยได้ตอบคำถามมากนัก เพราะสาละวนอยู่กับการเขียนบทความเรื่องชีอะห์ และก็ต่อด้วยการแปลฮะดีษจากบันทึกของท่านอิหม่ามบุคคอรีและอิหม่ามมุสลิม ฉะนั้นจึงทำให้ท่านต้องโพ้สถามซ้ำมาอีกครั้ง
เกี่ยวกับพ่อและแม่ของท่านนบีนั้น ถ้าเราศึกษาจากอัลกุรอานและจากฮะดีษของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็จะพบว่า แม้แต่พ่อของท่านนบีอิบรอฮีม อลัยฮิสสลาม ก็ไม่ได้รับอิสลาม มิหนำซ้ำยังปั้นเจว็ดขายเสียอีก, ลูกชายของท่านนบีนัวฮ์ อลัยฮิสสลาม ก็ปฏิเสธคำเรียกร้องของพ่อ แล้วอัลลอฮ์ก็ให้คลื่นซัดหายจมไปต่อหน้าต่อตาท่านนบีนัวฮ์
ส่วนพ่อกับแม่ของท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็ไม่มีหลักฐานใดที่ถูกต้องยืนยันว่า ท่านทั้งสองได้ถือศาสนาตามที่ท่านนบีมูซา หรือท่านนบีอีซา มาเรียกร้องเชิญชวนก่อนหน้านั้น ยิ่งกว่านั้นพ่อของท่านนบีได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ที่ท่านนบียังอยู่ในท้องแม่, ส่วนแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ท่านนบียังเล็ก ขณะที่ท่านนบีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรอซูลเมื่อตอนอายุ 40 ปี
เราทราบข้อมูลเหล่านี้ แต่วิจารณ์ลำบาก เพราะเหตุผลของเราไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐาน แต่ก็ยังมีบางคนที่ใช้ปัญญาอธิบายเรื่องนี้ ขณะที่หาหลักฐานถูกต้องมารองรับไม่ได้ บางคนจึงต้องอาศัยฮะดีษเก้มายืนยัน เช่นข้อความที่ว่า อัลลอฮ์จะให้พ่อกับแม่ของนบีฟื้นขึ้นมารับอิสลามกับท่านนบีแล้วตายไปอีกครั้ง อย่างนี้คือตัวบทหลักฐานเท็จครับ
ส่วนตัวบทหลักฐานที่ถูกต้อง (ศอเฮียะห์) ตามที่มีบันทึกจากตำราฮะดีษมีดังนี้
عَنْ أَنَسٍ قَالَ أَنَّ رَجُلاً قَالَ يَارَسُوْلَ اللهِ أيْنَ أبِيْ قَالَ فِى النَّارِ فَلَمَّا قَفَّى دَعَاُه فَقاَلَ اِنَّ أَبِي وَأبَاكَ فِى النَّارِ
อนัส (บินมาลิก) รายงานว่า มีชายผู้หนึ่งได้กล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ พ่อของฉัน (ที่เสียชีวิตแล้ว) เขาอยู่ที่ไหน ท่านตอบว่า ในนรก และหลังจากที่ชายผู้นั้นหันหลังกลับ ท่านก็เรียกเขามาแล้วกล่าวว่า แท้จริงทั้งพ่อของฉันและพ่อของท่านอยู่ในนรก (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุ้ลอีหม่าน ฮะดีษเลขที่ 302)
عَنْ أبِي هُرَيْرَةَ قَالَ زَارَ النَّبِيُ صَلىَ الله ُعَليْهِ وَسَلَّمَ قَبْرَ أُمِّهِ فَبَكَى وَأبْكَى مَنْ حَوْلَهُ فَقَالَ اِسْتَأدَنْتُ رَبِّي فِي أنْ أسْتَغْفِرَ لَهَا فَلَمْ يُؤْدَنْ لِي وَاسْتأَدَنْتُهُ فِي أنْ أزُوْرَ قَبْرَهَا فَأدِنَ لِي فَزُوْرُوا القُبُوْرَ فَاِنَّهَا تُدَكِّرُ المَوْتَ
อบีฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ไปเยี่ยมหลุมศพแม่ของท่าน แล้วท่านก็ร้องไห้ จึงทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างท่านร้องไห้ไปด้วย ท่านกล่าวว่า ฉันร้องขออนุญาตต่อองค์อภิบาลของฉันในการขออภัยโทษให้กับแม่ของฉัน แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ฉันจึงขออนุญาตต่อพระองค์ในการเยี่ยมหลุมศพแม่ของฉัน แล้วพระองค์ก็ทรงอนุญาต ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายควรเยี่ยมหลุมศพกันเถิด เพราะมันทำให้ระลึกถึงความตาย (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุ้ลญะนาอิซ ฮะดีษเลขที่ 1622)
ฮะดีษนี้ถูกจัดไว้ในบทที่ว่าด้วยเรื่องการขออภัยโทษให้กับคนที่ไม่ใช่มุสลิม (ดูคำอธิบายฮะดีษศอเฮียะห์มุสลิม โดยท่านอิหม่ามนะวาวีย์)
เรารับทราบเรื่องนี้จากตัวบทหลักฐานก็คงเพียงพอแล้ว ไม่ควรเอาปัญญาของเราไปต่อเติมจนเลยเถิดน่าจะปลอดภัยกว่า วัลลอฮุอะอ์ลัม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 10:57 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณมากๆครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 12:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ก่อนอื่นต้องขอมาอัฟ คุณฟารุกที่ไม่ได้ตอบแต่แรก เพราะปัญหาเดียวกันนี้ ผมได้ตอบข้อกล่าวหาของนักศึกษาอียิปต์ แล้ว ในมุสลิมไทยซึ่งกลายเป็นกระทู้ร้อนจนเว็บมาสเตอร์ ต้องปิดกระทู้ ที่กล่าวพวกเขากล่าวหาว่า "พวกวะฮบีย์"กล่าวหาว่า พ่อแม่นบีตกนรก ผมจึงไม่อยากเปิดประเด็นขึ้นอีก แต่เมื่อทางทีมงานอนุรักษ์ ตอบให้แล้ว ผมก็ขอเสริมคำอธิบายหะดิษข้างล่างนี้
عَنْ أبِي هُرَيْرَةَ قَالَ زَارَ النَّبِيُ صَلىَ الله ُعَليْهِ وَسَلَّمَ قَبْرَ أُمِّهِ فَبَكَى وَأبْكَى مَنْ حَوْلَهُ فَقَالَ اِسْتَأدَنْتُ رَبِّي فِي أنْ أسْتَغْفِرَ لَهَا فَلَمْ يُؤْدَنْ لِي وَاسْتأَدَنْتُهُ فِي أنْ أزُوْرَ قَبْرَهَا فَأدِنَ لِي فَزُوْرُوا القُبُوْرَ فَاِنَّهَا تُدَكِّرُ المَوْتَ
อบีฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ไปเยี่ยมหลุมศพแม่ของท่าน แล้วท่านก็ร้องไห้ จึงทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างท่านร้องไห้ไปด้วย ท่านกล่าวว่า ฉันร้องขออนุญาตต่อองค์อภิบาลของฉันในการขออภัยโทษให้กับแม่ของฉัน แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ฉันจึงขออนุญาตต่อพระองค์ในการเยี่ยมหลุมศพแม่ของฉัน แล้วพระองค์ก็ทรงอนุญาต ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายควรเยี่ยมหลุมศพกันเถิด เพราะมันทำให้ระลึกถึงความตาย (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุ้ลญะนาอิซ ฮะดีษเลขที่ 1622)
........
อิหม่ามนะวาวีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
فيه أن من مات في الفترة على ما كانت عليه العرب من عبادة الأوثان فهو من أهل النار ، وليس هذا مؤاخذة قبل بلوغ الدعوة ، فإن هؤلاء كانت قد بلغتهم دعوة إبراهيم وغيره من الأنبياء صلوات الله وسلامه عليهم "
ในหะดิษนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่อยู่ในยุคฟัตเราะฮ(ยุคที่ไม่มีนบีถูกส่งมาหรือขาดช่วงต่อระหว่างนบี)) ได้เสียชีวิต บนสิ่งที่ชาวอาหรับเป็นอยู่จากการบูชาเทวรูป เขาคือส่วนหนึ่งจากชาวนรก และ กรณีนี้ ไม่ใช่เป็นการเอาผิดก่อนการดะฮวะฮ(เชิญชวนสู่อิสลาม)มาถึง เพราะพวกเขาเหล่านี้ การดะฮวะฮของนบีอิบรอฮีมและอื่นจากท่าน จากบรรดานบี (ขอให้บรรดาพรและความสันติสุขของอัลลอฮ จงประสบแด่พวกเข) ได้ถึงมายังพวกเขาแล้ว " - ชัรหุมุสลิม เล่ม 3 หน้า 79 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 12:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีบางคนอ้างว่า พอ่แม่นบี ถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ แล้วได้ศรัทธาต่ออิสลาม เรื่องนี้ ท่านอัลอะซีม อาบาดีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)ได้อธิบายว่า
كل ما ورد بإحياء والديه صلى الله عليه وسلم وإيمانهما ونجاتهما أكثره موضوع مكذوب مفترى ، وبعضه ضعيف جداً لا يصح بحالٍ ، لاتفاق أئمة الحديث على وضعه وضعفه كالدارقطني والجوزقاني وابن شاهين والخطيب وابن عساكر وابن ناصر وابن الجوزي والسهيلي والقرطبي وجماعة "
ทุกหะดิษที่รายงานว่า พ่อแม่ของท่านนบี ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ,ท่านทั้งสองได้ศรัทธาและปลอดภัยจากนรกนั้น ส่วนมากเป็นหะดิษที่ถูกปลอมขึ้นมา,เป็นการโกหกและอุปโลกน์เรื่องเท็จขึ้นมา และบางส่วนของมัน เป็นหะดิษที่เฎาะอีฟเป็นอย่างมาก ไม่เศาะเฮียะเลยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นมติของบรรดาอิหม่ามแห่งหะดิษ ว่า เป็นหะดิษปลอมและหะดิษเฏาะอีฟ เช่น อัดดารุ้ลกุฏนีย์, อัลเญาซะกอนีย์,อิบนชาฮิดัยน์ ,อัลเคาะฏีบ,อิบนุอะสากีร,อิบนุนาศีร,อิบนุลเญาซีย์,อัสสุฮัยลีย์,อัลกุรฏุบีย์ และคณะนักหะดิษกลุ่มหนึ่ง" - ดู เอานุลมะฮฺบูด เล่ม 12 หน้า 492และมัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 4 หน้า 324 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 12:53 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หน้าที่ของพวกเราจะต้องตระหนักว่า การมีตระกูลเดียวกันกับคนดีนั้น ไม่ได้ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ ตะอาลา ดังที่ท่านอิ ม่ามนะวาวีย์ได้กล่าวว่า
من مات على الكفر فهو في النار ولا تنفعه قرابة المقربين "
ผู้ใดตายในสภาพที่เป็นกุฟุร เขาก็อยู่ในนรก และการเป็นญาติใกล้ชิดกับบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้านั้น ไม่ได้ก่อประโยชน์ ให้แก่เขาแต่ประการใด" ดู ชัรหุมุสลิม 3/79 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jul 08, 2007 1:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ท่านนบี กล่าวว่า
يا معشر قريش اشتروا أنفسكم لا أغني عنكم من الله شيئاً ، يا بني عبد مناف لا أغني عنكم من الله شيئاً ، يا عباس بن عبد المطلب لا أغني عنك من الله شيئاً ، ويا صفية عمة رسول الله لا أغني عنك من الله شيئاً ، ويا فاطمة بنت محمد سليني من مالي ما شئت لا أغني عنك من الله شيئاً
"โอ้ชาวกุเรช เอ๋ย พวกท่านจงซื้อตัวของพวกท่านเถิด ฉันไม่สามารถช่วยเหลือพวกท่านจากการลงโทษของอัลลอฮได้เลย ,โอ้ลูกหลานอับดุลมะนาฟ ฉันไม่สามารถช่วยเหลือพวกท่านจากการลงโทษของอัลลอฮได้เลย,โอ้อับบาส บุตร อับดุลมุฏเฏาะลิบ ฉันไม่สามารถช่วยเหลือท่านจากการลงโทษของอัลลอฮได้เลย,โอ้เศาะฟียะฮ อา ของรซูลุ้ลลอฮ กระผมไม่สามารถช่วยเหลือ ท่านจากการลงโทษของอัลลอฮได้เลยและโอ้ ฟาติมะฮ ลูกสาวของมุหัมหมัด เจ้าจงขอพ่อ จากทรัพย์สินของพ่อเถอะ ตามที่เจ้าต้องการ พ่อไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าจากการลงโทษของอัลลอฮได้เลย" - รายงานโดยบุคอรี(2753)และมุสลิม(206) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ฟารุก มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2007 ตอบ: 142
|
ตอบ: Mon Jul 09, 2007 8:15 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณมากๆครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|