ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 7:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เปลียนหนังสือ อีกละ เอาทีละเล่มซิ ว่าไง ตรงไหนอีก ว่า คนผม ตะอัสซุบ
ระหวังนะคับ จะย้อนกลับหาตัวเอง
1. ท่านไม่มีวิชาการ
2.อ่านหนังสื่อ แล้วเข้าใจเอง
3. ผมตอบตาม กรุอ่านและ หะดีษ
4. คุณตอบตามสมอง
5.ไม่พอ ว่าผมตะกับโบร ทั้งที่ผมขอดุอาให้
สุดท้ายผมไม่เอานะ หนังสือ อีกเล่ม คุยเล่มเดียวพอ เพราะ มันไร้ประโยนช์กับการคุยผู้ที่ไม่เอาคำตอบ ตกลงจะเอาไหมหะดีษ บทนี้ จะเอาเป็นหลักฐานเรื่องนี้ใช่หรือไม่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 8:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ในหนังสื่อฟิกฮุ ซุนนะห์ ของท่านซัยยิดสาบิด (แปลโดยสามาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)
เล่มที่2 หน้า 421
อันดับแรก ขอทำความเข้าใจ กับท่านที่กำลัง ติดตามกระทู้นี้ และน้อง f1 ด้วยคับ
น้อง f1 นำเอาข้อความในหนังสือนี้มาโต้แย้ง คำตอบของผมและฟัตวาของบรรดา อุลามะห์ โดยน้องแก่กล่าวว่า มีอีกทัศนะหนึ่งที่สามารถนำมาปฎิบัติได้ ( คืออนุญาติให้ยกมือขอดุอาหลังละหมาดฟัรดูได้ ) นี่คือที่มาที่ไปคับ
น้องเขา นำเอาหะดีษ มา 1 บท เป็นหลักฐานว่าอนุญาตให้ทำได้คือ
عَنْ أَبِي أُمَامَةَ رضي الله عنه قَالَ : قِيلَ : يَا رَسُولَ اللَّهِ أَيُّ الدُّعَاءِ أَسْمَعُ ؟ قَالَ :
( جَوْفَ اللَّيْلِ الْآخِرِ ، وَدُبُرَ الصَّلَوَاتِ الْمَكْتُوبَاتِ )
คำแปล จากท่านอบีอุมามะห์ ขออัลลอฮทรงพอพระทัยเขาด้วยเถิด กล่าวว่า มีผู้หนึ่งถามว่า
โอ้ ท่านรอซูลุ้ลลอฮ ดุอาแบบไหนที่จะถูกตอบรับมากที่สุด? ท่านตอบว่า
เมื่อยามช่วงสุดท้ายของกลางคืน และตอนหลังละหมาดฟัรดู บันทึกโดยอีหม่ามติรมีซีย์ ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง เลขที่หะดีษ 3499 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 8:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
พี่น้องที่รักยิ่งทุกท่าน ร่วมถึง น้อง f1 ด้วยคับ
น้องเขา นำเอาหะดีษ มา 1 บท เป็นหลักฐานว่าอนุญาตให้ทำได้คือ
( جَوْفَ اللَّيْلِ الْآخِرِ ، وَدُبُرَ الصَّلَوَاتِ الْمَكْتُوبَاتِ )
คำแปล จากท่านอบีอุมามะห์ ขออัลลอฮทรงพอพระทัยเขาด้วยเถิด กล่าวว่า มีผู้หนึ่งถามว่า
โอ้ ท่านรอซูลุ้ลลอฮ ดุอาแบบไหนที่จะถูกตอบรับมากที่สุด? ท่านตอบว่า
เมื่อยามช่วงสุดท้ายของกลางคืน และตอนหลังละหมาดฟัรดู บันทึกโดยอีหม่ามติรมีซีย์ ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง เลขที่หะดีษ 3499
พี่น้องทุกท่าน และน้อง ที่ใช้นามว่า f1 คับ ในหะดีษบทนี้หากเรามองโดยผ่านๆ แล้วตีความเอาตามหะดีษ เองตามความเข้าใจของเราเอง ซึ่ง ทำให้การตีความผิดพลาดไปอย่างไม่รู้ตัว เพราะการที่เรานำเอาความเข้าใจซึ่งไม่ได้ศึกษาในเรื่อง ภาษาอาหรับ ให้กระจ่างละก้อ มันก้อจะเกิดข้อผิดพลาดได้ดั่งน้อง f1 ที่นำเอา หะดีษ บทนี้มาเป็นหลักฐานให้ยกมือดุอาหลังละหมาด ฟัรดู ได้คับ
ตอนนี้ผมขอนำเสนอจุดคล้ายของเรื่องนี้ให้พี่น้องที่ติดตามกระทู้ทุกท่านคับ
ประการแรก สิ่งที่มีปัญหาให้เรา ไม่เข้าใจก็คือคำของท่านนบีที่ว่า وَدُبُرَ الصَّلَوَاتِ และตอนหลังละหมาดฟัรดู ตรงนี้ที่ทำให้เรา หงุ่นงง ว่า ทำไม ฟัตวา ขัดกับ หะดีษของท่านนบีละ
ประการต่อมา ถ้าหากหะดีษบทนี้ไม่ได้หมายถึง ให้ขอดุอาหลังละหมาดฟัรดูละ แล้วหมายถึงอะไร
เพราะฉะนั้นการที่เราจะค้นคว้าในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นความยากลำบาก สำหรับผู้ไม่ได้เรียน เช่นน้อง f1 คับ
เรามาดูกันว่า คำว่า َدُبُر คำนี้แปลว่าอะไร เราลองกับไปค้นคว้าแล้วพบว่า คำนี้ มีหะดีษ หลายบทด้วยกันที่มาบงชี้ให้เราได้ทราบว่าคำนี้หมายว่าอย่างไร เราลองมาดูกันคับ
1- ما رواه البخاري (6330) ومسلم (594) عَنْ الْمُغِيرَةِ بْنِ شُعْبَةَ رضي الله عنه أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ يَقُولُ فِي دُبُرِ كُلِّ صَلَاةٍ إِذَا سَلَّمَ : (لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ ، لَهُ الْمُلْكُ ، وَلَهُ الْحَمْدُ ، وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ ، اللَّهُمَّ لَا مَانِعَ لِمَا أَعْطَيْتَ ، وَلَا مُعْطِيَ لِمَا مَنَعْتَ ، وَلَا يَنْفَعُ ذَا الْجَدِّ مِنْكَ الْجَدُّ) .
คำแปล จากท่านมุคีเราะห์บิน ชั่อบะห์ ขออัลลอฮทรงพอพระทัยเขาด้วยเถิด แท้จริงท่านรอซูลลุ้ลลอฮ ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ในช่วงท้ายของการละหมาดทุกๆเวลานั้น เมื่อพวกเจ้าสลามเสร็จ ให้กล่าวว่า
ลาอิลาฮา อิลลัลลอฮุ วะห์ดะฮู ลาชะรีกะละห์ ลาฮุลมุลกุ มะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลากุ้ลลิชัยอินกอดีร อัลลอฮฮุมมะ ลามานิอะ ลิมาอะตอยตะ วะลามุอ์ติอาลิมามะนะตา วะลายันฟะอุลสัลยัดดิมินกัลป์ยัดดุ
ในหะดีษบทนี้มีคำว่า دُبُر ซึ่งท่านนบี กล่าวว่าเมื่อสลามแล้วให้กล่าวดุอา คือ ลาอิลาหะอิ้ลลัลลอฮุจนจบหะดีษ
หะดีษนี้ นบีไม่ได้บอกว่า ให้ขอดุอาหลังละหมาดโดยการยกมือ เช่นเดี่ยวกับหะดีษที่น้องนำมาอ้างไงคับ
เค้าเรียกว่า เอาหะดีษ มาอธิบายหะดีษคับ คนไม่เคยเรียนคงไม่รู้จัก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 9:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
[B]มาดูอีกบทหนึ่งซิ
وروى أبو داود (1522) عَنْ مُعَاذِ بْنِ جَبَلٍ رضي الله عنه أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَخَذَ بِيَدِهِ ، وَقَالَ : (يَا مُعَاذُ ، وَاللَّهِ إِنِّي لَأُحِبُّكَ ، وَاللَّهِ إِنِّي لَأُحِبُّكَ ، فَقَالَ : أُوصِيكَ يَا مُعَاذُ لَا تَدَعَنَّ فِي دُبُرِ كُلِّ صَلَاةٍ تَقُولُ : اللَّهُمَّ أَعِنِّي عَلَى ذِكْرِكَ وَشُكْرِكَ وَحُسْنِ عِبَادَتِكَ) وصححه الألباني في صحيح أبي داود
ในศอเฮียห์ อบีดาวูด คำแปล เล่าจากท่านมุอ๊าซ อิบนิญะบัล ว่า
แท้จริง ท่านรอซูลลุลลอฮ์ ได้จับมือของท่านมุอ๊าซแล้วกล่าวว่า โอ้มุอ๊าซ ฉันขอสาบานต่ออัลเลาะห์ว่า แท้จริงฉันรักท่าน
ท่านนบีได้กล่าวต่อไปอีกว่า
ฉันของสั่งเสียแก่ท่าน โอ้มุอ๊าซ...ท่านอย่าได้ละทิ้งเป็นอันขาด ในทุกๆหลังเวลาละหมาดที่จะกล่าวว่า : ข้าแต่อัลเลาะห์ โปรดช่วยเหลือข้าพระองค์ในการกล่าวรำลึกถึงพระองค์ และกล่าวขอบพระคุณพระองค์ และการประกอบอิบาดะห์ที่ดีงามต่อพระองค์ด้วย"
พี่น้องลองดูในหะดีษบทนี้ มีคำว่า دُبُرِ ที่น้อง f1 นำมาจาก หนังสือ ของท่านซัยยิดสาบิกว่า
جَوْفَ اللَّيْلِ الْآخِرِ ، وَدُبُرَ الصَّلَوَاتِ الْمَكْتُوبَاتِ )
แปลว่า เมื่อยามช่วงสุดท้ายของกลางคืน และตอนหลังละหมาดฟัรดู
มีคำว่า
دُبُرِ
หากคำนี้แปลว่าให้ขอดุอาหลังละหมาดฟัรดู ทำไม หะดีษ บทอื่นๆ ถึง ไม่บงชี้ว่าคือการยกมือดุอาหลังละหมาดฟัรดู
แต่กับบงชี้ให้เราเห็นว่า คือการ กล่าว คำว่า ลาอิลาฮาอิลลั้ลลอฮ และ อัลลอฮุมมะลามานิอะ และ
อัลลอฮุมมะ อะอินนี อะลาชุกริก้า
ชี้ให้เราได้เห็นว่า ท่านนบีใช้ให้เราทำอะไร
พี่น้องที่รักยิ่ง และผู้มีวิชาความรู้ทุกท่าน
ผมขอกล่าวอีกครั้งว่า น้อง f1 มั่วมาก เขาต้องการนำเสนอ ในสิ่งที่ตรงตามเป้าหมายของเขา
เท่านนั้น ซึ่งนักวิชาการ คือ บรรดา อุลามะห์ ตอบไว้ตั้งนานละ ว่าไม่อนุญาติให้ยกมือ ขอดุอาหลังละหมาด ประเด่น เล็กมาก ถ้าเราเข้าใจ พื้นฐานที่มั่นคงของอัลอิสลาม ว่า นบีไม่ทำ อัลลอฮไม่ใช่
ศอฮาบะห์ไม่ทำ แต่คนบ้านเราทำ พี่น้องทุกท่านจะตามใครก็แล้วแต่
และสุดท้ายนี้ขอบอกน้อง f1 ว่า กระผมเป็นผู้ด้อยในความรู้ ไม่บังอาจเทียบเท่า ท่านซัยยิดสาบิด
และเชค อาลี อีซา
แต่ผมมีคนที่ ถูกยกให้เป็นทั้งอุลามะห์ และมุฟตี ซึ่งแก่ให้ความหมายคำว่า دُبُرِ
ว่า
مجموع فتاوى ابن عثيمين" (13/268) .
وقد ذكر أهل العلم في ذلك : أن ما ورد في النصوص مقيداً بدبر الصلاة ، فإن كان ذِكْراً (كالتسبيح والتحميد والتكبير وقراءة آية الكرسي والمعوذات) فالمراد بدبر الصلاة هنا : بعدها.
มัจมัวอ์ ฟัตตาวา เชค อุสัยมีน ท่านกล่าวว่า
คำว่า
دبر الصلاة
แปลว่า การซิเกร เช่นการ กล่าว ซุบฮานั้ลลอฮ วั้ลฮัมดุลิ้ลลา วั้ลลอฮุอักบัร และอ่านอายะห์กรุซีย์
และ 3กุ้ล และนี่เหละคือเป้าหมายของคำว่า دبر الصلاة
น้อง f1 จะว่ายังไงต่อคับ
ถ้าเป็นคนอื่นเข้าจะบอกว่าน้องหมกเม็ด แสดงความเขลาออกมา
เพราะฉะนั้นช่วยหลบไปไกลๆ อายคนอื่นเขา
ตอนนี้ คุณจะตะอัดซุบหลักฐานกับ เชค อุสัยมีนหรือเปล่า หรือจะยอมจำนน ด้วยหลักฐาน ถ้ายอมจำนนด้วยหลักฐาน
อัลฮัมดุลิ้ลละห์ นี่เหละ อะกี ดะตุ้ล สะลัฟ คับ[/B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 9:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
พี่น้องทุกท่าน ต่อจากนี้ไป หากคุณ f1 จะพูดอะไรก็ตามที่ไม่ใช่วิชาการ จะใช้ความคิดคารมณ์
เอาตามสบาย จะด่าอะไร ยั่วยังไงไม่มีประโยชน์คับ พี่น้องอย่าไปสนใจ
กระผม ขอจบกระทู้นี้ไว้เพียงเท่านี้
และยินดี ในคำ ติตวง ทุกท่าน แต่ขอเป็นวิชาการนะคับ ไม่ใช่คิดไรได้ ไปอ่านอะไรมาแล้วเข้าใจเอง นำมาว่าคนนั้นไม่ถูก ผิดอย่างนี้อย่างนั้น พอเถิดคับ อย่าสร้าง ฟิตนะห์ อีกเลย
เว็บ นี้เพยแพร่ตามกิตาบุ้ลลอฮ และซุนนะห์ ไม่ใช่ นำความคิดมานำหน้า คำสอนของ อัลลอฮและรอซูล
ท้ายนี้ ขอให้พี่น้อง เข้าใจอีกครั้ง
สรุป การยกมือ หลังละหมาดฟัรดู หรือ ดุอาพร้อมกับอิหม่าม ไม่มีแม้เพียงหะดีษบทเดี่ยวที่
ท่านนบีทำไว้ หรือแม้ อักษรเดี่ยวที่อัลลอฮ กล่าวไว้ และสักครั้งที่ บรรดา ศอฮาบะห์ได้กระทำ
الله يهديكم
والسلام |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
rattikan มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/12/2010 ตอบ: 58
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 9:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
บัง kolis ค๊ะ เก่งจังเลย ตอนแรกหนูคิดว่า จะต้องตามหะดีษบทนั้นซะแล้ว
เลย คิดไปตั้งไกลว่า อ.ฟาริด อ.มุรีดและ อ. ท่านอื่นๆ มั่วได้ไงไม่รู้จักหะดีษบทนี้เหรอ
แต่ในที่สุดก้อเห็นตำตาว่า นาย f1 มั่ว โกหก อยากชนะ ไม่มีความรู้ หลอกหลวงชัดๆ
ต่อไปนี้ ขอให้ บัง kolis อย่าไปสนใจเลยนะค๊ะ คนอวดฉลาด อย่าง f1
ทำเอาบัง kolis ปวดหัวเลย
ยังมีหน้า มา บอกให้หนู ติดตาม คงคิดว่าจะชนะมั่ง ไม่มีทางหลอก
ในเมือยังมีคนที่ยืนหยัดด้วยหลักการอิสลามอย่างบัง kolis และ อ.asan และ อ. ฟาริด ในเว็บนี้
สำหรับคำตอบที่เข้าใจถึงสมอง ส่วนลึก
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 9:57 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ليس الدعاء بعد الفرائض بسنة إذا كان ذلك برفع الأيدي ، سواء كان من الإمام وحده أو المأموم وحده أو منهما جميعا، بل ذلك بدعة؛ لأنه لم ينقل عن النبي صلى الله عليه وسلم ولاعن أصحابه رضي الله عنهم، أما الدعاء بدون ذلك فلا بأس به لورود بعض الأحاديث في ذلك" انتهى.
"فتاوى اللجنة الدائمة" (7/103)
ดุอาหลังจากละหมาดฟัรดูไม่มีสุนนะฮให้ยกมือ ไม่ว่าจะเป็นอิหม่ามทำคนเดียวหรือมะมูมทำคนเดียว หรือ ทำรวมกันทั้งอิหม่ามและมะอมูมก็ตาม ในทางกลับกัน การกระทำดังกล่าวนั้น เป็นบิดอะฮ เพราะ ไม่ได้มีรายงานจากท่านนบี และจากบรรดาสาวกของท่าน แต่อย่างใด สำหรับการดุอานอกเหนือจากดังกล่าวนั้น ไม่เป็นไร (หมายถึงยกมือได้) หากปรากฏบางส่วนของบรรดาหะดิษ ในเรื่องดังกล่าว - ฟะตาวาอัลลุจญนะฮอัดดาอิมะฮ( เล่ม 7 หน้า 103 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
rattikan มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/12/2010 ตอบ: 58
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 10:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แย้ๆ อ. asan มาแล้ว
ดูซิ นาย f1 จะว่ายังไงต่อ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 10:45 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีหะดิษบทหนึ่งซึ่งโต๊ะครูประจำเว็บซุนนะฮสะติวเด้น อ้างเป็นหลักฐานยกมือขอดุอาหลังละหมาดฟัรดูคือหะดิษที่ว่า
عن محمد بن أبي يحيى قال : رأيت عبدالله بن الزبير ورأى رجلا رافعا يديه يدعو فبل أن يفرغ من صلاته ، فلما فرغ منها قال له : إن رسول الله لم يكن يرفع يديه حتى يفرغ من صلاته
ท่านมูฮ่ำหมัดบุตรท่านอาบียะห์ยาได้กล่าวว่า ฉันได้เห็นท่านอับดุลเลาะห์บุครของชูบี้ร ท่านได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งได้ยกสองมือวอนขอก่อนจากเสร็จละหมาด(ในละหมาด) ต่อมาในขณะที่เขาเสร็จละหมาด ท่านอับดุลเลาะห์ ได้กล่าวแก่ชายผู้นั้นว่า แท้จริงท่านร่อซู้ล ซ.ล ไม่เคยยกสองมือวอนขอในละหมาดเลย จนกว่าท่านจะเสร็จละหมาด
.................
มาดูคำวิจารณ์หะดิษ
رواه الطبراني في الكبير وسنده ضعيف لضعف فضيل بن سليمان . فقد قال عنه ابن معين: ليس بثقة . وفي رواية: ليس هو بشيء ولا يكتب حديثه . وقال صالح جزرة: منكر الحديث . وقال أبو حاتم: يكتب حديثه ، ليس بالقوي . وقال النسائي: ليس بالقوي
รายงานโดย อัฏฏอ็บรอนีย์ ในอัลกะบีร และสายรายงานของมัน เฎาะอีฟ (อ่อนหลักฐาน) เพร ذอ่อนหลักฐานของผู้รายงานที่ชื่อว่า "ฟะดีล บิน สุลัยมาน แท้จริง อิบนุมุอีนได้กล่าวเกี่ยวกับเขาว่า "เชื่อถือไม่ได้ และในรายงานหนึ่ง "เขาไม่มีสิ่งใดๆและหะดิษของเขาจะไม่ถูกบันทึก และซอลิห ญัซเราะฮ กล่าวว่า "เป็นหะดิษที่ถูกปฏิเสธ" และอบูหาติมกล่าวว่า "หะดิษของเขาถูกบันทึก แต่ไม่แข็งแรง(ไม่มีน้ำหนัก) และอันนะสาอีย์ กล่าวว่า " เป็นหะดิษที่หลักฐานไม่แข็งแรง
ท่านเช็คอัลบานีย์ กล่าวไว้ใน หนังสือ อัฎเฎาะอีฟะฮ หะดิษหมายเลข 2544 ว่า เป็นหะดิษเฎาะอีฟ
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Wed Jan 05, 2011 11:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ครับบังอสัน
อัลฮำดุลิลลาอ์
ก่อนอื่นผมยอมรับครับว่าความรู้อันน้อยนิดที่อัลลอฮ์ประทานให้ผมนั้น มีไม่มากเท่ากับบังอสันและkolis
ส่วนทัศนะอุลามะอ์ที่มีเกียตรที่พวกคุณยกมานั้นผมยอมรับครับว่ามัน"สวยงาม" แต่ผมก็มีความคิดชื่นชอบในอีกทัศนะหนึ่งซึ่งต่างก็มีความสวยงามด้วยกันทั้งคู่ อัลลอฮ์ให้ผมเลือกอย่างที่กล่าวมาผมผิดด้วยหรือครับ ผมเรียนโดยตามผู้รู้นะครับ(ไซยิด ซาบิก เชคอาลี อีซา ฯลฯ) ผมคิดว่าบางเรื่องผู้รู้เห็นต่างกัน เราน่าให้ความเคารพต่อกันและกัน ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องในแบบฉบับอลุซซุนนะอ์วัลยะมาอะฮ์ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 06, 2011 12:06 am ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | ครับบังอสัน
อัลฮำดุลิลลาอ์
ก่อนอื่นผมยอมรับครับว่าความรู้อันน้อยนิดที่อัลลอฮ์ประทานให้ผมนั้น มีไม่มากเท่ากับบังอสันและkolis
ส่วนทัศนะอุลามะอ์ที่มีเกียตรที่พวกคุณยกมานั้นผมยอมรับครับว่ามัน"สวยงาม" แต่ผมก็มีความคิดชื่นชอบในอีกทัศนะหนึ่งซึ่งต่างก็มีความสวยงามด้วยกันทั้งคู่ อัลลอฮ์ให้ผมเลือกอย่างที่กล่าวมาผมผิดด้วยหรือครับ ผมเรียนโดยตามผู้รู้นะครับ(ไซยิด ซาบิก เชคอาลี อีซา ฯลฯ) ผมคิดว่าบางเรื่องผู้รู้เห็นต่างกัน เราน่าให้ความเคารพต่อกันและกัน ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องในแบบฉบับอลุซซุนนะอ์วัลยะมาอะฮ์ |
..........
น้อง เอฟ 1 ที่รัก ผู้รู้นั้น ย่อมมีเกียรติ เราไม่ได้หลบหลู่พวกเขาหรอก แต่เขาเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่มีผิด มีถูก มีพลาด ซึ่งย่อมได้รับการอภัย เพราะเขาทุ่มเทในการนำความรู้มาถ่ายทอดให้แก่เรา
แต่เราต้องรับข้อมูลอย่างมีสติ และมีเหตุผล นะครับ และคงเป็นสิทธิของน้องที่จะเชื่อ จะรับข้อมูลของใคร บังก็ถือว่า น้องคือ ผู้แสวงหาสัจธรรมคนหนึ่ง ขออัลลอฮ ให้น้องได้รับสัจธรรมที่แท้จริงดังที่ตั้งใจไว้ - อามีน _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 06, 2011 12:18 am ชื่อกระทู้: |
|
|
_________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
rattikan มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/12/2010 ตอบ: 58
|
ตอบ: Thu Jan 06, 2011 12:18 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บัง asan ช่วยชีแจ้งด้วยมีทัศนะ อื่นที่ให้ ขอดุอาหลังละหมาดฟัรดู ตามที่ คุณ f1
กล่าวไว้หรือค๊ะ
แล้ว ช่วยตอบในกระทู้ ตามผู้นำด้วยค๊ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Thu Jan 06, 2011 12:31 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมเคยแนะนำให้คุณrattikanไปหา"หนังสือที่ว่า"แล้วไม่ใช่หรือครับ ลงทุนเงินไม่กี่บาท แต่"กำไร"เหลือคณานับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
rattikan มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/12/2010 ตอบ: 58
|
ตอบ: Thu Jan 06, 2011 12:36 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ดิฉันอยู่ ต่างจังหวัด นานๆจะเข้าไปในเมื่องที
คุณ f1 พอจะนำมาลงให้ได้ไหมค๊ะ ถ้าไม่รบกวน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|