ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
natee มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 108
|
ตอบ: Sun Jul 04, 2004 8:24 am ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียงสา |
|
|
พบจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ประจำวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2547 หน้า 5
* ล่ามแฉทหารไทยทำผิดเจตนารมณ์]
นายการุณ ใสงาม ส.ว.บุรีรรัมย์ คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ได้เสนอเรื่องด่วนต่อคณะกรรมาธิการว่า ได้รับโทรสารจาก นายอับดุลนาศิร (วีระชัย) ปานมณี ล่ามภาษาอาหรับ ประจำกองกำลังเฉพาะกิจ 976 ไทย-อิรัก โดยได้ทำถึงผู้บริหารองค์กรมุสลิมทุกคน มีเนื้อหาว่า ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้วว่า กองกำลังไทยเฉพาะกิจได้ให้ความร่วมมือกองกำลังสหรัฐ จึงขอให้ช่วยกันประณามกองกำลังทหารไทย ที่ทำผิดเจตนารมณ์ที่อ้างว่า ไปอิรักเพื่อให้การช่วยเหลือ โดยไม่เกี่ยวกับสหรัฐ
เฮ้อ! น่าสงสารคุณอับดุลนาศิร ทำไมรู้ช้าจัง รับเงินฮาหร่ามมากินมาใช้กี่มากน้อยแล้วล่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
girl-cott มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 03/07/2004 ตอบ: 2
|
ตอบ: Tue Jul 06, 2004 11:04 am ชื่อกระทู้: |
|
|
รู้เห็นเป็นใจกับเขาตั้งแต่แรก แล้วยังมาตีหน้าเหลี่ยมทำไม่รู้ไม่ชี้อีก
เฮ้อ ...ทั่นนายกของเรา หลอกได้แม้แต่คนสัญชาติเดียวกัน
ไหนว่าไทยรักไทยไงคะ _________________ ฮิญาบของฉัน อีหม่านของฉัน ... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nuroiya มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003 ตอบ: 41
|
ตอบ: Tue Jul 06, 2004 7:48 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เดี๋ยวพี่ใหญ่จะไม่ให้สัมปทาน ก็ต้องรีบเสนอและสนองความต้องการของไชตอน บุช อย่างนี้ซิที่เค้าเรียกว่า รักกันจริง ดังคำกล่าวที่ว่า ไปพื่อช่วยเหลือมนุษยธรรม ทำเพื่อชาติ แล้วอย่างนี้คนไทยเราจะยังเลือกลูกน้องไชตอนกันอีกหรือ วัสลาม _________________ "จงยึดมั่นในสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮฺโดยพร้อมเพรียงกัน และอย่าได้แตกออก หรือแตกต่างจากศาสนาของอัลลอฮฺ"
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ไข่นุ้ย.. มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 19/06/2004 ตอบ: 4
|
ตอบ: Wed Jul 07, 2004 12:30 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียงสา |
|
|
โอ้... มุสลิมที่ทำงานราชการ เงินที่ได้ถือว่าเป็นเงิน ฮะรอมหรือนี่!!!
...อัลลอฮ์ท่านผู้เดียวมิใช่หรือที่จะเป็นผู้อนุมัติสิ่งใดฮะล้าล สิ่งใดฮะรอม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
natee มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 108
|
ตอบ: Mon Jul 12, 2004 2:51 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียวสา |
|
|
คุณ"ไข่นุ้ย" กำลังสับสนอะไรอยู่หรือเปล่า
"มุสลิมที่ทำงานราชการ เงินที่ได้ถือว่าเป็นเงิน ฮะรอมหรือนี่!!!" อะไรทำให้คุณเข้าใจเช่นนั้น
กรณีรัฐบาลไทยส่งคนไปอิรัคกับกรณีทำงานราชการ มันเกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบ คุณถึง ได้นำมาโยงกันในที่นี้
ขอชี้แจงง่ายๆ เลยนะ ไม่ต้องไปคำนึงถึงแหล่งที่มาของเงินหรอกนะ
แม้ว่าเงินที่เอาไปจ้างคุณเป็นเงินงบประมาณที่รัฐเก็บจากภาษี เป็นเงินฮาล้าล ก็ตาม แต่เขาเอาไปจ้างคุณให้ทำงานเพื่อสนับสนุนศัตรูผู้ทำลายล้างพี่น้องมุสลิมของเรา ขอถามหน่อยว่า เงินนี้ยังคงฮาล้าลที่คุณจะเอามากินมาใช้หรือ??? คงต้องคิดสักนิดนะ จะมาทำเดียงสา คงไม่ได้หรอกนะ
.
"..อัลลอฮ์ท่านผู้เดียวมิใช่หรือที่จะเป็นผู้อนุมัติสิ่งใดฮะล้าล สิ่งใดฮะรอม"
แน่นอน! พระองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พระองค์เดียวเท่านั้นที่จะเป็นผู้อนุมัติ แต่พระองค์ก็ได้ให้แนวทางแก่เราแล้วในการพิจารณาสิ่งใดที่พระองค์ทรงอนุมัติ แล้วเราล่ะได้พิจารณาหรือยัง ว่าสิ่งที่ทำไปเป็นสิ่งที่พระองค์ได้อนุมัติไว้หรือไม่ คงจะปล่อยให้พระองค์พิจารณาตัดสินเอาเองคงไม่ได้หรอกนะ เพราะถึงวันนั้น คงไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแล้วละ ผิดก็ลงนรกสถานเดียว
อ้อ! จากที่คุณไข่นุ้ยโพสต์มานั้น เข้าใจว่า คุณไข่นุ้ยคงจะเข้าใจว่า เงินที่รัฐบาลเอามาทำอะไรนั้นได้มาจากเงินงบประมาณทีเก็บจากภาษีอากรของประชาชน เป็นเงินฮาล้าลทั้งหมด ก็ขอให้คุณไข่นุ้ยอย่าเพิ่งวางใจนะ เพราะยุคนี้ อะไร อะไรทีเราเห็นว่ามันฮะหรอม รัฐบาลก็นำมาจัดการเอง เอาเงินเข้ากระเป๋าเอง ซะหมด แล้วก็ค่อยเอาไปแจกจ่ายเป็นการสร้างสร้างภาพในสิ่งดีๆ เช่น เอาไปแจกเป็นทุนการศึกษา เป็นต้น ที่เราเห็นๆ กันว่า เป็นของรัฐบาล ก็เช่น หวย เป็นต้น อย่าเข้าใจว่าหวยรัฐบาลฮาล้าลล่ะ เงินที่ได้จากการขายหวยของรัฐบาลก็ฮาล้าล ให้ลูกหลานแห่ไปรับทุนจากรัฐบาลตามโครงการนี้กันล่ะ.. คุณไข่นุ้ย คิดสักนิดนะ เป็นห่วงน่ะ กลัวจะเข้าใจสับสนอีก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ไข่นุ้ย.. มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 19/06/2004 ตอบ: 4
|
ตอบ: Wed Jul 14, 2004 1:02 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียงสา |
|
|
......." คงจะปล่อยให้พระองค์พิจารณาตัดสินเอาเองคงไม่ได้หรอกนะ"......อัลลอฮ์มหาบริสุทธิ์ยิ่งนัก อัลลอฮ์มหาบริสุทธิ์ยิ่งนัก พระองค์ผู้ทรงไม่มีภาคีใดๆ
ถึงคุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติ
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตรัสไว้ใน อัลกรุอ่านว่า
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ ซึ่งเครื่องยังชีพที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่พวกท่าน แล้วพวกท่านก็ทำให้บางส่วนเป็นที่ต้องห้าม (หะรอม) และบางส่วนเป็นที่อนุมัติ(หะลาล) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)อัลลอฮ์ทรงอนุมัติให้แก่พวกท่าน หรือพวกท่านปั้นแต่งให้แก่อัลลอฮ์ ( 10:59)
และพระองค์ทรงตรัสไว้อีกว่า
และพวกเจ้าอย่ากล่าวตามที่ลิ้นของพวกเจ้ากล่าวเท็จขึ้นว่า นี่เป็นที่อนุมัติและนี่เป็นที่ต้องห้าม เพื่อที่พวกเจ้าจะกล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์แท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์นั้น พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จ (16:116)
ผมเลือกที่จะเดียงสา ดีกว่าที่จะตัดสินว่าสิ่งใดฮะรอม ทั้งๆที่ใช้ข้อสันนิฐาน และยังไม่ได้มีการใต่สวน
" กรณีรัฐบาลไทยส่งคนไปอิรัคกับกรณีทำงานราชการ มันเกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบ คุณถึง ได้นำมาโยงกันในที่นี้" คนที่ทำงานให้ราชการ เรียกว่า ข้าราชการ มีทั้งข้าราชการประจำ และข้าราชการชั่วคราว คือจ้างชั่วคราว ทั้ง 2 อย่างนั้น เรียกว่า ทำงานราชการรึเปล่าครับ คุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติ
กรณี อเมริกาบุกยึดอิรักในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม และทุกๆฝ่ายต่างก็ไม่เห็นด้วย รัฐบาลไทยก็เป็นประเทศหนึ่งในหลายๆประเทศทั้งที่เป็นประเทศมุสลิมและไม่ใช่ ที่ถูกขอร้องให้ไปช่วยเหลือฟื้นฟูประเทศอิรัก หลังจากที่มันทำซะจนย่อยยับไปแล้ว และคนที่เดือนร้อนที่สุดก็คือประชาชนทั่วไป
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยส่งทหารเข้าไปในอิรัก เพราะไม่แน่ใจว่าไปเพื่ออะไรกันแน่ แต่รัฐบาลไทยก็ยังคงส่งทหารเข้าไปโดยให้คำมั่นว่าส่งไปเพื่อ มนุษยธรรมไปช่วยเหลือคนอิรักไม่ได้ไปยึดครอง
คุณ อับดุลนาศิร ปานมณี ก็เป็นมุสลิมคนหนึ่ง ที่รัฐบาลจ้างเพื่อให้ช่วยในการเป็นล่าม ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่คุณ อับดุลนาศิร ปานมณีได้ไป เพราะจะได้เป็นหูเป็นตาแทนเราในการตรวจสอบ ทหารที่ไปว่าได้ทำตามสิ่งที่รัฐบาลอ้างรึเปล่า ทำเพื่อมนุษยธรรมรึเปล่า และสิ่งใดที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้องเขาก็ประท้วงออกมา ถ้าหากรัฐบาลไม่เอามุสลิมไปด้วย แล้วใครล่ะจะเป็นคนคอยตรวจสอบ เขาต้องจากลูกเมีย เสี่ยงชีวิตในเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น แต่คุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติ กลับกล่าวหาเขาว่า "ทำงานเพื่อสนับสนุนศัตรูผู้ทำลายล้างพี่น้องมุสลิมของเรา " คุณNATEE ผู้ทรงเกียรติ คุณเห็นเขาหรือว่ามีพยานยืนยันว่าเขา สนับสนุนศัตรูผู้ทำลายล้างพี่น้องมุสลิมของเรา และรับเงินฮะรอมมากินมาใช้ กระนั้นหรือ....
ท่านร่อซู้ล (ซ.ล.) กล่าวว่า " การกระทำทั้งหลายจะถูกตัดสินโดยเจตนา และทุกคนจะได้รับผลตอบแทนตามเจตนารมณ์ของเขา" (รายงานโดย บุคอรี)
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตรัสไว้ใน อัลกรุอ่านว่า " บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงหลีกให้พ้นจากส่วนมากของการสงสัย เพราะว่าการสงสัยบางชนิดนั้นเป็นบาป"
ท่านร่อซู้ล (ซ.ล.) กล่าวว่า " จงหลีกเลี่ยงการระแวงสงสัย เพราะการเผยแพร่การระแวงสงสัยเป็นรูปแบบของการพูดโกหก" (รายงานโดย บุคอรี)
และท่านร่อซู้ล (ซ.ล.) กล่าวว่า "โอ้บรรดาผู้ที่ประกาศอิสลามด้วยลิ้นโดยที่ศรัทธาไม่ถึงหัวใจของท่าน จงอย่าสร้างความรำคาญให้แก่มุสลิมหรือแสวงหาความผิดของเขา เพราะผู้ที่แสวงหาความผิดของพี่น้องมุสลิมของเขาจะถูกอัลลอฮ์คอยแสวงหาความผิดของเขา และเมื่ออัลลอฮ์แสวงหาความผิดของใคร พระองค์จะทรงเปิดเผยมันถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ภายในบริเวณบ้านของเขาก็ตาม" (รายงานโดย ติรมีซี และ อิบนุ มาญะ)
"ถ้าท่านแสวงหาความผิดของคน ท่านจะทำให้พวกเขาเสียหาย หรือนำพวกเขามาใกล้ความเสียหาย" (รายงานโดย อบูดาวูด และ อิบนิ ฮิบบาน)
" ท่านรู้ไหมการนินทาคืออะไร บรรดาสาวกตอบว่า อัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์รู้ดีที่สุด ท่านได้กล่าวว่า มันคือการพูดสิ่งใดเกี่ยวกับพี่น้องของท่านและเขาไม่ชอบ มีบางคนถามว่าจะเป็นอย่างไรหากฉันพูดบางสิ่งที่เป็นจริง เกี่ยวกับพี่น้องของฉัน ท่านศาสดาตอบว่า ถ้าหากว่าส่งที่ท่านพูดถึงเขาเป็นความจริง มันก็เป็นการนินทา และถ้ามันไม่เป็นจริง ท่านก็ได้กล่าวหาเขาแล้ว" (รายงานโดยมุสลิม อบูดาวูด )
ประเทศไทยไม่ได้ปกครองระบอบอิสลาม แน่นอนว่างบประมาณแผ่นดินอาจจะมาจากหลายทางมีทั้งที่ ฮะล้าลและ ฮะรอม ผมอาจจะเป็นคนหนึ่งที่เดียงสา (แม้จะอายุ 25 เท่ากับท่านร่อซู้ล ซ.ล. แต่งงานครั้งแรกก็ตาม) ผมคงไม่ใช่คนที่มีความรู้สูง ไม่ได้มีอีม่านสูง และบางครั้งอาจจะทำในสิ่งที่ผิดพลาดบ้าง แน่น่อนเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีส่งที่ผิดพลาด (ขออัลลอฮ์ทรงอภัย) ผมก็เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยได้รับทุนของรัฐบาลหลายครั้ง และทุกครั้งมั่นใจได้ว่าไม่ได้มาจากหวยแน่
คุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติ คุณคิดว่าองค์กรมุสลิมต่างๆ ที่ขอรับบริจาค หรือออกร้านค้า เงินที่ได้เป็นเงินที่ ฮะล้าลทั้งหมดหรือ ไม่คิดว่าจะมีเงินดอกเบี้ยปนมาด้วยหรือ หรือที่ได้มาจากสิ่งที่ฮะรอมอื่นๆหรือ แล้วคนรับบริจาคเขาถามทุกคนรึเปล่าว่าเอาเงินมาจากไหน ฮะล้าลรึเปล่า
"ไม่มีความจำเป็นใดสำหรับมุสลิมที่จะถามในสิ่งตัวเองไม่เห็น มีคนมาถามท่านศาสดาว่า มีคนนำเนื้อมาให้เรา และเราไม่รู้ว่าพวกเขากล่าวนามของอัลลอฮ์หรือเปล่า เราจะกินมันได้หรือไม่ ท่านศาสดาตอบว่า จงเอ่ยนามของอัลลอฮ์แล้วกินมัน " (จากหนังสือ ฮะล้าลฮะรอมในอิสลาม โดย ดร. ยูซุฟ ก็อรฎอวี่)
ผมเป็นคนกรุงเทพ คนหนึ่ง ทำงานเป็นวิศวกร แน่นอนว่าเรียนสายนี้ต้องใช้ทุนในการเล่าเรียนสูง ผมมีพี่น้อง 7 คน เป็นคนที่2 พ่อแม่มีอาชีพค้าขายมีรายได้เดือนหนึ่งไม่กี่พันบาท ด้วยความเมตตาของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทำให้ผมเรียนจบจากสถาบันของรัฐ ด้วยเงินทุนของรัฐ โดยความประสงค์ของพระองค์
คุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติ คุณเคยคิดไหมว่า ในชีวิตประจำวันเราต้องเจอสิ่งฮะรอมอะไรบ้าง คุณอาจจะไม่เงินในบัญชีธนาคารพาณิชย์ (ไม่ใช่ธนาคารอิสลาม)ไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของระบบดอกเบี้ย ที่พวกนั้นเอาเงินฝากไปปล่อยกู้ กินดอก แม้แต่องค์กร มุสลิมบางที่ยังมีเงินฝากอยู่ในธนาคารพาณิชย์ คุณอาจจะไม่ได้ทำงานใน บริษัทเอกชนที่บังคับให้คุณเปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่อจะได้โอนเงินค่าจ้างให้คุณ คุณคงต้องไม่ต้อง พ.ร.บ. รถยนต์ที่ทุกคนมีรถต้องทำ ที่เขาเอาเงินที่ได้ไปปล่อยกู้ คุณคงมีเงินสดซื้อบ้าน รถยนต์ หรือสินค้าโดยไม่ต้องผ่อนกับสถาบันการเงินระบบดอกเบี้ยทั่วไป ถ้าหากคุณไม่เจอสิ่งฮะรอมพวกนี้ และส่งฮะรอมอื่นๆอีก คุณก็เป็นโชคดีมากๆคนหนึ่งที่หลายๆคนไม่อาจจะหลีกมันพ้น
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตรัสไว้ใน อัลกรุอ่านว่า " พระองค์ได้ชี้แจงให้แก่เจ้าถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำให้เป็นสิ่งที่ฮะรอมสำหรับสูเจ้าไว้แล้ว เว้นแต่สูเจ้าอยู่ในสภาวคับขัน"
ธนาคารอิสลามเป็นส่งที่จะช่วยแก้ไขได้ในบางเรื่อง แต่ตอนนี้ธนาคารอิสลามพึ่งจะตั้งขึ้นได้ไม่นานและยังไม่พร้อมในบางอย่างและผมก็เคยมีโอกาศได้พูดคุยกับผู้บริหารบ้างแล้ว อิซาอัลลอฮ์ในไม่ใช้มุสลิมอาจจะหลีกพ้นสิ่งที่ฮะรอมได้มากขึ้น
อิสลามได้วางแนวทางไว้ทุกอย่างแห่งการดำรงค์ชีวิต ตั้งแต่ ตัวเอง สถาบันครอบครัว เศรษฐกิจและสังคม มุสลิมที่ดีคงไม่มีกลัวความยากลำบากหรอกเพราะมันคือ บททดสอบของอัลลอฮ์ แต่อิสลามใช่ว่า จะอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร อิสลามใช้ให้ออกซะกาต ห้ามดอกเบี้ย และอนุมัติการค้า โดยท่านศาสดาเป็นผู้นำมาสอน นั้นเป็นการแสดงว่า มีการสร้างโครงสร้างทาง เศรษฐกิจใว้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจ ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
การสร้างเศรษฐกิจให้ทุกคนอยู่ดีกินดีนั้น เป็นสิ่งที่ควรกระทำ คุณมาเรียน จบไปก็อยากจะทำงานที่มั่นคงมีสวัสดิการณ์ที่ดี มีสถานที่ละหมาด มีอาหารอิสลาม ไม่ต้องห่วงเรื่องศาสนา อยู่ใกล้บ้าน ถามว่ามันจะมีซักกี่ที่ เพียงพอต่อทุกคนไหม รุ่นพี่ผมหลายคน ยอมที่จะไปทำงานไกลๆ เพียงเพราะต้องการที่ทำงาน บริษัทของมุสลิม ที่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องศาสนา แล้วบริษัทมุสลิมจะมีซักกี่ที่เชียว จะให้มารับจ้างบรรยายตามงานต่างๆก็ไม่ไหว เพราะไม่ใช่ผู้รู้และไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง
ถ้าชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดี ปัญหาสังคมก็ตามมา แน่นอนถ้าคนที่มีศรัทธาเข้มแข็งก็คงไม่น่าห่วง แต่ถ้ามีศรัทธาที่ไม่เข้มแข็งมากเราคงจะปล่อยไม่สนใจคงไม่ได้กระมัง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มุสลิมหลายคนยังซื้อหวยอยู่ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้ริซกี โดยไม่ได้สนใจว่า มันฮาลาลหรือ ฮะรอม เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นเป็นสิ่งที่น่าคิดและแก้ไข และถ้าเขาเป็นคนยากจน จนไม่สนใจ ในการได้มาซึ่งริซกี แต่ถ้าเขามีความเป็นอยู่ที่ดี ริซกีที่ฮะรอมเขาก็คงจะไม่เอา ท่านรู้สึกอย่างไร ที่เห็นมุสลิมะฮ์มาเรียนกรุงเทพ ไม่มีเงินจ่ายค่าหอพัก แล้วไปขายประเวณี 4ปีก่อน มีมุสลิมะฮ์ คนหนึ่ง เอ็นทรานซ์ ติด ม.สุรนารี แต่แม่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย รายการ ไอทีวี เอามาออก โดยสภาพคลุม ฮิญาบ ร้องให้ไม่มีเงินส่งลูกเรียน ผู้คนบริจาคให้อย่างมากมาย แล้วท่านคิดว่าคนแบบนี้ มีเพียงน้อยนิดกระนั้นเหรอ แล้วคนที่เหมือนเขาแต่ไม่ได้ออกทีวีล่ะ นักศึกษาต่างจังหวัด มาเรียนกรุงเทพ เสียค่าใช้จ่าย ปีๆ หลายหมื่น ทั้งๆที่มีฐานะยากจน แต่เรียนจบกลับไปที่บ้านก็ไม่มีงานทำ
ปัจจุบัน มาเลเซีย เป็นประเทศมุสลิมใกล้บ้านเราที่มีอัตราส่วนคนยากจนเหลือเพียง 5 เปอร์เซ็น เป็นสิ่งที่เราต้องศึกษา และนำมาทำให้เป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้น วัฏจักรฮะรอมเดิมๆก็ยังคงเห็นอยู่ในชีวิตประจำวัน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
natee มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 108
|
ตอบ: Wed Jul 14, 2004 10:36 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียวสา |
|
|
ถึงคุณไข่นุ้ย ผู้ทรงเกียรติยิ่ง
ขอบคุณสำหรับหลักฐานต่างๆที่ได้หยิบยกมา แน่นอน เหล่านั้นย่อมเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือ
ผมเลือกที่จะเดียงสา ดีกว่าที่จะตัดสินว่าสิ่งใดฮะรอม ทั้งๆที่ใช้ข้อสันนิฐาน และยังไม่ได้มีการใต่สวน
ถามว่า กรณีส่งทหารไทยไปอิรักยังจะต้องมีการไต่สวนอีกหรือ ที่มาที่ไปของเรื่องก็บ่งบอกชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว ถามว่า ส่งไปเนี่ย เพื่อใคร คนอิรักเขาขอให้ส่งไปฟื้นฟูประเทศเขาเหรอ หรือว่าสหประชาชาติขอให้ส่งไปหรือ ใครขอให้ส่งไป ?? ตอบหน่อยซิ
คนที่ทำงานให้ราชการ เรียกว่า ข้าราชการ มีทั้งข้าราชการประจำ ส่วนที่จ้างชั่วคราว ไม่เรียกว่าข้าราชการชั่วคราวหรอกนะ เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว หมดเงินหมดงานก็เลิกจ้าง และเงินที่มาจ้างก็มาจากหลายแหล่งแล้วแต่โครงการ เช่นกรณีนี้เป็นต้น
รัฐบาลไทยก็ยังคงส่งทหารเข้าไปโดยให้คำมั่นว่าส่งไปเพื่อ มนุษยธรรมไปช่วยเหลือคนอิรักไม่ได้ไปยึดครอง"
เชื่อถือได้ ??ไม่ต้องไต่สวน??
คุณ อับดุลนาศิร ปานมณี ก็เป็นมุสลิมคนหนึ่ง ที่รัฐบาลจ้างเพื่อให้ช่วยในการเป็นล่าม คุณ อับดุลนาศิร ปานมณีได้ไป เพราะจะได้เป็นหูเป็นตาแทนเราในการตรวจสอบ ทหารที่ไปว่าได้ทำตามสิ่งที่รัฐบาลอ้างรึเปล่า ทำเพื่อมนุษยธรรมรึเปล่า และสิ่งใดที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้องเขาก็ประท้วงออกมา อย่างงี้ก็ทรยศนายจ้างน่ะซิ รับเงินเขาแล้วไม่ทำตามที่เขาจ้าง
คุณเห็นเขาหรือว่ามีพยานยืนยันว่าเขา สนับสนุนศัตรูผู้ทำลายล้างพี่น้องมุสลิมของเรา และรับเงินฮะรอมมากินมาใช้ กระนั้นหรือ...
เรื่องนี้ คงไม่ต้องเห็นหรือมีพยานยืนยันหรอก เพราะวัตถุประสงค์ของโครงการตามนัยของมันไม่ใช่ตามลมปากของใคร บ่งบอกชัดเจนอยู่ในตัวของมันแล้ว และคนที่ไปเข้าร่วม มีส่วนร่วมด้วย จะเป็นอื่นไปได้อย่างไร ก็เห็นๆ กันอยู่ รู้ๆกันอยู่
ส่วนเรื่องเงินฮาล้าลเงินฮะรอมที่คุณสาธยายมา ก็แล้วแต่คุณจะคิดจะเอาก็แล้วกัน คงไม่มีใครมาห้ามมาบังคับกันได้หรอก เพราะล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นทั้งนั้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ไข่นุ้ย.. มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 19/06/2004 ตอบ: 4
|
ตอบ: Fri Jul 16, 2004 12:03 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียงสา |
|
|
...ถึงคุณ NATEE ผู้ทรงเกียรติและงามสง่า
ผมคงจะไม่มาโต้เถียงกับคุณอีกแล้ว (ถ้าอยากได้ถ้วยรางวัลก็เอาไป) เพราะผมคิดว่าผมได้ชี้แจงเพียงพอแล้ว แต่ผมจะฝากคำดำรัส ของอัลลอฮ์ (ซ.ล.) ในอัลกรุอ่าน สูเราะฮ์ อันนูร อายะฮ์ที่ 4-20 ไว้ให้คุณได้คิด ดังนี้
4. และบรรดาผู้กล่าวโทษบรรดาหญิงบริสุทธิ์ แล้วพวกเขาไม่ได้นำพยาน 4 คนมา พวกเจ้าจงโบยพวกเขา 80 ที และพวกเจ้าอย่ารับการเป็นพยานของพวกเขาเป็นอันขาด ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นพวกฝ่าฝืน
5. นอกจากบรรดาผู้สารภาพโทษภายหลังจากนั้น และพวกเขาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย และผู้ทรงเมตตาเสมอ
6. และบรรดาผู้กล่าวโทษภรรยาของพวกเขา และสำหรับพวกเขาไม่มีพยานนอกจากตัวของพวกเขาเอง ก็ให้การเป็นพยานของคนหนึ่งในพวกเขาให้กล่าวสาบาน 4 ครั้ง ด้วยพระนามของอัลลอฮ์แท้จริงเขาเป็นหนึ่งในหมู่ผู้พูดจริง
7. และครั้งที่ 5 ให้เขากล่าวว่า แท้จริงการสาปแช่งของอัลลอฮ์จงมีแด่เขา หากเขาเป็นผู้ที่กล่าวเท็จ
8. และพวกเขาจะทำให้นางพ้นจากการลงโทษ ต่อเมื่อนางกล่าวสาบาน 4 ครั้ง ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ว่าเขาเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้กล่าวเท็จ
9. และครั้งที่ 5 ให้นางกล่าวว่า แท้จริงความกริ้วของอัลลอฮ์จงมีแด่นาง หากเขาเป็นหนึ่งในหมู่ผู้พูดจริง
10. และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า และความเมตตาของพระองค์แล้ว และแท้จริง อัลลอฮ์ทรงเป็นผู้นิรโทษ ผู้ทรงปรีชาญาณ
11. แท้จริงบรรดาผู้นำข่าวเท็จมานั้น เป็นบุคคลกลุ่มหนึ่งจากพวกเจ้า พวกเจ้าอย่าได้คิดว่ามันเป็นการชั่วแก่พวกเจ้า แต่ว่ามันเป็นการดีแก่พวกเจ้า สำหรับทุกคนในพวกเขานั้น คือสิ่งที่เขาได้ขวนขวายไว้จากการทำบาป ส่วนผู้ที่มีบทบาทมากในเรื่องนี้ในหมู่พวกเขานั้น เขาผู้นั้นจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์
12. เมื่อพวกเจ้าได้ยินข่าวเท็จนี้ ทำไมบรรดามุฮ์มินและบรรดามุฮ์มินะฮ์ จึงไม่คิดเปรียบเทียบกับตัวของพวกเขาเองในทางที่ดี และกล่าวว่านี่เป็นเรื่องโกหกอย่างชัดแจ้ง
13. ทำไมพวกเขาจึงไม่นำพยาน 4 คนมาเพื่อมัน หากพวกเขาไม่นำพยานเหล่านั้นมาแล้ว ดังนั้นชนเหล่านั้น ณ ที่อัลลอฮ์พวกเขาเป็นผู้กล่าวเท็จ
14. และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า และความเมตตาของพระองค์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแล้ว แน่นอนการลงโทษอย่างมหันต์ก็จะประสบแก่พวกเจ้า ในสิ่งที่พวกเจ้ากำลังง่วนกันอยู่
15. ขณะที่พวกเจ้าได้รับข่าวนั้น ด้วยการพูดกันระหว่างพวกเจ้า และพวกเจ้าพูดกันในสิ่งที่พวกเจ้าไม่มีความรู้ และพวกเจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นมันเป็นเรื่องใหญ่
16. เมื่อพวกเจ้าได้ยินมัน ทำไมพวกเจ้าจึงไม่กล่าวว่า ไม่บังควรที่เราจะพูดถึงเรื่องนี้ มหาบริสุทธ์แด่พระองค์ท่าน นี่มันเป็นการกล่าวร้ายอย่างมหันต์
17. อัลลอฮ์ทรงตักเตือนพวกเจ้า เพื่อมิให้กลับไปประพฤติเช่นนี้อีกเป็นอันขาด หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา
18. และอัลลอฮ์ทรงชี้แจงโองการทั้งหลายอย่างชัดเจนแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์เป็นผู้รอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ
19. แท้จริงบรรดาผู้ชอบที่จะให้เรื่องบัดสีแพร่หลายไปในหมู่ผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บปวด ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้และพวกเจ้าไม่รู้
20. และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า และความเมตตาของพระองค์แล้ว และแท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ
.....................................
ป.ล. เพิ่มและงามสง่าแถมให้ด้วยเนื่องจาก บอกว่าผมเป็นผู้ทรงเกียรติยิ่ง
......โอ้ องค์อภิบาลของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยให้แก่พวกเรา และบรรดาพี่น้องของพวกเรา ที่ได้ศรัทธาล่วงหน้าก่อนพวกเรา และขออย่าได้ดลบันดาลความโกรธแค้นต่อบรรดาผู้ที่มีศรัทธา โอ้ องค์อภิบาลของเรา แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงเมตตาปราณียิ่งนัก...... (ซูเราะฮ์ อัลฮัชรุ)
......โอ้ องค์อภิบาลของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดประทานจากบรรดาคู่ครองของเราและผู้สืบตระกูลของเรา ให้เป็นที่ชื่นตาแก่พวกเราและโปรดบันดาลพวกเราให้เป็นผู้นำจากมวลผู้ยำเกรง.....(ซูเราะฮ์ อัลฟรุกอน) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
จุ๊จุ๊ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2004 ตอบ: 1
|
ตอบ: Fri Jul 16, 2004 1:58 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สมาชิกใหม่ เข้ามาทักทายครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
natee มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 108
|
ตอบ: Fri Jul 16, 2004 10:26 pm ชื่อกระทู้: กว่าจะรู้เดียวสา |
|
|
ถึงคุณ ไข่นุ้ย ผู้ทรงเกียรติและงามสง่ายิ่ง
เช่นกัน เราก็คงจะไม่มาโต้เถียงกับคุณอีกแล้ว (ถ้าอยากได้ถ้วยรางวัลก็เชิญคุณเอาไปเถอะ) และก้อขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำดำรัส ของอัลลอฮ์ (ซ.ล.) ในอัลกรุอ่าน ที่คุณได้นำมาฝาก เราทราบดีถึงสัจธรรมดังกล่าวทั้งหมดและน้อมรับและปฏิบัติตามอยู่แล้ว ซึ่งไม่เห็นว่าจะเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องที่กำลังเสวนาอยู่นี้เลย ประเด็นตรงนี้คือ การสนับสนุนศัตรูผู้ทำลายล้างพี่น้องมุสลิมของเราต่างหาก เรื่องใหญ่ๆ ขนาดนี้คุณยังมองไม่ออก แล้วจะไปหวังรณรงค์ให้บอยคอตสินค้ายิว สินค้าศัตรูของพี่น้องมุสลิมเรา จะเป็นไปได้หรือนี่ ก็คงจะบอกอีกว่า โค้กเอย เป๊ปซี่เอย อัลลอฮ์ไม่ได้บอกว่ามันฮาหร่าม จะไปฮุก่มว่ามันฮาหร่ามได้ยังไง ดีใจเหลือเกินไก่เคเอฟซีของไอ้ยิว ได้ตราฮาล้าลอีกแล้ว อะไรทำนองนี้.....จริงๆ แล้ว การไปครั้งนี้ของทหารไทยและล่าม ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ได้ส่งไปชุดหนึ่งแล้วและได้กลับมาแล้ว ก่อนที่ชุดนี้จะเดินทางไป อะไรๆ ก็น่าจะกระจ่างแจ้งแก่ใจ เราเสียดายที่ต้องสูญเสียโต๊ะครูที่เราชื่นชอบไป คนหนึ่งแล้ว เพราะเรื่องนี้ ครั้งหนึ่งโต๊ะครูคนนั้นดูจะเป็นโต๊ะครูที่มีอนาคตไกลอยู่ทีเดียว ... และนี่ก็เป็นอีกคนหนึ่ง หากเราไม่นำพาเรื่องนี้กัน เราจะต้องสูญเสียโต๊ะครูรุ่นใหม่ไปอีกกี่คนเล่า ก็อยากให้พิจารณากันสักนิด เรื่องนี้ในแวดวงผู้มีความรู้ทางศาสนา ตระหนักดีถึงความเป็นพี่น้องกันของมุสลิมทั่วโลก เมื่อส่วนหนึ่งส่วนใดของพี่น้องเราต้องเจ็บปวด เราก็ต้องเจ็บปวดด้วย ฉะนั้นการกระทำใดๆ ที่เป็นการให้ความร่วมมือหรือสนับสนุนผู้ที่ทำให้พี่น้องมุสลิมของเราต้องได้รับความเจ็บปวด จึ่งสมควรที่จะถูกต่อต้าน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|