เรื่องราวของแผ่นดิน
วัน พุธ 16 ก.พ. 05 @ 03:58
หัวข้อ: อัลหะดีษ



โดยวสีฏ

عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ قَرَأَ رَسُوْلُ اللهِ صَلّىَ اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم
يَوْمَئِذٍ تُحَدِّثُ أَخْبَارَهَا ثُمَّ قَالَ أَتَدْرُوْنَ مَا أخْبَارُهَا قَالُوا اللهُ وَرَسُوْلُهُ أَعْلَم
قَالَ فَأِنَّ أخْبَارَهَا أَنْ تَشْهَدَ عَلىَ كُلِّ عَبْدٍ أَوْ أَمَةٍ بِمَا عَمِلَ عَلىَ ظَهْرِهَا
تَقُوْلُ عَمِلَ كَذَا وَكذَا فِىْ يَوْمِ كَذَا وَكَذاَ فَهَذِهِ أَخْبَارُهَا




อบูฮุรอยเราะห์ ริฏิยัลลอฮุอันฮุ รายงานว่า ท่านรอซูลลุลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้อ่านอัลกุรอ่านอายะห์ที่ว่า วันนั้นแผ่นดินจะบอกเรื่องราวของมัน แล้วท่านได้ถามว่า พวกเจ้าทั้งหลายรู้ไหมว่า เรื่องราวของแผ่นดินเป็นเช่นไร บรรดาศอฮาบะห์ตอบว่า อัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์รู้ดียิ่ง ท่านกล่าวว่า เรื่องราวของแผ่นดินก็คือ การที่แผ่นดินจะเป็นพยานยืนยันการกระทำของบ่าวทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงที่อยู่บนแผ่นดินนี้ โดยมันจะกล่าวว่า คนนั้นทำเช่นนี้ ในวันนั้นอย่างนี้ นี่แหละคือเรื่องราวของแผ่นดิน

บันทึกฮะดีษ

สุนันอัตติรมีซีย์ ฮะดีษเลขที่ 2353 และ 3276 มุสนัดอิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 8512

ผู้รายงานฮะดีษ

ชื่ออับดุลเราะห์มาน บิน ศ็อคริน ชื่อเดิมก่อนรับอิสลามคื อ “ อับดุลซัม” มีความหมายว่า บ่าวของดวงอาทิตย์, เป็นคนที่รักแมวจนได้รับฉายาว่า “อะบูฮุรอยเราะห์” แปลว่า พ่อแมว,เป็นชนเผ่าเดาซ์ จากยะมัน, เข้ารับอิสลามปลายปีที่ 7 ฮิจเราะห์ศักราช ขณะที่มีอายุได้ 30 ปี, เป็นศอฮาบะห์อวุโส และเป็นหนึ่งใน “อะฮ์ลุลซุฟฟะห์” (ผู้ที่อยู่เพิงพักด้านข้างของมัสยิดนบี) รายงานฮะดีษไว้จำนวน 5347 ฮะดีษ มีบันทึกอยู่ในศอเฮียะห์บุคคอรี 93 ฮะดีษ ในศอเฮียะห์มุสลิม 189 ฮะดีษ นอกเหนือจากนั้นอยู่ในบันทึกอื่นๆ เสียชีวิตที่นครมะดีนะห์ ปีที่ 57 ฮิจเราะห์ศักราช

ฐานนะของฮะดีษ

เป็นฮะดีษมัรฟัวอ์ที่อ้างถึงคำพูดของท่านนบี โดยท่านอิหม่ามติรมีซีย์ผู้บันทึกได้กำกับในตอนท้ายฮะดีษไว้ว่า هذا حديث حسن صحيح غريب (นี่คือฮะดีษฮะซันศอเฮียะห์ ฆ่อรีบ) คำว่าฆ่อรีบ ในทางภาษาฮะดีษนั้น หมายถึง ฮะดีษที่มีผู้รายงานเพียงคนเดียว ซึ่งผู้รายงานฮะดีษบทนี้ในระดับศอฮาบะห์มีเพียงคนเดียวคืออบูฮุรอยเราะห์
แต่นักวิชาการฮะดีษท่านอื่นๆ ยังวิจารณ์ฮะดีษบทนี้ไว้มาก เพราะหนึ่งในผู้รายงานระดับตาบีอีนชื่อ ยะห์ยา อิบนุอบีสุไลมาน มีฉายาว่า อบูซอและห์ เป็นผู้ถูกวิจารณ์ในมุมมองที่ต่างกันเช่น ท่านอิบนุฮิบบานกล่าวว่า เขาเป็นบุคคลเชื่อถือได้ ท่านฮาเก็มกล่าวว่า เป็นหนึ่งในผู้รายงานที่น่าเชื่อถือ ส่วนท่านอิหม่ามบุคคอรีวิจารณ์ว่า ฮะดีษที่เขารายงานถือไม่ได้, ท่านอบูฮาติมอัรรอซีย์กล่าวว่า สับสนไม่แข็งแรง, และท่านอิบนุคุซัยมะห์กล่าวว่า ไม่รู้สถานภาพของเขา
เพราะฉะนั้นถ้าท่านต้องการนำไปอ้างอิงกรุณาแจ้งสถานภาพของฮะดีษด้วย

สิ่งที่ได้รับจากฮะดีษ

1 – อัลกุรอานนั้นแม้จะเป็นภาษาอาหรับ และศอฮาบะห์ที่รับฟังอยู่ก็เป็นคนอาหรับพูดภาษาอาหรับ แต่ก็ใช่ว่าจะเข้าใจจุดมุ่งหมายของอัลกุรอานได้ด้วยตัวเอง หากแต่ต้องอาศัยการอธิบายเป้าหมายจากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
2 – หนึ่งในวิธีการอธิบายอัลกุรอานได้อย่างถูกต้องด้วยกับฮะดีษหรือซุนนะห์ของท่านรอซูล
3 – ท่านนบีได้สอนบรรดาศอฮาบะห์โดยตั้งคำถามนำ เพื่อให้เกิดความสนใจ
4 – มารยาทของศอฮาบะห์ที่จะไม่เสนอความคิดเห็นของตัวเองในเรื่องของศาสนาต่อหน้าท่านรอซูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาจะไม่เสนอความคิดเห็นใดๆ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากท่านรอซูล
5 – การกระทำของมนุษย์จะถูกบันทึกไว้ทุกย่างก้าว และแผ่นดินจะเป็นพยานในการกระทำของเขา 6 – ในวันกิยามะห์นั้นมนุษย์ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธและโต้เถียงได้โดยเด็ดขาด พวกเขาจะถูกตอบแทนตามที่เขาได้กระทำไว้ในดุนยา







บทความนี้มาจาก Moradokislam.org
http://www.moradokislam.org

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=News&file=article&sid=176