อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[asan]

เข้าไปเที่ยวและหลงเข้าไปในเว็บซุนนะสะติ้วเด้น โต๊ะครูที่มีนามว่า "คนอยากรู้"กล่าวหาพี่น้องมุสลิม ผู้ที่เขาเรียกว่า "วะฮบีย์ว่า

เป็นที่รู้กันว่าวะฮาบีย์นั้น มีความเชื่อเฉกเช่นเดียวกับความเชื่อของชาวคริสตเตียน ...จากเวปคริสเตียน
ความเชื่อเช่นนี้ ไม่มีในชาวอะลิสซุนนะวัญญามาอะ..ที่เชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าประทับบนฟ้า..แต่มันความเชื่อที่เป็นบิดอะดอลาละที่ลุ่มหลงอย่างน่าเกลียด...วัลอิยาซุ้บิ้ลลา..
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=110.30
..........

สาเหตุนี้แหละที่ผมตั้งชื่อเว็ปพวกนั้นว่า "เว็ปฟิตนะฮสะติ้วเด้น" เพราะการกล่าวหาว่า พี่น้องมุสลิม มีความเชื่อเหมือนกับคริสเตียน ก็เท่ากับเขากล่าวหาพี่น้องมุสลิมว่า เป็นกาเฟร วัลอิยาซุบิลละฮ
อิหม่ามอะหมัด (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
أَنْكَرْتُمْ أَنْ يَكُونَ الله عَلَى العَرْشِ، وَقَدْ قَالَ الله تَعَالَى: "الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى" وقَالَ: "خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ"، وَقَدْ أَخْبَرَنَا أَنَّهُ فِي السَّمَاءِ فَقَالَ: "ءَأَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يَخْسِفَ بِكُمُ الأَرْضَ"، "أَمْ أَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِبًا
พวกท่านคัดค้าน การที่อัลลอฮ ทรงอยู่บนบัลลังค์ ทั้งๆที่อัลลอฮตะอาลาตรัสว่า "

الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى

ผู้ทรงเมตตาทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์


خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ
แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกเจ้านั้น คืออัลลอฮฺผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผนดินภายในหกวันแล้วทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์....

และทรงบอกเราว่าพระองค์อยู่บนฟ้า เพราะทรงตรัสว่า

ءَأَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يَخْسِفَ بِكُمُ الأَرْضَ

พวกเจ้าปลอดภัยหรือ? จากการที่พระผู้ทรงอยู่บน ฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้า

"أَمْ أَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِبًا

หรือพวกเจ้าปลอดภัย(จาก)ผู้อยู่ในชั้นฟ้า ที่จะส่งลมหอบหินลงมาทับถมเหนือพวกเจ้า

หลังจากนั้นท่านอิหม่ามอะหมัดสรุปว่า

فَهَذَا خَبَرُ اللهِ أَخْبَرَنَا أَنَّهُ فِي السَّمَاءِ
และนี้คือ การบอกเล่าของอัลลอฮ ทรงบอกเราว่า พระองค์อยู่บนฟ้า - ดู อัรรอ็ดอะลัซซะนาดีกวัลญะฮมียะฮ หน้า 48- 49

ที่นี้มาดู คำอธิบายของนักตัฟสีร
จากอายะฮข้างต้น อิหม่ามอัฏฏ็อบรีย์ อธิบายว่า
أمْ أمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّماءِ وهو الله { أنْ يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حاصِباً } وهو التراب فيه الحصباء الصغار

“หรือพวกเจ้าปลอดภัย(จาก)ผู้อยู่บนชั้นฟ้า และพระองค์คือ อัลลอฮฺ (ที่จะส่งลมหอบหินลงมาทับถมเหนือพวกเจ้า) มันคือดิน ที่มี ก้อนกรวดเล็กๆอยู่ในนั้น "

- ดูตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮอัลมุ้ลกิ .

...................
ผมว่า โต๊ะครูเว็บนั้น ท่าจะไปกันใหญ่แล้วละครับ

[asan]

أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يَخْسِفَ بِكُمُ الأرْضَ فَإِذَا هِيَ تَمُورُ

พวกเจ้าปลอดภัยหรือ? จากการที่พระผู้ทรงอยู่บนฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้า แล้วขณะนั้นมันจะหวั่นไหว (สั่นสะเทือน)

อิบนุเญาซีย์ อธิบายว่า
{ مَنْ في السماء } قال ابن عباس أمنتم عذاب مَنْ في السماء، وهو الله عزَّ وجل
(ผู้ทรงอยู่บนฟ้า ) อิบนุอับบาส กล่าวว่า " พวกเจ้าปลอดภัยหรือ? จากการลงโทษพระผู้ทรงอยู่บนฟากฟ้า และพระองค์ คือ อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง - ตัฟสีรอิบนุเญาซีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 17 ซูเราะฮอัลมุลกุ

เช็คศอลิหฺ บิน ฟูซาน กล่าวว่า

فمعنى ‏(‏في‏)‏ هنا‏ بمعنى على يعني‏ على السماء كما في قوله تعالى‏ ‏{‏سِيرُواْ فِي الأَرْضِ‏}‏ ‏[‏سورة الأنعام‏ آية 11‏]‏ يعني ‏ على الأرض
พราะความหมายคำว่า (في = ใน) ณ ที่นี้ มีความหมายว่า ( على = บน) หมายถึง บนฟ้า ดังคำตรัสของอัลลอฮตะอาลาที่ว่า (พวกเจ้าจงเดินไปในแผ่นดิน) - อันอันอาม/11 หมายถึง บนแผ่นดิน
http://www.islamway.com/?iw_s=Fatawa&iw_a=view&fatwa_id=5230
............
คนที่เชื่อตามที่อัลลอฮทรงตรัสไว้ เขากล่าวหาว่าเชื่อแบบตริสเตียน วัลอิยาซุบิลละฮ อยากให้คนกล่าวหาคนนี้ เผยชื่อจริงมาสักที่ จะได้รู้ว่าลูกหลานใคร

[asan]

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

تَعْرُجُ ٱلْمَلاَئِكَةُ وَٱلرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ
มะลาอิกะฮฺและอัรรูหฺ (ญิบริล) จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี (ของโลกดุนยานี้)

อิหม่ามอิบนุญะรีร อธิบายว่า
يَقُول تَعَالَى ذِكْره : تَصْعَد الْمَلَائِكَة وَالرُّوح , وَهُوَ جِبْرِيل عَلَيْهِ السَّلَام إِلَيْهِ , يَعْنِي إِلَى اللَّه جَلَّ وَعَزَّ ; وَالْهَاء فِي قَوْله : { إِلَيْهِ } عَائِدَة عَلَى اسْم اللَّه { فِي يَوْم كَانَ مِقْدَاره خَمْسِينَ أَلْف سَنَة } يَقُول : كَانَ مِقْدَار صُعُودهمْ ذَلِكَ فِي يَوْم لِغَيْرِهِمْ مِنَ الْخَلْق خَمْسِينَ أَلْف سَنَة , وَذَلِكَ أَنَّهَا تَصْعَد مِنْ مُنْتَهَى أَمْره مِنْ أَسْفَل الْأَرْض السَّابِعَة إِلَى مُنْتَهَى أَمْره مِنْ فَوْق السَّمَوَات السَّبْع
อัลลอฮผู้ซึ่ง การสดุดีพระองค์นั้น ทรงสูงส่ง ตรัสว่า มลาอิกะฮ และอัรรูหฺ คือ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ขึ้นไปยังพระองค์ หมายถึง ขึ้นไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง และอักษรฮา ในคำว่า "อิลัยฮิ " นั้น เป็นสรรพนามแทนชื่อของอัลลอฮ , ในคำตรัสที่ว่า (ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี ) พระองค์ตรัสว่า กำหนดระยะทางการขึ้นของพวกเขา นั้น ในวันหนึ่ง สำหรับมัคลูคอื่นๆจากพวกเขานั้น เป็นเวลาห้าหมื่นปี และดังกล่าวนั้น พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ)ได้ขึ้นจาก จุดสิ้นสุด จากชั้นล่างสุดของแผ่นดินชั้นที่เจ็ด ไปยังจุดสิ้นสุด จาก เบื้องบนชั้นฟ้าที่เจ็ด – ดูตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 4 ซูเราะฮอัลมะอาริจญ
...................
ไมทราบว่า ท่านผู้รู้ที่ใช้ชื่อปลอมว่า คนอยากรู้ คิดได้อย่างไร จึงกล่าวหาว่า ผู้ที่เชื่อว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า เป็นผู้ที่เชื่อแบบคริสเตียน และเป็นความเชื่อที่หลงผิด ทั้งๆที่อัลกุรอ่านระบุชัดเจนว่า มลาอิกะฮ ขึ้นไปยังอัลลอฮ และ นักตัฟสีรชาวสะลัฟ เช่น อิบนุญะรีร ก็ได้อธิบายเอาไว้ว่า มลาอิกะฮขึ้นไปยังอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

[asan]

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

تَعْرُجُ ٱلْمَلاَئِكَةُ وَٱلرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ
มะลาอิกะฮฺและอัรรูหฺ จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี (ของโลกดุนยานี้

อิหม่ามอิบนุเญาซีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า

قوله تعالى: { تَعْرُجُ الملائكة } قرأ الكسائي: ;يَعْرُج بالياء.
{ والروحُ } في الروح قولان.
أحدهما: جبريل، قاله الأكثرون.
والثاني: روُح الميِّت حين تُقْبَضُ، قاله قبيصة بن ذُؤَيْب.
قوله تعالى: { إليه } أي: إِلى الله عز وجل
คำตรัสของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งที่ว่า(มลาอิกะฮขึ้นไป) อัลกิสาอีย์ อ่านว่า "يَعْرُج" ด้วยพยัญชนะยา (และอัรรูหฺ) ในคำว่าอัรรูหฺ" นั้น มีสองทัศนะด้วยกันคือ
1. หมายถึงญิบรีล ซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่ได้กล่าวมันไว้
2. หมายถึง วิญญานของมัยยิต ขณะที่ถูกเอาไป ซึ่ง เกาะบีเศาะฮ บิน ดุอัยบฺ ได้กล่าวมันไว้
และคำตรัสของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งที่ว่า (อิลัยฮิ = ไปยังพระองค์) หมายถีง (ขึ้น)ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่ง" - ตัฟสีร อิบนุเญาซีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 4 ซูเราะฮอัลมะอาริจญ

..........

ในตัฟสีรข้างต้น ระบุว่า มลาอิกะฮขึ้นไปยังอัลลอฮ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัลลอฮ ทรงอยู่เบื้องบน แต่.. นักศึกษาอะชาอิเราะฮในเว็บนั้น กล่าวหาว่า เชื่อแบบนี้ เป็นการเชื่อแบบคริสเตียน และเป็นอะกีดะฮบิดอะฮ เฎาะลาละฮ นะอูซุบิลละฮ

[asan]

ท่านนบี กล่าวว่า
ألا تأمنوني وأنا أمين من في السماء، يأتيني خبر السماء صباحا ومساء
พวกท่านไม่ไว้วางใจฉันอย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่ฉันคือ ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจของผู้ที่อยู่ในฟากฟ้า,ข่าวคราวแห่งฟากฟ้า ได้ถึงมายังฉัน ในยามเช้าและยามบ่าย (1)
---------------------------
(1) البخاري : المغازي (4351) , ومسلم : الزكاة (1064) , والنسائي : الزكاة (2578) , وأبو داود : السنة (4764) , وأحمد (3/68).
..........

[asan]

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَهُوَ اللَّهُ فِي السَّمَاوَاتِ وَفِي الْأَرْضِ يَعْلَمُ سِرَّكُمْ وَجَهْرَكُمْ وَيَعْلَمُ مَا تَكْسِبُونَ
และพระองค์นั้นคือ อัลลอฮ์ ทั้งในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน(*1*) ทรงรู้สิ่งเร้นลับของพวกเจ้า และสิ่งเปิดเผยของพวกเจ้า และทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายกันอยู่
---------------
(1) หมายถึงว่า อัลลอฮ์นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในบรรดาชั้นฟ้า และในแผ่นดินว่า พระองค์นั้นคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงคุณลักษณะอันสมบูรณ์ทุกประการ

อิบนุกะษีร ได้กล่าวว่า

وَالْقَوْل الثَّالِث أَنَّ قَوْله " وَهُوَ اللَّه فِي السَّمَوَات " وَقْف تَامّ ثُمَّ اِسْتَأْنَفَ الْخَبَر فَقَالَ " وَفِي الْأَرْض يَعْلَم سِرّكُمْ وَجَهْركُمْ " وَهَذَا اِخْتِيَار اِبْن جَرِير
และทัศนะที่สามคือ แท้จริงคำตรัสของพระองค์ที่ว่า "และพระองค์นั้นคือ อัลลอฮ์ ในบรรดาชั้นฟ้า" เป็นการจบประโยคโดยสมบูรณ์(วะกัฟตาม) หลังจากนั้น ได้เริ่มต้นเคาะบัร(ประโยคที่เป็นภาคแสดงในนามานุประโยค)ใหม่ โดย ตรัสว่า "และในแผ่นดินทรงรู้สิ่งเร้นลับของพวกเจ้า และสิ่งเปิดเผยของพวกเจ้า" และทัศนะนี้ คือ ทางเลือกของอิบนุญะรีร - ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร อรรถาธิบายซูเราะฮอันอันอาม อายะฮที่ 3
..........
ท่านอิบนุญะรีร นักตัฟสีรยุคสะลัฟ มีทัศนะ ตามข้อความอายะฮที่ว่า (และพระองค์นั้นคือ อัลลอฮ์ ในบรรดาชั้นฟ้า") แต่นักศึกษาอะชาอีเราะฮ บอกว่า การเชื่อแบบนี้เหมือนกับอะกีดะฮคริสเตียนและเป็นอะกีดะฮที่บิดอะฮ นะอูซุบิลละฮ พวกเขาคิดกล่าวหาแบบนี้ได้อย่างไร

[asan]

ในตอนหนึ่งของหะดิษเมียะรอจญ์ ระบุว่า
وعرج صلى الله عليه وسلم إلى السماء السابعة حتى كلمه ربه ، وفرض عليه خمس صلوات
และรซูลุลลอฮ ได้ขึ้นไปยังฟากฟ้าชั้นที่เจ็ด จนกระทั่งพระผู้อภิบาลของเขาได้สนทนากับเขา และได้บัญญัติละหมาดห้าเวลา ให้เป็นข้อบังคับแก่เขา (1)
-----------------
البخاري التوحيد (7079) ، مسلم الإيمان (162)
.............
ท่านรซูลุลลอฮ ขึ้นไปยังฟากฟ้า และได้พบกับอัลลอฮ และพระองค์ได้พูดกับรซูลุลลอฮ
การเชื่อแบบนี้ เป็นอะกีดะฮที่หลุมหลง อย่างที่นักศึกษาอาชาอีเราะฮกล่าวหาได้อย่างไร วัลอิยาซุบิลละฮ

[maliksn]