ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ matt
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ matt
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Mon Jul 28, 2008 10:53 am    ชื่อกระทู้: จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ matt ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คือคิดคล้ายๆ คุณแมท มานานมากแล้ว และก็เห็นด้วยกับคุณแมท
โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้
1. เราควรมีอิสรภาพ ในการอ่านอัลกรุอ่าน ตีความ เข้าใจ ศาสนาเอง มีอิสรภาพในการเลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของผู้รู้ท่านที่เราเห็นด้วย และปฏิเสธอย่างสุภาพและให้เกียรติกับผู้ที่เราไม่เห็นด้วย ครับ ที่บอกอย่างนี้ไม่ได้แปลว่าอะไรที่สบอารมณ์ก็เชื่อ อะไรที่ไม่สบอารมณ์ก็ไม่เชื่อ แต่อยากจะให้เรา เคารพสติปัญญาของตนเองที่จะเข้าถึงพระเจ้าได้ โดยไม่ต้องผ่าน "ตัวกลาง" ใดๆทั้งสิ้น

2.ผมเห็นด้วยกับคุณแมท เรื่องการไม่เชื่อเรื่องหะดีษซอเศี้ยะ จะเป็นการตกศาสนา ผมเชื่อในแบบอย่างของท่านศาสดา ส่วนบันทึกอื่นๆ นอกจากุรอ่านแล้ว ล้วนแต่ไม่ได้เป็นหนังสือที่ พระเจ้า "คุ้มครอง" จากการบิดเบือน หมายความว่า หะดีษที่เราเชื่อว่าบริสุทธิ์ ผ่านการส่งต่อ ผ่านยุคสมัย ผ่านนัยยะทางการเมือง มานานนับร้อยปี แน่นอนครับ อาจจะถูกต้องก็ได้ แต่มนุษย์ท่านใดเล่าจะยืนยันว่า สิ่งที่เราเรียกว่า หะดีษซอเศี้ยะ นั้นจะคงอยู่มาได้นับร้อยๆปีโดยไม่ถูกต่อเติมเลย พูดง่ายๆ ว่า นี้เป็นบันทึกความทรงจำของมนุษย์ที่มีต่อศาสดา เป็นหนังสือที่พระเจ้าไม่ได้รับรองว่าจะไม่ถูกบิดเบือน ผู้ที่รับรองล้วนเป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งอาจจะผิดพลาดได้แม้ว่าจะมีเจตนาบริสุทธิ์ก็ตาม ....

ครับ เอาเท่านี้ก่อนนะครับ หวังว่าจะได้ข้อแนะนำที่ปราศจากอารมณ์ หรือคำตราหน้าต่างๆ นะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
hamzah
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/05/2004
ตอบ: 34


ตอบตอบ: Mon Jul 28, 2008 11:06 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...ครับเป็นความคิดเห็นที่น่าคิดครับ

ผมมีคำถามเพียงคำถามเดียว และเรียกร้องให้คุณตอบด้วยนะครับ
1.อยากให้ท่านได้อธิบายถึงระบบการบันทึกฮะดิษซอฮีฮฺ ที่ท่านรู้มาโดย ละเอียดครับ ว่าเค้าบันทึกกันอย่างไร? และมาตรฐานใดบันทึก?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Mon Jul 28, 2008 11:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตอบท่านตรงๆ ผมเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยครับว่ามีระบบตรวจสอบอย่างไร (ดังนั้นผมจึงโพสต์ความคิดผมในทีนี้เพื่อให้ท่านๆ ทั้งหลายชี้แนะ บางทีความคิดผมอาจจะหลงทางก็เป็นได้) แต่ผมคิดว่า "ระบบบันทึกและตรวจสอบ" นั้นถึงอย่างไรก็เป็นการงานของมนุษย์ ย่อมมีสิ่งที่ผิดพลาดได้ แม้จะมีเจตนาที่ดี (ผมเชื่อโดยส่วนตัวว่าการเมืองนับร้อยๆปีที่ผ่าน อาจนำศาสนามาเป็นเครื่องมืออย่างยิ่งยวด ผมไม่แน่ใจว่า ระบบบันทึกและตรวจสอบ ของมนุษย์นี้จะรอดพ้นจากสิ่งเหล่านี้หรือไม่

ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
บางทีอาจจะมีสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงก็ได้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Mon Jul 28, 2008 11:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อีกนิดหนึ่งครับ

ถ้า "ผู้รู้" ยืนยันว่า ฮาดีษ นี้บริสุทธิ์ จริง ตามกระบวนการตรวจสอบ เราต้องเชื่อโดยดุษฎี ปราศจากข้อกังขาใดๆ เลยหรือไม่ เพราะถ้าจะแย้งว่าไม่จริง ก็ต้องไปแย้งใน "สนาม"ของวิชาฮาดีษ ซึ่ง"คนนอก" ไม่มีทางแย้งได้ตกหรอกครับ เพราะนั่นเป็น สนาม ของเขา

ผมมีสิทธิที่จะใช้ "ศาสตร์อื่นๆ" มาเป็นข้อตัดสินใจสำหรับตัวเองไหมว่า นี่ไม่น่าจะเป็นฮาดีษที่จริง

ถึงที่สุดวิชาฮาดีษ ก็เป็น ศาสตร์ๆหนึ่ง ว่าด้วยการบันทึกข้อมูล แล้วเราก็อาศัยการบันทึกข้อมูลเหล่านี้เข้าถึง "ความจริง" เป็นไปได้ไหมที่เราจะพิจารณาจากทางอื่นบ้าง นอกจาก ศาสตร์แห่งการบันทึกข้อมูลนี้

เช่น เราเชื่อเหลือเกินว่า นบีให้สิทธิแก่สตรีมากมาย และมีเป้าหมายที่จะให้ฐานะของสตรีเท่าเทียมบุรุษ ดังนั้น ฮาดีษใดๆ ก็ตามที่ หมิ่นเหม่ที่จะลดรอนสิทธิของสตรี เราก็ไม่จำเป็นต้องรับว่ามันถูกต้องแบบเถียงไม่ได้ ผมไม่แน่ใจว่าที่ซาอุดีฯ ห้ามผู้หญิงขับรถเนื่องมาจากฮาดีษหรือไม่ ถ้าใช่นี่ก็เป็นข้อหนึ่งซึ่งผมอยากให้เรามองจากมุมอื่นบ้าง ออกจากกองหนังสือของบรรพชนบ้างแล้วใช้สติ ปัญญาของเรา ใตร่ตรองอัลกรุอ่าน อย่างตรงไปตรงมา ...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jul 31, 2008 2:22 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอ่อ ขอคำถามนึงนะครับ ไม่ต้องก็ได้นะคุณเอดิสัน

อยากถามให้คุณคิดหาคำตอบในใจก่อนว่า นักวิชาการหรือนักศึกษาที่ร่ำเรียนศาสนากันมาทั้งจาจากมหาลัยต่างๆ รวมถึงผู้รู้ในอดีตถึงปัจจุบัน คุณคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความคิดหรือเปล่าครับ หรือว่าบรรดาผู้รู้มุสลิมเราทั้งหลาย ที่มีจำนวนมากมายเหลือเกิน เหล่านี้เป็นประเภทหลับหูหลับตาเชื่อ แบบนั้นหรือเปล่า (คือไม่ได้ถามแบบกวนนะ แต่ภาษาผมเป็นอย่างนี้)
กล่าวคือ ไม่มีซักคนเลยหรือที่เคยมีความคิดเหมือนคุณกับคุณแมทท์

..

เอาล่ะ ถามให้คิดเฉยๆ ไม่ใช่คำชี้แจงใดๆ ส่วนคำแนะนำผมขอแนะว่า
ให้ศึกษาอุลูมุลหะดีษ วิชาของหะดีษโดยเริ่มจากพื้นฐาน ไม่ว่าจะตามเว็บไทยหรือเว็บภาษาอังกฤษก็ดี แล้วความรู้มันคือกุญแจไขข้อข้องใจไปเรื่อยๆครับ และไม่ใช่สิ่งที่จู่ๆจะมาอธิบายกันประโยคสองประโยคหรือเพียงกระทู้หนึ่งกระทู้ใด

คนที่ออกมาตอบโต้อัลกุรอาน (แน่นอนหมายถึงคนที่ไม่ใช่มุสลิม) ก็คือคนที่ไม่มีความรู้ในอัลกุรอาน ไม่รู้ภาษาวิธีการแปล ไม่รู้ที่มาที่ไป (สะบาบุนนูซูล) ของแต่ละอายะฮฺ รวมถึงประวัติการบันทึก
ส่วนคนที่ตอบโต้หะดีษ (ซึ่งรวมถึงมุสลิมด้วย และไม่ได้หมายถึงคนที่สงสัยและอยากเรียนรู้) ก็คือคนที่ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาโดยละเอียดของหะดีษ ไม่รู้วิธีการชาเราะฮฺหะดีษ การตรวจสอบ และอื่นๆ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ต้องเรียนกันยาวเลย

และก็ขอทิ้งท้ายไว้ว่า อิสลามเป็นศาสนาที่สูงส่งจริงๆครับ แต่เป็นอาหารเหลา กล่าวคือ คนที่จะได้กินมีน้อย ชาวโลกส่วนใหญ่ไปหลงกับศาสตร์ต่างๆของตะวันตก แต่ไม่รู้ว่ามีวิชาการระดับสูง(กว่า) อยู่ในโลกมุสลิม ที่สังคมตะวันตกมักใส่ไคล้ หยาม และดูถูก (ไม่ว่าจะรูปแบบผู้ดีหรือแบบเถื่อนก็ตาม) หรือมักจะวาดภาพและจินตนาการ มโนภาพว่าอาหรับหรือโลกมุสลิมนั้น ล้าหลังด้านความรู้การศึกษา ผู้คนไร้สติปัญญา

ดร.โจนาธาน บราวน์ กล่าวว่า

http://www.islamic-awareness.org/Hadith/brown.html

“I have never been more impressed with anybody in history in my life than with Muslim ḥadīth scholars. I mean, when I first started studying ḥadīth I was very skeptical, I though it was all made-up and bogus but the more you study it the more you just appreciate the intense brain power of these people. I mean they memorized thousands and thousands of books and then they were able to recall all the different versions of ḥadīth from these books, and then they were able to analyze them and put them all together and figure-out where they all connect and make judgments about the authenticity of these ḥadīth. I mean even nowadays with electronic databases, and computers and word processing, I have hard time following even their discussions of the ḥadīth - let alone their original mastering that they were drawing on. It's almost unbelievable... It's almost unbelievable, and if you didn't have the books in front of you that they wrote, I wouldn't believe it personally....”
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jul 31, 2008 2:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แก้ไข :

ประโยคแรก ผมพูดว่า "ไม่ต้องตอบก็ได้" (พิมพ์ตกครับ)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jul 31, 2008 2:33 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้อ ..ทิ้งท้ายอีกนิด (คือไม่ค่อยได้เข้ามา)

สำหรับคนที่ไม่มีหลักหรือไม่มีความรู้ในการตรวจสอบหะดีษ เขาจะใช้เกณฑ์อะไรตัดสินในการคัดเลือกหะดีษรู้มั้ยครับ ?

คำตอบคือ "อารมณ์" ไงครับ ...คือใช้ความถูกใจเป็นหลัก หะดีษไหนมันไม่เข้าแก๊ป ไม่ชอบใจ ก็ตัดหะดีษนั้นทิ้งไปเลย โดยอ้างว่าขัดกับกุรอาน
แต่ถ้าหะดีษไหนถูกใจ (ถึงแม้จะเก๊ จะอ่อน หรือไม่มีที่มาที่ไปเลยก็ตาม) ก็จะยึดหะดีษนั้นโดยอ้างว่าตรงกับกุรอาน

หมายเหตุ .. หะดีษมีไว้อธิบายกุรอาน ซึ่งหะดีษจะไม่ขัดกับกุรอาน (ถึงแม้ว่าอาจดูเหมือนจะขัดในบางหะดีษ) แต่อุละมาอฺก็จะมาอธิบายความหมาย โดยการอธิบายนี้ก็ยึดถือบรรทัดฐานตามชนรุ่นแรกที่รับฟังอัลกุรอานและการอธิบายจากท่านนบีนั่นเอง ...นี่คือหลักพื้นฐานโดยคร่าวๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Fri Aug 01, 2008 11:22 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ก่อนอื่นขอบคุณท่าน irf มากครับที่มาร่วมให้คำแนะนำให้กับคนที่ไม่มีความรู้ทางศาสนาอย่างผม

ผมขอตอบเป็นประเด็นนะครับ
1.อยากถามให้คุณคิดหาคำตอบในใจก่อนว่า นักวิชาการหรือนักศึกษาที่ร่ำเรียนศาสนากันมาทั้งจาจากมหาลัยต่างๆ รวมถึงผู้รู้ในอดีตถึงปัจจุบัน คุณคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความคิดหรือเปล่าครับ หรือว่าบรรดาผู้รู้มุสลิมเราทั้งหลาย ที่มีจำนวนมากมายเหลือเกิน เหล่านี้เป็นประเภทหลับหูหลับตาเชื่อ แบบนั้นหรือเปล่า

ตอบ เปล่าครับไม่ได้คิดอย่างนั้นครับ คิดว่ามีครับ มาตลอดยุคสมัยครับ เพียงแต่เชื่อว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็น กระแสหลัก ก็เหมือนๆ สมัยนี้นะครับ และผมไม่ได้ให้ความหมายว่ากระแสหลักนั้นจะเป็นคนหลับหูหลับตาเชื่อแต่อย่างใด เพียงแต่เราเลือกใช้คนละ "ศาสตร์"ในการเข้าถึง..

ผมยกตัวอย่างอีกสักหนึ่งอันนะครับ เช่น การเข้าถึงความหมายของอัลกรุอ่าน ต้องเข้าถึงด้วยวิชาอรรถธิบายอัลกรุอาน คือ ตัฟซีร ซึ่งต้องเรียนในโรงเรียนศาสนาใช่ไหมครับ ผมคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนั้นนะครับ....และการจำกัดคนที่เข้าถึง ตีความ อัลกรุอ่าน ยิ่งลดทอนคุณค่าของอัลกรุอ่าน ยกตัวอย่างนะครับ

คำแปลอัลกรุอ่านจากสมาคมนักเรียนเก่าอรับ (ผู้เชี่ยวชาญวิชาการทางศาสนา ใช้วิชาตัฟซีร)
96:15-16 "หามิได้ ขอยืนยัน หากเขาไม่ยุติ แน่นอนเราจักตั้องกระชาก "กระจุกผม"ริมหน้าผาก(ของ) "กระจุกผม" ริมหน้าผากที่โกหก อีกทั้งกระทำความผิด

ครับอะไรกันครับกระจุกผม ริมหน้าผากที่โกหก มันไม่มีนะครับ นี่เป็นการตีความเอาเองของผู้แปลที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแปลคำว่า นาซียะฮ์ เป็น กระจุกผม ทั้งที่ความจริงแปลว่า บริเวณศรีษะส่วนหน้า ซึ่งถ้าคุณใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้าถึงอัลกรุอ่านบ้างแทนที่จะเป็นวิชาที่เรียนแต่ในโรงเรียนศาสนา คุณจะทราบว่า สมองส่วนหน้านั้นเป็นสมองส่วนที่เกี่ยวกับความคิดและใช้ในการโกหก.... ดังนั้น ไม่ใช่กระจกผมส่วนหน้าที่ควรถูกกระชาก หากแต่เป็นกระหม่อมหรือศรีษะ จะให้ตรงไปกว่านั้นอาจจะต้องบอกว่า สมองส่วนหน้า ที่โกหก กระจุกผมโกหกไม่ได้หรอกครับ

นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งครับที่เราจะลองใช้ "ศาสตร์ "อื่นๆ บ้างในการเข้าถึงอัลกรุอ่าน นอกจากศาสตร์ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนศาสนา ที่เล่ามาไม่ได้ต้องการหลบลู่เกียรติของสมาคมนักรเรรียนเก่าอรับนะครับ พวกท่านมีคุณประโยชน์อย่างมากมายที่แปลมาให้เด็กๆอย่างพวกผมอ่าน


ครับ ในเรื่อง หะดีษ ก็เช่นกัน หะดีษ ใช่หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วก็คือวิธีการเข้าถึง ซุนนะฮ์ของนบี เป็นไปได้ไหม ผมขอเสนอนะครับ ว่าเราจะเข้าถึงซุนนะฮ์ของนบี โดยใช้ศาสตร์อื่น ๆ บ้างเหมือนดังที่ยกมาในกรณีอัลกรุอ่านนะครับ แน่นอนครับ คงไม่ใช่ใช้อารมณ์มาตัดสินครับ

ขอบคุณท่านที่มาชี้แนะอีกครั้งนะครับ
ขอให้พระผู้เป็นเจ้าตอบแทนในความดีของท่านนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Fri Aug 01, 2008 11:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อีกข้อหนึ่งครับ
ผมไม่เห็นด้วยนะครับ ถ้าจะบอกว่าอิสลามคืออาหารเหลา ประมาณว่าเข้าถึงได้ยาก สูงส่งมีระดับ

ผมคิดว่าอิสลามคือขุมทรัพย์ทางปัญญาอันมหาศาล ซึ่งไม่ว่าคุณจะมีความรู้ด้านไหน ด้านดาราศาสตร์ ด้านการแพทย์ ด้านต่างๆ คุณจะต้องทึ่งกับคัมภีร์ของพระเจ้า ถ้าคุณแสวงหาด้วยความจริงใจ และเป็นประสงค์ของพระเจ้า เราจะเข้าถึงพระองค์ได้ครับ

พูดง่ายๆนะครับ จุดยืนของผมคือ วิชาการต่าง ๆ ที่เรียนกันในโรงเรียนศาสนา จริงๆแล้วไม่ใช่ "ทางเดียว" ที่จะเข้าถึงพระเจ้า ไม่ใช่ "ทางเดียว" ที่จะเข้าใจความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และใครๆ ก็เข้าถึงพระองค์ได้ด้วย "ตัวเอง" ไม่ต้องผ่าน อุลามา มาตีความให้ หรอกครับ และเราเลือกจะ เชื่อ เช่น ในประเด็น ก. ผมเลือกจะเชื่อ ซุนนี ในประเด็น ข ผมเลือกจะเชื่อ ชีอะห์ ในประเด็น ค. ผมอาจจะเลือกแบบ ซูฟี ได้ ด้วยเจตจำนงค์บริสุทธิ์ ด้วยเหตุผลที่ผมมี โดยไม่ต้องติดกับกรอบที่ว่า ฉันเป็นซุนนี ต้องมีกรอบ 1234 ถ้าไม่ใช่จะผลักให้ฉันเป็นชีอะห์

สรุปรวมแล้วผมอยากให้มีการศึกษาอิสลามเป็นไปในแบบ free education นะครับ
ใครๆก็เข้าถึงได้ ไม่ใช่เรื่องของ "ผู้รู้" เท่านั้น
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Aug 02, 2008 11:51 pm    ชื่อกระทู้: Re: จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ ma ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

adison บันทึก:
คือคิดคล้ายๆ คุณแมท มานานมากแล้ว และก็เห็นด้วยกับคุณแมท
โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้
1. เราควรมีอิสรภาพ ในการอ่านอัลกรุอ่าน ตีความ เข้าใจ ศาสนาเอง มีอิสรภาพในการเลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของผู้รู้ท่านที่เราเห็นด้วย และปฏิเสธอย่างสุภาพและให้เกียรติกับผู้ที่เราไม่เห็นด้วย ครับ ที่บอกอย่างนี้ไม่ได้แปลว่าอะไรที่สบอารมณ์ก็เชื่อ อะไรที่ไม่สบอารมณ์ก็ไม่เชื่อ แต่อยากจะให้เรา เคารพสติปัญญาของตนเองที่จะเข้าถึงพระเจ้าได้ โดยไม่ต้องผ่าน "ตัวกลาง" ใดๆทั้งสิ้น

........

คุณอาจจะเป็นคุณ adison หรือ เป็นคุณ แมท ที่ใช้นามแฝงใหม่ คุณเอดิสันครับ คุณใช้อะไรมาเป็นบรรทัดฐานในการเข้าใจอัลกุรอ่านเอาเองของคุณ โดยไม่ผ่านหะดิษ คุณเชื่อในการเป็นศาสนทูตของมุหัมหมัด Solallah ว่าท่านมีหน้าที่อะไร คุณลองอธิบายอายะฮที่ว่า

وَأَنزَلْنَا إِلَيْكَ الذِّكْرَ لِتُبَيِّنَ لِلنَّاسِ مَا نُزِّلَ إِلَيْهِمْ وَلَعَلَّهُمْ يَتَفَكَّرُونَ

และเราได้ประทานอัซซิกรฺ(อัลกุรอ่าน) ให้แก่เจ้า เพื่อเจ้าจะได้อธิบายแก่มนุษย์ สิ่งที่ถูกประทานมาให้แก่พวกเขา และเพื่อพวกเขาจะได้ไตร่ตรอง" - อัลนะหลุ/44
คำอธิบายของท่านนบี Solallah หมายถึงอะไร ถ้าไม่ใช่หะดิษ หรืออัสสุนนะฮ
ผมอยากให้คุณ เอดิสัน อธิบายรูปแบบของการทำละหมาดและเวลาของละหมาดตามความเข้าใจของคุณจากอายะฮต่อไปนี้โดยไม่ผ่านหะดิษ

فَأَقِيمُوا الصَّلَاةَ إِنَّ الصَّلَاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَوْقُوتًا
"พวกเจ้าจงดำรงละหมาด แท้จริงการละหมาด เป็นบทบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา"- อันนิสาอ/103
.........
ผมอยากเห็นรูปแบบการตีความอัลกุรอ่านข้างต้นตามความคิดอิสระของคุณโดยไม่พึ่งพาอัสสุนนะฮ เพราะคุณไม่เชื่อ หรือเชื่อบ้างแต่ค่อนข้างลังเล

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Sun Aug 10, 2008 10:06 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณท่าน asan มากครับ ที่ช่วยชี้แนะ ก่อนอื่นต้องขอโทษจริงๆ ครับที่ตอบกระทู้ช้ามาก และเสียมารยาทอย่างยิ่งเนื่องจากติดภาระกิจการงาน

มีอีกเรื่องที่ขอชี้แจงก่อนคือ ผมไม่ได้รู้จักคุณแมทนะครับ แล้วก็ผมไม่มี"ธง"ในเรื่องนี้ไว้ก่อนจริงๆ หากได้รับการชี้แนะ จากผู้รู้ในทีนี้จริงๆ ผมพร้อมที่ยอมรับคำชี้แนะ ครับ ไม่ขอยืนกระต่ายขาเดียวนะครับ ถ้าผมเข้าใจผิด ก็คือผมเข้าใจผิด และถ้าได้รับคำชี้แนะนั่นก็เป็นกุศลแด่ท่านทั้งที่ช่วยชี้แนะ ไม่มีความคิดในการเอาชนะคะคานในเรื่องนี้แม้แต่น้อย เพียงแต่ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความคิดเห็นของผม (ซึ่งอาจจะผิดก็ได้) ผมจึงอยากมาแลกเปลี่ยนจริงๆ ไม่ได้มาลองของ ลองภูมิ ครับถ้าสำนวน ภาษาของผมทำให้เกิดการก้าวล่วง ก็ขออภัยอย่างยิ่งครับ ความสามัคคีกันของเรามุสลิมก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ

ทีนี้ว่ากันเรื่องที่ผมอยากจะคุยต่อนะครับ
ประเด็นของผมคือ ผมไม่ได้ปฏิเสธ ซุนนะฮ์ของท่านนบี ครับ
แต่ผมปฏิเสธการเข้าถึง ซุนนะฮ์ ของนบี โดยจำกัดอยู่ในเฉพาะวิชาฮาดีษเท่านั้น
พูดง่ายๆ ว่าถ้าวิชาฮาดีษ สรุปว่านบี มีซุนนะฮ์ อย่างนี้จริง เราจะต้องยอมรับ โดยไม่เอาปัจจัยอื่นๆ มาเป็นจุดดุล เลยหรือไม่ ครับ ฮาดิษ ก็ วิชาที่พยายามเข้าถึงซุนนะฮ์ แต่ไม่ใช่ตัวซุนนะฮ์เองนะครับ
ท่านถามว่า ไม่รู้ฮาดิษแล้วจะละหมาดอย่างไร ครับ คงไม่ได้นะครับ คงต้องดูฮาดิษจริงๆ ตรงนั้นเราเห็นตรงกัน คงไม่อภิปรายกันต่อนะครับ ที่ผมพยายามบอกต่อท่านคือ ผมคิดว่าวิธีพิจารณาหรือเข้าถึง ซุนนะฮ์ นั้น ควรจะมาจากทางอื่น ๆบ้าง ไม่จำเป็นต้องมาจากวิชาฮาดิษอย่างเดียว

ผมยกตัวอย่างนะครับ (ข้อมูลนี้อาจจะผิดขอให้ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ)

1. ผมไม่แน่ใจนะครับ ว่าทำไมสตรีในซาอุดิฯ ถึง ถูกจำกัดสิทธิในการขับรถ หรือออกจากบ้านด้วยตัวเอง มาจาก ฮาดิษ หรือไม่ ถ้าพิจารณาถึงเจตนาของนบี จริงๆ โดยวางวิชาฮาดีษลงก่อนแล้วศึกษาประวัติศาสตร์ เราจะพบว่านบีของเรานี่แหละครับ ที่ยกสถานะสตรีจากสิ่งของมาเป็นผู้คนกับเขา คนแรกๆ ในประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อยุคสมัยผ่านไป เจตนาของนบีที่จะส่งเสริม ศักดิ์ศรี เสรีภาพ (ซึ่งไม่ใช่สิทธิในการการแต่งตัวโป๊ อะไรทำนองนั้นนะครับ) ตั้งแต่ในยุคโน้น ทำไม "มรดก" นี้เมื่อมาถึงมือเรา กับการเป็นการ จำกัด กดขี่ สิทธิของผู้หญิงไปได้เล่าครับ เราตีความฮาดีษกันอย่างไร หรือ ยกคำพูดของนบีมาอ้างอิงกันไปมา ในสารบบการตีความ บันทึก ฮาดิษ กันอย่างไร จึงกลายมาเป็นอย่างนี้ได้ ซึ่งการอันใดก็ตามไม่ว่าจะยืนยันว่ามนุษย์ที่บันทึกสายรายงานน่าเชื่อถืออย่างไร แต่ถ้ามันกลายมาเป็นเรื่องที่พิจารณาจากปัญญาจากสามัญสำนึกแล้วว่า มันขัดกับเจตนารมย์ของ ศาสนา แน่ๆ นี่ เราจะปล่อยให้วิชาบันทึกเหล่านี้เป็น"ปัจจัยเดียว" ในการเข้าถึงซุนนะฮ์หรือเปล่าครับ


2. คำถามต่อมา แล้วถ้าเราคลอนแคลนต่อฮาดิษ แปลว่าเราปฏิเสธนบีหรือไม่ เปล่าครับผมไม่ได้ปฏิเสธนบี แต่ผมปฏิเสธที่จะเชื่อเรื่องสายรายงาน การบันทึก การตีความ เกี่ยวกับตัวนบี ชนิดเป็นที่ต้องยอมรับ ราวกับของศักดิ์สิทธิ์ ทั้งๆ ที่โดยมันเองแล้ว ก็เป็นหนังสือบันทึกทางโบราณคดีชนิดหนึ่ง ซึ่งมนุษย์เป็นผู้ผลิตและจัดทำขึ้นครับ ผมเชื่อว่า man error เกิดขึ้นได้ และเราควรใช้ "ศาสตร์อื่น ๆ" มาตรวจสอบร่วมด้ย แทนที่จะใช้แต่ศาสตร์ของตัวฮาดิษอย่างเดียว เพราะนั่นจะเป็นการ "จำกัด" วิธีการเข้าถึงซุนนะฮ์ ครับ

3. แล้วเราจะมีภาคปฏิบัติ ทางศาสนาอย่างไรถ้าไม่ยึดถือฮาดิษ?
ครับ อย่างที่บอกผมไม่ได้ขอให้ทุกคน ปฏิเสธฮาดิษ ทิ้ง ไปทั้งหมด เพียงแต่ให้พิจารณา ฮาดิษจากมุมอื่นบ้างเท่านั้นเอง เช่น ถ้าฮาดิษ ซอเฮี้ย(ซึ่งความซอเฮี้ยก็เป็นมนุษย์กันเองนี้แหละครับรับรอง) เกิดไปขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ หลักสิทธิมนุษยชน ฯลฯ เราก็ควรสงสัยได้ว่า นี่มันซอเฮี้ย จริงหรือเปล่า ...ไม่ได้แปลว่าให้เอาฮาดิษทั้งหมดไปโยนทิ้งแต่อย่างไรนะครับ


หากทั้งหมดนี้ก้าวล่วงต่อความเชื่อของท่านอย่างไร ผมขออภัยอย่างยิ่งมา ณ ทีนี้ด้วยนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Sun Aug 10, 2008 10:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อีกนิดครับ

ลองดูความเห็นที่ 6 นะครับ เกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงอัลกรุอ่าน โดยวางวิชาตัฟซีรอะไรต่างๆ ลง แล้วเข้าถึงด้วยวิชาอื่นๆ (ในที่นี้คือวิทยาศาสตร์) เราจะพบความหมายของอัลกรุอ่านที่แตกต่างจากที่นักการศาสนาแปล และพบความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ของคัมภีร์แห่งพระเจ้า

ที่จะขอเสนอคือ เป็นไปได้ไหมที่เราจะพิจารณษ ซุนนะฮ์ ของท่านนบีจากศาสตร์อื่นๆ จากมุมมองของ "นัก" อื่น ๆ (นักการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักสิทธิมนุษยชน นักฯลฯ) นอกจากนักศาสนาบ้าง เราอาจจะค้นพบคุณค่ามากมายมหาศาลที่อยู่ในซุนนะฮ์นั้น และอาจจะต้องตั้งคำถามกับ สิ่งที่อ้างว่าเป็นซุนนะฮ์ นั้นว่าจริงหรือไม่

เห็นด้วยไหมครับ ว่านี้จะช่วยเป็นการพัฒนาอิสลาม เป็นการเชิญชวนให้มุสลิมในทุกวงการ ทุกผู้เชี่ยวชาญในความรู้สาขาต่างๆ มาช่วยกัน ขัดเกลา รักษา มรดกของอิสลามจริง ๆ แทนที่จะปล่อยให้เป็น สิทธิ และ หน้าที่ ของบรรดาอุลามา เท่านั้นที่จะ "ตีความให้" และป้อนความคิดต่างๆ สู่มวลชนแต่ทางเดียว

ท่านเห็นด้วยไหมครับว่าอิสระทางการค้นคว้า โต้แย้ง จะนำมาซึ่งความก้าวหน้า มิใช่การจำกัดกรอบ ห้าม ขู่เข็ญ

ท่านเชื่อหรือไม่ครับ ว่าคนที่คิดต่างจากท่าน ก็ล้วนมี"เจตนาดี" ต่ออิสลามไม่ต่างจากท่าน เพียงแต่มีมุมมองที่ไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Abushot!!!
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008
ตอบ: 46


ตอบตอบ: Mon Aug 11, 2008 4:12 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอะลัยครับ ถ้าความคิดของคุณAdisonมีความบริสุทธิ์ต่ออิสลาม ผมคิดว่ามันก็
น่าสนใจดีนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Mon Aug 11, 2008 11:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วะอาลัยกุมมุสลาม ครับ คุณ Abushot

ผมเป็นมุสลิมครับ สารภาพครับผมอาจจะไม่มีความรู้ทางศาสนาดีเพียงพอแต่ความบริสุทธิ์ใจผมยืนยันได้เต็มที่ว่าผมมีแน่นอน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Abushot!!!
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008
ตอบ: 46


ตอบตอบ: Tue Aug 12, 2008 2:50 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอะลัยกุมครับ
ผมอยากทราบคำยืนยันของคุณAdisonอีกทีนะครับว่า
เรามีอะกีดะอ์ของชาวซุนนะฮ์ที่ตรงกันนะครับ
เพื่อที่เราจะได้เข้าใจในประเด็นที่คุณนำเสนอได้ตรงกัน
แล้วเราจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ตรงประเด็น
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.11 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ