ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เขาว่า แบ่งเตาฮีด เป็น 3 ประเภท เป็นบิดอะฮจริงหรือ
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เขาว่า แบ่งเตาฮีด เป็น 3 ประเภท เป็นบิดอะฮจริงหรือ
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 20, 2008 9:24 pm    ชื่อกระทู้: เขาว่า แบ่งเตาฮีด เป็น 3 ประเภท เป็นบิดอะฮจริงหรือ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณนูรุลอิสลาม ฉายา มือพระกาฬ โต๊ะครูเว็บซุนนะฮสะติวเด้น ฟัตวาว่า

ดังนั้น การที่วะฮาบีย์บอกว่าพวกมุชิริกีนมี توحيد الربوبية (เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์) จึงไม่ใช่เรื่องจริงตามหลักความเชื่อของอัลกุรอาน เฉพาะฉะนั้นการแบ่งเตาฮีดของวะฮาบีย์นั้น จึงเป็นบิดอะฮ์โดยมิได้อยู่บนพื้นฐานของหลักฐานที่ถูกต้อง
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?PHPSESSID=95711550270af62b48b203f5f1af154e&topic=281.msg23004;topicseen#new
.........................................

นี่คือ การหุกุมหรือการฟัตวา นักศึกษาไคโร ซึ่งอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึง จำเป็นจะต้องชี้แจงแก่พี่น้องมุสลิม ให้ทราบ เพราะเตาฮีด รุบูบียะฮ เตาฮิดอุลูฮียะฮและเตาฮีดอัลอัสมาอฺวัสสิฟาต เตาฮีด 3 ประเภทนี้ พี่น้องมุสลิม ได้นำมาเป็นหลักสูตรการเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และโรงเรียนตาดีกาหลายแห่ง ในภาคใต้ ในระดับชั้นมุตะวัสสิเตาะฮและระดับชั้น ซานาวีย์เรียกว่า “เตาฮีดสะลัฟ”
ขอเรียนว่า การแบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. เตาฮีด รุบูบียะฮ 2. เตาฮิดอุลูฮียะฮ 3. เตาฮีดอัลอัสมาอฺวัสสิฟาต นั้น โดยอาศัยตัวบทจากอัลกุรอ่าน และอัสสุนนะฮ ไม่ใช่โดยการคิดขึ้นมาจากความเห็น และไม่ใช่เป็นบิดอะฮตามที่นักศึกษาไคโรแห่งเว็บซุนนะฮสะติวเด้น ฟัตวาไว้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. เตาฮีดทั้ง 3 ประเภทมาจากอัลกุรอ่าน เช่น ในซูเราะฮอัลฟาติหะฮ ซึ่งเป็นซูเราะฮแรกที่อยู่ในเล่มคัมภีรอัลกุรอ่าน ซึ่งในซูเราะฮนี้ ได้ประมวลเตาฮีดเอาไว้ 3 ประเภทคือ

1.1 คำตรัสของอัลลอฮที่ว่า [b]‏﴿‏الْحَمْدُ للّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ‏﴾‏


มวลการสรรเสริญ เป็นสิทธิของอัลลอฮ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
เพราะอายะฮข้างต้น ได้รับรอง รุบูบียะฮ(การอภิบาล)ของอัลลอฮ แก่บรรดาสากลโลกทั้งหมด และคำว่า “รอ็บ”คือ ผู้ทรงครอบครอง ผู้ทรงบริหารจัดการ

1.2 คำตรัสของอัลลอฮที่ว่า ‏﴿‏الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ‏.‏ مَالِكِ يَومِ الدِّينِ‏﴾‏
ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ , ผู้ทรงอภิสิทธ์แห่งวันตอบแทน”

เพราะในอายะฮข้างต้น คือ เตาฮีดอัลอัสมาอฺวัสสิฟาต (توحيد الأسماء والصفات) เพราะในสองอายะฮข้างต้นได้รับรองคุณลักษณะของอัลลอฮ ว่า ทรงมีความเมตตา กรุณาปราณีและเป็น ผู้ทรงสิทธิ และได้รับรองบรรดาอัสมาออฺ(พระนาม)ของพระองค์คือ

الرحمن อัรเราะหมาน = ผู้ทรงเมตตา
، الرحيم، อัรเราะฮีม = ผู้ทรงปราณียิ่ง
المالك อัลมาลิก = ผู้ทรงสิทธิ์

1.3. คำตรัสของอัลลอฮที่ว่า ‏﴿‏إِيَّاكَ نَعْبُدُ وإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ‏﴾‏
กับพระองค์เท่านั้นเราเคารพภักดีและกับพระองค์เท่านั้นเราขอความช่วยเหลือ
ในอายะฮข้างต้น คือ เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ (توحيد الألوهية) เพราะในอายะฮเป็นหลักฐานแสดงบอกว่าจำเป็นจะต้องให้ความเป็นหนึ่งเดียว(เอกภาพ)แก่อัลลอฮในการเคารพภักดี( العبادة )และขอความช่วยเหลือ(الاستعانة )
..........
อินชาอัลลอฮมีต่อ
ดูเพิ่มเติม
http://www.quranway.net/index.aspx?function=Item&id=830&lang=

เพิ่มเติม

2. เมื่ออ่านและพิจารณาในอัลกุรอ่าน แล้วพบบรรดาอายะฮ ที่ใช้ให้มีความบริสุทธิ์ใจในการอิบาดะฮต่ออัลลอฮองค์เดียว นี้คือ เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ ( توحيد الألوهية ) เมื่ออ่านและพิจารณาในอัลกุรอ่านแล้วพบบรรดาอายะฮ ที่แสดงบอกว่า อัลลอฮ คือผู้ทรงสร้าง, ผู้ประทานปัจจัยยังชีพ ,ผู้บริหารกิจการต่างๆในสากลโลก นี้คือ เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ(توحيد الربوبية ) ซึ่งเตาฮีดประเภทนี้บรรดามุชริกีนยอมรับทั้งๆที่เขาไม่ได้เข้ารับศาสนาอิสลาม และเมื่ออ่านและพิจารณา ในอัลกุรอ่านและพบบรรดาอายะฮ ที่กล่าวถึง พระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ นี้คือ เตาฮีด อัลอัสมาอฺวัสสิฟาต( توحيد الأسماء والصفات) ดังนั้น การแบ่งเตาฮีด เป็น 3 ประเภท ไม่ได้เกิดจากความคิดเห็น แต่เกิดจาก การอ่าน การสืบค้น (الاستقراء ) และ การพิจารณา (التأمل ) ตัวบทจากอัลกุรอ่าน
การแบ่งเตาฮีดออกเป็น สามประเภทคือ เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ(توحيد الربوبية ) เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ ( توحيد الألوهية ) และเตาฮีด อัลอัสมาอฺวัสสิฟาต( توحيد الأسماء والصفات) ไม่ใช่เป็นบิดอะฮตามฟัตวาของนักศึกษาไคโรในเว็บซุนนะฮสะติวเด้น [/B]
.......
อินชาอัลลอฮมีต่อ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed May 21, 2008 11:54 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

1. توحيد الربوبية เตาฮีดรุบูบียะฮ (เอกภาพในการอภิบาล)
فهو الإيمان بأن الله سبحانه الخالق لكل شيء، و المتصرف في كل شيء، لا شريك له في ذلك‏

หมายถึง การศรัทธาว่า อัลลอฮคือ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทรงบริหาร จัดการ ในทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ทรงไม่มีภาคีใดในเรื่องนั้น
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คือ การศรัทธาว่าอัลลอฮองค์เดียวเท่านั้น คือ ผู้ทรงสร้าง ทรงบันดาล ทรงสรรพสิ่งทั้งหลาย ทรง ดูแลรักษา ทรงปกป้องคุ้มครอง ทรงให้ชีวิต ทรงปลิดชีวิต เป็นต้น เตาฮีดรุบูบียะฮ ไม่ได้เป็นเตาเฮีด ที่แบ่งแยกข้อแตกต่างระหว่างมุสลิม กับ กาเฟร พวกพวกกาเฟรในสมัยนบี ศอลฯ ก็ศรัทธาในเตาฮีดรุบูบียะฮ เช่น โองการต่อไปนี้
قُلْ مَن يَرْزُقُكُم مِّنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ أَمَّن يَمْلِكُ السَّمْعَ والأَبْصَارَ وَمَن يُخْرِجُ الْحَيَّ مِنَ الْمَيِّتِ وَيُخْرِجُ الْمَيَّتَ مِنَ الْحَيِّ وَمَن يُدَبِّرُ الأَمْرَ فَسَيَقُولُونَ اللّهُ فَقُلْ أَفَلاَ تَتَّقُونَ [يونس:31]،
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “ใครเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพที่มาจากฟากฟ้า และแผ่นดินแด่พวกท่าน (*1*) หรือใครเป็นเจ้าของการได้ยินและการมอง และใครเป็นผู้ให้มีชีวิตหลังจากการตายและเป็นผู้ให้ตายหลังจากมีชีวิตมา และใครเป็นผู้บริหารกิจการ” แล้วพวกเขาจะกล่าวกันว่า “อัลลอฮฺ” ดังนั้นจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “พวกท่านไม่ยำเกรงหรือ -ยุนูส/31
لَئِنْ سَأَلْتَهُمْ مَنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ
فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ
และถ้าพวกเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น (*1*) --อันอังกะบูต/87

(1) พวกมุชริกีนเหล่านั้นยอมรับว่าอัลลอฮฺเป็นผู้สร้างพวกเขาขึ้นมา คือยอมรับความเป็นเอกภาพแห่งการเป็นพระเจ้า แต่พวกเขาปฏิเสธความเป็นเอกภาพแห่งการทำอิบาดะฮฺ คือพวกเขา ไปทำอิบาดะฮฺกับสิ่งอื่นที่มิใช่อัลลอฮฺ ทำไมพวกเขาจึงหันเหออกจากความจริงเล่า
وَالَّذِينَ اتَّخَذُوا مِن دُونِهِ أَوْلِيَاء مَا نَعْبُدُهُمْ إِلَّا لِيُقَرِّبُونَا إِلَى اللَّهِ زُلْفَى
ส่วนบรรดาผู้ที่ยึดถือเอาบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺ โดยกล่าวว่าเรามิได้เคารพภักดีพวกเขา เว้นแต่เพื่อทำให้เราเข้าใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ (*2*)
................
2) อัศศอวีย์กล่าวว่า เมื่อมีการกล่าวแก่พวกมุชริกีนว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกท่าน? ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และใครคือพระเจ้าของพวกท่าน และพระเจ้าของปู่ย่าตายายของพวกท่าน? พวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮฺ” แล้วพวกเขาจะถูกถามอีกว่า แล้วทำไมพวกท่านจึงสักการะบูชาเจว็ดต่างๆ เล่า? พวกเขาก็จะตอบว่า เพื่อทำให้เราใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ และขอความช่วยเหลือแก่เรา ณ ที่พระองค์
เพราะฉะนั้น แค่เพียงเชื่อว่า อัลลอฮ คือ ผู้ทรงสร้าง นั้น ไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่า คนผู้นั้น คือ มุสลิม ครับ หากผมพูดไม่ถูก แนะนำนำด้วยนะครับ ต่อไปขออธิบาย คำว่า"รอ็บ"(رب ) สักเล็กน้อยนะครับ คำนี้ ในด้าน ภาษา ก็แปลว่า นาย , เจ้าของ หากเป็นความหมายในด้านศาสนา คือ
المالك المعبود المتصرف وهو المستحق للعبادة
ผู้ทรงครอบครอง ผู้ทรงได้รับการเคารพภักดี ผู้ทรงบริหารจัดการ และ พระองค์คือ ผู้ที่สมควรที่จะเคารพภักดี
http://www.sahab.net/sahab/showthread.php?threadid=310634

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed May 21, 2008 11:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

2. توحيد الألوهية (เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ= เอกภาพในการเคารพภักดี) หมายถึง การศรัทธาว่าอัลลอฮ องค์เดียวเท่านั้น คือ ผู้ที่เป็นพระเจ้าที่ต้องเคารพภักดี เตาฮีตประเภทนี้ เป็นเตาฮีต ที่แบ่งแยกระหว่างมุสลิม กับ กาเฟร เชคบินบาซ ได้ให้ความหมายไว้ว่า
توحيد الألوهية: فهو الإيمان بأن الله سبحانه هو المعبود بحق لا شريك له في ذلك ، وهو معنى لا إله إلا الله ، فإن معناها: لا معبود حق إلا الله ، فجميع العبادات من صلاة وصوم وغير ذلك يجب إخلاصها لله وحده ، ولا يجوز صرف شيء منها لغيره.
http://www.binbaz.org.sa/Display.asp?f=drs00003
เตาฮีดอุลูฮียะฮ คือ การศรัทธาว่าแท้จริงอัลลอฮ (ซ.บ)คือ ผู้ที่ได้รับการเคารพภักดีที่ถูกต้อง ไม่มีภาคีใดแก่พระองค์ และมันคือ ความหมายของคำว่า"ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ ดังนั้นแท้จริงความหมายของมันคือ "ไม่มีผู้ที่ได้รับการเคารพภักดีอย่างที่ถูกต้องแท้จริง นอกจากอัลลอฮเท่านั้น แล้วบรรดาอิบาดะฮ เน การละหมาด การถือศีลอด และอื่นจากนั้น จำเป็นจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจในการอิบาดะฮ แก่อัลลอฮองค์เดียวเท่านั้น และไม่อนุญาตให้ดำเนินสิ่งใดจาก อิบาดะฮ แก่ผู้อื่นจากพระองค์
..............
และหลักฐานที่เกี่ยวกับเตาฮีดอุลูฮียะฮ เช่น
إِيَّاكَ نَعْبُدُ وإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ [الفاتحة:5]،
กับพระองค์เท่านั้น เราเคารพภักดี และกับพระองค์เท่านั้น เราขอความช่วยเหลือ - อัลฟาติหะฮ/5

وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّين [البينة:5]
และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์ - อัลบัยยินะฮ/5
وقال النبي : { حق الله على العباد أن يعبدوه ولا يشركوا به شيئاً } [رواه البخاري]
และท่านนบี กล่าวว่า" สิทธิของอัลลอฮที่มีเหนือบ่าว (หมายถึงหน้าที่ของบ่าวที่พึงปฏิบัติต่ออัลลอฮ) คือ การที่พวกเขาต้องเคารพภักดีต่อพระองค์ และไม่นำสิ่งใดมาตั้งภาคีต่อพระองค์ - รายงานโดยบุคอรี
เตาฮีดอุลูฮียะฮ เป็นเตาฮีดที่มีเฉพาะมุสลิมที่ศรัทธาในอัลลอฮเท่านั้น ซึ่งต่างกับเตาฮีดรุบูบียะฮ ตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Fri Oct 24, 2008 8:33 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed May 21, 2008 12:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

3.(توحيد الأسماءوالصفات )เตาฮีดอัล-อัสมาอฺ วัศ-ศิฟาต หมายถึงการศรัทธาอย่าแน่วแน่ว่าอัลลอฮฺทรงมีบรรดาพระนามอันวิจิตรและคุณลักษณะอันสูง พระองค์ทรงมีลักษณะด้วยลักษณะอันสมบูรณ์ ทรงบริสุทธิ์จากลักษณะที่บกพร่องทั้งหลาย และทรงมีสิ่งดังกล่าวนั้นแต่เพียงพระองค์เดียว

อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ รู้จักองค์อภิบาลของพวกเขาด้วยคุณลักษณะของพระองค์ตามที่ถูกเอ่ยไว้ในอัล-กุรอาน และอัซ-ซุนนะฮฺ และให้ลักษณะพระองค์ตามที่พระองค์ทรงได้ หรือท่านเราะซูล(ศ็อลฯ)อธิบายไว้เท่านั้น

พวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงถ้อยคำต่างๆจากตำแหน่งที่แท้จริงของมันหรือบรรดาพระนามหรือโองการของพระองค์บิดเบือน(อิลหาด)ไปเป็นอื่น และจะคงยืนยันต่างๆที่เกี่ยวกับอัลลอฮฺตามที่พระองค์เองทรงยืนยันเอาไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มโนภาพ ไม่เสาะแสวงหาเหตุผลใดๆ ไม่ปฏิเสธ ไม่บิดเบือน และไม่เปรียบเทียบ หลักสำคัญของพวกเขาในสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดคือคำตรัสของอัลลอฮฺตะอาลาที่ว่า

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

“ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงมองเห็น” (อัช-ชูรอ :11)

وَلِلَّهِ الْأَسْمَاءُ الْحُسْنَى فَادْعُوهُ بِهَا وَذَرُوا الَّذِينَ يُلْحِدُونَ فِي أَسْمَائِهِ سَيُجْزَوْنَ مَا كَانُوا يَعْمَلُونَ

“และสำหรับอัลลอฮฺนั้นทรงมีบรรดาพระนามอันวิจิตร ดังนั้นพวกเจ้าจงขอต่อพระองค์ด้วยพระนามเหล่านั้นเถิด และจงปล่อยบรรดาผู้ทำให้เบี่ยงเบนไปในบรรดาพระนามของพระองค์ พวกนั้นจะถูกตอบแทนในสิ่งที่พวกกระทำ” (อัล-อะอฺรอฟ :180)

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Osaku
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 25/06/2007
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Mon May 26, 2008 10:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ดังนั้น การที่วะฮาบีย์บอกว่าพวกมุชิริกีนมี توحيد الربوبية (เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์) จึงไม่ใช่เรื่องจริงตามหลักความเชื่อของอัลกุรอาน เฉพาะฉะนั้นการแบ่งเตาฮีดของวะฮาบีย์นั้น จึงเป็นบิดอะฮ์โดยมิได้อยู่บนพื้นฐานของหลักฐานที่ถูกต้อง
--------------------------------------------------------
ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงตามหลักความเชื่อของอัลกุรอาน แล้วไม่ทราบว่าอายะฮฺต่อไปนี้ตามหลักความเชื่อของผู้ใด
1. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ
และถ้าเจ้าถามพวกเขา ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และเป็นผู้ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮ์ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น !? (อัลอันกะบูต 61)

2. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّن نَّزَّلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأَحْيَا بِهِ الْأَرْضَ مِن بَعْدِ مَوْتِهَا لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلِ الْحَمْدُ لِلَّهِ بَلْ أَكْثَرُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ
และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเล่าทรงหลั่งน้ำลงมาจากฟากฟ้าแล้วทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาหลังจากความแห้งแล้งของมัน แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า อัลลอฮ์ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) บรรดาการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ แต่ว่าส่วนมากพวกเขาไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ (อัลอันกะบูต 63)

3. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلِ الْحَمْدُ لِلَّهِ بَلْ أَكْثَرُهُمْ لَا يَعْلَمُونَ
และถ้าเจ้าถามพวกเขา ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า อัลลอฮ์ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์ แต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้ (ลุกมาน 25)

4. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلْ أَفَرَأَيْتُم مَّا تَدْعُونَ مِن دُونِ اللَّهِ إِنْ أَرَادَنِيَ اللَّهُ بِضُرٍّ هَلْ هُنَّ كَاشِفَاتُ ضُرِّهِ أَوْ أَرَادَنِي بِرَحْمَةٍ هَلْ هُنَّ مُمْسِكَاتُ رَحْمَتِهِ قُلْ حَسْبِيَ اللَّهُ عَلَيْهِ يَتَوَكَّلُ الْمُتَوَكِّلُونَ
และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮ์ จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดพวกท่านไม่เห็นดอกหรือว่า สิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์นั้น หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์จะให้มีความทุกข์ยากแก่ฉันแล้วพวกมันจะปลดเปลื้องความทุกข์ยากของพระองค์ได้ไหม? หรือหากพระองค์ประสงค์จะให้ความเมตตาแก่ฉันพวกมันจะยับยั้งความเมตตาของพระองค์ได้ไหม? จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด อัลลอฮ์ทรงพอเพียงแก่ฉันแล้ว แต่พระองค์เท่านั้น บรรดาผู้มอบความไว้วางใจจะให้ความไว้วางใจ (อัซซุมัร 38)

5. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ لَيَقُولُنَّ خَلَقَهُنَّ الْعَزِيزُ الْعَلِيمُ
และหากเจ้าถามพวกเขาใครเล่าเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินนี้ แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า พระผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงรอบรู้ทรงสร้างมันเหล่านั้น (อัซซุครุฟ 9)
6. وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ
และถ้าพวกเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮ์ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น (อัซซุครุฟ 87)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 27, 2008 1:17 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นักศึกษาไคโรในเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้นปฏิเสธ เรื่องมุชริกีนยอมรับเตาฮีดอัรรุบูบียะ

คุณนูรุ้ลอิสลาม มือพระกาฬ นักศึกษาปริญญาโทแห่งใคโรโต๊ะครูประจำเว็บซุนนะฮสะติวเด้น กล่าวว่า
แต่เราไม่ยอมรับว่าพวกมุชริกีนเชื่อและมี توحيد الربوبية (เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์) ที่มีต่ออัลเลาะฮ์ คือเราไม่เชื่อว่าพวกมุชริกีนมีหลักความเชื่อที่ว่า อัลเลาะฮ์ทรงสร้างแต่เพียงผู้เดียว อัลเลาะฮ์ทรงให้โทษแต่เพียงผู้เดียว อัลเลาะฮ์ให้คุณแต่เพียงผู้เดียว เป็นต้น …………..

http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?PHPSESSID=95711550270af62b48b203f5f1af154e&topic=281.msg23004;topicseen#new
................................................


ขอกล่าวว่า คำพูดของคุณนูรุ้ลอิสลาม มือพระกาฬ แห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด็น นั้น เป็นคำพูดที่แสดงถึงความอคติที่มีต่อพี่น้องมุสลิมที่พวกเขาฉายาว่า “วะฮบีย์” และเป็นการปฏิเสธ โดยไม่ได้ศึกษาข้อเท็จจริงจากอัลกุรอ่าน
อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ตรัสเกี่ยวกับพวกมุชริกีน ว่า

قُلْ مَن يَرْزُقُكُم مِّنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ أَمَّن يَمْلِكُ السَّمْعَ والأَبْصَارَ وَمَن يُخْرِجُ الْحَيَّ مِنَ الْمَيِّتِ وَيُخْرِجُ الْمَيَّتَ مِنَ الْحَيِّ وَمَن يُدَبِّرُ الأَمْرَ فَسَيَقُولُونَ اللّهُ فَقُلْ أَفَلاَ تَتَّقُونَ [يونس:31
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ?ใครเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพที่มาจากฟากฟ้า และแผ่นดินแด่พวกท่าน หรือใครเป็นเจ้าของการได้ยินและการมอง และใครเป็นผู้ให้มีชีวิตหลังจากการตายและเป็นผู้ให้ตายหลังจากมีชีวิตมา และใครเป็นผู้บริหารกิจการ? แล้วพวกเขาจะกล่าวกันว่า ?อัลลอฮฺ? ดังนั้นจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ?พวกท่านไม่ยำเกรงหรือ -ยุนูส/31

فَسَيَقُولُونَ اللَّه " أَيْ وَهُمْ يَعْلَمُونَ ذَلِكَ وَيَعْتَرِفُونَ بِهِ " فَقُلْ أَفَلَا تَتَّقُونَ " أَيْ أَفَلَا تَخَافُونَ مِنْهُ أَنْ تَعْبُدُوا مَعَهُ غَيْره بِآرَائِكُمْ وَجَهْلكُمْ

(แล้วพวกเขากล่าวว่า"อัลลอฮ" )หมายถึง พวกเขารู้ เรื่องนั้นและพวกเขายอมรับมัน (แล้วพวกเจ้าไม่เกรงกลัวหรอกเหรือ) หมายถึง พวกเจ้าไม่เกรงกลัวพระองค์หรอกหรือ ต่อการที่พวกเจ้าอิบาดะฮต่อสิ่งอื่น พร้อมกับพระองค์ ด้วยความเห็นและ ความโง่ของพวกเจ้า – ดูตัฟสีรอิบนิกะษีรอรรถาธิบายอายะฮที่ 31 ซูเราะฮยูนูส

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
لَئِنْ سَأَلْتَهُمْ مَنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ
และถ้าพวกเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น – อัซซุครุฟ/87

ท่านอิบนุกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายว่า

أَيْ وَلَئِنْ سَأَلْت هَؤُلَاءِ الْمُشْرِكِينَ بِاَللَّهِ الْعَابِدِينَ مَعَهُ غَيْره " مَنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ اللَّه" أَيْ هُمْ يَعْتَرِفُونَ أَنَّهُ الْخَالِق لِلْأَشْيَاءِ جَمِيعهَا وَحْده لَا شَرِيك لَهُ فِي ذَلِكَ وَمَعَ هَذَا يَعْبُدُونَ مَعَهُ غَيْره مِمَّنْ لَا يَمْلِك شَيْئًا وَلَا يَقْدِر عَلَى شَيْء فَهُمْ فِي ذَلِكَ فِي غَايَة الْجَهْل وَالسَّفَاهَة وَسَخَافَة الْعَقْل وَلِهَذَا قَالَ تَعَالَى " فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ " .
หมายถึง หากเจ้าถามบรรดาพวกที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ ที่ทำการเคารพภักดีอื่นจากพระองค์พร้อมกับพระองค์ ว่า “ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ ? หมายถึง พวกเขายอมรับว่าแท้จริงพระองค์คือ ผู้ที่สร้างสิ่งต่างๆทั้งหมดเพียงพระองค์เดียว ไม่มีภาคีใดแก่พระองค์ในเรื่องดังกล่าว พร้อมกันนี้ พวกเขาเคารพภักดีผู้อื่นจากพระองค์ พร้อมกับพระองค์ จากผู้ที่ไม่ได้ครอบครองสิ่งใดๆและไม่มีความสามารถเหนือสิ่งใดๆ เพราะในเรื่องดังกล่าวนั้น พวกเขาไม่มีความรู้ ,เพราะความโง่ และเพราะอ่อนแอของสติปัญญา และเพราะเหตุนี้ อัลลอฮตะอาลาได้ตรัสว่า “แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น” – ดูตัฟสีรอิบนุกะษีรอธิบาย อายะฮที่ 87 ซูเราะฮ อัซซุครุฟ
............
จากคำอธิบายของท่านอิบนุกะษีร เห็นได้ว่า พวกมุชริกีนยอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ หรือความเป็นหนึ่งในการอภิบาล เพียงแต่พวกเขาไม่ยอมรับในเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ หรือความเป็นหนึ่งเดียวในการเคารพภักดี(อิบาดะฮ) เพราะพวกเขายังเคารพสิ่งอื่นๆพร้อมกับเคารพภักดีต่ออัลลอฮด้วย เหตุผลของพวกเขาดังที่อัลลอฮตรัสว่า
وَالَّذِينَ اتَّخَذُوا مِن دُونِهِ أَوْلِيَاء مَا نَعْبُدُهُمْ إِلَّا لِيُقَرِّبُونَا إِلَى اللَّهِ زُلْفَى
ส่วนบรรดาผู้ที่ยึดถือเอาบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺ โดยกล่าวว่าเรามิได้เคารพภักดีพวกเขา เว้นแต่เพื่อทำให้เราเข้าใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺเท่านั้น

แล้วที่ท่านนุรูลอิสลามบอกว่า “
แต่เราไม่ยอมรับว่าพวกมุชริกีนเชื่อและมี توحيد الربوبية (เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์) ที่มีต่ออัลเลาะฮ์ คือเราไม่เชื่อว่าพวกมุชริกีนมีหลักความเชื่อที่ว่า อัลเลาะฮ์ทรงสร้างแต่เพียงผู้เดียว อัลเลาะฮ์ทรงให้โทษแต่เพียงผู้เดียว อัลเลาะฮ์ให้คุณแต่เพียงผู้เดียว เป็นต้น

ที่คุณนูรุ้ลอิสลามไม่ยอมรับ ก็เพราะทิฐิ และอคติ หรืออาจจะเพราะความไม่รู้จริงๆก็ได้
.........
อินชาอัลลอฮมีต่อ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 27, 2008 1:20 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัฏฏอ็บริสีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายว่า

{ فسيقولون الله } أي فسيعترفون بأن الله تعالى يفعل هذه الأشياء وأن الأصنام لا تقدر عليها.

(แล้วพวกเขาจะกล่าวว่า"อัลลอฮ" )หมายถึง พวกเขาจะยอมรับว่า แท้จริงอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงกระทำบรรดาสิ่งต่างๆเหล่านี้ และแท้จริงบรรดารูปเจว็จนั้น ไม่สามารถบนมัน - ตัฟสีรมัจญมะอุลบะยาน อรรถาธิบายซูเราะฮยูนุส อายะฮที่ 31
...........
จากคำอรรถาธิบายข้างต้น จะเห็นได้ว่า พวกมุชริกีนในสมัยรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยอมรับว่า อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา คือผู้ทรงกระทำหรือทรงสร้างสิ่งต่างๆและบรรดารูปเคารพต่างๆนั้นไม่สามารถกระทำสิ่งเหล่านั้นได้ ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขายอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮของอัลลอฮ
........
อินชาอัลลอฮ มีต่อ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 27, 2008 1:21 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อิบนุตัยมียะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายอายะฮที่ว่า

وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ ٱللَّهُ فَأَنَّىٰ يُؤْفَكُونَ [الزخرف:87].
โดยกล่าวว่า

إقرار المشرك بأن الله رب كل شيء، ومليكه وخالقه، لا ينجيه من عذاب الله، إن لم يقترن به إقراره بأنه لا إله إلا الله، فلا يستحق العبادة أحد إلا هو؛ وأن محمداً رسول الله، فيجب تصديقه فيما أخبر، وطاعته فيما أمر
"มุชริกยอมรับว่าแท้จริงอัลลอฮ คือผู้อภิบาลทุกสิ่ง ,คือผู้ครอบครองและผู้ทรงสร้างมัน ซึ่งมันไม่ได้ทำให้เขาปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ หากไม่ควบคู่ไปกับการยอมรับว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดเว้นแต่อัลลอฮ แล้วไม่มีบุคคลใดสมควรที่จะอิบาดะฮ นอกจากพระองค์ และแท้จริงมุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องเชื่อในสิ่งที่เขา(มุหัมหมัด)บอกและเชื่อฟังในสิ่งที่เขา(มุหัมหมัด)ใช้ - มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 3 หน้า 105

อิหม่ามอัสสะอฺดีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายว่า
ولئن سألت المشركين عن توحيد الربوبية، ومن هو الخالق، لأقروا أنه الله وحده لا شريك له... فإقرارهم بتوحيد الربوبية، يلزمهم الإقرار بتوحيد الألوهية
และถ้าหากเจ้าถามบรรดามุชริกีน เกี่ยวกับเตาฮีดรุบูบียะฮ และใครคือ ผู้ทรงสร้าง แน่นอนพวกเขาก็จะยอมรับว่า แท้จริงพระองค์คือ อัลลอฮ พระองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ .. ดังนั้น การที่พวกเขายอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ พวกเขาจำเป็นจะต้องยอมรับในเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮด้วย"- ดูตัฟสีรอัฎวาอุลบะยาน เล่ม 3 หน้า 373-374

.............
อินชาอัลลอฮมีต่อ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 27, 2008 1:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จากอิมรอน บิน หุศัยน์ กล่าวว่า

أن رسول الله صلى الله وسلم رسول الله صلى الله عليه وسلم سأل عبيد بن حصين رضي الله عنه قبل أن يسلم: (كم إلهاً تعبد اليوم؟)، قال (سبعة، ستة في الأرض وواحد في السماء)، قال (فإذا أصابك الضر فمن تدعو؟)، قال الذي في السماء

ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ถามอุบัยด์ บิน หุศัยน์ (ร.ฎ)ก่อนที่เขาจะรับอิสลามว่า "ปัจจุบันนี่ท่านอิบาดะฮพระเจ้ากี่องค์ ? เขากล่าวว่า "เจ็ดองค์" หกองค์อยู่ในแผ่นดินและหนึ่งองค์ อยู่บนฟากฟ้า " ท่านนบีกล่าวว่า "แล้วเมื่อเหตุร้ายประสบกับท่าน แล้วผู้ใดที่ท่านวิงวอนขอ? เขากล่าวตอบว่า " องค์ที่อยู่บนฟากฟ้า" -รายงานโดย อัลบัยฮะกีย์
...........
หะดิษข้างต้น แสดงให้เห็นว่า มุชริกีน เคารพภักดีพระเจ้าหลายองค์ แต่ ผู้ที่เขาเชื่อว่า สามารถบันดาลในสิ่งที่เขาขอได้ คือ อัลลอฮ นั้นหมายถึง การยอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮนั้นเอง

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue May 27, 2008 1:25 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ
และถ้าเจ้าถามพวกเขา ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และเป็นผู้ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮ์ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น !? (อัลอันกะบูต 61)

โปรดดูคำอธิบายของท่านอิบนุกะษีร(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)

يَقُول تَعَالَى مُقَرِّرًا أَنَّهُ لَا إِلَه إِلَّا هُوَ لِأَنَّ الْمُشْرِكِينَ الَّذِينَ يَعْبُدُونَ مَعَهُ غَيْره مُعْتَرِفُونَ بِأَنَّهُ الْمُسْتَقِلّ بِخَلْقِ السَّمَاوَات وَالْأَرْض وَالشَّمْس وَالْقَمَر وَتَسْخِير اللَّيْل وَالنَّهَار وَأَنَّهُ الْخَالِق الرَّازِق لِعِبَادِهِ وَمُقَدِّر آجَالهمْ وَاخْتِلَافهَا وَاخْتِلَاف أَرْزَاقهمْ . فَتَفَاوَتَ بَيْنهمْ فَمِنْهُمْ الْغَنِيّ وَالْفَقِير وَهُوَ الْعَلِيم بِمَا يُصْلِح كُلًّا مِنْهُمْ وَمَنْ يَسْتَحِقّ الْغِنَى مِمَّنْ يَسْتَحِقّ الْفَقْر فَذَكَرَ أَنَّهُ الْمُسْتَقِلّ بِخَلْقِ الْأَشْيَاء الْمُنْفَرِد بِتَدْبِيرِهَا فَإِذَا كَانَ الْأَمْر كَذَلِكَ فَلِمَ يُعْبَد غَيْره ؟ وَلِمَ يُتَوَكَّل عَلَى غَيْره ؟ فَكَمَا أَنَّهُ الْوَاحِد فِي مُلْكه فَلْيَكُنْ الْوَاحِد فِي عِبَادَته وَكَثِيرًا مَا يُقَرِّر تَعَالَى مَقَام الْإِلَهِيَّة بِالِاعْتِرَافِ بِتَوْحِيدِ الرُّبُوبِيَّة وَقَدْ كَانَ الْمُشْرِكُونَ يَعْتَرِفُونَ بِذَلِكَ كَمَا كَانُوا يَقُولُونَ فِي تَلْبِيَتهمْ لَبَّيْكَ لَا شَرِيك لَك إِلَّا شَرِيكًا هُوَ لَك تَمْلِكهُ وَمَا مَلَكَ
อัลลอฮผู้ทรงสูงส่ง ทรงตรัสยืนยันว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เพราะแท้จริง บรรดามุชริกีน ผู้ซึ่งเคารพภักดีอื่นจากระองค์พร้อมกับพระองค์ พวกเขายอมรับว่า แท้จริงพระองค์คือ ผู้ทรงเป็นเอกราช ในการสร้างบรรดาฟากฟ้า,แผ่นดิน,ดวงอาทิตย์,ดวงจันทร์ ,ทรงให้บังเกิดกลางวันและกลางคืน และพระองค์คือ ผู้สร้าง ผู้ประทานปัจจัยยังชีพแก่บ่าวของพระองค์ ,ทรงกำหนดวาระแห่งสุดท้ายแห่งชีวิตของพวกเขาและทรงให้มันมีความแตกต่างกันและทรงให้ปัจจัยยังชีพของพวกเขาแตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีความแตกต่างระหว่างพวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นคนรวยและส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นคนจน โดยที่พระองค์ทรงรอบรู้ในสิ่งที่มีประโยชน์แก่แต่ละคนจากพวกเขา และรู้ว่า ผู้ใดสมควรที่จะให้ร่ำรวย ผู้ใดสมควรที่จะให้ยากจน และทรงระบุว่า แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงเอกราช ในการสร้างสิ่งต่างๆและทรงบริหารมันแต่เพียงผู้เดียว แล้วเมื่อความจริงเป็นเช่นนั้น ทำไม่เล่า อื่นจากพระองค์ถูกเคารพภักดีและทำไมเล่าอื่นจากพระองค์ถูกมอบความไว้วางใจ? ในเมื่อพระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวในอำนาจของพระองค์ ก็จงให้พระองค์เป็นหนึ่งเดียวในการเคารพภักดีต่อพระองค์ และส่วนมากสิ่งที่อัลลอฮผู้ทรงสูงส่ง ถูกยอมรับ คือ ตำแหน่ง พระเจ้า(อัลอาลิฮะฮ) ด้วยการยอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ และแท้จริงปรากฏว่าบรรดามุชริกีน ยอมรับในเรื่องนั้น(เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ) ดังเช่นที่พวกเขากล่าวในการตัลบิยะฮ ของพวกเขาว่า
لَبَّيْكَ لَا شَرِيك لَك إِلَّا شَرِيكًا هُوَ لَك تَمْلِكهُ وَمَا مَلَكَ
ข้าพระองค์ตอบสนองตามคำเรียกร้องของพระองค์ท่านแล้ว ไม่มีภาคีใดๆแก่พระองค์ท่าน นอกจาก ภาคี ที่มันเป็นของพระองค์ พระองค์ทรงครอบรองมันและสิ่งที่มันครอบครอง” – ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร อรรถาธิบาย ซูเราะฮอัลอังกะบูต อายะฮที่ 61

...........................................
จากคำอธิบายข้างต้นจะเห็นได้ว่า พวกมุชริกีนยอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮของอัลลอฮ และแสดงให้เห็นว่า การยอมรับว่า อัลลอฮผู้เดียว เป็นผู้สร้าง และบริหารกิจการต่างๆในสากลโลก เรียกว่า เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ การแบ่งเตาฮีด เป็นเตาฮิดอัรรุบูบียะฮ ไม่ใช่เป็นบิดอะฮ ตามที่นักศึกษาไคโรแห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้น กล่าวอ้าง

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed May 28, 2008 11:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
فَإِذَا رَكِبُوا فِي الْفُلْكِ دَعَوُا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ فَلَمَّا نَجَّاهُمْ إِلَى الْبَرِّ إِذَا هُمْ يُشْرِكُونَ
ครั้นเมื่อพวกเขาโดยสารเรือ พวกเขาวิงวอนต่ออัลลอฮ เป็นผู้บริสุทธิ์ใจในการวิงวอนต่อพระองค์ ครั้นเมื่อพระองค์ให้พวกเขาปลอดภัยไปสู่บนบก แล้วพวกเขาก็ตั้งภาคีต่อพระองค์ – อัลอังกะบูต/65
ท่านอิบนุญะรีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายดังต่อไปนี้

يَقُول تَعَالَى ذِكْره : فَإِذَا رَكِبَ هَؤُلَاءِ الْمُشْرِكُونَ السَّفِينَة فِي الْبَحْر , فَخَافُوا الْغَرَق وَالْهَلَاك فِيهِ { دَعَوْا اللَّه مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّين } يَقُول : أَخْلَصُوا لِلَّهِ عِنْد الشِّدَّة الَّتِي نَزَلَتْ بِهِمْ التَّوْحِيد , وَأَفْرَدُوا لَهُ الطَّاعَة , وَأَذْعَنُوا لَهُ بِالْعُبُودَةِ , وَلَمْ يَسْتَغِيثُوا بِآلِهَتِهِمْ وَأَنْدَادهمْ , وَلَكِنْ بِاَللَّهِ الَّذِي خَلَقَهُمْ { فَلَمَّا نَجَّاهُمْ إِلَى الْبَرّ } يَقُول : فَلَمَّا خَلَّصَهُمْ مِمَّا كَانُوا فِيهِ وَسَلَّمَهُمْ , فَصَارُوا إِلَى الْبَرّ إِذَا هُمْ يَجْعَلُونَ مَعَ اللَّه شَرِيكًا فِي عِبَادَتهمْ , وَيَدْعُونَ الْآلِهَة وَالْأَوْثَان مَعَهُ أَرْبَابًا
พระองค์ผู้ซึ่งเกียรติของพระองค์นั้นทรงสูงส่ง ตรัสว่า “แล้วเมื่อบรรดามุชริกีนเหล่านี้ โดยสารเรือ ในทะเล พวกเขาก็กลัวจมน้ำ และความความตายในนั้น (พวกเขาวิงวอนต่ออัลลอฮ เป็นผู้บริสุทธิ์ใจในการวิงวอนต่อพระองค์) กล่าวคือ “ พวกเขามีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ เมื่อยามเคราะห์ร้าย ซึ่ง มันได้ทำให้เตาฮีดลงมาอยู่กับพวกเขา และพวกเขาก็ภักดีต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว และพวกเขาวิงวอนต่อพระองค์ด้วยการอิบาดะฮ โดยที่พวกเขาจะไม่ขอความช่วยต่อพระเจ้า(อิละฮ)และบรรดาคู่เคียง(อันดาด) ของพวกเขา แต่ทว่า พวก(ขอความช่วยเหลือ)ต่ออัลลอฮผู้ซึ่งได้ทรงสร้างพวกเขา (ครั้นเมื่อพระองค์ให้พวกเขาปลอดภัยไปสู่บนบก ) กล่าวคือ “ เมื่อพระองค์ได้ช่วยเหลือพวกเขาจากภาพที่พวกเขาเป็นอยู่ในนั้นและทรงให้พวกเขา ปลอดภัย ทันใดนั้น พวกเขาก็ตั้งภาคีต่ออัลลอฮในการอิบาดะฮของพวกเขา และพวกเขาวิงวอนขอต่อบรรดาอิละฮ(พระเจ้าจอมปลอม)และบรรดารูปเจว็จของพวกเขา เป็นพระเจ้าพร้อมกับพระองค์ – ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย ซูเราะฮอังกะบูต อายะฮที่ 65

.............................
จากคำอรรถาธิบายข้างต้นจะเห็นได้ว่า พวกมุชริกีน เชื่อใน เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ เพราะเมื่อยามเคราะห์ร้าย พวกเขาก็เชื่อว่าอัลลอฮผู้สร้างพวกเขาเท่านั้น ที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ แต่พอพวกเขาปลอดภัย พวกเขากลับอิบาดะฮต่อสิ่งอื่นพร้อมกับอัลลอฮ ซึ่งหมายถึง พวกเขาไม่ยอมรับใน เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ และ แสดงให้เห็นว่า ที่คุณนูรุ้ลอิสลาม นักศึกษาไคโรแห่งเว็บซุนนะฮสะติวเด้น ปฏิเสธว่า มุชริริกีน ไม่ได้ยอมรับในเตาฮีดรุบูบียะฮ และ กล่าวหาว่า การแบ่งเตาฮีด เป็น รุบูบียะฮ และ อุลูฮียะฮ เป็นบิดอะฮนั้น เป็นการอ้างที่ปราศจากข้อเท็จจริง หรือหลักฐาน
...........
والله أعلم

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Sat Jun 07, 2008 12:45 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Jun 07, 2008 2:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เพิ่มเติม

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า
وَاتَّخَذُوا مِنْ دُونِ اللَّهِ آلِهَةً لَعَلَّهُمْ يُنْصَرُونَ
"และพวกเขาได้ยึดเอาพระเจ้ามากมาย(เป็นที่เคารพสักการะ) อื่นจากอัลเลาะฮ์ หวังว่าพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือ(จากมัน )
…………….
หลักฐานข้างต้น ท่านครูอัลอัซฮารีย์ ในเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้น กล่าวว่า
จากที่เราทราบมาอย่างดีแล้วว่า การช่วยเหลือ นั้น เป็นคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ของอัลเลาะฮ์ตะอาลา แต่พวกมุชริกีนกลับยึดมั่นและหวังว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าของพวกเขา หมายถึงพวกมุชริกีนเชื่อมั่นว่า พระเจ้าของพวกเขานั้นช่วยเหลือเขาได้ ให้คุณประโยชน์แก่พวกเขาได้ นั่นย่อมหมายความว่า พวกมุชริกีนตั้งภาคีไม่มีเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา นั่นเอง
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?PHPSESSID=80a9a99e11fba7b3045946e86f8c52c5&topic=281.msg24190;topicseen#new

.............

ผมขอแย้งว่า หลักฐานข้างต้น ไม่ได้หมายความว่า พวกมุชริกีน ขอความช่วยเหลือ สิ่งต่างๆนอกเหนือจากอัลลอฮ ในโลกนี้ แต่หมายถึง การให้พวกพระเจ้าต่างๆที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นมาช่วยเหลือพวกเขาจากอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ ดังที่ท่านอิบนุญะรีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
قَوْله : { وَاِتَّخَذُوا مِنْ دُون اللَّه آلِهَة } يَقُول : وَاِتَّخَذَ هَؤُلَاءِ الْمُشْرِكُونَ مِنْ دُون اللَّه آلِهَة يَعْبُدُونَهَا { لَعَلَّهُمْ يُنْصَرُونَ } يَقُول : طَمَعًا أَنْ تَنْصُرهُمْ تِلْكَ الْآلِهَة مِنْ عِقَاب اللَّه وَعَذَابه
คำตรัสของพระองค์ที่ว่า (และพวกเขาได้ยึดเอาพระเจ้ามากมาย(เป็นที่เคารพสักการะ) อื่นจากอัลเลาะฮ์ ) กล่าวคือ บรรดาผู้ตั้งภาคี(มุชริกีน)เหล่านี้ ได้ ยึดเอาบรรดาพระเจ้าต่างๆ อื่นจากอัลลอฮ โดยที่พวกเขาเคารพสักการะต่อพวกมัน ( พวกเขาหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือ) กล่าวคือ โดยปรารถนาให้พระเจ้าต่างๆเหล่านั้นช่วยเหลือพวกเขา ให้พ้นจากโทษทัณฑ์และการลงโทษของพระองค์”
- ดู ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบายอัลกุรอ่านซูเราะฮ ยาสีน อายะฮที่ 74
.........
อายะฮนี้ หมายถึง พวกมุชริกีน อุปโลกน์พระเจ้าจอมปลอมขึ้นมา ทำการเคารพภักดีหรือเคารพสาการะ พวกนั้น เพื่อให้พระเจ้าจอมปลอมเหล่านั้นช่วยเหลือพวกเขา ให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ ,โต๊ะครูอัลอัชอารีย์ กล่าวว่า “การช่วยเหลือ นั้น เป็นคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ของอัลเลาะฮ์ตะอาลา แสดงว่าท่านครูไม่ได้ทำความเข้าใจความหมายของคำว่า آلِهَة (อาลิฮะฮ) คำนี้หมาถึง พระเจ้าต่างๆที่ถูกเคารพสักการะ ไม่ใช่ ความหมายคำว่า “رب “(รอ็บ”) เพราะฉะนั้น ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า พวกมุชริกีน ยึดเอาพระเจ้าจอมปลอมเหล่านั้น เพื่อให้ช่วยเหลือพวกเขาในเรื่องดุนยา แต่ หมายถึง ให้พวกนั้นช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ ซึ่งอัลลอฮ ตรัสต่อไปว่า

لا يَسْتَطِيعُونَ نَصْرَهُمْ وَهُمْ لَهُمْ جُنْدٌ مُحْضَرُونَ
) ความจริงสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ และสิ่งเหล่านั้นเองก็จะเป็นไพร่พลที่ถูกนำตัวมา พร้อมกับพวกเขา - ยาซีน – 75
หมายถึง พวกพระเจ้าจอมปลอมเหล่านั้นไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เพราะ พระเจ้าจอมปลอมเองและไพล่พลของมัน ก็จะถูกนำตัวไปสอบสวนทั้งหมดในวันกิยามะฮ (ดูคำอธิบายของท่าน มุญาฮิด ในตัฟสีรอิบนุกะษีร)
..........
จึงสรุปว่า การที่ท่านครูอัลอัชฮารียกล่าวว่า
พวกมุชริกีนตั้งภาคีไม่มีเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา นั้น เป็นทัศนะที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Jun 07, 2008 12:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เพิ่มเติม

โต๊ะครูอัลอัซฮารีย์แห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้น กล่าวว่า
อัลเลาะฮ์ตะอาลา ได้ตรัสความว่า

أَمِ اتَّخَذُوا مِنْ دُونِهِ آلِهَةً قُلْ هَاتُوا بُرْهَانَكُمْ هَذَا ذِكْرُ مَنْ مَعِيَ وَذِكْرُ مَنْ قَبْلِي بَلْ أَكْثَرُهُمْ لا يَعْلَمُونَ الْحَقَّ فَهُمْ مُعْرِضُونَ

"หรือที่พวกเขา(พวกมุชริกีน)อุปโลกน์พระเจ้าต่าง ๆ อันนอกเหนือจากอัลเลาะฮ์(ขึ้นมาสักการะบูชา) จงประกาศเถิด (โอ้ มุฮัมมัด) "ท่านทั้งหลายจงนำหลักฐานของพวกท่านมาซิอ นี้เป็นคำเตือนแก่ผู้ที่อยู่ในสมัยของฉัน และเป็นคำเตือนแก่ผู้ที่อยู่ในสมัยก่อนหน้าฉัน" แต่ทว่าคนเหล่านั้นเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้ความจริง ดังนั้นพวกเขาจึงหันหลังให้(ความจริงไม่ยอมสนใจศรัทธา)" อัลอัมบิยาอฺ 24

ท่านอิมามอิบนุญะรีร อัลฏ็อบบะรีย์ ได้กล่าวอธิบายความว่า

يقول تعالى ذكره: أتخذ هؤلاء المشركون من دون الله آلهة تنفع وتضرّ، وتخلق وتحيي وتميت ، قل يا محمد لهم: هاتوا برهانكم، يعني حجتكم يقول: هاتوا إن كنتم تزعمون أنكم محقون في قيلكم ذلك حجة ودليلا على صدقكم

"อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ตรัสว่า ควรแล้วหรือที่พวกมุชริกีนเหล่านั้นได้อุปโลกน์อื่นจากอัลเลาะฮ์ กับพระเจ้าที่ให้คุณ ให้โทษ พระเจ้าที่ทำการสร้าง ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย เจ้าจงกล่าวแก่พวกเขาเถิด โอ้ มุฮัมมัด ว่า พวกท่านจงนำหลักฐานของพวกท่านมายืนยันซิ แล้วกล่าวว่า พวกท่านจงนำมา หากพวกท่านอ้างว่าพวกท่านนั้นสัจจริงในสิ่งที่พวกท่านได้กล่าวสิ่งดังกล่าวนั้นเพื่อนำมาเป็นหลักฐานยืนต่อความสัจจริงของพวกท่าน" ดู ตัฟซีร อัฏฏ็อบบะรีย์ อธิบายซูเราะฮ์ อัลอัมบิยาอฺ อายะฮ์ 24

เราจะพบว่า พวกมุชริกีนนั้น ได้อุปโลกน์พระเจ้าขึ้นมา แล้วพวกเขาก็เชื่อว่า พระเจ้าของพวกเขานั้น ให้คุณ ให้โทษ ทำการสรรสร้าง ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้ เป็นคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ที่มีสำหรับอัลเลาะฮ์เท่านั้น แต่ทว่าพวกมุชริกีนได้นำคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ดังกล่าว ไปให้แก่พระเจ้าของพวกเขา ดังนั้น พวกมุชริกีนมักกะฮ์จึงเป็นผู้ที่ไม่มีเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างแท้จริง

والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم

http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?PHPSESSID=a6469ea1a55d6d10c1848a78877a9fe4&topic=281.msg24190;topicseen#new

……………
วิจารณ์

อายะฮข้างต้น มีแปลความหมายดังนี้

أَمِ اتَّخَذُوا مِنْ دُونِهِ آلِهَةً قُلْ هَاتُوا بُرْهَانَكُمْ هَذَا ذِكْرُ مَنْ مَعِيَ وَذِكْرُ مَنْ قَبْلِي بَلْ أَكْثَرُهُمْ لا يَعْلَمُونَ الْحَقَّ فَهُمْ مُعْرِضُونَ
พวกเขาได้ยึดถือบรรดาพระเจ้า นอกจากพระองค์กระนั้นหรือ จงกล่าวเถิด(มุหัมหมัด ) ขอให้พวกท่านนำหลักฐานของพวกท่านมา นี้คือ คือคัมภีร์ที่อยู่กับฉัน (อัลกุรอ่าน)และคัมภีร์ที่มีอยู่ก่อนหน้าฉัน(เตารอตและอินญีล) แต่ว่าส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่รู้ความจริง พวกเขาจึงผินหลังเมินห่าง- อัลกุรอ่านฉบับแปลภาษาไทยตามพระราชดำริของกษัตริย์ ฟาฮัด บิน อับดุลอาซีซ
.........
โต๊ะครูอัลอัซฮารีย์นำคำอรรถาธิบายของท่านอิบนุญะรีร มีข้อความตอนหนึ่งว่า
يقول تعالى ذكره: أتخذ هؤلاء المشركون من دون الله آلهة تنفع وتضرّ، وتخلق وتحيي وتميت ،

"อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ตรัสว่า ควรแล้วหรือที่พวกมุชริกีนเหล่านั้นได้อุปโลกน์อื่นจากอัลเลาะฮ์ กับพระเจ้าที่ให้คุณ ให้โทษ พระเจ้าที่ทำการสร้าง ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย........... " ดู ตัฟซีร อัฏฏ็อบบะรีย์ อธิบายซูเราะฮ์ อัลอัมบิยาอฺ อายะฮ์ 24

............
ข้อความข้างต้นที่เป็นภาษาอาหรับนั้นถูกต้อง แต่ การแปลความหมายของโต๊ะครูอัลอัซฮารีย์นั้นไม่ถูกต้อง และถูกต้องมีความหมายดังนี้
يَقُول تَعَالَى ذِكْره : أَتَّخِذ هَؤُلَاءِ الْمُشْرِكُونَ مِنْ دُون اللَّه آلِهَة تَنْفَع وَتَضُرّ وَتَخْلُق وَتُحْيِي وَتُمِيت ؟
ผู้ซึ่งเกียรติของพระองค์ทรงสูงส่งตรัสว่า “บรรดามุชริกูนเหล่านี้ ได้ยึดถือบรรดาพระเจ้า นอกจากอัลลอฮ หรือว่ามันให้คุณ ให้โทษ ,ทำการสร้าง , ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย ได้อย่างนั้นหรือ ?..
………
คำอธิบายข้างต้น ท่านอิบนุญะรีร ไม่ได้หมายความว่า บรรดามุชริกีน เชื่อว่า บรรดาพระเจ้าจอมปลอมต่างๆที่พวกเขายึดถืออยู่นั้น ให้คุณ ให้โทษ ,ทำการสร้าง , ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย ได้ ตามที่ท่านอัลอัซฮารีเข้าใจ เพราะอัลลอฮ ซุบฮานะฮูว่าตะอาลาได้ตรัสไว้ในซูเราะฮ ยูนุส อายะฮที่ 31 เกี่ยวกับความเชื่อของพวกเขาว่า
قُلْ مَن يَرْزُقُكُم مِّنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ أَمَّن يَمْلِكُ السَّمْعَ والأَبْصَارَ وَمَن يُخْرِجُ الْحَيَّ مِنَ الْمَيِّتِ وَيُخْرِجُ الْمَيَّتَ مِنَ الْحَيِّ وَمَن يُدَبِّرُ الأَمْرَ فَسَيَقُولُونَ اللّهُ فَقُلْ أَفَلاَ تَتَّقُونَ [يونس:31]،
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “ใครเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพที่มาจากฟากฟ้า และแผ่นดินแด่พวกท่าน (*1*) หรือใครเป็นเจ้าของการได้ยินและการมอง และใครเป็นผู้ให้มีชีวิตหลังจากการตายและเป็นผู้ให้ตายหลังจากมีชีวิตมา และใครเป็นผู้บริหารกิจการ” แล้วพวกเขาจะกล่าวกันว่า “อัลลอฮฺ” ดังนั้นจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “พวกท่านไม่ยำเกรงหรือ -ยุนูส/31
.........
จากอายะฮข้าง แสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่า พวกมุชริกูนไม่ได้เชื่อว่า บรรดาพระเจ้าจอมปลอมที่เขายึดถืออยู่ ให้คุณ ให้โทษ ,ทำการสร้าง , ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย ได้ ตามการอ้างของท่านโต๊ะครูอัลอัชฮารีย์ แต่ประการใด และอายะฮข้างต้นสวนทางกับคำพูดของโต๊ะครูอัลอัซฮารี แห่งเว็บซุนนะฮสะติวเด้นที่ว่า
เราจะพบว่า พวกมุชริกีนนั้น ได้อุปโลกน์พระเจ้าขึ้นมา แล้วพวกเขาก็เชื่อว่า พระเจ้าของพวกเขานั้น ให้คุณ ให้โทษ ทำการสรรสร้าง ทำให้มีชีวิต และทำให้ตาย ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้ เป็นคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ที่มีสำหรับอัลเลาะฮ์เท่านั้น แต่ทว่าพวกมุชริกีนได้นำคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ดังกล่าว ไปให้แก่พระเจ้าของพวกเขา ดังนั้น พวกมุชริกีนมักกะฮ์จึงเป็นผู้ที่ไม่มีเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างแท้จริง

.........
และคำพูดของท่านอัลัซฮารีข้างต้น ถือว่า ไม่ถูกต้องด้วยประการทั้งปวง
.......
วัสสลาม

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Jun 07, 2008 4:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

โต๊ะครูอัลอัซฮารีย์แห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้น กล่าวว่า
อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงตรัสความว่า

وَهُمْ يُجَادِلُونَ فِي اللَّهِ

"พวกเขา(มุชริกีน)ได้โต้แย้งในอัลเลาะฮ์" อัรเราะอฺดุ 13

ท่านอิบนุกะษีร ได้กล่าวอธิบายว่า

أي: يَشُكّون في عظمته، وأنه لا إله إلا هو

"หมายถึง พวกมุชริกีนได้มีความสงสัยในความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ และอัลเลาะฮ์นั้นไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์" ตัฟซีร อิบนุกะษีร ซูเราะฮ์อัรเราะอฺดุ อายะฮ์ที่ 13

จากตรงนี้ เราจะเห็นได้ว่า ท่านอิบนุกะษีรได้ฉายภาพให้เราเห็นว่า พวกมุชริกีนนั้น สงสัยเคลือบแครงในความยิ่งใหญ่และเกรียงไกรของอัลเลาะฮ์ ซึ่ง คุณลักษณะความยิ่งใหญ่และเกรียรงไกรของพระองค์นั้น คือคุณลักษณะของอัรรุบูบียะฮ์สำหรับอัลเลาะฮ์ แต่พวกมุชริกีนได้มีความสงสัย และความสงสัยย่อมมิใช่เตาฮีด ดังนั้น พวกมุชริกีนจึงมิได้มีหลักเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์อย่างแท้จริง

والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم

.............
วิจารณ์
อายะฮที่ท่านอัลอัซฮารี นำมาเป็นหลักฐานว่า ดังนั้น พวกมุชริกีนจึงมิได้มีหลักเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ นั้น เป็นความเข้าใจของ ท่านอัลอัซฮารี แห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้นเอง ไม่ใช่ความเข้าใจของ ท่านอิบนุกะษีร เพราะท่านอิบุกะษีร ได้อธิบายไว้ในอายะฮที่ 87 ซูเราะฮ อัซซุครุฟ ว่า

أَيْ وَلَئِنْ سَأَلْت هَؤُلَاءِ الْمُشْرِكِينَ بِاَللَّهِ الْعَابِدِينَ مَعَهُ غَيْره " مَنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ اللَّه" أَيْ هُمْ يَعْتَرِفُونَ أَنَّهُ الْخَالِق لِلْأَشْيَاءِ جَمِيعهَا وَحْده لَا شَرِيك لَهُ فِي ذَلِكَ وَمَعَ هَذَا يَعْبُدُونَ مَعَهُ غَيْره مِمَّنْ لَا يَمْلِك شَيْئًا وَلَا يَقْدِر عَلَى شَيْء فَهُمْ فِي ذَلِكَ فِي غَايَة الْجَهْل وَالسَّفَاهَة وَسَخَافَة الْعَقْل وَلِهَذَا قَالَ تَعَالَى " فَأَنَّى يُؤْفَكُونَ " .
หมายถึง หากเจ้าถามบรรดาพวกที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ ที่ทำการเคารพภักดีอื่นจากพระองค์พร้อมกับพระองค์ ว่า “ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ ? หมายถึง พวกเขายอมรับว่าแท้จริงพระองค์คือ ผู้ที่สร้างสิ่งต่างๆทั้งหมดเพียงพระองค์เดียว ไม่มีภาคีใดแก่พระองค์ในเรื่องดังกล่าว พร้อมกันนี้ พวกเขาเคารพภักดีผู้อื่นจากพระองค์ พร้อมกับพระองค์ จากผู้ที่ไม่ได้ครอบครองสิ่งใดๆและไม่มีความสามารถเหนือสิ่งใดๆ เพราะในเรื่องดังกล่าวนั้น พวกเขาไม่มีความรู้ ,เพราะความโง่ และเพราะอ่อนแอของสติปัญญา และเพราะเหตุนี้ อัลลอฮตะอาลาได้ตรัสว่า “แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น” – ดูตัฟสีรอิบนุกะษีรอธิบาย อายะฮที่ 87 ซูเราะฮ อัซซุครุฟ
.............
เพราะฉะนั้น ข้ออ้างของท่านครู อัลอัซฮารีย์ จึงเป็นแค่ความเข้าใจของตนเอง โดยไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริง จากคำอธิบายของท่านอิบนุกะษีร ในอายะฮอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat Jun 07, 2008 9:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

โต๊ะครูอัลอัซฮารีย์แห่งเว็บซุนนะฮสะติ้วเด้น กล่าวว่า
มีฮะดิษอัลกุดซีย์ ซึ่งรายงานโดยท่านซัยด์ บิน คอลิต อัลญุฮานีย์ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

قَالَ ‏ ‏أَصْبَحَ مِنْ عِبَادِي مُؤْمِنٌ بِي وَكَافِرٌ فَأَمَّا مَنْ قَالَ مُطِرْنَا بِفَضْلِ اللَّهِ وَرَحْمَتِهِ فَذَلِكَ مُؤْمِنٌ بِي كَافِرٌ بِالْكَوْكَبِ وَأَمَّا مَنْ قَالَ ‏ ‏بِنَوْءِ ‏ ‏كَذَا وَكَذَا فَذَلِكَ كَافِرٌ بِي مُؤْمِنٌ بِالْكَوْكَبِ

"อัลเลาะฮ์ตะอาลาตรัสว่า จากปวงบ่าวของข้านั้น จะมีผู้ศรัทธาต่อข้าและมีผู้(กาเฟร)ปฏิเสธข้า สำหรับผู้ที่กล่าวว่า ฝนได้ตกลงมายังเรานั้น ด้วยความโปรดปรานและความเมตตาของพระองค์ ซึ่งบุคคลดังกล่าว ย่อมเป็นผู้ที่ศรัทธาต่อข้า เป็นผู้ปฏิเสธต่อดวงดาว และสำหรับผู้ที่กล่าวว่า (ฝนได้ตกลงมายังเรา) ด้วยดาวตกดวงนั้น ดาวตกดวงนี้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวนั้น ได้ปฏิเสธต่อข้า เป็นผู้ศรัทธาในดวงดาว" รายงานโดยบุคอรีย์ (980) และมุสลิม (104)

คำว่า ซึ่งบุคคลดังกล่าวนั้น ได้ปฏิเสธต่อข้า นั้น หมายถึงพวกมุชริกีนดังกล่าวได้ปฏิเสธการที่พระองค์ได้ประทานฝนลงมา ดังนั้น ฮะดิษนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่า บรรดาพวกมุชริกีนบางส่วนเชื่อว่าการที่มีฝนตกนั้น เพราะว่าดวงดาวตกเป็นสาเหตุหรือเป็นผลควบคุมทำให้ฝนตก ทั้งที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาเท่านั้นที่เป็นผู้บริหารควบคุมให้ฝนตกลงมา และการทำให้ฝนตกลงมาเพื่อเป็นริสกีปัจจัยยังชีพแก่มนุษย์นั้น เป็นคุณลักษณะอัรรุบูบียะฮ์ เพราะฉะนั้นพวกมุชริกีนกลุ่มนี้จึงเป็นผู้ปฏิเสธต่อเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ที่มีต่ออัลเลาะฮ์ โดยไม่เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงประทานให้ฝนตกลงมา

......................

ท่านครูอัลอัซฮารีย์ นำหะดิษข้างต้นมายืนยันว่า บรรดามุชริกีน ปฏิเสธ เตาฮีดรุบูบียะฮ ทั้งๆทีหะดิษนี้ได้กล่าวไว้กว้างๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะจง พวกมุชริกีนในสมัยท่านนบี Solallah ที่เรากำลังพูดถึง ว่า พวกเขายอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ และที่ท่านครูอัลอัซฮารีย์กล่าวว่า
บรรดาพวกมุชริกีนบางส่วนเชื่อว่าการที่มีฝนตกนั้น เพราะว่าดวงดาวตกเป็นสาเหตุหรือเป็นผลควบคุมทำให้ฝนตก
คำกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นว่า คุณโต๊ะครูอัลอัซฮารีเอง ก็ยอมรับว่า มุชริกีนส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ปฏิเสธ เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ เพราะมีบางส่วนเท่านั้นที่ปฏิเสธ.

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.28 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ