ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 4:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
จะขอนำเอาหะดีษกุเรบมาเสนอให้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ที่ อ.อะสานบอกว่า ที่ชาวมะดีนะฮไม่ตามการเห็นของชาวชามนั้น
เป็นอิจญติฮาด ของท่าน อับดุลลอฮฺบิน อับบาสเท่านั้น
حديث الصحابي كريب رضي الله عنه هو: حَدَّثَنَا إِسْماَعِيلُ وَهُوَ ابْنُ جَعْفَرٍ عَنْ مُحَمَّدٍ وَهُوَ ابْنُ أَبِي حَرْمَلَةَ عَنْ كُرَيْبٍ أَنَّ أُمَّ الْفَضْلِ بِنْتَ الْحَارِثِ بَعَثَتْهُ إِلَى مُعَاوِيَةَ بِالشَّامِ قَالَ: فَقَدِمْتُ الشَّامَ فَقَضَيْتُ حَاجَتَهَا. وَاسْتُهِلَّ عَلَيَّ رَمَضَانُ وَأَنَا بِالشَّامِ فَرَأَيْتُ الْهِلالَ لَيْلَةَ الْجُمُعَةِ. ثُمَّ قَدِمْتُ الْمَدِينَةَ فِي آخِرِ الشَّهْرِ. فَسَأَلَنِي عَبْدُ اللَّهِ بْنُ عَبَّاسٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا، ثُمَّ ذَكَرَ الْهِلالَ فَقَالَ: مَتَى رَأَيْتُمْ الْهلالَ؟ فَقُلْتُ: رَأَيْنَاهُ لَيْلَةَ الْجُمُعَةِ. فَقَالَ: أَنْتَ رَأَيْتَهُ؟ فَقُلْتُ: نَعَمْ، وَرَآهُ النَّاسُ وَصَامُوا وَصَامَ مُعَاوِيَةُ. فَقَالَ: لَكِنَّا رَأَيْنَاهُ لَيْلَةَ السَّبْتِ، فَلا نَزَالُ نَصُومُ حَتَّى نُكْمِلَ ثَلاثِينَ أَوْ نَرَاهُ. فَقُلْتُ: أَوَلا تَكْتَفِي بِرُؤْيَةِ مُعَاوِيَةَ وَصِيَامِهِ؟ فَقَال لا. هَكَذَا أَمَرَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ.
คำว่า ลา ฮากะซาอะมะเราะนา เราะสูลุลลอฮฺ
فَقَال:َ لا. هَكَذَا أَمَرَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ.
[color=darkred]ถ้าเราอ่านหะดีษนี้จบลง จะเข้าใจทันที ง่ายๆๆม่มีอะไรซับซ้อนเลย
และ คำพูดที่ว่า เราไม่ตามเราไม่เอาเดือนของมุอาวียะฮหรือชาวชามนั้น
เพราะเนื่องด้วยเราะสูลสั่งใช้เราอย่างนี้
คำว่าเราะสูลสั่งใช้ นั้นจะให้บอกว่า เป็นของอับดุลลอฮ ได้อย่างไร[/color] _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
BilalThai มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/01/2008 ตอบ: 17
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 9:13 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
asan บันทึก: | ....... ส่วนหะดิษอิบนุอับบาส ที่กล่าวถึง การถือศีลอดของชาวเมืองชาม แตกต่างจากชาวเมืองมะดีนะฮ นั้น ก็ไม่ได้แสดงบอกว่า ให้พิจารณาเรื่อง ความแตกต่างการขึ้นของจันทร์เสี้ยว( اختلاف المطالع ) เพราะคำพูดของอิบนุอับบาสที่ว่า (هكذا أَمَرَنا رسول الله صلى الله عليه وسلم) อย่างนี้แหละที่รซูลุลลอฮ เคยใช้พวกเรา" นี้ไม่ใช่คำพูดที่สืบไปถึงท่านนบี แต่ทว่า มันเป็นเพียงคำพูดของอิบนุอับบาส และมันคือ การอิจญติฮาดของเศาะหาบะฮ ,นักนิติศาสตร์อิสลาม กล่าวว่า " การอิจญติฮาดของเศาะหาบะฮ นั้น ไม่ใช่หลักฐานทางศาสนบัญญัติ และการอิจญติฮาด(การวินิจฉัย)ของเศาะหาบะฮนั้น ไม่ได้ทำหน้าที่จำกัด(ตัคศีศ)สำนวนหะดิษที่กล่าวไว้โดยรวม(عموم الحديث) ที่ว่า صوموا لرؤيته(พวกท่านจงถือศีลอด เมื่อเห็นมัน(จันทร์เสี้ยว) การอิจญติฮาดของ อิบนุอับบาส มันก็คือ ความเห็นและความเข้าใจของท่านเท่านั้น |
ในอีกมุมหนึ่งขอให้ทุกท่านพิจารณาข้อความต่อไปนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับที่ท่าน asan กล่าวไว้ คือ ท่านฮาริส บิน ฮาติบได้รายงานว่า
عَهِدَ اِلَيْنَا رَسُوْلُ اللهِ صَلى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ أَنْ نَنْشُكَ لِلرُؤْيَةِ فَاِنْ لَمْ نَرَهُ وَشَهِدَ شَاهِدَا عَدْلٍ نَسَكْنَا بِشَهَا دَتِهِمَا
ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ได้วางกฎไว้ให้พวกเรา ในการปฏิบัติอิบาดะห์ (ถือศีลอด) เนื่องจากเห็นเดือนเสี้ยว และถ้าหากเราไม่เห็นแต่มีพยานสองคนที่เชื่อถือได้มายันยืน ก็ให้เราปฏิบัติอิบาดะห์จากการยืนยันของทั้งสอง บันทึกโดยอิหม่ามอบูดาวูด ฮะดีษเลขที่ 1991
หะดีษนี้ปรากฏอยู่ในบทความของ อ.ฟารีดที่คุณวิยากรให้ลิ้งค์เอาไว้ และหะดีษนี้ไม่ใช่คำพูดที่สืบไปถึงท่านนบี แต่ทว่ามันเป็นเพียงคำพูดของผู้รายงานหะดีษ ไม่ใช่คำพูดของท่านนบี ศ็อลฯ โดยตรง ๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
คนที่เดินผ่าน มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006 ตอบ: 104 ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com
|
ตอบ: Tue Jan 15, 2008 10:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
...อัสลามมุอะลัยกุม ว่าร่อมาตุลลอฮ ว่าบ่าร่อกาตุฮ...
...ขออนุญาตแสวงหาความรู้ด้วยคนนะครับ ตามประสาเด็กหนุ่มอย่าถือสานะครับ...
...คุณ Goddut เอาเรื่องวัน กับเรื่องเวลามาปนกันแล้วนะครับ ผมเคยได้ยินคำพูดแบบนี้มานานแล้ว...
...สำหรับผมการคำนวณไม่มีผลและก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ นะครับ...
...มันอยู่ที่ตัวบุคคล องค์กรกับความน่าเชื่อถือมากกว่า ...
...ผมขอตั้งคำถามคุณ mahdisaudi ตามสโลแกนของคุณนะครับ " เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน &ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสะดวกในการดูเดือน มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน "...
...ในประเทศไทย หากเดือนไหนคำนวนได้ 29 วัน แล้วถ้ามันไม่เห็นดือนเนื่องด้วยอุปสรรค อะไรก็แล้วแต่ เราต้องเลื่อนวันในปฏิทินด้วยหรือไม่...
...หากคุณมีสติถิ ปฏิทิน ซัก 1-2 ปี ที่ผ่านมา ช่วยเอามาลงหน่อยได้ไหมครับ ผมจะเอามาวิเคราะห์ส่วนตัว...
...ส่วนเรื่อง หะดีษ กุเรบ นั้นก็ คิลาฟกันไปนะครับ มองต่างมุม...
...แต่ผมทัศนะเดียวกับ อ.asan เราควรพิจารณาตัวบทหะดีษ ที่กระจ่างชัดกว่า ในโอวาทของท่านร่อซูล ว่า...
..." ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดเมื่อเห็นจัทร์เสี้ยว และจงออกจากศีลอด(ออกอีด)เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว " ...
..." เดือนหนึ่งนั้นมีเท่านี้ และเท่านี้ (แล้วท่านก็เลื่อนนิ้วโป้งไปไว้ที่นิ้วนาง) ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดเมื่อเห็นมัน และจงออกจากการถือศีลอดเมื่อเห็นมัน หากมีเมฆมาบดบังก็จงนับให้ครบจำนวน 30 วัน "...
...ท่านร่อซูล ใช้คำว่า " ท่านทั้งหลาย " ก็ตีความเอานะครับ ว่าหมายถึงใคร ...
...จากหะดีษที่ผมยกมา ผมว่า" หากที่ใดที่หนึ่งเห็นเดือนก็มีผลไปถึงที่อื่นๆด้วย " จะมีน้ำหนักกว่า " ที่ใดที่หนึงเห็นเดือน ไม่เป็นผลบังคับแก่ที่อื่น" ครับ...
...เพราะผมเชื่อว่า มุสลิมไม่มีพรมแดนครับ หากอ้างการยากลำบากในการฟังข่าว อดหลับอดนอน รอดูบอลยังรอได้ ทำไมรอฟังข่าวถึงจะรอไม่ได้...
...วัสลามมุอะลัยกุม ว่าร่อมาตุลลอฮ ว่าบ่าร่อกาตุฮ...
ปล. ..." การออกปฏิทินคำนวนเดือนทั้งปีนั้น สามารถคำนวนก้อนเมฆที่จะมาบดบังในวันที่ 29 ได้ ผมถึงจะเชื่อครับ ".... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 3:50 am ชื่อกระทู้: |
|
|
มีคำถามที่ไม่น่าตอบอยู่ของ คนที่เดินผ่าน เพราะผ่านๆมาผ่านไปทำให้รุงรัง
แต่มาพบคำถามที่ดีมากอยู่ที่ว่า......
แต่ผมทัศนะเดียวกับ อ.asan เราควรพิจารณาตัวบทหะดีษ ที่กระจ่างชัดกว่า ในโอวาทของท่านร่อซูล ว่า...
..." ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดเมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว และจงออกจากศีลอด(ออกอีด)เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว " ...
..." เดือนหนึ่งนั้นมีเท่านี้ และเท่านี้ (แล้วท่านก็เลื่อนนิ้วโป้งไปไว้ที่นิ้วนาง) ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดเมื่อเห็นมัน และจงออกจากการถือศีลอดเมื่อเห็นมัน หากมีเมฆมาบดบังก็จงนับให้ครบจำนวน 30 วัน "... ...ท่านร่อซูล ใช้คำว่า " ท่านทั้งหลาย " ก็ตีความเอานะครับ ว่าหมายถึงใคร ...
ตอบ...หมายถึงมุสลิมทุกคน
แต่เป็นที่น่าเสียดายคนที่บอกที่พูดว่า จะตามหะดีษนี้กลับไม่ทำตามที่พูด
เพราะเมื่อมีการบดบังมองไม่เห็นจันทร์เสี้ยว ก็เลยไปตามสาอุ คนเดินผ่านช้วยหาหะดีษมาด้วยว่า
ถ้าเมืองใดไม่เห็นแล้วให้ตามสะอูดี....
ท่านมีความคิดอยู่ว่าโลกแบนอย่าง อ. และ ดร.หลายๆท่านในเมืองไทย จึงเข้าใจว่าที่ใดเห็นเลยตามกันไป ทำให้ท่านจะวนเวียนเดือนอิสลามอยู่ที่ 28 วันและ29 บ้างอยู่ตลอดไป เมื่อท่านฝากจมูกของ จีนบ้างสาอุบ้าง อิรัคบ้าง มาหายใจ
แต่ผมพูดเรื่อง -จงนับให้ครบ 30วัน อย่างที่เราะสูลุลลอฮฺแนะนำ-และเอามาบอกอยู่เสมอมา..
*********************
...คุณ Goddut เอาเรื่องวัน กับเรื่องเวลามาปนกันแล้วนะครับ ผมเคยได้ยินคำพูดแบบนี้มานานแล้ว.......ตอบเพราะท่านยังไม่ทราบหรือว่า วันของเราเริ่มเมื่อเข้าเวลามัฆริบ...
************
คุณ mahdisaudi ตามสโลแกนของคุณนะครับ " เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน &ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสะดวกในการดูเดือน มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน "...
...ในประเทศไทย หากเดือนไหนคำนวนได้ 29 วัน แล้วถ้ามันไม่เห็นดือนเนื่องด้วยอุปสรรค อะไรก็แล้วแต่ เราต้องเลื่อนวันในปฏิทินด้วยหรือไม่.....ตอบ.ใช่ครับ เพราะปฏิทินดาราศาสตร์ในปัจจุบัน
ทำได้คือ บอกวันเวลาจันทร์ดับ หรือนิวมูนอย่างดีหน่อยที่ชมรมทำปฏิทินจันทร์ดับนิวมูนและคำนวนว่าวันนั้นต้องมีจันทร์ค้างฟ้าเท่านั้นเอง ฉนั้นสุนนะฮให้ทำคือออกไปสังเกตดูทุกๆ 29วันไม่ใช่ให้ฟังสาอุ
ถ้าเราเห็นก็เรื่มนับได้เลย เพราะเราเกิดเราอยู่เมืองไทย ถ้าไม่เห็นก็เพิ่มขึ้นอีกวัน.
******************
...หากคุณมีสติถิ ปฏิทิน ซัก 1-2 ปี ที่ผ่านมา ช่วยเอามาลงหน่อยได้ไหมครับ ผมจะเอามาวิเคราะห์ส่วนตัว.. . ตอบ แสดงว่าคนเดินผ่านมัสญิดไม่เคยเห็นปฏิทิน...
*********
...ส่วนเรื่อง หะดีษ กุเรบ นั้นก็ คิลาฟกันไปนะครับ มองต่างมุม... ตอบ ต้องติดตามเรื่ยยๆครับ.
***********************
...
ปล. ..." การออกปฏิทินคำนวนเดือนทั้งปีนั้น สามารถคำนวนก้อนเมฆที่จะมาบดบังในวันที่ 29 ได้ ผมถึงจะเชื่อครับ ".ตอบ ท่านต้องโทรไปกรมอุตุฯครับ
มีห้าประการที่มนุษย์ไม่สามารถทราบได้ นอกจากพระองค์อัลลอฮฺ
แผ่นดินไหนที่เราจะตาย.... อะไรในท้องสตรี... ฝนฟ้าอากาศ ฯฯฯฯ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
คนที่เดินผ่าน มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006 ตอบ: 104 ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 11:07 am ชื่อกระทู้: |
|
|
...อัสลามมุอะลัยกุม ว่าร่อมาตุลลอฮ ว่าบ่าร่อกาตุฮ...
...อย่างนี้ครับคุณ mahdisaudi คุณตอบไม่ตรงคำถาม...
...ผมถามว่า ปฏิทินที่คำนวนเดือนมาให้ทั้งปีเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ บางเดือนก็ 29 วัน บางเดือนก็ 30 วัน...
...ผมแค่สงสัยว่า ในเดือนที่มี 29 วัน คำนวนแล้วว่ามีจันทร์เสี้ยว ไม่ใช่วันที่ 29 จันทร์ดับ มี นิวมูนเกิดเวลา เท่านี้ นานเท่านี้แล้ววันต่อไปเป็นวันที่ 30 ไม่ใช่ครับ
...เดือนที่มีแค่ 29 วันเท่านั้น แต่เวลาที่เราไปดูจริงๆแล้วมันไม่เห็น จะเนื่องด้วย เมฆหมอกบัง ฝนตกหนัก อะไรก็แล้วแต่...
...ปฏิทินที่ผมมีอยู่มิต้องหมดความหมายไปหรอกหรือครับ เพราะถ้าเราไม่เห็นเราก็ต้องเพิ่มเป็น 30 วัน เดือนที่เหลืออยู่ก็ต้องเปลี่ยนวันตามไปด้วยจริงไหมครับ...
...ผมถึงบอกคุณไงครับ ถ้าคุณคำนวน เมฆหมอกมาบังได้ ผมถึงจะเชื่อวันในปฏิทิน (ไม่เกี่ยวกับเวลานะครับ )...
...คุณก็บอกให้ผมไปถามกรมอุตุ กรมอุตุเขาใช้คำว่าพยากรอากาศหรือทำนายอากาศ ผมก็ไม่เห็นจะตรงซักเท่าไหร่...
...และเขาก็ทำนายล่วงหน้าเป็นปีไม่ได้ด้วย ผมไม่เถียงว่าวันที่ 29 ไม่มี จันทร์เสี้ยว แต่ถามว่าถ้ามีเมฆมาบังทำให้มองไม่เห็นจะทำอย่างไรกับปฏิทินที่คำนวนเดือนมาทั้งปี...
...แล้วเรื่องสติถิ การดูเดือนที่ผมให้คุณเอามาลง ผมอยากจะรู้ว่ามันตรงกับปฏิทินหรือเปล่า ก็เท่านั้นเอง...
...ส่วนเรื่องตัวบทหะดีษ คุณบอกว่า " ท่านทั้งหลาย หมายถึง มุสลิมทุกคน แต่เป็นที่น่าเสียดายคนที่บอกที่พูดว่า จะตามหะดีษนี้กลับไม่ทำตามที่พูด เพราะเมื่อมีการบดบังมองไม่เห็นจันทร์เสี้ยว ก็เลยไปตามสาอุ "...
...คุณกำลังจะบอกว่า คนในซาอุไม่มีมุสลิมใช่หรือไม่ คนในจีน ในอิรัค ในโมรอคโค หรือในประเทศอื่นไม่มีมุสลิม...
...ก็คุณบอกเองไงว่า " ท่านทั้งหลายหมายถึงมุสลิมทุกคน" เพราะฉนั้น ท่านร่อซูลไม่ได้ระบุขอบเขตแบ่งโซนใดๆทั้งสิ้น นี่เหละคือหลักฐาน...
...วัสลามมุอะลัยกุม ว่าร่อมาตุลลอฮ ว่าบ่าร่อกาตุฮ...
ปล. " ผมจะเดินผ่านมัสยิด หรือ องกรณ์ สถาบัน ที่ทำบิดอะห์ครับ "
################################################
" ร่ำไรเรียกร้อง จึงยินยอมมอบให้ "
" หัวใจใฝ่หา เคียงข้างนิรันดิร์ สักวันจะเข้าใจ " |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 1:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
mahdisaudi บันทึก: | คำว่า ลา ฮากะซาอะมะเราะนา เราะสูลุลลอฮฺ
فَقَال:َ لا. هَكَذَا أَمَرَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ.
[color=darkred]ถ้าเราอ่านหะดีษนี้จบลง จะเข้าใจทันที ง่ายๆๆม่มีอะไรซับซ้อนเลย
และ คำพูดที่ว่า เราไม่ตามเราไม่เอาเดือนของมุอาวียะฮหรือชาวชามนั้น
เพราะเนื่องด้วยเราะสูลสั่งใช้เราอย่างนี้
คำว่าเราะสูลสั่งใช้ นั้นจะให้บอกว่า เป็นของอับดุลลอฮ ได้อย่างไร[/color] |
อิหม่ามอัชเชากานีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
ووجه الاحتجاج به أن ابن عباس لم يعمل برؤية أهل الشام وقال في آخر الحديث : هكذا أمرنا رسول الله صلى الله عليه وسلم , فدل ذلك على أنه قد حفظ من رسول الله صلى الله عليه وسلم أنه لا يلزم أهل بلد العمل برؤية أهل بلد آخر . واعلم أن الحجة إنما هي في المرفوع من رواية ابن عباس لا في اجتهاده الذي فهم عنه الناس والمشار إليه بقوله : " هكذا أمرنا رسول الله صلى الله عليه وسلم " هو قوله : فلا نزال نصوم حتى نكمل ثلاثين , والأمر الكائن من رسول الله صلى الله عليه وسلم هو ما أخرجه الشيخان وغيرهما بلفظ { لا تصوموا حتى تروا الهلال , ولا تفطروا حتى تروه فإن غم عليكم فأكملوا العدة ثلاثين
وهذا لا يختص بأهل ناحية على جهة الانفراد بل هو خطاب لكل من يصلح له من المسلمين فالاستدلال به على لزوم رؤية أهل بلد لغيرهم من أهل البلاد أظهر من الاستدلال به على عدم اللزوم لأنه إذا رآه أهل بلد فقد رآه المسلمون فيلزم غيرهم ما لزمهم
และแนวทางของการนำมันมาเป็นหลักฐาน คือ แท้จริงอิบนุอับบาสไม่ปฏิบัติตามการเห็นเดือนเสี้ยวของชาวชาม และท่านได้กล่าวในตอนท้ายของหะดิษว่า " เช่นนี้แหละที่ท่านรซูลุ้ลลอฮ เคยใช้พวกเรา" ดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นว่า เขา(อิบนิอับบาส)ได้ท่องจำมาจากรซูลุ้ลลอฮ ว่า "ไม่จำเป็นแก่ชาวเมืองหนึ่งเมืองใด ปฏิบัติตามการเห็น(เดือนเสี้ยว)ของชาวเมืองอื่น"
และพึงทราบไว้เถิดว่า "หลักฐานนั้น ความจริงมันอยู่ในหะดิษมัรฟัวะจากรายงานของอิบนิอับบาส ไม่ใช่การอิจญติฮาดของเขาเอง ที่บรรดาผู้คนเขาใจจากเขา ทั้งๆที่ สิ่งที่คำพูดของเขา(ของอิบนิอับบาส)ที่ว่า "เช่นนี้แหละที่ท่านรซูลุ้ลลอฮ เคยใช้พวกเรา" ได้แสดงบอกคือ คำพูดของท่านที่ว่า "เรายังคงถือศีลอด จนกว่า เราจะให้ครบสามสิบวัน" และเรื่องนี้ได้มีมาจากรซูลุ้ลลอฮ คือ สิ่งที่บันทึกโดย อัชชัยคอน(หมายถึงบุคอรีและมุสลิม )และอื่นจากท่านทั้งสอง โดยมีข้อความว่า "พวกท่านอย่าถือศีลอด จนกว่าพวกท่านเห็นเดือนเสี้ยว และพวกท่านอย่าละศีลอด จนกว่าพวกท่านจะเห็นมัน แล้วถาหาก มีเมฆมาบดบัง ก็ให้พวกท่านนับให้ครบถ้วนจำนวนสามสิบวัน"
และกรณีนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะกับประชาชน ภูมิภาคหนึ่ง ภูมิภาคใดเป็นเอกเทศ แต่ มันได้กล่าวกับทุกคนที่สมควรสำหรับมันจากบรรดามุสลิม ดังนั้น การอ้างหลักฐานด้วยมันที่แสดงว่า จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามการเห็นเดือนเสี้ยวของชาวเมื่องอื่น อื่นจากพวกเขา ย่อมจัดเจนกว่า การอ้างหลักฐานด้วยมันที่แสดงว่า "ไม่จำเป็น" เพราะเมื่อชาวเมืองหนึ่ง เห็นจันทร์เสี้ยว ก็เท่ากับว่าบรรดามุสลิม(อื่นๆ)ได้เห็นมันด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นแก่ชาวเมื่องอื่น ในสิ่งที่จำเป็นแก่พวกเขา(ชาวเมื่องที่เห็นจันทร์เสี้ยว) - ดู นัยลุ้ลเอาฏอร เล่ม 4 หน้า 217
และอิหม่ามอัชเชากานีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวอีกว่า
ولم يأت ابن عباس بلفظ النبي صلى الله عليه وسلم ولا بمعنى لفظه حتى ننظر في عمومه وخصوصه
"ท่านอิบนุอับบาสไม่ได้นำข้อความที่เป็นคำพูดของท่านนบี และไม่ได้นำความหมายคำพูดนั้น มาแสดง เพื่อเราจะได้พิจารณา ในเนื้อหาโดยกว้างๆและเนื้อหาที่เฉพาะของมัน"- ดู นัยลุ้ลเอาฏอร เล่ม 4 หน้า 217
.......
ท่านอัชเชากานีย์ก็ได้อ้างเช่นกันว่า คำพูดข้างต้น เป็นการอิจญติฮาดของท่านอิบนิอับบาส ไม่ใช่นำคำพูดของท่านนบีมาอ้างอิง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Wed Jan 16, 2008 4:04 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 2:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุม ทุกท่าน
อ้าว ท่านอ.อะสานที่รัก ทำไมท่านและ อ.ฟารีด จึงมาโต้แย้งกัลเองเรื่องอิจญติฮาดการพยายามอย่างยิ่งยวดในการวินิจฉัย ที่อ.ฟาริด ว่า หะดีษมัรฟูอฺ ที่อิบนุอับบาสกล่าวสามารถสืบรายงานของบรรดาศอหาบะฮฺไปถึงท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้
ผมขอยกประโยคของ.อ.ฟาริดมาดังนี้
**สิ่งที่เป็นมาตรฐานอันดับแรกจากทั้ง 4 ประการนี้ก็คือข้อที่ 4 คือการที่ท่านอิบนิอับบาสอ้างคำพูดของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลัม ที่ว่า อย่างนี้แหละที่ท่านรอซูลเคยใช้พวกเรา ฉะนั้นฮะดีษบทนี้จึงจัดอยู่ในประเภท ฮะดีษมัรฟัวฮ์ หมายถึงการที่ศอฮาบะห์อ้างการรายงานถึงท่านนบี ด้วยเหตุนี้คำของท่านอิบนิอับบาสจึงไม่ใช่ประเด็นการวินิจฉัย อิจติฮาต ของท่านเองอย่างที่บางคนเข้าใจ ***
ฉะนั้นท่านอ.อะสานจะต้องไปตกลงกับอ.ฟาริด ก่อนนะครับ จะเอามาตรฐานของ อ.คนๆไหน
เรื่องไวยากรณฺอรับ นั้ผมยอมรับว่า อ.อะสาน และฟาริดเป็นปรมาจารย์
แต่ ท่านกลับ มองข้ามคำสำคัญที่ท่าน อาจมองข้าม หรืออาจจงใจมองข้ามไป
ให้ท่านกลับ ไปดูพิจารณา คำที่ติดตามกัน ที่อยู่ใกล้ชิด ของคำว่า ฮากะซา คือคำว่า --ลา--
ไม่หรอก ไมได้หรอก เราไม่ตามหรอก อย่างที่ท่านกุเรบุถาม...
ยังมีต่อ...... _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 3:50 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุม ท่านคนที่เดินผ่านมา
เดือนที่มีแค่ 29 วันเท่านั้น แต่เวลาที่เราไปดูจริงๆแล้วมันไม่เห็น จะเนื่องด้วย เมฆหมอกบัง ฝนตกหนัก อะไรก็แล้วแต่...
...ปฏิทินที่ผมมีอยู่มิต้องหมดความหมายไปหรอกหรือครับ เพราะถ้าเราไม่เห็นเราก็ต้องเพิ่มเป็น 30 วัน เดือนที่เหลืออยู่ก็ต้องเปลี่ยนวันตามไปด้วยจริงไหมครับ
ตอบ .....ถูกต้องใช่ครับ ท่านต้องเปลี่ยนวันในปฏิทิน ตามที่ท่านไม่เห็น เพราะ เราทำตามคำสั้ง
ท่านเราะสูล วันต่อไปก็ให้เขียนแก้ไป (แต่ท่านต้องช่วยกันออกไปดูเดือนในแต่ละตำบลหลายๆคนด้วยครับ)
ผมขอชมเชยท่าน โอซากุและท่านคนเดินผ่านมา ที่ท่านสนใจติดตาม
และท่านนั้นแหละจะเข้าใจได้เร็วเรื่องดาราศาสตร์แบบอิสลาม
พูดถึงท่านคนเดินผ่านมา ทำให้นึกถึงอ.ปรีชา มะมูน พงไพรพฤกษ์ บางกอกน้อย
ที่ให้วิชาดาราศาสตร์แด่ผม
ท่านที่อ่านติดตามมาในระยะสามปีมานี้ คงทราบว่าผมเอาความรู้ดาราศาสตรอิสลามของ อ.ปรีชา
นำมาเสนอ เสียดายลูกเขยท่าน คือ อ.ริฎอ สะมะดีไม่ให้ความสนใจพอ ไม่งั้นพี่น้องสุนนะฮฺในเมืองไทยคงได้นับวันเข้าวันซุลหิจญะฮฺถูกต้องสักที .
***********************
อ.อะสานครับ ที้งท่านและอ.ฟารีด อาจเผลอเรอ มองข้ามคำที่สำคัญอีนเป็นหัวใจ ของหะดีษนี้ เลยทำให้ท่านสะเปะสะปะ ท่านโยง คำว่า อย่างนี้แหละที่เราะสูล สั่งใช้เรา... ฮากะซา
อะมะเราะนา เราะสูลุลลอฮฺ ไปยังคำว่า** เราจะยังคงถือศีลอดต่อไปจนกว่าจะครบ 30วัน
หรือไม่ก็เห็นเดือนเสี้ยวเสียก่อน** คำอธิบายของอ.ฟาริด ที่ทีมงานวิทยากร ลิ้งค์มาให้อ่าน
นั้น กล่าวว่า **ถ้าเช่นนั้น *อย่างนี้แหละที่ท่านเราะสูลเคยสั่งใช้พวกเรา** คือประเด็นไหนกันแน่**
ยังมีต่อ.......... _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 3:56 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
mahdisaudi บันทึก: | อัสลามุอะลัยกุม ทุกท่าน
อ้าว ท่านอ.อะสานที่รัก ทำไมท่านและ อ.ฟารีด จึงมาโต้แย้งกัลเองเรื่องอิจญติฮาดการพยายามอย่างยิ่งยวดในการวินิจฉัย ที่อ.ฟาริด ว่า หะดีษมัรฟูอฺ ที่อิบนุอับบาสกล่าวสามารถสืบรายงานของบรรดาศอหาบะฮฺไปถึงท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้
ยังมีต่อ...... |
.........
อาบัง mahdisaudi ที่รักของผมครับ
จริงๆแล้ว ในเรื่อง ศาสนาผมมีอิสระเสรี และ ศาสนาไม่ใช่เกมกิฬา ที่ต้องเทคทีมกัน ต้องเล่นให้เข้าขากัน นะครับ ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องคุยกับ อ. ฟารีด ของผมก่อน ประเด็นท้ายหะดิษกุรัยบ์ ที่ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า
هَكَذَا أَمَرَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
คำพูดที่ของท่านอิบนุอับบาสข้างต้น นักวิชาการมีมุมมองหลากหลาย
1. มองว่าเป็นการอิจญติฮาด(การวินิจฉัย)ของท่านอิบนุอับบาสเอง
2. เป็นหะดิษมัรฟัวะก็จริงแต่ ท่านหมายถึง เมื่อไม่เห็นเดือนเสี้ยว ก็นับให้ครบ 30 วัน
อันนี้ผมไม่ได้ติดใจ แต่สิ่งที่ผมไม่ให้ด้วยคือ การเอาหะดิษกุรัยบ์มาสนับสนุนการแบ่งโซนในการกำหนดการเข้า-ออก เดือนเราะมะฏอนและการกำหนดอีด ครับ
ประเด็นนี้ไม่หวังที่จะเอาชนะ เพราะพี่น้องสุนนะฮภาคใต้บ้านเราบางคน ตายไม่ฝังกัน ก็เพราะขัดแย้งเรื่องหะดิษกุรัยบ์นี้แหละท่าน ว่างๆลองสืบดู
........ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 4:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
asan บันทึก: |
2. เป็นหะดิษมัรฟัวะก็จริงแต่ ท่านหมายถึง เมื่อไม่เห็นเดือนเสี้ยว ก็นับให้ครบ 30 วัน
อันนี้ผมไม่ได้ติดใจ แต่สิ่งที่ผมไม่ให้ด้วยคือ การเอาหะดิษกุรัยบ์มาสนับสนุนการแบ่งโซนในการกำหนดการเข้า-ออก เดือนเราะมะฏอนและการกำหนดอีด ครับ
........ |
ประโยคนั้แหละครับที่ผมจะมาสนทนากับท่าน ต่อไป _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 4:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อิหม่ามอันนะวาวีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
" والصحيح عند أصحابنا أن الرؤية لا تعم الناس بل تختص بمن قرب على مسافة لا تقصر فيها الصلاة "
และที่ถูกต้อง ตามทัศนะสหายของเรา(หมายถึงผู้ดำเนินตามแนวมัซฮับชาฟิอี) คือ การเห็น(เดือนเสี้ยว)นั้น จะไม่ครอบคลุมสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ ใช้เฉพาะ ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกันตาม ระยะทางที่ไม่สามารถย่อละหมาดได้เท่านั้น"- ชัรหุมุสลิม เล่ม 1 หน้า 348
ถ้าพิจารณาตามข้อความข้างต้น สรุปได้ว่า เราจะปฏิบัติตามการเห็นเดือนเสี้ยวของใครไม่ได้ นอกจากอยู่ในระยะทางที่ใกล้เคียงกัน คือ ระยะทางที่ย่อละหมาดไม่ได้เท่านั้น ดังนั้น หากอยู่ห่างกันระยะทางเกิน 86 กิโลเมตร ก็จะปฏิบัติตามกันไม่ได้ เพราะอยูคนละมัฏละอฺกัน
จึงอยากถามว่า "เมื่อประกาศเห็นเดือนที่กรุงเทพฯ คนที่สงขลาจะปฏิบัติตามได้หรือไม่เพราะอยู่ห่างเกิน 86 ก.ม? แบบนี้เรียกว่า เรื่องง่าย มาทำให้ยากหรือเปล่าครับ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
BilalThai มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/01/2008 ตอบ: 17
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 9:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขออภัย ผมความรู้น้อย ไม่ได้เรียนศาสนาโดยตรง เลยไม่รู้ภาษาอาหรับ อ่านตำราศาสนาภาษาอาหรับไม่ได้ ขอสรุปเรื่องที่อ่านมาตามประสาคนรู้น้อย และขอถามบ้างนะครับ
1. สรุปว่า อ. asan เชื่อว่าหะดีษกุรอยบ์คืออิจญ์ติฮาดของท่านอิบนิ อับบาสเอง และไม่อาจนำมาเป็นข้อบัญญัติทางศาสนาได้ เพราะเป็นเพียงการวินิจฉัย ส่วนตัว ของเศาะหาบะฮฺท่านหนึ่ง ซึ่งก็แตกต่างไปจากบทความเรื่อง วิพากษ์ฮะดีษกุรอยบ์ ที่คุณวิยากรทำลิ้งค์ให้อ่าน แต่ท่านอาจารย์ผู้เขียนไม่ได้สรุปว่าเป็นการอิจญ์ติฮาดของท่านอิบนิ อับบาส กลับสรุปทิ้งท้ายว่า ท่านอิบนิ อับบาสไม่ยอมรับ การเป็นพยาน ของกุรอยบ์ เพราะมีพยานยืนยันการเห็นเดือนและการเริ่มเข้ารอมฎอนของเมืองชามแค่ปากเดียว
2. อ. asan ยืนยันหลักการที่ว่า ... ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดเมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว และจงออกจากศีลอด(ออกอีด)เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว (หะดีษ) โดยให้คำจำกัดความคำว่า ท่านทั้งหลาย นั้นหมายถึงมุสลิมทุกคน ไม่จำกัดสถานที่และไม่มีพรมแดน(ไม่มีมัฏละอฺ)
ผมขอถามว่า (สมมุติว่า) ถ้าค่ำคืนวันที่ 29 ของเดือนชะบาน อ. asan และคณะออกไปดูดวงจันทร์ที่ตำบลหนึ่งในประเทศไทย แล้วเกิดเห็นเดือน ซึ่งเป็นคณะเดียวในประเทศไทยที่เห็นเดือน ทุกคนในคณะของท่านเป็นคนชอบธรรมและสัตย์ซื่อในการดูเดือน การเห็นเดือนของท่านเผอิญไปสอดคล้องกับนักคำนวณทางดาราศาสตร์ว่ามีเดือนให้เห็นในประเทศไทย ท่านรายงานไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี แต่สำนักจุฬาฯ ไม่ยอมรับการรายงานและคำยืนยันของท่าน เพราะเหตุผลบางประการ
ท่านก็ไม่ละความพยายาม ท่านได้รายงานไปยังคณะกรรมการในสอูดีย์ฯ ที่รับผิดชอบทางด้านการกำหนดวันสำคัญทางศาสนาว่า ท่านและคณะเห็นเดือนเมื่อนั้นเมื่อนี้ อยากทราบว่าผลจะออกมาอย่างไรครับ แล้วถ้าทางสอูดีย์ฯ เองก็ไม่รับคำรายงานของท่านและคณะ ท่านจะทำอย่างไรต่อไปครับ? ท่านจะปฏิบัติอิบาดะฮฺของท่านตามการเห็นเดือนของท่านหรือไม่? แต่ห้ามเปลี่ยนคำสมมุติของผมนะว่า ท่านไม่มีหน้าที่ดูเดือน และท่านจะไม่ดูเดือน
ขณะเดียวกัน สมาชิกในคณะของท่านคนอื่นๆ ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ แต่ไม่มีประเทศไหนยอมรับรายงานของท่านเลย
3.ขอถามคุณวิยากร(หวังว่าคงยังอยู่นะครับ) เพราะท่านพิมพ์ลิ้งบทความ วิพากษ์ฮะดีษกุรอยบ์ เอาไว้ให้อ่าน ผมได้อ่านแล้ว จึงขอเรียนถามท่านในเรื่องจำนวนพยานที่อาจารย์ผู้เขียนกล่าวไว้ ซึ่งเป็นเหตุให้ท่านอิบนิ อับบาสไม่รับคำรายงานการเห็นเดือนที่เมืองชามของกุรอยบ์ แต่ผมมีอีกข้อความหนึ่งมาให้ท่านอ่านนะครับ ได้แก่ข้อความต่อไปนี้ :
.......แม้กระทั่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ยังรับข่าวจากชาวชนบท (أَعْرَابِي คืออาหรับเร่ร่อน) ที่ไม่ใช่ชาวเมืองมะดีนะฮฺ ซึ่งท่านนบีรับฟังข้อมูลที่อาหรับคนนั้นได้แจ้งว่าเห็นหิล้าล โดยไม่ได้ตรวจสอบประวัติของเขาและไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลการเห็นเดือนในเชิงดาราศาสตร์ ว่าเป็นจันทร์คว่ำหรือจันทร์หงาย หรือเห็นในตำแหน่งกี่องศา หรืออื่นๆ........ (จากบทความเรื่อง ความน่าเชื่อถือของข่าวสารการดูจันทร์เสี้ยว(หิล้าล)จากต่างประเทศ ของเชค ริฎอ สมะดี)
ผมแปลกใจหะดีษที่ผู้เขียนบทความกล่าวอ้างสนับสนุนนั้น ไม่ใช่คำพูดตรงๆ ของท่านนบี ศ็อลฯ เป็นแต่เพียงคำอ้างของเศาะหาบะฮฺว่าท่านนบีสั่งอย่างนั้นอย่างนี้ในเรื่องพยาน แต่ข้อความจากบทความเรื่อง ความน่าเชื่อถือของข่าวสารการดูจันทร์เสี้ยว(หิล้าล)จากต่างประเทศ ของเชค ริฎอ กลับอ้างหะดีษจากการปฏิบัติของท่านนบี ศ็อลฯ ตรงๆ ว่าท่านถามอาหรับชนบทคนหนึ่ง ผมไม่มีตัวบทนะครับ จึงอยากให้คุณวิยากร หรือใครก็ได้ช่วยหาตัวบทภาษาอาหรับ และคำแปลมาให้อ่านกันหน่อย เพราะอยากทราบว่า อาหรับชนบทนั้นมีกี่คน ท่านนบีจึงได้เชื่อการเป็นพยานของอาหรับนั้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 9:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
بسم الله الرحمن الرحيم
إِنَّ عِدَّةَ الشُّهُورِ عِنْدَ اللَّهِ اثْنَا عَشَرَ شَهْرًا فِي كِتَابِ اللَّهِ يَوْمَ خَلَقَ السَّمَوَاتِ وَالْأَرْضَ ) التوبة/36 :
**********
فمن شهد منكم الشهر فليصمه
******************
يسئلونك عن الأهلة قل هي مواقيت للناس والحج
البقرة/189
َ ******************
قوله تعالى : ( هُوَ الَّذِي جَعَلَ الشَّمْسَ ضِيَاءً وَالْقَمَرَ نُورًاوَقَدَّرَهُ مَنَازِلَ
***************************
وَالشَّمْسُ تَجْرِي لِمُسْتَقَرٍّ لَهَا ذَلِكَ تَقْدِيرُ الْعَزِيزِ الْعَلِيمِ . وَالْقَمَرَ قَدَّرْنَاهُ مَنَازِلَ حَتَّى عَادَ كَالْعُرْجُونِ الْقَدِيمِ ) يس/38 ، 39
******************
'صوموا لرؤيته وافطروا لرؤيته، فان اغمي عليكم فعدوا ثلاثين
**********
صوموا لرؤيته وافطروا لرؤيته، فإن غم عليكم فأكملوا شعبان ثلاثين". "لاتصوموا حتى تروا الهلال ولا تفطروا حتى تروه فإن غم عليكم فاقدروا له".
อัสลามุอะลัยกุม อ.อะสาน
มาชาอัลลอฮฺ ท่านอ. กับ ท่านโอซากุ จะเข้ามาอยู่ในประเด็นที่น่าติดตาม
ผมจะให้ท่านกลับไปดูประโยคที่ ท่านก๊อดดัรยกคำตอบของอิบนุอุษัยมีน มา
***ประเด็นดังกล่าวนี้จะต้องจะอ้างกลับไปยังผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ หากดวงจันทร์ขึ้นตำแหน่งเดียวกันสำหรับสองประเทศ ถือว่าพวกเขาเป็นเสมือนประเทศเดียวกัน ดังนั้นประเทศใดประเทศหนึ่งจากทั้งสองดังกล่าวมองเห็นจันทร์เสี้ยวกฎนี้จะใช้กับอีกประเทศหนึ่งด้วย แต่หากตำแหน่งที่ขึ้นของดวงจันทร์แตกต่างกัน แต่ละประเทศก็จะใช้กฎของแต่ละประเทศ
( โดย มุฮัมมัด อัลศอลิหฺ อัลอุษัยมีน 28/8/1420 ฮ.ศ. มัจญมูอฺ อัลฟะตาวา 19 )
ท่านลองสมมุตืว่า สงขลากับ กทม
แล้วไปดูของจริง ว่ามักกะฮฺกับมะดีนะฮฺยังใกล้กว่านะครับ
ยังไม่มีการส่งข่าวให้เข้าหรือออกตามกันในสมัยเราะสูลุลลอฮ และคอลีฟะฮฺทั้งสี่
มาสมัยของลูกศิษย์อิมามชาฟิอี ก็ถูกของเขา เพราะสามารถส่งข่าวกันได้เพียงควยม้าควบอูฐถึง
โดยการศึกษาเปรียบเทียบ ว่าชานเมืองมะดีนะฮฺจะใหญ่กว้างไกลสักกี่ กม.
มาในสมัยนั้ ท่านอิบนุอุษัยมีน มาพิจารณาให้สดวกขึ้น เพราะเขต จว.บ้านเมืองใหญ่โตขึ้น
แต่ท่านคงพิจารณา กับบรรดานักปราชญ์อุละมาอฺทางดาราศาสตรฺในสอูดีแล้ว ว่าเมื่อจว.นั้นๆยังคงคำนวนได้ว่ามีจันทร์ค้างฟ้าด้วยและติดต่อกับเมืองหรือ จว.ที่เห็นจันทร์เสี้ยว จึงมีกฏเกณ ตามประเทศนั้นๆ ประเทศไทยยังดีนะครับว่าเส้นลองกิจูดความกว้างของเส้นแวงต่างกัน5-6องศาเท่านั้น ทำให้ง่ายในการเห็น ฮิลาล แต่ประเทศที่จะยุ่งยากคือจีนและรัซเซีย ที่ความกว้างของประเทศ มาก ทำให้สามารถ ออกอีดได้ต่างกันสองวัน เช่น วันจันทร์วันอังคาร
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาออกอีดไม่พร้อมกันนะครับ เพราะเมื่อมาใช้รอบวันดวงจันทร์ที่ท่านก๊อดดัรแนะนำ นั่นคือวันที่1 ของทั้งสองภาค ในรัซเซีย ในจีน
ศาสนาอิสลามเดินสายกลางไม่เคร่งเครียด เป็นเรื่องง่ายเพียงเมืองไหนภาคไหนเห็น ผู้นำของบ้านเมืองนั้นก็จะตัดสินได้ ถ้าในโลกถูกปกครอง โดยอิสลาม คอลีฟะฮฺของเราก็จะไม่เคร่งเครียด
ท่านแยกโซนแยกประเทศ โดยไม่ต้องพร้อมกันในวันเดียวทั่วโลกอย่างที่เราส่วนใหญ่เข้าใจ
******************
สำหรับเรื่อง ลา ฮากะซา อะมะเราะนา เราะสูลุลลอฮฺนั้น บังจะมาเขียนต่อๆไป.......
สำนวนประโยคไม่ได้เรียบเรียง ด้วยรีบร้อยต้องขออภัย. _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Wed Jan 16, 2008 9:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ช่วยแก้คำผิดด้วยครับ อ.
อิมามชาฟิอี ก็ถูกของเขา เพราะสามารถส่งข่าวกันได้เพียงควบม้าควบอูฐถึง _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|