ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - กุรอ่านมะญีด...ผิดตรงใหน??
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
กุรอ่านมะญีด...ผิดตรงใหน??
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 12:08 pm    ชื่อกระทู้: กุรอ่านมะญีด...ผิดตรงใหน?? ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam พี่น้องครับอันเนื่องจากบังASAN ได้ขอให้ผู้ที่บอกว่ากุรอ่านมะญีดผิด ช่วยยกมาให้ชมหน่อยว่าผิดตรงใหน? อย่างไร? ก็บังเอิญมีคนอาสาจะแปล จะคัดมาให้ดูให้ศึกษากันนะครับ ก็เชิญผู้แสวงหาความรู้พิจารณา,ติชม ,ซักถามกันได้นะครับ.
แนวทางในการนำเสนอในกระทู้นี้จะเป็นดังนี้นะครับ
1- เสนอตัฟซีรในเเนว อะห์ลิซซุนนะห์ ให้ทราบก่อนว่าเขาอธิบายกันว่าอย่างไร
2- เสนอข้อความในกุรอ่านมะญีดพร้อมคำอธิบายของ อ.ดิเรกถ้ามี
3- ส่วนประเด็นที่ว่าจะแก้ยังงัย? ก็ขอให้ฟังโต๊ะครูที่พูดถึงเรื่องนี้อยู่แต่ละกลุ่มแล้วกันว่าเขาบอกว่าต้องแก้อย่างไร? เรื่มเลยนะครับ
مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ الَّذِي اسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْلَهُ ذَهَبَ اللَّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ لَا
يُبْصِرُونَ

يُقَال مَثَل وَمِثْل وَمَثِيل أَيْضًا وَالْجَمْع أَمْثَال قَالَ اللَّه تَعَالَى " وَتِلْكَ الْأَمْثَالُ نَضْرِبُهَا لِلنَّاسِ وَمَا يَعْقِلُهَا إِلَّا الْعَالِمُونَ " وَتَقْدِير هَذَا الْمَثَل أَنَّ اللَّه سُبْحَانه شَبَّهَهُمْ فِي اِشْتِرَائِهِمْ الضَّلَالَة بِالْهُدَى وَصَيْرُورَتهمْ بَعْد الْبَصِيرَة إِلَى الْعَمَى بِمَنْ اِسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْله وَانْتَفَعَ بِهَا وَأَبْصَرَ بِهَا مَا عَنْ يَمِينه وَشِمَاله وَتَأَنَّسَ بِهَا فَبَيْنَا هُوَ كَذَلِكَ إِذْ طُفِئَتْ نَاره وَصَارَ فِي ظَلَام شَدِيد لَا يُبْصِر وَلَا يَهْتَدِي وَهُوَ مَعَ هَذَا أَصَمّ لَا يَسْمَع أَبْكَم لَا يَنْطِق أَعْمَى لَوْ كَانَ ضِيَاء لَمَا أَبْصَرَ فَلِهَذَا لَا يَرْجِع إِلَى مَا كَانَ عَلَيْهِ قَبْل ذَلِكَ فَكَذَلِكَ هَؤُلَاءِ الْمُنَافِقُونَ فِي اِسْتِبْدَالهمْ عِوَضًا عَنْ الْهُدَى وَاسْتِحْبَابهمْ الْغَيّ عَلَى الرُّشْد
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 12:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จาก อัลบากอเราะห์ อายะห์ 17 คัดจาก ตัฟซีร อิบนิกะซี๊ร ตามลิงค์นี้ครับhttp://quran.al-islam.com/Tafseer/DispTafsser.asp?l=arb&taf=KATHEER&nType=1&nSora=2&nAya=17
ขอสรุป ภาษาอาหรับนะครับ
"ในอายะห์นี้ อัลลอฮฺทรงเปรียบ "มุนาฟิกีน" ที่ยอมแลกทางนำ ด้วยการหลงผิด เปลี่ยนจากผู้ที่มีตามองเห็นสัจธรรม กลายเป็นคนตาบอด อัลลอฮฺเปรียบพวกนี้ดัง "ผู้ที่จุดไฟ" ขึ้นมาในความมืดเขาก็สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบๆตัวและใช้ประโยชน์จากแสงสว่างนั้น แล้วจู่ๆไฟที่เขาจุดขึ้นก็ถูกดับลงทำให้เขาตกอยู่ในความมืดมิดมองไม่เห็นทาง และยิ่งไปกว่านั้นเขายัง หูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด แม้ว่าจะมีแสงสว่างขึ้นมาอีกเขาก็จะไม่เห็น และด้วยเหตุนี้แหละเขาจะไม่กลับมาในสภาพเดิมได้อีก.เสมือนพวกมุนาฟิกีนที่จะไม่กลับมาเป็นผู้รับทางนำได้อีก.... )
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 1:09 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คราวนี้มาดูกุรอ่านมะญีดเล่ม 1 หน้า 9-10 ฉบับล่าสุด อายะห์เดียวกัน
17- อุปมาของพวกเขาดั่งอุปใมยของผู้(หนึ่งเช่นมูฮำหมัดเมื่อเขา)จุดไฟ(เพื่อส่องสว่างแก่โลก)ดังนั้นเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่อยู่รอบๆพวกเขา อัลลอฮ์ทรงขจัดแสงสว่าง(จากสายตา)ของพวกเขา(เนื่องจากความดื้อด้านหลับตาต่อสัจธรรมในอิสลามซึ่งมุหัมมัดได้ส่องขึ้นและทรงละพวกเขาไว้ในความมือทึบ พวกเขามองไม่เห็น(6:39)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 1:30 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

เมื่อท่านติผู้อื่นว่าผิด ท่านต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมอยู่แล้ว
ฉะนั้นอย่าทำแบบสรุปนะครับ ขอให้เอารายละเอียดมาชี้แจงจะเป็นประโยชน์กว่า

1.นำคำแปลที่ถูกต้องของอายะห์ที่ท่านยกมาแสดง เพื่อจะเทียบคำแปลของ อ.ดิเรก ที่ท่านกล่าวหาว่าผิด
2.นำคำอธิบายที่ถูกต้องของอายะห์ที่ท่านยกมาแสดง เพื่อจะเทียบคำอธิบายของ อ.ดิเรก ที่ท่านกล่าวหาว่าผิด

เทียบให้เห็นชัดเจนทีละข้อจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านมากกว่า ขออัลเลาะห์ตอบแทนทุกท่านครับ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 2:32 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[quote="ali"]salam

เมื่อท่านติผู้อื่นว่าผิด ท่านต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมอยู่แล้ว
ฉะนั้นอย่าทำแบบสรุปนะครับ ขอให้เอารายละเอียดมาชี้แจงจะเป็นประโยชน์กว่า

1.นำคำแปลที่ถูกต้องของอายะห์ที่ท่านยกมาแสดง เพื่อจะเทียบคำแปลของ อ.ดิเรก ที่ท่านกล่าวหาว่าผิด
2.นำคำอธิบายที่ถูกต้องของอายะห์ที่ท่านยกมาแสดง เพื่อจะเทียบคำอธิบายของ อ.ดิเรก ที่ท่านกล่าวหาว่าผิด

เทียบให้เห็นชัดเจนทีละข้อจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านมากกว่า ขออัลเลาะห์ตอบแทนทุกท่านครับ

wassalam[/quote
คำตอบอยู่ข้างบนครับ
]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 8:07 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ الَّذِي اسْتَوْقَدَ نَاراً فَلَمَّا أَضَاءتْ مَا حَوْلَهُ ذَهَبَ اللّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَاتٍ لاَّ يُبْصِرُونَ
[2.17] สภาพของพวกเขาอาจอุปมาได้ดังชายคนหนึ่งได้จุดไฟขึ้น และเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่รอบ ๆเขา อัลลอฮ์ก็ได้เอาแสงสว่างนั้น ออกไปจากตาของพวกเขา และปล่อยพวกเขาไว้ในความมืดทึบ ที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด
http://www.muslimthai.com/main/thai/network.php?url=http://www.muslimthaihealth.com
มาดูคำอธิบาย
1. อิหม่ามอิบนุญะรีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
عَنْ عِكْرِمَة أَوْ عَنْ سَعِيد بْن جُبَيْر , عَنْ ابْن عَبَّاس , قَالَ : ضَرَبَ اللَّه لِلْمُنَافِقِينَ مَثَلًا فَقَالَ : { مَثَلهمْ كَمَثَلِ الَّذِي اسْتَوْقَدَ نَارًا فَلَمَّا أَضَاءَتْ مَا حَوْله ذَهَبَ اللَّه بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَات لَا يُبْصِرُونَ } أَيْ يُبْصِرُونَ الْحَقّ وَيَقُولُونَ بِهِ , حَتَّى إذَا خَرَجُوا بِهِ مِنْ ظُلْمَة الْكُفْر أَطْفِئُوهُ بِكُفْرِهِمْ وَنِفَاقهمْ فِيهِ فَتَرَكَهُمْ فِي ظُلُمَات الْكُفْر فَهُمْ لَا يُبْصِرُونَ هُدًى وَلَا يَسْتَقِيمُونَ عَلَى حَقّ
จากอิกริมะฮ หรือจากสะอีด บุตร ญุบัยร์ จากอิบนิอับบาส กล่าวว่า อัลลอฮทรงยกอุทาหรณ์ ของพวกมุนาฟิกูน โดยตรัสว่า (สภาพของพวกเขาอาจอุปมาได้ดังชายคนหนึ่งได้จุดไฟขึ้น และเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่รอบ ๆเขา อัลลอฮ์ก็ได้เอาแสงสว่างนั้น ออกไปจากตาของพวกเขา และปล่อยพวกเขาไว้ในความมืดทึบ ที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด) กล่าวคือ พวกเขามองเห็นสัจธรรม และพวกเขากล่าวด้วยมัน จนกระทั่งพวกเขาได้ออกจากความืดแห่งกุฟุรด้วยมัน และแล้วพวกเขาก็ดับมันด้วยการกุฟุรและความกลับกลอกของพวกเขาในนั้น แล้วมันได้ปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ในความมืดของการกุฟุรต่อไป เพราะพวกเขามองไม่เห็น(คุณค่าของ)ทางนำ และพวกเขาไม่ได้ยืนหยัดอยู่บนสัจธรรม” – ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮ อัลบะเกาะเราะฮ
2. อิหมามอัชเชากานีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
ضرب الله هذا المثل للمنافقين لبيان أن ما يظهرونه من الإيمان مع ما يبطنونه من النفاق لا يثبت لهم به أحكام الإسلام، كمثل المستوقد الذي أضاءت ناره ثم طفئت، فإنه يعود إلى الظلمة، ولا تنفعه تلك الإضاءة اليسيرة، فكان بقاء المستوقد في ظلمات لا يبصر كبقاء المنافق في حيرته وتردده
อัลลอฮทรงยกอุทาหรณ์นี้ สำหรับพวกมุนาฟิกีน(พวกกลับกลอก) เพื่ออธิบายว่า “พวกเขาแสดงให้เห็นภายนอกว่า ศรัทธา (อีหม่าน) ทั้งๆที่พวกเขาปิดบังความกลับกลอก(นิฟาก)ไว้ภายใน ข้อกำหนด(หุกุม)แห่งอัลอิสลามไม่ได้ให้การรับรองพวกเขาด้วยมัน อุปมาดั่งเช่น ผู้ที่จุดไฟ ซึ่งไฟของเขาได้ให้แสงสว่าง ต่อมามันได้ถูกดับลง แล้วเขาผู้นั้นก็กลับไปอยู่ในที่มืดต่อไป และแสงสว่างเพียงระยะเวลาอันเล็กน้อยดังกล่าวนั้น มันไม่ได้ก่อประโยชน์ให้แก่เขา ดังนั้น ผู้ที่จุดไฟคนนั้น ก็ยังคงอยู่ในความมืด มองไม่เห็นต่อไป อุปมาดังเช่น คนกลับกลอก(มุนาฟิก) ยังคงอยู่ในความสับสนและลังเลอีกต่อไป” - ตัฟสีรฟัตหุ้ลเกาะดีร อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮ อัลบะเกาะเราะฮ
..................
อยากจะเรียนว่า ถ้าเราไปดูในตัฟสีรต่าง จะพบว่า คำอธิบายอายะฮข้างต้นมีความหลากหลาย ไม่มีอุลามาอ์คนใหนตัดสินว่า แบบใหนผิด แบบใหนถูก และอุทาหรณ์ดังกล่าวไม่ได้เฉพาะพวกมุนาฟิกูนในสมัยของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แต่ใครก็ตามที่ เมื่อได้รับทางนำแล้ว ต่อมาเขาได้ทอดทิ้งทางนำไป เพราะ ความกลับกลอก และความลังเลของเขา เขาก็ไม่ต่างกับบรรดาพวกสัปปลับหรือกลักกลอกดังกล่าว ดังนั้น การแปลของอาจารย์ดิเรก อธิบายว่า อุปมาดังที่ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้นำแสงสว่างแห่งทางนำมายังชาวโลก แล้วผู้ที่มองไม่เห็นคุณค่าแสงสว่างแห่งทางนำ และไม่นำมาปฏิบัติเพราะความดื้อรั้น เขาก็ตกอยู่ในความมืดแห่งความหลงผิดต่อไป จึงไม่ทราบว่าถ้าอธิบายลักษณะนี้ กลายเป็นก็อดยานีย์ เป็นกาเฟร เชียวหรือ
ต้องไม่ลืมว่า อัลกุรอ่านเป็นบทเรียนแก่มนุษย์ ตลอดไปจนถึงวันกิยามะฮ
العبرة بعموم اللفظ لا بخصوص السبب
การพิจารณาบทเรียนนั้น ด้วยถ้อยคำที่กล่าวเอาไว้ทั่วไป ไม่ได้จำกัดเฉพาะสาเหตุ
.............
จึงอยากจะถามว่า การแปลอายะฮข้างต้น จุดใหนหรือ ที่มันเลวร้ายถึงขนาดพวกท่านกล่าวหาว่า ท่านอ. ดิเรกว่า เป็นกอ็ดยานีย์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Sep 05, 2007 10:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

3. ท่านอิบนุเญาซีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
في المراد بـ الظلمات هاهنا أربعة أقوال. أحدها: العذاب، قاله ابن عباس، والثاني: ظلمة الكفر، قاله مجاهد. والثالث: ظلمة يلقيها الله عليهم بعد الموت؛ قاله قتادة. والرابع: أنها نفاقهم، قاله السدي

ในความหมายคำว่า “อัซซุลุมาต(ความมืด)”ในที่นี้ มี 3 ทัศนะ
ทัศนะที่หนึ่ง หมายถึงการลงโทษ ซึ่งเป็นทัศนะของอิบนุอับบาส
ทัศนะที่สอง หมายถึง ความมืดแห่งการกุฟุร ซึ่งเป็นทัศนะของ มุญาฮิด
ทัศนะที่ สาม หมายถึง ความมืดที่อัลลอฮให้ประสบกับพวกเขาหลังความตาย ซึ่งเป็นทัศนะของ เกาะตาดะฮ
ทัศนะที่สี่ หมายถึง ความสัปปลับ(นิฟาก)ของพวกเขา ซึ่ง เป็นทัศนะของอัสสุดดีย์
- ตัฟสีรอิบนุเญาซีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮ อัลบะเกาะเราะฮ
.................
จึงอยากจะถามน้อง มุสลิม 72 และ คุณชารีฟ แห่งมินบุรี ว่า ทัศนะใหนถูก ทัศนะใหนผิด ผมยกมาเพื่อให้เห็นว่า มุมมองในการอธิบายอัลกุรอ่านมันหลากหลาย ถ้าจะชี้ว่า ถูกผิด ก็ต้องดูที่หะดิษหรืออัสสุนนะฮและเหล่าสะลัฟส่วนใหญ่เขาให้ความหมายว่าอย่างไรมากกว่า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Thu Sep 06, 2007 10:37 am    ชื่อกระทู้: جزاكم & ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณบังASAN มากครับ ที่นำเอาตัฟซี๊ร ที่อยู่ในแนวอะห์ลิซซุนนะห์ มาอธิบายให้ได้หาความรู้แก่น้องๆนะครับ ไอ้จะให้ผมบอกว่าบรรดาตัฟซี๊รที่ท่ายยกมานี่เล่นใหนผิด เล่มใหนถูกผมคงไม่บังอาจหรอกครับเพราะแต่ละท่านล้วนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักวิชาการซุนนะห์ แต่ถ้าน้องจะรบกวนบัง ให้นำมาอีกซัก2-3 เล่มได้ใหมครับ? แต่ถ้าบังไม่สะดวก ก็จะให้ผมไปคัดภาษาอาหรับมาให้บังแปลก็ได้? รบกวนด้วยนะครับ wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Sep 06, 2007 11:38 am    ชื่อกระทู้: Re: جزاكم ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มุสลิม72 บันทึก:
ขอบคุณบังASAN มากครับ ที่นำเอาตัฟซี๊ร ที่อยู่ในแนวอะห์ลิซซุนนะห์ มาอธิบายให้ได้หาความรู้แก่น้องๆนะครับ ไอ้จะให้ผมบอกว่าบรรดาตัฟซี๊รที่ท่ายยกมานี่เล่นใหนผิด เล่มใหนถูกผมคงไม่บังอาจหรอกครับเพราะแต่ละท่านล้วนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักวิชาการซุนนะห์ แต่ถ้าน้องจะรบกวนบัง ให้นำมาอีกซัก2-3 เล่มได้ใหมครับ? แต่ถ้าบังไม่สะดวก ก็จะให้ผมไปคัดภาษาอาหรับมาให้บังแปลก็ได้? รบกวนด้วยนะครับ wassalam

..........
salam
น้องมุสลิม 72 ครับ นอกเรื่องแล้วนะครับ คือ บังต้องการให้น้องและคุณชารีฟ ชี้ชัดว่า จุดใหนที่อ.ดิเรก แปลผิดร้ายแรง จนต้องถูกประนามว่า "กอ็ดยานีย์เมืองไทย" ในกระทู้นี้ไม่ใช่สถานที่บริการรับแปลหนังสือนะครับ แต่เป็นกระทู้แฉถึงความผิดของคนๆหนึ่งนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Thu Sep 06, 2007 2:14 pm    ชื่อกระทู้: ใจร่มๆบัง ไม่ได้นอกเรื่อง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แหม่บังก็ไม่น่าเกิดอารมณ์เลย ก็ผมเห็นบังมีตัฟสีร เยอะ แปลก็เก่ง เราน่าจะร่วมมือกันหาความจริงให้สังคมได้รับทราบไม่ใข่หรือครับ เอาน่าใหนๆบังก็ขอให้ผมชี้ว่าผิดตรงใหน? บังก็ช่วยผมด้วยแล้วกัน อีกอย่างผมก็ไม่ได้ชี้เองด้วย พอดีมีคนเขาอาสาคัดมาให้นะบังว่า กุรอ่านมะญีด ผิดตรงใหน? ตามที่บังถาม อีกอย่างที่ตั้งกระทู้นี้ ผมไม่ได้บอก หรือกล่าวหาใครว่าเป็น ก๊อดยานีย์ เป็นการเฟร และก็ไม่มีประสงค์จะเปิดโปงใครโดยเฉพาะคนที่ไปสอนใครบอกใครอีกไม่ได้แล้ว(เพราะนอนอยู่ในกุโบร์) แต่ต้องการจะชี้ให้สังคมทราบว่า ในปลาทอดหอมกรุ่นที่วางอยู่ข้างหน้ารอให้ทุกคนตักใส่ปาก มันมีก้างที่พร้อมจะสร้างความเจ็บปวดให้กับคนกินได้โดยเฉพาะเด็กๆที่ไม่รู้ว่าตรงใหนเนื้อ ตรงใหนก้าง่.....ก็ช่วยๆกันนะบัง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Sep 06, 2007 7:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ไม่ได้นะครับ อายะฮข้างต้น อ. ดิเรก แปลผิดตรงใหน และ การแปลแบบนั้นเป็นกอ็ดยานีย์อย่างไร ผมไม่ได้มาประกาศว่าจะแฉกอดยานีย์นะครับ ถ้าไม่ชี้แจง เอาอายะฮต่อไปนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม72
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 08/09/2005
ตอบ: 63


ตอบตอบ: Fri Sep 07, 2007 10:27 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

asan บันทึก:
ไม่ได้นะครับ อายะฮข้างต้น อ. ดิเรก แปลผิดตรงใหน และ การแปลแบบนั้นเป็นกอ็ดยานีย์อย่างไร ผมไม่ได้มาประกาศว่าจะแฉกอดยานีย์นะครับ ถ้าไม่ชี้แจง เอาอายะฮต่อไปนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา

ผมไม่เข้าใจครับ ว่า "ไม่ได้นะครับ"ของบังนี่ไม่ได้เรื่องอะไรครับ ถ้ากล้วผมจะไม่บอกว่าผิดตรงใหน? อันนี้ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่เปลี่ยนแน่จนกว่าจะบอกว่า "ผิดตรงใหน"แต่เพื่อให้การนำเสนอเป็นไปอย่างรอบคอบที่สุดที่ผมจะทำได้เลยต้องหาข้อมูลประกอบเยอะหน่อยนะบัง ยิ่งบังไม่ช่วยแปลนี่ยิ่งช้าใหญ่ เดี๋ยวเสนออะไร"บกพร่อง" ไปคนรุ่นหลังจะเอามาเถียงกันไม่เลิกอีก ใจเย็นหน่อยนะบัง อาจารย์บางคนยังต้องใช้เวลาตั้ง 8 ปี กว่าจะเลิกคบกับอาจารย์อีกคนหนึ่งเพราะเรื่องแปล กุรอ่าน, อาจารย์คนที่เพื่อนเลิกคบนี่ก็ต้องใช้เวลาอีก 14 ปี ถึงจะรู้ว่าตัวเองเขลาไป ....... ผมคงไม่ให้บังรอนานขนาดนั้นหรอกครับ
วันนี้ได้มาอีกหนึ่งตัฟซี๊รครับ แต่ยังไม่ได้แปล....ไม่รู้........จะมีใครช่วยรึเปล่า?
مختصر تفسير البغوي المسمى بمعالم التنزيل
قال ابن عباس : نزلت في المنافقين ، يقول : مثلهم في نفاقهم كمثل رجل أوقد نارًا في ليلة مظلمة في مفازة فاستدفأ ورأى ما حوله فاتقى مما يخاف ، فبينما هو كذلك إذ طفئت ناره فبقي في ظلمة خائفًا متحيرًا ، فكذلك المنافقون بإظهار كلمة الإيمان أمِنُوا على أموالهم وأولادهم وناكحوا المؤمنين ، ووارثوهم وقاسموهم الغنائم ، فذلك نورهم ، فإذا ماتوا عادوا إلى الظلمة والخوف
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Sep 07, 2007 11:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตอบ: Fri Sep 07, 2007 10:27 am ชื่อกระทู้: ข้อความของมุสลิม 72

--------------------------------------------------------------------------------

asan บันทึก:
ไม่ได้นะครับ อายะฮข้างต้น อ. ดิเรก แปลผิดตรงใหน และ การแปลแบบนั้นเป็นกอ็ดยานีย์อย่างไร ผมไม่ได้มาประกาศว่าจะแฉกอดยานีย์นะครับ ถ้าไม่ชี้แจง เอาอายะฮต่อไปนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา

ผมไม่เข้าใจครับ ว่า "ไม่ได้นะครับ"ของบังนี่ไม่ได้เรื่องอะไรครับ ถ้ากล้วผมจะไม่บอกว่าผิดตรงใหน? อันนี้ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่เปลี่ยนแน่จนกว่าจะบอกว่า "ผิดตรงใหน"แต่เพื่อให้การนำเสนอเป็นไปอย่างรอบคอบที่สุดที่ผมจะทำได้เลยต้องหาข้อมูลประกอบเยอะ
...............

ผิดตรงใหนเอ๋ย ทำไมช้าจัง ไม่ทันใจวัยรุ่น (เดอะ)เลย Very Happy
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อิลยาส
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005
ตอบ: 279


ตอบตอบ: Fri Sep 07, 2007 6:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอลัยกุม...
เอางี้ทุกท่านค่อยๆคุยกาน..ปลดกันเป็นข้อๆดีมั๊ย?
1. มุฟัรซีรคือใคร ? ใครกะตัฟซีรกรุอ่านได้ (ไม่ต้องมีอุซูล และกออีดะฮฺต่างๆ)?
2. เนื้อหาที่แปลนั่นหนะ..เป็น นัศ (ตัวบท) หรือ มัฟฮุม(ความเข้าจัย) ?
3. ถ้าเป็นมัฟฮุม..มัฟฮุมของใคร..เป็นมัฟฮุมประเภทไหน?..หรือ มัฟฮุมมุคตีย์อฺ?
4. แล้วตัฟซีรแบบนั้น.เราจะ เอี๊ยะติกอด..ตามนั้นได้มั้ย?
5. เนื้อความแบบครอบคลุม..แร้วนำมาแจกแจงต้องนี้ตัวบทมั๊ย?

ยังไม่ต้องสรุปว่าผิดหรือถูกนะคั๊บ...เอาแค่นี้ก่อน

วัสลาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AlGhuraba
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 226


ตอบตอบ: Fri Sep 07, 2007 9:08 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอเอาแยมมาช่วยทาขนมปังด้วยคนครับ
ไม่ได้ป่วน ไม่ไม่ได้ยวน ไม่ได้อยู่ข้างใครนะครับ
เพียงอยากเสริมในส่วนที่มี และขอความรู้เพิ่มในส่วนที่ขาด .... ในเชิงวิชาการ เท่านั้นแหละ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า ผมไม่ได้กล่าวหาว่าใครเป็นอะไร หรือไม่ ....นอกจากอัลลอฮฺแล้ว ตัวของเขาเองย่อมรู้ดีกว่าใครเพื่อน.... แล้ววันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะทรงตัดสินพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน ซึ่ง ณ เวลานั้น ไม่มีใครสักคนในพวกเราที่จะเถียงหรือแก้ตัวได้
กลับมาดูประเด็นของอายะฮฺนี้กันดีกว่า

ผุ้จุดไฟคือใคร? .... ตามที่อาจารย์ asan ยกหลักฐานมาข้างต้น อุละมาอ์ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นมุนาฟิก...ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกหรือป่าวครับ?

อิหม่ามอิบนุญะรีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) : อัลลอฮทรงยกอุทาหรณ์ ของพวกมุนาฟิกูน โดยตรัสว่า (สภาพของพวกเขาอาจอุปมาได้ดังชายคนหนึ่งได้จุดไฟขึ้น และเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่รอบ ๆเขา อัลลอฮ์ก็ได้เอาแสงสว่างนั้น ออกไปจากตาของพวกเขา และปล่อยพวกเขาไว้ในความมืดทึบ ที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด)
กล่าวคือ พวกเขามองเห็นสัจธรรม และพวกเขากล่าวด้วยมัน จนกระทั่งพวกเขาได้ออกจากความมืดแห่งกุฟุรด้วยมัน และแล้วพวกเขาก็ดับมันด้วยการกุฟุรและความกลับกลอกของพวกเขาในนั้น แล้วมันได้ปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ในความมืดของการกุฟุรต่อไป เพราะพวกเขามองไม่เห็น(คุณค่าของ)ทางนำ และพวกเขาไม่ได้ยืนหยัดอยู่บนสัจธรรม”


อาจจะยังไม่ค่อยชัดนักว่าใครจุด แต่ค่อนข้างชัดเจนว่า พวกที่ได้รับประโยชน์ในเบื้องต้นจากแสงสว่างนั้นคือ มุนาฟิก ซึ่งต่อมาก็หลุดออกไปอยู่นอกแนวทางอิสลามในที่สุด
-------------------------------
อิหมามอัชเชากานีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) : อัลลอฮทรงยกอุทาหรณ์นี้ สำหรับพวกมุนาฟิกีน(พวกกลับกลอก) .... อุปมาดั่งเช่น ผู้ที่จุดไฟ ซึ่งไฟของเขาได้ให้แสงสว่าง ต่อมามันได้ถูกดับลง แล้วเขาผู้นั้นก็กลับไปอยู่ในที่มืดต่อไป และแสงสว่างเพียงระยะเวลาอันเล็กน้อยดังกล่าวนั้น มันไม่ได้ก่อประโยชน์ให้แก่เขา ดังนั้น ผู้ที่จุดไฟคนนั้น ก็ยังคงอยู่ในความมืด มองไม่เห็นต่อไป อุปมาดังเช่น คนกลับกลอก(มุนาฟิก) ยังคงอยู่ในความสับสนและลังเลอีกต่อไป” - ตัฟสีรฟัตหุ้ลเกาะดีร อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮ อัลบะเกาะเราะฮ

อันนี้ชัดเจนว่า ผู้จุดไฟคือ มุนาฟิก ซึ่งในที่สุดตัวเองก็กลับออกไปอยู่ในความมืดและหลงทาง

ซึ่งในตัฟสีรฉบับอื่นๆ ก็อธิบายในลักษณะเดียวกันว่า ผู้จุดไฟคือ มุนาฟิก ไม่ว่าจะของอัลหาฟิซ อิบนิกะษีร หรือของอิมามกุรฎุบี

อาจารย์ asan บอกว่า “การแปลอายะฮข้างต้น จุดใหนหรือ ที่มันเลวร้ายถึงขนาดพวกท่านกล่าวหาว่า ท่านอ. ดิเรกว่า เป็นกอ็ดยานีย์”
เลยต้องกลับไปดูที่คุณ มุสลิม72 อ้างไว้อีกทีว่า
“กุรอ่านมะญีดเล่ม 1 หน้า 9-10 ฉบับล่าสุด อายะห์เดียวกัน
17- อุปมาของพวกเขาดั่งอุปใมยของผู้(หนึ่งเช่นมูฮำหมัดเมื่อเขา)จุดไฟ(เพื่อส่องสว่างแก่โลก)ดังนั้นเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่อยู่รอบๆพวกเขา อัลลอฮ์ทรงขจัดแสงสว่าง(จากสายตา)ของพวกเขา(เนื่องจากความดื้อด้านหลับตาต่อสัจธรรมในอิสลามซึ่งมุหัมมัดได้ส่องขึ้นและทรงละพวกเขาไว้ในความมือทึบ พวกเขามองไม่เห็น(6:39)
”

ผมขออนุญาตอ้างต่อไปอีกว่า นายมุฮัมมัด อฺะลี ... คนนี้คงไม่มีใครค้านว่า ไม่ใช่ก็อดยานี แม้เขาจะเรียกตัวเองว่าเป็น อะหฺมะดียะฮฺ (สาขาลาโฮร์) ก็ตาม ... แปลและอธิบายอายะฮฺนี้ว่า

17 Their parable is as the parable of one who kindles a fire,(a) but when it illumines all around him, Allah
takes away their light,(b) and leaves them in darkness — they cannot see.


17a. The kindler of the fire is the Holy Prophet, who kindled the torch of light. The opening words of a hadith are: “My example is the example of a man who kindles afire...” (B. 81:26). The personal pronouns used lend weight to this interpretation. The kindler of the fire and the illuminer is one, while those whose light is taken away are many. This interpretation of the parable is, moreover, in accordance with the next parable, where the rain is unanimously agreed upon as representing the Divine Revelation.
17b. The light of their eyes, which alone could make them take advantage of the light which was lit up by the Prophet, was taken away. The act of taking away the light is attributed to Allah, as the remote cause of the disappearance of their sight.



อุปมาของพวกเขาดั่งอุปมัยของผู้ที่จุดไฟ(a) แต่เมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่อยู่รอบๆเขา อัลลอฮฺทรงขจัดแสงสว่างของพวกเขาออกไป(b) และทรงละพวกเขาไว้ในความมืดทึบ พวกเขามองไม่เห็น

โดยมีคำขยายความ(เชิงอรรถ)ว่า
(17a) ผู้จุดไฟก็คือท่านนบี ซึ่งเป็นผู้จุดประทีปแห่งแสงสว่าง ดังมีปรากฎในตอนต้นของหะดีษหนึ่งว่า “อุปมาของฉันอุปมาดังชายคนหนึ่งที่จุดไฟ....” (ดู บุคอรี 81:26) สรรพนามแทนบุคคลที่ใช้ในอายะฮฺนี้ให้น้ำหนักต่อการตีความแบบนี้อย่างมาก ผู้จุดไฟและผู้ให้แสงสว่างนั้นเป็นบุคคลคนเดียว(เอกพจน์) ในขณะที่พวกที่ถูกขจัดแสงสว่างออกไปนั้นมีหลายคน(พหูพจน์) ยิ่งกว่านั้นการตีความอุปมาอุปมัยนี้ยังสอดคล้องกับในอายะฮฺต่อไปด้วย คือ ฝน เป็นที่ยอมรับเป็นเอกฉันท์ว่าหมายถึง วะฮีย์จากพระผู้เป็นเจ้า
(17b) แสงสว่างแก่ดวงตาของของพวกเขา ที่ถูกจุดขึ้นโดยท่านนบีเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากแสงสว่างนั้น กลับถูกขจัดออกไป การจัดการให้แสงสว่างนั้นหายไปเป็นเรื่องของอัลลอฮฺ ซึ่งนี่เป็นเหตุให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้

===========================
ทีนี้ผมมาลองคิดเอาเองว่า...สมมุติว่าจะแปลว่าผู้จุดไฟคือนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม ไฟที่จุดนั้นย่อมต้องเป็น นูรุลลอฮฺ คืออัลอิสลามซึ่งไม่มีวันดับ ไม่มีใครสามารถดับแสงสว่างของอัลลอฮฺได้อย่างเด็ดขาด...ใช่มั๊ยครับ... แต่ในอายะฮฺนี้ ไฟดับ ความสว่างกลายเป็นความมืด ซึ่งผิดจากความเป็นจริง ดังนั้น ผมจึงเห็นด้วยว่าผู้จุดไฟนี้ ไม่ใช่ท่านนบี และแสงสว่างที่พวกเขาจุดขึ้นมานั้น ก็เป็นเพียงความสว่างชั่วคราวเท่านั้น

และในส่วนที่อ้างถึงการใช้สรรพนาม เอกพจน์-พหูพจน์ ก็น่าสนใจจนเกือบเคลิ้มตาม แต่ในกุรฏูบีอ้างอายะฮฺอื่นมาประกอบแก้ลำได้ว่า

" وَاَلَّذِي جَاءَ بِالصِّدْقِ وَصَدَّقَ بِهِ أُولَئِكَ هُمْ الْمُتَّقُونَ " [ الزُّمَر : 33 ]
ผมขอไม่แปลนะครับ .... แต่จะสรุปให้คิดว่า
“ผู้ที่นำ อัศศิดก์ มา” ใช้แทนด้วยสรรพนามเอกพจน์ แล้วตอนท้ายอายะฮฺก็สรุปว่า “พวกเหล่านี้” ... ใช้สรรพนามเป็นพหูพจน์
นั่นคือท่านพยายามจะบอกว่า ในสำนวนอรับ บางครั้ง เอกพจน์-พหูพจน์ เขาใช้แทนกันได้ ไม่ขัดเขิน เพื่อจะสรุปว่า คนจุดไฟกับคนที่ถูกริบแสงสว่างไปนั้น จะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ตาม เป็นชนิดเดียวกัน คือ มุนาฟิกฺ

และเพื่อให้ความเป็นธรรม ไปสำรวจดูฉบับภาษาอังกฤษ ท่านยูสุฟอะลี ก็อธิบายว่าเป็นมุนาฟิก แต่ฉบับอื่นๆไม่มีคำอธิบาย แต่ที่น่าคิดก็คือ ตัฟฮีมุลกุรอาน ของอบุลอะอฺลา เมาดูดี ซึ่งอยู่ในค่ายตรงข้ามสุดขั้วกับกอดยานี เท่าที่ผมพอหาได้คือฉบับภาษาอังกฤษ ก็อธิบายว่าผู้จุดไฟคือท่านนบีเหมือนกัน อันนี้ไปสอบเทียบกับฉบับภาษาไทยที่อาจารย์บรรจงแปลไว้ก็ได้ ที่ผมบอกว่าน่าคิดก็คือ เราเห็นแต่ฉบับภาษาอังกฤษ(กับภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาอังกฤษอีกทีนึง) แต่ท่านอบุลอะอฺลา เมาดูดี เขียนต้นฉบับเป็นภาษาอุรดู

ขอฝากคำถามเป็นการบ้านไว้ว่า ศิษย์เก่านัดวะฮฺทั้งหลาย ท่านพอจะหาต้นฉบับภาษาอุรดูมายืนยันได้หรือไม่ครับว่า จริงๆแล้ว เมาดูดีเขียนไว้ว่า “ใครจุดไฟ” กันแน่ เป็นไปได้หรือไม่ว่า เกิด distortion ระหว่างการข้ามมิติจาก อุรดูไปเป็นอังกฤษ ??? แล้วภาษาไทยก็รับลูกมาเต็มๆโดยมิได้สอบทาน

ดังนั้นก็ลองเทียบดูเองละกันครับว่า ใครไปทางไหน ผมคงมิบังอาจชี้นำไปทางใดได้หรอก...ขอเรียนอีกครั้งว่า เราคุยกันในเชิงวิชาการ

อัลฆุเราะบาอ์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.21 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ