ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
PinOnlines.com มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Jan 15, 2004 ตอบ: 11
|
ตอบ: Sat Apr 24, 2004 12:54 pm ชื่อกระทู้: รายงานพิเศษ :-> ย้อนรอยคดีดังซาอุฯ สุดอัปยศวงการตำรวจไทย |
|
|
สำหรับ คดีฆาตกรรมนักการทูต และนักธุรกิจ ชาวซาอุฯ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค.32 นายซอและห์ อับดุลเลาะ อัลมาลิกิ เลขานุการตรี สถานทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย ถูกยิงเสียชีวิตด้วยกระสุนขนาด 6.35 ม.ม. หน้าสถานทูตขณะกำลังจะเดินกลับที่พักใน ซอยพิพัฒน์ สาธรใต้ และเวลานั้น พนักงานสอบสวนตั้งประเด็นมูลเหตุแห่งการสังหาร มาจากความขัดแย้งเรื่องแรงงาน ต่อมาตำรวจไทยได้มีการจับกุม แพะ เป็น ชาวไทยมุสลิม ชื่อ บังมุด แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พยานหลักฐานอ่อน ไร้น้ำหนัก ทำให้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องในที่สุด
ต่อมาวันที่ 1 ก.พ 34 เกิดเหตุฆาตกรรมนักการทูตซาอุฯอีก 3 คน มี นายฟาฮัด อัล-บาหลี นายอัลดุลเลาห์ อัล-เบสรี และนายอะหมัด อัลซาอิฟ ถูกยิงเสียชีวิตด้วยกระสุนขนาดเดียวกัน 6.35 ม.ม. บริเวณใกล้ที่พัก ซอยเก็งชวน ยานนาวา และ แฟลตศรีวัฒนา ทุ่งมหาเมฆ หลังจากนั้น 12 ก.พ 32 นายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี่ นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์ เพื่อนของนักการทูตทั้งสาม ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ สร้างความไม่พอใจให้กับทางการซาอุฯ เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งได้ตำหนิ การทำงาน ของตำรวจไทย เนื่องจากได้มีการเตือน เรื่องความไม่ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่สถานทูตซาอุฯมาก่อนหน้านี้แล้ว
รัฐบาลไทย ได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนคลี่คลายคดี รวม 3 ครั้ง โดยทุกครั้งของการสอบสวน ยังคงพุ่งเป้า และมุ่งเน้นไปที่คดีเพชรซาอุฯส่วนคดีฆาตกรรมนักการทูต และลักพาตัวนักธุรกิจ กลับไม่ปรากฏความคืบหน้า โดยมีเพียงข้อมูลที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ แถลงสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ นักการทูตทั้ง 3 คน เกิดจากความขัดแย้งทางศาสนา โดยมีกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติเป็นคนลงมือสังหาร ขณะที่การหายตัวอย่างลึกลับของนายมูฮัมหมัด นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์ซาอุฯน่าจะถูกฆาตกรรมโดยตำรวจไทย หลังจากถูกอุ้ม โดย ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ที่รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีฆ่าเลขาฑูตฯ และคดีคดีฆ่า 2 นักธุระกิจชาวซาอุฯ อยู่เพื่อหวัง รีดความลับ, รีดข้อมูล ด้วยความเข้าใจผิดในสาระสำคัญไปว่าสาเหตุของทั้ง 2 คดีก่อนหน้านี้ เป็นประเด็น ขัดแย้งผลประโยชน์ในธุรกิจแรงงานส่งออกที่เจ้าหน้าที่สถานทูตมีส่วนร่วมรับผลประโยชน์โดยมิชอบ เมื่อไม่ประสบความสำเร็จในการรีดความลับประกอบกับ กระบวนการทารุณกรรม หนักมือไปหน่อยไม่อาจ ปล่อยเหยื่อ จึงต้อง ฆ่าทิ้ง ด้วยวิธีการ เผานั่งยาง - ป่นศพ ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่การทูตซาอุดีอาระเบียรุ่นแล้วรุ่นเล่าคนแล้วคนเล่าหมุนเวียนกันมาประจำประเทศไทยเพื่อ เร่งรัดคดี สอบถามความจริง จึงไม่มีทางที่จะ ได้คำตอบ หรือ ได้รับการปฏิบัติต่อด้วยความจริงใจ แต่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีหลังได้นำตัวนายมูฮัมหมัดไปสอบปากคำ กลับอ้างว่าผู้ต้องสงสัยเกิดเสียชีวิตกะทันหันตำรวจจึงจำต้องตกกระไดพลอยโจน โดยตำรวจชั่วทั้งหมดไม่ได้ถูกลงโทษแต่อย่างใด ต่อมาตำรวจไทยได้จับ แพะ เป็น ชาวไทยมุสลิม ชื่อ สุชาติ ฮาลาบี ในขณะที่พี่ชายของแพะในคดีนี้ คือ สุเวช ฮาลาบี ประสบเภทภัยถูก ตำรวจไทยอุ้ม โดยเชื่อว่าน่าจะถูก ฆ่าทิ้ง, เผานั่งยาง ป่นศพ นอกจากนั้นญาติพี่น้องยังถูก จับกุม ไป ทรมาน และมีผลให้ตระกูลฮาลาบีที่เคยทำมาค้าขายมีเงินหมุนเวียน หลักร้อยล้านบาท มีอันต้อง เลิกกิจการโดยปริยาย เพราะสมาชิกของตระกูลถูก ข่มขู่คุกคาม และ มีชื่อในบัญชีดำ จนต้อง อพยพไปอยู่ต่างประเทศ แต่แล้วแพะในคดีนี้ก็พ้นมลทิน เมื่อทนายสมชาย นีละไพจิตร เข้าร่วมเป็นหนึ่งใน ทนายความอาสาสมัคร ว่าความให้ สุชาติ ฮาลาบี ร่วมกับทนายความอาวุโสอย่าง ทองใบ ทองเปาด์ และ สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ จนศาลฏีกาพิพากษายกฟ้อง ในที่สุด
วันที่ 6 สิงหาคม 2532 คนงานไทย เกรียงไกร เตชะโม่ง ที่ทำงานอยู่ในพระราชวังของ กษัตริย์ไฟซาล ขโมยเครื่องเพชรจำนวนมากของ เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด กลับมาประเทศไทยเพื่อที่จะถูก รุมทึ้ง ทั้งโดย ญาติพี่น้อง, พ่อค้าเพชร และเจ้าเก่า ตำรวจ เขาถูกจับได้โดยง่ายดายและถูกดำเนินคดีจนบัดนี้ พ้นโทษเป็นอิสระ แต่ เพชรของกลาง นี่สิที่ก่อให้เกิด คดีต่อเนื่อง เป็นโศกนาฏกรรมตามมา
ในขั้นตอนจับกุมดำเนินคดี เพชรของกลางหายไปจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะเม็ดสำคัญที่ชื่อ บลูไดมอนด์ ส่วนที่ได้คืนมามีจำนวนหนึ่งที่ในระยะต่อมาพบว่าเป็น ของปลอม สร้างความไม่พอใจใหญ่หลวงให้ ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย พ่อค้าเพชรคนหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ สันติ ศรีธนะขัณฑ์ ถูก ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ทั้ง ข่มขู่, รีดไถ และ แบล็กเมล์ จนกระทั่งนำไปสู่ปฏิบัติการ อุ้ม เหยื่อ 2 รายที่รู้จักกันในนาม แม่-ลูกศรีธนะขัณฑ์ (คือผู้เป็น ภรรยา และ ลูกชาย ของ สันติ ศรีธนะขัณฑ์) ไป กักตัว เพื่อ รีดความลับ, เรียกค่าไถ่ แต่ในที่สุดเมื่อไม่เป็นผลเพราะทางหนึ่ง ค่าไถ่มาช้าเกินไป และอีกทางหนึ่งตำรวจคนหนึ่งในกลุ่มปฏิบัติการโดยขาดคุณธรรมของโจร ข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อ เป็นเหตุผสมผสานกันให้สวมวิญญาณสัตว์เดรัจฉาน ฆ่าแม่-ลูกศรีธนะขัณฑ์ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานปิดคดี โดยพยายาม อำพราง ให้เห็นว่าเป็น อุบัติเหตุ คดีเดรัจฉานเช่นนี้อุบาทว์เกินกว่าสังคมจะปล่อยให้เงียบหายไปได้ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงต้อง รับกรรม ถูกดำเนินคดีไปเป็น ผู้กว้างขวางในเรือนจำ แต่เชื่อว่ายังมี ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง, ผู้รับประโยชน์ตกทอด ทั้ง ทางตรง, ทางอ้อม กับขบวนการเดรัจฉานอุบาทว์ เดินเชิดหน้าชูตา อยู่ในสังคมไทยทุกวันนี้
ครั้นมาถึงสมัยรัฐบาลปัจจุบัน ยังคงมีกระแส กดดันจากทางการซาอุฯ โดยที่ครั้งนี้ได้มีการร้องขอให้ทางการไทย สรุปคดีฆาตกรรมนักการทูตฯและการลักพาตัวนักธุรกิจด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการนำผลสรุปคดีไปยื่นต่อศาลซาอุฯ เพื่อขอให้มีคำสั่งแบ่งมรดกให้กับทายาทผู้เสียชีวิต จนทำให้รัฐบาลไทย ต้องตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลเร่งรัดติดตามผลการดำเนินการและสืบสวนคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต และนักธุรกิจชาวซาอุฯ เพื่อ เร่งติดตามผลการดำเนินการโดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน มีกรรมการผู้ชำนาญการด้านกฎหมาย ประกอบด้วย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน นายประสิทธิ์ โฆวิไลกุล นายอภิพงษ์ ไชยานาม นายวิเชียร วิริยะ-ประสิทธิ์ พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ นาย สุรเชษฐ์ ดวงสอดศรี นางจันจิรา ก้องเกียรติกุล และนางมณฑา แก้วก่า โดยมีนายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ เป็นกรรมการและเลขานุการคณะทำงาน
คณะกรรมการชุดนี้ ได้ประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พ.ย.44 เพื่อหาข้อเท็จจริงคดีฆาตกรรม และวางกรอบการดำเนินการ รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการ ติดตามผลสอบสวนหาข้อเท็จจริง ในประเด็นที่ซาอุฯ ยังติดใจ รวมทั้งพิจารณาผลการสอบสวนของทางฝ่ายซาอุฯ ที่ส่งมอบให้กับรัฐบาลไทยและมีการประชุมอย่างต่อเนื่องทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ ในการทำงานในช่วงแรก
ข้อมูลบางส่วนจาก ผู้จัดการออนไลน์
โดย : หนังสือพิมพ์ประชาติอิสลามออนไลน์
http://www.thaiislamic.com/pinonlines/news/view.php?newsno=6595 |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
nes มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004 ตอบ: 80 ที่อยู่: bkk
|
ตอบ: Sun Apr 25, 2004 6:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
พฤติกรรมของตำรวจไทยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับ ถ้าเจอตำรวจดีสักคนก็จะไชโยโห่หิ้วกันทั้งเมือง เหมือนกับเจอของประหลาด
ชาวบ้านเขาเปลี่ยนชื่อให้ตำรวจนานแล้วครับว่า "โจรสีกากี" |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
nuroiya มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003 ตอบ: 41
|
ตอบ: Sun Apr 25, 2004 10:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อย่าไปว่าตำรวจเขาเลย..ตำรวจที่ดีก็มีอีกเยอะ..
แต่เท่าที่สัมผัสมาไม่รู้เป็นไรเจอแต่โจรในคราบตำรวจ..ทั้งนั้น
"ทุกข์ของท่าน คืองานของเรา" |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
nes มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004 ตอบ: 80 ที่อยู่: bkk
|
ตอบ: Wed Apr 28, 2004 2:41 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อาชีพตำรวจ เงินเดือนน้อยแต่รวยเร็ว ยิ่งยศใหญ่ก็ยิ่งใหญ่ทั้งเงินและอำนาจ
มีนายตำรวจคนใหนยากจนบ้าง ใครรู้ช่วยบอกที |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
ซัลมา มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Feb 07, 2004 ตอบ: 80 ที่อยู่: sumanan_sakuldee@hotmail.com
|
ตอบ: Thu Apr 29, 2004 12:13 am ชื่อกระทู้: รายงานพิเศษ:-ย้อนรอยคดีค้าซาอุฯ สุดอัปยศวงการตำรวจไทย |
|
|
อัสสลามมุอะลัยกุ้ม
ซัลมาว่าทุกอาชีพก็มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ปะปนกันไป เท่าที่ซัลมามีเพื่อนร่วมงานที่เป็นนายพล นายพัน หรือผู้กอง ก็เจอแต่คนดี
*** แต่ถ้าใครคิดแกล้งทำลายศาสนาของเรา ก็ไม่ยอมค่ะ สู้สุดชีวิต
วัสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|