ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 10, 11, 12 ... 15, 16, 17  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:31 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อะดีลถามว่า

ยังมีใครอีกหรือที่แสดงความรักได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าบรรดาซอฮาบะฮ์

ตอบ

พระองค์ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ครับ ที่รักนบียอดเยี่ยมกว่าซอฮาบะฮ์

ท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า

( أحبو الله بما يغذوكم به من نعمه، وأحبوني لحب ا لله إياي )

“ พวกท่านจงรักอัลเลาะฮฺ ด้วยสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้กับพวกท่าน จากบรรดาสิ่งอำนวยสุขต่าง ๆ ของพระองค์ และพวกท่านจงรักฉันเนื่องจากความรักของอัลเลาะฮฺที่มีต่อฉัน” รายงานโดยท่าน อัตติรมิซีย์ และอัลฮากิม

ดังนั้น เพราะอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงรักนบี(ซ.ล.)ไงละครับ ที่ทำให้บรรดามัคโลคทั้งหลายรักท่านนบี(ซ.ล.)ด้วย ความจริงสิ่งที่เรานำเสนอ มันเป็นคำตอบอะดีลไปแล้ว แต่อะดีลไม่ยอมเข้าใจและปิดหูปิดตาสิ่งที่พวกเรานำเสนอมา อะดีลก็เลยหลุดหลักออกจากคอก สนทนาสะเปะสะปะได้หลักการไปวันๆ ฮ้าๆ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน
• أقوال أهل العلم في المولد:
لقد أفتى علماء العالم الإسلامي على اختلاف أماكنهم وأزمانهم ومذاهبهم الفقهية بحرمة عمل المولد وأنه من البدع المحدثة التي لاأصل لها وإليك بعضهم:
• [color=green]شيخ الإسلام ابن تيمية وهو من علماء الشام ومن المجتهدين. (انظر اقتضاء الصراط المستقيم (2 /619)، ومجموع
الفتاوى(1/312).
• العلامة الشيخ تاج الدين عمر بن علي اللخمي السكندري المشهور بالفاكهاني له رسالة بعنوان (المورد في الكلام على عمل المولد). وهو عالم مالكي المذهب ت بالإسكندرية سنة 734هـ.
• الأستاذ أبو عبد الله محمد الحفار له فتاوى ذكرها الونشريسي في المعيار المعرب. وهو من علماء المغرب.
• العلامة ابن الحاج أبو عبد الله محمد بن محمد بن محمد العبدري الفاسي المالكي ت بالقاهرة (732هـ)له كلام نفيس في المدخل بداية الجزء الثاني
• الشيخ العلامة الشيخ محمد بخيت المطيعي الحنفي مفتي الديار المصرية.
• الشيخ على محفوظ في كتابه الإبداع في مضار الابتداع.
• الإمام الشاطبي وله كلام نفيس في فتوى له في كتاب طبع باسم فتاوى الإمام الشاطبي وهو عالم مالكي أندلسي.
• الشيخ رشيد رضا في أكثر من موضع من مصنفاته كما في المنار (9/96)، (2/74-76) (17/111) (29/ 664-668). وفتاواه (الجزء الخامس في الصفحة 2112-2115) و(الجزء الرابع في الصفحة 1242-1243).
• الشيخ أبو الطيب محمد شمس الحق العظيم آبادي وهو من علماء الهند (أنظر رسالة الشيخ حمود التويجري ص235 ط. العاصمة ضمن المجموع في الرسائل الخاصة ببدعة المولد).
• الشيخ بشير الدين القنوجي وهو من علماء الهند وهو شيخ أبي الطيب (المصدر السابق).
• الشيخ فوزان السابق كما في كتابه البيان والإشهار ص 299.
• الشيخ محمد بن عبد السلام خضر الشقيري في كتابه السنن والمبتدعات. [/color]
• شيخ الإسلام المجدد محمد بن عبد الوهاب - رحمه الله -.
• العلامة الشيخ عبد الرحمن بن حسن آل الشيخ كما في الدرر السنية.
• العلامة الشيخ محمد بن إبراهيم له رسالة في إنكار عمل المولد وانظر مجموع فتاواه (3/48-95)فقد اشتملت على عدد من الفتاوى المتنوعة حول المولد.
• العلامة الشيخ عبد الله بن محمد بن حميد في رسالته هداية الناسك إلى أهم المناسك.
• العلامة الشيخ عبد العزيز بن باز له رسالة في حكم الاحتفال بالمولد النبوي.
• العلامة الشيخ حمود بن عبد الله التويجري في رسالة بعنوان (الرد القوي على الرفاعي والمجهول وابن علوي وبيان أخطائهم في المولد النبوي).
• الشيخ العلامة إسماعيل الأنصاري له رسالة وهي من أجود ما رأيت بعنوان القول الفصل في حكم الاحتفال بمولد خير الرسل.
• العلامة الشيخ محمد الصالح العثيمين.
• الشيخ العلامة عبد الله بن جبرين.
• الشيخ صالح بن فوزان الفوزان


วิจารณ์

อักษรน้ำเงินนั้นคือทัศนะของอุลามาอ์อะฮฺลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ส่วนตัวสีแดงนั้น มันทัศนะอุลามาอ์วะฮาบีย์ครับ ส่วนท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น มีทัศนะเกี่ยวกับเรื่องเมาลิดเป็นกลางครับ แต่วะฮาบีย์พยายามเอาอ้างข้างตนเอง แล้วท่านอิบนุกอยยิมล่ะครับ ไปใหนเสียแล้ว หรือว่าท่านอิบนุกอยยิมมีทัศนะสนับสนุนเรื่องเมาลิด??? ฮ้าๆๆ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:45 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

• أقوال أهل العلم في المولد:
لقد أفتى علماء العالم الإسلامي على اختلاف أماكنهم وأزمانهم ومذاهبهم الفقهية بحرمة عمل المولد وأنه من البدع المحدثة التي لاأصل لها وإليك بعضهم:
• شيخ الإسلام ابن تيمية وهو من علماء الشام ومن المجتهدين. (انظر اقتضاء الصراط المستقيم (2 /619)، ومجموع الفتاوى(1/312).
• العلامة الشيخ تاج الدين عمر بن علي اللخمي السكندري المشهور بالفاكهاني له رسالة بعنوان (المورد في الكلام على عمل المولد). وهو عالم مالكي المذهب ت بالإسكندرية سنة 734هـ.
• الأستاذ أبو عبد الله محمد الحفار له فتاوى ذكرها الونشريسي في المعيار المعرب. وهو من علماء المغرب.
• العلامة ابن الحاج أبو عبد الله محمد بن محمد بن محمد العبدري الفاسي المالكي ت بالقاهرة (732هـ)له كلام نفيس في المدخل بداية الجزء الثاني
• الشيخ العلامة الشيخ محمد بخيت المطيعي الحنفي مفتي الديار المصرية.
• الشيخ على محفوظ في كتابه الإبداع في مضار الابتداع.
• الإمام الشاطبي وله كلام نفيس في فتوى له في كتاب طبع باسم فتاوى الإمام الشاطبي وهو عالم مالكي أندلسي.
• الشيخ رشيد رضا في أكثر من موضع من مصنفاته كما في المنار (9/96)، (2/74-76) (17/111) (29/ 664-668). وفتاواه (الجزء الخامس في الصفحة 2112-2115) و(الجزء الرابع في الصفحة 1242-1243).
• الشيخ أبو الطيب محمد شمس الحق العظيم آبادي وهو من علماء الهند (أنظر رسالة الشيخ حمود التويجري ص235 ط. العاصمة ضمن المجموع في الرسائل الخاصة ببدعة المولد).
• الشيخ بشير الدين القنوجي وهو من علماء الهند وهو شيخ أبي الطيب (المصدر السابق).

• الشيخ فوزان السابق كما في كتابه البيان والإشهار ص 299. •
الشيخ محمد بن عبد السلام خضر الشقيري في كتابه السنن والمبتدعات.

• شيخ الإسلام المجدد محمد بن عبد الوهاب - رحمه الله -.
• العلامة الشيخ عبد الرحمن بن حسن آل الشيخ كما في الدرر السنية.
• العلامة الشيخ محمد بن إبراهيم له رسالة في إنكار عمل المولد وانظر مجموع فتاواه (3/48-95)فقد اشتملت على عدد من الفتاوى المتنوعة حول المولد.
• العلامة الشيخ عبد الله بن محمد بن حميد في رسالته هداية الناسك إلى أهم المناسك.
• العلامة الشيخ عبد العزيز بن باز له رسالة في حكم الاحتفال بالمولد النبوي.
• العلامة الشيخ حمود بن عبد الله التويجري في رسالة بعنوان (الرد القوي على الرفاعي والمجهول وابن علوي وبيان أخطائهم في المولد النبوي).
• الشيخ العلامة إسماعيل الأنصاري له رسالة وهي من أجود ما رأيت بعنوان القول الفصل في حكم الاحتفال بمولد خير الرسل.
• العلامة الشيخ محمد الصالح العثيمين.
• الشيخ العلامة عبد الله بن جبرين.
• الشيخ صالح بن فوزان الفوزان


วิจารณ์

อักษรน้ำเงินนั้นคือทัศนะของอุลามาอ์อะฮฺลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ส่วนตัวสีแดงนั้น มันทัศนะอุลามาอ์วะฮาบีย์ครับ ส่วนท่านอิบนุตัยมียะฮ์นั้น มีทัศนะเกี่ยวกับเรื่องเมาลิดเป็นกลางครับ แต่วะฮาบีย์พยายามเอาอ้างข้างตนเอง แล้วท่านอิบนุกอยยิมล่ะครับ ไปใหนเสียแล้ว หรือว่าท่านอิบนุกอยยิมมีทัศนะสนับสนุนเรื่องเมาลิด??? ฮ้าๆๆ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:48 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

อิหม่ามอัลยาฟิอีย์ อัลยะมะนีย์ กล่าวว่า
من جمع لمولد النبي صلى الله عليه وسلم إخوانا، وهيأ طعاما، وأخلى مكانا، وعمل إحسانا، وصار سببا لقراءة مولد الرسول بعثه الله يوم القيامة مع الصديقين والشهداء والصالحين ويكون في جنات النعيم
บุคคลใดรวบรวมญาติพี่น้อง เพื่อจัดงานเมาลิดนบี ศอลฯ โดยจัดเตรียมอาหาร จัดแจงบ้านช่องให้โล่งเตียน ประกอบการงานที่ดี และเขาเป็นเหตุ ให้มีการอ่านประวัติเมาลิดรซูล ในวันกิยามะฮ อัลลอฮจะให้เขาฟื้นขึ้นมา ได้อยู่ร่วมกับบรรดาผู้สัจจริง บรรดาผู้ที่ตายชะฮีด บรรดาผู้ที่ทรงคุณธรรม และปรากฏว่าเขาจะได้อยู่ในสวรรค์ชั้นนะอีม - อิอานะตุฏฏอลิบีน เล่ม 3 หน้า 363
.................

วิจารณ์

ท่านอิบนุกอยยิมกล่าวยอมรับไว้ในหนังสือ มะดาริจญฺ อัลซาลิกีน หน้า 498 ว่า

الإستماع إلى صوت حسن فى احتفالات بالمولد النبوى أو أية مناسبة دينية أخرى فى تاريخنا لهو مما يدخل الطمأنينة الى القلوب ويعطى السامع نورا من النبى صلى الله عليه وسلم الى قلبه ويسقيه مزيدا من العين المحمدية

"การรับฟัง เสียงที่ไพเราะ ในบรรดาการเฉลิมฉลองเมาลิดนบี หรือ(รับฟัง)กับอายะฮ์ที่เกี่ยวกับวโรกาสอื่นๆทางด้านศาสนาในเรื่องประวัติศาสตร์ของเรา มันย่อมเป็นส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ทำให้ความสงบสุขเข้าไปอยู่ในบรรดาหัวใจและให้ผู้รับฟังได้รับรัศมี(ทางนำ)จากท่านนบี(ซ.ล.)ไปสู่หัวใจของเขาและทำให้เขาได้รับตาน้ำแห่งมุหัมมัดเพิ่มพูน" หนังสือ มะดาริจญฺ อัลซาลิกีน หน้า 498

ไม่นึกว่า ท่านอิบนุกอยยิมจะเชิญชวนในการทำบิดอะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีย์อีกแล้วครับ ฮ้าๆ แล้วท่านอิบนุกอยยิมสุดโต่งหลงทางด้วยหรือเปล่าครับบังอะสัน??

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:50 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

อัลฟารูกเข้ามาเที่ยวนี้ก็ยังหลบวูบเหมือนเดิม เพราะตอนที่เขายกคำพูดของอิหม่ามชาฟีอีมาอ้างว่า

"ทุกๆสิ่งที่มีสิ่งที่อิงถึงหลักศาสนา มันย่อมไม่เป็นบิดอะฮ์(ที่ลุ่มหลง) ถึงแม้นว่า สะลัฟไม่เคยปฏิบัติด้วยกับมันก็ตาม"

คำว่าทุกสิ่งที่อ้างอิงถึงหลักศาสนานั้น ผมไม่ได้ถามทุกสิ่งหรอกครับ ผมถามแค่สิ่งเดียวว่า การรวมแบบสัดผัก เอาโน่นนิด เอานี่หน่อยรวมกันเป็นพิธีกรรมเมาลิดนะ ไอ้การรวมอย่างนี้อิงหลักศาสนาต้นไหน ตัวบทอัลกุรอานหรือฮาดีสบทใด ฮ้าๆๆ
ผมก็ถามหลายครั้งแล้วว่า เมาลิดนะใครผสมสูตรให้

ไม่มีคำตอบครับ และก็จะไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย ออกไม่ได้.........ทางตันครับ.......ทางตัน....... ฮ้าๆๆเอิกๆๆ

นั่นคือคำถามของผมที่ไม่รับคำตอบอีกเหมือนกัน

วิจารณ์

อะดีลมันไม่เข้าใจคำว่า อิบาดะฮ์ที่มีรูปแบบ และอิบาดะฮ์ที่เป็นสุนัตที่อยู่ในรูปแบบกว้างๆ ( النفل المطلق ) (สิ่งที่เป็นสุนัติสมัครใจทำได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ) องค์ประกอบของการทำเมาลิดนั้น มันอยู่ในรูปของ ( النفل المطلق ) การที่เราจะกระทำสิ่งที่เป็นความดีที่อยู่ในเรื่องสุนัตนั้น มันไม่จำเป็นต้องเอาอัลกุรอานและหะดิษมาระบุว่า ต้องทำเท่านั้น ต้องทำเท่านี้ ต้องทำสองอย่าง ต้องทำห้าอย่าง เราจะทำการอ่านอัลกุรอานวันละ 175 หน้า ก็ได้ แม้ไม่มีอัลกุรอานและหะดิษมาระบุให้อ่าน 175 หน้า มาจะทำการซอดาเกาะฮ์ 354 บาทต่อวันก็ได้ โดยที่ไม่ต้องรออัลกุรอานและหะดิษมาระบุว่าให้จ่าย 354 บาท เราจะทำการซอลาวาตท่านนบี 400 ครั้งต่อวันก็ได้ โดยที่ไม่ต้องรอให้อัลกุรอานและหะดิษมาระบุ เราจะทำการเล่าชีวประวัติของท่านนบี(ซ.ล.) ตอนใหนก็ได้ โดยที่ไม่ต้องให้อัลกุรอานและหะดิษมาระบุว่า ต้องอ่านตรงนั้น ต้องอ่านตอนนี้ และถ้าหาว่าวันนี้เราได้ทำการอ่านอัลกุรอาน 175 หน้า ทำการซอดาเกาะฮ์ 354 บาท ซอลาวาตนบี 400 ครั้ง และทำการเล่าชีวประวัติให้บรรดาพี่น้องมุสลิมฟัง ก็ไม่มีพวกที่อยู่ในศาสนาคนใดมากล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่หะรอมและบิดอะฮ์เลยแม้แต่น้อย

แต่มาวันนี้ อะดีลวะฮาบีย์ตัวจริง ดันมาถามเรื่อง ( النفل المطلق ) ว่า มีอัลกุรอานและหะดิษใดมาจำกัดรูปแบบ หากเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า ( النفل المطلق ) ก็ไร้ความหมาย ทำกันไม่ได้ เพราะต้องมีรูปแบบมาจำกัด

แล้วท่านอิมามอะหฺมัดทำละหมาดสุนัตโดย จำกัดรูปแบบแค่ 300 ร่อกะอัตในทุกๆวันนั้น มันมีอัลกุรอานและหะดิษมาจำกัดรูปแบบนี้หรือเปล่า??

ดังนั้น เรื่องสุนัตแบบสมัครใจกระทำโดยไม่ได้จำกัดรูปแบบหรือข้อแม้นั้น มันขึ้นอยู่กับการอิจญฺฮาดในเรื่องการทำอิบาดะฮ์ ที่บรรดาอุลามาอ์มัจญฺฮิดแห่งโลกอิสลามนั้น ได้ทำการวินิจฉัยเรื่องอิบาดะฮ์อย่างกว้างๆนี้ และอุลามาอ์เหล่านั้นก็คือ

1. ท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ ابن الجوزى(ปี 597 ฮ.ศ.)
2. ท่านอบูอัลค๊อฏฏอบ อิบนุ ดิฮฺยะฮ์أبو الخطاب ابن دحية ( ปี 633 ฮ.ศ.)
3. ท่านอัลหาฟิซฺ อัศสะคอวีย์ الحافظ السخاوي( ปี 634 ฮ.ศ.)
4. ท่านอบู ชามะฮ์ อาจารย์ของอิมามนะวาวีย์ أبو شامة ( ปี 665 ฮ.ศ.)
5. ทานอิมาม อันนะวาวีย์ النووي( ปี 676 ฮ.ศ.)
6. ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ابن تيمية ( ปี 728 ฮ.ศ.)
7. ท่านอิบนุญะมาอะฮ์ ابن جماعة ( ปี 733 ฮ.ศ.)
8. ท่านอิบนุ ซัยยิดินนาสابن سيد الناس ( ปี 734 ฮ.ศ.)
9. ท่าน ตะกียุดีน อัลซุบกีย์ تقي الدين السبكي ( ปี 756 ฮ.ศ.)
10. ท่านอิบนุกะษีร ابن كثير ( ปี 774 ฮ.ศ.)
11. ท่านอิบนุรอญับ إبن رجب ( ปี 795 ฮ.ศ.)
12. ท่านอัลหาฟิซฺ อัลอิรอกีย์الحافظ العراقي ( ปี 806 ฮ.ศ.)
13. ท่านอิบนุ อัลญัซฺริ ابن الجزري ( ปี 833 ฮ.ศ.)
14. ท่านอิบนุ นาซิรุดดีน อัดดิมิชกีย์ ابن ناصر الدين الدمشقي( ปี 842 ฮ.ศ.)
15. ท่านอิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ابن حجر العسقلاني ( ปี 852 ฮ.ศ.)
16. ท่านอัศสะยูฏีย์ السيوطي ( ปี 911 ฮ.ศ.)
17. ท่านอัลลามะฮ์ อัศซัมฮูดีย์ อัลหะสะนีย์ السمهودى الحسنى ( ปี 911 ฮ.ศ.)
18. ท่านอัลกุศฏุลลานีย์القسطلاني ( ปี 923 ฮ.ศ.)
19. ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุ อัดดะบีอฺ ابن الدبيع ( ปี 944 ฮ.ศ.)
20. ท่านอิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย์ابن حجر الهيتمي ( ปี 974 ฮ.ศ.)
21. ท่านชัยค์อัลเคาะฏีบ อัชชัรบีนีย์ الخطيب الشربينى ( ปี 977 ฮ.ศ.)
22. ท่าน มุลลา อะลีย์ อัลกอรีย์ملا علي القاري ( ปี 1014 ฮ.ศ.)
23. ท่านอัลบัรซันญีย์البرزنجي ( ปี 1177 ฮ.ศ.)
24. ท่านชัยค์ อัลลามะฮ์ อัดดัรดีร الدردير ( ปี 1201 ฮ.ศ.)
25. ท่านอะหฺมัด อัลอะรูซีย์ أحمد العروسي( ปี 1208 ฮ.ศ.)
26. ท่านอิบนุอาบิดีน ابن عابدين( ปี 1252 ฮ.ศ.)
27. ท่านอิมามอิบรอฮีม อัลบาญูรีย์ ابراهيم الباجورى ( ปี 1277 ฮ.ศ.)
28. ท่านอะหฺมัด ซัยนีย์ ดะหฺลาน أحمد زيني دحلان ( ปี 1304 ฮ.ศ.)
29. ท่านชัยค์ อัลลามะฮ์ อัลอับยารีย์ الأبيارى ( ปี 1305 ฮ.ศ.)
30. ท่านมุหัดดิษ อัซซัยยิด อัลกิดตานีย์ อัลหะสะนีย์ الكتانى الحسنى ( ปี 1345 ฮ.ศ.)
31. ท่านอัลลามะฮ์ ชัยค์ ยูซุฟ บิน อิสมาอีล อัลนับฮานีย์ يوسف بن إسماعيل النبهانى ( ปี 1350 ฮ.ศ.)
32. และบรรดาอุลามาอ์อิสลามส่วนมากในปัจจุบันอีกมากมายที่เราไม่สามารถนำมากล่าวไว้ได้ ณ ที่นี้


เราจะสังเกตุได้ว่า นักบรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ المحدثين หรือ الحفاظ ส่วนมากของโลกอิสลามวินิจฉัยว่าการทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) นั้นเป็นที่อนุญาติ เช่น ท่านอิมามหาฟิซฺ อิบนุ อัลเญาซีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลศะคอวีย์, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อันนะวาวีย์, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ ตะกียุดดีนอัศศุบกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุกะษีร, ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุร่อญับ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลอิรอกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุ อัลญัซฺรีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุนาซิรุดดีน อัดดิมิขกีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัศเกาะลานีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัศสะญูฏีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อัลกุศตุลลานีย์ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลฮัยษะมีย์ ฐ , ท่านอิมามอัลหาฟิซฺ มุลลา อะลี อัลกอรีย์

สงสัยบรรดาอุลามาอ์มุจญฺฮิดและนักหะดิษแห่งโลกอิสลามเหล่านี้วินิจฉัยเรื่องเมาลิดโดยให้พวกเราลงนรกกัน(ตามทัศนะของวะฮาบีย์)แน่ๆ ฮ้าๆๆ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:56 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากอะดีล

แต่แล้วอัลฟารูกก็ยังมิวายกลบเกลื่อนด้วยการยกรายชื่ออุลามอที่สนับสนุนเมาลิดมาให้เห็น แล้วถามว่า

1. บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ทำตามซุนนะฮ์กับแล้วหรือ?

2. บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ทำตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์และร่อซูลอนุญาติแล้วหรือ?

3. บรรดาอุลามาอ์หนักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงตามทัศนะของวะฮาบีย์หรือ?

4. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นพวกที่คาดเดาหรือครับ?

5. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นพวกที่ฟื้นฟูบิดอะฮ์หรือครับ?

6. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ทำให้พวกเราหลงจากแนวทางของอัลเลาะฮ์หรือครับ?

7. บรรดาอุลามาอ์นักหะดิษ ผู้แบกรับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เป็นผู้ที่ไม่รักท่านนบีจริงๆหรือครับ?

ข้อสังเกตุ

คำถามหกข้อนี้ ยังไม่มีวะฮาบีย์ตนใดตอบได้เลยครับ


แหม.....สำหรับผมถือว่าเป็นข้อความที่ไร้เดียงสาอ่ะนะ ฮ้าๆๆ ทำไมรู้ไหม

เพราะถ้าบังอะสันเอาอุลาอ์ที่ต่อต้านเมาลิดมาโชว์แล้วก็ถามคำถามทำนองนี้บ้าง มันก็มั่วกันอยู่ตรงนี้ แล้วที่สุดก็โยนให้อุละมอ แผนการนี้ไม่ผ่านๆ เพราะเขากำลังชวนไปยึดอุลามอเป็นหลักฐานเพื่อจะให้เจ้ากันไป แต่มันจะเจ๊ง ฮ้าๆๆฮ่าๆๆ


วิจารณ์

พอประเด็นใหนที่วะฮาบีย์อะดีลตนนี้ตอบไม่ได้ มันก็กล่าวหาผมว่าเข้ามาถามกลบเกลื่อนๆๆ ฮ้าๆๆ มุกเก่าอ่ะนายอะดีล และถ้าบังอะสันเอาอุลามาอ์ที่ไม่เห็นด้วยมาโชว์ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยนี่ครับนายอะดีล ผมก็จะตอบให้โดยอย่างวิชาการ แต่สิ่งที่ผมถามไปวะฮาบีย์ไม่กล้าตอบ การที่เรายกทัศนะของอุลามาอ์ส่วนใหญ่แห่งโลกอิสลามมาถามกับพวกวะฮาบีย์นั้น จริงๆแล้ววะฮาบีย์จะตอบไว้ 2 อย่าง คือ 1. พวกเขาเหล่านั้นทำบิดอะฮ์ตกนรก (ข้อนี้วะฮาบีย์ไม่กล้าอยู่แล้ว) 2. อุลามาอ์เหล่านั้นวินิจฉัยผิด (อันนี้เราต้องมาคุยกัน) ว่าผิดอย่างไร? และมารยาทเกี่ยวกับเรื่องปัญหาอิจญฺฮาดและปัญคิลาฟียะฮ์ในอิสลามมันเป็นอย่างไร? ซึ่งหากชี้แจงประเด็นนี้ วะฮาบีย์ต้องตกม้าตาย เนื่องจากวะฮาบีย์หุกุ่มนรกกับเรื่องคิลาฟียะฮ์ และวะฮาบีย์จะยกอ้างอะไรมานั้น มันหมดทางไปแล้ว เพราะผมเจาะยางไปหมดแล้ว และตอนนี้วะฮาบีย์อ้างหลักการของตนแบบวนเวียนเทียนไปวันๆเท่านั้นเอง ฮ้าๆ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 6:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

แล้วอุลามาอ์ยุคหลังก็มาถกเถียงกันว่าทำได้ไหม แต่เมื่อขัดแย้งกันจะทำยังไง
คำตอบมีอยู่ในอัลกุรอานครับ

อัลลอฮ์ ตะอาลากล่าวว่า

แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺ และรอซูล (นำสิ่งที่ขัดแย้งกันนั้นไปตรวจสอบดูกับอัล-กุรอานและซุนนะฮฺของท่านนะบีว่า อัลลอฮฺ และนะบีได้กล่าวว่าอย่างไร แล้วให้ยึดถือตามนั้นโดยปราศจากดื้อดึงใดๆ ทั้งสิ้น)
4/59 ความหมายโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ
ทิ้งเหตุผล แล้วกลับไปเอาอัลกุรอานและซุนนะฮ์ จะได้สมกับที่อ้างว่าเป็นนักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ฮ้าๆๆเอิกๆๆ

วิจารณ์

หลักกิยาส ก็อยู่ในเรื่องของการกลับไปยังอัลเลาะฮ์และร่อซูลเช่นเดียวกัน และอุลามาอ์สะลัฟอย่างอิมามทั้งสี่นั้น ก็เข้าใจหลักการอย่างนี้ การกิยาสก็คือการเทียบเคียงกลับไปยังอัลกุรอานและซุนนะฮ์ และมันเป็นหลักการของสะลัฟ แต่วะฮาบีย์มันเอาหลักของใครหว่า...??แต่ที่แน่ๆไม่ใช่สะลัฟครับ ฮ้า ฮ้ายยย...

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:01 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

ความจริงการรวมตัวเพื่อทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)ที่ทรงเกียตรินั้น มันไม่ใช่อื่นใดเลย นอกจากแต่ว่ามันเป็นเรื่อง มุบาหฺ อาดัตธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง และมันก็ไม่ใช่เรื่องของอิบาดะฮ์แต่อย่างใด

เอ้....เมาลิดไม่เป็นวายิบ ไม่เป็นสุนัต แต่เป็นมุบาฮ์ มันหมายความว่ายังไงละนี่
มันหมายถึง ทำก็ไม่ได้บุญ ทิ้งก็ไม่บาป ใช่ไหม
ถ้าอย่างนั้นจะทำไปม้าย มันก็เหมือนกับกินข้าวนะแหละใช่ไหม จะกินข้าวหรือจะกินขนมปัง หรือจะไม่กินทั้งสองนี้เลย ไปกินขนมจีน ก็ไม่เกี่ยวกับบุญและบาป เฮ้อ.....แล้วจะตะแบงทำไปทำไม (วะ) บวชสุนัตวันจันทร์ได้บุญแน่ๆ เลย ตัวบทหลักฐานชัด ได้บุญชัด ไม่เอาละ ดันไปทำเมาลิด บุญก็ไม่ได้ ไม่ทำก็ไม่บาป ฮ้าๆๆ

แล้วที่ว่าเมาลิดไม่ใช่อิบาดัต แต่มันเป็นอาดัตทั่วไป

วิจารณ์

ฮ้าๆๆ ไอ้เรานึกว่า อะดีลมันจะเข้าใจถ้อยความ ที่แท้มันงมโข่งนี่เอง ฮ้าฮ้ายย.. นึกว่าจะแหน..เอ้ย ..จะแน่..

ผมน่ะอุตสาห์เน้นอักษรให้อะดีลมันดูแล้วน่ะครับว่าเรื่องอะไรที่มันเป็นของมะบาห์ ผมเน้นประเด็นในเรื่องการ "รวมตัว" เท่านั้น ที่เป็นเรื่องมุบาห์ ผมกล่าวไปว่า

ความจริงการรวมตัวเพื่อทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)ที่ทรงเกียตรินั้น มันไม่ใช่อื่นใดเลย นอกจากแต่ว่ามันเป็นเรื่อง มุบาหฺ อาดัตธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง และมันก็ไม่ใช่เรื่องของอิบาดะฮ์แต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ไม่หวังดีเกี่ยวกับการรวมตัวทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น ก็อย่าไปแอบอ้างว่า มันเป็นอิบาดะฮ์ และไปสร้างความเข้าใจผิดกับผู้อื่นว่า มันเป็นอิบาดะฮ์ที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่เคยทำ และทำการหุกุ่มพี่น้องมุสลิมมีนว่าทำบิดอะฮ์ตกนรก เราหวังว่าท่านผู้อ่านคงแบ่งแยกได้ระหว่าง อาดะฮ์ และ อิบาดะฮ์ นะครับ

และผมก็ชี้แจงไปแล้วว่า (แต่อะดีลไม่ยอมอ่านเพราะถ้าอ่านจะไม่มีอะไรสนทนาตบตาผู้อ่าน)
การทำเมาลิดระลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น ไม่ใช่เป็นอิบาดะฮ์ที่ถูกเจาะจงรูปแบบและหลักฐาน (عبادة توفيقية) แต่มันเป็นสิ่งที่สร้างความใกล้ชิดกับอัลเลาะฮ์ (قربة ) ที่อยู่ในรูปแบบที่ไม่ได้เจาะจงโดยที่มันเป็นการมุบาห์(อนุญาติให้กระทำได้)

การกระทำนั้น ย่อมอยู่ในหุกุ่ม 5 คือ วายิบ สุนัต หะรอม มักโระฮ์ และมุบาห์ ดังนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) ไม่ใช่เป็นสิ่งที่วายิบและไม่ใช่เป็นสิ่งสุนัต แต่มันเป็นสิ่งที่ อนุญาติ ( جائز ) หรือ มุบาห์ ( مباح ) ซึ่งทัศนะของเราที่กล่าวว่าการทำเมาลิดรำลึกถึงนบี(ซ.ล.) "มุบาห์" (อนุญาติ) นั้น เพราะว่าไม่มีตัวบทมาบ่งชี้ถึงการห้ามทำเมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.)

เป็นที่ทราบกันดีว่า การกระทำสิ่งที่ "มุบาห์" นั้น ผู้กระทำจะไม่ได้รับผลบุญและไม่ได้รับโทษ แต่การกระทำสิ่งที่มุบาห์นั้น หากว่ามันอยู่พร้อมกับการเจตนา(เหนียต)เพื่อการฏออัต เช่นในทำการเมาลิด มีการซิกรุลเลาะฮ์ การซ่อลาวาตต่อท่านนบี(ซ.ล.) การเล่าชีวประวัติของท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) มีการซอดาเกาะฮ์(เช่นเลี้ยงอาหาร) นั่นก็ย่อมถือว่าเป็นเรื่องอิบาดะฮ์ เป็นการสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ด้วยสาเหตุของการเหนียต ดังนั้น ผู้ที่ทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) ก็จะได้รับผลบุญดังกล่าวอย่างไม่ต้องสงสัย - อินชาอัลเลาะฮ์ -

มีหะดิษซอฮิหฺที่รายงานว่า ท่านนบี(ซ.ล.) กล่าวว่า

وفى بضع أحدكم صدقة قالوا : يا رسول الله أيأتى أحدنا شهوته ويكون فيها أجر؟ قال : أرأيتم لو وضعها فى حرام ، أكان عليه وزر؟ فكدا إدا وضعها فى الحلال كان له أجر

"และเกี่ยวกับอวัยวะเพศคนใดจากพวกท่านนั้น เป็นศอดาเกาะฮ์ บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า โอ้ รอซูลุลเลาะฮ์ คนหนึ่งคนใดจากพวกเราได้สนองอารมณ์ความใคร่ของเขา โดยที่ในการสนองอารมณ์ความใคร่มีผลบุญตอบแทนหรือ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า พวกท่านจงบอกซิว่า หากเขาได้เอามันไปวางในสิ่งที่หะรอม(เช่นซินา) มันย่อมเป็นบาปต่อเขาไหม? ดังนั้น เช่นเดียวกันนี้ เมื่อเขาได้เอามันไปวางไว้ในสิ่งที่หะลาล(เช่นที่ภรรยาของเขา) แน่นอน ผลบุญการตอบแทนก็มีให้แก่เขา" รายงานโดยมุสลิม

โปรดพิจารณาครับท่านผู้อ่านที่เคารพ ขนาดอารมณ์ความใคร่ที่นำไปใช้อย่างถูกต้องยังได้รับผลบุญ แล้วการทำเมาลิดรำลึกถึงนบี(ซ.ล.) ด้วยอารมณ์แห่งความรักที่มีต่อท่านนั้น มันจะได้รับโทษไฟนรก เพราะถูกกล่าวหาว่าทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงหรืออย่างไร???

ดังนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงนบี(ซ.ล.)นั้น เราไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่คืนเมาลิดและเอี๊ยะติก๊อตว่ามันเป็นคืนที่เฉพาะเจาะจงในการในการทำเมาลิด เนื่องจากว่ามันเป็นอุตริกรรมในศาสนา เนื่องจากการรำลึกถึงท่านร่อซูลุเลาะฮ์(ซ.ล.)นั้น ต้องทำกันทุกวันทุกเวลา ฉะนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) จึงทำได้ทุกวัน เนื่องจากเมาลิดนบี(ซ.ล.) ก็คือการอ่านเล่าประวัติศาสตร์ของท่านนบี(ซ.ล.) การซ่อลาวาตให้มากๆ โดยไม่ได้เจาะจงในวันใดวันหนึ่ง แต่ว่า การกระทำในเดือนที่ท่านนบีประสูตนั้น มันเป็นแรงผลักดันที่มีน้ำหนักกว่า ที่จะทำให้บรรดามุสลิมมารวมตัวกัน เพื่อแสงความรักต่อท่านร่อซูลลุลเลาะฮ์ ซอลาวาต รับฟังประวัติศาสตร์ของท่านนบี(ซ.ล.) เพื่อให้เขามีความผูกพันธ์ถึงเหตุการณ์ในอดีตอันน่าประทับใจโดยสร้างความรักอันลุกโชติช่วงอยู่ในหัวใจของเราจากบรรดาประวัติของท่านนบี(ซ.ล.)

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ผู้มีทัศนะเป็นกลางเกี่ยวกับเรื่องการทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)

فتعظيم المولد وإتخاه موسما قد يفعله بعض الناس ويكون له فيه أجر عظيم لحسن قصده وتعظيم لرسول الله صلى الله عليه وسلم

“ดังนั้น การให้เกียตริการทำเมาลิดและทำมันเป็นเทศกาลนั้น บางส่วนของมนุษย์ได้กระทำมัน และให้กับบางส่วนเกี่ยวกับเมาลิดนั้น ย่อมมีผลตอบแทนทิ่ยิ่งใหญ่ เพราะมีเจตนาเป้าหมายที่ดีในการทำเมาลิดและเป็นการให้เกียตริแก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม” ดู หนังสืออิกติฏออฺ อัศศิรอฏ อัลมุสตะกีม หน้า 267 , และมัจญะมั๊วะ ฟะตาวา ของอิบนุตัยมียะฮ์ เล่ม 23 หน้า 134

อะดีลเข้าใจยัง และเมื่อเข้าใจแล้วก็อย่าไปตบตาผู้อ่านไปวันๆเลยน่ะ ฮ้าๆๆฮ้ายย

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:11 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

เฉลยครับ

เจ้าของข้อความนี้คืออัลฟารูก คนเดียวเดียวที่บอกว่า ผู้ริเริ่มทำเมาลิด ฉลองแสดงความยินดีกับวันประสูตของท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) คือตัวของท่านนบีมุหัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเอง

ยังไงละคร๊าบนายหัว เดี๋ยวก็บอกว่านาบีทิ้งไม่ได้ทำ เผลอแป๊บเดียวบอกว่านาบีทำอีกแล้ว

ขอไปกินยาแก้มึนหน่อย ฮ้าๆๆเอิกๆๆ

วิจารณ์

ฮ้าๆ อะดีล ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมชี้แจงระหว่าง รากฐานการเฉลิมฉลองวันเกิด(เมาลิด)ของท่านนบีด้วยการถือศีลอด อันนี้นะบีคือผู้เริ่มแรก แต่วิธีการที่เพิ่มขึ้นมา ในการถือศีลอด ซ่อละวาต อ่านอัลกุรอาน การซอดาเกาะฮ์เลี้ยงอาหาร ที่อยู่ในเรื่องสมัครใจนี้ นบีไม่เคยกระทำในรูปแบบนี้

แต่ที่แน่ๆนั้น ท่านนบี(ซ.ล.)เป็นคนที่แรกที่เฉลิมฉลองในเกี่ยวกับวันเกิด(เมาลิด)ของท่าน และท่านนบีทำการถือศีลอด แล้วพวกเราจะซอลาวาต และอื่นๆ เพิ่มอีกไม่ได้หรือ?? เพื่อการกระทำสิ่งที่สุนัติมากๆนั้น มันเป็นการเพิ่มเติมศาสนาหรือ?

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:15 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

เอาของคริสต์ มาประยุกต์กับของอิสลาม หรือ บิดอะฮสลัดผัก เอาโน้นนิด เอานี้หน่อย มาผสมกัน แล้วกลายเป็นรูปแบบอิบาดธขึ้นมา

วิจารณ์

การกล่าวหาของวะฮาบีย์ในทำเมาลิดระลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) เพราะเลียนแบบพวกคริสต์ที่พวกเขาได้ทำการเฉลิมฉลองวันเกิดของบนีอีซา อะลัยฮิสลาม นั้น เราขอชี้แจงดังนี้

ในหนังสือ อัลเมาซูอะฮ์ อัลฟิกฮียะฮ์ เล่ม 12 หน้า 8 ที่ตีพิมพ์โดยกระทรวงสาธารณะสมบัติของ ประเทศคูเวต ได้กล่าวไว้ในหมวด อักษรตา หมวดคำว่า "ตัชบีฮ์" ระบุไว้ว่า

هَذَا , وَالتَّشَبُّهُ فِي غَيْرِ الْمَذْمُومِ وَفِيمَا لَمْ يُقْصَدْ بِهِ التَّشَبُّهُ لَا بَأْسَ بِهِ . قَالَ صَاحِبُ الدُّرِّ الْمُخْتَارِ : إنَّ التَّشَبُّهَ ( بِأَهْلِ الْكِتَابِ ) لَا يُكْرَهُ فِي كُلِّ شَيْءٍ , بَلْ فِي الْمَذْمُومِ وَفِيمَا يُقْصَدُ بِهِ التَّشَبُّهُ . قَالَ هِشَامٌ : رَأَيْت أَبَا يُوسُفَ لَابِسًا نَعْلَيْنِ مَخْصُوفَيْنِ بِمَسَامِيرَ فَقُلْت أَتَرَى بِهَذَا الْحَدِيدِ بَأْسًا ؟ قَالَ : لَا , قُلْت : سُفْيَانُ وَثَوْرُ بْنُ يَزِيدَ كَرِهَا ذَلِكَ لِأَنَّ فِيهِ تَشَبُّهًا بِالرُّهْبَانِ , فَقَالَ : " كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَلْبَسُ النِّعَالَ الَّتِي لَهَا شَعْرٌ وَإِنَّهَا مِنْ لِبَاسِ الرُّهْبَانِ

"จงเข้าใจอันนี้ว่า การเลียนแบบในสิ่งที่ไม่ถูกตำหนิ และในสิ่งที่ไม่มีเป้าหมายเจตนาในการเลียนแบบนั้น ถือว่าไม่เป็นไร เจ้าของหนังสือ อัดดุรรุลมัคตาร กล่าวว่า "การเลียนแบบ(ตัชบีฮ์)กับอะฮ์ลุลกิตาบนั้น ไม่ใช่จะน่ารังเกียจไปเสียทุกสิ่ง แต่ทว่า จะเป็นที่รังเกียจ ในสิ่งที่น่าตำหนิและในสิ่งที่มีเป้าหมายเจตนาในการเลียนแบบ" ท่านอิบนุฮามกล่าวว่า "ฉันเห็นอบูยูซุฟใส่รองเท้าที่เย็บด้วยตะปู ฉันจึงกล่าวว่า ท่านเห็นเหล็ก(ตะปู)นี้ไม่มีอะไรหรือ? เขาตอบว่า ไม่เป็นไรหรอก ฉันกล่าวว่า ท่านซุฟยาน และนูร บิน ยะซีด รังเกียจกับสิ่งดังกล่าว เพราะว่ามันเป็นการเลียนแบบนักบวช ดังนั้น ท่านอบูยูซุฟกล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)สวมรองเท้าที่มีขน(สัตว์) และมันก็เป็นสิ่งที่นักบวชใช้สวมใหญ่" ดู หนังสือหาชียะฮ์ อิบนุอาบิดีน เล่ม 1 หน้า 419 , อัลฟะตาวา อัลฮินดียะฮ์ เล่ม 5 หน้า 333

ดังนั้น จึงเป็นที่ทราบดีว่า การเฉลิมฉลองรำลึกด้วยการแสดงความปิติยินดีกับวันเกิดของท่านนบี(ซ.ล.) ด้วยการ ถือศีลอด อ่านอัลกุรอาน การซ่อลาวาต เล่าชีวประวัติของท่านนบี(ซ.ล.) และการเลี้ยงอาหารแก่บรรดามุสลิมีน ไม่ใช่เป็นเอกลักษณ์ของพวกนะซอรอ(คริสต์) ทำชิริกด้วยการเอานบีมูซาส่วนภาคหนึ่งของพระเจ้า มีการฉลองเต้นรำ และดื่มสุรา เป็นต้น และไม่ใช่เป็นเอกลักษณ์เลียนแบบเหมือนกับศาสนาใด แต่มันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบรรดามุสลิมีนในการเฉลิมฉลองยินดีวันเกิดของท่านนบี(ซ.ล.) และที่สำคัญ เราไม่ได้ทำการเฉลิมฉลองเพื่อเลียนแบบนะซอรอแต่อย่างใด

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:17 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

การขัดแย้งในเรื่องการทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นี้ มีการขัดแย้งกันในระหว่างอุลามาอ์อิสลามตั้งแต่ในอดีต การขัดแย้งนี้มันอยู่ในประเด็นของการวินิจฉัยเท่านั้น บรรดาอุลามาอ์ในอดีตที่ขัดแย้งกัน ก็ต่างให้เกียตริในทัศนะของการวินิจฉัยซึ่งกันและกัน โดยที่ไม่กล่าวหาใส่ใคล้หุกุ่มกันและกันเลย หน้าที่ของพวกเขาเพียงแค่การวินิจฉัยเท่านั้น หากวินิจฉัยถูกก็ได้รับผลตอบแทน 2 การตอบแทน และหากวินิจฉัยผิดก็ผลการตอบแทนเพียงแค่ 1 การตอบแทน แต่ปัจจุบันนี้ ผมผู้อ้างตนว่าเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ที่มีนามว่า กลุ่มวะฮาบีย์ มุสลิมพันธ์ใหม่ หรือค่อวาริจญฺรีเทริน ที่ทำการระราน หุกุ่มบิดอะฮ์ตกนรกกับผู้ที่ไม่ได้อยู่แนวทางเดียวกับตน ซึ่งมันเป็นปรากฏการณ์ความคลั่งใคล้ในแนวทางของตนจนเลยเถิด จนสามารถเรียกเป็น "ลัทธิ" ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

การทำเมาลิดนบีคือ "การแสดงความดีใจ ปลื้มปิติยินดี ชุโกร ให้ความสำคัญ ในการเกิดมาของท่านนบี(ซ.ล.) โดยการรวมตัวกัน เพื่อฟังการอ่านสิ่งที่ง่ายๆจากอัลกุรอาน ซิกรุลเลาะฮ์ ซ่อลาวาตขอความประสาทพรและของความศานติให้มีแด่ท่านนบี(ซ.ล.) ฟังการเล่าชีวะประวัติ แบบฉบับอันงดงาม บุคลิกภาพอันมีเกียตริของท่านนบี(ซ.ล.) และมีการเลี้ยงรับประทานอาหารคนยากจนและบรรดามุสลิม"

ดังนั้น การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น เป็นการสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์(ซ.ล.) เนื่องจากมีการซ่อลาวาตนบี(ซ.ล.) มีการซิกรุลลอฮ์ และอื่นๆอีกจากบรรดาความดีต่างๆ เมื่อเราได้ทำการตรวจสอบสิ่งที่เราทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น ทั้งหมดเป็นสิ่งที่สุนัติศาสนาส่งเสริมให้กระทำทั้งสิ้น เช่น การอ่านอัลกุรอาน การกล่าวชีวะประวัติของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) การซ่อลาวาตต่อท่านนบี(ซ.ล.) การกล่าวบทกวียกย่องท่านนบี(ซ.ล.) การขอดุอาอ์โดยนอบน้อม และการให้อาหารหรือเลี้ยงอาหาร เป็นต้น ซึ่งความดีงามทั้งหมดที่เรากระทำนี้ ประชาชาติอิสลามถือว่าศาสนาส่งเสริมให้กระทำ และเพื่อชุโกรเนี๊ยะมัตในการรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) ถือว่าเป็นความชั่ว เป็นการกระทำชั่ว ต้องตกนรก ตามทัศนะของวะฮาบีย์

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ก่อนที่เราจะทำการกล่าวถึงรายละเอียดของเรื่องทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) เราขอชี้แจงหลักการเบื้องต้นต่อไปนี้

1. เราทำการเฉลิมฉลองแสดงความดีใจต่อการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)ในทุกเวลาและในทุกวโรกาส และเราจะเน้นหนักในเดือนที่ท่านนบี(ซ.ล.)ประสูติ คือเดือนรอบิอุลเอาวัล และในวันที่ท่านนบี(ซ.ล.)ประสูต คือวันจันทร์ ดังนั้น จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากผู้ที่มีสติปัญญาคนหนึ่งถามว่า ทำไมพวกท่านถึงเฉลิมฉลองรำลึกวันเกิด(เมาลิด)ท่านนบี(ซ.ล.)? เพราะมันเหมือนกับ เขาได้ถามว่าเพราะอะไรพวกท่านถึงแสดงความยินดีต่อวันเกิดท่านนบี(ซ.ล.) ดังนั้น เป็นความถูกต้องหรือไม่ ที่คำถามนี้ได้ออกมาจากมุสลิมคนหนึ่งที่กล่าวว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ และท่านนบีมุหัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะฮ์ ? เนื่องจากมันเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ โดยที่ผู้ที่ถูกถามนั้นเพียงพอกับการตอบว่า "ฉันได้เฉลิมฉลอง เพราะฉันปีติ มีความดีใจ ด้วยการมีท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) เพราะฉันรักต่อท่านนบี(ซ.ล.) และฉันรักนบี(ซ.ล.)นั้น เพราะฉันเป็นผู้มีศรัทธา

2. การเฉลิมฉลองการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.) เราหมายถึง การรวมตัวเพื่อฟังชีวประวัติของท่านนบี(ซ.ล.) ซ่อละวาต ฟังการยกย่องต่อท่านนบี(ซ.ล.)ตามสิทธิ์ที่พึงได้รับ มีการเลี้ยงอาหาร ให้เกียตริแก่บรรดาคนยากจน และสร้างความปิติยินดีให้อยู่ในหัวใจของบรรดามุสลิมีนให้มีความรักต่อท่านนบี(ซ.ล.)

3. เราไม่ได้กล่าวว่า การเฉลิมฉลองการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)ต้องทำในคืนที่เฉพาะเท่านั้น หรือทำเมาลิดในรูปแบบที่เรากระทำอยู่ จากสิ่งที่ศาสนาได้ระบุเอาไว้จากการซ่อลาวาตและการถือศีลอด เป็นต้น เท่านั้น แต่ก็ไม่มีข้อห้ามใดๆที่จะทำการรวมตัวเพื่อซิกรุลเลาะฮ์ ซ่อลาวาต ขอพรศานติแก่ท่านนบี(ซ.ล.) และอื่นๆ จากบรรดาอะมัลที่ดีงามที่สมควรกระทำตามที่มีความสามารถ โดยเฉพาะเดือนที่ท่านนบี(ซ.ล.)เกิด เนื่องจากในเดือนดังกล่าวนี้ มันมีแรงผลักดันที่มีน้ำหนักมากกว่า ที่จะให้ผู้คนมีความสนใจ มารวมตัวกัน และสร้างความรู้สึกให้มีความผูกพันธ์กับกาลเวลาในอดีตช่วงสมัยของท่านนบี(ซ.ล.)

4. การรวมตัวชุมนุมกันนี้ มันเป็นสื่ออันสำคัญ ที่จะทำการเรียกร้องไปสู่อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) มันเป็นโอกาสทองที่ไม่สมควรให้ผ่านพ้นไป แต่จำเป็นต่อผู้ที่มีความรู้ ทำการตักเตือนให้รำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.) ด้วยบรรดาแบบฉบับ จรรยามารยาทอันยิ่งใหญ่ ชีวประวัติของท่านนบี(ซ.ล.) มีการตักเตือนและชี้นำพวกเขาให้ไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง


ท่านอิมามอัศสะยูฏีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลหาวีย์ ลิลฟาตาวา โดยตั้งหัวข้อบทที่ว่า "หุสนุลมักซิด ฟี อะมะลิลเมาลิด" (การเจตนาที่ดี ในการทำเมาลิดนบี) ว่า " ได้มีคำถามขึ้นมาจากการทำเมาลิดนบี(ซ.ล.)ในเดือนรอบิอุลเอาวัล คือ อะไรคือหุกุ่มของเมาลิดนบี(ซ.ล.)ตามหุกุ่มของศาสนา? มันเป็นสิ่งที่ถูกสรรญเสริญหรือเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิ ? ผู้ทำจะได้รับผลบุญหรือไม่ ? ตอบ ตามทัศนะของฉันนั้น คือรากฐานเดิมการทำเมาลิดนั้นคือ การที่บรรดาผู้คนรวมตัวกัน และก็มีการอ่านสิ่งที่ง่ายๆจากอัลกุรอาน มีการเล่าบรรดาหะดิษที่รายงานเกี่ยวกับการริเริ่มภาระกิจของท่านนบี(ซ.ล.) และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)จากบรรดาสัญลักษณ์ต่างๆ และมีการหยิบยื่นอาหารเพื่อพวกเขาจะได้รับประทานกัน แล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปโดยไม่ได้เพิ่มมากไปกว่าสิ่งดังกล่าว มันเป็นการกระทำขึ้นมาใหม่ที่ดี ซึ่งจะที่กระทำจะได้รับผลบุญ เพราะมันเป็นการให้เกียตริท่านนบี(ซ.ล.) และเป็นการแสดงออกซึ่งความดีใจดว้ยการเกิดอันมีเกียตริของท่านนบี(ซ.ล.) " ดู หนังสือ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา เล่ม 1 หน้า 221 - 222 ดารุลฟิกรฺ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:22 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

หลักฐานการอนุญาติให้ทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)

1. การให้เกียตริบรรดาวันและสถานที่ประสูตของบรรดานบี (อะลัยฮิมุสลาม)

รายงานจากท่าน ชัดดาด บิน อุวัยสฺ ว่า "ท่านญิบรีลได้ใช้ให้ท่านนบี(ซ.ล.) ละหมาดสองร่อกะอัตที่บัตุลละหฺมิ (เบตแลแฮม) จากนั้น ท่านญิบรีลก็กล่าวกับท่านนบี(ซ.ล.)ว่า ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านกำลังละหมาดอยู่ที่ใหน ? ท่านนบีตอบว่า "ไม่รู้" ท่านญิบรีลจึงกล่าวว่า "ท่านกำลังละหมาดอยู่ที่บัยตุลละหฺมิ สถานที่เกิดของอีซา" รายงานโดย ท่านอัลบัซซาร , อบูยะอฺลา , และท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์ , เช่นเดียว คือท่านอัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ กล่าวว่า บรรดานักรายงานของหะดิษนี้ มีบรรดานักรายงานที่ซอฮิหฺ , ดู มัจญฺมะอฺ อัลซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 199 , และสายรายงานนี้ ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวไว้ใน หนังสือฟัตหุลบารี เล่ม 7 หน้า 199

ส่วนหนึ่งจากสิ่งดังกล่าวก็คือ การขอพรความสันติต่อบรรดานบี(อะลัยฮิมุสลาม) ในวันเกิดของพวกเขานั้น ก็มีระบุไว้ในอัลกุรอาน เช่นคำตรัสของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ที่กล่าวเกี่ยวกับท่านนบีอีซา(อะลัยฮิสลาม)ว่า

والسلام على يوم ولدت

"และความศานติ ประสบแด่ฉัน ในวันที่ฉันเกิด" มัรยัม 33

ดังนั้น ท่านนบีมุหัมมัด(ซ.ล.) ไม่สมควรยิ่งกว่าหรือ ที่จะทำการขอความสันติของพรซ่อลาวาตให้แก่ท่านนบี(ซ.ล.)ในวันที่ท่านได้เกิด

และส่วนหนึ่งจากสิ่งดังกล่าวคือ การกล่าวเล่าเรื่องราวการเกิดของบรรดานบี(ซ.ล.)บางส่วนที่มีระบุไว้ในอัลกุรอาน ซึ่งเราจะนำมากล่าวในหลักฐานที่ 7

อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงตรัสไว้ว่า

ودكرهم بأيام الله إن فى دلك لأيات لكل صبار شكور

"และจงเตือนพวกเขาให้รำลึกถึงบรรดาวัน (แห่งความโปรดปราน) ของอัลลอฮฺ แท้จริงในการนั้นย่อมเป็นสัญญาณแก่ผู้อดทนผู้ขอบคุณทุกคน" อิบรอฮีม 5

قل للدين أمنوا يغفروا للدين لا يرجون أيام الله

"จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่บรรดาผู้ศรัทธาให้พวกเขาอภัยแก่บรรดาผู้ที่ไม่หวังในวันทั้งหลายของอัลลอฮฺ" อัลญาซิยะฮ์ 14

ดังนั้น บรรดาวันของอัลเลาะฮ์ ก็คือ บรรดาวันแห่งความอดทนและชุโกรรู้คุณต่ออัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ฉะนั้น สิ่งที่เราหวังก็คือบรรดาวันที่อัลเลาะฮ์ทำให้มันมีบะรากัตศิริมงคล นั่นคือจุดมุ่งหมายของอายะฮ์ดังกล่าวนี้

เราลองมาพิจารณาคำตรัสของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ที่ว่า

قل بفضل الله وبرحمته فبدلك فليفرحوا

"จงกล่าวเกิดมุฮัมมัด ด้วยกับความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์และความเมตตาของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจงปีติยินดีเถิด" ยูนุส 58

ดังนั้น วันที่ท่านนบี(ซ.ล.)ได้ประสูตนั้น เป็นวันแห่งความน่าปิติยินดีและเป็นความเมตตาหรือไม่? ทั้งที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)เองก็กล่าวว่า

أنا الرحمة المهداة

"ฉันคือความเมตตาที่ถูกมอบเป็นของขวัญ"

การที่เราได้รำลึกของวันเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)นี้ เราได้กระทำสิ่งที่สุนัตหรือว่ากระทำสิ่งที่หะรอม ? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาสถานที่ที่มีการรวมตัวกัน โดยทำให้บรรดามุสลิมมีความรักต่อท่านนบี(ซ.ล.) และทำให้พวกเขามีการรำลึกถึงบรรดาแบบอย่าง จรรยามารยาทที่ยิ่งใหญ่ของท่าน

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:25 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

2. อบูละฮับได้ปลดปล่อยนางสะวัยบะฮ์ อัลอัสละมีย์ให้เป็นอิสระจากการเป็นทาส เพราะมีความปิติยินดี และดีใจ ในการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)

ท่านอิบนุกะษีรกล่าวว่า "สตรีคนแรกที่ให้นมแก่ท่านนบี(ซ.ล.)คือ นางสุวัยบะฮ์ ทาสของอบูละฮับ โดยที่อบูละฮับได้ทำการปล่อยนางให้เป็นอิสระ เพราะเขาได้รับข่าวดีกับการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.) ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ในขณะที่ท่านอับบาสพี่น้องของอบูละฮับ(ร.ฏ.)ได้ฝันเห็นเขา หลังจากที่ได้เห็นเขาถึงความขาดทุนอย่างย่อยยับ แล้วท่านอับบาสถามอบูละฮับว่า ท่านได้พบอะไรบ้าง? อบูละฮับตอบว่า "หลัง(ตาย)จากพวกท่านไป ฉันไม่พบความดีใดเลยนอกจากฉันได้รับน้ำดื่มในนี้(หัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น)ด้วยเหตุการปล่อยสุวัยบะฮ์" ดู อัลบิดายะฮ์ วะ อันนิฮายะฮ์ เล่ม 1 หน้า 224

ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ได้รายงานเอาไว้ในบทเรื่องนิกาหฺ หะดิษที่ 5101 ว่า

قال ‏ ‏عروة ‏ ‏وثويبة ‏ ‏مولاة ‏ ‏لأبي لهب ‏ ‏كان ‏ ‏أبو لهب ‏ ‏أعتقها فأرضعت النبي ‏ ‏صلى الله عليه وسلم ‏ ‏فلما مات ‏ ‏أبو لهب ‏ ‏أريه ‏ ‏بعض أهله ‏ ‏بشر ‏ ‏حيبة ‏ ‏قال له ماذا لقيت قال ‏ ‏أبو لهب ‏ ‏لم ألق بعدكم غير أني سقيت في هذه بعتاقتي ‏ ‏ثويبة

"ท่านอุรวะฮ์ กล่าวว่า นางสุวัยบะฮ์เป็นทาสหญิงของอบูละฮับ ซึ่งอบูละฮับได้ทำการปลดปล่อยนางให้เป็นอิสระ แล้วนางก็เป็นแม่นมให้กับท่านนบี(ซ.ล.) ในขณะที่อบูละฮับสเสียชีวิต ส่วนหนึ่งจากครอบครัวของเขาได้ฝันเห็นเขา ในสถาพที่เลวร้าย แล้วผู้ที่ฝันถามอบูละฮับว่า ท่านได้ประสบอะไรบ้าง อบูละฮับกล่าวว่า ฉันไม่เคยประสบกับ(ความสุขสบาย)อะไรเลยหลัง(ตาย)จากพวกท่านไป นอกจากฉันก็ดื่มน้ำจะสองนิ้วนี้(คือหัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น) ด้วยเหตุการปลดปล่อยสุวัยบะฮ์ให้เป็นอิสระ"(ในขณะที่ได้รับข่าวดีกับการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)" ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 140

บางรายงานกล่าวว่า

"ท่านอับบาสได้ฝันเห็นพี่น้องของเขา คืออบูละฮับ หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านอับบาสกล่าวแก่อบูละฮับว่า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? อบูละฮับกล่าวว่า ฉันอยู่ในไฟนรก นอกจาก จะถูกผ่อนปรนแก่ฉัน กับทุกๆคืนวันจันทร์ และฉันก็ดื่มน้ำจะสองนิ้วนี้(คือหัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น) ด้วยเหตุการปลดปล่อยสุวัยบะฮ์ให้เป็นอิสระในขณะที่ได้รับข่าวดีกับการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.) " หะดิษนี้ ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวไว้หนังสือ ซีเราะฮ์อันนะบีย์ เล่ม 1 หน้า 124 , ท่านอับดุลร๊อซซาก ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ อัลมุซันนัฟของท่าน เล่ม หน้า 478 , ท่านอัลหาฟิซฺ อัลบะฆอวีย์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ชัรหฺอัซซุนนะฮ์ เล่ม 9 หน้า 76

ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวอธิบายไว้ใน หนังสือ ฟัตหุลบารีย์ บทเรื่องนิกาหฺ ว่า " ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า หะดิษที่รายงานว่าบรรดาความดีของคนกาเฟรไร้ความหมายเป็นโมฆะนั้น หมายถึง พวกเขาจะไม่สามารถรอดพ้นจากไฟนรกและจะไม่สามารถเข้าสวรรค์ได้ และอนุญาติให้กาเฟรถูกผ่อนปรนจากการลงโทษที่เขาสมควรได้รับมันต่อสิ่งที่เขากระทำเอาไว้ด้วยกับสิ่งที่เขาได้กระทำจากความดี....ฉัน(คือท่านอิบนุหะญัร)ขอกล่าวว่า อันนี้(คือการคัดค้านของอุลามาอ์ที่ความดีของกาเฟรไม่เป็นผลประโยชน์) ถือถือว่าเป็นการโต้ตอบคำตีความของท่านอัลบัยฮะกีย์ เพราะทั้งหมดสิ่งที่กล่าวมานั้น เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นบาปขั้นกุฟุร ดังนั้น สำหรับบาปที่ไม่กุฟุร ก็จะมีสิ่งใดมาห้ามในการผ่อนปรนเล่า?

ท่านอัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า การผ่อนปรนลงโทษนี้ เฉพาะให้กับหะดิษนี้และด้วยกับผู้ที่ตัวบทได้ระบุเอาไว้ , ท่านอิบนุ อัลมุนัยยิร กล่าวไว้ใน อัลหาชียะฮ์ ว่า ณ ที่นี้ มีอยู่ประเด็นด้วยกัน

1. เป็นไปไม่ได้ คือการพิจารณาว่า มีการตออัต(ทำดี)ของกาเฟรพร้อมการกุฟุรของเขา เนื่องจากเงื่อนไขของการตออัตนั้น คือ มันเป็นตกเป็นการตออัตด้วยกับการมีเจตนาที่ใช้ได้(เซาะหฺ) ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีที่กาเฟร

2. ให้ผลบุญกับคนกาเฟรในบางอะมัล เพราะเป็นความโปรดปรานจากอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ซึ่งอันนี้สติปัญญาย่อมไม่คัดค้าน ดังนั้น เมื่อดังกล่าวได้รับการยอมรับ แน่นอนว่า การปลดปล่อยนางสุวัยบะฮ์ของอบูละฮับนั้น ไม่ใช่เป็นการสร้างความใกล้ชิด(ต่ออัลเลาะฮ์) แต่อนุญาติโดยการที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานความโปรดปรานกับสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ อย่างเช่นความโปรดปรานที่พระองค์ทรงประทานแก่ท่านอบูฏอลิบ และสิ่งที่ติดตามมาในสิ่งดังกล่าวนั้น คือการขึ้นอยู่บนหลักฐานในการปฏิเสธหรือยืนยัน"

ฉัน(คือท่านอิบนุหะญัร)ขอกล่าวว่า "เป็นการเสริมในสิ่งดังกล่าวนี้ คือ ความโปรดปรานดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น เพื่อให้เกียตริแก่กาเฟรที่ทำความดีต่อท่านนบี(ซ.ล.)และเหมือนๆกับสิ่งดังกล่าว" ดู หนังสือ ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 145 - 146 และ ดู หนังสือ อัสซีเราะฮ์ อันนะบะวียะฮ์ ของท่านอิบนุกะษีร เล่ม 1 หน้า 224

ท่านอัลหาฟิซฺ อับดุรเราะหฺมาน บิน ดะบิอฺ อัชชัยบานีย์ กล่าววิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า " ฉันขอกล่าวว่า การผ่อนปรนลดหย่อนโทษกับอบูละฮับนั้น เพราะเขาได้ทำการให้เกียตริ(การเกิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)เหมือนกับการถูกลดหย่อนการลงโทษกับอบูฏอลิบ โดยที่(การลดหย่อนโทษกับอบูละฮับนั้น)ไม่ใช่เพราะ(อะมัลด้วย)การปล่อยทาศ(คือนางสุวัยบะฮ์) (แต่เพราะให้เกียตริแก่นบี) เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "สิ่งที่พวกเขา(กาเฟร)ได้อะมัลในดุนยานั้นจะมลายสิ้น และเป็นโมฆะกับสิ่งที่เขาเคยปฏิบัติมา" ดู หนังสือ หะดาอิก อัลอันวาร ฟี อัซซีเราะฮ์ เล่ม 1 หน้า 134

ท่านอิมาม อัลอัชค๊อร ได้รายงานไว้ในหนังสือ บะฮ์ญะตุลมาฮาฟิล และท่านอามิร ผูอถาธิบายได้กล่าวว่า ถูกกล่าวว่า นี้เป็นการเฉพาะแก่อบูละฮับ เพราะเขาเคยให้เกียตริแก่ท่านนบี(ซ.ล.) (ในวันเกิด) เหมือนกับการผ่อนปรนของท่านอบูฏอลิบด้วยสาเหตุของท่านนบี(ซ.ล.) , และถูกกล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดมาห้ามจากการผ่อนปรนลดหย่อนการลงโทษจากทุกคนกาเฟรที่เป็นปฏิบัติความดี" ดู ชัรหฺ อัลบะฮ์ญะฮ์ เล่ม 1 หน้า 41

ดังนั้น เมื่ออบูละฮับผู้ที่อัลกรุอานได้ทำการตำหนิเขา ยังถูกผ่อนโทษให้ เนื่องจากมีความดีใจในการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.) ฉะนั้น ผู้ที่แสดงความปิติยินดี หรือดีใจ ด้วยกับวันเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)โดยที่เขาเป็นมุอฺมินและเสียชีวิตในสภาพดังกล่าวนี้ ต้องได้รับผลการตอบแทนมากกว่านั้น

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Tue May 23, 2006 7:29 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

4. ท่านนบี(ซ.ล.)ถือศีลอดในวันอาชูรออฺ

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส(ร.ฏ.) ว่า "ท่านนบี(ซ.ล.)ได้มาที่นครมะดีนะฮ์ ได้พบพวกยาฮูดีย์ทำการถือศีลอดในวันอาชูรออฺ ดังนั้น พวกเขาจึงถูกถามจากสิ่งดังกล่าว พวกเขาตอบว่า วันนี้มันเป็นวันที่อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ทรงทำให้มูซาและบนีอิสรออีลมีชัยต่อฟิรอูน ฉะนั้น เราจึงทำการถือศีลอดเพื่อให้เกียตริแก่มูซา ท่นร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) จึงกล่าวว่า

نحن أولى بموسى منكم

"ด้วยกับมูซานั้น เราย่อมเหมาะสมยิ่งกล่าวพวกท่าน"

แล้วท่านนบี(ซ.ล.)จึงใช้ให้ทำการถือศีลอด" รายงานโดยอิมามบุคคอรีย์ เล่ม 7 หน้า 215 และท่านอิมามมุสลิม หะดิษที่ 1130

ในหะดิษนี้ เป็นการวางรากฐาน ให้กับการเอาใจใส่และระลึกถึงกาลเวลาในอดีตที่ผ่านมา ท่านนบี(ซ.ล.)ได้ทำการเอาใจใส่โดยเอาการกาลเวลามาเกี่ยวพันกับบรรดาเหตุการณ์ของศาสนาที่ผ่านมาแล้วในอดีต ดังนั้น เมื่อถึงวันที่เหตุการณ์อดีตเคยเกิดขึ้นมา มันจึงเป็นโอกาสในการหวนรำลึกถึงมัน และทำการให้เกียตริวันดังกล่าว

ท่านอิมาม อัลหาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ร่อฮิมะหุลเลาะฮ์ ได้อ้างหลักฐานด้วยกับหะดิษนี้ ในการอนุญาติให้มีการเฉลิมฉลองวันประสูตของท่านนบี(ซ.ล.) ตามที่ อิมาม อัลหาฟิซฺ อัสสะยูฏีย์ ได้ถ่ายทอดเอาไว้ใน หนังสือ "หุสนุลมักซิด ฟี อะมะลิลเมาลิด" ไว้ว่า "ได้รับการวินิจฉัยของหะดิษนี้ กับการทำการรู้คุณชุโกรกับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ต่อสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานความโปรดปรานในวันที่เฉพาะเจาะจง ในการประทานเนี๊ยะมัตและปกป้องจากภัยพิบัติ และสิ่งดังกล่าวก็หวนกลับมา ในวันเช่นดังกล่าวจากทุกๆปี และการชุโกรต่ออัลเลาะฮ์(ซ.บ.) สามารถกระทำขึ้นมาได้ ด้วยหลายประเภทของอิบาะฮ์ เช่น การสุญูด การถือศีลอด การทำซ่อดะเกาะฮ์ และการอ่านอัลกุรอาน และจะมีเนี๊ยะมัตใดหรือที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าเนี๊ยะมัตที่อัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านนบี(ซ.ล.)ซึ่งเป็นนบี(ซ.ล.)แห่งความเมตตาเกิดมาในวันดังกล่าวนี้" ดู อัลหาวี ฟี อัลฟะตาวา ของท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ เล่ม 1 หน้า 223

ดังนั้น การถือศีลอดของท่านนบี(ซ.ล.)ในวันอาชูรออ์นั้น คือการเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องจากการได้รับความปลอดภัยของท่านนบีมูซา อะลัยอิสลาม และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดังกล่าวนั้น คือสาเหตุที่ทำให้ท่านนบี(ซ.ล.)ถือศีลอด และอันนี้ก็ถือว่าเป็นการบัญญัติให้มีการรำลึกถึงบรรดาวะโรกาศที่มีความสำคัญ มีการเฉลิมฉลองและปิติยินดีด้วยกับมัน และการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)ย่อมเป็นวโรกาศหนึ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 10, 11, 12 ... 15, 16, 17  ถัดไป
หน้า 11 จากทั้งหมด 17

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.15 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ