ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, ... 15, 16, 17  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 3:41 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ al-farook

ดีครับสนทนากันสดๆ แบบเจอตัวอย่างนี้ คุณอย่าเพิ่งออกไปออก ตอบผมก่อน

ทำไมคุณไม่แสดงหลักฐานว่า ยังมีผู้อื่นที่แสดงความรักได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าซอฮาบะฮฺ

ผมจะรอ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 3:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

ใช่ครับ...หัวใจของซอฮาบะฮฺเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อท่านร่อซูล ถึงขนาดตายแทนได้เลย

แต่ถ้าเราจะรักท่านรอซูลก็ควรเอาเยี่ยงอย่างซอฮาบะฮ์ไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเราถึงไปเอาเยี่ยงอย่างของคนอื่นมาแสดงความรักด้วยเล่า หรือว่าสุดยอดในของความรักต้องแบบอย่างที่เราทำ ไม่ใช่แบบอย่างของซอฮาบะฮฺใช่ไหม

วิจารณ์

การแสดงออกซึ่งความรักที่จะแสดงผ่านทางคำพูดหรือทางอักษรนั้น มันยากมาก แต่อย่างน้อย หากเราเขียนมาออกมาโดยกลั่นความรักนั้นมาเป็นตัวอักษรได้นั้น ผู้อ่านเขาก็จะสัมพัสได้อย่าง จากสิ่งที่เราได้เผยความรู้สึกเล็กๆน้อยๆ ที่ออกมาจากหัวใจของเราที่มีความรักต่อท่านร่อซูลุเลาะฮ์(ซ.ล.)

การบอกว่า"รัก"นั้น บอกง่ายนิดเดียว เพียงพูดออกมาจากลมปากก็พอแล้ว หรือสกีนที่เสื้อว่า"เรานักนบี" แค่นี้ใครที่ทำได้ แต่การเอาความรู้สึกรักออกมาแสดงให้เห็นซิ มันก็อยากพอสมควร เพราะมันเป็นความรู้สึกภายในจิต เราบอกว่าบรรดาซอฮาบะฮ์รักท่านนบี(ซ.ล.)แบบตายแทนกันได้ นั่งเพียงแค่คำพูดที่ใครก็พูดออกมาได้ แต่ความรู้สึกของซอฮาบะฮ์ที่มีต่อท่านนบี(ซ.ล.) ใครหน้าใหนในปัจจุบันในหยั่งรู้ถึงความรักอันโชตช่วงในหัวใจของพวกเขาได้ล่ะครับ เราไม่ทราบว่าซอฮาบะฮ์นั้น มีความรู้สึกรักนบี(ซ.ล.)ที่อบอวนอยู่ในหัวใจของพวกเขาได้มากแค่ใหน? แต่เพียงแค่เรารู้ว่า ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า "หากฉันไม่รำลึกถึงท่านนบีสักเวลาหนึ่ง ฉันเหมือนกับว่าฉันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของมุสลิมีน!!!" นั่นคือคำพูดของท่านอิบนุอับบาสที่เรารู้ได้แค่เนี่ย แต่ความรู้สึกรักคนึงท่านร่อซูบของท่านอิบนุอับบาสนั้น ผมคงล่วงรู้ไม่ได้แล้ว ซึ่งมันอยู่ที่อีหมานของคน อิมานนั้นก็ต้องประกอบด้วยความรัก ไม่ใช่เพียงแค่เชื่อ ว่าอัลเลาะฮ์นั่งอยู่บนลังก์ อัลเลาะฮ์เคลื่อนไหวจากเบื้องบนจงสู่ฟ้าชั้นดุยา อย่างที่อะดีลชอบจะเชื่อก็เอาเลยครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 3:56 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สิ่งที่ผมกล่าวมานั้นคืออัลกุรอาน

อัลลอฮ์ ตะอาลากล่าวว่า

บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญีรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศ้อรมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้นอัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย (9/11 ความหมายโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)

ทำไมคุณไม่แสดงหลักฐานตามที่ผมร้องขอ คุณไม่เข้าใจคำว่าหลักฐานหรือ ผมไม่ต้องการเหตุผลหว่านล้อม แต่อัลกุรอานหรือฮะดีสสักบทที่แสดงว่า

ยังมีผู้อื่นที่แสดงความรักได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าบรรดาซอฮาบะฮฺ


ขอย้ำ ผมรอหลักฐาน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 4:15 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เรามาดูปรัชญาความรักที่มีต่อท่านร่อซูล Solallah ตามทัศนะของ อ.มุรีด กันครับ เขากล่าวว่า

"สรุปแล้ว การมีความรักต่อท่านร่อซูลคือการดำเนินตามซุนนะฮฺของท่านร่อซูลนั่นเอง"

นี่คือความรักของ มุรีด ที่อะดีลหวงแหนนักหนาและปกป้องหนักหนา แต่เสียดายที่ยังไม่เข้าใจคำว่า "ความรัก" หากเรารักลูก เราต้องตามลูกเราอย่างเดียวหรือ? หากเรารักภรรยา นั่นหมายความว่ เราตามภรรยาของเราอย่างเดียวหรือ? ถึงจะให้ความหมายว่าความรัก แต่เมื่อเราถามว่า แล้วคุณรักภรรยาคุณ รักลูกของคุณอย่างไรล่ะ? คุณก็ตอบว่า ก็รู้สึกรัก รู้สึกเป็นห่วง รู้สึกคนึงหา แต่ผู้กล่าวอ้างว่าตามซุนนะฮ์นั้น หารู้ไม่ว่า ความรู้สึกรัก ลูก รัก ภรรยา รักบิดามารดา นั่นแหละ คือเสมือนกับความรักต่อท่านนบี แต่ต่างตรงที่ว่า ต้องรู้สึกรักนบีมากกว่านั้น แล้วผู้ตัวว่าตามซุนนะฮ์ด้วยลมปากนั้น รักแบบนี้ไม่ได้ใหม? ตอบ บอกไม่ได้ เพราะความรักของฉัน มันเพียงแค่การตามซุนนะฮ์เฉยๆ

แต่พวกเรากล่าวว่าความรักนั้นอย่างน้อยแล้ว ต้องมีดังนี้


ความรักต่อร่อซูลุลเลาะฮฺ (ซ.ล.) นั้น ก็เสมือนความรักต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ที่มันโชติช่วงอยู่ในห้วงหัวใจของเขา แล้วความรักนั้น ก็จะผลักดันให้เขาปฏิบัติและดำเนินตาม โดยที่ความจริงนั้น ความรักไม่ใช่เป็นการเจริญรอยตาม เสมือนกับที่บางคนเข้าใจ แต่ความรักที่โชติช่วงอยู่ในหัวใจนั้น เป็นแรงผลักดันให้เขาเจริญรอยตาม ตามอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) และเจริญรอยตามร่อซูลของพระองค์ (ซ.ล.) ซึ่งถ้าหากความรักต่ออัลเลาะฮฺและร่อซูลของพระองค์ คือการน้องตามเพียงอย่างเดียว ตามที่บางคนเคยเข้าใจแล้ว แน่นอน พวกมุนาฟิกีนก็ย่อมเป็นผู้ที่รักอัลเลาะฮฺและร่อซูลของพระองค์ด้วย พวกมุนาฟิกกีนในสมัยร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)นั้นก็เจริญรอยตามเหมือนกับบรรดาซอฮาบะฮฺท่านอื่น ๆ ซึ่งพยายามปกปิดความมุนาฟิกของพวกเขา ด้วยการเจริญรอยตาม คือพวกเขาถือศีลอดพร้อมกับบรรดาผู้ถือศีลอด ละหมาดพร้อมกับบรรดาผู้ทำละหมาด และออกซะกาตพร้อมกับบรรดาผู้ออกซะกาต ยิ่งกว่านั้น บางครั้งพวกเขายังออกรบพร้อมกับนักรบทั้งหลาย ดังนั้น หากความรักคือการตามแล้วล่ะก็ พวกมุนาฟิกีนย่อมเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่รักอัลเลาะฮฺและรักร่อซูลุลเลาะฮฺด้วยเช่นกัน โดยที่สติปัญญาย่อมไม่เชื่อสิ่งดังกล่าวนี้

ความรัก เป็นสภาพหนึ่งของหัวใจ ไม่เพียงเท่านั้น ความรักยังเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่โชติช่วงอยู่หัวใจ ที่จะผลักดันผู้มีความรักนี้ไปยังการน้อมตาม เหมือนกับที่บรรดาอุลามาอฺกล่าวไว้ว่า ความรักนั้น คือความรู้สึกที่บริสุทธิ์ แปลกน่าประทับใจ เมื่อมันมีอำนาจเหนือจิตใจแล้ว มันจะทำให้ผู้ที่อยู่ไกลได้ใกล้ชิด ทำให้เหล็กอ่อนนวล และทำให้สิ่งที่ยาก เป็นสิ่งที่ง่ายดาย


นั่นคือความแตกต่างระหว่างความรักของเราที่มีต่อท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กับความรักของวะฮาบีย์

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 4:20 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อะดีลครับ คุณรอผมไปเรื่อยๆน่ะ เพราะคำถามของคุณนั้น ผมจะตอบให้สัปดาห์หน้าก็ได้น่ะ งั้นคุณก็มารอให้ทุกวันๆนะครับ ผมได้จะอ่านคำถามของคุณ แต่ตอนนี้ผมจะชี้แจงเรื่อง มุรีด บอกว่า"การทำเมาลิดเกิดจากการริเริ่มของกลุ่มชีอะฮฺ อิสมาอีลียะฮฺ" ซึ่งมันสำคัญกว่า แต่คำถามของคนที่รักนบี(ซ.ล.)เพียงแค่ลมปากนั้น ผมจะเอาไว้พิจารณาทีหลังน่ะคุณอะดีล รอไปก่อนก็แล้วกันน่ะจ้ะ
_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 4:22 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณเป็นคนตั้งกระทู้เองว่า เมาลิดรำลึกท่านนบี(ซ.ล.) (สนทนาเชิงวิชาการ) ตอนนี้วิชาการของคุณคือเหตุผลล้วนๆ อย่างนั้นหรือ ขอความกรุณาอย่าเปลี่ยนเรื่อง คุณมีหลักฐานมาหักล้างอัลกุรอานที่ผมนำเสนอไหม

คุณยกอัลกุรอานหรือฮะดีสมาสักต้นก็ได้ที่ยืนยันว่า

ยังมีผู้อื่นที่แสดงความรักได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าบรรดาซอฮาบะฮ์

ผมรอคุณแสดงหลักฐานมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว คุณก็ยังพร่ำพรรณนาไปเรื่อยเปื่อย อย่าเปลี่ยนเรื่องครับ แสดงหลักฐานมาก่อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 4:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คำว่าสนทนาวิชการของคุณนั้น ผมเพิ่งรู้ว่าวิชาการที่คุณว่าก็คือเหตุผล

ถ้าคุณหาอัลกุรอานหรือฮะดีสมาแสดงไม่ได้

ผมลดให้คุณหน่อยละกัน เอาแค่อิหม่ามชาฟีอีก็พอ

คุณแสดงมาให้เห็นซิว่า อิหม่าชาฟีอีแสดงความรักต่อนบีด้วยการทำเมาลิด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 4:48 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณอะดีลครับ คุณกำลังจะถามผม และบอกว่าผมว่า ซอฮาบะฮ์คือผู้ที่รักยิ่งต่อท่านร่อซูลุลเลาะฮแต่พวกเขาไม่ทำเมาลิด ดังนั้น การรักร่อซูลุลเลาะฮ์ตามซอฮาบะฮ์คือการไม่ทำเมาลิด เพื่อจะได้ตามบรรดาซอฮาบะฮ์ผู้รักร่อซูลอย่างแท้จริง แล้วเราก็ถูกกล่าวหาว่า เรารักร่อซูลโดยตามรูปแบบของชีอะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ ฮ่าๆ แล้วอะดีลก็ยกอัลกุรอานมา เพื่อให้เห็นว่า อะดีลพูดมีหลักฐานวุ้ย ฮ่าๆ

อะดีลครับ ตอนนี้ผมกำลังชี้แจงเกี่ยวกับข้อเขียน มุรีด ทิมมะเสน นะ หากคุณคัดค้าน ก็สนทนามาเลย และหลังจากที่ผมชี้แจง มุรีด แล้ว ผมก็จะยกหลักฐานจาก อัลกุรอาน ซุนนะฮ์ และหลักการต่างๆมาให้คุณได้ชมและสนทนากัน แต่ให้รอหน่อยน่ะ ดังนั้น คำถามของคนที่รักนบี(ซ.ล.)แต่เพียงลมปากนั้น ผมเอาไปพิจารณาตอบที่หลังก็แล้วกันน่ะ ให้คุณเข้าใจหลักการของเราเสียก่อน แล้วค่อยถาม

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 5:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ทำไม al-farook ถึงเป็นคนเฉไฉเช่นนี้ละ คุณเป็นคนตั้งหัวข้อนี้มาไม่ใช่หรือ และคุณก็เป็นคนยกตัวอย่างความรักของซอฮาบะฮ์มาเปรียบเทียบ แต่ทำไมคุณไม่รับผิดชอบข้อความเมื่อผมถามว่า

ถ้าเราจะรักท่านรอซูลก็ควรเอาเยี่ยงอย่างซอฮาบะฮ์ไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเราถึงไปเอาเยี่ยงอย่างของคนอื่นมาแสดงความรักด้วยเล่า หรือว่าสุดยอดในของความรักต้องแบบอย่างที่เราทำ ไม่ใช่แบบอย่างของซอฮาบะฮฺใช่ไหม


ผมขอให้คุณแสดงหลักฐานว่า ยังมีผู้อื่นที่แสดงความรักได้ดียิ่งกว่าซอฮาบะฮ์ หรือ

ผมรอให้คุณแสดงหลักฐาน แต่คุณก็ไม่ตอบ ได้แต่เลี่ยงไปเลี่ยงมา


ถ้าคุณไม่มีหลักฐานมาแสดงผมก็ขอให้คุณกลับไปเอาเยี่ยงอย่างของบรรดาซอฮาบะฮ์ ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงรับรองไว้แล้วว่า พระองค์พอพระทัยในพวกเขา รวมถึงบรรดาผู้ที่ดำเนินตามพวกเขาด้วย คุณไม่อยากเป็นบุคคลที่อัลลอฮ์พอพระทัยอย่างนั้นหรือ

อัลลอฮ์ ตะอาลากล่าวว่า

บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญีรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศ้อรมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้นอัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย (9/11 ความหมายโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)


พี่น้องครับ...เพียงพอแล้วครับที่เราจะเป็นบุคคลที่พระองค์อัลลอฮ์พอพระทัย ด้วยการเจริญรอยตามเหล่าซอฮาบะฮ์ โดยไม่ต้องประดิษฐวิธีแสดงความรักอย่างอื่น เพราะคิดเท่าไหร่ทำเท่าไหร่ก็ไม่ดีไปกว่าซอฮาบะห์แน่นอน

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 6:25 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากอะดีล

อะดีลยกคำอ้างคำตรัสของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) เพื่อมาสนับสนุนแอบอ้างแนวทางของตนในการไม่ทำเมาลิดว่าเป็นการรักนบีตามแบบฉบับของบรรดาซอฮาบะฮ์ที่มีต่อท่านร่อซูลลุลเลาะฮ์ โดยอ้างอัลกุรอานที่ว่า

อัลลอฮ์ ตะอาลากล่าวว่า

บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญีรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศ้อรมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้นอัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย (9/11 ความหมายโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)

วิจารณ์

เป็นคำอ้างที่แปลกของอะดีลเหลือเกินครับ ที่พยายามบอกว่า การรักนบีโดยไม่ทำเมาลิด คือการรักนบี(ซ.ล.) ตามแบบฉบัลของซอฮาบะฮ์ อะดีลครับ

1. "การทำเมาลิดนบีนั้น คือการฟังประวัติศาสตร์ท่านนบี(ซ.ล.)เพื่อตอกย้ำรำลึกถึงท่านนบี ทำการซ่อลาวาต ทำการซิกรุลเลาะฮ์" ดังนั้น การที่เราไม่ทำเมาลิดด้วยการ ไม่เล่าไม่ฟังประวัติของท่านนบี ไม่ทำการซอลาวาต ไม่ทำการซิกรุลเลาะฮ์ นั้น คือการแสดงความรักต่อท่านนบี(ซ.ล.) ตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์ใช่หรือไม่??? "

2. คือให้เราอยู่เฉยๆ อย่างไปฟังอัลกุรอาน อย่างไปซอลาวาต อย่าไปซิกิร นั่นคือการแสดงความรักต่อท่านนบีตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์ ทีอะดีลต้องการใช่ใหม?

3. แต่การไม่ทำเมาลิด แล้วไปนั่งหุกุ่มผู้ทำเมาลิด ว่าบิดอะฮ์ตกนรก นั้น คือแบบฉบับของซอฮาบะฮ์ที่แสดงถึงการรักนบีใช่ใหมอะดีล ?

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ว่า

محمد رسول الله والدين معه أشد على الكفار ورحماء بينهم

"มุหัมมัด คือ ศาสนาทูตของอัลเลาะฮ์ และบรรดาผู้อยู่ร่วมกับเขา แข็งกร้าวต่อพวกกุฟฟาร และมีความเมตตาระหว่างพวกเขา" อัลฟัตหฺ 29

อะดีลตามซอฮาบะฮ์ใหมครับ โดยการมีความเมตตาระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกัน หรือการการประนาม หุกุ่มบิดอะฮ์ ตกนรก กับบรรดามุสลิมีนที่ทำเมาลิดนั้น คือความเมตตาระหว่างพี่น้องมุสลิมีน และนี่คือแบบฉบับของซอฮาบะฮ์หรือไม่? และการที่วะฮาบีย์อย่างคุณต่อต้านการ ทำเมาอที่มีการอ่านชีวประวัติท่านนบี การซอลาวาต การซิกรุลนั้น คือแบบฉบับความรักของคุณที่มีต่อท่านนบี(ซ.ล.)ใช่ใหม?

ท่านอบู อัยยูบ อัลอันซารีย์ ท่านได้นอนกอดกุบูรของท่านนบี เพราะท่านคิดถึงคนึงหา แล้วอะดีลจะตามใหม? เพื่อจะได้รักนบีตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์

ท่านอิบนุอุมัร ได้ทำการเอามือลูลมิมบัรของท่านร่อซูล แล้วคุณจะทำตามซอฮาบะฮ์ใหม? เพื่อจะรักท่านร่อซูลอย่างแท้จริง

ท่านอิบนุมัสอูดได้ใช้ให้มีการเล่าประวัติเรื่องราวของท่านร่อซูลในทุกๆวันพฤหัสบี แล้วอะดีลจะทำตามใหม? เพื่อจะได้มีความรักต่อท่านร่อซูลตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์

เมื่อท่านอิบนุ อุมัรเดินทาง ท่านจะหยุดและละหมาดสถานที่ที่ท่านนบี(ซ.ล.)เคยละหมาด เนื่องจากคิดถึงมีความรักต่อท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) แล้วคุณจะทำตามใหม? หรือว่าเป็นชิริก

ผมเนี่ย ก็อยากรู้เหมือนกันว่า คุณรักท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ เพียงลมปากหรือเปล่า? คุณอ้างตามซอฮาบะฮ์เพื่อแสดงความรักต่อท่านนบี(ซ.ล.)เพียงลมปากหรือเปล่า? น่าคิดเหมือนกันน่ะ กับการสนทนากับนักถามที่มีความรักต่อท่านนบีเพียงแค่ลมปาก

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri May 12, 2006 8:26 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความของ Al-farook
อิหม่ามมาลิก บุตร อะนัสกล่าวว่า
من ابتدع في الإسلام بدعة يراها حسنة فقد زعم أن محمدا صلى الله عليه وسلم خان الرسالة، لأن الله يقول: (اليَومَ أكْمَلْتُ لَكُم دِينَكُمْ) فما لم يكن يومئذ دينا فلا يكون اليوم دينا
"ผู้ใดอุตริบิดอะฮหนึ่งขึ้นมาในอิสลาม โดยเห็นว่ามันดี แน่นอนเขาย่อมอ้างว่า แท้จริงมุหัมหมัด ศอลฯ นั้น ไม่ซื่อสัตย์ต่อสาส์นแห่งพระเจ้า เพราะว่าอัลลอฮทรงกล่าวว่า (วันนี้เราได้ให้ศาสนาของพวกเจ้าสมบูรณ์สำหรับพวกเจ้าแล้ว) แล้ว สิ่งใดในวันนั้นไม่เป็นศาสนา ดังนั้นในปัจจุบันนี้ก็ไม่เป็นศาสนา" โปรดดูอัลเอียะติศอม เล่ม 1 หน้า 149
...........................
ตอบ
น้อง อัล-ฟารุกครับ น้องอ้างคำพูดของท่านอิม่ามมาลิก เพื่อมาสร้างความความชอบธรรมในการทำบิดอะฮเมาลิค ทั้งๆที่คำพูดข้างต้น ก็คือ ไม้ค้อนตีหัวผู้อ้างเอง ไม่น่าเชื่อเลยว่า น้องสนับสนุนกิจกรรมนี้มาเป็นกิจกรรมศาสนา ทั้งๆที่ ไม่มีคำสอนในอัลกุรอ่าน ไม่มีคำสอนในอัสสุนนะฮ และไม่ปรากฏว่าในยุคสลัฟเขาทำกัน
อัล-ฟารุกอ้างว่า

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า

وكدلك مايحدثه بعض الناس إما مضاهاة للنصارى فى ميلاد عيد عيسى عليه السلام وإما محبة
النبى صلى الله عليه وسلم وتعظيما له ، والله قد يثيبهم على هدا المحبة والإجتهاد

“เช่นเดียวกับสิ่งดังกล่าว คือสิ่งที่ส่วนหนึ่งจากบรรดามนุษย์ได้กระทำขึ้นมากกับมัน ซึ่งบางทีมันอาจคล้ายกับพวกนะซอรอ ในการฉลองวันเกิดนบีอีซา อะลัยฮิสลาม และบางทีมันเป็นการแสดงออกซึ่งความรักต่อท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และทำการให้เกียตริแก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)จะให้ผลบุญตอบแทนกับพวกเขา ต่อความรักและการวินิจฉัยนี้” ดู หนังสืออิกติฏออฺ อัศศิรอฏ อัลมุสตะกีม หน้า 266 ตีพิมพห์ ดารุลหะดิษ
……………..
ตอบ
ยังมีต่ออีกครับว่า
لاعلى البدع من اتخاذ مولد رسول اللّه (ص ) عيدا , مع اختلاف الناس في مولده
(การแสดงออกดังกล่าวนั้น)ไม่ใช่อยู่บนบิดอะฮ จาก การยึดเอาวันเกิดรซูลุลลอฮ เป็นเทศกาลเฉลิมฉลอง ทั้งที่ บรรดาผู้คนมีข้อขัดแย้งกันในวันเกิดของท่าน

......................
จึงไม่รู้ว่าท่านส่งเสริมหรือ ตำหนิกันแน่
และ al-farook อ้างว่า
จากนั้นไม่กี่บรรทัด ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวอีกว่า
فإن هدا لم يفعله السلف مع قيام المقتضى له وعدم المانع منه ولو كان خيرا محضا أو راجحا لكان السلف رضي الله عنهم أحق به منا

“ดังนั้น แท้จริงอันนี้ สะลัฟไม่ได้เคยกระทำมัน พร้อมทั้งมีนัยยะ(เหตุผล)ให้กระทำมัน และก็ไม่มีสิ่งใดมาห้าม และหากว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆ แน่นอนว่า สะลัฟ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม) เหมาะสมยิ่งกล่าวเราด้วยกับมัน” ดู หนังสืออิกติฏออฺ อัศศิรอฏ อัลมุสตะกีม หน้า 266
......................
ตอบ
อันนี้ น่าจะแปลเข้าข้างตัวเอง ที่จริงควรจะแปลว่า
ดังนั้น แท้จริงอันนี้ สะลัฟไม่ได้เคยกระทำมัน พร้อมทั้งมีเหตุผลให้กระทำมันได้ และก็ไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค และหากว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆหรือ มีน้ำหนัก แน่นอนว่า สะลัฟ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม) เหมาะสมควรยิ่งกว่าพวกเรา(ที่จะทำมัน)
........................
Al-farook ไม่ได้แปลคำว่า “أوراجحا ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร
อันที่จริงมีข้อความต่อไปอีกว่า
فانهم كانوا اشد محبة لرسول اللّه وتعظيما له منا
แท้จริง พวกเขา มีความรักต่อท่านรซูลุ้ลลอฮ และ ให้ความสำคัญต่อท่าน ยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก
....................
ประเด็นนี้ ท่านอิบนุตัยมียะฮไม่ได้ส่งเสริมหรอก แต่ ท่านบอกว่า ถ้าดีจริง มีน้ำหนักจริง เหล่าสะลัฟย่อมที่จะทำมาก่อนพวกเราแล้ว เพราะ พวกเขารักและให้ความสำคัญต่อท่านรซูล ยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก อัล-ฟารุก น่าจะตั้งคำถามให้แก่ตัวเองว่า “ทำไมพวกเขาจึงไม่ทำ” แล้วใช้สมองคนระดับปริญญาโทคิดและคิดๆๆๆๆ.... เรื่อง นี้แค่เอาอุลามาอฺมาประชันกันเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานจากศาสนบัญญัติ มันก็หนุกดี
..........
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat May 13, 2006 9:08 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam


อ้างข้อความจากบังอะสัน

ข้อความของ Al-farook
อิหม่ามมาลิก บุตร อะนัสกล่าวว่า
من ابتدع في الإسلام بدعة يراها حسنة فقد زعم أن محمدا صلى الله عليه وسلم خان الرسالة، لأن الله يقول: (اليَومَ أكْمَلْتُ لَكُم دِينَكُمْ) فما لم يكن يومئذ دينا فلا يكون اليوم دينا
"ผู้ใดอุตริบิดอะฮหนึ่งขึ้นมาในอิสลาม โดยเห็นว่ามันดี แน่นอนเขาย่อมอ้างว่า แท้จริงมุหัมหมัด ศอลฯ นั้น ไม่ซื่อสัตย์ต่อสาส์นแห่งพระเจ้า เพราะว่าอัลลอฮทรงกล่าวว่า (วันนี้เราได้ให้ศาสนาของพวกเจ้าสมบูรณ์สำหรับพวกเจ้าแล้ว) แล้ว สิ่งใดในวันนั้นไม่เป็นศาสนา ดังนั้นในปัจจุบันนี้ก็ไม่เป็นศาสนา" โปรดดูอัลเอียะติศอม เล่ม 1 หน้า 149
...........................
ตอบ
น้อง อัล-ฟารุกครับ น้องอ้างคำพูดของท่านอิม่ามมาลิก เพื่อมาสร้างความความชอบธรรมในการทำบิดอะฮเมาลิค ทั้งๆที่คำพูดข้างต้น ก็คือ ไม้ค้อนตีหัวผู้อ้างเอง ไม่น่าเชื่อเลยว่า น้องสนับสนุนกิจกรรมนี้มาเป็นกิจกรรมศาสนา ทั้งๆที่ ไม่มีคำสอนในอัลกุรอ่าน ไม่มีคำสอนในอัสสุนนะฮ และไม่ปรากฏว่าในยุคสลัฟเขาทำกัน


วิจารณ์

บังอะสันอย่าเอาคำกล่าวของอิมามมาลิกมาโยงเกี่ยวกับเรื่องเมาลิดเลยครับ ผมนำเสนอไปนั้น เพื่อให้พี่น้องมุสลิมเข้าใจคำพูดของสะลัฟตามที่นักปราชญ์แห่งโลกอิสลามเขาเข้าใจกัน คือคำกล่าวของสะลัฟกับคำว่า "บิดอะฮ์" แบบโดดๆ (มุฏลัก) ไม่อะไรต่อท้ายนั้น พวกเขานิยมหรือเข้าใจว่า มันคือ "บิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง" ดังนั้น คำกล่าวของอิมามมาลิก็คือ "ผู้ใดที่อุตริกรรมบิดอะฮ์(ที่ลุ่มหลง)หนึ่งขึ้นมาในอิสลาม แล้วเขาเห็นว่ามันดี แน่นอน เขาย่อมอ้างว่า...."

ไม่ใช่หมายความว่า"ผู้ใดที่อุตริกรรมบิดอะฮ์(ที่ดีอันมีรากฐานจากศาสนา)ขึ้นมาในอิสลาม แล้วเขาเห็นว่าดี แน่นอน เขาย่อมอ้างว่า..." หากบังอะสันเข้าใจอย่างนี้ แน่นอนว่า อิมามชาฟิอีย์ ก็ต้องสนับสนุนบิดอะฮ์ก่อนใครๆ ท่าน หาฟิซฺ อิบนุหะญัร ก็ต้องสนับสนุนบิดอะฮ์และเพิ่มเติมศาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย - วัลอิยาซุบิลลาห์ -

และอิมามอัช-ชาฟิอีย์ ก็ไม่ได้เข้าใจว่า "บิดอะฮ์ที่ถูกสรรญเสริญ ที่มีรากฐานอยู่ในศาสนาอิสลาม คือการเพิ่มเติมศาสนาอิสลาม" ดังนั้น คำว่า "บิดอะฮ์" (ที่พูดแบบมุฏลัก หรือ เฉยๆ) ที่อิมามมาลิกกล่าวนั้น หมายถึง "บิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง" เท่านั้น เพราะบรรดาอุลามาอ์มัซฮับอิมามาลิก็ไม่ได้เข้าใจอย่างนั้น และอิมามชาฟิอีย์ ลูกศิษย์ของอิมามมาลิก ก็ไม่ได้เข้าใจอย่างนั้น
ท่านอิบนุหะญัร ได้กล่าวอธิบายว่า

البدعة: أصلها ما أحدث على غير مثال سابق، وتطلق في الشرع في مقابل السنّة فتكون مذمومة والتحقيق أنها إن كانت مما يندرج تحت مستحسن فى الشرع فهى حسنة وإن كانت مما يندرج تحت مستقبح فهى مستقبحة وإلا فهى من قسم المباح

ความว่า " บิดอะฮ ที่มาของมันคือ สิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน และในทางศาสนา ใช้เรียกแบบเฉยๆ( مطلق ) คือ สิ่งที่ตรงกันข้ามกับอัสสุนนะฮ ดังนั้น มันเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิ และ(คำกล่าว)ที่ประณีตแน่แฟ้นนั้น คือ แท้จริง บิดอะฮ์นั้น หากมันมีมา จากสิ่งที่อยู่ภายใต้สิ่งที่นับว่าดี ในหลักศาสนา มันก็คือ (บิดอะฮ์)หะสะนะฮ์(บิดอะฮ์ที่ดี) และหากว่ามันมีมา จากสิ่งที่อยู่ภายใต้สิ่งที่ถือว่าน่ารังเกียจ มันก็คือ(บิดอะฮ์)ที่น่ารังเกียจ และถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น(จากบิดอะฮ์ทั้งสอง) มันก็มาจาก ประเภทที่มุบาห์" ( ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 4 หน้า 253)

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat May 13, 2006 9:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างจากบังอะสัน

Al-farook ไม่ได้แปลคำว่า “أوراجحا ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร
อันที่จริงมีข้อความต่อไปอีกว่า

วิจารณ์

การแปลตกนั้น ย่อมไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อผมได้ ยกตัวบทภาษาอาหรับสมบูรณ์แล้ว บังอะสันน่าจะรู้ดีว่า ช่วงนี้พวกเรามีสอบกัน ผมจึงพิมพ์เสร็จก็โพสต์เลย ไม่มีเวลามาตรวจทานและทบทวนว่าตรงใหนแปลผิดหรือตรงใหนแปลตกหล่นไปบ้าง ดังนั้น แปลตกไปบ้างก็คงไม่เป็นไร และมันก็ไม่ได้ทำให้บิดเบือนความหมายโดยรวมเลย

อ้างจากบังอะสัน

ยังมีต่ออีกครับว่า
لاعلى البدع من اتخاذ مولد رسول اللّه (ص ) عيدا , مع اختلاف الناس في مولده
(การแสดงออกดังกล่าวนั้น)ไม่ใช่อยู่บนบิดอะฮ จาก การยึดเอาวันเกิดรซูลุลลอฮ เป็นเทศกาลเฉลิมฉลอง ทั้งที่ บรรดาผู้คนมีข้อขัดแย้งกันในวันเกิดของท่าน

วิจารณ์

เราทราบดีครับว่ายังมีคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ต่ออีก แต่การที่เราไม่ยกมานั้น ก็ไม่ได้ทำให้การทำเมาลิดพี่น้องมุสลิมทั่วโลกทำอยู่ต้องเป็นบิดอะฮ์ตามทัศนะของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นี่ครับ และเราก็ยกเพียงบางส่วนนั้น ก็เพื่อ(วางนุก)จะให้บังอะสันและพี่น้องวะฮาบีย์ทักท้วงเราอยู่แล้ว เพื่อเราจะได้ชี้แจงได้อย่างชัดเจนและเป็นลำดับๆไป

จากคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่ว่า "ไม่ใช่อยู่บนบรรดาบิดอะฮ์ จากการทำให้วันเกิดของร่อซูลุเลาะฮ์(ซ.ล.) มาเป็นวัน"อีด" พร้อมกับบรรดาผู้คน(อุลามาอ์)ได้ขัดแย้งกันในวันเกิดของท่าน"

ดังนั้น การทำให้วันเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี มาเป็น "วันอีด" นั้น บิดอะฮ์อย่างแน่นอน เพราะมันเป็นการเพิ่ม วันอีด เป็น 3 วัน จากอีด อัฏหา และอีดฟิตรฺ และอีดเมาลิด และไม่มีผู้ใดเรียก การทำเมาลิดว่า เป็นวัน "อีด" ซึ่งคำว่า "อีด" คือวันที่ถูกเจาะจงเรียบร้อยแล้ว แต่เมาลิด(วันเกิด)ของท่านนบีนั้น บรรดาอุลามาอ์ก็มีการขัดแย้งกันอยู่ บางทัศนะบอกว่า ท่านนบี เกิดวันที่ 12 เดือนร่อบิอุลเอาวัล บางทัศนะบอกว่า วันที่ 9 ร่อบิอุลเอาวัล

คำว่า"อีด" นั้น ไม่ใช่แปลว่า "เทศกาล" ไม่ใช่ใครเรียกหรอกที่เรียกอีดอัฏหาว่า "เทศกาลฮัฏหา" ไม่ใครเรียกอีดฟิตรว่า "เทศกาลฟิตร์" คำว่าเทศกาลนั้น ภาษาอาหรับเขาเรียกว่า " موسم " ไม่ใช่ " عيد " แต่การทำเมาลิดรำลึกถึงท่านนบี(ซ.ล.)นั้น เราทำกันได้ตลอดปี ไม่ใช่ไปเจาะจงทำกันวันเดียว เหมือนกับ อีดอัฏหา และอีดฟิตร์ ดังนั้น ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ไม่ได้กล่าวหาว่าการทำเมาลิดเป็นบิดอะฮ์แบบโดยรวม

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Sat May 13, 2006 9:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้อง al-faook กล่าวว่า
1. "การทำเมาลิดนบีนั้น คือการฟังประวัติศาสตร์ท่านนบี(ซ.ล.)เพื่อตอกย้ำรำลึกถึงท่านนบี ทำการซ่อลาวาต ทำการซิกรุลเลาะฮ์" ดังนั้น การที่เราไม่ทำเมาลิดด้วยการ ไม่เล่าไม่ฟังประวัติของท่านนบี ไม่ทำการซอลาวาต ไม่ทำการซิกรุลเลาะฮ์ นั้น คือการแสดงความรักต่อท่านนบี(ซ.ล.) ตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์ใช่หรือไม่??? "
2. คือให้เราอยู่เฉยๆ อย่างไปฟังอัลกุรอาน อย่างไปซอลาวาต อย่าไปซิกิร นั่นคือการแสดงความรักต่อท่านนบีตามแบบฉบับของซอฮาบะฮ์ ทีอะดีลต้องการใช่ใหม?
.......................................................
ตอบ
1. น้องครับ ทำไมการที่จะศึกษาหรือเล่า ประวัตินบี จะต้องจำกัดในวันจัดงานวัดเกิดของท่านนบี ด้วย น้องครับ การที่จะทำการซิกรุ้ลลอฮ และเศาะละวาตนบี ต้องมีเงื่อนไขว่า ต้องทำในโอกาส วันจัดงานเมาลิดเท่านั้นหรือ
2. ทำไมคิดตื้นๆอย่างนั้น คนที่เขาไม่ทำเมาลิต เขาไม่มีโอกาสฟังอัลกุรอ่าน เศาะละวาตและซิกริลละฮอย่างนั้นหรือ แล้วเหล่าเศาะหาบฮล่ะ เขาไม่รักนบีหรือ เห็นพวกเขาไม่ได้จัดงานวันเกิดนบี
อัล-ฟากิฮานีย์ อัลมาลิกีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
لا أعلم لهذا المولد أصلاً في كتاب ولا سنة، ولا ينقل عمله عن أحد من علماء الأمة، الذين هم القدوة في الدين، المتمسكون بآثار المتقدمين، بل هو بدعة أحدثها البطالون، وشهوة نفس اعتنى بها الأكالون.. إلخ) [السنن والمبتدعات (ص: 143)]. -
ข้าพเจ้าไม่ทราบ ที่มา(หลักฐาน)ในคัมภีร์ และ ในสุนนะฮ และการกระทำมัน(เมาลิด)ไม่ได้ถูกรายงานมาจากคนหนึ่งคนใดจากบรรดาอุลามาอแห่งอุมมะฮ ซึ่งพวกเขาเป็นแบบอย่างในเรื่องศาสนา ยึดมั่นในร่องรอย(แบบอย่าง)ของบรรดาชนรุ่นก่อน แต่ทว่า มันคือ บิดอะฮ ที่บรรดาผู้ที่ไร้สาระ อุตริขึ้นมาใหม่ และเป็นความปรารถนาของอารมณ์ ที่บรรดาผู้ที่เห็นแก่กินปรารถนามัน... ดูอัสสุนันวัลมุบตะดะอาต หน้า 143
................................
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Sat May 13, 2006 9:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมเคยอ้างอิงคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ไปว่า

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวอีกว่า

فإن هدا لم يفعله السلف مع قيام المقتضى له وعدم المانع منه ولو كان خيرا محضا أو راجحا لكان السلف رضي الله عنهم أحق به منا

“ดังนั้น แท้จริงอันนี้ สะลัฟไม่ได้เคยกระทำมัน พร้อมทั้งมีนัยยะ(เหตุผล)ให้กระทำมัน และก็ไม่มีสิ่งใดมาห้าม และหากว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆ หรือมีน้ำหนัก แน่นอนว่า สะลัฟ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม) เหมาะสมยิ่งกล่าวเราด้วยกับมัน” ดู หนังสืออิกติฏออฺ อัศศิรอฏ อัลมุสตะกีม หน้า 266

แต่บังอะสันทักท้วงในคำแปลของผมว่า

อันนี้ น่าจะแปลเข้าข้างตัวเอง ที่จริงควรจะแปลว่า
ดังนั้น แท้จริงอันนี้ สะลัฟไม่ได้เคยกระทำมัน พร้อมทั้งมีเหตุผลให้กระทำมันได้ และก็ไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค และหากว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆหรือ มีน้ำหนัก แน่นอนว่า สะลัฟ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม) เหมาะสมควรยิ่งกว่าพวกเรา(ที่จะทำมัน)

วิจารณ์

ผมไม่เห็นว่า ผมแปลเข้าข้างตนเองอะไรเลย แต่ยิ่งไปกว่านั้น มันก็เป็นการแปลที่ถูกต้องตามหลักการ แต่ผมว่าบังอะสันแปลเข้าข้างตนเองมากกว่า (ฮ่าๆเป็นอย่างงั้นไปได้เนอะ) บังอะสันทักท้วงการแปลสองคำ คือ

1. คำว่า " المقتضى " ผมแปลว่า"นัยยะ(เหตุผล)" แต่บังอะสันแปลว่า"เหตุผล"อย่างเดียว
2. คำว่า " المانع " ผมแปลว่า "สิ่งที่มาห้าม" แต่บังอะสันแปลว่า "อุปสรรค"

ทั้งที่ความจริงแล้ว หากเราจะแปลนั้น คำว่า " المقتضى " จะแปลได้หลายความหมายตามหลักวิชาการนั้นๆ แต่ผมแปลว่า นัยยะ หรือ ความเข้าใจ ดังนั้นคำว่า " المقتضى " หมายถึง " المفهوم " (นัยยะความเข้าใจ) ที่ตามบรรดาอาจารย์ของผมได้ ตักดีร อธิบายคำว่า(มุกตะฏอ) เอาไว้ อย่างเช่นหะดิษนบีที่ว่า

إنما الأعمال بالنيات

"แท้จริง บรรดาอะมัลนั้น ด้วยการเหนียต"

หะดิษนี้ นักวิชาการฟิกห์อธิบายว่า มันมี " المقتضى " ที่ตักดีร(สมมุติอธิบายคำพูดที่)อยู่ในคำกล่าวของหะดิษนี้ ซึ่ง " المقتضى " นี้ จึงมีการขัดแย้งกัน 2 ทัศนะ

มัซฮับหะนะฟีย์เข้าใจว่า " المقتضى " ของหะดิษนี้ ก็คือ

إنما كمال الأعمال بالنيات

"แท้จริง ความสมบุรณ์ของบรรดาอามัลนั้น ด้วยการเหนียต"

หมายถึงหากไม่เหนียตก็ไม่ทำให้เสียอะมัล แต่หากมีเหนียตด้วยอะมัลก็จะสมบูรณ์

แต่มัซฮับชาฟิอีย์เข้าใจว่า

إنما صحة الأعمال بالنيات

"แท้จริง การใช้ได้ของบรรดาอะมัลนั้น ด้วยการเหนียต"

หมายถึง หากไม่เหนียต อะมัลก็ไม่เซาะฮ์ ใช้ไม่ได้

ดังนั้น คำว่า كمال หรือ صحة นั้น เขาเรียกว่า " المقتضى " ดังนั้น คำว่า " المقتضى " นี้ ก็คือ นัยยะหรือความเข้าใจ " المفهوم " จากคำพูดของตัวบท ไม่ใช่ علة เหตุผลจากตัวบท ดังนั้น คำว่า "เหตุผล" ผมจึงวงเล็บเอาไว้ เนื่องจากไม่ใช่หมายโดยตรง หวังว่าบังอะสันคงเข้าใจ
ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า แม้ว่าซอฮาบะฮ์ไม่ทำ แต่มันก็มี

1. คำว่า " المقتضى " "นัยยะความเข้าใจ(เหตุผล)" คือ เพราะมีความรักต่อท่านนบี และให้เกียตริต่อท่านนบี

2. คำว่า وعدم المانع منه "คือไม่มีสิ่งใดมาห้าม" นั่นหมายถึงว่า ไม่มีหลักฐานใดหรือหลักการมาห้ามให้กระทำมัน หรือไม่อุปสรรคที่มาห้ามให้กระทำมัน และคำว่าอุปสรรคนี้ ก็อยู่ในความหมายที่ว่า"ไม่มีหลักฐานมาห้าม"ด้วย หากแปลว่า "อุปสรรค"อย่างเดียวนั้น ย่อมเป็นการ تحكم (ตะหักกุม) พูดโดยตามอำเพอใจโดยไร้หลักฐาน

ดังนั้น ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า

فتعظيم المولد وإتخاذه موسما قد يفعله بعض الناس ويكون له فيه أجر عظيم لحسن قصده وتعظيم لرسول الله صلى الله عليه وسلم

“ดังนั้น การให้เกียตริการทำเมาลิดและทำมันเป็นเทศกาลนั้น บางส่วนของมนุษย์ได้กระทำมัน และให้กับบางส่วนเกี่ยวกับเมาลิดนั้น ย่อมมีผลตอบแทนทิ่ยิ่งใหญ่ เพราะมีเจตนาเป้าหมายที่ดีในการทำเมาลิดและเป็นการให้เกียตริแก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม” ดู หนังสืออิกติฏออฺ อัศศิรอฏ อัลมุสตะกีม หน้า 267 , และมัจญะมั๊วะ ฟะตาวา ของอิบนุตัยมียะฮ์ เล่ม 23 หน้า 134

ดังนั้น การให้เกียตริวันเกิดของท่านนบี และทำมันเป็นเทศกาล موسم ไม่ใช่ทำเป็นวัน عيد โดยมีเจตนาที่ดี คือเพื่อส่งเสริมให้เรามีความรักและรำลึกต่อท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ และให้เกียตริต่อท่าน มันย่อมเป็นสิ่งที่กระทำตามได้ทัศนะของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ และเราก็มีทัศนะในการทำเมาลิดโดยมีเหตุผลดังกล่าวนั้นอย่างแน่นอน ส่วนคำว่า "บางส่วนของมนุษย์" นั้น หมายถึง "บางส่วนของอุลามาอ์" ที่ให้การยอมรับ เนื่องจากคนเอาวามทั่วไปจะไปวินิจฉัยศาสนาเองและทำเองนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ไม่ได้ปฏิเสธเมาลิดแบบโดยรวมครับ

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, ... 15, 16, 17  ถัดไป
หน้า 2 จากทั้งหมด 17

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.23 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ