ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เหลือเชื่อ !!! เสื้อเรารักนบีเป็นบิดอะห์
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เหลือเชื่อ !!! เสื้อเรารักนบีเป็นบิดอะห์
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 9, 10, 11 ... 25, 26, 27  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 4:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้าว...คุณอะสันแบบนี้ เขาเรียกว่า งงแล้วชวนตีนี่ครับ ถามมาได้ว่าเราตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์อย่างไร? ทั้งที่เรื่องมัซฮับนั้น เราพูดกันมาตั้งเยอะแล้ว ในกระทู้ มัซฮับสะละฟีย์และมัซฮับ(ภาค1) ดังนั้น คุณอะสันก็ไปทบทวนให้ละเอียด แล้วต้องมาโวยวาย....และหากคุณจะบอกว่านั่นคือมัซฮับอิมามชาฟิอีย์จริงๆนั้น คุณก็ต้องนำหลักฐานมาให้ชัดและมีอะมานะฮ์ในการถ่ายทอดวิจารณ์

ผมว่าการนำเสนอของคุณนั้น ไม่ใช่เพื่อให้เราตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์หรอก แต่เพื่อให้ต้องการให้เข้าแนวทางที่คุณจะเอาเท่านั้นเอง โดยการไปหยิบยกทัศนะใดก็ตามที่คิดว่า ขอย้ำ คิดว่าตรงกันแนวทางของตน(วะฮาบีย์)

พอเรื่องกุนูต คุณก็บอกว่า ศาสนาไม่ได้บอกว่าให้เราตามอิมามชาฟิอีย์ เราก็บอกว่าการตามอิมามชาฟิอีย์นั้น ยาอิซฺ ให้สมัครใจตาม โดยไม่เอียะติกอตว่าแนวทางของท่านเท่านั้นที่ถูก

แต่เวลามัซอะฮ์ละฮ์ที่ วะฮาบีย์สาว่าจะตรงกับแนวทางของตนจะเอา ก็พยายามให้เราตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์ โดยไม่ให้เราออกจากมัซฮับของท่าน คือเราต้องอยู่มัซฮับชาฟิอีย์ออกไม่ได้ ทั้งที่เรากล่าวว่าไม่วายิบให้ตามมัซฮับชาฟิอีย์(แต่แค่ญาอิซฺ) แล้วมาโวยวายว่าเราไม่ตามมัซฮับชาฟิอีย์

สรุปก็คือ พวกวะฮาบีย์ต้องการที่จะให้ผู้อื่นตามแนวทางที่ตนจะเอาเท่านั้นเอง พอสิ่งที่ตนเองไม่เอาก็บอกว่าศาสนาไม่ได้บอกให้ตามคนนั้น คนนี้ แต่เวลาสิ่งใดที่สาว่า (แค่สาว่า) จะตรงกันตนเอง ก็บอกให้ผู้อื่นต้องอยู่แนวทางของคนนั้น คนนี้ เพื่อจะลากให้มาตามฝ่ายตน

แต่เมื่อน้องอัลฟารูกบอกว่า หากว่ามันเป็นมัซฮับของอิมามชาฟิอีย์จริงๆ ก็ให้อ้างหลักฐานและอ้างอิงมาโดยมีอะมานะฮ์ตามหลักการของมัซฮับอิมามชาฟิอีย์ คุณอะสันก็เลยปอดแหก กลัวว่าจะไม่ตรงตามมัซฮับชาฟิอีย์ และกลัวว่าน้องอัลฟารูกจะสอนมวย ก็เลยต้องโวยวายแบบไม่เป็นท่า...

คุณอะสันครับ คุณนั้นยังมีความสุขุมยังไม่พอ นั่นคือจุดด้อยและจุดอ่อนของคุณ คุณยึดแต่หลักการที่ตนจะเอาเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงหลักการของแนวทางอื่นที่ถูกต้องกว่า มันจึงทำให้คุณหาทางออกไม่ได้ เลยต้องโวยวาย

เมื่อก่อนคุณได้ทำการสนทนากับคนเอาวามทั่วไปอย่างสนุกสนาน แต่ปัจจุบัน คุณต้องมาเจอกับพวกเรา ซึ่งทำให้คุณต้องหนักใจหน่อย ก็ขอมะอัฟล่วงหน้าด้วยนะครับ

_________________
ต่อต้านวะฮาบีย์บิดอะฮ์พันธ์ใหม่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 6:46 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มุหัมหมัดว่า
คุณอะสันครับ คุณนั้นยังมีความสุขุมยังไม่พอ นั่นคือจุดด้อยและจุดอ่อนของคุณ คุณยึดแต่หลักการที่ตนจะเอาเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงหลักการของแนวทางอื่นที่ถูกต้องกว่า มันจึงทำให้คุณหาทางออกไม่ได้ เลยต้องโวยวาย

.................
ตอบ
ของคุณถูกต้องตามความเห็น แต่ของผมถูกต้องตามหลักฐาน ฮะฮา
พวกคุณไม่ได้เอาอัล-กุรอ่านและแบบอย่างนบีมาเป็นบันทัดฐาน แต่จะพยายามเล่นสำนวน แล้วก็ยั่วยุ อารมณ์ ตามสไตล์ ขนาดไม่มีในอัลกุรอ่านและหะดิษ พวกคุณยังบอกว่าสุนัต นี้คือ จุดอ่อนสุดๆ ทั้งหมดนี้ เราได้ขอสรุปว่า เพราะคุณเรียนอะกีดะฮที่ไม่ได้เน้นความสำคัญของคำสอนอัลลอฮและรอซูล แต่เน้นเรื่อง ท่องสีฟัต 20 และการตีความกุรอ่าน ให้เข้าปัญญาตัวเองเหมือนมัวตะซิละอ ยกตัวอย่าง การสอนคำตอบให้แก่มัยยิตในกุบูร แบบนี้ เขาเรียกว่า เป็นกลโกงในการสอบ คือ แอบบอกคำตอบให้แก่ผู้เข้าสอบ ..เฮ้อ..นิยาย คุณก็เอามาเป็นศาสนา มีอย่างที่ไหน มลาอิกะฮ มาเห็นคนกำลังสอนมัยยิตอยู่ แล้วชวนกันกลับ แบบนี้ยังทนงตนว่า ตัวเองสุดยอดไม่มีใครเทียบ อันที่จริง..หากไม่เกรงว่า ทำให้ชาวบ้านจะเกิดความเข้าใจผิด ผมไม่เข้ามาในบอร์ดนี้หรอก
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 7:31 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam บังอะสันที่คิดถึง

บังอะสันต้องใจเย็นๆ นะครับ การที่บังอะสันกล่าวกับพวกเราว่า ไม่ได้เอาอัลกุรอานและซุนนะฮ์มมาเป็นบรรทัดฐานนั้น บังอะสันจะถอนคำพูดไหม่ก็ได้ หรือบังอะสันจะพูดเป็นร้อยเป็นล้านครั้งก็ได้ อันนี้เป็นสิทธิ์ของบังอะสันครับ แต่การสนทนาต่างๆที่ผ่านมานั้น มันชี้ถึงหลักการของเรา แม้บังอะสันจะสรุปว่าอย่างไรกับเรา เราก็ไม่บังคับบังอะสันหรอกครับ แต่ในการสนทนาต่างๆที่ผ่านมานั้น มันย่อมชี้ชัดในหลักการของเราแล้วครับ อัลฮัมดุลิลลาห์

รักษาสุขภาพ

อัล-อัซฮะรีย์

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 11:13 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

وعليكم السلام ورحمة الله
ขอบใจที่เป็นห่วงสุขภาพบังอะสัน น้อง al-azhary ครับ เรื่องของทัศนะแต่ละฝ่ายนั้น หลักฐานสอดคล้องกันหรือไม่ นั้น ผู้อ่านเขามีวิจารณญานในการตัดสิน ต่างก็อ้างไป ไม่มีใครบังคับใครได้ แต่ขอให้เป็นการอ้างอิงตัวบท แล้วยกมาว่า นักวิชาการเขามีมุมมองอย่างไร อันนี้เราก็สามารถคุยกันได้ด้วยความสุขและได้ศึกษาค้นคว้าไปด้วย แต่ไม่ใช่สไตล์แบบมุหัมหมัด ที่แนบชัยฏอนมาด้วย มายั่วยุ จาบจ้วง ซึ่งวิสัยของมนุษย์อย่างเราบางครั้งก็ทนไม่ได้ ดังนั้น อย่าเข้าข้างฝ่ายเดียวกันจนน่าเกลียด บังจึงเห็นว่า น้อง al-azhary พอจะคุยกันได้ แต่..มุหัมหมัด บอกตรงๆว่า รับไม่ได้จริง ๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 4:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam พี่น้องทุกท่าน

ผมเข้ามาเพื่อสรุปให้พี่น้องไดด้เห็นในข้อเท็จจริงอีกทีนะครับหลังจากได้อ่านรายละเอียดจากการเสวนาเรื่องปัญคิลาฟียะในศาสนา ระหว่างฝ่ายที่อยู่ในทัศนะหรือตามผู้รู้ในยุคสลัฟตัวจิงคือท่าสนอีหม่ามชาฟีอี และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในสิ่งผู้รู้ในทัศนะอีห่ามชาฟีอี หรือชื่อ3 พยงค์ว่า วะฮาบีย์

ผมทราบว่าหลังจากที่มีน้องนักศึกษาจากประเทศอียิปต์ ซึ่งสถาบันที่เปิดสอนทั้ง4มัสหับหรือ4แนวทางเลือก(ยกเว้นมัสหับวะฮาบีย์เพราะเขาถือว่ามัสหับนี้ไม่มีและไม่เป็นที่รู้จักในยุคสลัฟ)
---พี่น้องของเราหลายคน ที่เข้ามาชมและหลายคนกด็พอจะแยกแยะออกว่าใครอยู่แนวทางใด
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า บังอะสัน,คุณอิสยาส,คุณอะดีลคุณเดินผ่านและอีกฯลฯ (ยกเว้นคุณดับ ซึ่งยังไม่ชี้ชัดว่าอยู่แนวทางไหนกันแน่ )
---ที่กล่าวมานี้เพื่อให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นว่าแนวทางของวะฮาบีย์นั้น จะเอาทุกๆทัศนะทุกๆมัซฮับที่ตรงกับตนเองมาอ้างสนับสนุนและผนวกเพื่อให้สอดคล้องกับทัศนะของตน เป็นที่น่าสังเกตุว่า หลักฐานการเชิญคนมารับประทานอาหารหลังจากวันแรกไปแล้วจากญาติของมัยยัตซึ่งเป็นผู้จัดการทุกอย่างกับญาติของเขาที่เสียไป กลับถูกฮุกมว่าเป็นบิดอะโดยอุลามะสายวะฮาบีย์เป็นส่วนมาก ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงแค่คำวินิจฉัยของอุลามาอ์ที่ไม่มีหลักฐานที่ เด็ดขาด(ก๊อดอีร์) แถมยังไม่พบคำสั่งห้ามที่มากีตาบุลลออ์และซุนนะนบีเลยสักประโยคซึ่งทางวะฮาบีย์ชอบใช้เป็นข้อห้ามบังหน้าเสมอว่า ทุกอย่างที่เขากระทำหรือปฏิบัติไม่ว่าคำสั่งห้าหรือใช้นั้น ต้องมาจากสองสิ่งนี้คือจากอัลกุรอานและหะดิษมาระบุอย่างชัดเจนเท่านั้น
แล้วเรื่องที่วะฮาบีย์เมืองไทยปัจุบันที่ทำการสร้างหุกุ่มดังกล่าวขึ้นมาเองนั้น อยากถามว่า เมื่อไม่มีหลักฐานจากกีตาบุลลอฮ์และซุนนะนบีแล้ว บุคคลที่เป็นวะฮาบีย์ ที่ผมกล่าวถึงนั้นเอาอะไรมาหลักในการฮูกม ผู้ที่อยู่ต่างมัสหับละครับ ไหนบอกนักบอกหนาว่า ฮูกมทุกอย่างต้องมาจากสองสิ่งนี้เท่านั้น มนุษย์หน้าไหนจะสร้างฮูกมเองไม่ได้เด็ดขาด เมื่อไม่มีหลักฐานชี้ชัดจากคำสั่ง หรือว่าวะฮาบีย์เมืองไทย เหนือกว่าท่านนบีเหนือว่าศอฮาบะเหนือกว่าตาบีอีน จึง อุตริสร้างฮูกมในการกระทำดังกล่าวขึ้นมาเอง หรือเอาการกระทำนี้โดยอาศัยเปิดช่องทางเพื่อกิยาสขึ้นมาเองในการฮูกมพี่น้องที่ยืนในทัศนะต่างจากตน นะอูซุบิลลา.
---- Laughing ฉนั้น การฮูกมดังกล่าวของวะฮาบีย์นั้น--มันเป็นแค่การวินิจฉัยของอุลามาอ์ที่เป็นบรรดาลูกหลานของท่านอิบนุตัยมียะและท่านมูฮำมัดอิบนิอับดุลวะฮาบและบรรดาสานุศิษย์รวมทั้งราชวงค์ซาอู๊ดด้วยที่เดินตามแนวทางนี้เท่านั้น---ดังนั้นเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับทัศนะของตนและเห็นว่าการกระทำที่เคยปฏฺบัติกันมาในมักกะและมาดีนะไม่ว่าตั้งแต่สมัยท่านนบีสมัยคอลีฟะทั้ง4 และซอฮาบะอื่นทั้งตาบีอีน,ตาบีอีตตาบีอี,คนสลัฟอัสซอและห์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดและเป็นบิดอะฮารอมทั้งสิ้น ทั้งที่ทุกอย่างที่เขาฮูกมว่าบิดอะนั้นมันมีอยู่ก่อนที่อยู่ก่อนหน้าท่านอิบนุตัยมียะและท่านมุฮำมัดบินอับดุลวะฮาบเสียด้วยซ้ำ ที่น่าแปลกคือวะฮาบีย์กลับฮูกมซฮอาบะอย่างท่านอุมัร(รด)และท่านอื่นฯลฯ ว่านั้นคือการกระทำที่ลุ่มหลงทั้งสิ้น..
.
และในทางกลับกันนั้น ฝ่ายที่อยู่ในทัศนะของอีหม่ามชาฟีอี(รด)กลับมีหลักที่ซอเหียะ ฮะซัน ฯลฯแต่กลับถูกปกฺเสธจากสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าในการทำอาหารเลี้ยงเป็นทานเพื่ออุทิศผลบุญแก่มัยยิด โดยการสั่งเสียของท่านอุมัร บรรดาซอฮาบะฮ์ก็ทำกันหลังจากท่านนบี(ซ.ล.)เสียชีวิต และก็ทำกันหลังจากท่านอบูบักรเสียชีวิต ท่านอัล-อับบาส ก็ประกาศให้ผู้คนทำการรับประทานอาหาร และท่านอับบาสก็เป็นคนแรกที่ยื่นมือไปรับประทานอาหารและบรรดาซอฮาบะฮ์ก็ทำการยืนมือร่วมรับประทานอาหาร และบรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหลาย ก็ชอบ รัก ที่จะเลี้ยงอาหาร ให้อาหาร เพื่อเป็นทานแก่มัยยิดในช่วง 7 วัน เมื่อเป็นเช่นนี้ วะฮาบีย์ก็ควรจะยอมรับผู้ที่มีทัศนะต่างกับตน และยอมจำนนด้วยหลักฐานในการกระทำที่ถูกนำมาอ้าง แต่ไม่เช่นั้นกลับเยาะเย้ยและลื่นไหลเหมือนคนขี้รั่วไม่หยุด ช่างเป็นการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียนมาก

ข้อพิสูจน์ของความถูกต้องนั้น วายิบเขาต้องนำหลักฐานมาหักล้างไม่ใช่เอาหลักกูหรือนัฟซูด้านต่ำมาหักล้างเพื่อความสะใจ และเมื่อไม่มีหลักฐานมาอ้างก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่า นั้นคือบิดอะและต้องตกนรก และยกแนวทางของตนเท่านั้นที่ถูกและเป็นหุกุ่มของอัลเลาะฮ์ ฝ่ายเดียว

ผมเองยังแปลกใจว่าทำไมวะฮาบีย์โจมตีผู้ที่ทำบุญเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นทานแก่มัยยิด ทั้งที่ ที่มีหลักฐานที่พอสรุปจากการกรทำจากซอฮาบะแล้วแต่กลับไม่สนใจมัน

ผมจะยกให้ดูกันอีกที
1.ท่านอุมัร ก็สั่งเสียให้ทำอาหารเลี้ยง
ถามกลับวะฮาบีย์ว่า.....ท่านอุมัรทำบิดอะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีย์ หรือไม่
2.หลังจากท่านนบี(ซ.ล.)เสียชีวิต ก็มีการเลี้ยงรับประทานอาหารและดื่มกัน หลังจากที่ท่านอบูบักร(ร.ฏ.) เสียชีวิต บรรดาซอฮาบะฮ์ก็มีการเลี้ยงอาหารรับประทานและดื่มกัน
เป็นบิดอะอะไรกัแน่
3.ท่านอัล-อับบาส บิน อับดุลมุฏฏอลิบ เป็นผู้ประกาศให้บรรดาซอฮาบะฮ์ทำการรับประทานอาหาร และท่านก็เป็นคนแรกที่ยื่นมือไปรับประทานอาหาร แล้วท่าน อัล-อับบาส นี้ทำบิดอะฮ์ ตามทัศนะของวะฮาบีย์หรือไม่?
4.บรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหลาย ต่างก็ชอบ รัก ที่จะเลี้ยงอาหาร ให้อาหาร เพื่อที่เป็นทานแก่มัยยิด ถึง 7 วัน แล้วบรรดาซอฮาบะฮ์ทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงตามทัศนะของวะฮาบีย์หรือไม่


ขอให้ตอบแบบมีหลักฐานและหายข้องใจหน่อยเถิดครับอย่า เอาอารมณ์ไมชอบมาอ้างกัน


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 9:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
ท่านผู้มีนามว่า konyakroo ตลอดเวลาที่ พณฯ เข้ามาในกระดานสนทนา สิ่งที่พณฯนำเสนอนั้น หาสาระไม่ค่อยได้ ได้แต่อ้างว่า คุณ ฟารุกกล่าวว่า คุณอัล-อัซฮารีกล่าวว่า ..และคุณมุหัมหมัดกล่าวว่า แล้วมาถึงวันนี้มาทำตัวเป็นอุลามาใหญ่ ชี้ขาดว่า ที่บิดอะฮนั้น สะลัฟแท้ เลยหรือ
จริงๆไม่อยากจะยุ่ง มันเสียเวลา แต่..อดสมเพทไม่ได้ จึงขอพูดเสียหน่อย เพราะรำคาญคางคกขึ้นวอ ถ้าไม่มีหลักวิชาการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ทำตัวเป็นผู้อ่านที่ดีดีกว่า ดีกว่าเที่ยวเข้ามาเสียดสี คนโน้นที คนนี้ที เฮ้อ...รำคาญ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 9:56 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สงสัยอยากปิดประเด็น คุณคนอยากรู้เลยเข้ามาสรุป ถึงไม่บอกก็รู้อยู่แล้วว่า ต้องสรุปให้กินเลี้ยงบ้านคนตายให้ได้ (ไม่รู้หิวโหยมาจากไหน) ถ้าเช่นนั้นผมก็สรุปบ้างซิ จะถูกใจหรือไม่ก็ไม่ทราบได้

หลังจากพี่น้องได้อ่านรายละเอียดการถกปัญหาระหว่างฝ่ายซุนนะฮ์ ไม่ผูกขาดกับมัซฮับใด (คนอยากรู้กับพวกใส่ร้ายตั้งชื่อให้ว่าพวกวะฮาบีย์) กับฝ่ายที่แอบอ้างจะตามอิหม่ามชาฟีอี แบบผูกขาดฝังหัว (แต่เรื่องนี้พวกเขาไม่ตามอิหม่ามชาฟีอี ฮ่าๆๆ)

ผมย้ำว่า อิหม่ามชาฟีอีเข้าใจอย่างนี้นะ ให้ทำอาหารให้บ้านผู้ตาย อย่างน้อยวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ผู้อ้างว่าตามอิหม่ามชาฟีอีก็บอกว่า พวกเขาตามอยู่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงก็คือ คนเมืองไทยไปรุมกินอาหารบ้านคนตายโดยครอบครัวผู้ตายเป็นเจ้าภาพ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธว่าไม่จริ้ง ไม่จริง แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏอยู่ดาษดื่น นี่คือการหนีความจริงซึ่งหน้า

แต่หลังจากวันแรกผ่านไปแล้วอิหม่ามชาฟีอีก็ไม่บ่งชี้ว่าให้ครอบครัวคนตายทำอาหารเลี้ยงคนอื่น แต่ผู้อ้างว่าตามอิหม่ามชาฟีอีกลับไม่ตามซะแล้ว วิ่งเลยนำหน้าอิหม่ามชาฟีอีไป แล้วตะโกนบอกคนอื่นว่า ทำได้ๆ ไม่สนใจอิหม่ามชาฟีอีซะแล้ว

นี่แค่การเลี้ยงอาหารเท่านั้นนะ ยังไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมที่อุตริทำกันก่อนเลี้ยงอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าอิหม่ามชาฟีอีไม่ได้เสนอแนะพิธีกรรมดังกล่าวไว้ แต่ผู้อ้างว่าตามอิหม่ามชาฟีอี ก็ต้องดันทุรังหาช่องทำกันจนได้แหละ เชื่อดิ...ก็วิ่งนำหน้าอิหม่ามชาฟีอีไปอีกเช่นกัน

ถ้าพี่น้องตามอิหม่ามชาฟีอีก็เลิกซะเถอะ การรุมกินที่บ้านคนตายไม่ว่าจะกี่วันก็เถอะ เพราะอิหม่ามชาฟีอีไม่สอนอย่างนี้ อย่าแอบอ้างท่านเลย จะทำให้ท่านมัวหมองเปล่าๆ

พี่น้องของเราหลายคน ที่เข้ามาชมและหลายคนก็พอจะแยกแยะออกว่าใครอยู่แนวทางใด ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า คนอยากรู้, มูฮัมมัด, อัลฟารูก, อัลอัลฮารีย์และอีกฯลฯ (ยกเว้นคุณดับ ซึ่งยังไม่ชี้ชัดว่าอยู่แนวทางไหนกันแน่ ) กระทำการแอบอ้างอิหม่ามชาฟีอีแบบอุกอาจ ทำให้อิหม่ามชาฟีอีด่างพร้อย

ที่กล่าวมานี้เพื่อให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นว่าแนวทางของผู้อ้างว่าตามอิหม่ามชาฟีอีนั้น จะปฏิเสธไม่ใช่เฉพาะคำของอิหม่ามชาฟีอีเพียงอย่างเดียว แม้แต่สานุศิษย์อิหม่ามชาฟีอีอีกหลายท่านก็ถูกปฏิเสธ ถ้าไม่ตรงกับที่พวกเขาจะเอา

เป็นที่น่าสังเกตุว่า หลักฐานการทำอาหารให้ครอบครัวผู้ตายนั้นชัดเจนจากคำสั่งและการปฏิบัติของซอฮาบัต ซึ่งอิหม่ามชาฟีอียึดถืออยู่ แต่พวกเขาไม่สนับสนุนรักษาแบบฉบับของนะบีไว้ หรือแนวทางของอิหม่ามชาฟีอี แต่พวกเขากลับหาช่อง หามุมเพื่อสนับสนุนการกระทำของพวกเขาให้ถูกต้องให้จงได้ พอเป็นอย่างนี้เราก็งงกับทัศนะของพวกเขาที่เสนอแต่ละครั้งเช่นนี้


ผมเคยพูดว่า

บดอ เมืองไทยทำอาหารให้ครอบครัวมัยยิดรึ ? ตาหลก
เกือบจะร้อยทั้งร้อยรุมกินบ้านคนตาย และกลายเป็นประเพณีแล้ว จะรวยจะจนก็ต้องทำเลี้ยง คนตายควายก็ตาย ฮ้าๆๆ


อัลฟารูกตอบว่า

แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงอย่างที่คุณกล่าวมานั้น เราก็ขอตำหนิและประนาม และเราก็ต้องช่วยชี้นำพวกเขาให้ไปสู่หนทางที่ถูกต้อง

ผมนึกว่าพวกเขาจะพูดด้วยความสัจจริง แต่เผลอแปล๊บเดียวพวกเขาเปลี่ยนจุดยืนซะแล้ว นอกจากไม่ตำหนิ ไม่ประณามแล้ว กลับส่งเสริมอีก ด้วยการเอาฮะดีษอุมัรมาอ้าง

และนี่เป็นอีกข้อความหนึ่งที่พวกเขาโพ้สต์ไว้

บรรดาปวงปราชญ์กล่าวว่า สุนัตให้เพื่อนบ้านเรือนเคียงหรือบรรดาญาติห่างๆ ทำการตระเตรียมอาหารให้แก่ครอบครัวมัยยิด โดยทำให้พวกเขาอิ่มในวันหนึ่งและคืนหนึ่ง และนี่ก็คือทัศนะของนักปราชญ์ส่วนมากและเป็นแนวทางของมัซฮับทั้งสี่

ผมก็นึกว่าพวกเขาจะยืนอยู่ในแนวทางของมัซฮับทั้งสี่ โดยเฉพาะมัซฮับชาฟีอี แต่พวกเขาเอาข้อความเหล่านี้มาโชว์ แล้วพวกเขาก็เปลี๋ยนไปอีก

พอมาสรุปก็เลี่ยงไปอีกว่า เชิญคนมารับประทานอาหารหลังจากวันแรกไปแล้วจากญาติของมัยยัตซึ่งเป็นผู้จัดการทุกอย่างกับญาติของเขาที่เสียไป

ผมจับทางได้ว่า เหตุที่พวกเขาหาความแน่นอนไม่ได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะหาช่องหลบหลีก แต่แน่นอนที่ซู้ดคือ พวกเขาไม่ตามอิหม่ามซาฟีอี

ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือ พยายามตัดต่อฮาดีส เติมคำเพื่อเพิ่มความหมายใช้เป็นหลักฐานว่า นะบีก็กินบุญบ้านคนตาย แต่บังอะสันเอาตัวบทจากสุนันอะบีดาวู๊ดให้ดูก็หงายหลัง (กล้าหาญชาญชัยมากๆๆด้วย)

ศาสนานี้ของคนรวยอย่างเดียวหรือ คนจนทำไงกันละ พอตายทีญาติก็ผวาแล้ว มีขบวนการหากินกับคนตายเยอะแยะ มัยยิตหนึ่งหลายหมื่นบาททีเดียว อนาถจริงๆ


ผมเอามาให้ดูอีกที

1.ท่านนะบีสั่งทำอาหารให้ครอบครัวผู้ตาย

"พวกท่านจงทำอาหารให้แก่ครอบครัวของญะฟัร เพราะแท้จริง ได้มีสิ่งที่ทำให้พวกเขายุ่งอยู่" หะดิษนี้ ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะซัน และท่านฮากิมกล่าวว่า หะดิษนี้ ซอฮิหฺ
เมื่อท่านนะบีสั่งอย่างนี้ไม่มีซอฮาบัตทำตามเลยหรือ หรือว่าทำตรงข้าม

2. จุดยืนของซอฮาบัตเรื่องนี้คือ

" พวกเราถือว่า การรวมตัวกัน ยัง(บ้าน)ครอบครัวของผู้ตาย และการที่พวกเขาทำอาหารนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากการ คร่ำครวญถึงผู้ตาย" (เป็นที่ต้องห้าม)

3. ฮาดีสของท่านอุมัรที่พวกเขาเอามาโชว์ (ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมกินบุญบ้านคนตาย) พวกเขาอ้างว่า ไม่ใช่วันแรกแต่เป็นหลักฐานให้ทำหลังจากนั้น แล้ววันแรกสรุปว่าเช่นไรละ ทำได้หรือไม่ได้


4. คำสั่งเสียของท่านอุมัรที่อ้างมาก็ดี หรืออ้างจากท่านอับบาสก็ดี รอดหูรอดตาอิหม่ามทั้ง 4 มาได้ยังไง มีอิหม่ามท่านใดจากมัซฮับทั้ง 4 ใช้เป็นหลักฐานอนุญาตให้ทำอาหารเลี้ยงบ้านผู้ตาย อิหม่ามมาลีกี ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบะลี ตอบหน่อยดิ ไม่เช่นนั้นผมจะกล่าวหาว่าพวกคุณไม่ตามมัซฮับใดเลย แต่พวกคุณตั้งมัซฮับกันใหม่ ฮ่าๆๆๆ


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Thu Apr 20, 2006 10:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

คุณอะดีล มันหมดเวลาที่คุณจะมาพูดเรื่องนี้แล้วล่ะครับ เพราะเขาสนทนาไปเรียบร้อยแล้ว ท่านอิมามชาฟิอีย์ ไม่ได้ทำการอธิบายหุกุ่มทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอนาคตจากสมัยของท่าน และอิมามชาฟิอีย์ก็ไม่เคยอ้างว่า ตนเองได้ทำการอธิบายวินิจฉัยทุกๆหุกุ่มแล้ว ไม่ว่าจะในอดีตและอนาคต ดังนั้นเราจะมากล่าวว่า สิ่งที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้บอกห้ามหรือใช้ไว้ หากเราทำขึ้นมา คือสิ่งที่หะรอม มันคือการที่เราไม่ได้ตามอิมามชาฟิอีย์นั้น มันเป็นคำพูดที่ตบตาผู้อ่าน อิมามชาฟิอีย์มีทัศนะว่า การกินเนื้ออูฐนั้นไม่เสียน้ำละหมาด แต่อิมามนะวาวีย์ผู้เป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์บอกว่า การกินเนื้ออูฐนั้นทำให้เสียน้ำละหมาด ก็ยังไม่มีใครว่าเลยว่า อิมามนะวาวีย์ไม่ได้ตามมัซฮับชาฟิอีย์แล้ว???

หากเราศึกษามัซฮับชาฟิอีย์จริงๆแล้ว เราจะพบว่า บรรดาอุลามาอ์อิมามชาฟิอีย์ ได้ทำการวินิจฉัยวิเคราะห์เรื่องศาสนาต่างๆมากมายที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้ทำการวินิจฉัยและกล่าวเอาไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถูกกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ตามอิมามชาฟิอีย์ บรรดาอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ ผู้คุณธรรมทั้งหลาย เช่นอิมามนะวาวีย์ อิมามรอฟิอีย์ อิมามอิบนุหะญัร อิมามซะกะรียาอัลอันซอรีย์ อิมามรอมลี เป็นต้น พวกเขาก็วินิจฉัยว่า การกล่าวคำเหนียตนั้นเป็นสุนัตเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้บอกเอาไว้ แต่กระนั้น บรรดาอุลามาอ์ผู้มีคุณธรรมนั้น ก็ไม่ได้ถูกประนามว่า ไม่ได้ตามอิมามชาฟิอีย์ หรือขัดกับอิมามชาฟิอีย์ และพวกเขาก็ยังได้ชื่ว่าเป็นอุลามาอ์ที่อยู่ในมัซฮับอิมามชาฟิอีย์ แต่คุณไม่เข้าใจเรื่องมัซฮับ การทำอาหารให้กับครอบครัวผู้ตายหนึ่งวันหนึ่งคืนตามที่อิมามชาฟิอีย์ได้กล่าวไว้นั้น พี่น้องมุสลิมเมืองไทยเขาก็กระทำกันอย่างนั้นซึ่งนั่นก็คือประเด็นหนึ่ง และส่วนประเด็น 3 วัน 7 วันก็อีกประเด็นหนึ่ง และคุณสมควรเข้าใจเรื่อง"มัซฮับ" ด้วย ไม่ใช่มากล่าวว่า สิ่งที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้กล่าวไว้ แล้วเรามาทำด้วยการยึดหลักฐานอื่นอีกที่อิมามได้กล่าวเอาไว้ คือการไม่ได้ตามอิมามชาฟิอีย์นั้น มันย่อมเป็นคำพูดของผู้ที่ไร้การศึกษา และรู้จริงเกี่ยวกับมัซฮับ

การที่คุณกล่าวว่า "รุมกิน" นั้น เป็นเพียงพอที่จะชี้ถึง ความเป็นวิชาการของคุณ ที่ผ่านมา คุณเคยกล่าวว่า "ท่านอุมัรสั่งให้รุมกิน" แค่นี้มันก็เพียงและสร้างความปลื้มปิติดีใจให้กับชีอะฮ์อัรรอฟิเฏาะฮ์แล้วครับ แม้คุณจะสนทนาไม่ให้เกียตริพี่น้องมุสลิมเมืองไทยที่ทำอาหารเพื่อเป็นทาน ยังไงคุณก็สมควรมีมารยาทต่อท่านอุมัรบ้างก็ยังดีนะครับ

และคำกล่าวที่คุณว่ามาทั้งหมดนั้น มันไม่จำเป็นที่ต้องแก้ต่างแต่อย่างไร เพื่อคำตอบเราได้ชี้แจงอย่างครอบคลุมแล้ว คุณเข้ามาเพื่อระบายใจอัดอั่นแค้นในใจเท่านั้นเอง ก็ขอให้คุณทำตามหน้าที่คุณต่อไปครับ

wassalam

อัล-อัซฮะรีย์

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 12:06 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لَا تُقَدِّمُوا بَيْنَ يَدَيِ اللَّهِ وَرَسُولِهِ وَاتَّقُوا اللَّهَ إِنَّ اللَّهَ سَمِيعٌ عَلِيمٌ
[49.1] โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย ! พวกเจ้าอย่าได้ล้ำหน้า (ในการกระทำใด ๆ) ต่ออัลลอฮ์ และร่อซู้ลของพระองค์ พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้- อัลหุญะรอต/1
وقال مجاهد: لا تفتاتوا على رسول الله صلى الله عليه وسلم بشيء حتى يقضيه الله على لسانه
และมุญาฮิดกล่าวว่า “พวกท่านอย่า ได้ชี้ขาดล้ำหน้ารซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยสิ่งใด จนกว่า อัลลอฮได้ตัดสินมัน โดยคำพูดของท่านรซูล
وقال الضحاك: يعني في القتال وشرائع الدين لا تقضوا أمرًا دون الله ورسوله
และอัฎเฎาะหากกล่าวว่า หมายถึง ในเรื่อง ที่เกี่ยวกับการทำสงครามและบทบัญญัติศาสนา พวกท่านอย่าตัดสินสิ่งใดๆ อื่นจากอัลลอฮและรซูลของพระองค์
- ตัฟสีรอัลบัฆวีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 1 ซูเราะฮอัล-หุญะรอต

عن ابن عباس, في قوله ( لا تُقَدِّمُوا بَيْنَ يَدَيِ اللَّهِ وَرَسُولِهِ ) يقول: لا تقولوا خلاف الكتاب والسنة.
จากอิบนุอับบาส เกี่ยวกับคำตรัสของอัลลอฮที่ว่า( ! พวกเจ้าอย่าได้ล้ำหน้า (ในการกระทำใด ๆ) ต่ออัลลอฮ์ และร่อซู้ลของพระองค์) ท่านอับบาสกล่าวว่า “พวกท่านอย่ากล่าว ขัดแย้งกับอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
- ตัฟสีรอัฎฎอ็บรีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 1 ซูเราะฮอัล-หุญะรอต
.............................................
สรุปจากคำอธิบายอายะฮข้างต้นคือ คนที่ทำสิ่งใดที่อัลลอฮและนบีไม่ได้สอนไว้ เขาเรียกว่า "บังอาจล้ำหน้าอัลลอฮและรซูล"
หากจะทำอะไรตามอำเภอใจ โดยไม่คำนึงว่า อัลลอฮสอนไว้หรือไม่ ท่านนบีทำแบบอย่างหรือสอนไว้หรือไม่ แล้วคุณนับถือ ศาสนาแบบใหน พออิหม่ามชาฟิอีไม่ได้สอนไว้ ก็อ้างว่า ชาฟิอีไม่ได้ห้าม อยากจะถามว่า สมมุติเราจะอ่าน คำว่า สะมีอัลลอฮุลิมันหะมิดะฮ ในสุญูด ได้หรือไม่ เพราะนบีไม่ได้ห้าม ตอบหน่อย เห็นชักจะเลอะใหญ่แล้ว น้องบ่าวเฮ้อ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 12:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary กล่าวว่า

คุณอะดีล มันหมดเวลาที่คุณจะมาพูดเรื่องนี้แล้วล่ะครับ เพราะเขาสนทนาไปเรียบร้อยแล้ว

คุณกำลังจะบอกว่า หมดเวลาสำหรับผม แต่ไม่หมดเวลาสำหรับคุณกับพวกกระนั้นหรือ เพราะพวกคุณชื่อ คนอยากรู้ ก็พูดอยู่โทนโท่ข้างต้นนั้นไง ไม่หมดเวลาละหรือ อะ..แอ่ม..

al-azhary กล่าวว่า

ท่านอิมามชาฟิอีย์ ไม่ได้ทำการอธิบายหุกุ่มทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอนาคตจากสมัยของท่าน และอิมามชาฟิอีย์ก็ไม่เคยอ้างว่า ตนเองได้ทำการอธิบายวินิจฉัยทุกๆหุกุ่มแล้ว ไม่ว่าจะในอดีตและอนาคต

คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังตำหนิท่านอิหม่ามชาฟีอี คุณจะหลอกคนอื่นได้ยัง เพราะเรื่องนี้อิหม่ามชาฟีอีได้อธิบายไว้แล้ว ไม่ใช่ไม่เคยอธิบาย และคุณกับพวกเป็นคนนำมาแสดงเองด้วยซิ ข้อความต่อไปนี้ไง

ท่านอิมามอัช-ชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า" ฉันรัก ที่จะให้เพื่อนบ้านของผู้ตาย หรือบรรดญาติของผู้ตาย ทำอาหารให้กับครอบมัยยิด ในวันที่เขาได้เสียชีวิต และอีกหนึ่งคืนของมัน โดยที่ทำให้พวกเขาอิ่ม เพราะสิ่งดังกล่าวนั้น เป็นซุนนะฮ์ และมีการระลึกที่มีเกียตริ โดยที่มันเป็นการกระทำของผู้ที่เป็นคนดีก่อนจากเราและหลังจากเรา" ดู หนังสือ อัล-อุมมฺ เล่ม 1 หน้า 247

คุณกล่าวหาว่าผมตบตาผู้อื่นได้ไง เพราะนี้คือคำของอิหม่ามชาฟีอี พวกคุณหมดเวลาที่จะหลอกคนอื่นแล้วละ

อีกอย่าง..ผมไม่เคยตำหนิท่านอุมัร และผมไม่ได้เป็นผู้ยกฮาดีสเรื่องนี้มาอ้าง แล้วคุณจะกล่าวหาว่าผมตำหนิท่านอุมัรได้อย่างไร พวกคุณต่างหากที่ต้องอธิบาย

คำสั่งเสียของท่านอุมัรที่พวกคุณอ้างมาก็ดี หรืออ้างจากท่านอับบาสก็ดี รอดหูรอดตาอิหม่ามทั้ง 4 มาได้ยังไง หรือคุณจะบอกว่ามันเป็นเหตุการณ์อนาคตที่เกิดขึ้นหลังจากอิหม่ามชาฟีอีอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่อย่างที่คุณอ้างมา

ถ้าอย่างนั้นมีอิหม่ามท่านใดบ้างจากมัซฮับทั้ง 4 ใช้เป็นหลักฐานอนุญาตให้ทำอาหารเลี้ยงบ้านผู้ตาย อิหม่ามมาลีกี ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบะลี ตอบหน่อยดิ ไม่เช่นนั้นผมจะกล่าวหาว่าพวกคุณไม่ตามมัซฮับใดเลย แต่พวกคุณตั้งมัซฮับกันใหม่ ฮ่าๆๆๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 2:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากคุณอะดีล

คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังตำหนิท่านอิหม่ามชาฟีอี คุณจะหลอกคนอื่นได้ยัง เพราะเรื่องนี้อิหม่ามชาฟีอีได้อธิบายไว้แล้ว ไม่ใช่ไม่เคยอธิบาย และคุณกับพวกเป็นคนนำมาแสดงเองด้วยซิ ข้อความต่อไปนี้ไง

ท่านอิมามอัช-ชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า" ฉันรัก ที่จะให้เพื่อนบ้านของผู้ตาย หรือบรรดญาติของผู้ตาย ทำอาหารให้กับครอบมัยยิด ในวันที่เขาได้เสียชีวิต และอีกหนึ่งคืนของมัน โดยที่ทำให้พวกเขาอิ่ม เพราะสิ่งดังกล่าวนั้น เป็นซุนนะฮ์ และมีการระลึกที่มีเกียตริ โดยที่มันเป็นการกระทำของผู้ที่เป็นคนดีก่อนจากเราและหลังจากเรา" ดู หนังสือ อัล-อุมมฺ เล่ม 1 หน้า 247
คุณกล่าวหาว่าผมตบตาผู้อื่นได้ไง เพราะนี้คือคำของอิหม่ามชาฟีอี พวกคุณหมดเวลาที่จะหลอกคนอื่นแล้วละ

ตอบ

คุณอะดีลอย่าหลอกตัวเองและหลอกลวงผู้อื่นเลยครับ ท่านอิมามชาฟิอีย์ ได้อธิบายเรื่องการทำอาหารให้กับครอบครัวมัยยิดหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านั้น โดยไม่ได้อธิบายถึงประเด็นอื่น และประเด็นที่อิมามชาฟิอีย์ได้อธิบายไปนั้น พวกเราก็ทำกันอยู่ คือทำอาหารให้หนึ่งวันกับหนึ่งคืน เท่านี้เราก็ทำตามหะดิษของท่านนบีและทำตามคำวินิจฉัยของอิมามชาฟิอีย์แล้วครับ

แต่คุณอะดีลเข้าใจอย่างไร้หลักการว่า การที่อิมามชาฟิอีย์ใช้ให้ทำอาหารหนึ่งวันกับหนึ่งคืน คือการห้ามทำเลี้ยงอาหารทำทาน 3วัน และ 7 วัน ซึ่งอย่างนี้จะไม่มีผู้ใดกล่าวนอกจากพวกบิดอะฮ์ และคุณอะดีลต้องการหลักฐานคำพูดของบรรดาอิมามเกี่ยวกับ 3 วันและ 7 วัน เพื่อจะยืนยันในแนวทางของเรา ทั้งที่มีสายรายงานจากท่านอุมัรและบรรดาซอฮาบะฮ์ โดยมีนักหะดิษได้รายงานเอาไว้ เช่นการเลี้ยงอาหารเป็นทาน 7 วันนั้น อิมามอะหฺมัด หนึ่งใน 4 อิมาม ได้ทำการรายงานอย่างซอฮิหฺเอาไว้ มันพอหรือยังครับคุณอะดีล คุณเคยอ่านสิ่งที่บังๆเขานำเสนอไปบ้างหรือเปล่า?? และนั่นคือนิสัยของคุณที่ไม่ยอมอ่านสิ่งที่คู่สนทนานำเสนอ และออกจากหลุมแล้วมาถามสิ่งที่น่าหัวเราะและน่าขำ

คุณอะดีลครับ การทำบุญเลี้ยงอาหารเป็นทานอะไรคุณทราบใหมครับ?? การทำบุญเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นทานนั้น คือประเภทหนึ่งของการ "ซออาเกาะฮ์" และบรรดาอิมามทั้งสี่นั้น ก็มีความพร้องกันว่า อนุญาติให้ทำทาน(ซอดาเกาะฮ์)ให้แก่มัยยิดได้

อ้างอิงจากคุณอะดีล

คำสั่งเสียของท่านอุมัรที่พวกคุณอ้างมาก็ดี หรืออ้างจากท่านอับบาสก็ดี รอดหูรอดตาอิหม่ามทั้ง 4 มาได้ยังไง หรือคุณจะบอกว่ามันเป็นเหตุการณ์อนาคตที่เกิดขึ้นหลังจากอิหม่ามชาฟีอีอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่อย่างที่คุณอ้างมา

ถ้าอย่างนั้นมีอิหม่ามท่านใดบ้างจากมัซฮับทั้ง 4 ใช้เป็นหลักฐานอนุญาตให้ทำอาหารเลี้ยงบ้านผู้ตาย อิหม่ามมาลีกี ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบะลี ตอบหน่อยดิ ไม่เช่นนั้นผมจะกล่าวหาว่าพวกคุณไม่ตามมัซฮับใดเลย แต่พวกคุณตั้งมัซฮับกันใหม่ ฮ่าๆๆๆ

ตอบ

อิมามทั้งสี่ไม่สนับสนุนการ ที่ "ครอบครัวผู้ตายทำอาหารเลี้ยง" แต่บรรดาอิมามไม่ได้กล่าวถึง "การที่พี่น้องมุสลิมช่วยกันทำอาหารเลี้ยงบ้านครอบครัวผู้ตาย" ดังนั้น หากคุณกล่าวว่า บรรดาอิมามทั้งสี่ได้กล่าวว่า "การที่พี่น้องมุสลิมช่วยกันทำอาหารเลี้ยงบ้านครอบครัวผู้ตาย" นั้นเป็นบิดอะฮ์ ก็เท่ากับว่าคุณโกหกใส่อิมามทั้งสี่

และเมื่อคุณทราบว่าอิมามทั้งสี่ไม่ได้กล่าวถึงคำสั่งเสียของท่านอุมัรหรือจากท่านอับบาส ซึ่งมันก็หมายถึงว่า อิมามทั้งสี่ไม่ได้ระบุหุกุ่มเอาไว้ และอิมามทั้งสี่ก็ไม่ได้บอกว่า คำสั่งเสียของอุมัรนั้นไม่ซอฮิหฺ และไม่ได้บอกว่าทำการบุญ 3 วัน 7 วัน นั้นเป็นบิดอะฮ์หรือเป็นซุนนะฮ์ เมื่อเป็นเช่นนี้คุณอะดีลจึงไม่มีสิทธิ์เอาสิ่งที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้วินิจฉัย มาตัดสินว่าพวกเราไม่ได้ตามอิมามชาฟิอีย์ บรรดาอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ เช่นอิมามนะวาวีย์ อิมามรอฟิอีย์ อิมามอิบนุหะญัร อิมามรอมลี ก็มีทัศนะว่า การกล่าวคำเหนียตก่อนละหมาดนั้นเป็นสุนัตให้กระทำได้ โดยที่อิมามชาฟิอีย์ไม่ได้กล่าวว่า ก็ไม่มีพวกบิดอะฮ์หน้าใหน บอกว่า อิมามนะวาวีย์และท่านอื่นๆนั้น เป็นพวกที่มีมัซฮับใหม่ ??? (แค่ตรงนี้คุณก็น่าจะเข้าใจได้แล้ว) ทั้งที่คุณเองก็ทราบว่า คำสั่งเสียของท่านอุมัรนั้นมีสายรายงานที่หะซัน ทำไมคุณถึงไม่เอา หรือว่าสายรายงานนั้นต้องผ่านอิมามทั้งสี่เสียก่อน ถึงจะปฏิบัติกันได้??? คุณอะดีลก็อย่าทำตัวตลกและหลอกลวงตัวเองและผู้อ่านเลยครับ

แล้วทำไมคุณไม่ถามผมบ้างว่า"บรรดาซอฮาบะฮ์ได้เลี้ยงอาหารและให้อาหารเป็นทานแก่มัยยิด 7 วันนั้น" รอดหูรอดตาอิมามทั้ง 4 ได้อย่างไร?? คุณน่าจะถามผมอย่างนี้บ้างซิครับ ซึ่งหนึ่งจากอิมามทั้ง4 คือท่าน อิมามอะหฺมัดบินฮัมบัล ได้กล่าวรายงานไว้ว่า

รายงาน จากท่านอิมามอะหฺมัด โดยที่ท่านอะหฺมัด ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัซซุอฮ์ดฺ ว่า

سفيان قال ، قال طاووس : إن الموتى يفتنون فى قبورهم سبعاَ وكانوا يستحبون أن يطعموا عنهم تلك الأيام

" ท่านซุฟยานกล่าวว่า ท่านฏอวูสกล่าวว่า แท้จริงผู้ตายนั้น พวกเขากำลังถูกสอบถามในกุบูรของพวกเขา ถึง 7 วัน และบรรดาซอฮาบะฮ์มีความชอบที่จะทำการเลี้ยง(ให้)อาหารแทนจากพวกเขา ในเจ็ดวันดังกล่าว" ท่าน ชัยค์ อัลอะซ่อมีย์กล่าวว่า สายรายงานหะดิษนี้ قوى (มีน้ำหนัก) หนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิ ซฺะวาอิด อัลษะมานียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 199

มันจบแล้วครับคุณอะดีล เลิกหลอกลวงชาวบ้านได้แล้ว ไปอ่านสิ่งที่เขาสนทนามาให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยมาถามนะ แล้วคำถามที่ผมได้คุณไปนั้นก็โปรดตอบด้วย

ส่วนคำพูดที่คุณเคยกล่าวไว้ที่ว่า "ท่านอุมัรสั่งให้รุมกิน" นั้นคือคำพูดของคุณเอง โปรดทบทวนอย่าทำเป็นลืม คุณเคยพูดพูดไร้มารยาทลามปามของซอฮาบะฮ์อันเนื่องจากความอัคติของตน แต่นั่นมันเป็นคำพูดของคุณ หากน้องผมพูดออกมาอย่างนั้น "ผมตบบั้งหูแตกสลบคาเท้าผมแล้วละครับ" แต่นี่เสียดายที่เป็นคุณ ผมจึงทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 10:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary กล่าวว่า

ส่วนคำพูดที่คุณเคยกล่าวไว้ที่ว่า "ท่านอุมัรสั่งให้รุมกิน" นั้นคือคำพูดของคุณเอง โปรดทบทวนอย่าทำเป็นลืม คุณเคยพูดพูดไร้มารยาทลามปามของซอฮาบะฮ์อันเนื่องจากความอัคติของตน แต่นั่นมันเป็นคำพูดของคุณ หากน้องผมพูดออกมาอย่างนั้น "ผมตบบั้งหูแตกสลบคาเท้าผมแล้วละครับ" แต่นี่เสียดายที่เป็นคุณ ผมจึงทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ

ผมต้องบอกอัลอัซฮารีย์ว่า อย่าเพิ่งไปตบบ้องหูใคร ให้ตบปากตัวเองซะก่อน เพราะดันโกหกใส่ไคล้กล่าวหาว่า ผมลามปามท่านอุมัรโดยพูดว่า "ท่านอุมัรสั่งให้รุมกิน" นี่เป็นคำที่คุณยกเมฆมันขึ้นมาแล้วกล่าวหาว่าผมเป็นคนพูด แต่คำที่ผมพูดจริงๆ เป็นอย่างนี้

คำสั่งเสียของท่านอุมัร ค้านกันกับคำสั่งของนบีไหม เพราะนบีสั่งให้ทำไปให้ครอบครัวคนตาย แต่ท่านอุมัรสั่งให้กินบ้านคนตายงั้นรึ

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาต้องตัดตอนคำพูดเพื่อทำลายผู้อื่น

แต้ถ้าอัลอัซฮารีย์อยากตบบ้องหูจริงๆ ต้องคนที่ลามปามกล่าวหาท่านนะบีว่ารับเชิญไปกินบุญบ้านคนตาย อยากตบบ้องหูไหม เป็นผลงานที่โพสต์โดยนายมูฮัมมัด


فلما رجع أستقبله داعى إمرأته

ดังนั้น ขณะที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)ได้กลับ ผู้เชิญชวนจาก(เจ้าภาพ)ของภรรยามัยยิด ได้เชิญกับท่านร่อซูล(ไปรับประทานอาหาร)

นี่ไง ชัดๆ เลย เติมคำในฮาดีสเปลี่ยนความหมายด้วย ซึ่งบังอะสันวิจารณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อัลอัชฮารีย์ไม่รู้สึกคันไม้คันมืออยากตบบ้องหูบ้างหรือ อุตสาห์ยกเมฆมาว่าผมลามปามท่านอุมัร แต่นี่ใส่ร้ายท่านนะบีจะๆ แล้วเฉยอยู่ทำไมคุณอัลอัซฮารีย์

1 – ตบปากตัวเองที่ยกเมฆกล่าวหาว่าผมลามปามท่านอุมัร
2 – ตบบ้องหูพวกคุณที่ใส่ร้ายนะบี
แต่ผมว่าคุณไม่ทำหรอก และไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้


al-azhary กล่าวว่า

แล้วทำไมคุณไม่ถามผมบ้างว่า"บรรดาซอฮาบะฮ์ได้เลี้ยงอาหารและให้อาหารเป็นทานแก่มัยยิด 7 วันนั้น" รอดหูรอดตาอิมามทั้ง 4 ได้อย่างไร?? คุณน่าจะถามผมอย่างนี้บ้างซิครับ ซึ่งหนึ่งจากอิมามทั้ง4 คือท่าน อิมามอะหฺมัดบินฮัมบัล ได้กล่าวรายงานไว้ว่า

รายงาน จากท่านอิมามอะหฺมัด โดยที่ท่านอะหฺมัด ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัซซุอฮ์ดฺ ว่า

سفيان قال ، قال طاووس : إن الموتى يفتنون فى قبورهم سبعاَ وكانوا يستحبون أن يطعموا عنهم تلك الأيام

" ท่านซุฟยานกล่าวว่า ท่านฏอวูสกล่าวว่า แท้จริงผู้ตายนั้น พวกเขากำลังถูกสอบถามในกุบูรของพวกเขา ถึง 7 วัน และบรรดาซอฮาบะฮ์มีความชอบที่จะทำการเลี้ยง(ให้)อาหารแทนจากพวกเขา ในเจ็ดวันดังกล่าว" ท่าน ชัยค์ อัลอะซ่อมีย์กล่าวว่า สายรายงานหะดิษนี้ قوى (มีน้ำหนัก) หนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิ ซฺะวาอิด อัลษะมานียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 199

[color=blue]ซุบฮานัลลอฮฺ [/color]ท่านฏอวุสนี่หรือคือซอฮาบัต ที่อิหม่ามอะหมัด เจ้าของมัซฮับฮัมบะลี ใช้อ้างเป็นหลักฐานกินเลี้ยงบ้านคนตาย หรือคุณอ้างเองกันแน่ เพราะท่านฏอวุสเป็นคนระดับตาบีอีน ไม่เชื่อก็ถามอัลฟารูกดูดิ เพราะเขาพูดไว้ก่อนหน้าแล้วว่า ท่านฏิวูสเป็นตาบีอีย์ แต่ที่อิหม่ามอะหัมดอ้างระดับซอฮาบัติคือต้นนี้

โปรดอ่านครับ

‏ ‏عَنْ ‏ ‏جَرِيرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ الْبَجَلِيِّ ‏ ‏قَالَ ‏
‏كُنَّا نَعُدُّ ‏ ‏الِاجْتِمَاعَ إِلَى أَهْلِ الْمَيِّتِ وَصَنِيعَةَ الطَّعَامِ بَعْدَ دَفْنِهِ مِنْ ‏ ‏النِّيَاحَةِ
رواه أحمد وصححه الألباني في أحكام الجنائز (ص167)
จากญะรีร บินอับดุลลอฮ อัล-บะญะลี กล่าวว่า “ พวกเรานับว่า การไปชุมนุมกันที่ครอบครัวผู้ตายและทำอาหารกินกัน หลังจากที่ฝังมัยยิต เป็นส่วนหนึ่งของการนิยาหะฮ- รายงานโดย อะหมัด อัลบานียได้ระบุว่า เป็นหะดิษเศาะเหียะ ในหนังสือ อะหกามุ้ลญะนาอิซ หน้า 167


และแน่ๆเลยคือ อิหม่ามอะหมัดไม่สนับสนุนส่งเสริมให้กินเลี้ยงบ้านคนตาย
ไม่รู้อัลอัชฮารีย์แกล้งงงกับคำถามของผมอะเปล่านะ ผมถามว่า คำสั่งเสียของท่านอุมัรที่พวกคุณอ้างมาก็ดี หรืออ้างจากท่านอับบาสก็ดี รอดหูรอดตาอิหม่ามทั้ง 4 มาได้ยังไง หรือคุณจะบอกว่ามันเป็นเหตุการณ์อนาคตที่เกิดขึ้นหลังจากอิหม่ามชาฟีอีอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่อย่างที่คุณอ้างมา


ถ้าอย่างนั้นมีอิหม่ามท่านใดบ้างจากมัซฮับทั้ง 4 ใช้เป็นหลักฐานอนุญาตให้ทำอาหารเลี้ยงบ้านผู้ตาย อิหม่ามมาลีกี ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบะลี ตอบหน่อยดิ ไม่เช่นนั้นผมจะกล่าวหาว่าพวกคุณไม่ตามมัซฮับใดเลย แต่พวกคุณตั้งมัซฮับกันใหม่ ฮ่าๆๆๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 11:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้องอัล-อัซฮารีกล่าวว่า
คุณอะดีลครับ การทำบุญเลี้ยงอาหารเป็นทานอะไรคุณทราบใหมครับ?? การทำบุญเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นทานนั้น คือประเภทหนึ่งของการ "ซออาเกาะฮ์" และบรรดาอิมามทั้งสี่นั้น ก็มีความพร้องกันว่า อนุญาติให้ทำทาน(ซอดาเกาะฮ์)ให้แก่มัยยิดได้
………………………..
ตอบ
การทำเศาะดะเกาะฮของลูกแทนพ่อแม่นั้น ไม่มีใครโต้แย้งหรอก ครับ แต่..การที่ทายาทหรือครอบครัวผู้ตาย ไปเชิญผู้คนมาชุมนุมที่บ้าน แล้วเลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่มาชุมนุม หลังจากที่เขาได้ทำพิธี ตะฮลีล และอ่านดุอาอุทิศผลบุญให้ผู้ตาย พิธีกรรมแบบนี้ มันมีแบบอย่าง(สุนนะฮ)มาจากท่านนบีหรือไม่ เปล่าเลย และตอนที่ท่านหญิงเคาะดียะฮ ถึงแก่กรรม ท่านนบี ทำบุญ 3 วัน 7 วัน แบบที่บ้านเราทำไหม เปล่าเลย... และการทำเศาะดะฮเกาะฮนั้น วัตถุประสงค์ เพื่อให้ทานแก่คนจนใช่หรือไม่ แล้วที่เชิญมากินนั้น เป็นใคร... เป็นคนจนหรือเปล่า ..เปล่าเลย แล้วเมื่อไม่มีแบบอย่าง ทำไมจึงไม่กลับไปสู่แบบอย่างที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังหะดิษ

قَالَ عَبْدُ اللهِ بْنِ جَعْفَرَ : لَمَّا جَاءَ نَعْيُ جَعْفَرِ حِيْنَ قُتِلَ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : اِصْنَعُوْا لآلِ جَعْفَرِ طَعَامًا فَقَدْ اَتَاهُمْ مَايُشْغِلُهُمْ . (حسنه الترمزى وصححه الحاكم)

อับดุลลอฮ บุตร ญะฟัร กล่าวว่า “ ขณะที่ข่าวของท่านญะอฟัร ถูกสังหารเสียชีวิต ได้มาถึง ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็กล่าวว่า “พวกท่านจงทำอาหารให้แก่ครอบครัวยะฮฟัร ความจริง สิ่งที่นำความทุกข์แก่พวกเขา ได้มาประสบกับพวกเขา” – อัตติรมิซีย์ระบุว่า เป็นหะดิษ หะซัน และอัลหากิมระบุว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ
.....................
แบบอย่าง คือ นำอาหารไปให้พวกเขา ไม่ใช่นำไปให้แล้วชุมนุมกันกิน หรือ รับเชิญมากินกัน แล้วใช้ การทำพิธี ตะฮลีล อ่านดุอา อุทิศผลบุญให้ เป็นค่าตอบแทน มันสวนทางกับอัสสุนนะฮ ชัดๆอยู่แล้ว ทำไมจึงดันทุรัง โต้แย้งอีก
และท่านอิหม่ามชาฟิอี (ขออัลลอฮ เมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وَاُحِبُّ لِجِيْرَانِ الْمَيِّتِ اَوْذِيْ قَرَابَتِهِ اَنْ يَعْمَلُوْا لاَهْلِ الْمَيِّتِ فِىْ يَوْمِ يَمُوْتُ وَلَيْلَتِهِ طَعَامًا مَا يُشْبِعُهُمْ وَاِنَّ ذَلِكَ سُنَّةٌ
และข้าพเจ้าชอบให้เพื่อนบ้านมัยยิตและญาติใกล้ชิดของเขา ทำอาหารให้แก่ครอบครัวผู้ตาย ให้พวกเขากินให้อิ่ม ในวันและคืนที่เขาตาย และแท้จริง ดังกล่าวนั้น เป็นสุนนะฮ........ อัลอุม เล่ม 1 หน้า 247
.................
แล้วทำไมผู้ที่ตามมัซฮับชาฟิอีย แทนที่จะทำตามคำแนะนำของอิหม่ามชาฟิอี แต่กลับใช้ข้ออ้างว่า ทำบุญ 3 วัน 7 วัน อิหม่ามชาฟีอี ไม่ได้ห้าม และอ้างหะดิษฏอวูส บ้างล่ะ หะดิษอุมัรบ้างล่ะ แล้วหะดิษดังกล่าวทำไม อิหม่ามทั้งสี่ไม่นำมาอ้างอิง และ หะดิษดังกล่าว สอดคล้องกับพิธีกรรม บ้านเราเมืองไทย ที่ทำบุญ 3 วัน 7 วัน หรือเปล่า และหะดิษดังกล่าว มันสวนทางกับอัสสุนนะฮที่ว่า
قَالَ عَبْدُ اللهِ بْنِ جَعْفَرَ : لَمَّا جَاءَ نَعْيُ جَعْفَرِ حِيْنَ قُتِلَ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : اِصْنَعُوْا لآلِ جَعْفَرِ طَعَامًا فَقَدْ اَتَاهُمْ مَايُشْغِلُهُمْ . (حسنه الترمزى وصححه الحاكم)

อับดุลลอฮ บุตร ญะฟัร กล่าวว่า “ ขณะที่ข่าวของท่านญะอฟัร ถูกสังหารเสียชีวิต ได้มาถึง ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็กล่าวว่า “พวกท่านจงทำอาหารให้แก่ครอบครัวยะฮฟัร ความจริง สิ่งที่นำความทุกข์แก่พวกเขา ได้มาประสบกับพวกเขา” – อัตติรมิซีย์ระบุว่า เป็นหะดิษ หะซัน และอัลหากิมระบุว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ
อิหม่ามอัลนะวาวีย์ กล่าวว่า
وأما إصلاح أهل الميت طعاما وجمع الناس عليه فلم ينقل فيه شيء , وهو بدعة غير مستحبة
สำหรับการที่ครอบครัวผู้ตายเตรียมอาหารและให้ผู้คนมาชุมนุมกัน ณ.ที่นั้น ไม่มีสิ่งใด(ที่เป็นหลักฐาน)ได้ถูกรายงานมาเลย และมันคือ บิดอะฮ ที่ไม่ชอบให้กระทำ – อัลมัจญมัวะ เล่ม 5 หน้า 276
...............
ทั้งหมดนี้ อาจจะกล่าวซ้ำบ้าง แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้ น่าจะจบด้วยการเอาแบบอย่างของท่านนบี มาเป็นบรรทัดฐาน ในประเด็นนี้ อย่าเอาเรื่องเศาะดะเกาะฮมาอ้าง เพราะท่านนบี ไม่เคยทำเศาะดะเกาะอโดยจัดพิธีกรรมแบบที่ทำกัน จึงเรียนมาเพื่อความเข้าใจ

น้องอัลอัซฮารีย์กล่าวว่า
ส่วนคำพูดที่คุณเคยกล่าวไว้ที่ว่า "ท่านอุมัรสั่งให้รุมกิน" นั้นคือคำพูดของคุณเอง โปรดทบทวนอย่าทำเป็นลืม คุณเคยพูดพูดไร้มารยาทลามปามของซอฮาบะฮ์อันเนื่องจากความอัคติของตน แต่นั่นมันเป็นคำพูดของคุณ หากน้องผมพูดออกมาอย่างนั้น "ผมตบบั้งหูแตกสลบคาเท้าผมแล้วละครับ" แต่นี่เสียดายที่เป็นคุณ ผมจึงทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ
.............
ตอบ
ใจเย็นครับ อย่าเพิ่งตบกันครับ ช่วยอธิบายดีกว่า ว่าทำไมหะดิษอุมัร จึงลอดสายตาอิหม่ามชาฟิอีและอิหม่ามนะวาวีย์ไปได้ หะดิษนี้มันเป็นปริศนาดำมืดอยู่ บอกเค้าหน่อย แล้วท่านอุมัรทำพิอะไรบ้าง
...............
บังอะสัน
อะฮลุสสุนนะฮวัล-ญะมาอะฮล้วนๆ(ไม่ปนผัก)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อิลยาส
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005
ตอบ: 279


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 11:45 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามมุอลัยกุม

คุนฟารุค และอัซฮารีย์ นี่ชอบทำให้ชาวบ้านงงอยู่เรื่อยเรย
จนเดียวนี้...ก้อยังไม่ปรากด หุญญะฮฺ ซักทีเรื่อง เกี่ยวกับการอ่านกรุอาน กะเลี้ยงอาหานบ้านคนตาย
กรณี ซอดะเกาะฮ์ ประชาชาติเค้าไม่ค้านกานหรอกครับ คุนลืมหลักไปแร้วหรอเรื่องอิบาดะฮฺ
อิบาดะฮฺ ที่ไม่กำหนดรูปแบบแร้วเราทำการ ตัคซีศ ด้วย เวลา สถานที่ จำนวน มันอนุญาติมั้ย?
ในเมื่อหลักฐานห้ามมานแน้นอยู่โทนโท่...
เอาภาคผลการงานหนึ่งไปเปรียบกะกานงานหนึ่ง โดยไม่ใช่เป้าหมายมันมีหลักยังงัยหรือครับ?

ผมจายกตัวอย่างง่ายให้เหนชัดๆ(แบบรวบรัดนะ) กรณีที่มีการเจาะจง
คุนอ่านฟาติหะฮฺในละหมาดใช่มั้ย กรุอ่าน คือ ซิกรฺ แต่เราไม่อ่านเราอ่าน อัลอิคลาศอย่างเดียว
ใช้ได้มะละหมาดหนะ ซิกรฺ เหมือนกัน
คำตอบคือไม่ได้ เพราะมีตัวบทมายืนยันว่าต้องอ่านจะอ่านแบบไหนว่ากันอีกเรื่อง (หากอ่านได้ อ่านไม่ได้ว่ากันอีกเรื่อง) เหนมั้ยว่า ซิกร์ เหมือนกัน แต่แทนกันไม่ได้

เอาหละทีนี้..
ของไม่ได้เจาะจง เช่น ละหมาด ตะเตาวัวอฺ ทั้งหลาย คุนจาไปกำหนดรูปแบบว่า ห้ามอันนั้น อ่านอันนี้ จำนวนเท่านั้น ต้องอ่านซิกรฺอันนี้ หากไม่มีหลักฐานเจาะจง ตัคซีศลงไปแร้ว
ไม่สามารถทำได้ อัศลฺ ของ อิบาดะฮฺ คือ ไม่ให้ทำ หรือว่าเจาะจง จนกว่าจะมีหลักฐาน
สรุป ถ้าหาก อาม ก้อ ไม่คอศ ถ้าหากคอศ ก้อต้องไม่อาม

ส่วนรายละเอียดหากันเอาเอง ผมเชื่อว่า คุนต้องผ่าน อัรริซาละห์ มาแร้ว แน่นอน

วัสลาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Fri Apr 21, 2006 3:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam บังฮะซัน

ทำไมบังเป็นคนที่คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยหรือครับ อีหม่านที่อยู่ในตัวบังไม่สามารถควบคุมลิ้นหรือวาจาที่แสดงออกถึงพฤติกรรมไม่ได้หรือครับ
ที่ผ่านมาผมไม่เห็นน้องมูฮำมัดพูดคำหยายอะไรเลย มีเพีงแต่บังนั้นพยายามที่จะขอร้องให้เว็บปิดกระทู้นี้อย่างเดียว ทำไมหรือครับดีกรีของน้องนักศึกษามันเข้มข้นมากหรือครับบังจึงไม่ชอบการสนทนาของเขา..บังกลัวอะไรครับ ก็น้องมูฮำมัด น้องอัลฟารุ น้องอัลอัชฮารี ก็มาจากสถาบันเดียวกันและ อยู่ในแนวทางของอีหม่ามชาฟีอี(รฮ)เหมือนกัน วิชาการความรู้ก็มาจากแหล่งเดียวกัน ไม่เห็นแตกต่างตรงไหน เพราะต่างก็ยึดในมัสหับชาฟีอีทั้งนั้น

ถ้าพูดทางภาษามวยนั้น เขาจะพูดว่าบังนั้นแพ้บารมีน้องมูฮำมัดมากกว่า ผมเห็นลขึ้นเวทีครั้งไหน บังฟ้องกรรมการทุกที ทั้งที่ชกตามกติกาทุกอย่าง ไม่ได้ชกใต้เข็มขัดหรือกัดหูเลย

บังคงจะอับอายขายหน้าตัวเองมากซิถ้า เพราะตะแบ็งไปก็สู้ความรู้จากน้องนักศึกษาที่น่ารักของบังไม่ได้สักคน...เลยคิด ว่าตัวเองนันก็จัดว่าเป็นคนที่มีความรู้เก่งคนหนึ่งแล้วในสายวะฮาบีย์แต่ยังโดนถลุงจากรุ่นน้องจากสถาบันไคโร ถอยไม่เป็นท่า..เฮ้อน่าสงสาร
ด้วยความริยาฮ์ในความรู้ตัวเองว่าเจ๋งและมั่นใจว่าไม่มีใครรู้เหนือตนแน่นอนแล้ว พอมาเจอของจริง ก็ต้องวนไปวนมาเหมือนพายเรือในปุ๋น นั้นแหละคักๆๆ

แบๆๆสากียาแลตูเบะตะบูเละ เฮ้อ ยายอบาย๊อๆนะ ฮอแฮอะปอ แกจะตะฮูตี..แบแฆ็ง ปานัสฮ้าๆๆๆ

พี่น้องชาวเว็บที่เป็นวะฮาบีย์คงจะเสียความรู้สึกหัวหน้าค่ายของตัวเองมากซินะ ที่โดนนักศึกษาระดับปริญาโทและปริญาตรีทะลวงเสียจนเละต้มเปะ

ถามอะไร ก็ยกมาได้หมด แต่ที่พอเราถามกลับบ้างหาไม่ได้เรื่องเลยสักแอะเดียว

ไม่ว่าหลักจากกิตาบุลลอฮ์และซุนนะนบีคำสอนของซอฮาบะ ตาบีอี ตาบีอิตตาบีอีน สลัฟ คอลัฟ
น้องนักศึกษาไม่เคยปฏิเสธ แต่เป็นที่น่าแปลกสำหรับวะฮาบีย์
บางครั้งเขาก็ห้ามเอาหลักฐานจากบรรดาลูกศิษย์ของผู้ที่เราตักลีดตามเขา แต่เขากลับเอาหลักฐานจากบรรดาผู้มีความรู้เหล่านั้นมาอ้างอิง

เช่นถ้าเรื่อง กล่าวอูศอลลีย์ ก็รับไม่ได้ เพราะท่านอีหม่ามนาวาวีย์เป็นผู้กิยาสกับการทำฮัจย์เขาบอกว่าไม่รับและเป็นบิดอะ...ฮ้าๆๆๆ

แต่พอสิ่งที่อีหม่ามชาฟีอีบอกว่ากระทำได้เช่นเรื่อง การ ที่ญาติของมัยยัตเชิญพี่น้องในหมู่บ้านไปรับประทานอาหารที่บ้านของเขา กลับบอกว่าไม่มีหลักฐาน จากซุนนะของท่านนบี พอเอาหลักฐานจากซอฮาบะของท่านมาอ้างก็บอกว่านั้นเป็นซุนนะของซอฮาบะ ไม่ใช่ซุนนะท่านนบี และพอเรื่องกูหนูตก็กลับเอาหลักฐานที่มาจากอุลามะวะฮาบีย์มาหักล้างมิติของปวงปราชน์ทั้งสี
ตกลงจะเอายังไงกันแน่เห็นเวลาเถียงกับชีอะแล้วบอกว่าเราต้องยอมรับและเชื่อฟัง ทีซอฮาบะ1แสนห้าหมื่นคนของท่านนบี แต่พออ้างหลักฐานที่เป็นศาสนา กับเลือกตามซอฮาบะบางคน
แล้วท่านอบูรอเราะ ท่านอิบนิมัสอูด ท่านซัลมาน (รด) ที่ท่านเหล่านี้มุ่งทำตัวห่างไกลจากความวุ่นวายไปหาความวิเวกละเป็นซอฮาบะท่านบีที่ถูกรับรองหรือไม่ เห็นว่าวะฮาบองบางคนไม่ยอมรับการกระทำของท่าน ว่าเป็น บิดอะบ้าง ชิริกบ้างฮ้าๆๆ

สรุปเลยทั้งแต่เปิดกระทู้มาแรก
ไม่มีคำไหนเลยที่วะฮาบีย์จะยอมรับ ความรู้ที่ถูกชี้แนะโดยผู้มีความรู้ในสายมัสหับทั้งที่เขาเป็นอาจารย์รดับสูงในสถาบันศึกษา และสิ่งที่น้องนักศึกษานำมานั้นคือความจริงที่ถ่ายทอดแทนคำพูดของผู้รู้ที่เขาได้ไปเล่าเรียนมา
ฉันใดก็ฉันนั้น ....เราไม่เคยท้อใจว่าวะฮาบีย์จะไม่ตามเราหรอกแต่เราเหนื่อยใจที่ วะฮาบีย์นั้นไร้หลักฐานที่จะนำมาหักล้าง คำถามและคำหักล้างที่สะสมมาจนค้างเกือบปี ก็ไม่ได้รับคำตอบ ช่างเลห์เหลี่ยมมากยิ่งกว่า ทากสิน...ออกไปอีกแนะ แต่เดวลามถามอะไรจากเรานั้นไม่เคยขัด..


ทั้งหลักฐานก็ซอเฮียะ แต่หาว่าดออีฟในเนื้อหาของอัลฮาดีส

แต่ทีตัวเองเอาฮาดีสดออีฟมาปฏิบัติในละหมาดอีดนั้นก็ถือว่าทำได้...เหนื่อยๆ พูดกับวะฮ้าบ้าเฮ้ย วะฮะบีย์

นี้ก็บังฮะซันจะขอหลักฐาน คำว่า สะมีอัลลอฮุลิมันหะมิดะฮ ในสุญูด อีก ถามจริงเถอะขอำปแล้วเอไปปฏิบัติและคิดใคร่ครวญบ้างไหม อย่าขอไปตั้งเฉยๆหริอสะสมเก็บไว้ดองซิ มันไม่ดีนะครับบัง

จริงๆแล้วผมนั้นไมชอบอวดอ้างในการยกอายะหรือคำดำรัสของอัลลออ์(ซบ)ผู้ทรงเกรียงไกรมาตัฟซีรสักเท่าไหร่เพราะกลัวว่าจะไม่ตรงพระประสงค์ที่พระองค์ลงโทษในการตีความหมายผิดและเกรงว่าไม่ถูกวัตถุประสงค์ของพระองค์กับสิ่งที่เรานำมาใช้

และที่ผมยกอัลฮาดีสมานี้ก็อ้างจากท่านผู้รู้ท่านหนึ่งที่แปลมาอีกทีมาให้บังฮะซันดู แม้บังจะว่าผมไม่ค่อยนำหลักฐานมาก็ตาม สำหรับผม หลักฐานจากนักศึกษา ก็คือหลัก้ดียวกับผมครับ เราไม่จำเป็นต้องประเคนให้บัง เพราะยังไง บังก็ไม่รับอยู่แล้วแหมว่าหลักฐานจะเช๋งเป๋งแค่ไหน
แต่ที่บังขอนั้นเพราะเป็นเทคนิคที่ไว้ข่มคู่ต่อสู้ สำหรับผมหลักฐานหรือสิ่งอ้างอิงนั้นจะให้เฉพาะผู้ที่ขอและผู้ที่อยู่ในแนวทางเดียวกันเท่านั้น เพราะถ้าให้คนต่างทัศนะนั้นมันไม่มีความหมายใดๆครับ เหมือนกับสีซอให้ควายฟังนั้นแหละครับ แต่เวลาผมขึ้นเวทีเพื่อแก้ขอโจมตีจากวะฮาบีย์แล้วผมจะยกมาเป็นกระบุงเลยครับฮ้าๆๆ

**********หลักฐาน คำว่า สะมีอัลลอฮุลิมันหะมิดะฮ ในสุญูด ที่วะฮาบีย์ขอมาจัดให้แล้วครับ****

Rolling Eyes จากฮาบูรอยเราะ(รด)จากท่านนบีกล่าวว่า แท้จริงอีหม่ามมีไว้เพื่อปฏิบัติตามเท่านั้น ฉนั้นท่านทั้งหลายจงอย่าทำแตกต่างกับเขา ดังนั้น ในเมือเขาตักบีร์ ท่านทั้งหลาย เมื่อเขาจงตักบีร์ในเมือเขารูกัวะ ท่านทั้งหลาย เมื่อเขาจงรูกัวะ และเมื่อเมือเขากล่าว ซะมีอัลลออูลีมันหะมีดะ ท่านทั้งหลายจงกล่าวว่า รอบบานะวะลากัลหัมดุ และเมื่อเขาซูหยุด ท่านทั้งหลาย จงซูหยุด เมื่อเขานั่งละหมาด ท่านทั้งหลายจง นั่งละหมาดทั้งหมด

--------------นี่คือบทอาดีสที่ถูกบันทึกไว้โดยซฮอาบะ ตะเซาวุฟ คือท่านอบูฮูรอยเราะ(รด)
บังฮะซันมีอะไรจะวิจารณ์เชิญก่อนครับท่านผู้รู้มากผมให้เกียติรครับ


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 9, 10, 11 ... 25, 26, 27  ถัดไป
หน้า 10 จากทั้งหมด 27

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.12 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ