ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - วะฮาบี โดนสร้างมาโดยดัตญายตัวใหญjคือสหรัฐอเมริกาสร้างมาทำไม?
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
วะฮาบี โดนสร้างมาโดยดัตญายตัวใหญjคือสหรัฐอเมริกาสร้างมาทำไม?

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
ชีอะห์
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 01/01/2006
ตอบ: 4


ตอบตอบ: Mon Jan 02, 2006 12:09 am    ชื่อกระทู้: วะฮาบี โดนสร้างมาโดยดัตญายตัวใหญjคือสหรัฐอเมริกาสร้างมาทำไม? ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แฟนประจำ ‘ถามตอบรอบโลก’ ส่งอีเมลเข้ามาถามเกี่ยวกับศาสนาอิสลามนิกาย ชีอะห์ สุหนี่ วะฮาบีย์ ว่ามีหลักปฏิบัติต่างกันอย่างไรและทำไมที่เคยได้ยินมาว่าอิสลามรักพี่น้องอิสลามด้วยกันทั่วโลก แต่ก็เห็นมีข่าวขัดแย้งกันเป็นประจำระหว่างนิกาย และประเทศใดบ้างที่นับถือนิกายต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้นนี้

เมื่อมีผู้อ่านช่างสงสัยถามเข้ามาเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องไขข้อข้องใจให้ ตามที่ระดับมันสมองของเราจะช่วยได้ ก่อนอื่นทางถามตอบฯ ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเรื่องศาสนานั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ละฝ่ายมักจะมีความเห็นแตกต่างกันเสมอขึ้นอยู่กับว่าเราได้ข้อมูลมาจากฝ่ายใด

ถูกต้องตามที่ผู้อ่านถามเข้ามาเลยว่าอิสลามมักจะรักกัน นั่นเพราะพวกเขาเชื่อในหลักคำสอนที่ระบุไว้ว่า “มุสลิมเป็นพี่น้องกัน เปรียบเหมือนเรือนร่างเดียวกัน ส่วนหนึ่งส่วนใดเจ็บส่วนอื่นก็เจ็บปวดด้วย” อย่างไรก็ตามเราก็ต้องเข้าใจสัจธรรมด้วยว่า เป็นเรื่องปกติที่ต่างนิกายก็ย่อมมีความเห็นที่ต่างกันและขัดแย้งกันเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกันในทุกศาสนาแต่จะรุนแรงบ้างหรือเบาบ้างแตกต่างกันไป

คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าอิสลามแบ่งออกเป็น 2 นิกายคือสุหนี่และชีอะห์ แต่ที่จริงแล้วอิสลามแบ่งย่อยไปอีกหลายนิกายเป็นอย่างมากเช่นซูฟีที่เน้นในการบำเพ็ญตนคล้ายพวกพราหมณ์ และกลุ่มย่อยอีกมากมายแต่บางครั้งมุสลิมส่วนใหญ่ไม่รับรองบรรดากลุ่มเหล่านี้ หรือแม้แต่ชีอะห์กับสุหนี่เองบางครั้งก็มองว่ากลุ่มตนเองเป็นมุสลิมที่ถูกต้อง

สำหรับชีอะห์จะมีแนวคิดในเรื่องอิหม่าม 12 คนที่สืบทอดการดูแลอิสลามสืบต่อมาจากนบีมุฮัมหมัด โดยไม่เชื่อเหมือนแนวคิดของสุหนี่ที่ว่าหลังจากนบีเสียชีวิตไปแล้ว ผู้ดูแลศาสนาต่อไปคือคอลีฟะห์ทั้ง 4

ส่วนหลักปฏิบัติที่เห็นแตกต่างได้อย่างชัดเจนคือ มุสลิมชีอะห์เวลาละหมาดมักจะมีหินมาตั้งตรงพื้นที่หน้าผากสัมผัส ซึ่งหินดังกล่าวคือหินที่มาจากเมืองการ์บาลาอ์ในอิรัก เพื่อเป็นการระลึกถึงการเสียชีวิตของฮูเซ็น หลานชายของศาสดาในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ในวันที่ 10 ของเดือนแรกตามปฏิทินอิสลามพวกชีอะห์จะมีพิธีลุยไฟ กรีดหัว ทุบอก เพื่อระลึกถึงวันที่ท่านฮูเซ็นเสียชีวิตเช่นกัน

ขณะที่ “วะฮาบีย์” หรือบางครั้งถูกเรียกว่า “พวกใหม่” คือกลุ่มมุสลิมที่ใช้หลักศาสนาที่เคร่งครัดโดยมีจุดประสงค์เพื่อนำหลักการอิสลามที่บริสุทธิ์ดังเช่นในสมัยนบีมุฮัมหมัดกลับมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอีกครั้ง ซึ่งผู้เริ่มต้นคือมุฮัมหมัด อิบนุ อับดุบวะฮาบที่เห็นว่าอิสลามในยุคนั้นมีหลักปฏิบัติที่แปลกปลอมเข้ามาปะปนมากจึงต้องสังคายนากันครั้งใหญ่

ทั้งนี้มุสลิมนิกายชีอะห์ส่วนใหญ่จะนับถือกันอยู่ในประเทศอิหร่าน อิรัก บาห์เรน อาเซอร์ไบจาน ขณะที่ประเทศที่เหลือในตะวันออกกลาง แอฟริกา และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mahdisaudi
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004
ตอบ: 381


ตอบตอบ: Mon Jan 02, 2006 1:47 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เริ่มบุกเข้ามาแล้วชีอะโคมัยนี ลูกน้องยิว
_________________
อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
ba
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 12/12/2005
ตอบ: 27


ตอบตอบ: Tue Jan 17, 2006 5:02 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอคุณที่ให้ข้อมูล
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jan 19, 2006 1:56 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วะฮาบีย์เป็นชื่อที่แปลก เป็นกลุ่มที่ประหลาดอย่างหนึ่งคือ
เป็นชื่อที่ฝ่ายที่ไม่ชอบ(หรือเกลียด)แต่ละกลุ่มเข้าใจหรือรู้จักต่างกัน ให้คำนิยามต่างกัน
แต่ทั้งหมดต่างก็เกลียดวะฮาบีย์ และตามจองล้างจองผลาญด้วยความหมั่นไส้และริษยา


(จากบทความที่เคยโพสต์ใน mureed.com

1.) กลุ่มนักวิชาการต่างประเทศและกลุ่มนักเรียนนอกสายอัชอารีย์
โดยสรุปก็จะเข้าใจว่าวะฮาบีย์คือแนวใหม่ที่ไม่เอามัซหับ
เชื่อในอาตมันของอัลลอฮฺ
ต้นกำเนิดสายมาจากอิบนุ ตัยมียะฮฺ และมาก่อตั้งลัทธิโดยมุฮัมมัด อิบนุ
อับดุลวะฮาบ
2.) กลุ่มซูฟีจะเข้าใจตามแบบทิศทางประวัติตามข้างต้นเช่นกัน
แต่เนื่องจากซูฟีเป็นคนละแนวกับอัชอารีย์
ซูฟีบางกลุ่มจึงเข้าใจว่าวะฮาบีย์คือพวกปฏิเสธเรื่องภายใน
หรือเชื่อเรื่องเร้นลับ
และบอกวะฮาบีย์เข้าใจคำว่าชีริกผิด ซึ่งสื่อกลางและวัตถุมงคล(บะรอกัต) วะฮาบีย์ก็บอกชีริก
3.) กลุ่มชีอะฮฺจะหยิบประวัติจากที่อะชาอิเราะฮฺกล่าวถึงเนี่ยแหละครับ
แล้วเอาไปเรียบเรียงในแบบของเขาว่า
อะฮฺลุซซุนนะฮฺสืบเชื้อสายมาจากพวกคอวาริจที่ต่อต้านท่านอาลี
กำเนิดในราชวงศ์มุอาวียะฮฺ
มี 4 มัซหับ แต่ในต่อมาก็มีอีกพวกเกิดมาเรียกว่าวะฮาบีย์
ซึ่งบอกวะฮาบีย์เข้าใจคำว่าชีริกผิดและหุก่มกลุ่มอื่นว่ากาเฟรฺ
(ชีอะฮฺจะมีหลักอะกีดะฮฺคล้ายๆซูฟีครับ เพราะที่มาเดียวกัน)
4.) กลุ่มมุสลิมบะดะอึ๊! หรือ บ ด อ คนยาเฮลในเมืองไทยเรานี่ครับ
ทางกรุงเทพก็จะเรียกคณะใหม่
(บางคนเรียกไอ้พวกขี่อูฐ หรือไอ้พวกซุนนะฮฺ) ทางใต้จะเรียกมูดอ หรือวะห์บี!
คำนิยามของพวกเขาหมายถึง กลุ่มที่ปฏิบัติไม่เหมือนตนที่เคยทำมา
จึงทำให้สร้างความแตกแยก
5.) กลุ่มนักวิชาการตะวันตกและนักวิชาการทั่วโลกที่เสพข่าวจากตะวันตก
จะเข้าใจว่าวะฮาบีย์หมายถึงพวก fundamentalist
หรืออิสลามแบบรากเหล้าสมัยศาสดามุฮัมมัด
เป็นพวก extremist หรือหัวรุนแรง เคลื่อนไหวเพื่อสร้างระบบคอลิฟะฮฺ
และต่อต้านโลกศิวิไลย
ต่อต้านเสรีภาพและสิทธิสตรี ต่อต้านระบบประชาธิปไตย
จึงก่อการร้ายไปทั่วโลกเพื่อทำญีฮาดกับคนที่ไม่ใช่มุสลิมที่นิยมในเสรีภาพ
(นั่นเขาสร้างimageแบบนั้น)
ส่วนคำว่ามัซหับและเหตุกำเนิดมัซหับนั้นเขาไม่เข้าใจ
เขาถือว่าวะฮาบีย์เป็นสำนักฮัมบาลีย์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jan 19, 2006 2:09 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วะฮาบี โดนสร้างมาโดยดัตญายตัวใหญ่คือสหรัฐอเมริกา.....


คำพูดนี้ก็ทำนองเดียวกับที่ทักษิณบอกที่สนธิมาต่อต้านรัฐบาลน่ะเพราะเสียผลประโยชน์!
ส่วนคนที่ไปฟังที่สวนลุมน่ะ โดนจ้างมา!


เป็นการสร้างภาพลบโยนความชั่วให้ฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากตนเองหมดหนทางที่เอาวิชาการไปโต้แย้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jan 19, 2006 3:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อิสลามไม่มีนิกาย ซึ่งต่างจากศาสนาอื่นๆที่มีหลากหลายนิกาย

(คำแปลกุรอาน 6:153) และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลาย ๆ ทาง เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์ นั่นแหละที่พระองค์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

ในทางพระพุทธศาสนา แต่ละกลุ่มนิกายหลักและนิกายย่อยนั้นจะถือคัมภีร์คนละเล่ม
ถึงแม้จะชื่อพระไตรปิฎกเหมือนกัน แต่หากเราไปหยิบของแต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกันก็จะพบว่ามีเนื้อความที่ต่างกัน
หรือแม้แต่ในนิกายเดียวกันและประเทศเดียวกันอย่างประเทศไทย
ต่างกันก็เพียงนิกายย่อยอย่างธรรมยุทธและมหานิกาย ก็จะพบว่าถือคัมภีร์คนละเล่มช่นเดียวกัน
ทางคริสตศาสนาก็มีการเรียบเรียงคัมภีร์ไบเบิ้ลหลายครั้ง หลายเวอร์ชั่น แต่ที่นิยมคือฉบับของคิงส์เจมและรีไวสแตนดาร์ด

ในเมื่อแต่ละศาสนามีการเรียบเรียงคัมภีร์กันใหม่ แต่งคัมภีร์กันใหม่ สังขยนาใหม่ มันก็หาแหล่งอ้างอิงเดิมของศาสนาไม่ได้
เราจะบอกไม่ได้ว่าคำสอนไหนคือของแท้ของปลอม หรือสิ่งไหนมีในศาสนาหรือไม่มีในศาสนา

ซึ่งตรงนี้คือข้อแตกต่างข้อหนึ่งของอิสลามกับศาสนาอื่น

อิสลามมีแหล่งอ้างอิงทางศาสนาที่แน่นอนนั่นคืออัลกุรอาน ที่ไม่เคยมีการสังขยนา ไม่เคยมีเขียนเป็นภาษาอื่น
ยังคงตัวอักษรเดิมเป็นภาษาอาหรับ ซึ่งถูกจดและจำทั้งเล่มสืบต่อกันมานับตั้งแต่สมัยศาสดา
และขจรขจายไปทั่วโลกด้วยการคงตัวอักษรดังเดิม
ไม่ว่าเราจะเดินทางไปไหนเราก็จะพบวาตำราอัลกุรอานนั้นบันทึกตัวอักษรอาหรับเหมือนกันหมดทุกเล่ม

นอกจากอัลกุรอาน อิสลามก็ยังมีหะดีษหรือซุนนะฮฺคือแบบฉบับจากท่านนบีมุฮัมมัด(พูด กระทำ หรือยอมรับในสิ่งที่สาวกกระทำ)
แต่หะดีษนี้อัลลอฮฺไม่ได้กล่าวว่าจะพิทักษ์รักษา มันจึงมีการบิดเบือนบ้าง กุแต่งขึ้นเองบ้างจากคนบางกลุ่ม
ดังนั้นมุสลิมยุคต้นๆจะวางวิชาการตรวจสอบหะดีษไว้อันเป็นที่สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
โดยเกณฑ์คือผู้รายงานจะต้องมีความจำดี และมีคุณธรรม (และคุณสมบัติอื่นๆ)
และหะดีษเองก็ได้ถูกบันทึกเป็นเล่มมาตั้งแต่ยุคต้นๆ ซึ่งเป็นแหล่งอ้างอิงทางศาสนามาจนถึงปัจจุบัน
ดังที่เราเห็นตำราหะดีษมีวางขายไม่ว่าจะเป็นอิมามบุคอรี อิมามมุสลิม เป็นต้น
เป็นที่น่าปิติยินดีและภาคภูมิใจสำหรับมุสลิม ที่ไม่มีตำราประวัติศาสตร์ใดๆในโลก หรือคัมภีร์ศาสนาใดๆในโลกมีการเทียบชั้นความน่าเชื่อถือได้เท่ากับตำราหะดีษ
มีนักวิชาการกล่าวว่า หากนำเกณฑ์ตรวจสอบหะดีษ(แบบมุสลิม)ไปตรวจคัมภีร์ไบเบิ้ลแล้ว จะถือว่าคัมภีร์ไบเบิ้ลทั้งเล่มใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง(ในแบบมุสลิม)ไม่ได้เลย
ก็เพราะมุสลิมจะมีการสืบสายรายงานว่าถูกเล่าต่อจดจำกันมาอย่างแม่นยำจนถึงนบีหรือไม่
ถ้าไม่ถึงหรือขาดตอนก็ใช้ไม่ได้ หรือสายรายงานไนที่รู้จัก หรือคุณสมบัติไม่พอก็ใช้ไม่ได้

นอกจากนั้นแล้วอิสลามเป็นศาสนาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งในด้านความเชื่อ(อะกีดะฮฺ) การปฏิบัติศาสนกิจ
รวมทั้งเรื่องกฎระเบียบในการดำเนินชีวิตประจำวันตั้งแต่เกิดจนตาย

(คำแปลกุรอาน 5:3) วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้า

ดังนั้นมุสลิมจึงไม่มีการคิดความเชื่อขึ้นใหม่เข้าไปในศาสนา ไปเพิ่มอุตริเป็นนิกายต่างๆ
หรือไม่ต้องไปคิอุตริพิธีกรรมทางศาสนาขึ้นใหม่ หรือเติมเสริมแต่งเข้าไป เนื่องจากอัลลอฮฺทรงให้มาครบถ้วนแล้ว

ดังนั้นมุสลิมจะไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจตามประเพณี ค่านิยมหรือวัฒนะธรรมท้องถิ่น(ที่ไปรับมาจากความเชื่ออื่น)
ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้ห้ามไว้ว่า พวกท่านจงออกห่างจากสิ่งที่เป็นบิดอะฮฺ(อุตริกรรมในศาสนา) และทุกๆบิดอะฮฺถือว่าหลงผิด

ดังนั้นนักวิชาการตะวันตกมักจะเข้าใจผิดหรือแกล้งไม่เข้าใจว่า มุสลิมจะปฏิบัติตามประเพณี
ซึ่งถูกคิดมาโดย 4 อิมาม บวกกันกับวัฒนะธรรมอาหรับเข้าผสม
ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะบรรดาสลัฟหรืออุละมาอฺยุคต้นๆ(รวมทั้ง 4 อิมาม) เขาต่างก็ปฏิบัติตามอัลกุรอานและหะดีษอันเป็นแหล่งอ้างอิงทางศาสนา
เพียงแต่ว่าเขาเข้าจในตัวบทนันแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดมีการแบ่งสำนักหรือมัซหับในเรื่องฟิกฮฺภาคปฏิบัติแตกต่างกันออกไป
และมุสลิมที่ไม่มีความสามารถในการเข้าใจตัวบทก็จะใช้วิธีปฏิบัติตามอุละมาอฺเหล่านั้น อาจจะเลือกคนหนึ่งคนใด อันเป็นที่มาของมัซหับทั้ง 4 ในยุคต่อมา

ส่วนเรื่องความเข้าใจที่แตกต่างในเรื่องความเชื่อ(อะกีดะฮฺ)เล็กๆน้อยๆนั้นก็ใช่ว่าจะทำให้มุสลิมแตกออกเป็นนิกายต่างๆ
ไม่ใช่เลย เพราะแหล่งอ้างอิงทางศาสนาก็ยังคงใช้แหล่งเดียวกันคืออัลกุรอานและหะดีษ เพียงแต่ความเข้าใจแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นมุอฺตะซิละฮฺ อะชาอิเราะฮฺ ซูฟี สลาฟียะฮฺ เป็นต้น
แต่ทั้งหมดก็ยึดในแนวทางของอัลกุรอานและหะดีษ และรักในซอฮาบะฮฺหรือสาวกนับแสนของท่านนบี
ซึ่งจะกุรอานเองก็ตาม จะหะดีษที่ซอเฮี้ยะฮฺเชื่อถือได้ แหล่งอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ที่มุสลิมกลุ่มใหญ่เขายึดถือกันก็จะระบุว่าบรรดาสาวกเป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺ เป็นแบบฉบับที่ดีงาม
บรรดาซอฮาบะฮฺเป็นผู้ศึกษากุรอานโดยตรงจากท่านนบี ศึกษาซุนนะฮฺโดยตรงจากท่านนบี ไม่มีใครหน้าไหนจะมาข้ามหน้าข้ามตาแล้วบอกว่า "ฉันเข้าใจอิสลามมากกว่าซอฮาบะฮฺ"!

ส่วนภาคปฏิบัติ กลุ่มอะชาอิเราะฮฺและซูฟีจะเปิดประตูในการยอมรับเรื่องการนำพิธีกรรมใหม่ๆเข้ามาเสริมเติมแต่งได้
ขอให้เป็นสิ่งที่ดี(บิดอะฮฺหะสะนะฮฺ) จากตรงนี้มันทำให้สังคมมุสลิมเริ่มมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาสู่ศาสนา ทำให้โลกมุสลิมไม่ได้สัมผัสกับศาสนาที่สมบูรณ์และแบบฉบับอันดีงามจากท่านนบีมุฮัมมัด
แต่ไปยึดถือในสิ่งที่เป็นบิดอะฮฺ หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในศาสนาทั้งในเรื่องการปฏิบัติและด้านความเชื่อ
กลุ่มซูฟีบางกลุ่มเริ่มมีความเชื่อที่เป็นชีริก กุฟรฺ ไม่น่าเชื่อว่าสังคมมุสลิมจะมีคนกราบไหว้กลุ่มศพ
มีคนใช้วะลีย์หรือคนซอและห์เป็นสื่อไปสู่อัลลอฮฺ ซึ่งมาจากการไม่เข้าใจกุรอาน

กลุ่มวะฮาบีย์หรือขบวนการของมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบไม่ใช่คนกลุ่มแรกที่ต่อต้านชีริกและบิดอะฮฺ
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺเขาทำกันมาตั้งแต่ยุคแรก
แต่ในเรื่องตัวอย่างอันดีงามของบรรพชนยุคแรกนี้ สังคมมุสลิมมักไม่กล้านำเสนอ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต่อต้านวะฮาบีย์
เพราะเมื่อนำเสนอแล้วก็กลัวชาวบ้านจะรู้ว่าวะฮาบีย์เป็นเหมือนมุสลิมยุคแรกหรือสลัฟนั่นเอง

หลังจากยุคสลัฟ มุสลิมก็มีการฟื้นฟูศาสนาเรื่อยมาดังที่นบีกล่าวว่า ในทุกๆต้นศตวรรษ อัลลอฮฺจะส่งคนที่ฟื้นฟูศาสนาของพระองค์

เหตุใดจึงต้องฟื้นฟู ?
เพราะนี้คือการรักษาศาสนาของพระองค์ พระองค์จะทำอะไรมักมีสาเหตุ มีผู้กระทำ
อัลลอฮฺรักษาศาสนาของพระองค์ด้วยการให้มีอุละมาอฺที่มีความรู้ในแนวทางที่ถูกต้อง อยู่ในทางนำ มีจุดยืน มีอุดมการณ์ได้ขึ้นมาทำหน้าที่ฟื้นฟูศาสนาของพระองค์ให้กลับไปเป็นเหมือนยุคที่กุรอานลงอายะฮฺมาว่า วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้า
ดังนั้นสิ่งแปลกปลอมจะถูกขจัดออกไปเรื่อยๆด้วยนักฟื้นฟูเหล่านี

เราไม่ทราบว่ามุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบใช่นักฟื้นฟูของพระองค์หรือไม่ แต่เขาก็เป็นบุคคลหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูศาสนาให้กลับไปบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้สิ่งแปลกปลอมเหมือนยุคแรก

แต่เผอิญว่าแนวทางอันเที่ยงตรงนี้มันไปขัดแย้งกับแนวทางของมุสลิมในยุคนั้น ทั้งที่นิกายเดียวกัน
เพียงแต่การศึกษาและความเข้าใจต่างกัน อันเนื่องยุคที่ตุรกีปกครองโลกมุสลิมนั้น
ผู้นำไม่สนใจศาสนา ผู้คนละเลยต่อการศึกษาศาสนา และไม่เอาใจใส่เรื่องศาสนา
แล้วพอจะเข้าเรื่องศาสนา ก็ดันไปฝักใฝ่ในสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในความเชื่อและการปฏิบัติ

ตัวเองนั่นแหละผิด ตัวเองไม่ถูกต้อง แต่กลับไปเข้าใจว่ามุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบเป็นผู้ก่อตั้งลัทธิใหม่ แนวทางใหม่
ประกอบกับบรรดาหัวโจกผู้นำศาสนาตามท้องถิ่นเสียผลประโยชน์ในการแสวงหาผลประโยชน์จากศาสนา
จึงพากันใส่ร้ายต่ออิบนุ อับดุลวะฮาบและขบวนการวะฮาบีย์
ซึ่งชื่อวะฮาบีย์นี้พวกเขาก็ตั้งให้ เพื่อจะได้บ่ายเบี่ยงให้คนเข้าใจว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ แต่เป็นลัทธิใหม่ที่มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบก่อตั้งขึ้นเอง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jan 19, 2006 3:32 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สังเกตว่าทำไมผมถึงใช้คำว่า "นิกายเดียวกัน"

ก็เพราะไม่ว่าจะซูฟี อะชาอิเราะฮฺ หรือมุสลิมที่ไม่มีความรู้ตามชนบทที่ทำบิดอะฮฺ อะไรก็ตาม ต่างก็เป็นมุสลิมเหมือนกัน นิกายเดียวกัน(ในที่นี่)ก็คือศาสนาเดียวกันนั่นเอง
กุรอานก็เล่มเดียวกัน หะดีษก็เล่มเดียวกัน ซอฮาบะฮฺก็คนเดียวกัน บรรดาสลัฟ อุละมาอฺมัซหับต่างๆเราก็เคารพยึดถือเป็นตัวอย่างเช่นเดียวกัน

ดังนั้นหากจะบอกว่ามีอีกนิกายหนึ่งชื่อ "ชีอะฮฺ"
อันนั้นไม่ใช่อิสลาม แต่เป็นคนละศาสนากัน ถ้าศาสนาเดียวกันต้องมีนิกายเดียว
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
IRF
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 10/12/2005
ตอบ: 155


ตอบตอบ: Thu Jan 19, 2006 3:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"ชีอะฮฺ" มาจากไหน?

เดิมทีชีอะฮฺ(แปลว่ากลุ่ม พรรค) ในยุคต้นๆก็เป็นเพียงกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนท่านอะลีในการครองตำแหน่งคอลิฟะฮฺ
ซึ่งจริงๆแล้ว ความเหมาะสมนั้นอุละมาอฺทั้งหมดก็เห็นพ้องต้องกันว่าท่านอะลีสมควรที่จะเป็นคอลีฟะฮฺ
แต่ในขณะเดียวกันมุสลิมก็ไม่ต่อว่าท่านมุอาวิยะฮฺ เพราะมุสลิมจะไม่ประณามไม่ตำหนิซอฮาบะฮฺ เพราะถือว่าความประเสริฐนั้นเราไปเทียบชั้นไม่ได้ แล้วจะริอาจไปด่าทอหรือตำหนิซอฮาบะฮฺได้อย่างไร

ในยุคต่อมากลุ่มชีอะฮฺหมายถึงกลุ่มที่มีความศรัทธาในตัวอะฮฺลุลบัยตฺ หรือตระกูลท่านนบี
แต่ไปๆมาๆ มันไม่ใช่เรื่องแค่เพียงท่านอะลีกับมุอาวิยะฮฺ เพราะจากเหตุการณ์ที่สลับซับซ้อนทั้งหมด
ได้มีกลุ่มคนที่พยามบิดเบือนประวัติศาสตร์ ได้พยามกุแต่งประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ ให้ประวัติอิสลามกลายไปเป็นหนังสงครามประวัติศาสตร์ของ Hollywood ที่เป็นเรื่องเกี่ยวสึกแย่งชิงอำนาจ และสาวกทรยศศาสดา!

คนกลุ่มนี้เราไม่เรียกชีอะฮฺธรรมดา แต่เราเรียก รอฟิเฎาะฮฺ หมายถึงปฏิเสธซอฮาบะฮฺ
พวกนี้ได้ช่วยกันกุแต่งประวัติปลอมกล่าวหาใส่ร้ายซอฮาบะฮฺมากมาย รวมทั้งภรรยานนบีคือนางอะอิชะฮฺ
บางครั้งเทคนิคการใส่ร้ายซอฮาบะฮฺก็นำมาจากข้อมูลจริง แต่เป็นการตบแต่งตัดแต่ง เพื่อมาตบตาผู้คนสารพัดอย่าง

แล้วบางกลุ่มยังมีการกุนิยายที่พวกเขาเสกสรรค์ปั้นแต่งเองขึ้นมาเป็นความเชื่อ นั่นก็คือเรื่องราวของ อิมามทั้ง 12
ว่าเป็นผู้สืบทอดต่อตำแหน่งตัวจริง ต่อจากนบี จะมี 12 คน ปกครอง
แต่เราจะเห็นได้ว่าจากที่นบีตายไป 1400 กว่าปี ถ้าจะมีอิมามจริงๆก็น่าจะมีอิมามซัก 140 คนน่าจะดูสมจริงกว่า!
แต่พอเขาเห็นอย่างนี้ เขาก็ไหลลื่นว่าอิมามมะฮดีย์(เป็นคนสุดท้าย)นั้นอยู่ในถ้ำนับร้อยปีแล้ว รอปรากฏตัวใกล้กิยามะฮฺ!
(เห็นไหมครับ เอาเรื่องจริงปนเรื่องเท็จ เรื่องอิมามมะฮฺดีย์น่ะมีจริง แต่ยังไม่เกิดครับ)
ดังนั้นนิยายอิมาม 12 ก็น่าขำขันไม่แพ้ไปจากนินานคนแคระทั้ง 7 !


รอฟิเฎาะฮฺจะไม่เชื่อตัวอักษรกุรอานมากไปกว่าตำราประวัติศาสตร์ของพวกเขา
เขาจะเอาตำราประวัติศาสตร์เป็นที่ตั้ง (ในเรื่องสาวกทรยศนบีและการศรัทธาในอะฮฺลุลบัยตฺ) แล้วใช้กุรอานตีความให้สอดคล้องกับความเชื่อของเขา

ดังนั้นสรุป ในเมื่อชีอะฮฺเชื่อในตำราเป็นเกณฑ์ เราก็ว่าของเขาผิด แต่เขาก็ว่าของเขาถูก
เราจึงวัดกันที่ตำราประวัติศาสตร์ไม่ได้ แต่เราจะใช้กุรอานเป็นเกณฑ์ (เพราะกุรอานไม่มีบิดเบือน)
ส่วนเนื้อหาส่วนไหนของตำรา(ที่มนุษย์เขียนขึ้น)ไปขัดกับกุราน เราจะถือว่าส่วนนั้นเป็นเรื่องโกหกมดเท็จ

และเหมาะสมจะตั้งชื่อให้ว่า "ชำเราประวัติศาสตร์"
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
faz
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 18/11/2006
ตอบ: 2


ตอบตอบ: Mon Nov 27, 2006 3:08 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam salam salam ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างหัว.... จะว่าคนเราโง่กว่าควายก็ไม่ผิด เพราะยิงศึกษาก็ยิ่งโง่ หนังสือก็มีมากมายให้ค็นคว้าว่า วาฮาบีนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ที่ถูกโจมตีก็เพราะว่าต้องการนำประชาชาติสู่แนวทางของท่านนบี Solallah ให้รอดพ้นทั้งโลกนี้และโลกหน้า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีซาตานมาขัดขวางการทำงานของวาฮาบี จงจำไว้ว่า ท่านนบี Solallah กว่าจะนำอิสลามมาประกาศแด่ประชาชาติต้องผ่านขวากหนามต่างๆไม่รู้กี่หน เพราะฉะนั้นใครที่รู้ความเป็นมาของวาฮาบีแล้วกลับโจมตีก็คิดเอาเองว่าคิดถูกแล้วรึ ระวังน่ะ ซีอะห Evil or Very Mad กับยิว Evil or Very Mad คือพี่น้องกัน ชอบกินเลือดมุสลิม เล่ห์เลี่ยมของพากมันลึกนะ หากเล่นไม่ทันเรานี้แหละถูกกับดักของมัน เพราะที่ผ่านมาเคยสังเกตบ้างมั้ยว่าไม่รู้กี่ประเทศที่โดนอเมริกาถล่ม เช่น อัฟกานิสถาน อิรัก เลบานอน และรายต่อไปที่จับตาอยู่คือซีเรีย ล้วนเบื้องหลังมีแต่ซาตานชีอะห์กับยิว Evil or Very Mad เท่านั้นที่วางแผนมิใช่หรือ wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.20 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ