ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - การแบ่งเตาฮีดออกเป็น อุลูฮียะฮฺและรุบูบียะฮฺนั้นเป็นบิดอะฮฺ?
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
การแบ่งเตาฮีดออกเป็น อุลูฮียะฮฺและรุบูบียะฮฺนั้นเป็นบิดอะฮฺ?
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5 ... 28, 29, 30  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Aug 30, 2005 7:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ต่ออีกนิดนะครับ
وبما ذكرناه يتضح للقراء أن ما نسبه أحمد محمود دهلوب إلى السلف من تفسير الاستواء بالاستيلاء غلط كبير وكذب صريح لا يجوز الالتفات إليه بل كلام السلف الصالح في ذلك معلوم ومتواتر وهو ما أوضحه شيخ الإسلام ابن تيمية رحمه الله من تفسير الاستواء بالعلو فوق العرش وأن الإيمان به واجب وأن كيفيته لا يعلمها إلا الله سبحانه وقد روي هذا المعنى عن أم سلمة أم المؤمنين وعن ربيعة بن عبد الرحمن شيخ مالك رحمه الله وهو الحق الذي لا ريب فيه وهو قول أهل السنة والجماعة بلا ريب وهكذا القول في باقي الصفات من السمع والبصر والرضى والغضب، واليد والقدم والأصابع والكلام والإرادة وغير ذلك, كلها يقال فيها أنها معلومة من حيث اللغة العربية، فالإيمان بها واجب والكيف مجهول له، لا يعلمه إلا الله سبحانه مع الإيمان أن صفاته سبحانه كلها كاملة وأنه سبحانه لا يشبه من خلقه فليس علمه كعلمنا ولا يده كأيدينا ولا أصابعه كأصابعنا ولا رضاه كرضانا إلى غير ذلك كما قال سبحانه لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
http://www.binbaz.org.sa/display.asp?f=ibn00149
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Aug 30, 2005 1:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
คุณอัซฮารี
ผมขอคุยต่อนะครับ
قوله تعالى في سورة "طه" : {الرحمن على العرش استوى}.
والاستواء في لغة العرب إذا عدي بحرف الجر "على" كان بمعنى علا وارتفع
1. อัลลอฮตรัสไว้ในซูเราะฮฏอฮาว่า"พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์
คำว่า อัลอิสติวาอฺ" เมื่อเป็นสกรรมกริยาด้วยคำบุพบท ว่า" علي " ก่อจะมีความหมายว่า อยู่บน
قوله تعالى: {إليه يصعد الكلم الطيب والعمل الصالح يرفعه
2. อัลลอฮตรัสว่า" คำพูดที่ดี ขึ้นไปยังพระองค์และการงานที่ดี ถูกยกขึ้นไปยังพระองค์
คำว่าขึ้นไปยัง และ ยกขึ้นไป ย่อมแสดงว่า จุดหมายที่ขึ้นไปหรือยกไปนั้น อยู่เบื้องสูง
قال الإمام أبو عمرو الطلمنكي في كتابه في الأصول: [ أجمع المسلمون من أهل السنة على أن الله استوى على عرشه بذاته3.
3. อิหม่ามอบูอัมรินอัฏฏอลมันกีย์ กล่าวไว้ในหนังสือของท่าน ในอัลอุศูล ว่า" เป็นมติของชาวสุนนะฮว่า แท้จริงอัลลอฮทรงประทับบนบัลลังก์ ด้วยอัตมัน(ตัวตน)ของพระองค์
http://saaid.net/muslm/5-2.htm
ข้อนี้ผมรู้ว่าคุณไม่รับ

الامام الاوزاعي ت 157 ه
_____________________
قال: كنا والتابعون متوافرون نقولwhistling#1575;ن الله عز وجل فوق عرشه ونؤمن بما وردت به السنة من صفاته
انظرwhistling#1605;ختصر العلو للذهبي 137 والاسماء والصفات للبيهقي
وفتح الباري 13/417
4. อัลเอาซาอีย์ กล่าวว่า พวกเราและบรรดาตาบิอูน จำนวนมาก เราขอกล่าวว่า"แท้จริงอัลลอฮ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงสูงส่ง ประทับบนบัลลังก์ ตามที่อัสสุนนะฮ ระบุไว้เกี่ยวกับคุณลักษณะของพระองค์ - ดูมุคตะศอรอัลอะลุวิลิซซะฮะบีย์ 137 อัสมาอวัสสิฟาต ลิ้ลบัยฮะกีย์ และฟัตหุ้ลบารีย์ 13/417:الامام قتيبة بن سعيد (150-240) ه
________________قالwhistling#1607;ذا قول الائمة في الاسلام والسنة والجماعة:
نعرف ربنا في السماء السابعة على عرشه ، كما قال جل جلالهwhistling#1575;لرحمن على العرش استوى___________
5. อิหม่ามกุตัยบะฮ บินสะอีด
กล่าวว่า นี้คือ คำพูดของบรรดาผู้นำในอิสลาม อัสสุนนะฮและอัลญะมาอะฮ ว่า"เรารู้ดีว่า พระผู้อภิบาลของเราอยู่ในฟากฟ้าชั้นที่เจ็ด บนบัลลังก์ ดังที่พระองค์ตรัสไว้ว่า
พระเจ้าผู้ทรงเมตตาประทับอยู่บนบัลลังค์
الامام ابن بطة العكبري شيخ الحنابلة ( 304-387
اجمع المسلمون من الصحابة والتابعين وجميع اهل العلم من المؤمنين ان الله تبارك وتعالى على عرشه فوق سمواته .انظر الابانة 3/ 136

6. เป็นมติของบรรดามุสลิม จากบรรดาเศาะหาบะอ บรรดาตาบิอีน และ บรรดานักวิชาการ จากบรรดาผู้ศรัทธา ว่า แท้จริงอัลลออ(ซ.บ)ทรงประทับบนบัลลังก์ บนฟากฟ้า - ดูอัลอินาบะฮ 3/136
الامام ابن خزيمة صاحب الصحيح ت 311
قال: من لم يقل بأن الله فوق سمواته وانه على عرشه بائن من خلقه وجب ان يستتاب فإن تاب والا ضربت عنقه ثم القي على مزبلة لئلا يتأذى بنتن ريحه اهل القبلة ولا اهل الذمة
انظر درء التعارض 6/ 264
7. อันนี้ เว้นไว้ให้คุณแปลเอง...................เพราะมันค่อนข้างจะรุนแรง

ผมกล่าวมาทั้งหมด ไม่ทราบว่า ผมถูกหุกุมว่าอย่างไร แต่ผมว่า พูดไปมันก็ไม่จบ หรือเรามาคุยกันเรื่อง อิบาดะฮชาวสลัฟกันบ้างก็ดี เออ ไม่ทราบว่า คุณกลับบ้านไปร่วมทำเมาลิคกลาง กับชาวสลัฟที่เมืองไทยเราหรือเปล่า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 12:05 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
الله فوق العرش
อัลลอฮอยู่บนบัลลังก์
1- قال الله تعالى: {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} (سورة طه) (أي علا وارتفع) كما جاء في البخاري عن التابعين.
อัลลอฮ(ซ.บ)ตรัสว่า "พระเจ้าผู้ทรงเมตตาประทับบนบัลลังก์ - ซูเราะฮฎอฮา (หมายถึง อยู่บน และ ยกขึ้น ) ดังที่ปรากฎในอัลบุคอรีจากตาบิอีน
2- وقال تعالى: {أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يَخْسِفَ بِكُمُ الْأَرْضَ} (سورة الملك) قال ابن عباس: (هو الله) كما في تفسير ابن الجوزي
และอัลลอฮตรัสว่า"พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากการที่พระองค์ทรงสถิตย์อยู่ ณ ฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้า"(ซูเราะฮอัลมุลกุ) อิบนุอับบาส กล่าวว่า" คือ อัลลฮ ดังปรากฏในตัฟสีรอิบนุเญาซี ( แต่คุณ az-hary กล่าวว่า หมายถึงมลาอิกะฮ)
3- وقال تعالى: عن عيسى: {بَلْ رَفَعَهُ اللَّهُ إِلَيْهِ} (سورة النساء) (أي رفعه الله إلى السماء)
อัลลอฮตรัสเกี่ยวกับนบีอีซาว่า (แต่ทว่าอัลลอฮทรงยกเขามายังพระองค์) - ซูเราะฮอันนิสาอฺ หมายถึงอัลลอฮทรงยกเขาไปสู่ฟากฟ้า
وقال تعالى: {وَهُوَ اللَّهُ فِي السَّمَاوَاتِ..} (سورة الأنعام) قال ابن كثير في تفسير هذه الآية: اتفق المفسرون على أننا لا نقول4 كما تقول الجهمية (فرقة ضالة) إن الله في كل مكان! تعالى الله عما يقولون علوا كبيرا (ومعنى في السماوات على السماوات).

لكن الله معنا بسمعه وبصره وعلمه، وذاته فوق العرش
และพระองค์ตรัสว่า(และพระองค์คือ อัลลอฮอยู่บนฟากฟ้า) - ซูเราะฮอัลอันอาม - อิบนุกะษีร ได้กล่าวไว้ในตัฟสีรอายะฮนี้ว่า "บรรดานักตัฟสีร ต่างก็เห็นฟ้องกันว่า พวกเราจะไม่กล่าว ดังเช่นที่พวกอัลญะฮมียะฮ(พวกหลงผิด)กล่าวว่า" อัลลอฮอยู่ในทุกสถานที่ .. อัลลอฮทรงสูงส่งจากสิ่งที่พวกเขากล่าว ทรงสูงส่ง ทรงยิ่งใหญ่ (ความหมายในฟากฟ้า หมายถึง บนฟากฟ้า แต่อัลลอฮอยู่พร้อมกับพวกเรา ด้วยการได้ยิน การเห็น และ การรอบรู้ของพระองค์ และตัวตน(ซาต)ของพระองค์ อยู่บนบัลลังก์
คุณ az-hary ข้างล่างนี้ คือ เว็บที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแอนตี้ (ต่อต้าน)พวกที่เขาตั้งชื่อให้ว่า"วะฮบี เช่นเดียวกับที่คุณ ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อสนองนโยบายนี้ โปรดดูครับ
http://www.antiwahabies.com/antiwahabies.html
เหตุนี้เองที่คุณเกลียดอุลามาอซะอุดี้
วัสสลามครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 7:10 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

«ثم استوى على العرش يغشي الليل النهار:» الأعراف: 54،
แล้วสถิตย์อยู่บนลังลังก์พระองค์ทรงให้กลางคืนครองคลุมกลางวัน
فَمَنْ أَثْبَتَ لِلَّهِ تَعَالَى مَا وَرَدَتْ بِهِ الْآيَات الصَّرِيحَة وَالْأَخْبَار الصَّحِيحَة عَلَى الْوَجْه الَّذِي يَلِيق بِجَلَالِ اللَّه وَنَفَى عَنْ اللَّه تَعَالَى النَّقَائِص فَقَدْ سَلَكَ سَبِيل الْهُدَى
ผู้ใดให้การรับรองแก่อัลลอฮ ต่อสิ่ง(คุณลักษณะ)ที่บรรดาอายะฮที่ชัดแจ้ง และบรรดาคำบอกเล่า(หะดิษ)ที่เศาะเฮียะ ได้ระบุไว้ตามแนวทางที่เหมาะสมกับความสูงส่งของอัลลอฮ และ ให้อัลลอฮ บริสุทธิ์จากสิ่งที่บกพร่องทั้งหลาย แน่นอนเขาดำเนินอยู่ในทางนำ(แนวทางที่ถูกต้อง - ตัฟสีรอิบนุกะษีร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-farook
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/08/2005
ตอบ: 297
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:18 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
คุณอะสันครับ สิ่งที่คุณนำเสนอมานั้น เป็นการคันคว้าที่มีประโยชน์ครับ คุณก็เป็นผู้รู้คนหนึ่งเลยทีเดียว อัลฮัมดุลิลลาห์ ผมแค่ก็เข้ามาชมนะครับ เท่าที่ผมอ่านมา คุณอยากจะให้ผมเข้ามาร่วมสนทนาด้วย ก็ถือว่าเป็นเกียตริครับ แต่ผมคงให้อัลอัซฮะรีย์เข้ามาสนทนาก็เพียงพอครับ ผมคิดว่าหากอัลอัซฮะรีย์ไม่ตอบหรือไม่สามารถอธิบายสิ่งที่คุณนำเสนอมาได้ นั่นก็คงเป็นหน้าที่ของผมแล้วครับ อัลอัซฮะรีย์เขาบอกว่าผม ถ้าจะให้ขอช่วยสนทนาแล้วเขาจะบอกผมอีกทีหนึ่งครับ หวังว่าไม่เป็นไรนะครับ งั้นคุณก็ต้องรออัลอัซฮะรีย์เข้ามาตอบสนทนาที่คุณยกมาอ้างอิงนำเสนอนะครับ


เท่าที่ผมดูการสนทนาระหว่างคุณกับคุณอัซฮะรีย์นั้น คุณพยามทวงคำถามกับเขาให้ตอบคำถามที่คุณและคุณอิลยาสถาม ผมก็อยากให้คุณตอบคำถามเขาบ้างนะครับ เพื่อความเป็นธรรม เช่น อัลเลาะฮฺนั่งอยู่บนอะรัชหรือเปล่า ? คำว่านั่งนั้นมีอุลามาอฺสลัฟซอและฮฺท่านใดบ้านที่กล่าวว่า อัลเลาะฮฺนั่ง ? ท่านอิบนุตัยมียะฮฺกล่าวว่า มีสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีจุดเริ่มต้นนั้นโดยขัดกับอิจญฺมาอฺนั้น เขาเป็นซะลัฟหรือเปล่าแล้วฮุกุ่มว่าอย่างไร ? เป็นต้น คุณก็น่าจะตอบเขาบ้างนะครับ
อัลอัซฮะรีย์เขาตอบคุณทีละประเด็นอย่างชัดเจน คุณก็น่าจะตอบเขาเป็นประเด็นๆ ไปเพื่อจะให้ท่านผู้อ่านเข้าใจได้ดีขึ้น เช่นเขาถามคุณว่า "มีใหม อุลามาอฺสลัฟที่บอกว่าอัลเลาะฮฺอยู่บนฟ้าโดยไม่มีสถานที่" และวิธีการมอบหมาย تفويض ที่เขาคัดค้านคุณว่าไม่ใช่เหมือนกับสะลัฟยุคก่อน เช่นกรณีในเรื่อง فى السماء คุณก็น่าจะที่เคลียร์การคัดค้านของเขาเป็นต้นครับ


เรื่องอุลามาอฺซาอุดี้ย์นั้น คุณต้องมีใจเป็นธรรมสักนิดว่า พวกเขาก็กล่าวโจมตีอัลอะชาอิเราะฮฺเช่นเดียวกันว่า เป็นมัซฮับบิดอะฮฺ อย่างที่อัลอัซฮะรีย์ยกตัวอย่างกรณีของ ท่าน ด๊อกเตอร์ ซะฟัร หะวาลีย์ คุณก็อย่าแสดงความไม่พอใจเขา หากเขาได้วิจารณ์อุลามาอฺซาอุดี้ย์บ้างนะครับ
สิ่งที่คุณอ้างอิงมา ก็น่าจะมีการตรวจสอบที่มา สิ่งที่ท่านอิบนุตัยมียะฮฺอ้างว่ามันเป็นแนวทางของสลัฟนั้น ย่อมไม่เสมอไป ซึ่งมันเป็นเพียงความเห็นของท่านอัชชัยคฺเท่านั้น


ผมเข้ามาก็อยากจะมาวิจารณ์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อมีส่วนร่วมบ้างนะครับ หวังว่าคุณไม่รังเกียจ และให้คุณรออัลอัซฮะรีย์ก็แล้วคุณนะครับ ผมก็ขอให้อัลเลาะฮฺทรงเพิ่มวิชาความรู้ที่มีประโยชน์แก่คุณครับ
Wink
wassalam

_________________
นักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
www.sunnahstudent.com
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์
AbdurRahman
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 26/07/2005
ตอบ: 185


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 10:18 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
ขอติงนิดได้มั้ยครับเพ่ Rolling Eyes Rolling Eyes
แบบว่าอ่านข้อความของเพ่ๆแต่ละท่านขัดหูขัดตาอีกแล้ว (ม่ายรู้เป็นอาราย) ตรงที่เพ่ๆทั้งหลายชอบเอ่ยนามอัลเลาะฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลากันเฉยๆ ทั้งๆที่ยกมาจากตัวบทมีแต่พี่ก็ตัดกันไปเฉยๆซะงั้น ดูของพี่อะสั่นนะครับ
فَمَنْ أَثْبَتَ لِلَّهِ تَعَالَى
ผู้ใดให้การรับรองแก่อัลลอฮ ต่อสิ่ง(คุณลักษณะuhh----- ตะอาลาหายไปไหนหว่า Question Question หรือชอบเรียก อัลเลาะฮ์ กันเฉยๆ หรือขี้เกียจจะยกคำสรรเสริญ หรือละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ หรือเวปมาสเตอร์ใช้ไม่ได้ไม่ยอมใส่ไว้ในไอคอน จะต่อว่าใครดีเนี่ย ว่าเวปมาสเตอร์ก็คงไม่รู้สึกรู้สา เรื่องชื่อเว็ปก็ไม่มาเคลียร์ เด๋วปั้ดเปิดเวป อนุรักษ์มรดกเจ้าแม่กวนอิมแข่งซะเลย (แหะแหะ)
ขอซักนิดเหอะพี่ กาเฟรมันยังพูดให้เกียรติมาลิกพวกมันกันสุดๆ ของเรายิ่งใหญ่กว่ามันแต่เอามาเรียกกันเฉยๆ ไม่ตะขิดตะขวงปากบ้างเหรอพี่ อุซตาซผมย้ำนักย้ำหนา การเอ่ยพระนามของพระองค์ในฐานะบ่าวอันต่ำต้อยเยี่ยงพวกเราต้องเติม ตะอาลา อัซซะวะญัล หรือคำอื่นๆที่ใช้เทียบเคียง หรือพี่ๆจะว่าไง เพราะ ผม อ่านแล้ว พี่ๆต้องเอาพระนามอัลเลาะฮ์ตะอาลา มากล่าวกันอีกนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องนั่งเรื่องอยู่บนอะรัชเนี่ยนะ (ซึ่งก็แล้วมันกงการอะไรของพวกมนุษย์ด้วยหว่า จะถามเอาอิ่มท้องหรือไง พระองค์จะนั่งจะยืนจะถามเอากล้ามหรือไง เด๋วปั้ด) คือ ผมอ่านข้อความที่พี่ๆเขียนกันแรกๆก็เฉยๆ แต่พออ่านไป อ่านไปชักโมโห (เหมือนมีชัยตอนมาหัวเราะข้างๆหู อะอูซุบิ้ลลาฮิมินัชชัยตอนนิรร่อญีม) บางทีพี่ๆก็ว่ากันแรงเหลือเกิน คาดคั้น กดดันแบบไม่ยอมให้คนอื่นรอดตายเลย (โหดชมัด นิสัยอย่างนี้นึกถึงท่าน อมีรุ้ลมุมีนีน อุมัร ลูกของท่าน คอตต๊อบเลยครับ) พี่น้องกันทั้งนั้น
พี่ฟังคำไทยที่คัดสรรสำหรับมาลิกที่ประเทศเขมรกันบ้างไม้ครับ สุดยอดทั้งน้าน
ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม--โอ้โฮ ขนาดนั้นเลยเพ่ จะหาคนเรียกชือตรงๆไม่มีเลยแฮะ ของเราเหรอ เหอๆๆ อัลเลาะฮ์ เฉยๆ แถมยังบังอาจจะถามอีกว่าอัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลอยู่ไหน มันว่างงงงงงงงงงานกันดีจริงๆเลยวุ้ย ทำไมพวกคนเขมรไม่ถามกันบ้างนะ ว่าไม่ทราบสมเด็จสีหนุอยู่ที่นาย นั่งหรือยืน พี่อ่านศัพท์ที่ผมยกมาบ่อยๆ จะเข้าใจถึงความตออัต ต่อมาลิก นี่แค่ระหว่าง Human กับ Human นะพี่ แล้วเรากับ พระผู้อภิบาลของเราล่ะเพ่ ใจคอจะเรียก อัลเลาะฮ์ กันเฉย ยังง้านเหรอครับ
ฝากๆไว้งั้นแหละครับ หงุดหงิดๆๆๆ เด๋วแต่งเมียจะเอาคืนหมด หุหุ
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 11:01 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
คุณ อัลฟารุก
ยินดีที่คุณเข้ามาสนทนาด้วย อยากจะเรียนให้คุณและคุณอัซฮารี ทราบว่า ที่คุณตำหนิว่าไม่ค่อยจะตอบคำถาม ผมขอเรียนให้ทราบว่า การนำเสนอในสิ่งที่ผมย่อมรับ ซึ่งมันก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวของมันแล้ว และไม่อยากจะโต้วาที หรืออวดวาทะ หรือเอาชนะกัน เพราะสิ่งที่ผมนำเสนอก็เป็นอีกทัศนะหนึ่งที่นักวิชาการยอมรับเช่นเดียวกัน และอีกคำหนึ่งที่คุณ อัลฟารุก กล่าวว่า"
อัลเลาะฮฺนั่งอยู่บนอะรัชหรือเปล่า ..........
ก็ผมบอกอยู่ตลอดพร้อมหลักฐาน เช่น
قوله تعالى في سورة "طه" : {الرحمن على العرش استوى}.
والاستواء في لغة العرب إذا عدي بحرف الجر "على" كان بمعنى علا وارتفع
1. อัลลอฮตรัสไว้ในซูเราะฮฏอฮาว่า"พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์
คำว่า อัลอิสติวาอฺ" เมื่อเป็นสกรรมกริยาด้วยคำบุพบท ว่า" علي " ก่อจะมีความหมายว่า อยู่บน
قوله تعالى: {إليه يصعد الكلم الطيب والعمل الصالح يرفعه
2. อัลลอฮตรัสว่า" คำพูดที่ดี ขึ้นไปยังพระองค์และการงานที่ดี ถูกยกขึ้นไปยังพระองค์
คำว่าขึ้นไปยัง และ ยกขึ้นไป ย่อมแสดงว่า จุดหมายที่ขึ้นไปหรือยกไปนั้น อยู่เบื้องสูง
قال الإمام أبو عمرو الطلمنكي في كتابه في الأصول: [ أجمع المسلمون من أهل السنة على أن الله استوى على عرشه بذاته3.
3. อิหม่ามอบูอัมรินอัฏฏอลมันกีย์ กล่าวไว้ในหนังสือของท่าน ในอัลอุศูล ว่า" เป็นมติของชาวสุนนะฮว่า แท้จริงอัลลอฮทรงประทับบนบัลลังก์ ด้วยอัตมัน(ตัวตน)ของพระองค์
แต่ ผมไม่เคยใช้คำว่า"นั่ง" เพราะเชื่อตามที่อัลลอฮทรงบอกไว้ ส่วนรูปแบบ(كيفية )จะเป็นอย่างไร ปัญญาผมไม่สามารถล่วงรู้ได้ เพราะท่านนบี ศอลฯไม่ได้อธิบายไว้ แต่ ทรงไม่มีสิ่งไดเสมอเหมือนพระองค์อย่างแน่นอน
whistling#1575;لامام ابن بطة العكبري شيخ الحنابلة ( 304-387)
جمع المسلمون من الصحابة والتابعين وجميع اهل العلم من المؤمنين ان الله تبارك وتعالى على عرشه فوق سمواته بائن من خلقه وعلمه محيط بجميع خلقه)
انظر الابانة 3/ 136

อัลอิหม่ามอิบนิบัฏเฏาะฮ อัลอักบะรีย์ ผู้อวุโสในมัซฮับฮัมบะลี กล่าวว่า
"เป็นมติของบรรดามุสลิม จากบรรดาเศาะหาบะฮ บรรดาตาบิอีน และบรรดานักวิชาการมุมินีนทั้งหลาย ต่างเห็นฟ้องกันว่า แท้จริงอัลลอฮ (ซ.บ)อยู่บนบัลลังก์ บนฟากฟ้า ที่แตกต่างจากมัคลูค โดยที่ความรอบรู้ของพระองค์ ครอบคลุมบรรดามัคลูคทั้งหลายของพระองค์ - อัลอินาบะฮ 3/136

سئل رجل الأمام مالك قال ياإمام تقول الأيه ( الرحمن على العرش أستوى )
كيف أستوى ، فرد عليه الإمام مالك قائلا : الأستواء معلوم والكيف مجهول والسؤال عنه بدعه

มีชายคนหนึ่ง ถามอิม่ามมาลิกว่า "โอ้ท่านผู้นำ ท่านกล่าวถึงโองการที่ว่า(ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์) คำว่า" ทรงประทับ" นั้นเป็นอย่างไร ? ท่านอิหม่ามมาลิกกล่าวตอบว่า " การ ประทับ นั้น เป็นสิ่งที่แน่นอน และรูปแบบนั้น ไม่ทราบ และการถามเกี่ยวกับมันนั้น เป็นบิดอะฮ"
คุณมาเพื่อเอาชนะ แต่ผมต้อนรับ ด้วยการนำเสนอสิ่งที่ผมเชื่อและยอมรับ ผมพูดไว้แล้วว่า พูดไปมันก็แค่นี้ และผมเองไม่ได้กริ้วอะไร ผมตอบไม่เคยใช้อารมณ์และความยะโสเลย คุณตรวจสอบได้ ในเว็บทุกเว็บของมุสลิมที่ผมเข้าไป
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
az-hary al-farook
ผมเองพยายามหลีกเหลี่ยงการกระทบกระทั่ง และการหักล้างซึ่งกันและกันโดยเอาชนะซึ่งกันและกันอย่างได้กล่าวมาแต่ต้น แต่คุณพยายามหยัดเยียดและตัดสินว่า ที่พวกเราหรื่ออุละมาซะอุดีย์ อยู่นั้น ไม่ใช่สลัฟยุคก่อน ส่วนที่เป็นของสลัฟยุคก่อนคือ ของคุณ ส่วนของ อิบนุ ก็อยยิม ของอิบนุตัยมียะฮ ของ มุหัมหมัด บิน อับดุ้ลวาฮาบ หรือ ของ อัลบานีย อะไรทำนองนี้ ไม่ถูก ส่วนคุณ คุณจะเป็นสลัฟจริง หรือไม่จริง ผมได้ตำหนิคุณ แต่ ผมจะคอยดูตอนที่คุณเรียนจบ และกลับมาเมืองไทย มาอยู่ท่ามกลางสังคม อันหลากหลาย ส่วนผม ให้คุณกลับมาก่อน แล้วจะคอยดูผลงานคุณ และอยากให้คุณ เปิดเว็บอัชอะรียะฮสักเว็บหนึ่ง เพื่อผมจะได้ศึกษามากกว่านี้ และในหลายๆเรื่อง
คุณฟารุกกล่าวว่า
เช่นเขาถามคุณว่า "มีใหม อุลามาอฺสลัฟที่บอกว่าอัลเลาะฮฺอยู่บนฟ้าโดยไม่มีสถานที่" และวิธีการมอบหมาย تفويض ที่เขาคัดค้านคุณว่าไม่ใช่เหมือนกับสะลัฟยุคก่อน เช่นกรณีในเรื่อง فى السماء คุณก็น่าจะที่เคลียร์การคัดค้านของเขาเป็นต้นครับ
................................
ตอบ
ฉะนั้นต่อไปผมจะพยายามนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นนี้ จากทัศนะของอุละมาอฺ บ้าง ซึ่งจริง ผมถื่อว่า สิ่งที่อัลลอฮ (ซ.บ)ตรัสไว้ และ ท่านนบีระบุไว้ ชัดเจนอยู่แล้ว สิ่งใดที่ท่านนบี ไม่ได้อธิบาย ก็จะไม่พยายามมากความ ผมเชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า อัลกุรอ่านและ อัสสุนนะฮมันเพียงพอแล้วสำหรับผม ขอเริ่มด้วย นักวิชาการที่ผมและคุณชอบก่อนนะครับ
1. อิหม่ามชาฟิอี (150 - 204)

عن الإمام محمد بن إدريس الشافعي ناصر الحديث رحمه الله تعالى قال: القول في السنة التي أنا عليها ورأيت عليها الذين رأيتهم مثل سفيان ومالك وغيرهما، إقرار بشهادة أن لا إله إلا الله وأن محمدا رسول الله، وأن الله على عرشه في سمائه يقرب من خلقه كيف شاء، وينزل إلى السماء كيف شاء، وذكر سائر الاعتقاد[14
จากอิหม่ามมุหัมหมัด บินอิดรีส นาศิรุลหะดิษ (ขออัลลอฮ โปรดประท่านความเมตตาแด่ท่าน) กล่าวว่า" คำพูดเกี่ยวกับอัสสุนนะฮ ที่ข้าพเจ้า ยึดถือมันอยู่ และข้าพเจ้าเห็นด้วย กับสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเห็นด้วย เช่น ซุฟยาน มาลิก และอื่นจากท่านทั้งสอง คือ การยอมรับในการปฏิญานว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ และ แท้จริงมุหัมหมัด เป็นศาสนทูตแห่งอัลลอฮ และแท้จริงอัลลอฮ ทรงอยู่บนบัลลังก์ ในฟากฟ้าของพระองค์ ทรงใกล้ชิด ผู้ที่พระองค์ทรงสร้าง ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงลงมายังฟากฟ้า ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ....และกล่าวถึง หลักการศรัทธาประเด็นอื่นๆ - ดูหนังสือ[176العلو للذهبي ص
ห้ามเอาความเห็นของตัวเองมาหักล้างนะครับ ให้เอาหะดิษมาหักล้าง หากมี
อินชาอัลลอฮ ค่อยว่ากันต่อ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:36 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ถึงคุณอะสัน حفظه الله ورعاك
ผมหวังว่าและขอต่อ อัลเลาะฮฺ ตะอาลา ทรงประทานความมีประโยชน์การสนทนาระหว่างเรา ด้วยหลักฐานและหลักวิชาการ ยาร๊อบ คุณอะสันครับ การสนทนานั้น อย่าคิดว่าเป็นการโต้วาทีหรือประลองวิชาอะไร เพราะมันจะไม่มีประโยชน์อันใดเลย และคุณต้องเข้าใจว่า การสนทนาด้วยหลักฐานนั้น บางครั้งมันไม่ตรงกับแนวทางของเรา ก็ต้องอดทนและหาหลักฐานมาสนับสิ่งที่ตัวเองยึด หากจนต่อหลักฐาน เราก็ต้องน้องรับอย่างสะดุจดี หากมีการหักล้างหลักฐานกัน ก็มีต้องรุนแรงบ้างนิดหน่อย หรือหลุดนอกเรื่อง ผมก็ขอมะอัฟไว้ในที่นี้ด้วย คุณเป็นผู้สนทนาที่ดีมากคนหนึ่ง อันนี้ผมของชมเชยในสิ่งที่อัลเลาะฮฺทรงประทานให้แก่คุณครับ


อ้างอิงจากคุณอะสัน
คุณ az-hary ข้างล่างนี้ คือ เว็บที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแอนตี้ (ต่อต้าน)พวกที่เขาตั้งชื่อให้ว่า"วะฮบี เช่นเดียวกับที่คุณ ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อสนองนโยบายนี้ โปรดดูครับ
<http://www.antiwahabies.com/antiwahabies.html>
เหตุนี้เองที่คุณเกลียดอุลามาอซะอุดี้


ตอบ
ซุบฮานัลเลาะฮฺ คุณอะสันครับ ทุกอย่างคุณคิดอัคติกับผม سامحك الله แล้วบอกว่าผมเกลียดอุลามาอฺซาอุดี้ ตรงใหนบ้างที่หรือครับที่ชี้ให้เห็นว่าผมเกลียดพวกเขา ถึงกับกล่าวหาว่าผมตั้งกระทู้มาเพื่อสนองนโยบายนี้ ผมมีมิตรสหายที่อยู่ในแนวซะละฟีย์ซาอุดี้ก็เยอะพอสมควร แต่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับอุลามาอฺซาอุดี้ที่บอกว่าอัลอะชาอิเราะฮฺเป็นแนวทางที่บิดอะฮฺ เช่น ดร.ซะฟัร อัลหะวาลีย์ และผมตั้งกระทู้จขึ้นมานั้น ไม่ใช่ตั้งกระทู้ว่า "วะฮาบะฮฺเป็นแนวทางบิดอะฮฺ" หรือตั้งกระทู้ว่า "เราต่อต้านวะฮาบีย์" ก็หาไม่ แต่ผมตั้งกระทู้เพื่อ สนทนากันเรื่องการแบ่งแยกเตาฮีดเท่านั้นเอง ขอย้ำอีกครั้งว่า ตั้งกระทู้เพื่อพูดเรื่องแบ่งแยกเตาฮีดเท่านั้นเอง และผมยังคงต้องการที่จะคุยเรื่องแบ่งแยกเตาฮีดอยู่ พูดกันด้วยหลักฐานครับ แล้วผลเป็นอย่างไรครับ ผมสนทนาเรื่องการแบ่งเตาฮีดอยู่ดี ๆ คุณอัลยาส ก็มาถามเรื่อง "อัลเลาะฮฺอยู่ใหน?" ถามเรื่อง"มือ หน้าแข้ง " ผมก็เป็นงง สนทนาเรื่องการแบ่งแยกเตาฮีดแล้วเราถามเรื่องอื่น


คุณอะสันสังเกตุซิครับว่า ผมพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการตอบคำถามของคุณอิลยาส ซึ่งเหมือนกับเป็นการถามคำถามลองเชิงหรือลองวิชา และผมก็พยายามไม่ตอบ เพราะว่าเป็นปัญหาที่ต้องคุยกันมากพอสมควร แต่คุณเองกลับมาทวงคำถามกับผม เรื่อง"อัลเลาะฮฺอยู่ใหน?" ดังนั้นดูเหมือนว่าคุณคือคนเริ่มมัน ยิ่งไปกว่านั้น คุณอิลยาสก็โพสท์คำพูดของ อิมามชะอฺรอวีย์ ที่ชัยคฺอัลบานีย์ถ่ายทอดมาให้ และบอกผมว่าอย่าเพิ่งอ่านนอกจากตอบคำถามผมเสียก่อน แล้วคุณอะสันจะให้ผมทำอย่างไรล่ะครับ ผมก็ต้องตอบซิครับ และเป็นการตอบในเชิงวิชาการที่มีน้ำหนักด้วยซิครับ หรือว่าด้วยเหตุนี้ คุณถึงต้องพูดเช่นนี้


ส่วนเวปต่อต้านวะฮาบีย์ ที่คุณนำเสนอมาให้ผมนั้น ผมขอบอกด้วยความเป็นลูกผู้ชายว่า ผมไม่เคยเข้าไปในเวปนั้นเลย แม้สักครั้งเดียวก็ตาม และแม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าไปดูเวปนั้นเลยครับ แต่ต่อไปอาจจะเข้า เพราะคุณแนะนำหามาให้ผม อิงชาอัลเลาะฮฺ แต่อุลามาอฺซาอุดี้ที่กล่าวว่า แนวทางของอาชาอิเราะฮฺเป็นแนวทางที่บิดอะฮฺนั้น ผมแค่ไม่พอใจ ไม่ใช่เกลียดพวกเขา และผมก็ไม่เคยด่าว่าพวกเขาด้วย และก็ไม่เคยใช้คำว่า "วะฮาบีย์" แทนตัวพวกเขา แต่ผมใช้คำว่า "ซะลาฟีย์" หรือ"สลัฟปัจจุบัน" มีอุลามาอฺซาอุดี้บางคน บอกว่าผม อัล-อะชาอิเราะฮฺนั้น เป็นแนวทางที่บิดอะฮฺ คุณอะสันจะให้ผม เฉยๆ หรือดีใจ หรือไม่พอใจล่ะครับ เช่นหนังสือ ของ ดร.ซะฟัร ผมนั้นไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ใช่ไปสาปแช่งอะไรเขา แต่ผมก็วิจารณ์โต้ตอบหนังสือของเขาในเชิงวิชาการครับ โปรดผ่อนปรนให้ผมด้วยนะครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ถึงคุณอะสัน هداك الله
อ้างอิงจากคุณอะสัน
คือ ที่ผมบอกกับคุณแล้วว่า พูดกันยาว เพราะความอคติ โดยเฉพาะกับอุลามาซาอุดี้ เพราะพวกเขาไม่เห็นด้วยกับคุณ และคุณเอาอะไรมาวัดว่า มุสลิมส่วนใหญ่มีความคิดเดี่ยวกับคุณ และ คุณคิดหรือว่า คนส่วนใหญ่เป็นหลักประกันความถูกต้องเสมอไป


ตอบ
สัจจะธรรมนั้น บางครั้งก็ต้องสนทนากันยาวครับ เนื่องจากต่างฝ่ายก็อ้างว่าตัวเองสัจจะธรรม ผมยึดแนวทางซะลัฟที่อะชาอะอิเราะฮฺยึดถือ ยุคซะลัฟที่เรายึดถือนั้น คือคำกล่าวของซะลัฟยุคแรก 300 ปีหลังจากท่านร่อซูลลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)ได้วาฟาต ไม่ใช่อ้างมาจาก อุลามาอฺคนหนึ่ง เช่นชัยคฺอิบนุตัยมียะฮฺแล้วบอกว่ามันเป็นแนวทางของซะลัฟและก็ยึดกันว่ามันเป็นของซะลัฟจริงๆ จากที่ผมสังเกตุการสนทนานำเสนอของคุณนั้น คุณอ้างอิงจากเวปไซด์ของอุลามาอฺซาอุดี้ตลอด ย่อมชี้ให้เห็นว่า คุณก็ยังยึดติดพวกเขาอยู่โดยไม่รับหลักฐานจากอุลามาอฺอื่น ตามที่คุณเองบอกเอาไว้ว่าไม่ยึดติดทั้งซะลัฟและคอลัฟ


มุสลิมส่วนใหญ่นั้นยึดตามแนวทางของอะชาอิเราะฮฺ ซึ่งอะชาอิเราะฮฺนั้นก็คือยึดซะลัฟยุคแรก 300 ปีหลักจากท่านร่อซูล(ซ.ล.)วะฟาต แนวทางอะชาอิเราะฮฺเป็นแนวทางของชนส่วนใหญ่ อย่างที่ ดร.ซะฟัร อัลหะวาลีย์ อุลามาอฺซะลาฟีย์ปัจจุบัน ได้กล่าวเอาไว้และผมก็นำเสนอและวิจารณ์ไปแล้วด้วย คุณอะสันไม่ได้อ่านหรอกหรือครับ ? ส่วนหลักประกันความถูกต้องนั้น เราก็ต้องมาดูกันที่หลักฐานและความเข้าใจของมันซิครับ แล้วคุณก็จะได้รู้และอัลเลาะฮฺทรงชี้นำครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากคุณอะสัน هداك الله

หลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ จากสามัญสำนึกของมนุษย์ที่สมบูรณ์ และจากสติปัญญาที่เที่ยงธรรม ต่างรับรองว่า อัลลอฮนั้น ประทับอยู่บนบัลลังก์(อัลอัรชุ)


ตอบ
ท่านอิมามมาลิกถูกถามเกี่ยว อัลอิสติวาอฺ ท่านตอบว่า
وأما السؤال عنه بكيف فهو بدعة والإيمان به واجب والكيف مجهول الاستواء معلوم
ความหมายจากคำพูดของอิมามมาลิก ที่แท้จริงตามทรรศนะของอะฮฺลิสซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺนั้นคือ " الاستواء معلوم อัลอิสติวาอฺเป็นที่รู้กันดี คือเป็นที่รู้กันดีว่า อัลอิสติวาอฺนั้นได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานและได้ถูกพาดพิงไปยังอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)والكيف مجهول และวิธีการอย่างนั้นเรา เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับรู้ได้ คืออัลเลาะฮฺกุรอานและซุนนะฮฺก็ได้บอกระบุไว้ว่าเป็นอย่างไร และบรรดาอุลามาอฺที่น่าเชื่อก็ไม่ได้กล่าวเอาไว้ และ والإيمان به واجب และการศรัทธาด้วยกับอัลอิสติวาอฺที่ได้เพียงกล่าวไว้ในอัลกุรอานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและ وأما السؤال عنه فهو بدعة สำหรับการถามจากเรื่องของอัลอิสติวาอฺนั้น คือเป็นบิดอะฮฺ หมายถึงเป็นคำถามที่อุตริขึ้นมาและไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้


ท่านอัซซฺะฮะบีย์กล่าวว่า " มีสายงานที่ได้รับการบันทึกไว้จากอิมามมาลิก ซึ่งเป็นสายรายงานของ ท่านอัลวะลีดบินมุสลิม ว่าแท้จริง เขาได้ถามอิมามมาลิกเกี่ยวกับบรรดาฮะดิษที่เกี่ยวกับบรรดาซีฟัต ท่านอิมามมาลิกกล่าวว่า ( أمرها كما جاءت بلا تفسير ) ท่านจงทำการผ่านมันไป เฉกเช่นที่มันได้เคยมี(ระบุ)มา โดยไม่ต้องตัฟซีรอธิบาย" ดู ซิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอฺ เล่ม 8 หน้า 105 ดังนั้นความหมายของอิมามมาลิก จากคำว่า الاستواء คือเป็นที่รู้กันว่ามันได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน โดยที่ให้อ่านผ่านมันไปเสมือนกับที่มันได้ระบุเอาไว้ โดยไม่ต้องอธิบายความหมายของมัน และมอบความหมายของมันให้กับอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) นั่นคือ การมอบหมาย التفويض ตามทัศนะของ ซะลัฟซอและหฺ


แต่สะลัฟปัจจุบันตามที่คุณอะสันตามนั้น พวกเขากล่าวว่า "อัลอิสติวาอฺคือการที่อัลเลาะฮฺนั่งสถิตอยู่บนบันลังค์ แต่นั่งสถิตอย่างไรนั้นไม่รู้ !!! " ซุปฮานัลเลาะฮฺ ชาวซะลัฟยุคก่อนที่อะชาอิเราะฮฺเจริญรอยตามนั้น เขาไม่รู้ความหมายที่แท้จริง ของ "อัลอิสติวาอฺ" แต่สะลัฟยุคปัจจุบันที่คุณอะสันตามกลับรู้ความหมาย อัลอิสติวาอฺ คือการนั่งสถิตของอัลเลาะฮฺอยู่บนอะรัช ทั้งที่อะรัชนั้นเป็นมัคโลค หากอัลเลาะฮฺนั่งบนมัคโลค ก็แสดงว่าพระองค์ทรงต้องการอะรัช และเหมือนกับของใหม่ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พระองค์ทรงเหมือนกับของใหม่ และผู้ที่กล่าวเช่นนี้เขาเรียกว่า พวก المجسمة ขอต่ออัลเลาะฮฺอย่าให้คุณกล่าวอย่างนั้นครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 8:56 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
น้องอับดุรเราะหมาน ขอบใจมากที่ช่วยเตือน ต่อไปจะพยายาม อินชาอัลลอฮ
ผมอยู่สะเดา ชายแดนมาเลย์เหมือนกัน แล้วคุณอยู่ชายแดนตรงใหนครับน้อง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 9:01 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากคุณอะสัน هداك الله
หลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ จากสามัญสำนึกของมนุษย์ที่สมบูรณ์ และจากสติปัญญาที่เที่ยงธรรม ต่างรับรองว่า อัลลอฮนั้น ประทับอยู่บนบัลลังก์(อัลอัรชุ) เช่น

قوله تعالى: {إليْهِ يَصْعدُ الِكَلمُ الطَيبُ والعَملُ الصَالحُ يَرفَعهُ}. {إِنِّي مُتَوَفِّيكَ وَرَافِعُكَ إِلَيّ}. {أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يَخْسِفَ بِكُمُ الأَرْضَ}. {أَمْ أَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِباً حَاصباً}. {بَلْ رَفَعَهُ اللَّهُ إِلَيْهِ}. {تَعْرُجُ الْمَلائِكَةُ وَالرُّوحُ إِلَيْهِ}. {يُدَبِّرُ الْأَمْرَ مِنَ السَّمَاءِ إِلَى الأَرْضِ ثُمَّ يَعْرُجُ إِلَيْهِ}. {يَخَافُونَ رَبَّهُمْ مِنْ فَوْقِهِمْ}. {ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ}

وفي الصحيح في حديث الخوارج "ألا تأمنوني وأنا أمين من في السماء يأتيني خبر السـماء صباحـاً ومسـاء"

ตอบ
ตามที่ผมเรียนไปแล้วก็คือ อุลามาอฺซะลัฟนั้น แท้จริง คำว่า “فى السموات” หรือ “فى السماء” นั้นสำหรับแนวทางของอิชาอะเราะฮฺนั้น สามารถใช้ได้สองหนทางด้วยกัน
1. คือ التفويض การมอบหมาย ซึ่งหมายถึงการมอบหมายความหมายของตัวบทไปยังอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) โดยไม่เข้าไปพิจารณาความหมาย และศรัทธาบนหนทางที่สรุปๆ คือศรัทธาอิหม่านว่า สิ่งที่อัลเลาะฮฺรู้นั้น เป็นสัจจะธรรมและความสัจจริง และให้มันผ่านไปอยู่ที่ได้ระบุมาอย่าง ไม่รู้วิธีการว่าเป็นอย่างไร และมีความหมายอย่างไร พร้อมกับเชื่อว่าอัลเลาะฮฺทรงบริสุทธิ์จากคุณลักษณะที่บกพร่อง นี่คือแนวทางของอุลามาอฺซะลัฟ ซึ่งมันแตกต่างกับคุณอะสันที่กล่าวว่า อัลเลาะฮฺอยู่บนฟากฟ้าแต่ไม่รู้ว่าอยู่อย่างไร? ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเห็นมีสถานที่อยู่บนฟากฟ้าแต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ? แต่ชาวซะลัฟแท้ๆนั้น(ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งของอะชาอิเราะฮฺ)มีจุดยืนกับตัวบทนี้ว่า อัลเลาะฮฺกล่าวอย่างนั้นจริง แต่เราไม่รู้ความหมายที่แท้จริง โดยที่อัลเลาะฮฺปราศจากและไม่ทรงมีการกำหนดสถานที่และทิศให้กับพระองค์ เช่นอัลเลาะฮฺทรงอยู่บนฟากฟ้าและทรงอยู่ทิศบนอย่างที่ซะลัฟปัจจุบันเขาอ้างเชื่อกันอย่างนั้น


แต่บรรดาอุลามาอฺผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นสะลัฟปัจจุบันและคุณอะสันเจริญรอยตามนั้น กล่าวว่าอัลเลาะฮฺ นั่งสถิตอยู่บนอะรัช และอยู่ในฟากฟ้า เป็นที่ทราบดีกว่า ซะละฟีย์ปัจจุบันกล่าวว่า อัลเลาะฮฺทรงลงมาจากฟากฟ้าในยาม รุ่ง (คือ ท้าย 1ส่วน 3 ของคืน) ลงมาโดยซาตของพระองค์เอง แต่พวกเขาอ้างว่าไม่รู้ว่าอยู่ในสภาพและลักษณะอย่างไร ??? เป็นที่ทราบกันดีกว่าโลกนั้นหมุนรอบดวงอาทิตย์ เวลาแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันเป็นลูกโซ่ เวลารุ่งนั้นเมืองไทยก็ประมาน ตี 5 (แต่ตอนนี้ผมอยู่อียิปต์) เวลานั้นอัลเลาะฮฺก็ลงมา(ตามที่ซะละฟีย์กล่าวอ้าง) เมื่อเมืองไทยสว่าง ประเทศใกล้เคียงก็รุ่งอีก เมื่อประเทศใกล้เคียงนั้นสว่าง ประใกล้เคียงของประเทศนั้นก็รุ่งอีก เป็นทอดๆกันไป แม้กระทั้ง 9โมงเช้าเมืองไทย ที่อียิปต์เพิ่งรุ่งเองครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ทั่วโลก อัลเลาะฮฺไม่ลงมาจากฟากฟ้ากันตลอดเลยหรือครับ ? และอัลเลาะฮฺจะนั่งสถิตอยุ่บนบันลังค์กันตอนใหน ? แต่อุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนเขายึดมั่นว่า อัลอิสติวาอฺนั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ความหมายยิ่ง และคำว่า" نزول " นั้นอัลเลาะฮฺทรงรู้ยิ่ง ลักษณะอย่างไรนั้นไม่เป็นที่รู้ได้นอกจากอัเลาะฮฺ แค่นี้ก็จบครับ แต่ตามทัศนะของซะลัฟปัจจุบันนั้น เราต้องคุยกันต่อครับ


หากอัลเลาะฮฺนั่งสถิตอยู่บนอะรัชอย่างที่ซะละฟีย์ซาอุดี้เข้าใจแล้ว และอายะฮฺอื่นๆล่ะครับคุณจะว่าอย่างไร หรือว่าคุณจะ التأويل ตีความ เช่น
(وهو معكم أينما كنتم)
(وهو الذي في السماء إله وفي الأرض إله)
(فأينما تولوا فثمّ وجه الله)
(ونحن أقرب إليه من حبل الوريد)
หากอัลเลาะฮฺอยู่ทิศบนและอยู่นั่งสถิตอยู่บนอะรัชนั้น มันก็จะมาค้านกับอายะฮฺต่างๆ ที่ผมนำเสนอ หรือว่าคุณอะสันจะ التأويل ตีความ ถ้าคุณทำอย่างนั้น ก็เป็นแนวทางของอิชาอิเราะฮฺอีก และแนวทางของอะชาอิเราะฮฺ เป็นแนวทางบิดอะฮฺตามทัศนะของอุลามาอฺซาอุดี้ไม่ใข่หรือครับ ?

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 9:09 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากคุณอะสัน هداك الله
قال شيخ الإسلام ابن تيمية رحمه الله في رسالة الفتوى الحموية............................ .
: ( روى أبو بكر البيهقي في الأسماء والصفات بإسناد صحيح عن الأوزاعي
إن الله تعالى ذكره فوق عرشه ، ونؤمن بما وردت به السنة من الصفات ، فقد حكى الأوزاعي وهو أحد الأئمة الأربعة في عصر تابعي التابعين الذين هم...........................
รายงานโดยอบูบักร อัลบัยฮะกีย์ เกี่ยวกับ บรรดาพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ ด้วยสายสืบที่ถูกต้อง จากเอาซาอีย์ กล่าวว่า"พวกเราและบรรดาตาบีอูน เป็นส่วนมาก เราขอกล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ ทรงระบุว่า พระองค์ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์ และเราเชื่อตามที่ประกฏในอัสสุนนะฮ ที่เกี่ยวกับบรรดาคุณลักษณะ(ของอัลลฮ


ตอบ
فوق عرشه
เราไม่ได้ปฏิเสธคุณลักษณะ الفوقية ของอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) เพราะ الفوقية มีสองความหมาย
1. الحسى คือลักษณะ الفوقية ที่เราสัมผัสได้ด้วย ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่นนกบินอยู่บนฟ้า อากาศอยู่ในฟากฟ้า แสงรังสีอยู่ใน(หรืออยู่บน)ฟากฟ้า เป็นต้น
2. المعنوى คือลักษณะ الفوقية ที่อยู่ในเชิงนามธรรม เช่นกษัตริย์อยู่เหนือรัฐมนตรี กษัตริย์ปกครองเหนือประชาชน เป็นต้น
ดังนั้นลักษณะ الفوقية ที่มีอยู่ที่อัลเลาะฮฺนั้น เราอัลอะชาอิเราะฮฺขอกล่าวว่า เป็นลักษณะอยู่ในประเภทที่สอง คืออัลมะนาวีย์ ซึ่งหมายถึงอัลเลาะฮฺทรงอยู่เหนืออะรัช ในด้านการมีอำนาจปกครองมัคโลคทั้งหลาย


หากเรากล่าวว่าอัลเลาะฮฺนั่งสถิตอยู่บนอะรัชนั้น ก็จะในความหมายประเภทที่หนึ่ง แล้วมาบอกว่าไม่รู้นั่งสถิตอยู่อย่างไร แบบนี้คงไม่ใช่อุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนเขาพูดกันหรอกครับ เพราะว่ามันจะไปคล้ายเหมือนมัคโลคได้


คุณอะสันโปรดสังเกตุและพิจารณาสายรายงานนี้ ซึ่งผมเอามาจากหนังสือ ไม่ใช่ก๊อบมาจากเวปไซด์
أخبرنا محمد بن عبد الله الحافظ ثنا أبو بكر محمد أحمد بن بالويه ثنا محمد بن بشر بن مطرثنا الهيثم بن الخارجة ثنا الوليد بن مسلم قال : سئل الأوزاعى ومالك وسفيان الثورى والليث بن سعد عن هذه الأحاديث التى جاءت فى التشبيه فقالوا : أمروها كما جاءت بلا كيفية .
ท่านอิมาม อัล-บัยฮะกีย์ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ อุสสุนันอัลกุบรอของท่าน ว่า" ได้บอกเล่ากับเรา โดยมุฮัมมัด บิน อับดิลลาฮฺ อัลหาฟิซฺ ได้เล่ากับเรา โดยอบูบักร มุฮัมมัด อะหฺมัด บาลุวัยฮฺ ได้บอกเล่ากับเรา โดยมุฮัมมัด บิน บิชรฺ ได้บอกเล่ากับเรา โดยมะฏ๊อร ได้บอกเล่ากับเราโดย อัลฮัยษัม บิน อัลคอริญะฮฺ ได้บอกเล่ากับเรา โดย อัลวะลีด บิน มุสลิม เขากล่าวว่า " ท่านอัลเอาซฺะอีย์ ท่านมาลิก ท่านซุฟบาน อัษเษารีย์ และท่านเลัยษ์ บิน ซะอัด ได้ถูกถามจากบรรดาฮะดิษที่มีมาในการตัชบีฮฺ(มีการคล้ายคลึ่งระหว่างอัลเลาะฮฺและมัคโลค) ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวว่า "พวกท่านจงผ่านมันไป เฉกเช่นที่มันได้มี(ระบุ)มา โดยไม่(รู้ว่าวิธีการ)มีอย่างไร " ดู สุนัน กุบรอ ของท่าน อัลบัยฮะกีย์ เล่ม 2 หน้า 3


ดังนั้น คุณอะสันน่าจะรู้แล้วน่ะครับว่า บรรดาอุลามาอฺซะลัฟยุคก่อนเขามีจุดยืนอย่างไร คำว่า" فوق العرش " นั้น พวกเขาไม่รู้ว่าความหมายแท้จริงเป็นอย่างไร ? แต่มอบหมายให้กับอัลเลาะฮฺ เช่นเดียวกับคำว่า " الإستواء " นั้นพวกเขาจะอ่านผ่านมันไปเสมือนที่มันได้ระบุมา(คือไม่เข้าไปพิจารณาความหมาย เช่นบอกว่า หมายถึงนั่งอยู่ สถิตอยู่บนอะรัช) และวิธีการอย่างไรนั้นพวกเขาไม่รู้ ไม่ใช่ไปบอกว่า " الإستواء " นั้น คือการนั่งสถิตอยู่บนอะรัชและอย่างไรนั้นไม่รู้ อย่างที่สลัฟปัจจุบันกล่าวอ้าง แล้ว

คุณอะสันจะพูดได้อย่างไร
ว่า " สะลัฟแท้ ก็คือ คนทุกยุค ทุกสมัย รวมถึง อุละมาอ ซะอุดี้ ด้วย หากเขาเชื่อตามที่อัลกุรอ่านและหะดิษระบุเอาไว้ครับ หรือ คุณจะตัดสิน(หุกุม)ว่าผมเป็นพวกใหนอีก"


ตอบ
ใครๆก็เชื่อตามอัลกุรอานและหะดิษ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า อุลามาอฺ ซะอุดี้ นั้น เข้าใจและเชื่อตามหลักการยึดมั่นในอัลกุรอานและหะดิษ(ในเรื่องซีฟาต)เหมือนกับอุละมาอฺซะลัฟยุคก่อนที่อัลอะชาอิเราะฮฺตามใหมล่ะครับ ?? คุณอะสันโปรดจงเข้าใจ แล้วอัลเลาะฮฺจะชี้นำท่านครับ

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
al-azhary
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2005
ตอบ: 573
ที่อยู่: อียิปต์

ตอบตอบ: Wed Aug 31, 2005 9:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ้างอิงจากคุณอะสัน هداك الله
الاستواء في اللغة العربية يأتي لازماً ويأتي متعديا إلى المعمول بحرف الجر ويأتي مقروناً بواو المعية فهذه ثلاثة وجوه للاستواء أما الأول وهو أن يأتي مطلقا غير مقيد بالمعمول ولا واو المعية فإنه يكون بمعنى الكمال ومن قوله تعالى (وَلَمَّا بَلَغَ أَشُدَّهُ وَاسْتَوَى) أي كمل ومنه قول الناس في لغتهم العامية استوى الطعام أي كمل نضجه والقسم الثاني أو الوجه الثاني أن يأتي مقرونا بواو المعية فيكون بمعنى التساوي كقولهم استوى الماء والخشبة أي تساويا والثالث يأتي معدا بحرف الجر فإن عدي بعلى صار معناه العلو والاستقرار وإن عدي فإلى فقد اختلف المفسرون فيه فمنهم من يقول إنه بمعنى الارتفاع والعلو ومنهم من يقول إنه بمعنى القصد والإرادة مثال معدى بعلى قوله تعالى (ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ) وقوله (الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى) وقوله بعد ذلك في سبعة مواضع في القرآن الكريم ومثال المعدى بإلى قوله تعالى) ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاءِ وَهِيَ دُخَانٌ) وقوله (هُوَ الَّذِي خَلَقَ لَكُمْ مَا فِي الْأَرْضِ جَمِيعاً ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاءِ فَسَوَّاهُنَّ سَبْعَ سَمَاوَاتٍ) ولذلك اختلف المفسرون في الاستواء استوى هنا فبعضهما قال معناها على إلى السماء ومنهم من قال بمعني معناها قصد وأراد وعلى كل فاستواء الله على العرش من الصفات الثابتة التي يجب على المؤمن أن يؤمن بها وهو أن الله تعالى استوى على عرشه أي علا عليه علوا خاصا ليس كعلوه على سائر المخلوقات بل هو علو خاص بالعرش كما قال تعالى (رَفِيعُ الدَّرَجَاتِ ذُو الْعَرْشِ) ولكن هذا الاستواء ليس معلوما لنا في كيفيته لأنه كيفيته لا يمكن الاحاطة بها ولم يخبرنا الله عنها ولا رسوله ولهذا لما سئل الإمام مالك رحمه الله عن قوله تعالى (الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى) كيف استوى فأطرق برأسه حتى علاه العرق ثم قال (الاستواء غير مجهول والكيف غير معقول والإيمان به واجب والسؤال عنه بدعة) ونحن نعلم معنى الاستواء ونؤمن به ونقره وهو أنه سبحانه وتعالى علا عرشه واستوى عليه علوا واستقرارا يليق به سبحانه وتعالى ولكننا لا نعلم كيفية هذا الاستواء فالواجب علينا أن نمسك عن الكيفية وأن نؤمن بالمعنى وأما قول من قال أن معنى استوى على العرش أي استولى عليه فهذا قول لا يصح وهو مخالف لما كان عليه السف ولما تدل عليه هذه الكلمة في اللغة العربية فلا يعوض عليه بل هو باطل ولو كان معنى استوى استولى للزم أن يكون الله تعالى مستولي على شئ لأنه سبحانه وتعالى مستولي على كل شئ وللزم أن يكون العرش قبل هذا ليس ملكا لله بل ملكا لغيره ثم استولى عليه من غيره وهذه معان باطلة لا تليق بالله سبحانه وتعالى.
ตอบ
คุณอะสันโปรดอ่านครับ แล้วนำมันมาวิจารณ์ให้ด้วยนะครับ และสิ่งที่คุณนำเสนอมานั้นผมจะวิจารณ์ให้ อิงชาอัลเลาะฮฺ
في كتاب درر الفرائد:
ومن نفس الباب قوله تعالى: " إن ربكم الله الذي خلق السموات والأرض في ستة أيام ثم استوى على العرش يغشي الليل النهار يطلبه حثيثا، والشمس والقمر والنجوم مسخرات بأمره، ألا له الخلق والأمر تبارك الله رب العالمين " فكل هذه الآية تأكيد لكمال تدبير الله تعالى للمخلوقات من العرش إلى الفرش .
وهذه الآية مقسمة إلى قسمين:
الأول بيان أن الله تعالى هو خالق الكون لا خالق له سواه.
والثاني بيان أن الله تعالى مدبر حكيم للمخلوقات لا يعزب عن علمه وتدبيره شيء كبر أو صغر.
ففي أول الآية يؤكد الله تعالى أنه خالق للسموات والأرض، ثم بعد ذلك لم يتركها بلا تدبير، بل قدرة الله تعالى ممسكة بكل ما في الكون على أحكم وجه .
وهذان المعنيان مذكوران على التفضيل في أول الآية ثم تكرر ذكرهما مرة أخرى على سبيل الإجمال ، وفي آخر الآية مدح لله تعالى بما يستحق.
وسنزيد هذا الكلام بيان ووضوحاً فيما يلي :
وسنعتمد في ذلك على تقسيم الآية وتدبرها والنظر فيها كلها من أولها إلى آخرها، لا كما يفعل المجسمة، كما سننبه إليه .
الآية تنقسم إلى :
كلام تفصيلي .
وكلام إجمالي .
وخاتمة مناسبة .
فأما القسم الأول وهو التفصيلي فيتألف من معنيين:
المعنى الأول: وهو تفصيل قوله تعالى: [إن ربكم الله خلق السموات والأرض في ستة أيام ]. وفيه بيان أن الله تعالى خالق للكون بما فيه.
المعنى الثاني وهو تفصيلي، قوله تعالى: [استوى على العرش يغشي الليل النهار يطلبُه حثيثاً، والشمس والقمر والنجوم مسخرات بأمره ] .
وفيه بيان أن الله هو المدبر لشؤون الكون، العالم بما فيه، الحكيم في أفعاله .
والربط بين المعنيين في هذا القسم التفصيلي هو حرف [ثم] الذي له هنا معنى الواو، فحرف ثم هنا لا يجوز أن يكون مفيداً للتراخي، لما يلزم عن ذلك من أن الله تعالى ترك الكون فترة غير مدبر أي بلا تدبير، وهذا باطل ومعنى فاسد وخلاف ما هو المقصود بيانه في هذه الآية، لذلك وجب حمل "ثم" هنا على المعنى الذي ذكرناه أي الترتيب بلا تعقيب، وسيأتي زيادة بيان لذلك .
أما القسم الثاني من هذه الآية، فهو الكلام الإجمالي العام وهو قوله تعالى: [ ألا له الخلق والأمر ] وفي الحقيقة فهذا الكلام ما هو إلا تأكيد لما سبق ذكره على سبيل التفصيل، ولذلك فهو يتألف من حيث المعنى من نفس المفردات والمعاني التي يتركب القسم الأول المذكور .
وبيان ذلك كما يلي:
ـ قوله تعالى [ألا] هو حرف تنبيه يراد به هنا التأكيد على المعنى اللاحق .
وهو يقابل قوله تعالى في أول الآية [إن] فهي كما هو معلوم حرف تأكيد .
ـ قوله تعالى: [ له الخلق ] فيه توكيد أن الخلق إنما هو لله تعالى وهو يقابل المعنى الأول من القسم الأول التفصيلي كما رأينا .
ـ قوله تعالىsleep والأمر ] فيه توكيد أن الأمر الذي يتضمن معنى العلم والتدبير التام إنما هو لله رب العالمين. وهو يقابل المعنى الثاني من القسم الأول التفصيلي كما رأينا .
ـ وأما حرف [ ثم ] المذكور في القسم الأول التفصيلي كرابط بين المعنى الأول منه والمعنى الثاني، والذي تكلمنا على معناه في هذا الموضع فيقابل حرف الواو المذكور في قوله تعالى [ألا له الخلق و الأمر] فحرف الواو هنا يربط بين جزأي المقسم الثاني الإجمالي، ويفيد أن الخلق مصاحب وغير متخلف مطلقاً عن الأمر الذي هو التدبير، وهذا فيه توكيد أن حرف "ثم" لا يجوز أن يكون معنا الترتيب مع التراخي كما قلنا، بل الترتيب بلا تعقيب .
وبهذا تكتمل هيكلية الآية الكريمة، وتزداد وضوحاً في أذهان القراء الكرام .
وأما القسم الثالث منها، فهو قوله تعالى: [تبارك الله رب العالمين ] وهي خاتمة مناسبة للمعاني المذكورة منها.
لأن الرب تتضمن معنى المدبر لشؤون الخلق العالم بأحوالهم، إذ لا تدبير بلا علم، وهو المربي لخلقه الدال على ما فيه خيرهم .
ومن كان كذلك استحق أن يكون مباركاً، ومعبوداً من المخلوقات إظهاراً منهم لشكره على ما أنعم به عليهم .
هذا هو المفهوم من الآية كما يفهمها العاقلون، وكل الآيات التي ورد فيها ذكر الاستواء تفهم بنفس الأسلوب المذكور .
ولو أردنا ذكر جميع أدلتنا على ما ذكرناه هنا في فهمنا لهذه الآية للزمنا إفراد كتاب خاص، والمجال لا يتسع ههنا لأكثر مما مضى .
والذي نريد التنبيه إليه هنا هو أن هذه الآية ومثيلاتها تتكلم عن أفعال الله وما يجب علينا تجاه الله تعالى تبعاً لما أنعم به علينا ولما أحاطنا به من نعمة لا تنكر .
وليس المراد هنا مطلقاً الكلام على الصفات الذاتية لله تعالى، لأن كل ما فيها إنما هو كلام عن أفعال الله تعالى التي اقتضتها صفاته الذاتية وليس الكلام عن صفاته الذاتية أصالة .
وبأسلوب آخر نقرر أن المراد من الآية إنما هو إثبات أحكام تصديقية تتعلق بالله تعالى، أي أنها تثبت أن الله تعالى هو خلق العالم، وهو يدبر ما فيه، فمع أن الآية بمضمونها لا تتكلم مطلقاً عن صفات ذاتية لله تعالى، كلاماً مقصوداً بالذات، وإن كان متضمناً، فإن الآيات التي قبلها والآيات التي وردت بعدها تتكلم لا عن الصفات الذاتية لله تعالى بل تتكلم عن وجوب طاعة البشر لله تعالى وعبادته لكونه مدبراً لشؤونهم خالقاً لهم ، وهو نفس معنى الآية محل الكلام، .
ولتحصيل هذا المعنى نذكر فيما يلي الآيات إلى سبقت آية الاستواء محل البحث .
فقد قال تعالى: " ونادى أصحاب النار أصحاب الجنة أن أفيضوا علينا من الماء أو مما رزقكم الله ، قالوا: إن الله حرمهما على الكافرين {50}الذين اتخذوا دينهم لهواً ولعباً وغرتهم الحياة الدنيا، فاليوم ننساهم كما نسوا لقاء يومهم هذا وما كانوا بآياتنا يجحدون{51}ولقد جئناهم بكتاب فصلناه على علم هدى ورحمة لقوم يؤمنون{52 } هل ينظرون إلا تأويله، يوم يأتي تأويله يقول الذين نسوه من قبل قد جاءت رسل ربنا بالحق فهل لنا من شفعاء فيشفعوا لنا أو نرد فنعمل غير الذي كنا نعمل، قد خسروا أنفسهم وضل عنهم ما كانوا يفترون{53}".
فهذه هي الآيات التي سبقت الآية المذكورة لا ترى فيها ذكراً لصفة من صفات الله الذاتية، ولكنك ترى فيها تحديداً لعلاقة البشر مع خالقهم، وتفهيمهم أن عليهم أن يعبدوه ويطيعوه فيما يأمر هم به ولا يخالفون أمره، لأنه هو الذي أنعم عليهم بنعمة الوجود.
وأما الآيات التي تلت هذه الآية، فهي تتكلم أيضاً عن نفس الموضوع كما ستراه .
قال الله تعالى: " ادعوا ربكم تضرعا وخفية إنه لا يحب المعتدين{55}ولا تفسدوا في الأرض بعد إصلاحها وادعوه خوفاً وطمعاً إن رحمة الله قريب من المحسنين{56} وهو الذي يرسل الرياح بشرا بين يدي رحمته حتى إذا أقلت سحاباً ثقالاً سقناه لبلد ميت فأنزلنا به الماء فأخرجنا به من كل الثمرات، كذلك نخرج الموتى لعلكم تذكرون{57}"
إلى آخر الآيات، التي مَن يفهمها يعلم أنّها لا علاقة لها بصفات ذاتيّة للّه تعالى، بل هي توضح للنّاس مدى فضل اللّه عليهم، بحيث يجب عليهم طاعته وعبادته .
والذي نريد قوله هنا، إنّ أصل وضع - أو اعتبار- هذه الآية من آيات الصّفات، أي من الآيات التي تتحدّث عن الصّفات الذّاتيّة للّه تعالى غير المتعدّية إلى الخلق بآثارها، هو اعتبار فاسد، وبالتّالي فمن اعتبرها كذلك، اعترف بأنّه لا يستطيع فهم حقيقة الصّفات –التي توهّم وجودها-، فلزمه القول بأنّ هذه الآية من المتشابهات التي يجب الإيمان بها والسّكوت عنها .
وهذا الاعتبار أي القول بأنّها من المتشابهات، ناتج أصلاً عن اعتبارها تتكلّم عن صفة ذاتيّة للّه تعالى، وفعل لا يتعدّى إلى خلقه، بل يلتزم ذاته تعالى، ولمّا لم يستطع فهم حقيقة وصفه بل – كيفيّة - هذا الفعل الذي زعمه، ادّعى أنّ هذه الآية من المتشابهات كما قلنا.
والحقّ الذي لا شكّ فيه أنّها من المحكمات التي لا يضطّرب المسلم العاقل في فهم المراد منها .
وتوضيح وتفصيل الكلام السّابق كما يلي:
ادّعى بعض النّاس أنّ قوله تعالى: ( استوى على العرش )، أي جلس عليه، واستقرّ وعلا عليه، وكان فوقه، إلى آخر ذلك من المعاني السّاقطة في حقّ اللّه تعالى .
ولم يتوهّم هؤلاء هذا المعنى للآية إلاّ لأنّهم أصلاً يعتقدون أنّ اللّه تعالى محدود من جميع الجهات، أي أنّ لذاته نهايات ومسافات وغايات ينتهي عندها وجوده تعالى اللّه عمّا يصفون .
وهم يعتقدون أنّ اللّه تعالى جسم له حيّز ومكان، وموجود في جهة من بقيّة الأجسام، ويمكن أن يلمس باقي الأجسام بيده التي هي عضو وأداة له من ذاته، كما يشكّل الصّانع إبريق الفخّار من الطّين ثمّ يعرضه للنّار كي يستوي.!!!!!
ويعتقدون أنّ اللّه - تعالى عن ذلك - له أعضاء هي الوجه والعين واليد والقدم والسّاق والأصابع وغير ذلك، وإنّ هذه الأعضاء تشغل ذواتها حيّزاً ومكاناً، لأنّها أجزاء وأبعاض للذّات الإلهيّة، وهم يقرّون أنّ للّه تعالى أجزاء، إلاّ أنّ الفرق بين أجزائه تعالى وأجزاء غيره، أنّ غيره يمكن أن تنفصل أجزاؤه عن بعضها البعض، وأجزاء اللّه وأعضاؤه لا يمكن حدوث ذلك لها .
وأثبتوا للّه تعالى جميع لوازم الأجسام المرئيّة من حركة وسكون، وارتفاع ونزول وغير ذلك، كلّ ذلك قالوه وذكروه في كتبهم، ويوجد فيها غير ذلك من المفاسد والقبائح أعرضنا هنا عن ذكرها بتفصيل لأنّ المقام لا يتّسع، وإن كنّا قد خصّصنا كتابا خاصّاً بذلك .
وهؤلاء هم المجسّمة الذين سبق أن أشرنا إليهم في أكثر من موضع من هذا الكتاب.
وهم عندما اعتقدوا بكلّ تلك المفاسد، وواجهتهم النّصوص التي تقطع بأنّ الباري تعالى ليس كمثله شيء، وأنّه تعالى لم يكن له كفوا أحد، وأنّه لا يشبهه شيء، وتواترت أقوال الأئمّة الكبار في تنزيه الباري عن كلّ ما ذكروه من قبائح، ولمّا وقعوا بين هذين الأمرين، حاولوا الخروج من هذا التّناقض، فلجأوا إلى قول غير مفهوم، ولا مقبول وازدادت خلافاتهم بعد ذلك فيما بينهم.
فقالوا مثلا في هذه الآية محلّ الكلام، الرّحمن على العرش استوى جلس، وكلّ جلوس له هيئة وكيفيّة، فادّعوا أنّهم علموا بنصّ الآية أصل الجلوس، ولم يعلموا كيفيّته ولا هيئته، واكتفوا بقولهم أنّ جلوس اللّه، تعالى عمّا يقولون، ليس كجلوس أحد من خلقه، فالملك يجلس على العرش بكيفيّة معيّنة، والفارس يجلس على ظهر حصانه بكيّفيّة أخرى، والصّبيّ يجلس على الأرض بكيّفيّة أخرى وهكذا، فكلّ واحد من النّاس له هيئة معيّنة عند جلوسه، وكذلك اللّه عندما جلس على العرش، كانت له كيفيّة خاصّة، وهذه الكيفيّة لا نعلمها، ولكنّها لا تشابه أيّ هيئة من الهيئات المعلومة، فقالوا: جلوس يليق به تعالى، جعلوا هذه العبارة تفسيراً لقوله تعالى: (استوى على العرش)، واتّخذوا هذا الفهم أصلا أصيلا من العقائد يكفّرون غيرهم، ويبدّعونهم، ويفسّقون بناء عليه، هم أحقّ بهذه الأسماء

_________________
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ Yahoo
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5 ... 28, 29, 30  ถัดไป
หน้า 4 จากทั้งหมด 30

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.19 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ