ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอยู่
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอยู่
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 15, 16, 17 ... 22, 23, 24  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
มุสลิม
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/06/2004
ตอบ: 79


ตอบตอบ: Thu Feb 03, 2005 4:18 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แม้จะชี้แจงยาวเหยียดแบบนี้แต่คนที่จะไม่เอา ก็จะไม่เอากันอยู่อย่างนั้นอยู่ดี ผมจึงไม่เห็นประโยชน์ใดๆในการโต้เถียงกันแล้วไปเอาประเด็นที่ไม่ใช่วิชาการมาโจมตีกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าหาเรื่อง ใส่ร้าย เกลียดชัง กล่าวหา สำหรับผมคงไม่ต้องมานั่งอธิบายหรอกครับ ว่าเจตนาผมเป็นเช่นไรเพราะยังไงก็ไม่เชื่อกัน و كفى بالله عليما وكفى بالله شهيدا พอแล้วที่อัลลอฮฺจะรู้

เราเป็นพี่น้องกันนะครับ ผมไม่รู้จะตอบอย่างไรถ้าอัลลอฮ และรอซูลถามเราว่า พวกเจ้าทะเลาะกันจะเป็นจะตายหาว่าให้คนนั้นคนนี้เข้ากะลีมะฮฺใหม่ ด่ากันว่าโง่หาว่าใส่ร้าย หาเรื่อง ยึดพวกพ้องมันเรื่องอะไรกัน? เราจะตอบกันว่า “เรื่องอะฮฺลุลกิตาบ”หรือครับ??? ถ้าจะบอกว่า ก็คุณเองนั่นแหละที่เข้ามาเปิดประเด็นเรื่องสุดท้ายนี้ ผมตอบได้ทันทีครับว่าผมชี้แจงประเด็นทางวิชาการ และพูดอย่างเป็นวิชาการไม่ได้เข้ามาเพื่อเจตนาอื่น แต่ผมก็ได้รับการตีความว่าผมกล่าวหา ใส่ร้าย หาเรื่อง ขออัลลอฮฺทรงเป็นพยานในสิ่งที่นี้ด้วย อัลลอฮฺตรัสว่า

وإذ أخذ الله ميثاق الذين أ وتوا الكتاب لتبيننه للناس ولا تكتمونه

อัลลอฮฺใช้ให้คนมีความรู้ชี้แจงให้ผู้คนได้รับฟังในเรื่องต่างๆห้ามปิดบัง เมื่อผมเห็นว่ามันไม่ใช่ผมก็ค้านไปเท่านั้นครับไม่มีอย่างอื่น แล้วที่พวกคุณยกมาว่าที่ผมพูดว่า “อ.ฟาริดเขาก็เป็นคน ถ้าผิดก็รับไปก็จบ”เป็นการไม่ให้เกียรตินั้นคุณคงเข้าใจคำว่าผิดเป็น “บาป”กระมัง ผมก็ตอบในครั้งนี้แล้วว่าเราตัดสินไปซะแล้วว่าสิ่งที่อ.ฟาริดพูดนั้นไม่มีพลาด(หรือผิดที่ผมใช้ในประโยคดังกล่าว) เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยไม่รับกัน ผมจึงบอกว่าผมไม่ได้จะเอาชนะ ผมชี้แจงของผมก็เท่านั้น เมื่อบอกว่าผมนอกประเด็นผมก็ถามคุณไปด้วยคำถามทั้งหมดเมื่อคุณไม่ตอบ ก็น่าจะจบแค่นั้นคุณก็พักประเด็นนี้ไป กระทั่งผมบอกว่าผมไม่คุยแล้วเท่านั้นก็เข้ามาใส่กันประเด็นเดิมกันยกใหญ่ ทั้งที่มันก็อยู่ในคำถามเก่าที่ยังไม่ตอบกันเลย

ผมคิดว่านี่ชัดเจนแล้ว ไม่ว่าคุณจะว่าไงอีกมันก็จะเข้าอยู่ในคำชี้แจงนี้อินชาอัลลอฮฺ กรุณาอ่านทุกตัวหลายๆรอบครับ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Fri Feb 04, 2005 2:19 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ก่อนที่คุณมุสลิมจะเข้ามาร่ายข้อความยาวๆ นี้ผมได้เคยรับคำท้าของคุณว่า คุณกล่าวหาและใส่ร้าย อ.ฟาริด ให้ยอมรับว่าผิดในสิ่งที่ท่านไม่ได้พูดถึง เมื่อผมนำข้อความมาแสดงคุณก็เงียบเฉย

แต่สองครั้งสองคราด้วยกันที่ผมปิดท้ายไว้ว่า

ท่านวะรอกอฺเป็นมุสลิม ซึ่งทั้งคุณและ อ.ฟาริด ก็เข้าใจตรงกัน

แต่อดีตของท่านเคยเชื่อเรื่องตรีเอกานุภาพมาก่อนที่จะเป็นมุสลิมหรือไม่ อันนี้ อ.ฟาริดไม่ได้กล่าวไว้ และผมก็ไม่เถียงเพราะไม่มีรายละเอียด แต่ถ้าคุณมุสลิมจะยืนยันก็ขอให้แสดงหลักฐานด้วย

หลักฐานนะครับ ไม่ใช่สันนิฐาน....ยังรออยู่

แต่ผมก็ต้องรอเก้ออีกแล้ว เพราะข้อความที่คุณร่ายยาวมานี้ไม่มีหลักฐานใดๆ เลย

ย้ำอีกทีนะครับ ข้อความของคุณไม่ใช่หลักฐาน แต่เป็นการสันนิฐาน และถ้าหากว่ามีหลักฐานขึ้นมาก็ยุ่งอีกแล้ว เพราะคุณมุสลิมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ นักประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้พูดชัดเจน และคุณก็ไม่ฟันธง แต่ที่ร่ายยาวมานี้จะเอาอะไร เพื่ออะไร เพราะอะไร แก้ต่างแทนใคร คงจะรู้ๆกันอยู่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Fri Feb 04, 2005 2:21 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณมุสลิมเข้ามาครั้งนี้นอกจากจะไม่มีหลักฐานใดๆมายืนยันแล้ว คุณยังพูดหน้าลืมหลัง เพราะคำของคุณแย้งกันเองซะอีกคือ

1. ใช่.. เพราะท่านวะรอกอฮฺจะเป็นมุสลิมไม่ได้เว้นแต่หลังนบีถูกแต่งตั้ง และศรัทธาในตัวท่าน เมื่อท่านยังไม่ถูกแต่งตั้งท่านวะรอกอฮฺก็ยังไม่ถือว่าเป็นมุสลิม

2 .ข้อนี้ชัดเจนสำหรับผู้ที่มีใจเป็นธรรมและมีความเชื่อที่ถูกต้องเว้นแต่จะอ้างว่า ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมตั้งแต่ก่อนท่านนบีถูกแต่งตั้ง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

แต่คุณมุสลิมคงลืมไปว่า คุณได้เคยกล่าวไว้ดังนี้

เป็นมติเอกฉันท์ว่าท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมศรัทธาต่อท่านรอซูล

คำพูดของคุณจะค้านกันเองไหมละ ในเมื่อท่านวะรอกอฮฺได้ตายไปก่อนที่นบีจะได้การแต่งตั้ง ท่านเป็นมุสลิมก่อนที่ท่านนะบีจะประกาศอิสลาม แล้วคุณยอมรับการเป็นมุสลิมของวะรอกอฮฺได้อย่างไร และยังได้เคยกล่าวไว้ว่าเป็นมติเอกฉันท์ซะอีก

หรือคุณจะเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า วะรอกอฮฺไม่ได้เป็นมุสลิม

หรือคุณจะกล่าวว่า วะรอกอฮฺเป็นมุสลิมหลังจากนะบีประกาศอิสลามแล้ว


ถ้าเช่นนั้นต้องเสนอหลักฐานหักล้าง หลักฐานของ อ.ฟาริด ที่คุณนพัฒน์ เสนอไว้ซิครับ ไม่ใช่ร่ายยาวเพื่อกลบเกลื่อนเช่นนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Fri Feb 04, 2005 2:24 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมก่อนที่นะบีจะประกาศอิสลามนั้น คุณนพัฒน์ได้เคยนำข้อความจากหนังสือของ อ.ฟาริดมาเสนอไว้แล้ว ผมขออนุญาติก๊อปมาให้ดูอีกครั้ง

เรื่องราวของท่านวะรอเกาะห์นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ท่านนบีจะประกาศอิสลามเพียงเล็กน้อย กล่าวคือ

“ เมื่อครั้งที่ท่านนบีได้พบกับญิบรีลที่ถ้ำฮิรออ์ ท่านได้กลับมาหาท่านหญิงคอดีญะห์ด้วยความตื่นตระหนก หนาวสั่น และหลังจากที่ท่านหญิงคอดิญะห์ได้หาผ้ามาห่มให้ท่านนบีแล้ว เธอก็ไปหาวะรอเกาะห์ อิบนุเนาว์ฟัล ซึ่งได้นับถือศาสนาของชาวนะศอรอ และได้อ่านคัมภีร์อัตเตารอตและอินญีล

ท่านหญิงคอดิญะห์ได้เล่าเรื่องราวให้วะรอเกาะห์ฟังตามที่เธอได้ทราบมาจากท่านนบี ว่าท่านได้ยินและได้เห็นญิบรีล เมื่อท่านวะรอเกาะห์ได้ฟังจบก็อุทานว่า บริสุทธิ์ ขอสาบานต่อผู้ซึ่งที่ตัวของวะรอเกาะห์อยู่ในอุ้งพระหัตของพระองค์ว่า คอดิญะห์เอ๋ย หากเธอเชื่อฉัน เทวทูตได้มาพบกับเขาจริงๆ เหมือนดังที่เคยมาพบกับมูซา เขาต้องเป็นนบีของประชาชาตินี้แน่นอน แล้วท่านหญิงคอดิญะห์ก็ได้กลับมาหาท่านนบีโดยเล่าเรื่องราวที่วะรอเกาะห์พูดให้ท่านนบีฟัง

หลังจากนั้นท่านนบีได้ไปที่กะอ์บะห์ดังที่เคยปฏิบัติเป็นกิจวัติ และได้พบกับวะรอเกาะห์ โดยเขากล่าวแก่นบีว่า โอ้หลานเอ๋ย เล่าเรื่องราวที่ท่านได้ยินและได้เห็นให้ฉันฟังหน่อยซิ หลังจากที่วะรอเกาะห์ได้ฟังเรื่องจากท่านนบีแล้วก็กล่าวว่า ขอสาบานต่อผู้ที่ตัวของวะรอเกาะห์อยู่ในอุ้งพระหัตของพระองค์ว่า ท่านคือนบีแห่งประชาชาตินี้ เทวทูตได้มาหาท่านเหมือนดังที่เคยมาหามูซาก่อนหน้านี้แล้ว และแน่นอนท่านจะถูกปฏิเสธ จะถูกทำร้าย จะถูกขับไล่ จะถูกลอบฆ่า หากฉันได้อยู่ทันถึงวันนั้นแล้ว ฉันจะสนับสนุน ช่วยเหลือท่าน แล้ววะรอเกาะห์ก็จูบท่านที่กลางกระหม่อมของท่านนบี” ซีเราะห์อิบนิฮิชาม เล่มที่ 1 หน้าที่ 238
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Fri Feb 04, 2005 2:28 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ต่อครับ

แต่ท่านวะรอเกาะห์ก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ทันที่ท่านนบีได้ประกาศอิสลาม เพราะท่านเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นเพียงเล็กน้อย ท่านหญิงอาอิชะห์ รายงานว่า

“ท่านรอซูลได้ถูกถามถึงวะรอเกาะห์ ซึ่งท่านหญิงคอดิญะห์ได้พูดถึงเขาว่า ได้ศรัทธาต่อท่านแต่เขาได้ตายไปก่อนที่ท่านจะประกาศอิสลาม ท่านรอซูลได้ตอบว่า ฉันเคยฝันเห็นเขาใส่ชุดขาว ถ้าหากว่าเขาเป็นชาวนรกก็จะไม่ใส่ชุดเช่นนั้น” บันทึกโดยสุนันอัตติรมีซีย์ ฮะดีษเลขที่ 2212

ฮะดีษบทนี้นักวิชาการฮะดีษได้ชี้สถานะว่าเป็นฮะดีษฏออีฟ เนื่องจากหนึ่งในผู้รายงานชื่อ อุสมาน อิบนุอับดิลเราะห์มาน เป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ กระนั้นก็ดี ยังมีรายงานบทอื่นที่กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกันคือ

“ท่านหญิงอาอิชะห์รายงานว่า ท่านหญิงคอดิญะห์ได้ถามท่านรอซูล ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เกี่ยวกับวะรอเกาะห์ อิบนุเนาฟัล ท่านได้ตอบว่า ฉันเคยฟันเห็นเขา ฉันเห็นเขาใส่ชุดขาว ซึ่งฉันเข้าใจว่า หากเขาเป็นชาวนรก เขาก็จะไม่ได้ใส่ชุดขาว” บันทึกโดยอิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 23231

ฮะดีษบทนี้แม้จะมีนักวิชาการบางท่านวิจารณ์หนึ่งในผู้รายงานที่ชื่ออิบนุละฮีอะห์ ว่าเป็นบุคคลไม่น่าวางใจ แต่ท่านอิหม่ามอะห์หมัดได้กล่าวว่า ท่านได้พินิจพิเคราะห์ตรวจสอบอย่างรอบคอบ และท่านได้รับฮะดีษบทนี้ในช่วงต้นๆ ในการรายงานของอิบนุละฮีอะห์ ซึ่งถ้าหากเป็นการรายงานในช่วงปลายก็ต้องละวาง

อย่างไรก็ตามเรื่องราวของท่านวะรอเกาะห์ผู้นี้เป็นที่กล่าวขานกันโดยทั่วไป จนกระทั่งนักวิชาการบางท่านได้จัดลำดับว่า ท่านเป็นชายคนแรกที่รับอิสลามกับท่านนบี แต่หลังจากที่ท่านนบีประกาศอิสลามแล้วชายคนแรกที่รับอิสลามคือท่านอบูบักร์ อัศศิดดีก

นอกจากนั้นเรื่องราวของท่านวะรอเกาะห์ ยังถูกกล่าวไว้ในบันทึกฮะดีษของท่านอิหม่ามบุคคอรี ซึ่งเป็นฮะดีษกล่าวรวมไว้ในเรื่องของการประทานวะฮีย์ และท่านอิบนุฮะญัร อัลอัสกอลานีย์ได้อธิบายไว้ยาวพอสมควร ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก หนังสือฟัตฮุ้ลบารีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 23-27


ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมก่อนที่ท่านนะบีจะประกาศอิสลามเขาพูดกันด้วยหลักฐาน คุณเองก็เคยยอมรับและกล่าวว่า

เป็นมติเอกฉันท์ว่าท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมศรัทธาต่อท่านรอซูล

แต่ถ้าคุณต้องการจะเปลี่ยนคำหรือต้องการจะแย้งก็ขอให้แสดงหลักฐาน แต่ผมว่าคุณแย้งในความคิด ความเข้าใจของคุณเองให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับมาใหม่

ด้วยหลักฐานนะคุณ ไม่ใช่สันนิฐาน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/06/2004
ตอบ: 79


ตอบตอบ: Tue Feb 08, 2005 1:33 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอ้าจะเปลี่ยนประเด็นแสดงว่าของเก่าเคลียร์นะครับ

ต่อไปนี้เป็นการเปลี่ยนประเด็น

ก่อนที่คุณมุสลิมจะเข้ามาร่ายข้อความยาวๆ นี้ผมได้เคยรับคำท้าของคุณว่า คุณกล่าวหาและใส่ร้าย อ.ฟาริด ให้ยอมรับว่าผิดในสิ่งที่ท่านไม่ได้พูดถึง เมื่อผมนำข้อความมาแสดงคุณก็เงียบเฉย

อ่านไม่หมดนี่ “สำหรับผมคงไม่ต้องมานั่งอธิบายหรอกครับ ว่าเจตนาผมเป็นเช่นไรเพราะยังไงก็ไม่เชื่อกัน و كفى بالله عليما وكفى بالله شهيدا พอแล้วที่อัลลอฮฺจะรู้”

แต่อดีตของท่านเคยเชื่อเรื่องตรีเอกานุภาพมาก่อนที่จะเป็นมุสลิมหรือไม่ อันนี้ อ.ฟาริดไม่ได้กล่าวไว้

หักล้างไปแล้ว

แต่ถ้าคุณมุสลิมจะยืนยันก็ขอให้แสดงหลักฐานด้วย
หลักฐานนะครับ ไม่ใช่สันนิฐาน....ยังรออยู่


ไม่เคยอ้างว่ามีหลักฐาน ไม่ต้องรอครับ ไม่เคยยืนยันฟันธงแต่ยังงงกับการฟันธงของ อ.อิสหาก และ อ.ฟาริดอยู่

ถ้าหากว่ามีหลักฐานขึ้นมาก็ยุ่งอีกแล้ว เพราะคุณมุสลิมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ นักประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้พูดชัดเจน และคุณก็ไม่ฟันธง

รู้นี่ครับ แล้วจะเอาอะไร

แต่ที่ร่ายยาวมานี้จะเอาอะไร เพื่ออะไร เพราะอะไร

“มาดูกันจะๆ ที่ผมพูดว่าคุณมุสลิมบิดเบือนประเด็นเป็นอย่างไร” “แต่ก่อนนั้นท่านจะเชื่ออย่างไรเขาไม่ได้พูด แม้กระทั่ง อ.อิสหากก็ไม่ได้พูดถึงเช่นเดียวกัน” “ท่านอาจารย์ฟารีดไม่รู้สถานภาพที่แท้จริงของท่านวะรอเกาะห์ เพราะไม่มีหลักฐาน” “เขายกหลักฐานไม่ถูกที่หรือว่าคุณกำลังเบี่ยงประเด็น นั่นแน่....ท่านอาจารย์....” “เขาพูดถึงอดีตของท่านวะรอกอฮฺก่อนจะเป็นมุสลิมกันหรือ นี่เขาเข้าใจผิดหรือว่าคุณทึกทักเอาเอง”ฯลฯ

แก้ต่างแทนใคร คงจะรู้ๆกันอยู่

เอ้าใครบอกหน่อยเร็ว

เพราะคำของคุณแย้งกันเองซะอีก...คำพูดของคุณจะค้านกันเองไหมละ

ไม่ครับ เพราะอะไร? เพราะ...(ดูประโยคต่อไป)

ในเมื่อท่านวะรอกอฮฺได้ตายไปก่อนที่นบีจะได้การแต่งตั้ง

เพราะประโยคนี้มันฟ้องว่าคุณไม่เข้าใจเลย

ท่านเป็นมุสลิมก่อนที่ท่านนะบีจะประกาศอิสลาม

กลับไปแยกแยะระหว่าง การแต่งตั้ง กับการประกาศก่อนดีกว่ามั้ยแล้วค่อยมาคุยกัน แล้วผมใช้คำว่าประกาศหรือแต่งตั้ง?

หรือคุณจะเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า วะรอกอฮฺไม่ได้เป็นมุสลิม
หรือคุณจะกล่าวว่า วะรอกอฮฺเป็นมุสลิมหลังจากนะบีประกาศอิสลามแล้ว
ถ้าเช่นนั้นต้องเสนอหลักฐานหักล้าง หลักฐานของ อ.ฟาริด ที่คุณนพัฒน์ เสนอไว้ซิครับ


ไม่ได้พูดทั้งสองอย่างครับ ไม่ต้องจับประเด็นใหม่มา

ไม่ใช่ร่ายยาวเพื่อกลบเกลื่อนเช่นนี้

แน่ใจหรือว่าเป็นผม

ผมบอกแล้วว่าพวกไม่เอาก็ไม่เอาอยู่นั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ ผมว่าพอดีกว่า

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Tue Feb 08, 2005 4:03 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นั่นนะซี่ ผมก็ว่าพอดีกว่า ไม่มีปะโยชน์อะไรที่จะใช้เหตุผลหว่านล้อมตัดสินผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน

และคุณเองก็กล่าวว่า

“ไม่เคยอ้างว่ามีหลักฐาน ไม่ต้องรอครับ ไม่เคยยืนยันฟันธงแต่ยังงงกับการฟันธงของ อ.อิสหาก และ อ.ฟาริดอยู่”

ไม่ใช่คุณเท่านั้นที่งงกับการฟันธงของ อ.อิสหาก ที่ว่าท่านวะรอกอฮฺยึดตรีเอกานุภาพ ผมก็งงเช่นเดียวกันเพราะไม่มีหลักฐานใดๆอ้างอิงเหมือนอย่างคุณว่านั่นแหละ

แต่ผมไม่งงกับการฟันธงของ อ.ฟาริด ที่บอกว่า ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิม เพราะท่านนำเสนอด้วยหลักฐาน

ฉะนั้นที่คุยกับคุณมาหลายครั้งไม่ใช่ผมไม่ตอบคำถาม แต่ผมไม่เล่นตามเกมส์ของคุณต่างหาก เพราะผมมั่นใจในหลักฐานมากกว่าเหตุผล และการใช้เหตุผลแบบจับแพะชนแกะตัดสินผู้อื่นเช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดผลดีอะไรเลย

ขออนุญาติคุณมุสลิมด้วยการเอาคำพูดของคุณมาปิดท้ายนะครับ

“หากใครแก้ปมต่างๆนี้ได้ก็อาจฟันธงได้เลยว่าท่านวะรอกอฮฺยึดตรีเอกานุภาพหรือไม่?
แต่หากแก้ไม่ได้ ก็ไม่ควรฟันธง น่าจะนิ่งเสียดีกว่า”


เชิญคุณนพัฒน์ต่อได้เลยครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
natee
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 108


ตอบตอบ: Thu Feb 10, 2005 11:26 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam สงสัยจังกับประเด็นที่คุณมุสลิมกล่าวไว้ว่า

"ให้กลับไปแยกแยะระหว่าง การแต่งตั้ง กับการประกาศก่อนดีกว่ามั้ยแล้วค่อยมาคุยกัน แล้วผมใช้คำว่าประกาศหรือแต่งตั้ง?"

ในเมื่อคุณนำข้อความของท่านอาจารย์ฟารีดที่ ท่านใช้คำว่า "ประกาศ" มาเรียบเรียงเกี่ยวโยงเป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องที่คุณใช้คำว่า "แต่งตั้ง" แล้วมันจะต่างกันตรงไหนคะ
แต่พอคุณ ali นำหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมก่อนที่ท่านนบีจะประกาศอิสลาม ซึ่งไม่ตรงกับความคิดของคุณมุสลิม ก็เลยเฉไฉให้ดูว่า “ประกาศ” กับ “แต่งตั้ง” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

ก็คงเป็นเจตนาเดียวกับการเข้ามาในกระทู้นี้ของคุณมุสลิมตั้งแต่แรกแล้วละค่ะ

เราเสียเวลากับคุณมุสลิมไปมาก โดยที่ไม่ได้สาระแก่นสารอะไรที่เป็นความรู้ที่เชื่อถือได้ เป็นเพียงการเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของผู้ที่ได้กล่าวสิ่งไม่ดีกับผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานนั่นเอง

อยากให้คุณนพัฒน์มานำเสนอวิชาการต่อดีกว่านะคะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/06/2004
ตอบ: 79


ตอบตอบ: Sun Feb 13, 2005 2:56 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

แต่ผมไม่งงกับการฟันธงของ อ.ฟาริด ที่บอกว่า ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิม เพราะท่านนำเสนอด้วยหลักฐาน

ไม่รู้จะพูดครับ... ถ้าคุณไม่ชอบว่าคนอื่นเขาเบี่ยงเบนประเด็นผมคงไม่รู้สึกเเย่กับคุณแบบนี้

แต่พอคุณ ali นำหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า ท่านวะรอกอฮฺเป็นมุสลิมก่อนที่ท่านนบีจะประกาศอิสลาม ซึ่งไม่ตรงกับความคิดของคุณมุสลิม ก็เลยเฉไฉให้ดูว่า “ประกาศ” กับ “แต่งตั้ง” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

ผมชอบคุณนทีอธิบายในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จังครับ เพราะมีเหตุผลเสร็จสรรพราวกับเป็นเรื่องจริง เหมือนที่บอกว่า "อ.ฟาริดไม่ได้พูดถึงวะรอกอฮฺก่อนเป็นมุสลิมเพราะไม่มีหลักฐาน"
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุสลิม
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/06/2004
ตอบ: 79


ตอบตอบ: Sun Feb 13, 2005 3:04 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมเอามาให้เห็นครับว่าคนเดี๋ยวนี้เป็นกันยังไง

เชิญคุณนพัฒน์ครับ ผมอาจมีคำถามในประเด็นต่อๆไปอีก

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
subeer
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Dec 24, 2004
ตอบ: 7


ตอบตอบ: Mon Feb 14, 2005 3:58 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam เสียเวลา เปลืองหน้ากระดาษ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
natee
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 108


ตอบตอบ: Tue Feb 15, 2005 10:15 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam ดิฉันไม่ใช่โต๊ะครู เป็นเพียงผู้อาศัยความรู้จากโต๊ะครู พื้นฐานเดิมเชื่อว่าสิ่งที่โต๊ะครูพูดคือความจริง ไม่ใช่เรื่องโกหกหมกเม็ดอะไร สิ่งที่ดิฉันได้อธิบายไป ก็นำมาจากความเข้าใจในสิ่งที่คุณมุสลิมซึ่งคงเป็นหนึ่งในโต๊ะครูผู้มากด้วยความรู้เป็นยิ่งนัก คุณมุสลิมเขียนไว้เป็นตัวหนังสืออย่างไร ดิฉันอ่านแล้วก็เข้าใจตามตัวหนังสือของคุณเท่านั้นแหละค่ะ ส่วนเจตนาความตั้งใจของคุณจะให้เป็นอย่างไรนั้น ดิฉันไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ คุณไม่ประสงค์ดีต่อท่านอาจารย์ผู้เป็นที่รักของพวกเราชาวอนุรักษ์ฯ ก็ขอให้คุณยุติได้แล้ว พวกเราเสียเวลาในการที่จะได้เรียนรู้วิชาการดีๆ จากกระทู้นี้ไปมากแล้วค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
นพัฒน์
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 86


ตอบตอบ: Wed Feb 16, 2005 1:23 am    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณที่ให้เกียรติ แต่การนำเสนอของผมเว้นช่วงมานาน คงต้องเริ่มต้นสานใหม่

เอาอย่างนี้ไหมครับ...ไหนๆก็ย้อนความกันมาหลายหน้าแล้ว

ถ้าจะเคลียร์เรื่องเก่าๆที่นำเสนอกันไว้ให้หมดก่อนจะดีไหม จะได้ไม่ต้องย้อนความกันอีก

เช่นเรื่อง “คัมภีร์เปลี่ยนหมดแล้ว” หรือ “เปลี่ยนเพียงบางส่วน”

คุณ natee คุณ ali คุณมุสลิม และท่านอื่นๆเห็นควรอย่างไรครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
natee
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 108


ตอบตอบ: Thu Feb 17, 2005 1:04 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
ดิฉันก็คงจะแล้วแต่คุณนพัฒน์จะเห็นสมควรล่ะค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nop
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/02/2005
ตอบ: 89


ตอบตอบ: Wed Feb 23, 2005 11:54 pm    ชื่อกระทู้: Re: อะหลุลกิตาบไม่ใช่ยะฮูดี-นัสรอนีที่กำลังไล่ฆ่ามุสลิมเราอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขออนุญาตนำเสนอข้อความที่ผมเคยโพสต์ไว้ใน mureed.com
ซึ่งถ้าใครจะเห็นต่างไปจากนี้ก็ไม่เป็นไร ไม่เสียหาย

แต่รับไว้พิจารณาว่าอันไหนมันชัดกว่า


ไหนๆก็พูดเรื่องคริสต์ ก็ชี้แจงซะเลยว่า
ใครที่บอกว่าแต่งงานกับคริสต์ไม่ได้อันเนื่องจาก"คริสต์เปลี่ยนไป" อันนี้ขอค้าน!!
เนื่องจากมุสลิมยุคนี้มีการศึกษาศาสนาอื่นกันมากขึ้น พุทธ คริสต์ และอื่นๆเนี่ยพวกเราเริ่มรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว
ผมก็เช่นกันที่มีข้อมูลของคริสต์พอสมควร

ครั้งนึง ที่สวนหลวง(อีกแล้ว) มีการถกประเด็น ว่าแต่งงานกับคริสต์ได้หรือไม่
ก็มีสองฝ่าย
แต่ผมเห็นด้วยกับทัศนะที่ว่าแต่งได้..

ฝ่ายที่บอกว่าแต่งไม่ได้เนื่องจากคริสต์ยุคนี้กับยุคก่อนมันคนละคริสต์
ไม่ใช่เลยครับ (บอกแล้วว่าให้รู้จักคริสต์ก่อนค่อยฟัตวา)
จะบอกให้ว่าคริสต์ยุคนี้กับคริสต์ยุคนบีมุฮัมมัด คือคริสต์เดียวกันเลยครับ เป็นคริสต์ที่ตั้งภาคี เป็นคริสต์ที่เชื่อว่านบีอีซาเป็นพระเจ้า
กุรอานพูดถึงเรื่องนี้ และโต้แย้งเรื่องนี้ไว้เยอะเลยใช่มั๊ยครับ
เพราะฉะนั้นอะหฺลุลกิตาบก็ชื่อจำเพาะที่เรียกยิวและคริสต์(2 ศาสนาเท่า่นั้น) ซึ่งก็ถูกเรียกในสมัยนั้นด้วย แสดงว่าอะหฺลุลกิตาบสมัยนั้นก็มีพวกตั้งภาคีอยู่แล้วคือพวกคริสต์
ดังนั้นในเมื่อกุรอานอนุญาตให้แต่งงานกับหญิงอะหฺลุลกิตาบ ก็คืออนุญาตให้แต่งงานกับหญิงคริสต์ด้วย

ทีนี้ในเมื่อคริสต์ยุคนี้กับคริสต์ยุค1400 ก่อน(สมัยนบีมุฮัมมัด) ก็ตั้งภาคีเหมือนกัน
มันก็มีคิลาฟว่า แล้วตกลงแต่งได้หรือไม่
1. ทัศนะว่าแต่งไม่ได้อ้างอายะฮฺ (2:221) "และพวกเจ้าจงอย่าแต่งงานกับหญิงมุชริก" อนุญาตให้แต่งกับคริสต์ได้จริง แต่มีข้อยกเว้นคือต้องเป็นคริสต์ที่ไม่ตั้งภาคี
2. ทัศนะว่าแต่งได้ อาจารย์อิสหาก พงษ์มณีอธิบายอายะฮฺ (2:221) นี้ว่า คำว่า "มุชริก" ในที่นี้เป็นศัพท์จำเพาะ ยะฺฮูดีถ้าตั้งภาคีไม่เรียกมุชริก นัศรอนีที่ตั้งภาคีไม่เรียกมุชริก แต่มุชริกคือศาสนาอื่นๆที่ไม่ได้ถูกระบุชื่อเฉพาะ คือจะเป็นฮินดู พุทธและพวกบูชาเจว็ดอื่นๆ
ในกุรอานอัลลอฮฺจะเรียกชื่อยะฮูดี นัศรอนี และมุชริกแยกกัน ทั้งๆที่นัศรอนีสมัยนั้นก็ตั้งภาคี แต่ไม่เหมารวมว่าเป็นพวกมุชริก
เพราะฉะนั้นจึงแต่งงานกับคริสต์ได้ เพราะคริสต์ไม่ใช่พวกมุชริก

ผมเห็นด้วยกับทัศนะที่ 2
แต่สำหรับทัศนะที่ 1 ผมไม่ว่าถ้าอ้างเหตุผลว่ามุชริกคือผู้ตั้งภาคีโดยทั่วไป
แต่ถ้ามาบอกว่าคริสต์ยุคนี้กับยุคก่อนไม่เหมือนกันอันนี้ผมขอค้านว่าไม่จริง
จะมีก็เรื่องการปฏิบัติปลีกย่อย เช่นการคิดพิธีกรรมบิดอะฮฺขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ อันนี้มีแน่นอน การยกเลิกหุกุ่มพันธสัญญาเก่า(เช่นขลิบ,หมูและสัตว์บางประเภท) อันนี้มีแ่น่นอน
แต่ผมเข้าใจหิกมะฮฺตรงนี้ว่า อัลลอฮฺทรงรู้อยู่แล้วล่ะว่า อะหฺลุลกิตาบยุคไหนมันเป็นอย่างไร
แต่อัลลอฮฺสั่งมาแบบนี้ อัลลอฮฺบอกว่ามันฮาลาลมันก็ฮาลาลตลอด ถ้าหะรอมมันก็หะรอมตลอด
ไม่ใช่ว่าหมูยุคนู้นหะรอม ยุคต่อไปหะรอม อันนี้ไม่มี ค้าขายฮาลาล แต่ต่อไปหะรอม อันนี้ไม่จริงแน่
อัลลอฮฺทรงรอบครอบ(ว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป) และเป็นข้อชี้ขาดดีอยู่แล้วว่าอัลลอฮฺทรงอนุมัติ

เพราะฉะนั้นสรุปคือ สำหรับคนที่ถือทัศนะว่าแต่งได้ทุกกรณี ก็ไม่มีปัญหา คุณสามารถแต่งกับนิกายไหนก็ได้ที่เค้าเรียกว่าคริสต์ มีอัลลอฮฺ มีนบีอีซา มีคัมภีร์ไบเบิ้ล
เพียงแต่ว่าไม่เหมาะสม เพราะการเลือกคู่ครองต้องดูที่ศาสนาก่อน ดูอมานก่อน แต่ถ้าอยู่ภาวะที่ไม่มีมุสลิมให้เลือก มีแต่สตรีคริสต์ก็แต่งได้เลย
แต่ถ้าบอกว่า อาหารของเค้าเราร่วมไม่ได้
ถ้าอ้างเช่นนี้ จะแต่งได้กับบางนิกายเช่น
เซเว่นเดย์ แอดเวนติสต์ ซึ่งยึดถือหุกุ่มพันธสัญญาเ่ก่า ไม่กินเนื้อหมู ไม่กินสัตว์ที่ไม่เคี้ยวเื้อื้อง ไม่กินเหล้าองุ่น(ก็เหล้าน่ะครับ) และอาหารอื่นๆบางประเภท

ส่วนคนที่ถือทัศนะว่าแต่งได้แต่เฉพาะคริสต์ที่ไม่ตั้งภาคี อย่าพูดว่าเดี๋ยวนี้จึงไม่มีคริสต์แบบนั้นแล้ว
มีครับ! จริงๆแล้วมันมีอยู่
เช่น กลุ่มลัทธิพยานพระยะโฮวาห์ กลุี่มนี้ประกาศว่า ระบบตรีเอกานุภาพ(พระเจ้าหนึ่งในสาม)ไม่มีในศาสนาคริสต์ ไม่มีในคัมภีร์ไบเบิ้ล

ตัวอย่างความเชื่อคร่าวๆ ข้อมูลของลัทธินี้

> ไม่เคารพเจว็ด "พระยะโฮวาตรัสว่าเราต้องนมัสการพระองค์ผู้เดียว. พระองค์จะไม่ทรงให้สง่าราศีของพระองค์ไม่ว่าแก่ผู้ใดหรือสิ่งใด. รูปปั้นต่างๆ ไม่มีอำนาจใดเลยที่จะช่วยเรา.—บทเพลงสรรเสริญ 115:4-8; ยะซายา 42:8."

> พระเยซูเป็นมนุษย์สมบูรณ์เหมือนอาดาม. แต่ที่ไม่เหมือนอาดามคือ พระเยซูทรงเชื่อฟังพระเจ้าอย่างครบถ้วนแม้ภายใต้การทดลองหนักที่สุด. ฉะนั้น พระองค์จึงทรงสามารถถวายชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์เป็นเครื่องบูชาเพื่อชดใช้ความบาปของอาดาม. นี่คือสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงว่าเป็น “ค่าไถ่.” ด้วยเหตุนี้ ลูกหลานของอาดามจึงอาจได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากการปรับโทษถึงความตายได้. ทุกคนที่แสดงความเชื่อในพระเยซูสามารถรับการอภัยบาปและได้รับชีวิตนิรันดร.—1 ติโมเธียว 2:5, 6; โยฮัน 3:16; โรม 5:18, 19.

> พระเยซูสิ้นพระชนม์และได้รับการปลุกให้คืนพระชนม์เป็นกายวิญญาณโดยพระเจ้า และพระองค์เสด็จกลับสู่สวรรค์. (1 เปโตร 3:18) นับแต่นั้น พระเจ้าทรงตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์. ในไม่ช้า พระเยซูจะทรงกําจัดความชั่วช้าและความทุกข์ทั้งปวงจากแผ่นดินโลกนี้.—บทเพลงสรรเสริญ 37:9-11; สุภาษิต 2:21, 22.

> พระยะโฮวาเป็นตรีเอกานุภาพไหม—สามบุคคลในพระเจ้าองค์เดียว? เปล่า! พระยะโฮวา พระบิดา ทรงเป็น “พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว.” (โยฮัน 17:3; มาระโก 12:29)

> คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ว่า หลังจากพวกอัครสาวกสิ้นชีวิต คำสอนผิดๆ และกิจปฏิบัติที่ไม่ใช่แบบคริสเตียนจะค่อยๆ เข้ามาในประชาคมคริสเตียน. จะมีคนชักชวนผู้เชื่อถือให้ติดตามเขาแทนที่จะติดตามพระคริสต์. (มัดธาย 7:15, 21-23; กิจการ 20:29, 30) นั่นคือเหตุที่เราเห็นศาสนาต่างๆกันมากมายอ้างว่าเป็นคริสเตียน

>พระเยซูไม่ได้ประสูติในวันที่ 25 ธันวาคม. พระองค์ทรงประสูติราววันที่ 1 ตุลาคม ช่วงเวลาหนึ่งของปีซึ่งเป็นตอนที่คนเลี้ยงแกะให้ฝูงแกะของตนอยู่กลางแจ้งในตอนกลางคืน. (ลูกา 2:8-12) พระเยซูไม่เคยบัญชาคริสเตียนให้ฉลองการประสูติของพระองค์. แต่พระองค์ทรงบอกเหล่าสาวกของพระองค์ให้ทำเป็นอนุสรณ์ หรือทำการรำลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์. (ลูกา 22:19, 20) วันคริสต์มาสกับประเพณีคริสต์มาสมาจากศาสนาเท็จสมัยโบราณ. ประเพณีอีสเตอร์ก็เหมือนกัน เช่น การใช้ไข่และกระต่าย. คริสเตียนรุ่นแรกไม่ฉลองวันคริสต์มาสหรือวันอีสเตอร์ และคริสเตียนแท้ในทุกวันนี้ก็ไม่ฉลองเช่นกัน

> การฉลองวันเกิดเพียงสองครั้งที่มีกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลนั้นจัดขึ้นโดยคนที่ไม่นมัสการพระยะโฮวา. (เยเนซิศ 40:20-22; มาระโก 6:21, 22, 24-27) คริสเตียนรุ่นแรกไม่ฉลองวันเกิด. ประเพณีฉลองวันเกิดมาจากศาสนาเท็จสมัยโบราณ. คริสเตียนแท้ให้ของขวัญและมีเวลาสนุกด้วยกันในเวลาอื่นระหว่างปี

> คนตายทำหรือรู้สึกอะไรไม่ได้. เราไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้ และเขาก็ทำร้ายเราไม่ได้. (บทเพลงสรรเสริญ 146:4; ท่านผู้ประกาศ 9:5, 10) จิตวิญญาณตาย; จิตวิญญาณไม่มีชีวิตต่อไปหลังความตาย. (ยะเอศเคล 18:4) แต่บางครั้ง พวกทูตสวรรค์ชั่วที่เรียกว่าผีปิศาจปลอมตัวเป็นวิญญาณคนตาย. ประเพณีใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความกลัวหรือการบูชาคนตายนั้นผิด.—ยะซายา 8:19.

> เครื่องหมายอีกอย่างหนึ่งของศาสนาแท้คือ สมาชิกของศาสนาแท้มีความนับถืออย่างลึกซึ้งต่อคัมภีร์ไบเบิล. พวกเขายอมรับว่า คัมภีร์ไบเบิลเป็นพระคําของพระเจ้าและเชื่อสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าว. (โยฮัน 17:17; 2 ติโมเธียว 3:16, 17) พวกเขาปฏิบัติต่อพระคําของพระเจ้าในฐานะเป็นสิ่งที่มีความสําคัญยิ่งกว่าความคิดหรือประเพณีของมนุษย์. (มัดธาย 15:1-3, 7-9) พวกเขาพยายามจะดำเนินชีวิตประจำวันของเขาตามคัมภีร์ไบเบิล. ดังนั้น พวกเขาไม่สอนอย่างหนึ่งแล้วปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง.—ติโต 1:15, 16.

มีการบิดเบือนนิดหน่อยจากศาสนาของอัลลอฮฺ อันเนื่องจากคัมภรี์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยการบันทึกและแปลต่อๆกันมาครับ
แต่โครงสร้างเดิมๆเลย
อย่างนี้ พอจะแต่งงานได้มั๊ยครับท่าน?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 15, 16, 17 ... 22, 23, 24  ถัดไป
หน้า 16 จากทั้งหมด 24

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.09 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ