ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - ปัญหาในการเข้ารับอิสลาม ด่วน
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
ปัญหาในการเข้ารับอิสลาม ด่วน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
nan
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 19/07/2011
ตอบ: 4


ตอบตอบ: Thu Aug 18, 2011 11:10 pm    ชื่อกระทู้: ปัญหาในการเข้ารับอิสลาม ด่วน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อยากทราบว่าเกิดในครอบครัวคนจีน นับถือเจ้าแม่กวนอิมมาตลอด ซึ่งหลักการต่างๆล้วนต่าง

จากอิสลามโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เข้ารับอิสลามแล้วหลังจากที่ศึกษามาเกือบ2ปี พอกลับบ้านใส่ฮิญาบ

กลับบ้านพ่อแม่รับไม่ได้ ด่าว่าเป็นคนอกตัญญู เกิดมาเป็นพุทธดีๆไม่ชอบโง่มาเข้าอิสลาม พ่อแม่

ด่าว่าอกตัญญู ทำให้พ่อแม่เสียใจก็ทำอะไรไม่ขึ้นหรอก แบบนี้จะบาปไหม พ่อแม่ยื่นคำขาดตัดแม่

แม่ตัดลูกอย่างนี้จะทำยังไงดี ถ้ายอมให้ตัดพระอัลลอฮฺจะลงโทษเราไหม แล้วต้องทำยังไงดีสับสน

มากมาย ตั้งแต่เข้าศาสนาอิสลามมาก็ละหมาด 5 เวลา และละหมาดสุนัตอื่นๆอี ก ถือศีลอด

ข้าพเจ้าศรัทธาในพระอัลลอฮฺมาก ขอพรทุกวันให้พ่อแม่เปลี่ยนใจ แต่เรื่องราวก็ยิ่งเลวร้ายขึ้น

ตอนนี้กลัวบาปมากเลยที่ทำให้พ่อแม่ร้องให้ในเรื่องที่เข้าอิสลาม โดนด่าไม่มีชิ้นดีเลย

ขอคำชี้แนะจากผู้มีความรู้ด้วย ว่าจะต้องทำยังไงดี
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ชาริค
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/04/2007
ตอบ: 276


ตอบตอบ: Fri Aug 19, 2011 3:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัลลอฮต้องสำคัญกว่าพ่อแม่ อดทนเอาหน่อยไม่ผิดหรอกครับ แต่อย่าไปโกรธท่านทั้งสองก็แล้วกัน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Mon Aug 22, 2011 1:34 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ชีวิตของคุณ คล้ายกับนบีอิบรอฮีม คือมีความรักต่อพ่อแม่มาก แต่ศรัทธาต่ออัลลอฮเท่านั้น

http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=10&id=729

http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=10&id=730


ท่านนบีอิบรอฮีมถือกำเนิดในยุคบาบิโลน สังคมทั้งหมดกราบไหว้รูปปั้น
พ่อนบีอิบรอฮีมเป็นช่างปั้นเทวรูปขาย โดยผู้คนจะซื้อไปเคารพ
ตลอดเวลาที่อยู่กับพ่อ แม้จะรังเกียจในอาชีพที่พ่อเป็นคนทำ คือปั้นเจว็ดขาย
แต่ท่านนบีอิบรอฮีม ไม่เคยโกรธ แต่กลับสุภาพกับพ่อเสมอ และพยายามแนะนำพ่อสู่อิสลาม
สุดท้ายท่านต้องระเหเร่รอนออกจากเมืองเพราะจะถูกเอาชีวิต

สุขภาพของพ่อและแม่ คือสิ่งที่ท่านต้องดูแล
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Thu Aug 25, 2011 1:43 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Exclamation ครับ

ผมได้ก้อปมาจากเวปนึง แต่เนื่องจากลิงค์เสียไปแล้ว เลยก้อปมาทั้งดุ้นเลยครับ
ลองศึกษาประวัติของท่าน มุศอับ อิบนุอุไมรนะครับ ท่านเป็นศอฮาบะห์คนหนุ่มของนบี
ความรักที่มีต่อแม่ และ ความรักที่มีให้ต่ออัลลอฮนั้น ไม่ได้ทำให้สิ่งใดสิ่งนึงเสียไป
แม้แม่จะอดอาหารให้เลิกจากศาสนา แต่ท่านก็ยังคงทำดีต่อแม่ แต่ในขณะเดียวกัน
สิ่งที่ขัดต่ออิสลาม ท่านก็มีจุดยืนชัดเจน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Thu Aug 25, 2011 1:43 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้ให้เกรียติแก่ มุศอับ อิบนุ อุไมร ด้วยการเลือกเขาให้เป็นนักเผยแพร่ศาสนาคนแรกของอิสลาม และเป็นการเหมาะสมแล้วในการตัดสินใจของท่านเราะซูล เพื่อให้เขาทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่และสำคัญในอิสลาม และเพราะเขาได้เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ (อันเนื่องมาจากในอดีตขณะที่ยังเป็นวัยรุ่นชาวกุเรช เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างสวยงาม จนได้รับขนานนามว่า "เด็กหนุ่มเนื้อหอมของชาวมักกะฮ์") เขาได้เสียสละทุกสิ่งที่เขาได้รับจากการมีชีวิตอย่างสุขสบายและสนุกสนานตลอดจนสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาพึงจะได้รับ ทั้งนี้เพื่อปรับเปลี่ยนมาสู่การใช้ชีวิตแบบง่ายๆที่มีแสงสว่างความบริสุทธิ์และความโปร่งใสและพื่อจะได้อยู่อย่างใกล้ชิดกับอัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ โลกดุนยาที่เป็นแหล่งรวมของความสวยงาม ความสนุกสนาน และความเพลิดเพลิน ได้เปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่าอะไรเลย แม้กระทั่งปีกของริ้น

มุศอับ อิบนุ อุไมร เป็นเด็กหนุ่มที่ได้รับการเอาใจใส่และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากบิดามารดาของเขา ผิดไปจากเด็กหนุ่มชาวมักกะฮ์ทั้งหลาย ดังนั้น เพื่อนๆของเขาจึงพากันมารุมล้อมและให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเขา

เด็กหนุ่มชาวมักกะฮ์ผู้นี้ ซึ่งเป็นที่รักใคร่ชอบพอของบรรดาเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่ว่าเขาจะก้าวเท้าไปพบปะสนทนากับเพื่อนฝูง ณ แห่งหนใด เขาจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่แล้วจะเป็นไปได้หรือที่เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลับกลายมาเป็นเรื่องที่มีการกล่าวขวัญถึงการศรัทธาและการเสียสละของเขา

มันเป็นข่าวที่น่ายินดีเสียนี่กระไร ! ข่าวของมุศอับ อิบนุ อุไมร หรือ มุศอับแห่งความดี ดังเช่นที่บรรดามุสลิมีนได้ขนานนามให้แก่เขา !! เขาเป็นคนหนึ่งจากบรรดาบุคคลเหล่านั้นที่อิสลามได้หล่อหลอมและปลุกปั้นเขาขึ้นมา และท่านนะบีก็ได้เลี้ยงดูเขาจนกลายเป็นสาวกชั้นนำ และผู้ใกล้ชิดกับท่านนะบี แต่ ! เขาจะเป็นเพียงคนหนึ่งในบรรดาบุคคลธรรมดาในยุคแรกของอิสลามกระนั้นหรือ ?

หามิได้ ! เพราะชีวะประวัติของเขา แน่นอนมันจะเป็นเกรียติประวัติของมวลมนุษย์ทั้งหลายในเวลาต่อมา

วันหนึ่ง เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ยินเสียงเล่าลือเช่นเดียวกับชาวมักกะฮ์ ที่ได้แพร่ข่าวกันมากถึงเรื่องของ "มุฮัมมัด ผู้ซื่อสัตย์"

มุฮัมมัด ผู้ซึ่งกล่าวว่า "แท้จริง อัลลอฮ์ได้ส่งฉันมาเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดี และข่าวร้ายแก่มวลมนุษย์ทั้งปวง และเป็นผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงเอกะ"

ในขณะที่เมืองมักกะฮ์ทุกเวลาเช้าและเวลาเย็นไม่มีความวิตกกังวลใดๆ และไม่มีการกล่าวขวัญใดๆ นอกจากเรื่องของท่านเราะซูล และเรื่องของศาสนาใหม่ ปรากฏว่าชายหนุ่มเนื้อหอมผู้นี้ เป็นผู้ให้ความสนใจเป็นพิเศษมากกว่าใครอื่น และได้นำเอาเรื่องนี้มาครุ่นคิดพิจารณาอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเขาอายุยังน้อยอยู่ แต่ปรากฏว่า ในการชุมนุมทุกครั้ง ในที่ชุมนุมจะต้องมีมุศอับ รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้เนื่องด้วยการมีรูปร่างสง่างาม สติปัญญาที่เฉลียวฉลาดและไหวพริบดี ภาพลักษณ์ดังกล่าวทั้งสองนั้นเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของ มุศอับ อิบนุ อุไมร ที่ทำให้บรรดาจิตใจและประตูทั้งหลายเปิดกว้างให้แก่เขาในทุกสถานที่

มุศอับ อิบนุ อุไมร เคยได้ยินครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ท่านเราะซูลและผู้ร่วมศรัทธากับท่านได้มาชุมนุมกัน ณ สถานที่แห่งหนึ่งห่างไกลจากพวกสอดแนมและพวกก่อกวนชาวกุเรช ที่นั่นบนภูเขาอัศศ่อฟา ที่บ้านของ "อัลอัรกอม อิบนุ อะบิลอัรกอม" เขามิได้ลังเลใจหรือประวิงเวลาแต่อย่างใด แต่ความตื่นเต้นและการวาดมโนภาพที่จะพบกับท่านเราะซูลได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ณ สถานที่แห่งนั้น ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้พบปะกับบรรดาสาวกของท่าน และได้อ่านอัลกุรอานที่ได้รับวะฮีย์มาอย่างสดๆร้อนๆ พร้อมกับได้อธิบายความหมายให้บรรดาสาวกได้รับความเข้าใจอย่างอิ่มเอิบ นอกจากนี้ยังได้ร่วมละหมาดกับพวกเขาเพื่ออัลลอฮ์ พระผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่

ไม่ทันที่ "มุศอับ" จะเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น อัลอายาตอัลกุรอานที่ออกมาจากทรวงอกของทานเราะซูล ได้ส่องแสงประกายบนริมฝีปากของท่าน เพื่อเข้าไปยังโสตประสาทและจิตใจของผู้ที่ร่วมอยู่ ณ สถานที่นั้น แม้กระทั่งจิตใจของ "อิบนุ อุไมร" ในขณะนั้นก็ยังตอบรับคล้ายกับว่าเป็นจิตใจที่ถูกสัญญา

ความปิติยินดีเป็นล้นพ้นได้เข้ามาครอบงำเขาเป็นครั้งแรกที่ได้ย่างกรายเข้ามาอยู่ ณ บ้านอัลอัรกรอม ขณะนั้นท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้ยื่นมืออันบริสุทธิ์และมีความจำเริญไปสัมผัสกับทรวงอกที่กำลังร้อนรุ่มและจิตใจที่เร้าระทึก ทำให้ความรู้สึกที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นได้กลับกลายเป็นความเงียบสงบ ยอมสยบอย่างราบคาบ และช่วงระยะเวลาขณะนั้น "อิบนุ อุไมร" (เด็กหนุ่มในอดีตที่เคยได้รับสมญาว่า"เด็กหนุ่มเจ้าสำราญ") ก็กลับกลายมาเป็นเด็กหนุ่มผู้ศรัทธาและพร้อมยอมรับศาสนาอิสลามเป็นที่พึ่งที่แท้จริง และดูเหมือนว่าความฉลาดและการมีปรัชญาของเขาได้ปรากฏออกมาให้เป็นที่ประจักษ์เหนือการมีอายุน้อยของเขา และในเวลาเดียวกันความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตในอนาคตของเขา เป็นที่ปรากฏออกอย่างเด่นชัด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Thu Aug 25, 2011 1:46 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"คุนาส บินติ มาลิก" ซึ่งเป็นมารดาของ อิบนุ อุไมร เป็นผู้ที่มีบุคคลิกโดดเด่น น่าเกรงขาม และบางครั้งถึงขั้นน่ากลัว ขณะที่ "มุศอับ" ตัดสินใจเข้ารับนับถืออิสลามนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะกลัวผู้หนึ่งผู้ใดในหน้าแผ่นดินนี้ นอกจากมารดาของเขาเท่านั้น

ดังนั้นถึงแม้ว่าเมืองมักกะฮ์ทั้งหมดที่รวมบรรดาเจว็ดทั้งหลาย และบรรดาผู้นำทั้งหมด รวมทั้งทะเลทรายและขุนเขาทั้งหลายของมัน จะกลับกลายมาเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวเพื่อที่จะต่อต้านและขัดขวางเขา สำหรับ"มุศอับ" แล้ว เขาเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กไม่สำคัญ เพราะเขาได้ตัดสินใจแล้วที่จะมุ่งหน้าสู่สัจธรรม แต่การที่เขาจะมาเป็นคู่ปรปักษ์กับมารดาของเขานั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวซึ่งเขาไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ เขาได้ครุ่นคิดอย่างหนักและตกลงว่าจะปกปิดการเข้ามาเป็นมุสลิมของเขาจนกว่าอัลลอฮ์จะทรงจัดการให้บรรลุสู่เป้าหมาย

เขา"มุศอับ"ยังคงไปปรากฏตัวอยู่บ่อยๆ ที่บ้านอัลอัรกรอม และเข้าร่วมแสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ในสภาพของผู้ที่มีความดื่มด่ำด้วยการศรัทธา และด้วยการหลีกเลี่ยงความโกรธของมารดา ซึ่งนางไม่เคยทราบข่าวเลยถึงการเข้าอิสลามของเขา

แต่ทว่าเมืองมักกะฮ์ โดยเฉพาะในระยะเวลานั้น ความลับจะไม่ถูกปิดบังและซ่อนเร้น เพราะสายตาและการเงี่ยหูฟังของพวกกุเรชนั้นมีอยู่ทุกคนทุกหนแห่ง และเบื้องหลังของทุกๆรอยเท้าที่ปรากฏอยู่บนผืนทรายอันอ่อนนุ่มและร้อนระอุนั้น จะต้องมีนักสืบที่เฝ้าคอยสอดส่องหาข่าวอย่างใกล้ชิด

ครั้งหนึ่ง "อุสมาน อิบนิ ฏ็อลหะฮ์" ได้สังเกตเห็นมุศอับ ขณะที่เขาซ่อนตัวเข้าไปในบ้านอัลอัรกรอม แล้วได้เห็นเขาอีกครั้งหนึ่งขณะที่เขาร่วมละหมาดอยู่กับมุฮัมมัด ทันใดนั้นเองอุสมานได้วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปหามารดาของมุศอับ เพื่อแจ้งข่าวที่เป็นต้นเหตุให้นางเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองต่อมุศอับ และมุศอับได้มาปรากฏตัวต่อหน้ามารดาของเขา ต่อหน้าญาติพี่น้องและบรรดาหัวหน้าชาวมักกะฮ์ ท้งหมดได้มารวมกลุ่มล้อมเขา โดยเขาอ่านอัลกุรอานให้พวกเขาฟังดัวยความมั่นใจและหนักแน่น อัลกุรอานซึ่งท่านเราะซูลได้ชำระล้างจิตใจด้วยวิชาความรู้และความมีเกรียติ และความยุติธรรม และความยำเกรง

มารดาของเขาต้องการที่จะตบหน้าเขาด้วยความโกรธแค้น แต่มือของนางที่ง้างขึ้นเพื่อที่จะตบหน้าเขาให้สาสม ก็ต้องอ่อนปลี้ยและหมดกำลังต่อหน้ารัศมีที่เจิดจ้าและภูมิฐานด้วยความสง่างามและยิ่งใหญ่สมควรแก่การให้เกรียติ และด้วยความเงียบสงบและความพอใจ

แต่มารดาของเขาภายใต้ความกดดันแห่งการเป็นมารดาของนาง อาจจะให้อภัยแก่เขาจากการตบตีและการทำอันตราย กระนั้นก็ดีนางสามารถที่จะล้างแค้นแทนพระจ้าของนางในรูปแบบอื่น ซึ่งมุศอับได้ผินหลังให้กับสิ่งเหล่านั้น

ดังนั้นนางจึงจับเขาไปขังในห้องหนึ่ง ณ มุมหนึ่งของบ้านและปิดห้องอย่างรัดกุมมั่นคงและเขาก็ถูกจองจำอยู่ในห้องขังภายในบ้าน ซึ่งมารดาของเขาได้จัดเตรียมไว้ จนกระทั่งในระยะเวลาต่อมา เมื่อเขาได้ทราบข่าวว่าบรรดาพี่น้องมุมินบางคนได้อพยพไปยังดินแดนหะบะชะฮ์(เอธิโอเปีย) เขาจึงวางแผนและกลวิธีเพื่อที่จะหนีออกจากบ้านในขณะที่มารดาของเขาเผลอจากการดูแลอารักขาเขา และเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยการหนีออกจากบ้านและเดินทางอพยพไปยังอัลหะบะชะฮ์

เมื่อมุศอับเดินทางไปสมทบกับพี่น้องของเขา ณ เมืองอัลหะบะชะฮ์แล้ว เขาได้พำนักอยู่กับพี่น้องของเขาระยะหนึ่ง แล้วก็เดินทางกลับมาพร้อมๆกับพวกเขายังนครมะดีนะฮ์ ต่อมาท่านเราะซูลได้มีคำสั่งใช้ให้บรรดามุมินอพยพไปยัง อัลหะบะชะฮ์อีกเป็นครั้งที่สอง พวกเขาก็ปฏิบัติตาม

แต่ถึงแม้ว่ามุศอับ จะอยู่ ณ แห่งหนใด ไม่ว่าในเมือง อัลหะบะชะฮ์ หรือ นครมักกะฮ์ การทดสอบแห่งการศรัทธาของเขาได้ฝึกฝนให้เขาประสบความสำเร็จเหนือการทดสอบในทุกๆสถานที่และในทุกๆกาลเวลา เขาได้ประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการหล่อหลอมชีวิตของเขาให้อยู่ในรูปแบบใหม่ซึ่ง มุฮัมมัด ได้มอบแบบอย่างที่ดีให้แก่พวกเขา มุศอับมีความอบอุ่นและมั่นใจเป็นอย่างมากว่า ชีวิตของเขานั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะมอบให้เป็นสิ่งพลีเพื่อความใกล้ชิดกับพระผู้สร้างอันสูงส่ง และพระผู้ให้บังเกิดอันยิ่งใหญ่

วันหนึ่งมุศอับ ได้ออกไปหาพี่น้องมุสลิมีนขณะที่พวกเขานั่งห้อมล้อมท่านเราะซูล ทันทีที่พวกเขามองเห็นมุศอับ พวกเขาก็ก้มศรีษะและลดสายตาลง นัยน์ตาของบางคนมีน้ำตาหลั่งออกมา ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อพวกเขาเห็นมุศอับสวมเสื้อเก่าปุปะ ทำให้พวกเขาหันกลับไปนึกภาพในอดีตของมุศอับก่อนเข้ารับอิสลาม ซึ่งขณะนั้นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่อยู่ในสวน สีสันสดใส สง่างามและมีกลิ่นน้ำหอมฟุ้งกระจายไป

ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้มองดูสภาพของเขาด้วยสายตาแห่งนักปรัชญา สายตาแห่งความขอบคุณ และสายตาแห่งความรัก รอยยิ้มที่สง่างามได้ปรากฏขึ้นเป็นประกายบนริมฝีปากทั้งสองของท่าน พลางกล่าวว่า

"โดยแน่นอนฉันได้เห็นมุศอับคนนี้ และในนครมักกะฮ์ ไม่มีชายหนุ่มคนใดได้รับความโปรดปรานและความรักใคร่ ณ ที่บิดามารดาของเขามากกว่าเขา แต่เขาได้เสียสละความสุขดังกล่าวทั้งหมด เพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์"

เมื่อนางหมดความหวังที่จะทำให้เขาปฏิบัติตามในสิ่งที่นางต้องการแล้ว ดังนั้นนางจึงระงับทุกสิ่งที่เคยมีบุญคุณและคามกรุณาแก่เขา จนกระทั่งนางไม่ยอมให้อาหารทุกชนิดแก่มนุษย์คนใดก็ตามที่ผินหลังให้กับบรรดาพระเจ้าของนาง พร้มกับสาปแช่งถึงแม้ว่มนุษย์คนนั้นจะเป็นลูกของนางก็ตาม !!!

ปรากฏว่าคำสาบานครั้งสุดท้ายของนางที่มีต่อเขา เมื่อนางพยายามที่จะกักขังเขาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เขาเดินทางกลับมาจากเมืองอัลหะบะชะฮ์ มุศอับได้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า หากนางกระทำการใดๆที่จะกักขังเขาอีก เขาจะต่อสู้กับทุกๆคนที่นางขอความช่วยเหลือเพื่อนำเขาไปกักขัง และแน่นอนนางรู้ดียิ่งถึงความเด็ดเดี่ยวของเขา เมื่อเขามีความตั้งใจและมีความมุ่งมั่น ดังนั้นนางได้กล่าวลาเขาด้วยการร้องไห้ และเขาก็ได้กล่าวลานางด้วยการร้องไห้ด้วยเช่นกัน

ขณะที่มีการกล่าวลาระหว่างแม่กับลูกนั้น จะเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งถึงการยืนกรานอย่างน่าประหลาดถึงการปฏิเสธศรัทธาของฝ่ายแม่ และการยืนกรานอย่างน่าทึ่งในการศรัทธาของฝ่ายลูก ขณะที่นางกล่าวไล่ลูกชายออกจากบ้านนางได้กล่าวว่า จงออกไปให้พ้นตามเรื่องตามราวของเจ้า ข้ามิได้เป็นแม่ของเจ้าแล้ว เขาได้เข้าไปใกล้นางพลางกล่าวว่า

"โอ้แม่จ๋า ! ลูกขอเตือนและแนะนำแม่ และลูกมีความห่วงใยและวิตกกังวลต่อแม่ ดังนั้นแม่จงปฏิญานตนเถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และแท้จริงมุฮัมมัดนั้นเป็นบ่าวและเราะซูลของพระองค์"

แม่ของเขาตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวและกล่าวด้วยความโกรธแค้นว่า"ขอสาน ด้วยดวงดาวที่มีประกายแสงจ้า ข้าจะไม่เข้าสู่ศาสนาของเจ้าเป็นอันขาด เพื่อข้าจะได้ถูกเหยียดหยามและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนปัญาอ่อน !!!"

มุศอับได้ออกจากบ้านที่เพรียบพร้อมดวยความสุขารมณ์ ซึ่งเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในยามหนุ่มแน่น โดยเลือกเอาความยากลำบากและความยากจน เด็กหนุ่มที่ชอบความสวยงามมีกลิ่นอบอวลไปด้วยน้ำหอมนานาชนิด ได้กลับกลายมาเป็นเด็กหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าที่หยาบกร้าน มีกินวันหนึ่งและอดไปอีกหลายวัน แต่จิตวิญญานที่ส่องแสงประกายด้วยรัศมีของอัลลอฮ์ ทำให้เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสง่างามและมีความน่าประทับใจ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Thu Aug 25, 2011 1:50 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ณ ขณะนั้นท่านเราะซูลได้คัดเลือกเขาให้ปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นฑูตหรือนักเผยแพร่คนแรกของท่านไปยงนคร อัลมะดีนะฮ์ โดยทำหน้าที่เป็นผู้สั่งสอนศาสนาแก่ชาว อัลอันศอร ซึ่งได้ศรัทธาและให้สัตยาบันกับท่านเราะซูล ณ ตำบลอัลอะเกาะบะฮ์ และเพื่อชักชวนผู้คนอื่นๆ ให้เข้าสู่ศาสนาของอัลลอฮ์ และเพื่อจัดเตรียมนครอัลมะดีนะฮ์สำหรับวันอพยพ (อัลฮิจเราะฮ์) ครั้งยิ่งใหญ๋

ในบรรดาสาวกของท่านเราะซูล ขณะนั้นมีผู้อาวุโสมากกว่าและตำแหน่งสูงกว่ามาก และผู้ที่เป็นญาติใกล้ชิดมากกว่ามุศอับ แต่ทว่าท่านเราะซูลได้คัดเลือกมุศอับแห่งความดี และท่านตระหนักดีว่าท่านได้มอบหมายประเด็นปัญหาที่เสี่ยงอันตรายในขณะนั้นให้แก่เขา และได้มอบภารกิจที่สำคัญยิ่งเกี่ยวกับอนาคตอิสลามในนครอัลมะดีนะฮ์ ซึ่งจะเป็นแหล่งแห่งการอพยพ และเป็นศูนย์กลางแห่งการเผยแพร่ศาสนาอิสลามและเป็นกองบัญชาการเมื่อเกิดการทำสงครามในอนาคตอันใกล้

มุศอับได้รับอามานะฮ์จากท่านนะบี พร้อมกับขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ ในสิ่งที่พระองค์ได้ประทานความโปรดปรานให้แก่เขา เช่น การมีสติปัญญาอันเฉียบแหลม และมารยาทอันดีงาม และแน่นอนเขาได้ครอบครองจิตใจของชาวอัลมะดีนะฮ์ด้วยความสมถะ ความมีเกรียติอันสูงและความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้นชาวอัลมะดีนะฮ์จึงเข้าสู่ศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมาก มุศอับได้เดินทางมาถึงนคร อัลมะดีนะฮ์ ในขณะนั้นมีผู้ที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามเพียง 12 คน คือบรรดาผู้ที่ให้คำสัตยาบันกับท่านนะบี ณ ตำบลอัลอะเกาะบะฮ์ ในช่วงระยะเวลาเพียงไมกี่เดือนที่เขาได้มาพำนักอยู่ในนครอัลมะดีนะฮ์ ได้มีชาวเมืองให้การตอบรับเข้าสู่ศาสนาอิสลามอีกจำนวนไม่น้อย

ในเทศกาลประกอบพิธีฮัจย์ในปีต่อมา ปรากฏว่าบรรดามุสลิมในนครอัลมะดีนะฮ์ได้ส่งคณะผู้แทนไปยังนครมักกะฮ์มีจำนวน 70 คน เพื่อเป็นตัวแทนของพวกเขา เข้าพบปะคารวะท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ภายใต้การนำของตัวแทนของท่านนะบี ของพวกเขาคือ มุศอับ อิบนุ อุไมร

มุศอับได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยความเฉลียวฉลาด และการทดสอบด้วยความยากลำบากของเขาว่าท่านเราะซูลได้ตระหนักดีว่า ทำไมท่านเราะซูลจึงเลือกเขา !!!

แท้จริงมุศอับ มีความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเขาภายในขอบเขตที่ได้ถูกมอบหมาย เขาตระหนักดีว่า เขาเป็นนักเผยแพร่ไปสู่อัลลอฮ์ และเป็นผู้แจ้งข่าวดีด้วยศาสนาของเขาที่เรียกร้องมหาชนไปสู่แนวทางที่ถูกต้องและเที่ยงธรรม และว่าเขานั้นเสมือนตัวแทนของท่านเราะซูล ซึ่งเขาศรัทธาต่อท่านและหน้าที่ของเขามิใช่อื่นใด นอกจากเป็นผู้ประกาศเชิญชวนเท่านั้น

ที่นครอัลมะดีนะฮ์ มุศอับได้พำนักเป็นแขกของ อัสอัด อิบนุ ชุรอเราะฮ์ ทั้งสองมีภาระกิจร่วมกัน เพื่อไปเยี่ยมเยียนชนเผ่าต่างๆ ตามหมู่บ้านและในชุมชนโดยเป็นผู้อ่านสิ่งที่เขาท่องจำจากคัมภีร์ของพระเจ้าของเขาแก่มหาชน โดยเปล่งเสียงดังด้วยความสุภาพอย่างดีที่สุดด้วยพจนารถของอัลลอฮ์ "แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น"

ในบางสถานการณ์ เขาเผชิญกับเหตุการณ์ซึ่งเกือบจะเป็นสาเหตุทำให้เขาและผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาได้รับอันตราย หากปราศจากซึ่งการมีไหวพริบ ความฉลียวฉลาด การมีจิตวิญญาณที่สูงและความอดทนของเขา วันหนึ่งขณะที่เขากำลังอบรมสั่งสอนผู้คนจำนวนหนึ่ง"อุไซด์ อิบนุ หุฎอยร์" หัวหน้าเผ่าบนีอับดุลอัชอัลในนครอัลมะดีนะฮ์ ได้จู่โจมเข้ามาหาเขาโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับชูดาบขึ้นเหนือศรีษะด้วยความโกรธ และเดือดดาลอย่างสุดขีดกับผู้ที่มาก่อความวุ่นวายแก่กลุ่มชนของเขา เกี่ยวกับศาสนาของพวกเขา และเรียกร้องกลุ่มชนให้ละทิ้งศาสนาของพวกเขา พร้อมกับเชิญชวนพวกเขาไปสู่พระเจ้าองค์เดียว ซึ่งพวกเขาไม่เคยรู้จักและคุ้นเคยมาก่อนเลย

เพราะพระเจ้าของพวกเขาที่พวกเขาเคารพสักการะนั้นยืนตระหง่านโดยปราศจากวิญญาณอยู่ต่อหน้าพวกเขา เมื่อผู้ใดต้องการจะเข้าพบก็จะรู้จักสถานที่และมุ่งหน้าไปหาเพื่อปลดทุกข์และขอความช่วยเหลือ นี่คือพระเจ้าของพวกเขาที่พวกเขาวาดมโนภาพและจินตนาการกันไว้

ส่วนพระเจ้าของมุฮัมมัด ซึ่งเขากำลังเรียกร้องเชิญชวนกลุ่มชนของเขาในนามของมุฮมมัด โดยผู้แทนฑูตคนนี้ ไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย ทันใดที่บรรดามุสลิมกำลังนั่งฟังการบรรยายของมุศอับอยู่ด้วยความสนใจ และได้เหลือบไปเห็นการปรากฏตัวของอุไซด์ อิบนุ หุฎอยร์ เดินสะพายดาบตรงรี่เข้ามาด้วยความโกรธ ฉุนเฉียวและไม่พอใจอย่างสุดขีด บรรดาผู้ที่กำลังนั่งฟังอยู่พากันกลัวและตกใจ แต่มุศอับ แห่งความดี ยังคงยืนหยัดด้วยความสงบเงียบสดุดีอัลลอฮ์

"อุไซด์" ได้มาหยุดยืนต่อหน้าเขา ด้วยความตื่นเต้นเดือดพล่านและพูดกับ มุศอับและอัสอัด อิบนุ ชุรอเราะฮ์ ว่า "เพราะเหตุใดท่านทั้งสองจึงเข้ามาในหมู่บ้านของเรา และมาประกาศเชิญชวนแบบโง่ๆ กับพรรคพวกของเรา จงออกไปเสียโดยดี หากท่านทั้งสองยังต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป"

ด้วยความสงบเสงี่ยมของมุศอับ และความโกรธที่ร้อนระอุของอุไซยด์ และด้วยสีหน้าที่ปิติยินดีและรัศมียามรุ่งอรุณ และด้วยความสุภาพอ่อนโยนของมุศอับ ความดีใจและปลื้มปิติของมุศอับแห่งความดี ได้แสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง เขาได้เปล่งวาจาออกมาอย่งสุภาพและน่าประทับใจว่า "ก่อนอื่นขอให้ท่านนั่งลงและโปรดรับฟังคำพูดของเรา หากท่านพอใจในเรื่องของเรา ท่านก็รับเอาไป หากท่านไม่พอใจเราก็จะหยุดพูดในสิ่งที่ท่านไม่ชอบฟัง"

อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮ์ผู้ทรงเกรียงไกรยิ่ง ! มันช่างเป็นการเริ่มต้นที่งดงามเสียนี่กระไร ! และจบลงด้วยความโชคดี มีความสุข !

อุไซด์ เป็นคนเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบ และเขาเห็นมุศอับเสนอข้อตัดสินใจให้แก่เขาและขอร้องให้ฟังคำพูดของเขาเสียก่อน ถ้าหากพอใจก็รับคำพูดของเขาไว้พิจารณา และถ้าหากไม่พอใจ มุศอับ ก็จะออกจากหมู่บ้านของพวกเขาเพื่อไปยังหมู่บ้านและตระกูลอื่นๆ โดยไม่ก่ออันตรายและความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด เมื่อได้รับฟังข้อเสนอของมุศอับแล้ว อุไซด์ ก็ตอบรับและกล่าวขึ้นว่า ท่านได้นำเสนอมาด้วยความยุติธรรม เขาได้วางดาบของเขาลงและนั่งฟังมุศอับด้วยความสงบ

มุศอับได้เริ่มอ่านอัลกุรอาน พร้อมทั้งชี้แจงถึงการเรียกร้องเชิญชวนสู่ศาสนาใหม่ที่ท่านนะบีมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลลอฮ์ ได้นำมาเผยแผ่แก่ชาวกุเรชที่นครมักกะฮ์ ทันใดนั้นใบหน้าของอุไซด์ ก็ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นรอยยิ้ม ดวามปลื้มปิติและความดีใจได้ประจักษ์ขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่มีใครคาดฝันมาก่อน

ไม่ทันที่มุศอับจะเสร็จสิ้นคำพูดของเขา อุไซด์ อิบนุ หุฎอยร์ และผู้ที่นั่งฟังร่วมกับเขาก็ตะโกนขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันเป็นคำพูดที่สวยงามและเป็นสัจธรรมยิ่ง ผู้ที่ประสงค์จะเข้าศาสนานี้ต้องทำอย่างไรบ้าง" ได้มีเสียงตอบรับเขาด้วยการเปล่งเสียงแสดงความยินดีอย่างกึกก้อง และมุศอับได้กล่าวขึ้นว่า "ไปทำความสะอาดเสื้อผ้าและร่างกายของท่าน แล้วกล่าวปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์"

อุไซด์ ได้หายตัวไปจากพวกเขาระยะหนึ่ง แล้วกลับมาในสภาพที่ศรีษะของเขาเปียกน้ำและได้ยืนขึ้นประกาศว่า "ขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และแท้จริงมุฮัมมัดนั้นเป็นเราะซูลของอัลลอฮ์"

ข่าวการเข้ารับนับถือศาสนาใหม่ของ อุไซด์ ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ซะอด์ อิบนุ มุอ๊าซ ได้มาหา มุศอับ และได้รับฟังการชี้แจงของเขาและมีความพอใจแล้วได้ประกาศการเป็นอิสลามของเขา บุคคลสำคัญต่อมาคือ ซะอด์ อิบนุ อุบาดะฮ์ ความโปรดปรานได้จบลงอย่างสมบูรณ์ด้วยการเป็นอิสลามของพวกเขา ชาวอัลมะดีนะฮ์ ได้หันหน้าเข้าหากันเป็นกลุ่มๆ และได้ก่าวขึ้นเป็นคำถามว่า ในเมื่อ อุไซด์ อิบนุ หุฎอยร์ และซะอด์ อิบนุ มุอ๊าซ และ ซะอด์ อิบนุ อุบาดะฮ์ ได้ประกาศการเป็นอิสลามแล้ว พวกเราจะรีรอชักช้าอยู่ทำไม ? มาซิ ! พวกเรารีบไปหามุศอับกันเดี๋ยวนี้ เพื่อพวกเราจะได้ประกาศศรัทธากับเขา เพราะพวกเขากำลังพูดว่าสัจธรรมนั้นได้ออกจากปากของเขา !!!

โดยแน่นอน นักเผยแผ่คนแรกของท่านเราะซูล ได้ประสพความสำเร็จเกินคาดหมาย ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เหมาะสม และคู่ควรแก่เขา


ติดตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
astaqfirullah
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2010
ตอบ: 7


ตอบตอบ: Sun Sep 04, 2011 11:09 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

การทำดีต่อบิดามารดาหน้าที่ที่อัลลอฮฺสั่งใช้

"และพระเจ้าของเจ้าบัญชาว่า พวกเจ้าอย่าเคารพภักดีผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้นและจงทำดีต่อบิดามารดา(*1*) เมื่อผู้ใดในทั้งสองหรือทั้งสองบรรลุสู่วัยชราอยู่กับเจ้า ดังนั้นอย่ากล่าวแก่ทั้งสองว่า อุฟ !(*2*) และอย่าขู่เข็ญท่านทั้งสอง และจงพูดแก่ท่านทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน" (อัลอิสรออฺ : 23)

(1) นักตัฟซีรกล่าวว่า การที่พระองค์ทรงกล่าวให้ทำความดีต่อบิดามารดา หลังจากใช้ให้เคารพภักดีต่อพระองค์เท่านั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของบิดามารดาที่มีต่อบุตร เพราะทั้งสองเป็นต้นเหตุแห่งการเกิดและการมีชีวิตของเขา
(2) คำว่า “อุฟ” เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ


แต่ห้ามเด็ดขาดในการเชื่อฟังพ่อแม่ในสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ท่านจะไม่มีบาปในการไม่เชื่อฟังพ่อแม่ในสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนโดยเฉพาะเมื่อเค้าเรียกร้องให้ท่านกลับออกไปจากศาสนาของอัลลอฮฺ

"และเราได้สั่งเสียงมนุษย์ให้ทำดีต่อบิดามารดาของเขา(*1*)และถ้าทั้งสองบังคับเจ้าเพื่อให้ตั้งภาคีในสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ เจ้าก็อย่าปฏิบัติตามเขาทั้งสอง(*2*)ยังข้าคือการกลับของพวกเจ้า ดังนั้นข้าจะแจ้งแก่พวกเข้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้(*3*) "(อัลอังกะบูต : 8)

(1) เพราะทั้งสองเป็นต้นเหตุแห่งการ ปรากฏของเขา ดังนั้นหน้าที่ของเขาที่มีต่อทั้งสองคือการทำดีและเชื่อฟัง อัศศอวีย์กล่าวว่าความจริงอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงใช้ให้ลูก ๆ ทำดีต่อบิดามารดา โดยมิได้ใช้ให้ทั้งสองทำดีต่อลูก ๆ เพราะลูก ๆ นั้นถูกบังเกิดมาในสภาพที่แข็งกระด้างและไม่เชื่อฟังบิดามารดาอยู่แล้ว อัลลอฮ์จึงใช้พวกเขาให้กระทำในสิ่งที่ขัดกับธรรมชาติของพวกเขา ส่วนบิดามารดานั้นถูกหล่อหลอนมาในสภาพแห่งความเมตตาสงสารต่อลูก ๆ พระองค์จึงมอบหมายให้พวกเขาให้คงอยู่ในสภาพที่ถือกำเนิดมา
(2) อย่าเชื่อฟังทั้งสองในการนี้เพราะไม่มีการเชื่อฟังแก่ผู้ถูกบังเกิดเพื่อให้ทรยศต่ออัลลอฮ์ผู้ให้บังเกิด
(3) ยังช้าคือการกลับของบรรดาสิ่งที่ถูกบังเกิดทั้งมวล ผู้ศรัทธาของพวกเขาและผู้ปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา คนดีของพวกเขาและคนชั่วของพวกเขา ข้าจะเป็นผู้ตอบแทนแก่ทุกคนที่ได้กระทำไว้ ในการนี้เป็นสัญญาดีแก่ผู้ทำดีต่อบิดามารดาและปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องและเป็นสัญญาร้ายแก่ผู้ทรยศต่อบิดามารดาและปฏิบัติตามแนวทางที่ไม่ถูกต้อง


มีฮะดีษรายงานว่าอายะฮฺนี้ประทานมาเกี่ยวกับเรื่องของซะอฺ อิบนุ อบีวักกอส เมื่อเขาเข้ารับอิสลามขณะนั้นอายุได้ 18-19 ปี เมื่อนางฮัมนะฮฺแม่ของเขาได้ทราบว่าลูกของนางเปลี่ยนเป็นมุสลิมนางได้กล่าวว่า "ฉันจะไม่กิน ฉันจะไม่ดื่มและไม่นั่งในที่ร่มจนกว่าเจ้าจะเลิกตามมุฮัมมัด สิทธิ์ของแม่นั้นเป็นิ่งสูงสุดตามบัญชาของอัลลอฮฺ ดังนั้น หากเจ้าไม่เชื่อฟังฉันเจ้าก็ไม่เชื่อฟังอัลลอฮฺด้วย" ซะอฺจไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดีจึงได้มาหาท่านรอซูลและบอกเรื่องราวให้ท่านฟัง อายะฮฺนี้จึงถูกประทานมา และเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังได้ถูกย้ำอย่างหนักแน่นอีกครั้งในซูเราะฮฺลุกมาน อายะฮฺที่ 15

"และเราได้สั่งการแก่มนุษย์เกี่ยวกับบิดา มารดาของเขา โดยที่มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขาอ่อนเพลียลงครั้งแล้วครั้งเล่า และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสองปี เจ้าจงขอบคุณข้า และบิดามารดาของเจ้า ยังเรานั้น คือการกลับไป และถ้าเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคีต่อข้า โดยที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เจ้าอย่าได้เชื่อฟังปฏิบัติตามเขาทั้งสอง และจงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี และจงปฏิบัติตามทางของผู้ที่กลับไปสู่ข้า และยังเรานั้นถือทางกลับของพวกเจ้า ดังนั้น ข้าจะบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้" (ลุกมาน 14-15)

อยากให้เข้าใจว่านี่คือการทดสอบจากอัลลอฮฺ ขอให้ท่านอดทนและยืนหยัดอยู่ในศาสนานี้ ทำดีต่อพ่อแม่ให้ดีที่สุดแต่อย่าเชื่อฟังพวกเค้าในสิ่งที่ต้องฝ่าฝืนอัลลอฮฺ ท่านต้องรักอัลลอฮฺมากกว่า อยากแนะนำให้อ่านความหมายกุรอ่านมากๆ จะทำให้ท่านเข้าใจสิ่งต่างๆและเยียวยาความเศร้าหมองในหัวใจ และอยากให้ท่านได้เข้าหากลุ่มของพี่น้องมุสลิมก็จะเป็นสิ่งทีช่วยให้ท่านสามารถยืนหยัดอยู่บนศาสนานี้ได้อย่างมั่นคง อัลลอฮฺจะไม่ทำให้รางวัลของผู้อดทนสูญหาย ขอเป็นกำลังใจให้ท่านได้ยืนหยัดต่อสู้บนหนทางของพระองค์ต่อไป

“จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า และบรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาคู่ครองของพวกเจ้า และบรรดาญาติของพวกเจ้า และบรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ และสินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ออก และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมันนั้น เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วไซร้ ก็จงรอคอยกันเถิดจนกว่าอัลลอฮฺจะทรงนำมาซึ่งกำลัง (*1*) ของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด"
(อัตเตาบะ: 24)
(1) หมายถึง นำการลงโทษของพระองค์มา กล่าวคือถ้ายังรักบุคคลดังกล่าวยิ่งกว่า คำสั่งของอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์แล้ว ก็จงรอการลงโทษจากพระองค์เถิด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.08 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ