ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Jan 24, 2011 10:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | เราเข้าใจเรื่องบิดอะอ์ตรงกันครับอะสัน แต่ที่บังไม่ยอมรับก็คือเรื่องประเด็นอิญจติฮาดมากกว่า บังอะสันลองทบทวนเหตุการณ์ที่บนีกุรอยเซาะย์ดูก่อนครับ ทำไมซอฮาบัตละหมาดไม่พร้อมกัน |
เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นท่านนบี ได้ตัดสินและรับรองแล้ว แต่ การอิจญติฮาด และมาสรุปว่า การฉลองวันเกิดนบี เป็นสุนัต เป็นต้น แบบนี้ท่านนบีรับรองหรือยัง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 2:30 am ชื่อกระทู้: |
|
|
งั้นบังอะสันลองอธิบายหน่อยสิครับว่าเหตุไดซอฮาบัตจึงเข้าบวชไม่พร้อมกัน(ฮาดิษกุรอยบ์) _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 9:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | งั้นบังอะสันลองอธิบายหน่อยสิครับว่าเหตุไดซอฮาบัตจึงเข้าบวชไม่พร้อมกัน(ฮาดิษกุรอยบ์) |
ใหนน้องเอฟวัน อธิบายหน่อยว่า เศาะหาบะฮกลุ่มใหนที่เข้าบวชไม่พร้อมกัน และหุกุมเรื่องเข้าบวชออกบวช มาเทียบกับการทำบิดอะฮที่น้องเอฟวันว่าเป็นสุนัตอย่างไร เอามาเป็นข้อๆนะครับให้ชัดเจน พี่น้องที่เขามาอ่านเขาอยากรู้ แล้วอาบังจะได้รู้และอินชาอัลลอฮ จะได้อธิบายถูกประเด็น เราไม่คุยกันแค่สองคน แต่คนในโลกไซเบอร์ ที่แวะเข้ามาเขาอ่านและใช้พิจารณาญานตัดสินใจด้วยว่าจะเอาแบบน้องเอฟวันหรือเปล่า กรุณานำตัวบทที่เป็นภาษาอาหรับมาด้วย _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 1:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ในฮาดิษกุรอยบ์บอกไว้ชัดเจนครับว่าอิบนิอับบาสกับกุรอยบ์เข้าบวชไม่ตรงกัน บังยังไม่รู้หรือครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 4:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | ในฮาดิษกุรอยบ์บอกไว้ชัดเจนครับว่าอิบนิอับบาสกับกุรอยบ์เข้าบวชไม่ตรงกัน บังยังไม่รู้หรือครับ |
.......
หะดิษบทนี้ผมได้วิจารณ์มาทั้งนานแล้ว
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=811&postdays=0&postorder=asc&start=15
และที่นครมะดีนะฮถือ ศีลอดไม่ตรงกับเมืองชาม ก็เพราะการข่าวการเห็นเดือนเข้าบวชที่
เมืองชาม ไปถึงนครมะดีนะฮก็ปลายเดือนเราะมะฏอนแล้ว ท่านอิบนุอับบาสจึงถึงตามคำสั่งของนบีที่ว่า
ท่านนบี กล่าวว่า
"صوموا لرؤيته، وأفطروا لرؤيته، فإن غُمَّ عليكم، فأكملوا عدة شعبان ثلاثين يوماً". رواه البخاري، ومسلم
พวกท่านจงถือศีลอดอันเนื่องมาจากเห็นเดือนเสี้ยว (ของเดือนเราะมะฎอน)และพวกท่านจงงดการถือศีลอด เนื่องจากการเห็นเดือนเสี้ยว(ของเดือนเชาวาล) แล้วถ้าหากมีเมฆมาบดบัง ก็จงนับเดือนชะอฺบานให้ครบ 30 วัน" - รายงานโดยบุคอรีและ
.......
ผมได้ให้รายละเอียดไว้เยอะแล้วในเรื่องนี้ ลองอ่านดู _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 7:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ก็ไม่เห็นมีใครกล่าวหาว่า"บิดอะอ์"กันเลยนี่ครับ มีแต่สมัยเรานี่แหละ ถ้าไม่เหมือนกับตัวกูล่ะก็บิดอะอ์หมด _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 8:40 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อาจารย์อะซันครับ
ประเด็นเรื่องการเข้าบวช ออกบวช ไม่ใช่เรื่องบิดอะห์ไม่ใช่หรอครับ
แต่เป็นเรื่องคิลาฟิยะห์ต่างหาก
ผมแปลกใจมากๆ ที่คนกลุ่มอื่นๆ ชอบพยายามทำให้เรื่องนี้ไปโยงกับเรื่องอื่นๆ
โดยที่เราไม่ได้รู้เรื่องซักกะนิดเดียว
ว่างๆ อยากให้อาจารย์เอาสามคำนี้มาอธิบายหน่อยคือ
คิลาฟิยะห์, บิดอะห์ และ ชิริก
มีเรื่องตลกที่เกิดกับผมคือ ผมไปเตือนมุสลิมที่มีตะกรุด โดยบอกว่าบาป
แต่เขาย้อนมาว่า พวกซุนนะห์ อะไรๆ ก็บิดอะห์
ก็เลยไม่รู้ว่าจะลากตะกรุดให้มาเป็นชิริกยังงัยดี |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 10:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ครับ บางคนเข้าใจสบสนปนเปแยกไม่ออกว่า อะไรคือ คิลาฟิยะฮ อะไรคือ บิดอะฮ และอะไรคือชิริก ดังนั้นจึงใคร่ขออธิบายเป็นข้อๆดังนี้
๑. คิลาฟียะฮ
คำว่า คิลาฟียะฮ แปลว่า ขัดแย้ง แปลว่า แตกต่าง ในวิชาการทางศาสนา หมายถึง การที่บุคคลมีความเชื่อ มีความเห็นต่างกัน
ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งมักจะเรียกภาษาอาหรับว่า المسائل الخلافية หมายถึงปัญหา หรือประเด็นขัดแย้ง หรือมีความเห็นต่างกัน
การมีความเห็นต่างกันเป็นเรื่อง ธรรมดา และเป็น ธรรมชาติของมนุษย์ แต่ถ้ามนุษย์ในโลกนี้มีความเห็นตรงกันหมด นี่ซิ มันผิดธรรมชาติ
สำหรับปัญหาศาสนาที่มีความเห็นที่แตกต่างกันนั้น มีสาเหตุ พอสรุปได้ดั่งนี้
๑. เข้าใจตัวบทต่างกัน
๒. ความความรู้ไม่เท่ากันในเรื่องนั้นๆ หรือ บางคนได้รับหะดิษเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่บางคนไม่ได้รับ เป็นต้น
๓. การตีค่าของหะดิษในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่เหมือนกัน บ้างก็เชื่อว่า เศาะเฮียะ บ้างก็เชื่อเฎาะอีฟ
๔,. ความเห็นไม่ตรงกันในประเด็นที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน บ้างก็จำกัดที่หลักฐาน บ้างก็ใช้ความเห็นตัดสินว่าดีถึงแม้จะไม่มีหลักฐาน เป็นต้น
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) กล่าวว่า
وكثير من مجتهدي السلف والخلف قد قالوا وفعلوا ما هو بدعة ولم يعلموا أنه بدعة، إما لأحاديث ضعيفة ظنوها صحيحة، وإما لآيات فهموا منها ما لم يُرد منها، وإما لرأي رأوه، وفي المسألة نصوص لم تبلغهم، وإذا اتقى الرجل ربه ما استطاع دخل في قوله: {رَبَّنَا لاَ تُؤَاخِذْنَا إِن نَّسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا} [البقرة:286
และส่วนมากจากมุจญตะฮิด ยุคสะลัฟและเคาะลัฟ พวกเขาได้กล่าวและได้ทำ บางสิ่ง ที่มันเป็นบิดอะฮ โดยที่เขาไม่รู้ว่า มันเป็น บิดอะฮ อาจจะเป็นเพราะ บรรดาหะดิษเฎาะอีฟ ที่พวกเขาเข้าใจว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ , อาจจะเป็นเพราะ บรรดาอายะฮ ที่ พวกเขาเข้าใจ ไม่เป็นไปตามความมุ่งหมายจากมัน ,อาจจะเป็นเพราะความเห็นที่พวกเขาได้แสดงความเห็น และอาจจะเป็นเพราะในบางประเด็นปัญหา หลักฐานที่เป็นตัวบท ไม่ได้ถึงไปยังพวกเขา และเมื่อ คนนั้น ยำเกรงต่อ พระเจ้าของเขา ตามขีดความสามารถของเขา เขาก็เข้าอยู่ในคำดำรัสของพระองค์ที่ว่า (" โอ้พระผู้อภิบาลของเรา ได้โปรดอย่าเอาผิดเราในสิ่งที่เราลืมหรือ ผิดพลาด ) อัลบะเกาะฮเราะฮ /286 - มัจญมัวะอัลฟะตาวา 19/191
เพราะฉะนั้น การตามผู้รู้ต้อง ใช้สติปัญญาและเหตุผลในการตาม ไม่ใช่ตามแบบหูหนวกตาบอด หรือ ยึดติดกับผู้คนใดคนหนึ่ง
แบบปิดหูปิดตา
ท่านอิบนุตัยมียะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
فدين الله مبني على اتباع كتاب الله، وسنة نبيه، وما اتفقت عليه الأمة، فهذه الثلاثة هي المعصومة، وما تنازعت فيه الأمة إلى الله والرسول, وليس لأحد أن ينصب للأمة شخصًا يدعو إلى طريقته، يوالي عليها ويعادي، غير كلام الله ورسوله وما اجتمعت عليه الأمة، بل هذا من فعل أهل البدع الذين ينصبون لهم شخصا أو كلاما يفرقون به بين الأمة، يوالون به على ذلك الكلام أو تلك السنة ويعادون
ดังนั้นศาสนาของอัลลอฮ วางอยู่บนรากฐาน บนการตาม คัมภีร์ของอัลลอฮ และสุนนะฮของนบีของพระองค์ และสิ่งที่ประชาชาติ(อุมมะฮ)ได้มีมติฟ้องกัน และ นี่คือ รากฐานสามประการ มันคือสิ่งที่ได้รับการประกันจากความผิดพลาด และสิ่งที่ประชาชาตินำข้อขัดแย้งไปหาอัลลอฮและรอซูล และไม่อนุญาตแก่บุคคลใด กำหนดบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้แก่ประชาชาติ(อุมมะฮ) แล้วเรียกร้องไปสู่แนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันอยู่บนแนวทางนั้น อื่นจากคำพูดของอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ และสิ่งที่อุมมะฮมีมติฟ้องกัน แต่ทว่า กรณีนี้(การกำหนดบุคคลให้ประชาติถือตาม) เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำของชาวบิดอะฮ ที่พวกเขากำหนด บุคคลหนึ่ง บุคคลใด ให้แก่พวกเขา หรือกำหนด คำพูด(ทัศนะ)ใดที่ทำให้เกิดการแตกแยกระหว่างอุมมะฮ พวกเขาเป็นมิตรกันบนคำพูด(ทัศนะ)นั้นหรือ เป็นศัตรูกันบนแนวทางนั้น - ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ 20/64
การเห็นต่างในสังคมบ้านเรา ไม่เหมือนการเห็นต่างของอุลามาอฺยุคสะลัฟ เพราะพวกเขามีความเห็นต่าง แต่พวกเขาไม่แตกแยก ไม่เป็นศัตรู กัน ไม่เหมือน มุสลิมเราในยุคปัจจุบัน
ปัญหาคิลาฟียะฮที่เกิดในสังคมบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาการยึดมัซฮับ เหนือ ตัวบทที่เป็นหลักฐานจากอัลกุรอ่านและหะดิษ
กล่าวคือ ไม่ว่า อัลกุรอ่านและหะดิษ เศาะเฮียะอย่างไร แต่ถ้าไม่ตรงกับมัซฮับของฉัน หรือ คำสอนครูของฉัน ฉันไม่รับ แบบนี้
เรียกว่า เอาความเห็นไปขัดแย้งตัวบท เป็นประเด็นคิลาฟียะฮที่ควรตำหนิ เป็นอย่างยิ่ง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 10:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
๒. บิดอะฮ
คำว่า บิดอะฮ" ก็มักจะมีการเข้าใจสับสน เช่นกัน บางคนมั่วถึงขนาดว่า พอมีคนมาเตือนไม่ให้ทำสิ่งที่เป็นบิดอะฮ เขากลับพูดโต้กลับมาว่า " ทำไมไม่ขี่อูฐ " ทำไม่ขี่เครื่องบิน เพราะนบี ไม่เคย
ขี่เครื่องบิน เป็นต้น
ซึ่งที่จริงที่พูดเรื่องบิดอะฮ หมายถึงบิดอะฮ ในทางศาสนคือ
การอุตริความเชื่อหรือหลักปฏิบัติในเรื่องศาสนา ขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีคำสอนจากอัลกุรอ่านหรือหะดิษ ซึ่ง การกระทำแบบนี้เป็นข้อห้ามและท่านนบี ได้เตือนไว้
إياكم ومحدثات الأمور
พวกท่านพึงระวัง บรรดากิจการต่างๆที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่
ซึ่งหมายถึง
كل ما أحدثه الناس في دين الإسلام من البدع في العقائد والعبادات ونحوها مما لم يأت به كتاب ولا سنة ثابتة عن رسول الله صلى الله عليه وسلم، واتخذوه دينًا يعتقدونه، ويتعبدون الله به
ทุกสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ ขึ้นมาใหม่ในศาสนาอิสลาม ในเรื่อง อะกีดะฮ ,เรื่องอิบาดะฮ เป็นต้น จากสิ่งที่
อัลกุรอ่านไม่ได้นำมาและไม่ปรากฏ สุนนะฮที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ และพวกเขาเอามันมา
ทำเป็นศาสนา พวกเขาเชื่อมั่นและนำมันมาอิบาดะฮกับอัลลอฮ
- มัจญมัวะฟะตาวา อัลลุจญนะฮ เล่ม ๒๔ เรื่อง อะกีดะฮ
การทำบิดอะฮ นอกจากเป็นความผิดแล้ว การงานหรืออะมั้ลที่ทำนั้นจะไม่ถูกรับรอง เพราะไม่ได้เป็นคำสั่งของเจ้าของศาสนา คือ อัลลอฮ และ ศาสนาทูตของพระองค์ คือ นบีมุหัมหมัด
ท่านร่อซูลกล่าวว่า
مَنْ أَحْدَثَ فِيْ أَمْرِنَا هَذَا مَا لَيْسَ مِنْهُ فَهُوَ رَدٌّ
"ใครประดิษฐ์สิ่งใหม่ในเรื่องศาสนาของเรา สิ่งซึ่ง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งจากมัน มันถูกปฏิเสธ
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
เพราะฉะนั้น บิดอะฮ คือ สิ่งที่ควรระวัง ห้ามไม่ให้ทำ ไม่ใช่สิ่งที่ควรปกป้องและอนุรักษ์ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Tue Jan 25, 2011 11:43 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 11:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
๓, ชิริก
เรื่องชิริก ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจคือ ไม่กราบ ไหว้สิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮ เช่น เทวรูป ต้นไม้ เป็นต้น ทั้งๆที่ความจริง มันมีรายละเอียดมากกว่านั้น
ชิริก (ชิรฺกฺ) คือ การยกสิ่งใดๆ เป็นภาคีกับอัลลอฮฺผู้สูงส่งทั้งในด้านการสร้างสรรค์ การกราบไหว้ หรือในพระนามและคุณลักษณะของพระองค์
قال ابن سعدي: "حقيقة الشرك أن يُعبَد المخلوق كما يعبَد الله، أو يعظَّم كما يعظَّم الله، أو يصرَف له نوع من خصائص الربوبية والإلهية
อิบนุสะอฺดีย์ กล่าวว่า " ลักษณะที่แท้จริงของชิริกคือ การที่มัคลูคถูกเคารพภักดี เหมือนกับอัลลอฮถูกเคารพภักดี, หรือ มันถูกให้ความสำคัญ เหมือนกับที่อัลลอฮถูกให้ความสำคัญ หรือ การเปลี่ยนเอาชนิดที่เฉพาะเกี่ยวกับการเป็นพระเจ้าผู้อภิบาลและพระเจ้าผู้ควรเคารพภักดี ให้แก่มัคลูค - ดู ตัยสีรุลกะรีมอัรเราะหมาน เล่ม ๒ หน้า ๓๖๖
บางคน อ่านซูเราะฮอิคลาศเป็นประจำ ซึ่งอัลลอฮบอกว่า
الله الصمد
อัลลอฮทรงเป็นที่พึ่ง
แต่ กลับทำตะกรุด เครื่องรางขาย หรือไม่ก็ สวมใส่เครื่องราง แต่พอใครไปเตือน ก็กลับด่าว่า
"พวกวะฮบีย์ เสียงั้น"
เรื่อง ชิริก เป็นความผิดฐานละเมิดสิทธิของอัลลอฮ ดังที่อัลกุรอ่านระบุว่า
إِنَّ الشِّرْكَ لَظُلْمٌ عَظِيمٌ
แท้จริง การตั้งภาคีนั้น เป็นการอธรรมอันใหญ่หลวง - ซูเราะฮลุกมาน
...............
เพราะฉะนั้น ควรจะแยกให้ถูกว่า อะไรคือ คิลาฟียะฮ อะไรคือบิดอะฮ และอะไรคือ ชิริก
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 11:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อันนี้ผมเข้าใจครับอะสัน แต่การกล่าวหาในประเด็นอิญจติฮาดที่จากจากตนเองว่า"บิดอะอ์"นี่สิครับที่เป็นปัญหา ผมขอถามบังอะสันหน่อยว่า สมควรกล่าวหา"บิดอะอ์"กันแล้วหรือในประเด็นอิจญติฮาด(เรื่องคิลาฟ)
ป.ล มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน อย่างกรณีของนายkolisที่มักจะฮูก่มคนอื่นว่า"บิดอะอ์" หรือ"ผิด"ตลอดในทัศนะที่ต่างจากเขา _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 11:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | อันนี้ผมเข้าใจครับอะสัน แต่การกล่าวหาในประเด็นอิญจติฮาดที่จากจากตนเองว่า"บิดอะอ์"นี่สิครับที่เป็นปัญหา ผมขอถามบังอะสันหน่อยว่า สมควรกล่าวหา"บิดอะอ์"กันแล้วหรือในประเด็นอิจญติฮาด(เรื่องคิลาฟ)
ป.ล มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน อย่างกรณีของนายkolisที่มักจะฮูก่มคนอื่นว่า"บิดอะอ์" หรือ"ผิด"ตลอดในทัศนะที่ต่างจากเขา |
.............
ยกตัวอย่างเรื่องใดหรือ ที่อิจญติฮาดแล้วถูกกล่าวหาว่า บิดอะฮ แต่ถ้า บอกว่า สิ่งที่ไม่มีหลักฐาน
แต่นักวิชาการบ้านเราวินิจฉัย บอกว่าดี เช่น การทำเมาลิด จะไม่ให้เรียกว่า ทำบิดอะฮ
แล้วเรียกว่า อะไรหรือ ถ้าเอาตามนี้ ก็แสดงว่า อะไร อะไร ที่มีการวินิจฉัยบอกว่าดี ทั้งๆที่ไม่มีที่มา
จะเรียกว่า บิดอะฮไม่ได้ หรือ จะให้เรียกให้สวยหรูว่า "ผลผลิตจากการอิจญติฮาด" อย่างนั้นหรือครับน้องบ่าวเอฟวัน _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Jan 25, 2011 11:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้องเอฟวันครับ
คิลาฟกันในการเข้าใจหลักฐาน ไม่ควรจะเรียกว่า บิดอะฮครับ
ส่วนคิลาฟกับหลักฐาน นี่คือ ควรเรียกว่า "บิดอะฮ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
f1 มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/12/2010 ตอบ: 261
|
ตอบ: Wed Jan 26, 2011 12:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
งั้นลงรายละเอียดกันดีกว่า ยกตัวอย่าง เรื่องกุนูตในละหมาดฟัจญร์ บิดอะอ์หรือปล่าวครับ _________________ go die to no grass |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Jan 26, 2011 11:31 am ชื่อกระทู้: |
|
|
f1 บันทึก: | งั้นลงรายละเอียดกันดีกว่า ยกตัวอย่าง เรื่องกุนูตในละหมาดฟัจญร์ บิดอะอ์หรือปล่าวครับ |
เอ้า...ไปๆมาๆก็พายเรือในอ่าง วกกลับมาที่เดิมอีก _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|