shabab มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008 ตอบ: 303
|
ตอบ: Wed Aug 18, 2010 9:04 am ชื่อกระทู้: บริจาคกัน!หรือยัง ? |
|
|
บริจาคกัน!หรือยัง ?
โดย อบูนะบีล بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
الســـــــــــــــــلام عليكم ورحمـــــــــــــــــــــة الله وبركاته ผู้ศรัทธาเอ๋ย
การบริจาคนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา วันนี้พี่น้องบริจาคบ้างหรือยัง? การบริจาคของเรานั้นจะส่งผลดีต่อเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เป็นหนึ่งเสบียงแห่งการกลับไปสู่โลกหน้าและเป็นสิ่งที่ทำกันด้วยความง่ายดาย การบริจาคทรัพย์สินเงินทองหรือแม้แต่สิ่งของที่ดีๆให้กับผู้อื่นนั้นจะช่วยลดความตระหนี่ถี่เหนียว ของตัวเราได้
พี่น้องเอ๋ย เคยไหมเมื่อการบริจาคมายังท่าน เมื่อการใช้จ่ายในเรื่องของศาสนามายังท่าน ท่านละเลย ท่านเฉยเมย ท่านดูแคลน แต่เมื่อเป็นเรื่องความเพลิดเพลินในดุนยา หรือแม้กระทั่งเรื่องปากเรื่องท้องที่ต้องการ ท่านมักจะจ่ายมัน ท่านมักจะใช้มัน อย่างไม่คิด อย่างไม่พิจารณาว่าจะเหลือสักกี่บาท จะจ่ายมันสักกีตังค์ถึงจะพอกิน
รู้ไหม?? ทรัพย์สินที่เราถืออยู่นั้นไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของอัลลอฮฺซุบฮานาฮุวาตะอะลาต่างหากหล่ะ นั่นเป็นริซกีที่อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอะลาให้แก่เรามาเพื่อมาเป็นบททดสอบว่าเราจะลืมหรือรำลึกถึงอัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอะลา
ฉะนั้นแล้ว เราคงไม่ดูถูก เราคงไม่เฉยเมย เราคงไม่มองข้ามการบริจาคเพียงน้อยนิด แม้มันจะเป็นแค่บาท สองบาท แต่หากมันเต็มไปด้วยความอิคลาสใจเพื่ออัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอะลาจริงๆ มิใช่ทำเพื่อให้เขามอง มิใช่ทำเพื่อให้เขารู้ว่าเราเป็นผู้ใจบุญ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พระองค์อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอะลาทรงพอพระทัยแล้วนำมาซึ่งการประทานซึ่งความดีและริซกีต่างๆให้แก่เรา สิ่งสำคัญ ความพอพระทัยของพระองค์คือน้ำหนักบนตราชั่งของความดี และได้รับบัญชีข้างขวานั่นเอง
ผู้ศรัทธาครับ เราลองมามาอ่านและทบทวนหะดิษนี้เถิดครับ
รายงานจากท่านอาบู อับดุลเราะห์มาน อิบนูอาซัม ว่า ท่านรอซูลศอลลัลลอฮฮุอาลัยฮีวาซัลลัม กล่าวไว้ซึ่งมีใจความว่า 3 ประการข้าพเจ้าขอสาบาน ว่าเป็นเรื่องจริง
ประการแรก ไม่มีจำนวนเงิน จำนวนหนึ่ง จำนวนใด ซึ่งได้ถูกนำซึ่งศอดาเกาะฮออกจากจำนวนนั้นและจำนวนนั้นจะลดลงไป
ประการที่สอง ไม่มีคนหนึ่งคนใดที่ให้อภัย ต่อคดี คดีหนึ่ง ที่เขาถูกอธรรมจากผู้อื่น เว้นแต่ อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลาจะให้แก่ผู้ที่ให้อภัยได้รับความสูงส่ง ได้รับเกียรติ ดังนั้น โอ้บ่าวของอัลลอฮทั้งหลายจงให้อภัยกันเถิด แล้วพวกเจ้าจะได้รับเกียรติและความสูงส่งจากอัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลา
ประการที่สาม ไม่มีคนหนึ่งคนใด ที่เปิดประตูแห่งการขอทาน (ริเริ่มหรือสนับสนุนให้ชีวิตของคนๆหนึ่งเริ่มมีแหล่งรายได้จากการขอทาน) เว้นแต่ อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลา จะเปิดประตูแห่งความยากจนแก่เขา(บันทึกโดยท่านอิหม่ามอะหมัด ท่านอิหม่ามบัรซัร ท่านอิบนูอาบิบดุนยา เชคอัลบานีย์ว่าศอเหี่ยะย์)
ท่านรอซูลได้สาบานว่า ใครบริจาคเขาจะไม่ลดจะไม่ขาดของการบริจาค นั่นหมายถึงความจำเริญที่อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลาจะมอบแก่ผู้ที่บริจาคใช่ไหม นั่นคือผลตอบแทนของผู้เห็นคุณค่าของการบริจาคนั้นหรอกไหม แล้ววันนี้!คำสาบานของท่านรอซูลศอลลัลลอฮฮุอาลัยฮีวาซัลลัม มิได้ทำให้ท่านเชื่อในบารอกัตของการบริจาคทานดอกหรือ?
ลองคิดและทบทวนดูนะครับ มีมนุษย์สักคนไหมในโลกดุนยานี้ที่เขายอมลงทุนเงินตัวเองเพื่อให้คนอื่นแสวงหากำไรเข้าหาคนๆนั้นแล้วผู้ให้ไม่รับหรือเรียกสักบาทเดียวกลับมา แต่อัลลอฮซุบฮานาฮุวาตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงให้เราเพื่อลงทุนการประกอบความดี โดยไม่คิดกำไรและค่าตอบแทนสักบาทเดียว เลย
ALLAH AKBUR
ยิ่งเป็นเดือนอันประเสริฐนี้แล้วล่ะก็ อย่างน้อย การบริจาคหรือการเลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ถือศีลอดนั้น จะได้ผลบุญเท่ากับผลบุญของผู้ที่ถือศีลอดนั้นเลย
ซัยดฺ บิน คอลิด อัล-ญุฮะนีย์ เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«مَنْ فَطَّرَ صَائِمًا كَانَ لَهُ مِثْلُ أَجْرِهِ غَيْرَ أَنَّهُ لاَ يَنْقُصُ مِنْ أَجْرِ الصَّائِمِ شَيْئًا»
ผู้ใดเลี้ยงอาหารละศิยามแก่ผู้ถือศิยาม เขาจะได้ผลบุญ (จากการเลี้ยงอาหารดังกล่าว) เท่ากับผลบุญของผู้ถือศิยาม โดยที่ผลบุญ (จากการถือศิยาม) ของผู้ถือศิยามจะไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด (มุสนัดอะหมัด, เล่ม 4 หน้า 114, สุนันอัตติรมิซีย์, เลขที่ 807, สุนันอิบนุมาญะฮฺ, เลขที่ 1746, เศาะหีหฺอิบนุหิบบาน, เลขที่ 3429)
والسلام عليكم ورحمة الله |
|