ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - “มรดกอิสลาม”.............โดย แมทท์ (muslimThaiUSA.com)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
“มรดกอิสลาม”.............โดย แมทท์ (muslimThaiUSA.com)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5 ... 21, 22, 23  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ลัทธิ-นิกาย
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Mon Jun 14, 2004 8:13 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แมทท์

อัสลามมุอะลัยกุมท่านวิทยากร

ตอนนี้ผมคิดว่าเราพอจะสรุปประเด็น ของการอ้างอิง อายะ 4:65 ที่คุณพยามนำทางให้ผม มองความ ขัดแย้งระหว่าง 6:114 และ 4:65 ได้แล้ว เพราะว่าผมได้ นำคุณมาถึง “จุดที่ ผมต้องการ” คือให้คุณ ยืนยัน วลีที่ว่า “ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า” นั้น เป็น คำกล่าว ของ พระองค์อัลลอฮ์, ซึ่งคำอธิบายของผมตอนเริ่มแรกกล่าวว่า, คำขึ้นตั้น ของอายะ 4:65 นี้......“ เป็นการ ยืนยันว่า การตัดสินของ อัลลอฮ์ นั้นเป็นการตัดสินที่เด็ดขาด และ ไม่สามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงได้”

แสดงความแน่นอนและ ซึ่งหมายความถึงพระอง์อัลลอฮ์ พระองค์ ทรงยืนยัน ว่า “ท่านได้มอบอำนาจ ในการตัดสิน ปัญหา และ ข้อพิพาท ในกลุ่มผู้ศรัทธา ให้ท่านรอซูลล์ของท่าน" ถ้าผู้ศรัทธา มีอีหม่านที่แท้จริง ต่อ “พระองค์อัลลอฮ์” แล้ว เขาย่อมเชื่อฟังและยอมรับ ผลของการตัดสิน อย่างหน้าชื่นตาบานเปี่ยมล้นไปด้วยความศรัทธา

ดังนั้น เมื่อผมอธิบายความหมายตามความแท้จริงของอายะห์ (4:65) โดยแสดงความเกี่ยวโยง ถึง อายะ(4:64) และ (4:66) และจบลงด้วย อายะห์ (4:70) โดยที่อธิบายความหมายไว้อย่างถูกต้องและชัดเจน และทำให้อัลกุรอานง่าย ต่อ ความเข้าใจยิ่งขึ้นว่า

"การตัดสินและคำสั่งสอนของ ท่านรอซูลล์ นั้น ไม่ได้มาจาก การตัดสินใจ ของรอซูลล์ ที่อยู่ ในความรู้สึกของ ความเป็น บุคคลธรรมดา แต่ต้อง อยู่ในกฎบัญญัติของอัลลอฮ์ คือ อัลกุรอาน, ดังนั้น หลังจาก ท่านรอซูลล์ สิ้น ชีวิตไปแล้ว สิ่งที่มุสลิม จะต้องยึดถือ เป็นหลัก ในการ ตัดสิน ปัญหาในสังคม และประกอบศาสนกิจตาม คือ “อัลกุรอาน” ตามอายะ(6:114) "

ทั้งนี้ เพราะ อายะ 6:114 เป็น “วะฮี” จากอัลลอฮ์ ซึ่ง ไม่ใช่เรื่อง ราว ที่เล่าต่อๆกันมาหาความแน่นอนไม่ได้


วัสลาม

แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
วิทยากร
อนุรักษ์มรดกอิสลาม
อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004
ตอบ: 158


ตอบตอบ: Mon Jun 14, 2004 9:36 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


สวัสดีครับคุณ matt

ผมขอไม่รับสลาม จนกว่าคุณจะยืนยันว่ายอมรับ-ไม่ปฏิเสธฮะดีษศอเฮียะห์

*********************************

มันเป็นเรื่องแปลก..เราเป็นคนไทย สื่อสารกันด้วยภาษาไทยแท้ๆ แต่กลับวกวนเหมือนพายเรือในอ่าง

เรื่องที่คุณชี้แจงผมไม่ได้ติ แต่เรื่องที่ผมติคุณกลับไม่พูด .....ทำไม.....เพราะอะไร.....แล้วคุณจะยังพูดว่าได้บทสรุปแล้ว ซึ่งมันคือบทสรุปแบบโมเมของคุณเอง

คำพูดที่ว่า “การตัดสินของ อัลลอฮ์ นั้นเป็นการตัดสินที่เด็ดขาด และ ไม่สามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงได้” ผมบอกแล้วไงว่า นี่ไม่ใช่ประเด็นพิพาท ไม่มีมุสลิมคนใดปฏิเสธการตัดสินของอัลลอฮ์ แต่คุณก็ยังวกวนอยู่ตรงนี้

แต่การเอาประโยคนี้ไปตัดปะกับความหมายในอายะห์อื่นมันคือปัญหา

เรื่องที่ผมติคือ

1 - فلا وربك คุณแปลว่า อัลลอฮ์เท่านั้น คุณแปลผิดทั้งที่ความหมายจริงคือ ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า

2 - คุณบิดเบือนวัตถุประสงค์ของอายะห์ด้วยการเอาประโยคนี้ตัดปะ แล้วอธิบายแบบชักลากคือ ......“ เป็นการ ยืนยันว่า การตัดสินของ อัลลอฮ์ นั้นเป็นการตัดสินที่เด็ดขาด และ ไม่สามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงได้” ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิเสธ การตัดสินของท่านนบี ซึ่งเป็นจุดยืนที่คุณประกาศว่า ไม่รับฮีษศอเฮียะห์

ผมเชิญชวนให้คุณกลับมาน้อมรับอัลกุรอานและฮะดีษศอเฮียะห์ ก่อนที่จะสายเกินแก้

“ผมชวนคุณเป็นครั้งที่สามแล้วนะ”


_________________


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
AlGhuraba
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 226


ตอบตอบ: Tue Jun 15, 2004 2:33 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอะลัยกุม .... พี่น้องมุสลิมที่รัก "ทุกท่าน"
จ๊ะเอ๋ .... คูณ แมทท์ ที่คิดถึง

ขอตีตั๋วเข้ามานั่งดูเป็นกำลังใจให้คุณแมทท์ครับ
คงยังจำสหายเก่าคนนี้ได้นะครับ
อย่าเพิ่ง ถอดใจซะล่ะ ....ที่นี่ไม่มีใครไล่หรอก
ลุยไปเรื่อยๆก่อน ผักบุ้งยังมีอีกเยอะครับ

ว่างๆจะมาคุยด้วยอีกคน .... นะ ลุงแมทท์

----------------------------
อัลฆุเราะบาอ์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
วะฮาบีย์
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 10/06/2004
ตอบ: 31


ตอบตอบ: Tue Jun 15, 2004 4:21 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

بسم الله الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله

ขอทวนความเข้าใจ -

1. คุณ matt เชื่อว่า ฮะดีษ ไม่ว่าจะศอฮี้หรือไม่ ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการกำหนดศาสนบัญญัติได้
Matt บันทึก:
การใช้ ฮะดีษ "ศอเฮียะห์" หรือ "ฎออีฟ" มีผลเท่ากันในคุณภาพ ผมจึงจะเลือกใช้แต่เพียง "อัลกุรอาน" เป็น "แหล่งวิชา" แต่เพียง อย่างเดียวเท่านั้น


2. คุณ Matt เชื่อว่า เพียงอัลกุรอานเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
Matt บันทึก:
“อัลกุรอาน” นอกจากจะบรรจุรายละเอียดสำหรับการเรียน, การสอน และการปฏิบัติ ศาสนกิจ ไว้อย่างละเอียดและสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ยังบรรจุไว้ด้วย, “ตรรกวิทยา” ที่ทำให้ผู้ศึกษาที่มีความศรัทธาต่ออัลลอ์ และ กีตาบุลลอฮ์ (อัลกุรอาน) อย่างแท้จริง, เกิดสติปัญญาความรู้, ความเฉลียวฉลาด. และรู้จักการใช้ความรู้และปัญญาตัดสินอย่างเฉียบแหลม ด้วย การคิดหาเหตุผลว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ประการใด


ผมเรียนรบกวนถามคุณ Matt เพื่อเป็นความรู้แก่ทุกคนในที่นี้

อัลลอฮฺตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ إِذَا قُمْتُمْ إِلَى الصَّلاةِ فاغْسِلُواْ وُجُوهَكُمْ وَأَيْدِيَكُمْ إِلَى الْمَرَافِقِ وَامْسَحُواْ بِرُؤُوسِكُمْ وَأَرْجُلَكُمْ إِلَى الْكَعْبَينِ وَإِن كُنتُمْ جُنُبًا فَاطَّهَّرُواْ وَإِن كُنتُم مَّرْضَى أَوْ عَلَى سَفَرٍ أَوْ جَاء أَحَدٌ مَّنكُم مِّنَ الْغَائِطِ أَوْ لاَمَسْتُمُ النِّسَاء فَلَمْ تَجِدُواْ مَاء فَتَيَمَّمُواْ صَعِيدًا طَيِّبًا فَامْسَحُواْ بِوُجُوهِكُمْ وَأَيْدِيكُم مِّنْهُ مَا يُرِيدُ اللّهُ لِيَجْعَلَ عَلَيْكُم مِّنْ حَرَجٍ وَلَـكِن يُرِيدُ لِيُطَهَّرَكُمْ وَلِيُتِمَّ نِعْمَتَهُ عَلَيْكُمْ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ


ความว่า : ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เมื่อพวกเจ้าจะละหมาด ก็จงล้างหน้าของพวกเจ้า และมือของพวกเจ้าถึงข้อศอก และจงลูบศีรษะของพวกเจ้า และเท้าของพวกเจ้าถึงตาตุ่มทั้งสอง และหากพวกเจ้ามีญะนาบะฮฺ ก็จงทำความสะอาด และหากพวกเจ้าป่วย หรืออยู่ในการเดินทาง หรือคนใดในหมู่พวกท่านมาจากการถ่ายทุกข์ หรือได้สัมผัสหญิงมา แล้วพวกเจ้าไม่พบน้ำก็จงมุ่งสู่ดินที่ดี แล้วลูบใบหน้าของพวกเจ้า และมือของพวกเจ้า จากดินนั้น อัลลอฮฺนั้นไม่ทรงประสงค์เพื่อจะให้มีความลำบากใด ๆ แก่พวกเจ้า แต่ทว่าทรงประสงค์ที่จะให้พวกเจ้าสะอาด และเพื่อให้ความกรุณาเมตตาของพระองค์ครบถ้วนแก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ

1. ถามว่าเวลาจะอาบน้ำละหมาดคุณ Matt ทำอย่างไร
ล้างหน้า ล้างแขน ลูบหัว ล้างเท้า เป็นอันเสร็จ ???
2. และหากพวกเจ้ามีญะนาบะฮฺ ก็จงทำความสะอาด
ทำความสะอาดในที่นี้คืออะไร ทำอย่างไร ช่วยหาในอัลกุรอานทีว่าอยู่อายะห์ไหน

3. แล้วละหมาดวันหนึ่งมีกี่เวลา ผมสงสัยจังว่าที่ละหมาด 5 เวลาจะถูกต้องไหม เพราะยังหาหลักฐานในอัลกุรอานไม่เจอ ช่วยหาให้ทีสิครับ ด่วนด้วยนะครับ

ขอแค่นี้ก่อนละกันนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Tue Jun 15, 2004 7:08 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามมุอะลัยกุิมคุณวิทยากร

ผมต้องขออภัยด้วย ที่ไม่ทันอานกระทู้ของคุณ U เมื่ออ่านแล้วรู้สึกว่า คุณเป็นตัวอย่างของมุสลิมที่ดีคน หนึ่ง ที่ต้องการความสามัคคี

เรื่องที่คุณวิทยากร “ติแมทท์” ก็คือ ....

1 - فلا وربك คุณแปลว่า อัลลอฮ์เท่านั้น คุณแปลผิดทั้งที่ความหมายจริงคือ “ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า”

ความจริง แล้ว เรื่อง นี้ ถ้าจะเอา ให้แพ้ชนะกันแล้ว ย่อมไม่เกิด ผลดีอะไรขึ้นมาเลยและไม่มีทางจบสิ้น, ซึ่งเราสามารถ ที่จะเห็นตัวอย่าง จาก ประวัติศาสตร์ ระหว่าง ชีอะต์ มุสลิม และ ซุนนีย์ มุสลิม นอกจากความบาด หมางใจกัน เพราะในการแปล ภาษาต่างประเทศ บางท่านแปลอย่าง ตรงไปตรงมา เอาแต่ความหมาย เท่านั้น บางท่าน ก็แปลแบบมี “บทเอื้อน” แต่ถ้าความหมายความเข้าใจตรง กันแล้ว ผมรับคำแปลได้ทั้งนั้น (รวมทั้งผู้แปลในภาษาต่างๆด้วย)

นั้นก็หมายความว่า ผมยอมรับคำแปลของท่าน วิทยากร ที่แปลว่า “ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า” ดังนั้น ผมจึงเอา คำสาบานนี้ไปไว้ในวลีเริ่มต้น แทนที่ผมแปลไว้ จะได้ความดังนี้

“ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า ”, ผู้คนเหล่านั้น จะไม่มีความศรัทธาที่แท้จริง , “จนกว่า” ที่ผู้คนเหล่านั้นจะยอมรับ ให้เจ้า เป็นผู้ตัดสิน ในข้อพิพาท ต่างๆระหว่าง พวกเขา, และถ้าพวกเขามีความโปร่งใสภายใต้จิตสำนึก ของ พวกเขา ในการยอมรับคำตัดสินของเจ้า จะไม่มีเหตุผลอื่นใดเลยนอกเสียว่าผู้คนเหล่านั้นมีความเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาที่แท้จริง”

ตอนนี้คุณวิทยากร สบายใจหรือยัง ครับ ในเรื่องความหมายของ คำว่า “فلا وربك” ซึ่งแปลว่า “ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้า”, และ ขอขอบคุณที่คุณได้นำความรู้ใหม่ทาง, “ภาษาอรับ” มาสอนผม

2 –คำติของวิทยากรข้อที2.

คุณบิดเบือนวัตถุประสงค์ของอายะห์ด้วยการเอาประโยคนี้ตัดปะ แล้วอธิบายแบบชักลากคือ ......“ เป็นการ ยืนยันว่า การตัดสินของ อัลลอฮ์ นั้นเป็นการตัดสินที่เด็ดขาด และ ไม่สามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงได้” ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิเสธ การตัดสินของท่านนบี ซึ่งเป็นจุดยืนที่คุณประกาศว่า ไม่รับฮีษศอเฮียะห์

ข้อกล่าวหานี้ร้ายแรง มากเปรียบ เหมือน ผม พายเรืออยู่ในอ่าง, ผมจะลองพยายามภายเรือ ออก จากอ่าง อีกครั้ง เพื่ออธิบายข้อกล่าว หาจากท่านวิทยากร เพื่อผมจะได้ ออกจากอ่าง เข้า “แปซิฟิก” แล้ว มุ่งหน้า กลับ USA เพราะจากบ้านมานานแล้ว .......


ท่านวิทยากรกล่าวว่า......

การยึดถืออัลกุรอานนั้นมิใช่ยึดเป็นบางส่วนแล้วปฏิเสธอีกบางส่วน ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวว่า

أفتؤمنون ببعض الكتاب وتكفرون ببعض

“พวกเจ้าจะศรัทธาในบางส่วนของคัมภีร์ และปฏิเสธอีกบางส่วนกระนั้นหรือ” ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 85

แล้วท่านวิทยากร ก็เปรียบเทียบโดยกล่าวว่า “อัลกุรอานที่คุณนำมาแสดงเพื่อยืนยันว่า การใช้อัลกุรอานอย่างเดียวก็เป็นที่พอเพียงนั้นคือ

1 - ฉันยังจะต้องแสวงหาผู้ตัดสินอื่นๆ นอกจากพระองค์อัลลออ์อีกหรือ ? และพระองค์ผู้ซึ่งประทานคัมภีร์ซึ่งง่าย(ต่อความเข้าใจ); และพวกเขาผู้ซึ่งเราให้คัมภีร์แก่เขามาแล้ว, รู้ดีว่า มันเป็นโองการของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง, ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะอยู่ในบรรดาผู้คัดค้าน (6:114)

ในขณะที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงยืนยันในอีกอายะห์หนึ่งว่า ผู้ศรัทธานั้นยอมให้ท่านนบีตัดสินคือ

“หาได้เป็นเช่นนั้น ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้าว่า พวกเขายังไม่ศรัทธาจนกว่า พวกเขาจะให้เจ้า (มูฮัมหมัด) ตัดสินกรณีพิพาทระหว่างพวกเขา โดยที่จะไม่พบความคับแค้นในหัวใจของพวกเขาในสิ่งที่เจ้าตัดสิน และพวกเขาน้อมรับแต่โดยดี” (ซูเราะห์อัลนิซาอ์ อายะห์ที่ 65)


เมื่อท่านวิทยากร นำ สองอายาตนี้ มาเปรียบเทียบกันและตั้งคำถามผมว่า....

ทั้งสองอายะห์นี้จะค้านกันไหม ผมหวังว่า คุณคงไม่ยอมรับอายะห์หนึ่ง แล้วก็ปฏิเสธอีกอายะห์หนึ่ง?


ทั้งนี้เพราะว่า ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 85 กล่าวว่า

“พวกเจ้าจะศรัทธาในบางส่วนของคัมภีร์ และปฏิเสธอีกบางส่วนกระนั้นหรือ”

ท่านวิทยากร ได้อ้าง อายะนี้มาเพื่อ ที่จะ ชี้ให้ผมเห็น ว่า ในการยก อายะใดๆในอัลกุรอาน มาอ้างนั้น ผมจะเลือกแต่ อายะห์ ที่ สนับสนุน ความต้องการของ ผมไม่ได้, ซึ่งผมเห็นด้วย กับท่านวิทยากรในข้อนี้

แล้วท่านวิทยากรก็ยกเอา ซูเราะห์อัลนิซาอ์ อายะห์ที่ 65 มาอ้าง ทั้งนี้เพื่อให้ผมเห็นว่า “การที่เราจะมีศรัืทธาต่ออัลลอฮ์ ได้นั้นเราจะต้อง มีศรัทธาต่อ ท่านรอซูลล์เสียก่อน นั้นก็คือการเชื่อฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านรอซูลล์สั่งสอน ทั้งนี้ท่านวิทยากร หมายถึงให้ เชื่อฟัง หนังสือที่รวบรวม การจดบันทึกเรื่องเล่าลือ ที่ อ้างว่า เคยมีผู้ได้ยิน สิ่งที่ท่านรอซูลล์ได้กล่าวสอนไว้ในอดีต หรือที่เรียก ว่า “อะฮะดีษ” ด้วย


แต่ท่านวิทยากร ประพฤติตัวขัดกับที่ท่าน “สอน” ของท่าน ท่านหยิบมาเพียง ซูเราะห์อัลนิซาอ์ อายะห์ที่ 65 มาเพียง อายะห์เดียว ขึ้นมาอ้าง ถ้าคุณๆ ไม่อ่าน ซูเราะห์อัลนิซาอ์ ให้ตลอด โดยเฉพาะ 4:64 และ 4:65, 4:66, และ 4:70 แล้วคุณอาจจะเข้าใจผิด และจะเห็นด้วยไปกลับ ท่านวิทยากร การเปรียบเทียบมีดังต่อไปนี้

ซูเราะห์อัลนิซาอ์ อายะห์ที่ 65

“หาได้เป็นเช่นนั้น ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้าว่า พวกเขายังไม่ศรัทธาจนกว่า พวกเขาจะให้เจ้า (มูฮัมหมัด) ตัดสินกรณีพิพาทระหว่างพวกเขา โดยที่จะไม่พบความคับแค้นในหัวใจของพวกเขาในสิ่งที่เจ้าตัดสิน และพวกเขาน้อมรับแต่โดยดี”

และอายะห์(6:114)

“ฉันยังจะต้องแสวงหาผู้ตัดสินอื่นๆ นอกจากพระองค์อัลลอฮ์อีกหรือ ? และพระองค์ผู้ซึ่งประทานคัมภีร์ซึ่งง่าย(ต่อความเข้าใจ); และพวกเขาผู้ซึ่งเราให้คัมภีร์แก่เขามาแล้ว, รู้ดีว่า มันเป็นโองการของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง, ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะอยู่ในบรรดาผู้คัดค้าน”

ท่านวิทยากรถามผมว่า...ทั้งสองอายะห์นี้จะค้านกันไหม ผมหวังว่า คุณคงไม่ยอมรับอายะห์หนึ่ง แล้วก็ปฏิเสธอีกอายะห์หนึ่ง?

เมื่อท่านวิทยากร ตั้งคำถามผมเช่นนี้ แสดงว่าท่านมีเจตนา จะให้ผมเข้าใจผิด คิด ว่า อัลกุรอานมีความขัดแย้งกัน....ใช่ไหมครับ?

ข้อนี้ผมอยากให้ท่านวิทยากรณ์ช่วยอธิยาย ให้ผมทราบด้วย ว่า วัตถุประสงค์ของอายะห์ นี้ บัญญัติ มาเพื่ออะไร? และเหตุไร ท่านวิทยากรจึงยกอายะนี้ขึ้นมาในการเสวนานี้ และเพื่อเจตนาอะไร?


ผมขอตอบว่าทั้งสองอายาต (4:65และ6:114), “ไม่ค้านกัน” แต่ในทางตรงกันข้ามกลับสนับสนุน ให้เห็นจริงว่า “การตัดสินข้อปัญหาและข้อพิพาทในระหว่างผู้คน นั้นพระองค์อัลลอฮ์ ได้ให้อำนาจ ท่านรอซูลล์ ในการตัดสินข้อปัญหาและข้อพิพาทในระหว่างผู้คน การตัดสินข้อปัญหาและข้อพิพาทในระหว่างผู้คน จะต้องอยู่ภายในข้อ บัญญัติ ในอัลกุรอานเท่านั้น เพราะอัลลอฮ์ผู้มีอำนาจชี้ขาด ไม่มีผู้ใดสามารถ เปลี่ยนแปลงได้”

ทั้งนี้เพราะ จากความหมายของ อายะ 4:64, และ 4:65 และ 4:70

64. และเรามิได้ส่งร่อซูลคนใดมานอกจากเพื่อให้เขาได้รับการเชื่อฟัง ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ์เท่านั้น และแม้ว่าพวกเขานั้นขณะที่พวกเขาอธรรมแก่ตัวเอง, ได้มาหาเจ้า แล้วขออภัยโทษต่ออัลออฮ์และร่อซูลก็ได้ขออภัยโทษให้แก่พวกเขาด้วยแล้วแน่นอน พวกเขาก็ย่อมพบว่าอัลลอฮฺนั้นคือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ในอายะนี้จะเห็นว่า “อำนาจทั้งหมดอยู่ที่อัลลอฮ์ ในการอนุมัติให้สิทธิ์แก่ท่านรอซูลล์ให้เป็นผู้ตัดสิน และ บัญญัติให้ ผู้คนยอมรับการตัดสินของท่านรอซูลล์, และการให้อภัยนั้น เป็นสิทธิ์ ของอัลลอฮ์เท่านั้น


66. และแม้นว่าเราได้กำหนดแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงฆ่าตัวของพวกเจ้าเองหรือจงออกไปจากหมู่บ้านของพวกเจ้า พวกเขาก็ไม่กระทำตามกำหนดนั้น นอกจากเพียงเล็กน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น และแม้ว่าพวกเขาได้กระทำตามสิ่งที่พวกเขาได้รับคำแนะนำแล้ว แน่นอนก็เป็นสิ่งดียิ่งแก่พวกเขา และเป็นสี่งที่ทำให้มั่นคงยิ่ง

ซึ่หมายความว่า....เพราะพวกเขามิได้ศรัทธาต่อท่านนะบีมุฮัมมัด ซึ่งถ้าพวกเขาศรัทธาแล้วไม่ว่าพวกเขาจะถูกกำหนดให้ทำอะไรจะต้องถือว่าเป็นคำสั่งของพระเจ้า และจะต้องมั่นใจว่า คำสั่งของพระเจ้านั้นล้วนแต่จะก่อให้เกิดความดีแก่พวกเขาทั้งสิ้น แม้จะใช้ให้พวกเขาฆ่าตัวเองหรืออพยพออกจากหมู่บ้านของพวกเขาไป

70. ความกรุณาดังกล่าวนั้นมาจากอัลลอฮฺและพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้

ทั้งสามอายาตนี้สนับสนุน อายะห์ 6:114 ที่กล่าวว่า

“ฉันยังจะต้องแสวงหาผู้ตัดสินอื่นๆ นอกจากพระองค์อัลลอฮ์อีกหรือ ? และพระองค์ผู้ซึ่งประทานคัมภีร์ซึ่งง่าย(ต่อความเข้าใจ); และพวกเขาผู้ซึ่งเราให้คัมภีร์แก่เขามาแล้ว, รู้ดีว่า มันเป็นโองการของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง, ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะอยู่ในบรรดาผู้คัดค้าน”

ทำให้ความหมายของอายะ 6:114 มีความแข็งแรงขึ้น ด้วยเหตุผลต่อไปนี้:

1. การเชื่อฟัง ท่านรอซูลล์นั้นจะต้องอยู่ภายใต้การนุมัติของอัลลอฮฺ์เท่านั้น (อัลกุรอาน) อัลลอฮฺนั้นคือผู้ทรงอำนาจเด็ดขาดในการอภัยโทษ (4:64)

2. ไม่ว่าท่านรอซูลล์จะตัดสินหรือกำหนดให้เราทำอะไรก็ตามเราจะต้งถือว่าเป็นคำสัั่่งของ”อัลลอฮ์”, ซึ่งคำสั่งของ อัลลอฮ์ก็คือ “อัลกุรอาน” (4:66)

3. การกำหนดให้สิทธิ์ท่านรอซูลล์ ในการตัดสินปัญหาและข้อพิพาท และ การขออภัยให้แก่ผู้ประพฤติผิด ต่อพระองค์อัลลอฮ์นั้นรวมทั้ง เป็นความกรุณาของอัลลอฮ์ และ การเชื่อฟังท่านรอซูลล์ จะเป็นผลดีต่อผู้ปฏิบัติทั้งนี้เพราะว่า พระองค์ อัลลออ์ ทรงเป็นผู้ที่มีความกรุณาเสมอ, เพราะพระองค์ทรง เป็นผู้รอบรู้ (4:70)


ด้วยเหตุนี้ท่านรอซูลจึงกล่าวด้วย “วะฮี” ใน 6:114 ไว้ดังนี้

“ฉันยังจะต้องแสวงหาผู้ตัดสินอื่นๆ นอกจากพระองค์อัลลอฮ์อีกหรือ ? และพระองค์ผู้ซึ่งประทานคัมภีร์ซึ่งง่าย(ต่อความเข้าใจ); และพวกเขาผู้ซึ่งเราให้คัมภีร์แก่เขามาแล้ว, รู้ดีว่า มันเป็นโองการของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง, ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะอยู่ในบรรดาผู้คัดค้าน”


ท่านวิทยากรเข้าใจหรือยังว่า ความมหัศจรรย์ ของอัลกุรอานอยู่ที่ตรงนี้ เพราะว่าไม่ว่า คุณจะยกอะไรมาอ้าง ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า อายะ 4:65 ค้านกันกับอายะ 4:114 ซึ่งคุณวิทยากรอาจ จะกระทำไปโดยรู้เท่าไท่ถึงการ หรืออาจจะ อ่านอัลกุรอานไม่ละเอียด พอ หรือ พยายามจะ บิดเบือนความเข้าใจของผมต่อ อัลกุรอานไป โดยไม่เจตนา ผมหวังว่า คุณคงไก้รับอภัยจาก “อัลลออ์เสมอ” เพราะพระองค์ ทรงเป็นผู้อภัยและมีเมตตาเสมอ ดังนั้นคุณก็ยังคงมีความเป็นมุสลิมเสมอ และผมก็คงให้สลามต่อคุณต่อไป และจะรับสลามกับคุณทุกเมื่อ


ที่ท่านวิทยากร ขอร้อง ให้ผมยอมรับ “ซอเฮี็ยะฮ์ อะฮะดีษนั้น” ผมจะรับไว้พิจารณา แต่คงไม่ยกระดับ เท่าเทียม “อัลกุรอาน” ถ้าหากว่า คุณวิทยากรจะ กรุณา อธิบายให้ผมเข้าใจอย่างละเอียดว่า ทำไม ซอเฮี็ยะฮ์ อะฮะดีษ ข้างล่างนี้ถึงแตกต่างกัน ในเมื่อ การบันทึกทำพร้อมกัน

ผมมีปัญหาที่อยากจะให้คุณตอบ คือว่า "จาก “คุตอบะ” ครั้งสุดท้าย ของท่านรอซูลล์มูฮัมมัด มีผู้ฟังอยู่เป็นจำนวน พันๆคน แต่ในการจดบันทึกฮะดีษ มีบันทึกไว้ 3 ภาค และเป็นไปได้อย่างไร?

ภาคที่1. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน “อัลกุรอาน” และ “ซุนนะห์” (มุวัตตะ, 46/3)

ภาคที่2. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน “อัลกุรอาน” และ อะฮ์ลาลบัยต์ (อะฮ์ลุลบัยต์)
(มุสลิม 44/4, นู2408; อิบนฺ ฮะนะบาล4/366; ดอริมิ23/1; นู 3319)

ภาคที่3. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, “อัลกุรอาน” อย่างเดียวเท่านั้น (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56)

ทั้ง สามภาคนี้มาจากฮาดีษ มาตรฐาน ชนิดใด? ฏออีฟ หรือ ซอเฮียะฮ์ ? และเราควรจะตาม ฮาดีษ ภาคใดใน 3 ถาคนี้ กรุณาให้ความกระจ่างแก่ผมด้วย ผมจะได้นับถือคุณว่า เป็นผู้ มีหลักวิชาที่จะให้ความรู้ และ สามารถที่จะเปลี่ยนใจผมได้


และอีกบันทึกหนึ่งซึ่งผมสงสัยว่า ใครกล่าวถึงใคร? จากบันทึกอันนี้....


เพื่อตัดความให้สั้นลงโดยไม่ถอยหลังกลับไปเล่าประวัติศาสตร์ ้ ไปถึง อุมายยิดและอับบาซิด คอลิฟ....ท่านอุมมาฮ์ผู้โชคร้ายผู้หนึ่งได้ตัดสินใจผิด, หลังจากการจากไปของท่านรอซูล, แม้แต่กระทั่งจนวินาทีสุดท้ายท่านอุมาฮ์ ท่านนี้ขอร้องให้ผู้ติดตามท่านให้นำ กระดาษและปากกาเพื่อว่า ท่านอุมมาฮ์ผู้นั้น จะได้เขียนข้อความที่จะป้องกัน พวกเขาจากการ หลงทางแห่งความศรัทธา ภายหลังจากท่าน, แต่ผู้คนที่อยู่รอบข้างท่าน ไม่ต้องการให้ท่านอุมมาฮ์ บอกความตั้งใจของท่านด้วยการจดบันทึก, และมีสาวกผู้หนึ่งกล่าวว่า

“หนังสือของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน)นั้นเพียงพอสำหรับเราแล้ว”

(ซอเอียะ บุคอรี, ซอเอียะ Mมุสลิม, ฟัตขฮุล บะรี, ตับรอนิ, ตอริคฮ์ อะฮ์มะดิ)

การ ประกาศ ดังกล่าวของผู้ติดตาม อุมมาฮ์ ผู้นี้ สังเกตว่าท่านอุมมาฮ์ ผู้แก่ชรากำลังอยู่ในสภาพ เพ้อเจ้อ ย่อมจะเขียนสิ่งใดที่ขัดต่อบัญญัติของอัลกุรอาน เพราะเราไม่อาจกล่าวได้ว่าท่านอุลลามาฮ์ผู้นี้โง่เขลาและไม่รู้จัก “อัลกุรอาน”


ผมหวังว่าจะได้ความรู้จากคุณวิทยากร ในเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย



วัสลาม


แมทท์


ผมต้องมะอัฟ คุณวะฮาบีย์ ด้วย ผมจะกลับมาคุยทีหลัง ผมสงสัยว่าจะต้อง อยู่ที่นี่อีกนาน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 12:28 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอะลัยกุมหลาน AlGhuraba

เหลือบไปข้างบนเห็นหลานชายสุดที่รัก, ....ดีใจ จริงๆ ลุงก็คิดถึงหลานเป็นอย่างยิ่งทีเดียว เมื่อตอนสุดท้ายที่ได้ยินเค้าว่า นะ.... เห็น ว่า หลาน "รับประทานโรตีคลุกกับหัวปลาทู"..ไม่ใช่หรือ? เลื่อนอันดับ มารับประทาน "ผักบุ้ง" แล้วหรือ ในอเมริกาหาผักบุ้งทานยากเหลือเกิน.... ที่นี่น้ำเชี่ยวจริง .....แต่ก็ได้ความรู้อีกมากมายที เดียว ......ถ้าได้หลานมาช่วยแนะนำลุงด้วย ให้เห็นทาง สว่างแล้ว ...ลุงอาจจะกลับใจด้วยก็ได้ ลุงว่าถ้าหลานจะชวน น้อง "คอลิฟะ" มาด้วย ก็จะดีทีเดียว

ถ้ามีโอกาสจะมาเยี่ยมหลานอีก, ทำไมไม่ชวนเพื่อนหลานมาด้วยละ? (ลูกศิษย์ของหลานนะ....เธอมีความรู้ดีนะ..ได้อาจารย์ดีๆอย่างหลาน

รักและคิดถึงหลานเสมอ

วัสลาม

ลุงแมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
วิทยากร
อนุรักษ์มรดกอิสลาม
อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004
ตอบ: 158


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 3:45 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

االسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

สลามพี่น้องมุสลิมทุกท่าน
สัวสดีอีกครั้งครับคุณ matt

คุณ matt รู้สึกละอายใจบ้างไหมครับ ที่บิดเบือนคำพูดของผม ทั้งที่ผม ซึ่งเป็นเจ้าของคำพูดก็ยังอยู่ตรงนี้ คำพูดที่ว่า “ทั้งนี้ท่านวิทยากร หมายถึงให้ เชื่อฟัง หนังสือที่รวบรวม การจดบันทึกเรื่องเล่าลือ ที่ อ้างว่า เคยมีผู้ได้ยิน สิ่งที่ท่านรอซูลล์ได้กล่าวสอนไว้ในอดีต หรือที่เรียก ว่า “อะฮะดีษ” ด้วย” นี่เป็นคำของคุณ matt เองที่ยัดเหยียดให้ผม

คำว่า ให้เชื่อฟังรอซูล กับคำว่า ให้เชื่อฟังหนังสือที่รวบรวม....... แตกต่างกัน ไม่เหมือนกันนะครับ เพราะคำของรอซูลคือวะฮีย์ แต่หนังสือที่รวบรวมอาจจะมีคำของคนอื่นปลอมปนมา แล้วอ้างว่าเป็นคำของนบีด้วย, ด้วยเหตุนี้จึงมีกระบวนการตรวจสอบ แล้วจำแนกว่า อันไหนคือคำนบี และอันไหนปลอมปน เราจึงได้ยินคำว่า ฮะดีษศอเฮียะห์, ฮะดีษฏอีฟ และฮะดีษเมาดัวอ์

คำว่า ให้เชื่อฟังหนังสือที่รวบรวม...นั่นหมายถึงให้เชื่อทั้งฮะดีษจริงและเท็จปะปนกันไป ความจริงผมสนทนากับคุณด้วยภาษาไทยไม่ใช่ภาษาต่างด้าว ไม่น่ามั่วนิ่มขนาดนี้

ท่านนบีได้สอนว่า “ถ้าไม่มียางอายก็ทำเถอะในสิ่งที่อยากทำ” (บันทึกโดยบุคคอรี)

แต่...คุณ matt ไม่เชื่อฮะดีษศอเฮียะห์ นี่น่า

_________________


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
วิทยากร
อนุรักษ์มรดกอิสลาม
อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004
ตอบ: 158


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 3:51 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



คุณ matt กล่าวว่า......แต่ท่านวิทยากร ประพฤติตัวขัดกับที่ท่าน “สอน” ของท่าน ท่านหยิบมาเพียง ซูเราะห์อัลนิซาอ์ อายะห์ที่ 65 มาเพียง อายะห์เดียว ขึ้นมาอ้าง ถ้าคุณๆ ไม่อ่าน ซูเราะห์อัลนิซาอ์ ให้ตลอด โดยเฉพาะ 4:64 และ 4:65, 4:66, และ 4:70 แล้วคุณอาจจะเข้าใจผิด และจะเห็นด้วยไปกลับ ท่านวิทยากร

เป็นเรื่องตลกครับ..ที่คุณ matt คุยจนลืมต้นเรื่อง หรือคงจะลืมไปว่าเคยโพ้สต์ข้อความใดไว้บ้าง คุณไม่ใช่หรือครับที่นำเอาอายะห์ 6 :114 นี้มาอ้างเพียงอายะห์เดียว เพื่อเชิญชวนสู่การปฏิเสธฮะดีษศอเฮียะห์ ดังนี้

“ฉันยังจะต้องแสวงหาผู้ตัดสินอื่นๆ นอกจากพระองค์อัลลอฮ์อีกหรือ ? และพระองค์ผู้ซึ่งประทานคัมภีร์ซึ่งง่าย(ต่อความเข้าใจ); และพวกเขาผู้ซึ่งเราให้คัมภีร์แก่เขามาแล้ว, รู้ดีว่า มันเป็นโองการของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง, ดังนั้นเจ้าไม่ควรจะอยู่ในบรรดาผู้คัดค้าน”

แต่เมื่อผมทักท้วงว่า ไม่ใช่ยอมรับในการตัดสินของอัลลอฮ์อย่างเดียว เราต้องยอมรับในการตัดสินของท่านรอซูลด้วย 4 : 65 ดังนี้

“หาได้เป็นเช่นนั้น ขอสาบานด้วยองค์อภิบาลของเจ้าว่า พวกเขายังไม่ศรัทธาจนกว่า พวกเขาจะให้เจ้า (มูฮัมหมัด) ตัดสินกรณีพิพาทระหว่างพวกเขา โดยที่จะไม่พบความคับแค้นในหัวใจของพวกเขาในสิ่งที่เจ้าตัดสิน และพวกเขาน้อมรับแต่โดยดี”

เมื่อผมนำเอาอายะห์นี้มาแสดง คุณ matt กลับพยายามบิดเบือนความหมาย จนนำไปสู่การกล่าวของผมที่ว่า คุณ matt แปลผิด และบิดเบือนความหมาย แต่ขณะนี้คุณยอมรับแล้วว่าแปลผิดจริง แต่คุณก็ยังดิ้นรนด้วยการจับแพะชนแกะอยู่อีก

คุณ matt ถามว่า....เหตุไร ท่านวิทยากรจึงยกอายะนี้ขึ้นมาในการเสวนานี้ และเพื่อเจตนาอะไร?

ผมตอบว่า..เพื่อให้คุณได้ทราบว่า การเป็นมุสลิมนั้นต้องน้อมรับทั้งอัลกุรอานและฮะดีษศอเฮียะห์

แล้วคุณละ matt ยกอายะห์ 6 : 114 มาเพื่ออะไร เจตนาอะไร อย่าบิดเบือนคำพูดตัวเองนะครับ

_________________


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
วิทยากร
อนุรักษ์มรดกอิสลาม
อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004
ตอบ: 158


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 3:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



คุณ matt กล่าวว่า... “ข้อนี้ผมอยากให้ท่านวิทยากรช่วยอธิยาย ให้ผมทราบด้วย ว่า วัตถุประสงค์ของอายะห์ นี้ บัญญัติ มาเพื่ออะไร?”

ยินดีมากที่จะได้กล่าวถึงสาเหตุของการประทานอายะห์ ซึ่งเราเรียนรู้เรื่องนี้จากฮะดีษครับ

ปัญหามีอยู่ว่า คุณจะเอาไปทำไม ในเมื่อคุณไม่ยอมรับฮะดีษไม่ใช่หรือ แล้วคุณอธิบายอัลกุรอานโครมครามอย่างนี้ คุณรู้สาเหตุของการประทานอายาตต่างๆ ในอัลกุรอานได้อย่างไร....

นั่นนะซิ..รู้ได้อย่างไร

_________________


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
วิทยากร
อนุรักษ์มรดกอิสลาม
อนุรักษ์มรดกอิสลาม


เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004
ตอบ: 158


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 4:07 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



ขอวิจารณ์เหตุผลของคุณ matt อีกนิดครับ คือคำที่ว่า

“ไม่ว่าท่านรอซูลล์จะตัดสินหรือกำหนดให้เราทำอะไรก็ตามเราจะต้องถือว่าเป็นคำสั่งของ”อัลลอฮ์”, ซึ่งคำสั่งของ อัลลอฮ์ก็คือ “อัลกุรอาน” (4:66)”

“รอซูลสั่งอะไรก็ต้องตาม ถือเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ด้วย” ตรงนี้คุณพูดถูก แต่คำว่า “คำสั่งของอัลลอฮ์ก็คืออัลกุรอาน” ตรงนี้คุณพูดถูกครึ่งเดียว ที่เหลือ..ผิดครับ เหตุเพราะ คำสั่งของอัลลอฮ์เป็นวะฮียะห์ มีสองชนิด ถูกเรียกว่า “กุบรอ” และ “ซุครอ” คือ

1 – วะฮีย์ “กุบรอ” เป็นคำของอัลลอฮ์ ถูกเรียกว่า อัลกุรอาน

2 – วะฮีย์ “ซุครอ” คือวะฮีย์ จากอัลลอฮ์ แต่เป็นคำของรอซูล ถูกเรียกว่า ฮะดีษ หรือซุนนะห์ หลักฐานดังนี้

وما ينطق عن الهوى ان هو الا وحى يوحى

“และเขา (มูฮัมหมัด) ไม่ได้พูดจากอารมณ์ของตนเอง หากแต่มันคือวะฮีย์ที่มีมายังเขา” ซูเราะห์อัลนัจญ์ อายะห์ที่ 3 – 4

คนที่ ปฏิเสธฮะดีษศอเฮียะห์ ก็คือ ปฏิเสธวะฮีย์ และนั่นคือการ ปฏิเสธอัลกุรอาน ด้วย แล้วจะเหลือความเป็นมุสลิมได้อย่างไร

สวัสดีครับคุณ matt


_________________


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
nes
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004
ตอบ: 80
ที่อยู่: bkk

ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 8:55 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



เฮ้อ ! คุณแมทท์ น่าสงสารจริงๆ








กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AlGhuraba
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 226


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 9:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จ๊ะเอ๋...อีกทีครับ ลุงแมทท์

ที่จริงผมแค่อยากจะเข้ามาอ่านเฉยๆ และคอยเป็นกำลังใจให้ลุงแมทท์อยู่เงียบๆ เพราะใครๆเค้าก็อยากคุยกะลุงกันทั้งนั้น ผมเป็นเด็ก เป็นเล็ก ไม่อยากเสียมารยาทสอดแทรกการสนทนา และอีกอย่างก็ไม่อยากสร้างภาระอะไรให้ลุงฯมากไปกว่าที่ลุงฯกำลังปวดหัวอยู่ตอนนี้ เพราะพูดอะไรกับใครเค้าไม่ค่อยจะยอมเข้าใจ

แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความเป็นเด็กขี้สงสัย ก็อดไม่ได้ที่จะถามอะไรสักนิด สักหน่อย โปรดอย่าถือโทษโกรธเคืองกันเลยนะครับ ... ลุงแมทท์ ใจดี!

ผมถามง่ายๆครับ

ใครคือนบี?

1 มุฮัมมัด บินอับดิลลาฮฺ
2 มุฮัมมัด บินอีซา
3 มุฮัมมัด อะลี
4 อะหฺมัด อิบนิฮัมบัล
5 มิรซาฆุลาม อะหฺมัด
6 อะหฺมัด อิบรอฮีม อัลมุฆ็อซซิล
เอ๊ะ! หรือว่า อีกคน...เกือบลืม....
7 ด็อกฯ รอช๊าด เคาะลีฟะฮฺ

ที่ต้องถาม เพราะผมงงจิงๆคับ ไม่รู้ว่านบีเราคนไหนกันแน่

คงไม่ต้องย้ำหรอกนะครับ ว่าขอหลักฐานจาก "กุรอานอย่างเดียว" ด้วย ... ผมรู้ว่า ลุงแมทท์ เก่ง ถึงได้ถาม

ผมขอเป็น "แห้ง-ไม่งอก" นะครับ
ชนิด "น้ำ-เติมผักบุ้ง" ไม่เอา! ควานหาเส้นลำบากครับ

วันนี้รบกวนแค่นี้ก่อนครับ
ขอบคุณครับ ที่จะกรุณาตอบ ...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 10:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามมุอะลัยกุม คุณวิทยากร

ช่วยกรุณาแปลให้หน่อยครับ

يَعْلَمُونَ أَنَّهُ مُنَزَّلٌ مِّن رَّبِّكَ

อันนี้ต้องการด่วนครับ ช่วยกรุณาแปลให้หน่อย

ด้วยความนับถือ

แมทท์

...........................
Nes กลับมาเชียร์ อีกแล้ว ให้การบ้านไป ไม่เห็น ตอบเลย หลบ หน้าหลบตาเลย แต่ไม่เป็นไร ผมขอร้อง ให้ท่าน วิทยากรตอบแทนคุณได้

หลาน AlGhuraba ที่รัก ผมชอบที่นี่แล้วละซี เพราะมีแต่คน ใจดี ทั้งนั้น ไว้ว่างๆ ช่วยคุยกันหน่อย
ผมว่าหลานจะเพี้ยนไปนะ จำชื่อ นบีสับสนไปหมด ผมไม่เก่งอะไรหรอกครับ ความรู้งูๆปลาๆ แต่มี ข้อสงสัยมาก เมื่อคราว ก่อน คุณ Nes ไม่ทราบว่า มรรยาทที่ดีต่อบิดามารดา มีสอน ในอัลกุรอานด้วยหรือ? ผมก็ค้นไปให้ แล้ว แต่ที่ผมถามไป ไม่ทราบว่าทำไมคุณ Nes ไม่ตอบผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AlGhuraba
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004
ตอบ: 226


ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 11:00 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอโทษครับ ที่ไม่ทันสังเกต ว่าลุงแมทท์ ทักทาย

ผมจะตอบว่างัยดี น้อออ
เอาเป็นว่า .... วะอะลัยกะ ก็แล้วกันนะครับ
เนี่ย พิเศษสำหรับลุงแมทท์คนเดียวเลย

ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว ขออนุญาตพล่ามเรื่องภาษาปะกิตสักนิดสักหน่อย เกี่ยวกับคำว่า "by" ก็ไม่เคยค้นจริงๆจังๆกับคำนี้หรอกครับ จนกระทั่ง มันมากลายเป็นประเด็นในกระทู้นี้เข้า ก็เลยไปตามล่า หามาฝาก

ไปเปิด ดิก ของ นายแตรบุบ AS.Hornby : Oxford Advanced Learners Dictionary of current English (1974) เค้าบอกว่า
by : (16) (in oaths) as surely as I believe in :
I swear by Almighty God that.... .
He swore by all that he held sacred that.... .


และจาก ดิก ของนายยาว : LONGMAN, Dictionary of contemporary ENGLISH (1995)

by : (11) used when expressing strong feelings or making serious promises :
By God, I'll kill that boy when I see him!

แฮะๆ ดัดจริตยกมาอ้างอย่างงั้นแหละ .. แปลไม่ออก
เอาเป็นว่า โดยสรุป คำว่า by เนี่ยในรูปประโยคอย่างงี้ มันเป็นการยืนยัน สบถ สาบาน อ้างถึงสิ่งศักดิ์ที่เขาบูชานับถือ พูดง่ายๆคือเป็นสาบานในนามสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ นั่นเอง

เพราะฉะนั้นในทุกสำนวนภาษาปะกิตที่ลุงแมทท์หยิบมาฝาก คือ

But no, by thy Lord! (Maulana Muhammad Ali)
But no! by your Lord!, (Shakir)
But no, by the Lord,- (Abdullah Yusufali)
But nay, by thy Lord, (Pickthal)

จึงล้วนเป็นการสาบานในนามพระผู้เป็นเจ้าทั้งสิ้น
รวมทั้งอีกสำนวนลึกลับ “Never indeed, by your Lord;” ที่ลุงแมทท์ท่องจำและแปลตามประสาคนไทย-ใจยูเอส ว่า "ไม่เคยเลยจริงๆ, โดยพระผู้อภิบาลของเจ้า” นั่นก็เป็นการใช้คำว่า by ในความหมายของการสาบานเช่นกัน

เมื่อเรามาคุยกันเรื่องภาษาปะกิตแล้ว เราอาจจะไม่เก่งพอกัน แต่ยังไงก็ขอให้ตอบละกันครับ ลุงแมทท์ ... ว่าใครกันแน่!
และเพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อในการตอบคำถามของผมข้างบน เรื่อง คนไหน ใครเป็นนบี ใครเป็นรอซูล (ขอควบทั้งนบีทั้งรอซูลเลยนะครับ...ลุงแมทท์) ผมก็เลยอยากให้ลุงฯ ช่วยแปลและอรรถาธิบายกุรอานอีกสักอายะฮฺเลยละกันครับ

CENTER = Not The Final Messenger*

مَّا كَانَ مُحَمَّدٌ أَبَا أَحَدٍ مِّن رِّجَالِكُمْ وَلَكِن رَّسُولَ اللَّهِ وَخَاتَمَ النَّبِيِّينَ وَكَانَ اللَّهُ بِكُلِّ شَيْءٍ عَلِيمًا
33:40. Muhammad was not the father of any man among you. He was a messenger of GOD and the final prophet. GOD is fully aware of all things.

FOOTS = *33:40 Despite this clear definition of Muhammad, most Muslims insist that he was the last prophet and also the last messenger. This is a tragic human trait as we see in 40:34. Those who readily believe God realize that God sent His purifying and consolidating Messenger of the Covenant after the final prophet Muhammad (3:81, 33:7).

ผมว่า ลุงต้องคุ้นสำนวนนี้แหง๋ๆเลย ใช่ป่าวคับ? เพราะมันสำนวนฉบับของ ด็อกฯ เดียวกับที่ลุงเทิดทูนอยู่
รบกวนหน่อยนะคับ เพื่อเป็นวิทยาทาน!
---------------------------
อัลฆุเราะบาอ์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Wed Jun 16, 2004 11:11 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณ NES ผมต้องขอบคุณๆมากทีเดียวที่แนะนำ ให้ผมรู้จัก เวบนี้

เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องมรรยาท ต่อบิดามารดาที่ผม ส่งไปให้ คุณไปศึกษาหรือยัง จากอัลกุรอานนะ?

ควาจริงผมนะมี "อะฮะดีษ" ครบชุดเลย เมื่อมาอเมริกาใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ ก็ยังมีอยู่ แต่ผมอ่าน เหมือน อ่าน หนังสือ "สมบัติผู้ดี" หรือ สุภาษิตสอนใจอย่างนั้น เพราะมีคำสอนดีๆ อยู่ ในหนังสือเหล่านั้นมาก แต่ที่ขัดกับอัลกุรอานก็มีมาก แต่มี จำนวนไม่น้อย ที่ ตรงกับไบเบิล

ผมมาเรื่มเสื่อมศรัทธาในหนังสือ เหล่านี้ เมื่อ ตอน เข้าไปเสวนากับ หลานชาย"ปลาด" ของผม ที่มุสลิมไทย.คอม โดยเฉพาะ เมื่อผมได้ศึกษา วิธีการ จัดตั้ง มาตรฐาน ของ "อะฮาดีษ" แล้ว หมดกำลังใจเลย ฮาดีษ บางบท ทำให้ ภาพพจน์ ท่านรอซูลเสียหาย และในอัลกุรอานบอกไว่อย่างชัดเจน ในเรื่องความศรัทธาที่แท้จริง นั้น มุสลิมควรปฏิบัติอย่างไร?

ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณ NES จะต้องมาสงสารผม คุณควรจะสงสารเขาผู้ซึ่ง "นั่งคุยกับก้นหิน" หรือ ผู้ที่"ไม่ยอมรับ พีน้องมุสลิมชีอะห์ ว่าเป็นมุสลิมด้วยกันทั้งๆ ที่พวกเขาก็ มีความศรัทธา ในพระเจ้าองค์เดียว "อัลลอฮ์" เช่นเดียวกับผม แต่ถ้าจะมาสงสารผม ในเรื่อง ความรู้ ในการสนทนากับ ท่านวิทยากรแล้ว ไม่มีความจำเป็นหรอกครับ ที่ผมไม่แสดงอารมณ์ รุนแรงอะไร ก็เพราะ ผมจำส่วนดี ในหนังสือ "อะฮาดีษ" ที่ผมมีอยู่มาใช้ และการเสวนาอย่างนี้ ไม่มีข้อสรุป การเสวนา ความรูเช่นนี้ ต่างกับการเล่น "ลำตัด" ครับ คือ ไม่ต้องมีกองเชียร์ หรือ พูด เยาะ เย้ยกัน ถ้า ใครมีความคิดเห็นอย่างไร ก้ เขียนเข้ามาคุยกัน ในแง่ ความรู้ แต่อย่า "เรียกนามกัน" (Name Calling) เพราะ ในการเสวนา ถือว่า เป็นมรรยาทที่ไม่ดี

ผมนับถือคนที่มีความรู้ถึงแม้ความคิดอ่านอาจจะไม่ตรงกัน เช่น คุณ ซาค เป็นคนที่มีความรู้ดีมาก ผมเรียนอะไรกับท่านมากทีเดียว "คุณซอล" และท่านวิทยากร ท่านี้ ผมพูดด้วยความจริง ใจนะครับ...

.คุณลองคิดดูซิ ในอัลกุรอานบอกไว้อย่าง ชัดเจน "ว่ามุสลิมคือผู้ที่สวามิภักดิ์ ต่อพระเจ้าองค์เดียว เท่าน้น และปฏิบัติตนให้อยู่ ในทำนองครองธรรม ของ หลักการที่พระเจ้า องค์นั้นบัญญัติไว้"

สลาม

แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ลัทธิ-นิกาย ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5 ... 21, 22, 23  ถัดไป
หน้า 4 จากทั้งหมด 23

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.43 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ