ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
umat มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 17/12/2008 ตอบ: 77
|
ตอบ: Fri Jan 09, 2009 4:43 pm ชื่อกระทู้: ซุนนะหรือไม่ |
|
|
อยากทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซุนนุหรือไม่
1. การยกมืออามีนในคุตบะที่ 2 ของละหมาดวันศุกร์
2.การขยับนิ้วขึ้นลง ในขณะที่อ่านอัตตะฮียา..
3.การให้สลามข้างขวา-ซ้ายแล้วลูบหน้า
รบกวนอาจารย์ครับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Jan 10, 2009 11:03 am ชื่อกระทู้: Re: ซุนนะหรือไม่ |
|
|
umat บันทึก: |
อยากทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซุนนุหรือไม่
1. การยกมืออามีนในคุตบะที่ 2 ของละหมาดวันศุกร์
2.การขยับนิ้วขึ้นลง ในขณะที่อ่านอัตตะฮียา..
3.การให้สลามข้างขวา-ซ้ายแล้วลูบหน้า
รบกวนอาจารย์ครับ
|
ไม่มีในสุนนะฮครับ โปรดอ่านฟัตวาข้างล่างนี้
حكم رفع اليدين في التأمين على دعاء الإمام في خطبة الجمعة، أي رفع اليدين للمأموم بالتأمين لأنَّ المشاهد أنَّ كثيراً من الأخوة المصلِّين حينما يدعو خطيب الجمعة في آخر الخطبة لا يرفعون أيديهم، فهل في هذا نصٌّ بارك الله فيكم ؟
การยกมือทั้งสอง กล่าวอามีน รับดุอาของอิหม่ามในการอ่านคุตบะฮญุมอัต กล่าวคือ การยกมือทั้งสองสำหรับมะอฺมูมนั้นมีหุกุมว่าอย่างไร เพราะว่ามีผู้พี่น้องที่ละหมาดจำนวนมาก เมื่อเคาะฏิบอ่านดุอาในช่วงท้ายของคุตบะฮ พวกเขาไม่ยกมือทั้งสองของพวกเขา แล้วมีหลักฐานในเรื่องนี้ไหม ? ขออัลลอฮโปรดประทานความจำเริญแก่ท่าน
الفتوى :
رفع اليدين عند الدعاءِ من أسباب الإجابة، ولكنَّه يُشرع مطلقاً ومقيَّداً، فُيشرع مطلقاً في الدعاء المطلق، ويُشرع مقيَّداً في ما ورد له دليل من أنواع الدعاء المقيَّد، ومعنى ذلك أنَّه لا يُشرع رفع اليدين في كل دعاءٍ مقيَّد كالدعاءِ في آخر الصَّلاة قبل السَّلام أو بعد السَّلام، إذ لم يرد في السنَّة ما يدلُّ على ذلك، وإنَّما يُشرع رفع اليدين فيما دلَّت السنَّة على مشروعيِّة ذلك فيه كالدعاء بعد رمي الجمرة الأولى والثانية، وعلى الصفا والمروة وفي الاستسقاء وغير ذلك ممادلَّت السنَّة على رفع اليدين فيه، وعلى هذا فلا يُشرع للمأمومين أن يرفعوا أيديهم عند دعاء الخطيب على المنبر يوم الجمعة.
وقد أخرج مسلم رحمه الله عن عمارة بن رؤيبة أنَّه رأى بشر بن مروان رافعاً يديه على المنبر فقال: قبَّح الله هاتين اليدين، لقد رأيت رسول الله ـ صلَّى الله عليه وسلم ـ ما يزيد على أن يقول بيده هكذا: وأشار بأصبعه المسبِّحة. قال النووي: فيه أنَّ السنَّة ألا يرفع اليد في الخطبة
والله أعلم
ตอบ
การยกมือทั้งสองขณะขอดุอานั้นเป็นส่วนหนึ่งจากสาเหตุที่ทำให้ดุอาถูกรับ แต่ว่า มันได้ถูกบัญญัติเอาไว้ในรูปแบบกว้างๆและ บัญญัติเอาไว้ในรูปแบบที่เฉพาะ โดย มันถูกบัญญัติไว้กว้างๆ ในดุอาที่ถูกกล่าวเอาไว้กว้างๆ และมันถูกบัญญัติเอาไว้เป็นการเฉพาะ ในสิ่งที่ปรากฏหลักฐาน จากบรรดาประเภทดุอาที่ถูกกล่าวไว้เป็นการเฉพาะ และความหมายดังกล่าวคือ จะไม่ถูกบัญญัติใช้ให้ยกมือทั้งสองในทุกๆดุอา ตัวอย่าง เช่น ดุอาช่วงท้ายของละหมาดก่อนกล่าวสลาม หรือ ดุอาหลังจากกล่าวสลาม ทั้งนี้เพราะไม่ปรากฏในอัสสุนนะฮ แสดงบอกให้กระทำดังกล่าว และ แท้จริงมีบัญญัติใช้ให้ยกมือทั้งสอง ในสิ่งที่อัสสุนนะฮแสดงบอก มีบัญญัติให้กระทำ และเพราะเหตุนี้ จึงไม่มีบัญญัติใช้ให้บรรดามะอฺมูม ยกมือทั้งสองของพวกเขา ขณะที่คอฏิบอ่านดุอาอยู่บนมิมบัร ในวันศุกร์ และแท้จริงอิหม่ามมุสลิม(ขออัลลอฮเมตตต่อท่าน)ได้บันทึกหะดิษรายงานจากอิมาเราะฮ บินรุอัยบะฮ ว่า เขาได้เห็น บะชัร บิน มัรวาน ยกมือของเขาทั้งสอง ขอดุอาอยู่บนมิมบัร เขาจึงกล่าวว่า อัลลอฮ ทรงรังเกียจสองมือนี้ ความจริงฉันเห็นรซูลลุลลอฮ ไม่ได้เพิ่มเติมมากไปกว่าการกล่าวด้วยมือของท่านแบบนี้ แล้วเขาก็ได้แสดงด้วยนิ้วมือของของเขาที่ใช้นับเวลากล่าวตัสเบียะ ,อิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า ในหะดิษนี้ (เป็นหลักฐานแสดงว่า)แท้จริงตามสุนนะฮนั้น ไม่มีการยกมือ ในการอ่านคุตบะฮ - วัลลอฮุอะอฺลัม
http://www.ejabh.com/arabic_article_85092.html
..........................
อินชาอัลลอฮมีต่อตอบข้อ 2 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Sat Jan 10, 2009 4:24 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Jan 10, 2009 12:34 pm ชื่อกระทู้: Re: ซุนนะหรือไม่ |
|
|
umat บันทึก: |
อยากทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซุนนุหรือไม่
2.การขยับนิ้วขึ้นลง ในขณะที่อ่านอัตตะฮียา..
|
หลักฐานที่แสดงว่า ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กระดิกนิ้ว ขณะอ่านตะชะฮุด คือ
عن وائل بن حجر أنه قال في صفة صلاة رسول الله صلى الله عليه وسلم(ثم قبض ثنتين من أصابعه وحلق حلقة ثم رفع إصبعه فرأيته يحركها يدعو بها) رواه أحمد والنسائي وأبو داود وغيرهم وهو حديث صحيح.
จากวาอีล บิน หะญัร เขาได้กล่าวในเรื่องลักษณะการละหมาดของเราะซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า(หลังจากนั้น ท่านได้กำนิ้วของท่านทั้งสองนิ้ว(คือ นิ้วนางกับนิ้วก้อย)และท่านทำให้(หัวแม่มือกับนิ้วกลาง)จรดกันเป็นวง ต่อมาท่านได้ยกนิ้ว(ชี้)ของท่าน แล้วฉันเห็นท่านกระดิกนิ้วพร้อมอ่านดุอาด้วยมัน(คืออ่านตะชะฮุด) - รายงาน โดย อะหมัด,อันนะสาอีย์,อบูดาวูดและอื่นจากพวกเขา และมันเป็นหะดิษหซัน เศาะเฮียะ (1)
................................
(1)ดูที่มาของหะดิษ
ثبت في ((مسند أحمد)) : (4/318) و ((المجتبى)) للنسائي : (2/126 -127) و ( 3/371) و ((سنن أبي داود)) : رقم (713) و ((صحيح ابن خزيمة)) رقم (480) و (714) و ((المنتقى)) لابن الجارود : رقم (208) و ((صحيح ابن حبان)) : رقم (1851 موارد) و (( السنن الكبرى)) للبيهقي : (2/27 و 28 و 132) و ((المعجم الكبير)) للطبراني : (22/35) عن وائل بن حُجر ـ رضي الله عنه
..........
ท่านอบูอุบัยดะฮ มัชฮูร บิน หะซันกล่าวว่า
فهذه رواية صحيحة صريحة في تحريك الأصبع ، وجاء وصف فعله بـ (( يحرِّك )) وهو فعل مضارع ، يفيد الاستمراريّة حتى تسليم المصلّي و فراغه من صلاته ، ويدل على ذلك ، قوله :
((يدعو بها))
และนี้คือ รายงานที่เศาะเฮียะ อีกทั้งชัดเจน ในการกระดิกนี้ว และปรากฏลักษณะการกระทำของท่านนบี ด้วยคำว่า (ยุหัรริกุ) มันเป็นกริยาปัจจุบันกาล มีความหมายว่า กระดิกตลอดจนกระทั่งผู้ละหมาดกล่าวสลามและเสร็จสิ้นการละหมาดของเขา และ คำพูดของเขา(วาอีล)ที่ว่า (และท่านนบีได้อ่านดุอาด้วยมัน) เป็นหลักฐานแสดงบอกดังกล่าว - ดู อัลเกาลุลมุบีน ฟี อัคเฏาะอิลมุศอ็ลลีน หน้า 162 วัลลอฮุอะลัม _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Jan 10, 2009 12:40 pm ชื่อกระทู้: Re: ซุนนะหรือไม่ |
|
|
umat บันทึก: |
อยากทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซุนนุหรือไม่
3.การให้สลามข้างขวา-ซ้ายแล้วลูบหน้า
|
การลูบหน้าไม่มีในสุนนะฮครับ
السؤال: سمعنا من يقول : يكره مسح الجبهة عن التراب بعد الصلاة فهل لهذا أصل؟
ถาม
เราได้ยินมีผู้กล่าวว่า " การลูบดินออกจากหน้าผากหลังละหมาดนั้นเป็นมักรูฮ(น่ารังเกียจ) แล้วกรณีนี้มีที่มาหรือไม่
الجواب:
الحمد لله
ليس له أصل فيما نعلم ، وإنما يكره فعل ذلك قبل السلام؛ لأنه ثبت عن النبي صلى الله عليه وسلم في بعض صلواته أنه سلم من صلاة الصبح في ليلة مطيرة ، ويُرى على وجهه أثر الماء والطين ، فدل ذلك أن الأفضل عدم مسحه قبل الفراغ من الصلاة" انتهى
فضيلة الشيخ ابن باز رحمه الله .
"تحفة الإخوان" (ص61
والله أعلم
ตอบ
อัลหัมดุลิลละฮ
เท่าที่เรารู้มา มันไม่มีที่มา ความจริงการกระทำดังกล่าว ก่อนสล่าม นั้นเป็นมักรูฮ เพราะมีรายงานยืนยันจากท่านนบี ว่าแท้จริงท่านนบีได้ให้สลามจากการละหมาดศุบฮิ ในกลางคืนที่ฝนตก และมีผู้เห็นร่องรอยของน้ำและดิน ที่ใบหน้าของท่านนบี
ดังนั้นก็แสดงบอกว่า ที่ประเสริฐที่สุด ไม่ควรเช็ดมันก่อนเสร็จจากการละหมาด
- ท่านผู้ทรงเกียรติ เช็คอิบนุบาซ - ตุคฟะตุลอิควาน หน้า 61
วัลลอฮุอะลัม
ในหนังสือ สุนันอันนะสาอีย์ บทว่าด้วย การสุญูดสะฮวีย์ ท่านอันนะสาอีย์ ได้ตั้งหัวเรื่องไว้ว่า
باب ترك مسح الجبهة بعد التسليم
บทว่าด้วยการให้ทิ้งการลูบหน้าผากหลังจากสลาม
............
ดังนั้นเมื่อไม่มีหลักฐานใช้ให้ทำก็ไม่ควรทำครับ
วัสสลาม _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Sat Jan 10, 2009 2:20 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอลัยกุมครับ อาจารย์อะซัน
เมื่อวาน วันศุกร์ ก็มีพี่น้องมุสลิมมาถามผมเหมือนกัน เรื่องขอดุอาตอนคุตบะห์
นี่เท่ากับว่า อาจารย์ตอบที่เดียว ได้เอาไปใช้สองคนเลยครับ
ยะซากัลลอฮุคอยร็อน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
umat มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 17/12/2008 ตอบ: 77
|
ตอบ: Sun Jan 11, 2009 7:35 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงตอบแทน
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
maliksn มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/10/2008 ตอบ: 164
|
ตอบ: Thu Jan 15, 2009 8:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อืม ได้ความรู้ไปบอกต่อกับชาวบ้านด้วย อินชาอัลลอฮ์ บังอะซันครับ
__________________________________
ท่านรสูลุลลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)กล่าวว่า ทุกๆบิดอะฮฺนั้นหลงผิดและออกนอกลู่นอกทาง บันทึกโดยอบูดาวูด(ลำดับที่ 4607), อัต-ติรฺมิซีย์(ลำดับที่2676) อิบนุ หะญัรฺ รับรองไว้ว่าเศาะฮิ้หฺ ในตัครีจ อะหะดีษ อิบนุล-ฮาญิบ (1-137)
และตัวท่าน(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)ได้กล่าวไว้อีกว่า ...และทุกๆบิดอะฮฺนั้นหลงผิด และทุกๆความหลงผิดนั้นอยู่ในนรก บันทึกโดยอัน-นาสาอีย์(1/224) จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ และท่านเชคุล-อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺกล่าวว่าเศาะฮิ้หฺ ในมัจญ์มูอฺ อัล-ฟัตวา (3/58)
ท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)ยังห้ามไม่ให้เราไปเป็นมิตร, สนับสนุนหรือคุยกับคนที่ทำบิดอะฮฺ ดังที่หะดีษกล่าวว่า ใครก็ตามที่ทำบิดอะฮฺหรือปรองดองกับผู้ที่ทำบิดอะฮฺ คำสาปแช่งจากอัลลอฮฺ, บรรดามลาอิกะฮฺของพระองค์ และมนุษชาติทั้งปวง จะตกอยู่ที่เขา บันทึกโดยบุคอรีย์(12/41)และมุสลิม (9/140)
ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد
"ผู้ใดประกอบการงานใดที่ไม่มีคำสั่งของเราบนมัน นั้นมันถูกปฏิเสธ" รายงานโดยมุสลิม
อารีฟีน แสงวิมาน ผู้ไม่ห้ามปรามเรื่องอากีดะแก่ครู
ขนาดอากีดะครูมันเองยังเอาไม่รอด แต่จะไปถล่มอากีดะคนอื่น?
salafyah บันทึก: | ใครรู้จัก อัลอัซอารี เเห่งเวปบิดอะสติวเด้นมั้ง
มีคนฝากมาให้ช่วยไปบอกเค้าว่า.....
คุณนูรีฮัน มาเลเซีย ไม่มีวันให้อภัย เเกเค้าคนนั้นตราบใด
คุณอัลอัซอารี ไม่ยอมบอกกล่าวสิ่งที่เค้าได้ตั้งข้อฟิตนะที่ร้ายเเรงให้คุณนูรีฮัน มาเลเซีย
เเละตราบใดที่ไม่ยอมขอมาอัฟจากคุณนูรีฮัน
เป็นฮักกุลอาดัมไปตลอดชีวิตเลย |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|