ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ matt
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
จะผิดไหมถ้าอยากจะบอกกับพี่น้องท่านว่าผมเห็นด้วยกับคุณ matt
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Tue Aug 12, 2008 11:01 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ครับ อากีดะอ์ของชาวซุนนะฮ์ ที่ตรงกัน ผมเอ่อ ผมไม่ทราบว่าแปลว่าอะไรนะครับ อันนี้ผมไม่มีความรู้จริงๆ นะครับ ใช่แปลว่าหลักการศรัทธาหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ผมก็ศรัทธาในพระเจ้า ในการเป็นศาสนฑูตของพระเจ้าของนบี ศรัทธาในคัมภีร์ของพระเจ้า ศรัทธาในกำหนดสภาวะของพระเจ้า ศรัทธาในบรรดามลาอิกะฮ์ อืม ผมอาจจะเขียนบอกได้ตกหล่น แต่ผมก็เป็นลูกชาวบ้านมุสลิมซุนนี นี้แหละครับ แน่นอนครับผมเขียนมาถึงตรงนี้ท่านทั้งหลายคงสังเกตได้ว่าผมเขียนอะไรตกๆหล่นๆ ผิดๆถูกๆ เพราะผมไม่ได้เรียนมาทางศาสนาดีพอ แม้แต่ตาดีกา ผมยังไม่มีโอกาสเรียนจนจบเลยครับ ดังนั้นผมจึงขอน้อมรับถ้าได้รับคำตักเตือนที่มีคุณค่าจากท่านทั้งหลายนะครับ

อย่างที่บอกครับผมไม่ได้ปฏิเสธซุนนะของนบี แต่ประเด็นของผมคือฮาดิษไม่ใช่ตัวซุนนะฮ์โดยตรง แต่คือความทรงจำของบรรดาคนใกล้ชิดที่มีต่อซุนนะฮ์นบี อีกอย่างหนึ่งที่เราได้อ่าน ๆ กัน ก็ไม่ใช่ท่าน บุคอรี ท่านมุสลิม แฟกซ์ข้อความเหล่านั้นมาถึงมือเราโดยตรง แต่ส่งผ่านข้อความนั้นจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านเหตุการณ์พลิกผันทางการเมืองต่างๆ มากมาย สิ่งที่ผมสงสัยต่อฮาดิษ ก็เหมือนกับที่ผมสงสัยต่อไบเบิ้ลนั่นแหละครับ ไบเบิ้ลจริงๆ แล้วก็คือบันทึกความทรงจำที่สาวกมีต่อนบีอีซา ส่งต่อมาผ่านยุคสมัย แล้วเป็นไงครับ มันทั้งขัดกับหลักวิทยาศาสตร์(แต่ไม่ยอมรับความเป็นจริงจนต้องฆ่านักวิทยาศาสตร์ที่ประท้วงไบเบิ้ลไปหลายคน) ทั้งผิดพลาดขัดแย้ง มากมาย ก็เพราะว่านี้เป็นประดิฐกรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีข้อผิดพลาด หรือพอจะพูดได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีข้อผิดพลาด

ครับ ผมจำเป็นต้องศรัทธาในนบีแต่ผมต้องศรัทธาอย่างชนิดที่เถียงไม่ได้กับท่านบุคอรีหรือไม่?นี่เป็นหนึ่งในหลักการศรัทธาของมุสลิมด้วยหรือเปล่าว่าห้ามคิดต่างจากท่านเหล่านี้
เอาละ ผมเชื่อว่าบรรดาสาวกรุ่นแรกที่บันทึก เป็นผู้เสียสละเพื่ออิสลาม และบริสุทธิ์ใจ แต่นับตั้งแต่วันแรกที่ท่านได้บันทึก กับวันนี้ที่เราได้อ่าน มันจะไม่มีข้อผิดพลาดในการส่งผ่านเลยหรือ ผมคิดว่า มีแต่อัลกรุอ่านซึ่งพระเจ้าคุ้มครองเท่านั้นครับที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ดังนั้นขอเสนออีกครั้งให้เราได้พิจารณาสิ่งที่เรียกว่าฮาดิษจากมุมมองอื่นมาเป็นจุดดุลด้วยนะครับ เพราะหลายๆ อย่างที่เราได้ยินกันในโลกมุสลิมผมก็สงสัยนะครับว่า นี่มาจากฮาดิษหรือไม่และถ้าใช่นี่คือความผิดพลาดของมนุษย์หรือเปล่าเช่น ยกตัวอย่างนะครับ

1. การจำกัดไม่ให้สตรีขับรถหรือออกจากบ้านโดยไม่มีผู้ปกครองในซาอุดีฯ อืม ผมคิดของผมเองว่า นบีอันเป็นที่รักของเรานั้นส่งเสริม ศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ของสตรีอย่างยิ่ง สิ่งนี้น่าจะต้องทบทวนกันไหม

2. การไต่สวนเรื่องการข่มขืน (ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลนี้เป็นการใส่ความจากตะวันตกหรือไม่) ที่สตรีต้องมีพยาน อีก 4 คน อืม อันนี้ใช่มาจากฮาดิษหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจนะ แต่ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เราต้องทบทวนจริงๆ จากด้าน อาชญวิทยา จากด้าน ระบบการไต่สวน หรือจากด้านอื่นๆ บ้าง

3.เรื่องเบา ๆ นะครับ การไว้หนวดไว้เคราหรือทานอาหารกับมือ เหมือนท่านนบีแล้วได้บุญ อืม ผมว่าผมคงไม่เห็นด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คิดได้เองหรือเปล่าครับว่าเป็นวัฒนธรรมของคนที่นั่น และพระเจ้าคงไม่มีวัตถุประสงค์ให้เราตามนบีในเรื่องทำนองอย่างนี้ ไม่เช่นนั้นผมขี่อูฐไปทำงานก็แปลว่าได้บุญด้วยหรือไม่ ...

ฯลฯ

สุดท้ายนี้ผมคิดว่าโลกมุสลิมเรา "หลับ" มานานมากแล้ว เอกสิทธิ์ในการเข้าถึง ตีความศาสนา อยู่ในมือคนกลุ่มเดียว ซึ่งไม่มีความรู้อื่นๆ อีกนอจากความรู้ที่สอนกันในโรงเรียนศาสนา....นั่นทำให้อิสลามกลายเป็นสิ่งที่แช่แข็งตัดขาดจากโลก หรือไม่
ผมอยากได้ยินนักการแพทย์มุสลิม อธิบายเรื่องเอมบริโอ(ตัวอ่อนของมนุษย์)ที่ได้บรรยายไว้ในอัลกรุอ่าน บ้าง เพื่อที่ผมจะได้เพิ่มพูลศรัทธาต่อพระเจ้า
ผมอยากให้นักรัฐศาสตร์การปกครองมุสลิมได้อธิบายถึงหลักนิติธรรม หรือรัฐธรรม ที่อยุ่ในอัลกรุอ่าน หรือแม้แต่กระทั่งในฮาดิษ ว่าเขามีมุมมองอย่างไร บ้างนอกจากมุมมองของอุลามาอย่างเดียว

ครับทั้งหมดนี้ หากนำมาซึ่งความผิดข้องหมองใจกันอย่างไร บอกได้นะครับผมยินดีจะหยุดโพสต์ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
hamzah
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/05/2004
ตอบ: 34


ตอบตอบ: Tue Aug 12, 2008 1:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมยังยืนยันเหมือนเดิม อ่ะครับ....อยากคุยโทรศัพท์กับ คุณ อยู่ดี เพราะ อธิบายๆกันไปมา คนละที มัน คุยกันเข้าใจยาก ตัวอักษร มันตีความได้...แล้ว อีกอย่าง...ผมก็ไม่ไหวพิมอ่ะครับ

ถ้าสนใจคุยกันทางโทรศัพท์ ก้อยินดีนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Tue Aug 12, 2008 11:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ครับ ท่านฮัมซะฮ์
ผมยินดีมากครับ แล้วก็รู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีและห่วงใย ที่ท่านมีต่อผม ท่านคงห่วงใยว่าผมจะกลายเป็นผู้หลงทางไปอีกคนหนึ่ง (ซึ่งความจริงผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคุณแมทท์ทุกเรื่อง ผมตามอ่านอยู่หลายที่ คุณแมทท์ก็ยังไม่เคยตอบเรื่องละหมาดได้สักที่)

ส่วนเรื่องโทรศัพท์ผมคงไม่สะดวกครับขอน้อมรับความห่วงใยนี้ด้วยใจ และผมอยากสนทนาเรื่องนี้ในวงสาธารณะเพื่ออ่านความเห็นจากหลายๆคนนะครับ

อีกนิดครับตอบท่านAbushot!!! เรื่องหลักศรัทธา
ความเห็นก่อนผมตอบตกไปข้อหนึ่งจริง(ว่าแล้วเชียว) คือต้องศรัทธาในวันปรโลกด้วย
ส่วนคำถามของท่านที่ให้ผมยืนยัน จริงๆแล้วท่านถามว่าเป็นชาวซุนนี หรือเปล่าครับ ถ้าถามแบบนั้น ก็ต้องตอบว่าใช่ครับ ผมเป็นชาวซุนนี ไม่ได้เป็นชีอะห์ ไม่ได้เป็นอื่นๆ
แต่ครับแต่..

ผมชักจะสงสัยขึ้นมาเหมือนกันว่า ใครที่มาขีดกรอบว่า
คุณเป็นซุนนีต้องเชื่อสิ่งนี้ 12345
ห้ามเชื่อสำนักคิดอื่น
แล้วถ้าผมคิดต่างจาก เอ่อ เค้าเรียกอะไรครับ อืม ผู้นำของสำนักนั้น (เช่นของซุนนีมี 4 อิมามใช่ไหมครับ) แล้วผมจะถูกเนรเทศไหมครับเนี่ย
แล้วถ้าผมเห็นด้วยบางข้อ(หมายถึงกับผู้นำนะครับ) แต่ไปเห็นด้วยกับอีกหลายข้อของสำนักอื่นๆ นี่ผมจะผิดหรือเปล่า
หรือว่าจะต้องรับอะไรต้องรับพ่วงเป็นแพคเกจ (อืม คำนี้อาจจะไม่สุภาพแต่ผมนึกคำอื่นๆไม่ออกนะครับ) โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลใดๆ เลย

สิ่งที่เราใฝ่ฝัน ใช่อิสลามเดียวหรือไม่ ไม่มีซุนนี ชีอะห์ โน่นนี่ มากมาย
ถ้าท่านถามว่าผมเป็นซุนนีหรือไม่
คำตอบแรกคือใช่ ผมไม่เคยไปเรียนสำนักอื่นๆ ปราวารณาตัวเข้ากับเชคคนไหน (อืมเข้าใจนะครับคือก็เป็นมุสลิมไทยแบบชาวบ้านๆ คนหนึ่งนะครับ)

คำตอบต่อมาคือ อาจจะไม่ใช่ เพราะผม"อาจจะ" ไม่ยอมรับการตีความจากผู้นำของซุนนีในทุกๆเรื่องอย่างไม่มีเงื่อนไข
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
คนที่เดินผ่าน
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006
ตอบ: 104
ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com

ตอบตอบ: Wed Aug 13, 2008 2:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...ตอบ adison...
อ้างอิง
คำแปลอัลกรุอ่านจากสมาคมนักเรียนเก่าอรับ (ผู้เชี่ยวชาญวิชาการทางศาสนา ใช้วิชาตัฟซีร)
96:15-16 "หามิได้ ขอยืนยัน หากเขาไม่ยุติ แน่นอนเราจักตั้องกระชาก "กระจุกผม"ริมหน้าผาก(ของ) "กระจุกผม" ริมหน้าผากที่โกหก อีกทั้งกระทำความผิด

ครับอะไรกันครับกระจุกผม ริมหน้าผากที่โกหก มันไม่มีนะครับ นี่ซึ่งเป็นการตีความเอาเองของผู้แปลที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ แปลคำว่า นาซียะฮ์ เป็น กระจุกผม ทั้งที่ความจริงแปลว่า บริเวณศรีษะส่วนหน้า ซึ่งถ้าคุณใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้าถึงอัลกรุอ่านบ้างแทนที่จะเป็นวิชาที่เรียนแต่ในโรงเรียนศาสนา คุณจะทราบว่า สมองส่วนหน้านั้นเป็นสมองส่วนที่เกี่ยวกับความคิดและใช้ในการโกหก.... ดังนั้น ไม่ใช่กระจกผมส่วนหน้าที่ควรถูกกระชาก หากแต่เป็นกระหม่อมหรือศรีษะ จะให้ตรงไปกว่านั้นอาจจะต้องบอกว่า สมองส่วนหน้า ที่โกหก กระจุกผมโกหกไม่ได้หรอกครับ [

นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งครับที่เราจะลองใช้ "ศาสตร์ "อื่นๆ บ้างในการเข้าถึงอัลกรุอ่าน นอกจากศาสตร์ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนศาสนา ที่เล่ามาไม่ได้ต้องการหลบลู่เกียรติของสมาคมนักรเรรียนเก่าอรับนะครับ พวกท่านมีคุณประโยชน์อย่างมากมายที่แปลมาให้เด็กๆอย่างพวกผมอ่าน[/I]

...เรามาดูของสมาคมนักเรียนเก่าอรับ ศูนย์กษัตร์ ฟะฮัด...
...15 ” มิใช่เช่นนั้น ถ้าเขายังไม่หยุดยั้ง เราจะจิกเขาที่ขม่อมแน่นอน “...
...16 ” ขม่อมที่โกหกที่ประพฤติชั่ว “ ( ขยายความว่า มนุษย์ชั่วคนนี้คือ อะบูญะฮลิ จงระงับการกระทำอันชั่วร้ายของเขาเสีย มิฉะนั้นแล้วเราจะจิกเขาขม่อมแล้วกระชากลากไปโยนสู่ไฟนรก ขม่อมของที่คนโกหก คนชั่ว และมีความผิดอีกมากมาย ) ...
…17 “แล้วให้เขาเรียกที่ประชุมของเขา”...
...18 “เราก็จะเรียกผู้คุมนรก”...
...19 “มิใช่เช่นนั้น เจ้าจงอย่าได้ฟังมัน แต่จงสูญูด และเข้าใกล้อัลลอฮเถิด”...

ดู ตัฟซีร์ ญุซ อัมมะ พ.ศ. 2522 หน้า 227-229
...15 ” กระทำเช่นนั้นไม่ได้ ข้าสาบานว่า ถ้าเขายังไม่หยุดยั้ง เราจะจิกผมริมหน้าผาก“...
...16 ” ผมริมหน้าผากที่โกหก ที่กระทำความผิด “ ...
… 17 “แล้วเขาจงเรียกผู้ที่อยู่ในสโมสรของเขาเถิด”...
...18 “เราก็จะเรียกเจ้าเหน้าที่ผู้คุมนรก”...
...19 “กระทำเช่นนั้นไม่ได้ เจ้า(มูฮัมมัด)จงอย่าเชื่อฟังเขา และจงสูญูด และจงข้าใกล้อัลลอฮเถิด”...
.... ในที่นี้อัลลอฮทรงปราม อะบูญะฮลิว่า จะขัดขวางผู้คนมิให้กระทำละหมาดอีกต่อไปไม่ได้ ถ้าหากเขายังขืนกระทำต่อไปแล้ว พระองค์ทรงสาบานว่า จะทรงจิกผมที่ริมหน้าผากของเขาแน่นอน ทั้งนี้เป็นการตอบโต้ในความชั่วของเขา ส่วนความที่ว่า
“ ผมริมหน้าผากที่โกหก และกระทำความผิด “ นั้นหมายถีง ผมริมหน้าผากของผู้ที่โกหก และผู้ที่กระทำผิด เพราะอะบูญะฮลิ เป็นผู้อุปโลกน์ความเท็จให้แก่ท่านนบี และเป็นผู้กระทำความผิดอีกมากมาย ทั้งนี้นอกเหนือจากการขัดขวางท่านนบี มิให้ทำละหมาด
ในการนี้พระองค์ทรง ท้าทายให้อะบูญะฮลิ เรียกพรรคพวกของเขาที่อยู่ในสโมสรมาช่วยเหลือเขา เพื่อยับยั้งผู้ที่กระทำละหมาด ซี่งเขาเคยคุยว่ามีอยู่มากมาย แล้วพระองค์ก็จะทรง อัซ ซะบานียะห์ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมนรกมาเพื่อลากคอพวกเขาไปสู่นรกเช่นเดียวกัน
ในการที่พระองค์ทรงใช้ถ้อยคำและสำนวนดังกล่าวก็เพื่อให้ อะบูญะฮลิได้ประจักว่า ไม่มีทางที่พวกเขาและพวกของเขาจะต่อสู้กับ อัซ ซะบานียะห์ ซี่งนับเป็นการปราม และยับยั้งการประพฤติชั่วของเขาอย่างรุนแรงยิ่ง…

...ทีนี้ผมอยากให้ adison ช่วยอธิบายอายะห์ นี้ โดยลองใช้ "ศาสตร์ "อื่นๆ บ้างในการเข้าถึงอัลกรุอ่าน นอกจากศาสตร์ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนศาสนา...
...เอาในแบบฉบับของ adison นะครับ แล้วให้พี่น้องมาอ่านเปรียบเทียบไปพร้อมกันดีไหม...

...หาก adison ต้องการแสวงหาสัจธรรม...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Thu Aug 14, 2008 7:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอาลัยกุมครับ

ครับขอบคุณท่านคนที่เดินผ่าน ที่แวะเวียนมาสนทนาร่วมชี้ทางให้กับผม ผมถือว่านี้เป็นกระบวนการชี้แนะให้กับผม ไม่ใช่การท้าทายเพื่อเอาชนะคะคาน ผมตัดสินใจจะโพสต์ความคิดของผมซึ่งผมทราบดีว่าเสี่ยงต่อการถูกประณามต่าง ๆ แต่ผมเชื่อว่าที่นี้ มรดกอิสลาม เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อกัน และหากผมหลงทางจริงๆ การมาโพสต์ความคิดเห็นที่นี้ ย่อมจะได้รับการตักเตือนด้วยความการุณจากท่านทั้งหลาย..........

จากที่ผมได้ขอเสนอให้เข้าถึงอัลกรุอ่านด้วย”ศาสตร์”อื่นๆ นอกจากวิชาที่ได้เรียนในโรงเรียนศาสนาและท่านได้ขอให้ผมอธิบายถึงอายัต 96:15-16 ซึ่งอัลกรุอ่าน แปลไทย โดยมัรวาน สะมะอูน ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ได้แปลไว้ว่า
15 หามิได้ ขอยืนยัน หากเขาไม่ยุติ แน่นอนเราจักต้องกระชากกระจุกผมริมหน้าผาก(ของเขา)
16 กระจุกผมริมหน้าผากที่โกหก อีกทั้งกระทำความผิด

ครับคำอธิบายอายัตในมุมมองของนักการศาสนาท่านคนที่เดินผ่านได้นำมาลงไว้แล้ว ทีนี้ลองมาดูคำแปลและคำอธิบายจากนักวิทยาศาสตร์อเมริกันที่หันมานับถือศาสนาอิลสาม ซึ่งท่านเหล่านี้คือกองบรรณาธิการวิทยาศาสตร์ของหนังสือ สู่ความเข้าใจอิสลามและคำถามร่วมสมัย เขียนโดย ไอเอ อิบบรอฮีม แปลโดย ซากี เริงสมุทร์ ซึ่งผมเห็นว่าคำแปลและคำอธิบายนั้นแตกต่างจากนักการศาสนา แต่ไม่ได้ “ขัดแย้ง” กัน เป็นการเข้าถึงความยิ่งใหญ่ของอัลกรุอ่านกันคนละแบบเท่านั้น ลองดูนะครับ ผมจะยกมาตามหนังสือเล่มนี้นะครับ ส่วนที่ท่านบอกว่าเอาแบบฉบับของ adison เองคงไม่นะครับ ผมก็ได้แนวคิดเรื่องนี้จากหนังสือเล่มนี้ดังนั้นขออ้างอิงจากหนังสือเล่มนี้นะครับ

นี้คือคำอธิบายอัลกรุอ่านจากศาสตร์อื่นนะครับ(ในที่นี้คือวิทยาศาสตร์)
อัลกรุอ่านว่าด้วยเรื่องสมองใหญ่หรือซีรีบรัม (Cerebrum)
พระผู้เป็นเจ้าได้ดำรัสไว้ในอัลกรุอานเกี่ยวกับชายผู้หนึ่งจากผู้ปฏิเสธ เป็นคนชั่วร้าย เขาขัดขวางการละหมาดของท่านศาสนฑูตมุหัมหมัด(ซ.ล.) ณ กะอ์บะฮ์ว่า
“ หามิได้ ขอยืนยัน หากเขาไม่หยุดกระทำ แน่นอนเราจะกระชากนาซียะฮ์(บริเวณส่วนหน้าของศรีษะ) นาซียะฮ์(บริเวณส่วนหน้าของศรีษะ) ที่โกหก อีกทั้งกระทำความผิด” อัลกรุอ่าน 96:15-16

ทำไม อัลกรุอานจึงได้อธิบายถึง ศรีษะส่วนหน้าว่าเป็นส่วนที่ใช้ในการโกหกและการกระทำบาป ทำไม อัลกรุอานจึงไม่กล่าวเพียงว่าผู้ที่โกหกและกระทำบาป อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างศีรษะส่วนหน้ากับการโกหกและการกระทำชั่ว?

ถ้าเราพิจารณาที่กะโหลกบริเวณศีรษะส่วนหน้า เราจะพบว่าเป็นพื้นที่ของสมองส่วน ซีรีบรัม ใน”ศาสตร์” ด้านสรีระวิทยาบอกเราได้ว่าอวัยวะส่วนนี้มีหน้าที่อย่างไร?

หนังสือเรื่อง”สิ่งจำเป็นของสรีระวิทยาและกายวิภาคศาสตร์” ได้กล่าวไว้ว่าศีรษะส่วนหน้าขมับ เป็นส่วนที่กระตุ้นจิตใจให้แสดงพฤติกรรม เป็นวิสัยทัศน์ในการวางแผน และเริ่มต้นชักนำไปสู่การเคลื่อนไหว เกิดขึ้นจากส่วนแรกสุดของหยักสมองส่วนหน้า เรียกส่วนนี้ว่าบริเวณสมองส่วนแรกสุด พื้นที่นี้เชื่อมติดกับเปลือกของหยักสมอง “ หนังสือยังกล่าวอีกว่า “ความสัมพันธ์กันระหว่างการเคลื่อนไหวของร่างกายทั้งหมดกับพื้นที่สมองส่วนหน้าโดยมันจะทำหน้าที่คิด สมองส่วนหน้าจึงเป็นศูนย์รวมของการคิด ที่จะล่วงละเมิดกฏเกณฑ์ต่าง ๆ “

ดังนั้น สมองส่วนซีรีบรัมนี้จึงเป็น ส่วนรับผิดชอบต่อการวางแผน กระตุ้นจิตใจให้แสดงพฤติกรรมชักนำสู่ความดีหรือการกระทำบาป และรับผิดชอบโดยตรงต่อการพูดโกหกหรือพูดความจริง ดังนั้นจึงเป็นการสมควรแล้ว ที่จะอธิบายว่าศรีษะส่วนหน้า เป็นส่วนที่ใช้ในการโกหก และกระทำบาป เมื่อเขาคิดที่จะกระทำมัน ดังที่ได้กล่าวไว้ในอัลกรุอ่านว่า

“.....นาซียะฮ์(ศีรษะส่วนหน้า ขม่อม) ที่ประพฤติชั่ว....” (อัลกรุอ่าน 96:16)

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบหน้าที่ของสมองส่วนหน้าเมื่อ 60 ปี ที่ผ่านมานี้เอง ตามรายงานของศาสตราจารย์ เคทธ์ แอล มัวร์


เป็นไงบ้างครับ ความแตกต่างระหว่าง “กระจุกผม” กับ “สมองส่วนหน้า” เอาละครับ ใครผิดใครถูก ไม่ควรเป็นประเด็น เพราะสุดท้ายมันจะนำไปสู่การประณามกัน ซึ่งมันไร้ค่ามาก แต่เห็นด้วยกับผมไหม ว่าถ้าเราเปิดโอกาสให้การเข้าถึง แปล อรรถาธิบายอัลกรุอ่าน นอกเหนือจากกรอบของนักการศาสนาแล้ว จะยิ่งทำให้เราค้นพบ คุณค่าของอัลกรุอานมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เรามีศรัทธามากยิ่งขึ้น นี้แทบจะเป็นการยืนยันได้เลยว่า อัลกรุอ่านคือโองการของพระเจ้าผู้รอบรู้อย่างยิ่ง ในสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยรู้มาก่อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adison
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2008
ตอบ: 15


ตอบตอบ: Thu Aug 14, 2008 7:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แฮะๆ ความคิดเห็นของผมข้างบน ฟ้อนต์เล็กไป ถ้าจะอ่านให้สะดวกรบกวนท่าน ก็อปปี้ ไปอ่านในเวิร์ด แล้วขยายขนาดก็ได้ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
คนที่เดินผ่าน
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006
ตอบ: 104
ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com

ตอบตอบ: Thu Aug 14, 2008 10:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

…หามิได้ครับ ผมไม่ต้องการเอาชนะอะไรทั้งนั้น เพียงอยากเห็นการให้ความหมายแบบที่ adison เข้าใจเกี่ยวกับซูเราะห์นี้...
...ไม่ใช่เจาะแค่คำเดียวหรือประโยคเดียว คือผมอยากให้adison ช่วยอธิบายให้มันเป็นเรื่องราวน่ะครับ เพราะตั้งแต่อายะห์ที่ 9 – 19 นั้นมีความหมายต่อเนื่องกัน...
…เพื่อต้องการให้รู้ว่า อัลกุรอาน สื่อความหมายว่าอย่างไร...
...ปรับความเข้าใจให้ตรงกันนิดนะครับ คำว่า “ กระจุกผมริมหน้าผาก “นั้นเป็นของ มัรวาน สะมะอูน ตามที่คุณอ้าง...
...ของสมาคมนักเรียนเก่าอรับ ใช้คำว่า “ ขม่อม “และ “ ผมริมหน้าผาก“ ...
...ของ อ.ดิเรก ใช้คำว่า “ ขม่อม “ เช่นกัน ซี่งความหมายมันก็คือกันนั้นแหละ ตรงนี้รับทราบนะครับ ...
...เป็นการพูดถีงลักษณะทางกายถาพ คือ จิกผมบริเวณขม่อมแล้วโยนลงไปในกองไฟ...
...จิกผม กระชากผม ลากผม เป็นกริยา ท่าทาง น่ะครับ...
...หากเปลี่ยนเป็น “ สมองส่วนหน้า “ แล้ว ผมอยากให้ adison ร้อยเรียงใหม่อีกที ให้ความหมายมันต่อเนื่องกัน ตั้งแต่อายะห์ที่ 9 – 19 น่ะครับ...
...หากความหมายพอรับได้ ก็จะได้รู้ว่า อ๋อมันมีอีกทัศนะนีงนะ ที่อธิบายแบบนี้...
...แต่หากความหมายมันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น หรือมันไม่เกี่ยวกัน ก็ชี้แนะกันนะครับ ว่าน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า...
...ไม่ได้ต้องการเอาชนะอะไรทั้งนั้น คุยกันแบบผู้แสวงหาความรู้ครับ...
... adison ลองอธิบายใหม่อีกทีนะครับ ตั้งแต่อายะห์ที่ 9 – 19...

ปล.” ผมก็เห็นด้วยกับการใช้ "ศาสตร์ " อื่น หากมันมาขยายความหมายอันยิ่งใหญ่ของอัลกุรอาน โดยยังคงความหมายเดิมอยู่ “
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อับดุลฟัตตะหฺ
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 19/09/2008
ตอบ: 22


ตอบตอบ: Sun Sep 21, 2008 1:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Exclamation ติดตามและเป็นห่วงพี่น้องทุกท่านมากครับ ขออัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา

ทรง เมตตาเรา ให้เราทุกคนอยู่ในทางนำที่เที่ยงตรงนะครับ อามีน

ผมอยากจะฝากอะไรกับพี่น้องอย่างนึงนะครับ ว่ากุรอานคือวิทยาศาสตร์ในตัวอยู่แล้วครับ

กุรอานอธิบายวิทยาศาสตร์ได้ แต่หากคุณเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายกุรอานโดยที่

ไม่ได้อ้างอิงจากนักอรรถาธิบาย คุณก็จะคลาดเคลื่อน อาจถึงขั้นหลงผิดเข้าใจผิดเลยนะครับ

เพราะถ้าเราทุกคนเข้าใจกุรอานได้เอง อัลลอฮฺจะให้นบี Solallah เป็นผู้อธิบายศอฮาบะหฺทำไมครับ

เพราะศอฮาบะหฺรู้ภาษาอาหรับแน่นอน เขาเข้าใจความหมายแน่นอน แล้วทำไม

นบี Solallah จึงต้องอธิบายเพิ่มเติมในภาษาที่เขาใช้กันอยู่แล้ว ก็เพราะอัลกุรอานเป็นกลามุลลฮฺ

คำแปล คำอธิบายจากนบี Solallah ก็ได้รับวะฮฺยู (วะฮีย) จากอัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลาเช่นกัน

ดังนั้น เราจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยนะครับ

ทีนี้ ผมตั้งข้อสันนิฐานว่า คุณน่าจะได้อ่านกุรอานฉบับแปลไทย อย่างเดียวใช่ไหมครับ

หมายถึงแปลความหมายเป็นประโยคอย่างเดียวน่ะครับ ไม่ได้อธิบายไว้

นี่คือข้อเสียจุดหนึ่งที่ผมเกรงว่าจะทำให้เราเข้าใจศาสนาคลาดเคลื่อนได้

คุณจะเอาวิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องของมั๊วะอฺญิซาตอย่างไรครับ ไม่ได้เลยครับ

นั่นคือเดชานุภาพของพระผู้สร้างนั่นเอง คนเรานะครับถ้าจะมองแต่วิทยาศาสตร์ตลอดเวลา

กุฟฟารมุชรีกีน เขาจะกราบรูปปั้นทำไมครับ มนุษย์ทุกคนเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาตินะครับ

อย่างที่บังเขาอ้างอิงคำแปลว่ากระชากผมน่ะครับ คุณลองคิดง่ายๆ คุณจะจิกสมองคน

แล้วลากคนหรือครับ อันนี้ถ้าบอกว่าจะเข้าถึงด้วยวิทยาศาสตร์ลองอธิบายสิครับว่า

คุณจะจิกหัวลากใครสักคนหนึ่งเพื่อโยนหรือเหวี่ยงเขาไปทางใดทางหนึ่ง

หากคุณหมายความว่า ขม่อม หรือกระจุกผมนั้น น่าจะเป็นสมองมากกว่ามั้ง

คุณลองคิดแบบเด็กๆ เราดึงสมองคนเพื่อเหวี่ยงเขาไม่ได้เลยครับ ไม่ logic อย่างมาก

อันนี้ผมคิดว่า คุณอาจจะมองเป็น อายะหฺ โดดๆ หรือ ก่อนหลังนั้นไม่กี่อายะหฺ

นี่ทำให้คุณอาจจะเข้าใจผิดได้ นะครับ การที่เราจะเข้าใจความหมายได้น่ะครับ

เราต้องศึกษาเยอะครับ กุรอานอธิบายกุรอาน กุรอานอธิบายหะดิษ หะดิษอธิบายกุรอาน

ถามว่าทำไมคนสมัยนี้ไปอวกาศได้แล้ว จะเชื่อหะดิษของคนโบราณทำไม วิทยาศาสตร์สิ

เหตุผลที่เราต้องมาจากตัฟซีรเท่านั้น เพราะว่า คุณค่าของอิสลาม และการศึกษาต้องรักษาไว้

ผมว่าเป็นสิ่งที่พระผู้สร้างได้วางไว้ หากเราคิดเองเข้าใจเอง ไม่ต้องเรียนศาสนากันแล้วครับ

อ่านหนังสือออกได้ แปลหากุรอานแปลไทยมา อ่านเอง คิดเอง อ่ออันนี้อย่างนี้นะ อืมใช่ๆ

แบบนี้ มุสลิมก็คงล้านคนล้านความคิด กุรอานจะมีล้านความหมาย แล้วอิสลามจะเป็นหนึ่งเดียว

ได้อย่างไรเล่าครับ แน่นอนครับสิ่งที่มาจากมนุษย์น่ะ คิดใครคิดมันจะเห็นดีเห็นงามครับ

ดูเรื่องน้ำท่วมสมัยนบีนัวหฺ วิทยาศาสตร์จะอธิบายอย่างไรครับ เมื่อมีมนุษย์คนนึง

มาเผยแผ่สัจธรรม อยู่ 950 กว่าปี (ผิดพลาดต้องขอมะอัฟครับ) จนแล้วจนรอด

ต้องขอดุอาอฺให้พระเจ้าลงโทษประชาชาติสมัยนั้น วิทยาศาสตร์บอกไม่ได้นะครับว่า

เอ๊ะพอคนนึงขอให้มีการลงโทษจากพระเจ้าแล้ว อยู่ๆน้ำก็ท่วมคนตายเกลี้ยงเหลือแค่ผู้ศรัทธา

ที่อยู่บนเรือ และก็สัตว์ที่ท่านนบีนำขึ้นเรือมาด้วย ไหนจะเรื่องอายุ 950 ปี

มาบอกคนสมัยนี้คง เห้ย มั่วแล้ว นานไปมั้ง จะเอาแรงที่ไหนเดินว่ะนั่น แกหงั่กเลย

ผมอยากให้คุณ เอดิสัน (ขอมะอัฟหากผิดชื่อ) ลองหาหนังสือ หรือcd ตัฟซีรสมัยนี้นะครับ

เมื่อวิทยาการเก้าหน้า นักตัฟซีรที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ จะบอกคุณได้ว่า นี่นะ

พระเจ้าบอกอย่างนี้ในกุรอาน นบี Solallah อธิบายอย่างนี้นะ แล้วหากเรื่องใดที่มนุษย์เรา

เพิ่งเข้าใจสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ แล้วตรงกับกุรอาน ก็ อ่อ นี่ไง สิ่งที่อัลลอฮฺ ประทาน

เพื่อให้คนรุ่นหลังที่เชื่อวิทยาศาสตร์ ได้เห็นว่า กุรอานเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นกลามุลลอฮฺ

เป็นความจริงจนวันสิ้นโลก ไม่ว่าโลกจะเดินไปทางใด คนที่ศึกษาอิสลามจะเข้าใจอิสลาม

ได้ดีเสมอ โดยที่ความหมายเดิมซึ่งเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้ายังคงอยู่

แต่สิ่งที่เพิ่มมา คือวิทยาการ ที่ได้จาก คำดำรัสของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเราจะเห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อินชาอัลลอฮฺ

เรื่องที่คุณสงสัยเรื่อง การกำเนิดตัวอ่อน มีนะครับ อธิบายจากความหมายดั้งเดิม

คนสมัยนั้นอาจจะไม่เข้าใจ แต่แน่แท้วันนี้ อัลกุรอานได้ยืนยันสิ่งที่มนุษย์เพิ่งพบไม่กี่ร้อยปี

ว่ามีคนคนนึงกำเนิดขึ้นเมื่อพันสี่ร้อยกว่าปีมาแล้ว แล้วคนนั้นได้พูดไว้เพี่ยวกับเรื่องนี้

เรื่องตัวอ่อนมนุษย์มีลักษณะอย่างไร วิวัฒนาการจากอสุ เป็นก้อนเลือดอย่างไร

กุรอานบอกไว้ เพื่อให้ชนรุ่นหลังที่มาค้นพบสิ่งเหล่านี้ได้ยึดมั่นถือมั่น

หากกุรอานไม่ใช่วิทยาศาสตร์แล้วไซร้ มนุษย์สมัยใหม่เขาไม่เชื่อกันหรอครับ ผมฟันธงเลย

นี่คือสิ่งที่ทำให้เรายิ่งศรัทธามากขึ้นในพระเจ้านะครับ

ท้ายนี้หลังจากวนไปเวียนมาจนผมยัง งง เอง ก็ขอฝากไว้ว่า

"อัลกุรานทันสมัยตลอดเวลา อัลกุรอานอธิบายวิทยาศาสตร์ แต่อย่าเอาวิทยาศาสตร์

มาเปรียบเทียบหรืออธิบายกุรอาน เพราะความรู้คิดของมนุษย์ต่ำต้อยน้อยนิดเมื่อเทียบกับ

ความรู้ของพระผู้สร้าง และผู้ที่อธิบายกุรอานได้ดีที่สุดคือร่อซูลของพระองค์ ซึ่งรับ

คำอธิบายจากพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งนึง ฉนั้นหากทุกๆท่าน รวมถึงตัวผมเอง อยากเข้าใจ

อยากเข้าถึงอัลกุรอาน จำเป็นต้องศึกษาศาสนาให้ลึก จากผู้รู้ อุละมานั่นล่ะครับ

อย่าคิดอธิบายเอาเองหาก อิหม่าน หรือความรู้ยังมีน้อย เพราะเสี่ยงที่จะหลงทางครับ"[B]

เรื่องพยานข่มขืนสี่คน สำนวนอาหรับบอกว่า เห็นต้องเห็นเหมือนก้านทาตาเสียบใน

ประปุกน้ำยาทาตา (แบบเห็นจะๆ สี่คน) จึงจะถือว่า มีการข่มขืน มีซินาเกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ ป้องกันการใส่ร้าย การโกหก ป้องกันทั้งคนที่จะถูกใส่ร้าย และป้องกันคนที่คิด

จะใส่ร้ายด้วยครับ เพราะการใส่ร้าย โทษนั้น รุนแรงนะครับทั้งในดุนยาและกิยามะหฺ

อิสลามจึงมีระบบ พยานเช่นนี้ในเรื่อง ซินา เพื่อความเป็นธรรมครับ

แต่ผมต้องบอกไว้นะครับ การที่คุณยกมา เรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่สัตว์ตรู (ศัตรู) ของอิสลาม

มันเอามาโจมตีเรา เพื่อให้คนอิหม่านอ่อน หวั่นไหวไปตามมัน เพื่อให้มุสลิมแตกแยกกันเอง

เรื่องพยาน 4 คนหาก หาไม่ได้ แต่เรายืนยันว่าเราเห็นจริงๆ อัลลอฮฺให้สาบานครับ

มีทางออกครับ แสดงว่าคุณอาจจะยังไม่ได้ศึกษา ซุเราะหฺอันนูรนะครับ เรื่องนี้เลยครับ

หาตัฟซีรซูเราะหฺนี้มาศึกษาแล้วจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างครับ แล้วคุณจะร้องอ๋อ

เราโดนสัตว์ตรู มันหลอกซะแล้ว มันเล่นตัดทอนมาเป็นอายะหฺๆ ตีความเข้าข้างมัน

แล้วโจมตีใส่ไคล้อิสลาม หากเราไม่ได้ศึกษามาก่อน หรืออิหม่านอ่อนอยู่แล้ว

เราก็ตกเป็นเหยื่อมันครับ มีเรื่องของการมีภรรยาสี่คนอีก เรื่องหิญาบอีก

สองเรื่องนี้เป็น ข้อใหญ่ๆที่มันเอามาโจมตีเราบอกว่าเรากดขี่ สิทธิสตรีครับ

เรื่องห้ามสตรีขับรถ หรือไปไหนมาไหนเองนั้น อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับว่าหะดิษหรือไม่

แต่ถ้าเป็นหะดิษ คุณเชื่อขนมกินได้เลย เป็นการป้องกันฟิตนะหฺ (ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นครับ)

สตรีเดินทางต้องมีมะหฺรอมไปด้วย คิดง่ายๆ พ่อพาลูกสาวไปต่างจังหวัดแบบนี้

ใครจะมาคิดข่มขืน ก็ต้องผ่านมะหฺรอม ซึ่งในกรณีนี้คือพ่อของนางไปก่อน

ไหนละครับที่ว่าเราตีความหะดิษผิด ไหนที่เรากดขี่สิทธิสตรี เราปกป้องอย่างแท้จริงต่างหาก

นี่คือสิ่งที่คนที่ดีที่สุดในโลกนบี Solallah ได้สอนเราไว้ ป้องกันปัญหาไว้ก่อน และใช้ได้ตลอดกาลครับ

อิสลาม มาเพื่อล้อมคอกก่อนวัวหาย แล้วมีคอกอีกชั้นเพื่อบอกว่าวัวหายต้องทำอย่างไรครับ

ไม่ใช่ศาสนาอื่นๆ วัวหายล้อมคอก แล้วแก้ไม่ได้ด้วยครับ (ผมอาจพูดตรงไปนะครับ)

คงฝากไว้เท่านี้ครับ ไว้คุยกันอีก Question แอดเมลผมมาได้เลยนะครับสะดวกคุย

suck_one_tar@hotmail.com ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2
หน้า 2 จากทั้งหมด 2

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.06 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ