อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[al-azhary]

ถึงคุณแมทท์

السلام على من اتبع الهدى

คุณจะชมหรือด่าว่าประนามอะไรพวกเรา ก็ย่อมมีค่าเท่ากันครับ ซึ่งมันไร้ความหมายสำหรับเรา แต่หากคุณจะคุยกับเราชาวซุนนะฮ์ล่ะก็ กรุณาไปตั้งกระทู้ขึ้นมาใหม่ ตามที่คุณถามมา แล้วเราจะร่วมสนทนาด้วย แต่คงทุกวันคงไม่ได้นะครับ เพราะประเด็นของคุณนั้น มันเป็นประเด็นรอง เมื่อคุณอย่างคุณผู้ทำตัวนอกหลักการของเรา ต้องการจะสนทนากับพวกเรา อย่างเชิงวิชาการ คุณแมทท์ต้องกระทั้งทู้ขึ้นมาใหม่ คงเข้าใจนะครับ

อัล-อัซฮะรีย์

นักศึกษามหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร

[matt]

พี่น้องมุสลิม เวบมรดกอิสลาม ซึ่งผมเป็นสมาชิก ผู้หนึ่ง, อย่างหนึ่งที่ผม รู้สึก ว่า ในห้อง เสวนา นี้ เปิดโอกาศ ให้ มุสลิมทุกๆ ท่าน มีสิทธิ ใช้ ความคิดอ่าน ได้อย่าง กว้าง ขวาง โดย ไม่จำกัด และ แบ่ง พวก หรือ กลุ่ม ตั้งแต่ผมเข้ามาคุย และตั้ง กระทู้ในที่นี้ ถ้าผู้ ที่ไม่ สนใจ หรือ ไม่เข้าใจกระทู้ที่ผมตั้งขึ้น หรือ ไม่เห็นด้วย ใน ความคิดของผม เขาก็ ไม่เข้ามา “สะกิดผม” , บ้าง ก็เข้ามา ชี้แจง อย่างสุภาพ ตามมรรยาทของ ผู้ที่ เรียกตัวเอง ว่า ตาม “ซุนนะห์” ของ ท่านศาสนฑูตมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เช่น อาจารย์ อาสัน ซึ่งผมก็ให้ความนับถือ ในวิชาการ

ผมเห็นกระทู้นี้ ตั้งขึ้นมา จากผู้ที่สนใจในศาสนาอิสลาม ผมจึงเข้ามาตอบ แต่ผมไม่ เห็น มีผู้ใด ขัด หรือ คัดค้าน คำตอบกระทู้ของผม ทั้งๆที่ มีหลายท่านที่เป็นมุสลิมที่ไม่เห็นด้วย กับคำตอบ ของผม เกี่ยวกับสิทธิของ สตรีมุสลิมหรือ สตรี ในภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมุสลิม ทุกๆท่าน รู้และเข้าใจดี และบางท่านเข้าใจดีกว่าผม ว่า สตรีอรับ มีสิทธิ มากน้อยเพียงไร

การเสวนาของผมต้องการจะสนทนาในปัญหา ที่ ผู้อื่นมองมุสลิม หรือ อิสลาม ในแง่ลบ เพื่อ ที่ จะให้ เราสามารถที่จะ หาคำอธิบาย ตามหลักการของอิสลาม อย่างง่ายๆ มาอธิบาย ให้ กระ จ่าง ในแง่ “ลบ” ต่างๆ เหล่่านั้น ให้กลายเป็น ความเข้าใจที่ถูกต้อง กระทู้ต่างๆ ที่เราตั้งขึ้น หรือ เข้าไปมีส่วน ใน การ ทัก ท้วง หรือ ออกความเห็น แล้ว เป้น หน้าที่ ของ เรา ที่จะ ต้อง อธิบาย ให้ ทุกๆท่าน เข้า ใจ ว่า ด้วย เหตุผลอันใด เรา จึงมีความ เห็น เช่นนั้น

ใน กรณีนี้ คุณal-farook ทำผิดมรรยาท ในการ เสวนา กระทำตนเหมือนผู้ก่อกวน เข้า มาและวิจารณ์ส่อเสียด แล้วก็ทำเฉยไป…….เช่นประโยคข้างล่างนี้

………………………………..
วิจารณ์

หาก "อิสลาม" เป็นของ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น กาเฟร มุชริกีน หรือท่านแมทท์ แน่นอนว่า พวกเขาก็สามารถเข้าใจอิสลามได้กันตามอำเพอใจ เหมือนกับที่ท่านทำอยู่หรือเปล่าครับ ? นี่ขนาดเป็นท่านนะครับ แล้ว คนกาเฟร คนมุชริกีน ที่เป็นเข้าของ เป็นสิทธิ์ของพวกเขา ที่จะเลื่ยมใส วิเคราะห์วิจัย "อิสลาม" ได้ ตามทัศนะของท่านแล้ว ศาสนาไม่พินาจ ด้วยความเห็นของท่านหรือครับ?

……………………………..
คำวิจารณ์ ส่อเสียดเช่นนี้ ทำเพื่อก่อกวน เท่านั้น เพราะ คุณal-farook ไม่มี หลักการ ที่ จะ มา สนับสนุน ความเข้า ใจของ ตนเอง และไม่เข้า ใจวัตถุประสงค์ของ พระองค์อัลลอฮฺ ที่ พระองค์ ทรงประทาน “ศาสนาอิสลาม มาให้มวลมนุษยชาติทั้งหมด

ผมไม่มีความต้องการที่จะสนทนา ประวัติศาสตร์อิสลาม กับ นักศึกษาจากไคโร ทั้งคู่นี้เลย ทั้งนี้ เพราะว่า คนทั้งสองนี้ ต้องการจะอาศัยผู้อื่น เพื่อปลดปล่อย ความ โอ้อวดของตนเอง ว่า มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ เท่านั้น ผมเพียง แต่ต้องการ ให้ คุณal-farook มีความ กล้า ที่จะเข้ามา ผจญหน้า กับ คำส่อเสียด ที่ผิดหลักการ ของอิสลาม โดย อาศัย เล่ห์กล, ใน การ อธิบาย อัลกุรอาน โดยตัด ข้อความจากอายะ อัลกุรอาน ส่วนที่สนับสนุน ความคิดของตนเอง มาเพียง เล็กน้อย มาอ้างอิง,

แต่ถ้าคุณ คุณal-farook ไม่กล้า หรือมีความรู้เพียงพอที่จะมา อธิบายให้แจ้งชัดไปในทาง บวก แล้ว ผมก็ไม่ต้อง การ สาวความมากกว่านี้ และในภายหน้า ถ้า ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่ผมตั้งกระทู้หรือเขียน ในกระทู้ของผมแล้ว กรุณาอย่าเข้ามาก่อกวน มันเป็นการเสียมรรยาท และ ขลาดเขลา




แมทท์
USA

[มุหัมมัด]

เท่าที่ผมอ่าน บทความคิดเห็นของคุณแมทท์เนี่ย ผมไม่เข้าใจว่า คุณอัล-ฟารูก เขาเข้ามาก่อกวนคุณแมทท์ตรงใหน ผมเห็นเขาเข้ามา โดยใช้คำพูดที่มีความถูกต้อง และกล่าวอ้างด้วยหลักฐาน แต่คุณแมทท์กลับหลุด มีผู้ทักท้วงความคิดเห็น(ที่มะซูมตามความคิดของ)คุณแมทท์ คือเหมือนกับห้ามผู้ใดค้านความคิดเห็นของฉันเด็ดขาด ว่างั้นเถอะ เราลองมาพิจารณาคำพูดของ คุณอัล-ฟารูก ที่คุณแมทท์ไม่น่าเดือดดานอะไรเลย คือดังนี้ครับ

หาก "อิสลาม" เป็นของ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น กาเฟร มุชริกีน หรือท่านแมทท์ แน่นอนว่า พวกเขาก็สามารถเข้าใจอิสลามได้กันตามอำเพอใจ เหมือนกับที่ท่านทำอยู่หรือเปล่าครับ ? นี่ขนาดเป็นท่านนะครับ แล้ว คนกาเฟร คนมุชริกีน ที่เป็นเข้าของ เป็นสิทธิ์ของพวกเขา ที่จะเลื่ยมใส วิเคราะห์วิจัย "อิสลาม" ได้ ตามทัศนะของท่านแล้ว ศาสนาไม่พินาจ ด้วยความเห็นของท่านหรือครับ ? อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

ولو اتبع الحق أهواءهم لفسدت السموات والأرض

" และหากว่าสัจจะธรรมนั้น ได้ตาม อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาแล้ว ชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในนั้นต้องเสียหายอย่างแน่นอน"

คุณอัล-ฟารูก พูดแค่นี้แหละครับ คุณแมทท์กลับเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าทำตัวก่อกวน ทำผิดมารยาท วิจารณ์ส่อเสียด หากว่าไม่มีหลักการ ที่มาสนับสนุนคำพูดของคุณอัล-ฟารูก ทั้งที่อัลกุรอานบอกอย่างชัดเจน คุณแมทท์ก็กล่าวหาว่า คุณอัลฟารูกไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของอัลเลาะฮ์ หากล่าวว่าคุณอัล-ฟารูกเข้ามาโอ้อวด หรือปลดปล่อยความโอ้อวดของตนเอง อาศัยเล่ห์กล ตัวข้อความจากอายะฮ์อัลกุรอาน และเมื่อน้องอัล-อัซฮะรีย์ เข้ามาชี้แจงโดยมีหลักฐานและเหตุผลอันชัดเจนที่คุณแมทท์ไม่สามารถโต้ตอบหักล้างได้ แล้วคุณแมมท์ก็มาด่าทอ ทำแต๋ว กับน้องอัล-อัซฮะรีย์อีกว่า เป็น เด็ก Camel Jocky กว่าวหาว่า แสดงมารยาทที่ไม่ดี และเลวทราม โดยเข้ามาสนทนาใส่คุณแมทท์ที่คิดว่าตนเองดีกว่าใครๆ คิดว่าตนเองถูกว่าใคร คิดว่าตัวเองนี้แค่ที่มีความคิด ตามวัตถุประสงค์ที่พระเจ้าต้องการ คุณแมทท์กล่าหาว่า เราใช้วาจาสามหาวเสียมารยาท (จบคำพูด ด่าทอ แบบแต๋วๆ ของคุณแมทท์ เมื่อนักเรียนไคโรทัดท้วง )

คุณแมทท์ครับ ผมทราบดีว่า คุณแมทท์นั้น เป็นคนที่ไม่ชอบฟังผู้อื่น ความคิดเห็นของข้าถูกอย่างเดียว แม้คนอื่นสนทนาชี้แจง ก็พยายามเฉไฉ เอาความเข้าใจที่ตนเองจะเอาเท่านั้น แล้วมาตีโพยตีพายด่าทอ แบบแต๋วๆ กับผู้ทักท้วง หากมีคนเพิ่งเข้ามาอ่าน เขานึกว่า กระเทยแก่ เขามาสนทนาก็เป็นได้นะครับ

คุณแมทท์ครับ กรุณาอย่าถือว่า ตนเองดี ตนเองถูก อย่าโอ้อวดความคิดเห็นของตนเอง อย่าพูดจาสามหาว พูดจาไร้มารยาท เหมือนผู้ไร้การศึกษา นิสัยอย่างนี้ มันส่อถึงผู้เป็นบิดามารดา และลูกหลานของคุณแท้ๆ

ความจริงการสนทนาที่ผ่านมาหลายกระทู้ ผมสังเกตุว่า คุณจะทุกข์เนื้อร้อนใจ เมื่อนักศึกษาอียิปต์เข้ามาทักท้วง คุณลองกลับไปทบทวนซิว่า กี่ครั้งที่นักศึกษาอียิปต์ได้ทักท้วงความเห็นของคุณ แต่คุณก็ตอบพวกเขาไม่ได้ เฉไฉ ไหลเลี่ยงไปเรื่อยๆ โดยมีคำพูดเหน็บทอ พวกเขาตลอด แต่พวกเขาก็ไม่โต้ตอบอะไรคุณมากมาย คุณนะ ไม่ได้สนทนาเพื่อหาสัจจะธรรม แต่เข้ามาแสดงความโอ้อวดให้ผู้อื่นรู้ว่าทัศนะของตนนั้นเจ๋ง มันดี พยายามถ่ายทอดความคิดลัทธิของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ แม้ใครจะทักท้วงอย่างไร คุณก็ไม่สนใจ เพราะถือว่า ทัศนะของข้าเท่านั้นที่ถูก คนอื่นจะว่าอย่างไร ข้าไม่สน พอจนมุม ก็ด่าทอทำแต๋วๆไปวัน

บรรดากระทู้ที่ผ่านมานั้น เมื่อนักศึกษาละเว้นการสนทนากับคุณ คุณไม่มีงานอะไรทำ แล้วมาอ่านการสนทนาระหว่างนักศึกษากับคุณอะสันและคณะ สงสัยคุณเข้าไปอ่านแล้ว หมั่นใส้นักศึกษาที่สนทนาที่ดีกว่า แล้วก็เข้ามาสอดแทรก ทำเป็นเชียร์เข้าข้างคุณอะสัน แล้วก็ถือโอกาสเข้ามาด่าทอ พูดจาเหน็บนักศึกษา โดยระบายอัดอั้นที่อยู่ในจิตใจไฝ่ต่ำออกมา อันนี้เรารู้ดี เมื่อคุณแสดงความไม่เป็นมิตรมาตั้งแต่แรก เนื่องจากพวกเขาไม่เห็นด้วยและคัดค้านคุณ บรรดานักศึกษาก็ไม่ต้องที่จะสนทนากับคุณแมทท์ที่อวดเก่งทัศนะของตน โดยไม่ยอมฟังใคร

ล่าสุด คุณอัล-ฟารูกเข้ามาคัดค้านคุณแมทท์ ในเรื่อง การเอาศาสนาอัลอิสลาม ไปเป็นสมบัติ ให้พวกกาเฟร มุชริกีน ครอบครองด้วย ก็เท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้ คุณแมทท์เขาไม่ยอม และเดือดดานขนาดหนัก จนกระทั้งต้องปล่อยแต๋ว ด่าทอต่างๆนาๆ ผมไม่เข้าใจเขาเล๋ย..
แล้วน้องอัล-อัซฮะรีย์ ก็เข้ามาชี้แจงต่อว่า

ถึง ท่านแมทท์

السلام على من اتبع الهدى

ผมเองก็ไม่ใคร่อยากที่สนทนากับ ท่านแมทท์มากนัก เนื่องจาก การที่ผมได้อ่านคำสนทนาของท่านที่ผ่านมานั้น เราพบว่า ท่านจะเป็นคนที่ไม่ยอมฟังใคร ตลบตแลง จนคุณ อัลฆุรอบาอ์ กล่าวว่า ท่านแมทท์มีลักษณะมุนาฟิก หน้าไหว้หลังหลอก ผมจึงขอหลีกห่าง แต่ท่านแมทท์สนทนากับ บังอัล-ฟารูก โดยกล่าวหาว่า บังเขา อ้างอิง ตบตา ลวงผู้อ่าน ผมก็จะสนทนาเพียงแค่ประเด็นที่บังอัล-ฟารุก ได้หยิบยกมาเท่านั้น

อ้างอิงจาก ท่านแมทท์

ผมใคร่จะเรียน ถามคุณ “al-farook” ว่า ถ้า ศาสนาอิสลาม ไม่ใช่สมบัติของมนุษยชาติ, ที่ พระเจ้าประทานมาให้ แล้ว, ศาสนาอิสลามเป็นของใคร? และคุณ เข้าใจ คำว่า “อิสลาม” และ “มุสลิม” ว่าอย่างไร?


จากอายะ ที่ 71 ซูเราะฮฺ อัลมุอฺมินูน ที่คุณ ยกมาอ้างเพียงแต่ส่วนเดียว นั้น เป็นการ อ้างอิงที่ไม่ถูกต้อง การยกข้อความจาก อัลกุรอานมายืนยัน เรื่องใดสิ่งใด คุณควรจะ ยกมาทั้งหมด อายะ และ เรื่องราวที่ติดต่อกัน ว่า อายะที่ยกมาอ้างอิงนั้น พระองค์ อัลลอฮุ ทรงกล่าวถึงอะไร และมีความหมายว่า อย่างไร?

ข้อความที่สมบูรณื ในอายะ 23:71 มีดังนี้:

71. และหากว่าความจริงนั้นสอดคล้องอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาแล้ว ชั้นฟ้าทั้งหลาย และ แผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในนั้นต้องเสียหายอย่างแน่นอน(*1*) แต่ทว่าเราได้ นำข้อเตือน สติ ของพวกเขา (คืออัลกุรอาน) มาให้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้หันหลังให้กับข้อ เตือนสติของพวกเขา



ถ้าคุณยกมาทั้ง อายะให้สมบูรณ์คุณจะเห็นว่า ประโยคที่ต่อไปคือ

“แต่ทว่าเราได้นำข้อเตือนสติของพวกเขา (คืออัลกุรอาน) มาให้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้หันหลังให้กับข้อเตือนสติของพวกเขา”

พวกเขาในที่นี้คือ “บรรดาผู้ที่ยังไม่รู้จักและเชื่อถือ ในคำที่ว่า “ลาอิลา ฮะอิล ลัล ลอฮุ”


ในการศึกษาอัลกุรอานนั้น ไม่ใช่เลือกแต่เพียง แต่สิ่งที่ คุณต้องการเพียง แค่ประโยค สองประ โยค ตัดเฉพาะ ส่วน ที่คุณต้องการมาล่อหลอก และตบตาผู้ อื่น หากคุณทำไป เพราะ ขาดความรู้ความเข้าใจในการศึกาาอัลกุรอาน

ตอบ

ท่านแมทท์ครับ ท่านเข้าใจคำพูดของ บัง อัล-ฟารูกหรือเปล่า?ครับ หรือว่า ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับมากระเดียด กล่าวหาว่า บังอัล-ฟารูก ยกอัลกุรอานมาไม่หมด เพื่อตบตา ลวงผู้อ่าน ทั้งที่ความจริง ท่านแมทท์เองนี่แหละครับ ที่หลอกลวงตัวเอง และบรรดาท่านผู้อ่านที่มีเกียตริ ผมทราบดีว่า คุณไม่ใช่มุสลิม ตามทัศนะของ อาจารย์ ฟาริด และผู้ที่เชื่อตามคำหุกุ่มของอาจารย์ฟาริด แต่ตามทัศนะของเรานั้น เราไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอเพียงแค่บอกว่า ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นมุสลิมนั้น มันมีทึยุคทุกสมัย ผมไม่ทราบว่า ผู้ที่มีลักษณะอย่างนั้น ท่านแมทท์รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า ? วัลลอฮุอะลัม

เรามาเข้าเรื่องกันสักหน่อย จากคำกล่าวของท่านที่ผ่านมานั้น บังอัล-ฟารูก ได้ดึงความเข้าใจจากความเห็นของท่านมาจุดหนึ่ง คือ ท่านอ้างว่า อิสลามเป็น "สมบัติ" ของ คนมุสลิม คนกาเฟร ยิว นะซอรอ ด้วย ท่านใช้คำพูดที่มาจากความคิดของท่านนี้ บังอัล-ฟารูกเขาไม่เห็นด้วย ก็เท่านั้นเอง ซึ่งการที่บังอัลฟารูก ไม่เห็นด้วยนั้น ก็เพราะ คำว่า "สมบัติ" คือสิ่งที่เรามีกรรมสิทธิ์ครอบครองร่วมกันด้วย ซึ่งหากกาเฟร ยิว นะซอรอ ที่ไม่ศรัทธาเชื่อ อัลกุรอาน ก็มีกรรมสิทธิ์ในอิสลาม พวกเขาก็สามารถอ้างสิทธิ์นั้น ในการทำความเข้าใจอิสลาม ได้ตามอารมณ์ที่พวกเขาต้องการ และพวกเขาก็สามารถกล่าวได้ว่า นั่นคือ หลักการที่มาจาก "อิสลาม"

แล้วบังอัล-ฟารูก ก็ยกอายะฮ์อัลกุรอาน ที่มีความหมายสมบูรณ์ เพื่อโต้ตอบผลที่จะตามจากความเข้าใจของ ท่านแมทท์ ว่า


ولو اتبع الحق أهواءهم لفسدت السموات والأرض

" และหากว่าสัจจะธรรมนั้น ได้ตาม อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาแล้ว ชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในนั้นต้องเสียหายอย่างแน่นอน"

ท่านแมทท์ครับ นี่คือ จุดมุ่งหมายที่เราต้องการ อัลหัมดุลิลลาห์ ดังนั้น การอ้างอิงตัวบท เพื่อมายืนยันในสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่ให้มีความบกพร่องนั้น ย่อมกระทำได้ ตามหลักวิชา البحث العلمى ที่นักปราชน์อิสลามได้กำหนดเอาไว้ ในการใช้อ้างอิงตัวบท และถ้าหากเรา ได้นำถ้อยความของอายะฮ์ดังกล่าวหลังจากนั้น มานำเสนอ มันก็ไม่มาค้านคำกล่าวของ บังอัล-ฟารูกเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อมันไม่มาค้าน ก็ถือว่า ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าตำหนิ ไม่ใช่เป็นการตบตา หลอกลองผู้อ่าน แต่ในทางตรงกันข้าม คุณลักษณะเหล่านั้น ย่อมกลับไปที่ตัวท่านแมทท์เองอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะท่านแมทท์อ้างทักท้วง ถ้อยคำอัลกุรอานส่วนที่เหลือว่า

"แต่ทว่าเราได้ นำข้อเตือน สติ ของพวกเขา (คืออัลกุรอาน) มาให้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้หันหลังให้กับข้อ เตือนสติของพวกเขา"

ท่านแมทท์ครับ ในเมื่อพวกเขาได้หันหลัง ปฏิเสธ ไม่สนใจใยดีกับอัลกุรอานและอิสลามแล้ว ดังนั้น อัลกุรอานและอิสลาม ยังเป็น "สมบัติ" ของพวกเขาอยู่หรือครับ ? อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

ان الدين عند الله الاسلام

"แท้จริง ศาสนา ณ ที่อัลเลาะฮ์นั้น คือ อัลอิสลาม"

ในเมื่อพวกเขาปฏิเสธ หันหลัง ให้อัลกุรอาน เขาก็ย่อมไม่ใช่อยู่ใน ศาสนาอิสลาม ดังนั้น เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในศาสนาอิสลาม แล้วอิสลามจะมาเป็นสมบัติของพวกเขาได้อย่างไร ?

ดังนั้น ผู้ที่กล่าวอ้างว่า อิสลาม คือ สมบัติ ของ กาเฟร ยิว นะซอรอ ด้วยนั้น เขาย่อมโกหกต่ออัลอิสลาม อัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ว่า

"และผู้ใดเล่าจะอธรรมยิ่งกว่าผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺ ด้วยปากของพวกเขาขณะที่เขาถูกเชิญชวนสู่อิสลาม และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่หมู่ชนผู้อธรรม"

อาจารย์ ฟาริด เขาอยากชวนท่านแมทท์เข้าสู่อิสลามครับ

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสอีกเช่นกันว่า

"และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้า” ดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ"

ดังนั้น ผู้ศรัทธา ก็ย่อมเป็นมุสลิม ที่มีสิทธิ์หวงแหน อัลอิสลาม เฉกเช่น อิสลามคือสมบัติของเขา แต่ผู้ที่ไม่ศรัทธานั้น เขาย่อมกุฟุร เป็นผู้ปฏิเสธิ อัลอิสลาม ดังนั้น ผู้ปฏิเสธ ย่อมไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับอิสลาม และอิสลามย่อมไม่เป็นสมบัติของเขาเลย

แต่อัลอิสลาม และอัลกุรอานนั้น เป็นของบรรดามุสลิมมีน (และผมไม่ทราบว่า เป็นของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมตามทัศนะของอาจารณ์ฟาริดด้วยหรือเปล่า?) อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

"และเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้าเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่ง และเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม"

หากมีคนถามเราว่า อัลอิสลามและอัลกุรอาน นั้น ถูกส่งมาสำหรับประชาชาติหรือไม่ ? เราขอตอบว่า ใช่ !!!! ( คุณแมทท์ พิจารณาคำพูดนี้ซ่ะบ้างนะครับ) แต่หากมีคำถามว่า เมื่ออิสลามถูกส่งมาเพื่อประชาชาติแล้วนั้น อิสลามได้ชื่อว่า เป็น "สมบัติ" ของพวกกาเฟร ยิว และนะซอรอ หรือไม่? ตอบ อิสลามไม่ใช่สมบัติของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างสิทธิ์ใดๆกับอัลอิสลาม หากพวกเขายังปฏิเสธ และสิ่งที่พวกเขาปฏิเสธ ก็ย่อมไม่ใช่สมบัติของพวกเขา อัลหัมดุลิลลาห์
ส่วนคำพูดอื่นๆของท่านแมทท์นั้น เราไม่ขอร่วมสนทนาวิจารณ์ เนื่องจากเราไม่นิยมสนทนากับผู้ที่ทำตนอยู่เหนือหลักการของศาสนาอิสลาม

จากคำพูดของน้องอัล-อัซฮะรีย์ ที่ทำให้ คุณแมทท์ต้องเดือดดานนั้น มีดังนี้ครับ

1. น้องเขาอ้างเหตุผลและหลักฐานมายืนยันอย่างชัดเจน ซึ่งมันมาค้านกับความเห็นของคุณแมทท์ที่คิดว่า ความของของตนเท่านั้นที่ถูก

2. น้องเขากล่าวว่า คุณแมทท์ไม่ใช่มุสลิมตามทัศนะของอาจารย์ ฟารีด เฟ็นดี้ และผู้ที่เชื่อตามอาจารย์ฟาริด

3. คุณแมทท์กล่าวหาว่า คุณอัล-ฟารูก อ้างอายะฮ์อัลกุรอาน แบบตัดตอนมา เพื่อตบตา ลวงผู้อ่าน แต่น้องอัล-อัซฮะรีย์ ชี้แจงได้อย่างชัดเจน จนทำให้คุณแมทท์ต้องพิโรจ

คุณแมทท์ครับ อย่าไปกล่าวหาคุณอัล-ฟารูกที่เขาไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาสนทนาเลยครับ ความรู้ของคุณนะ มันไม่เหมาะสมสำหรับคุณอัล-ฟารูกหรอก แต่มันเหมาะสำหรับเด็กซะนาวีย์(มัธยม) หรือนักศึกษา ปริญญาตรี อย่างพวกเรานี่แหละครับ หากคุณหัดละเลิกนิสัย ในการด่าทอ ระราน ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคุณได้แล้ว คุณจะดูดีขึ้นอีกเป็นกองเลยทีเดียว คุณมันก็แค่ผู้ใหญ่ที่ระงับอารมณ์แต๋วด่าทอของตนเองไม่อยู่ จึงต้องปล่อยอารมณ์คำพูดเรี่ยดราดออกมาอย่างนี้

[มุหัมมัด]

ผมอยากจะสรุปเป็นประเด็นๆ ในสิ่งที่คุณแมทท์พยายามไม่อ่านมัน ไม่สนใจและทำความเข้าใจมัน แล้วมาระรานกล่าวหากนักศึกษาอียิปต์ ดังนี้ครับ

1. จากคำกล่าวของท่านที่ผ่านมานั้น บังอัล-ฟารูก ได้ดึงความเข้าใจจากความเห็นของท่านมาจุดหนึ่ง คือ ท่านอ้างว่า อิสลามเป็น "สมบัติ" ของ คนมุสลิม คนกาเฟร ยิว นะซอรอ ด้วย ท่านใช้คำพูดที่มาจากความคิดของท่านนี้ บังอัล-ฟารูกเขาไม่เห็นด้วย ก็เท่านั้นเอง

2.ซึ่งการที่บังอัลฟารูก ไม่เห็นด้วยนั้น ก็เพราะ คำว่า "สมบัติ" คือสิ่งที่เรามีกรรมสิทธิ์ครอบครองร่วมกันด้วย

3. หากกาเฟร ยิว นะซอรอ ที่ไม่ศรัทธาเชื่อ อัลกุรอาน ก็มีกรรมสิทธิ์ในอิสลาม พวกเขาก็สามารถอ้างสิทธิ์นั้น ในการทำความเข้าใจอิสลาม ได้ตามอารมณ์ที่พวกเขาต้องการ และพวกเขาก็สามารถกล่าวได้ว่า นั่นคือ หลักการที่มาจาก "อิสลาม"

4. แล้วบังอัล-ฟารูก ก็ยกอายะฮ์อัลกุรอาน ที่มีความหมายสมบูรณ์ เพื่อโต้ตอบผลที่จะตามจากความเข้าใจของ ท่านแมทท์ ว่า


ولو اتبع الحق أهواءهم لفسدت السموات والأرض

" และหากว่าสัจจะธรรมนั้น ได้ตาม อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาแล้ว ชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในนั้นต้องเสียหายอย่างแน่นอน"

5. นี่คือ จุดมุ่งหมายที่เราต้องการ อัลหัมดุลิลลาห์ ดังนั้น การอ้างอิงตัวบท เพื่อมายืนยันในสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่ให้มีความบกพร่องนั้น ย่อมกระทำได้ ตามหลักวิชา البحث العلمى ที่นักปราชน์อิสลามได้กำหนดเอาไว้ ในการใช้อ้างอิงตัวบท และถ้าหากเรา ได้นำถ้อยความของอายะฮ์ดังกล่าวหลังจากนั้น มานำเสนอ มันก็ไม่มาค้านคำกล่าวของ บังอัล-ฟารูกเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อมันไม่มาค้าน ก็ถือว่า ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าตำหนิ ไม่ใช่เป็นการตบตา หลอกลองผู้อ่าน

6. ท่านแมทท์เองอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะท่านแมทท์อ้างทักท้วง ถ้อยคำอัลกุรอานส่วนที่เหลือว่า

"แต่ทว่าเราได้ นำข้อเตือน สติ ของพวกเขา (คืออัลกุรอาน) มาให้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้หันหลังให้กับข้อ เตือนสติของพวกเขา"

ท่านแมทท์ครับ ในเมื่อพวกเขาได้หันหลัง ปฏิเสธ ไม่สนใจใยดีกับอัลกุรอานและอิสลามแล้ว ดังนั้น อัลกุรอานและอิสลาม ยังเป็น "สมบัติ" ของพวกเขาอยู่หรือครับ ?

7. อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

ان الدين عند الله الاسلام

"แท้จริง ศาสนา ณ ที่อัลเลาะฮ์นั้น คือ อัลอิสลาม"

ไม่เมื่อพวกเขาปฏิเสธ หันหลัง ให้อัลกุรอาน เขาก็ย่อมไม่ใช่อยู่ใน ศาสนาอิสลาม ดังนั้น เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในศาสนาอิสลาม แล้วอิสลามจะมาเป็นสมบัติของพวกเขาได้อย่างไร ?

8. อัลเลาะฮ์ทรงตรัสอีกเช่นกันว่า

"และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้า” ดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ"

ดังนั้น ผู้ศรัทธา ก็ย่อมเป็นมุสลิม ที่มีสิทธิ์หวงแหน อัลอิสลาม เฉกเช่น อิสลามคือสมบัติของเขา แต่ผู้ที่ไม่ศรัทธานั้น เขาย่อมกุฟุร เป็นผู้ปฏิเสธิ อัลอิสลาม ดังนั้น ผู้ปฏิเสธ ย่อมไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับอิสลาม และอิสลามย่อมไม่เป็นสมบัติของเขาเลย

9. แต่อัลอิสลาม และอัลกุรอานนั้น เป็นของบรรดามุสลิมมีน (และผมไม่ทราบว่า เป็นของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมตามทัศนะของอาจารณ์ฟาริดด้วยหรือเปล่า?) อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

"และเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้าเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่ง และเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม"

10. หากมีคนถามเราว่า อัลอิสลามและอัลกุรอาน นั้น ถูกส่งมาสำหรับประชาชาติหรือไม่ ? เราขอตอบว่า ใช่ !!!! (คุณแมทท์ พิจารณาคำพูดนี้ซ่ะบ้างนะครับ)

11. แต่หากมีคำถามว่า เมื่ออิสลามถูกส่งมาเพื่อประชาชาติแล้วนั้น อิสลามได้ชื่อว่า เป็น "สมบัติ" ของพวกกาเฟร ยิว และนะซอรอ หรือไม่? ตอบ อิสลามไม่ใช่สมบัติของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างสิทธิ์ใดๆกับอัลอิสลาม หากพวกเขายังปฏิเสธ และสิ่งที่พวกเขาปฏิเสธ ก็ย่อมไม่ใช่สมบัติของพวกเขา อัลหัมดุลิลลาห์

นั่นคือ การสนทนาชี้แจงของน้องอัล-อัซฮะรีย์ ที่คุณแมทท์โต้ตอบหักล้างไม่ได้ นอกจากเข้ามาวิจารณ์ด่าทอ เสียๆหาย อย่างสาสมแก่ใจ แล้วก็ไป แล้วคุณแมทท์ก็หวนกลับมาด่าทออีก และบอกว่า คุณอัลฟารุกไม่กล้าเผชิญหน้า แต่เมื่อ น้องอัล-อัซฮะรีย์ บอกว่า ให้ไม่ตั้งกระทู้ไหม่ เพื่อคุณแมทท์จะได้เผชิญหน้าสนทนาในเชิงวิชาการจริงๆ กับบรรดานักศึกษา ที่คุณแมทท์บอกว่า ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่คุณแมทท์ก็มีท่าทีปฏิเสธ และเข้ามาวิจารณ์คุณอัลฟารูกอีกรอบตามแบบฉบับของตน โดยไร้หลักการ นี่แหละครับ ที่น้องอัล-อัซฮะรีย์เขาทิ้งท้ายคำพูดหนึ่งจากตัวตนอันแท้จริงของคุณแมทท์เอาไว้ว่า

ส่วนคำพูดอื่นๆของท่านแมทท์นั้น เราไม่ขอร่วมสนทนาวิจารณ์ เนื่องจากเราไม่นิยมสนทนากับผู้ที่ทำตนอยู่เหนือหลักการของศาสนาอิสลาม

ผมเข้ามา คุณแมทท์คงเดือนดานอีกตามเคยกระมัง แล้วคุณก็อย่าไปว่า คุณอัล-ฟารูกส่งผมมาอีกล่ะครับ มันเป็นมุกเก่านะครับ งั้นคุณแมทท์ก็ทำหน้าที่ด่าทอกระผมเป็นต่อไปได้เลยครับ เชิญ....

[asan]

[B]คุณมุหัมหมัดกล่าวว่า
บรรดากระทู้ที่ผ่านมานั้น เมื่อนักศึกษาละเว้นการสนทนากับคุณ คุณไม่มีงานอะไรทำ แล้วมาอ่านการสนทนาระหว่างนักศึกษากับคุณอะสันและคณะ สงสัยคุณเข้าไปอ่านแล้ว หมั่นใส้นักศึกษาที่สนทนาที่ดีกว่า แล้วก็เข้ามาสอดแทรก
.....................
ตอบ
ผมขอใช้สิทธิในการถูกพาดพิงสักนิดครับ คุณมุหัมหมัดครับ ถ้อยคำที่คุณกล่าวว่า"
สงสัยคุณเข้าไปอ่านแล้ว หมั่นใส้นักศึกษาที่สนทนาที่ดีกว่า แล้วก็เข้ามาสอดแทรก"
...........
นี่คือ ความรู้สึกที่มีอยู่ในตัวคุณและพวกคุณอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันดีกว่าเขา พวกเราดีกว่าพวกเขา การมองว่าตนดีกว่าคนอื่นนี่แหละครับ ที่เป็นกำแพงขวางกั้น ไม่ให้เราได้รับรู้ความจริงและ ความีทิฐินี้แหละครับ ที่ทำให้เราเป็นคนดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง ลองมาดูพฤติกรรมของอิบลิส ที่มองว่าตัวเองดีกว่า อาดัมซิครับ (ผมไม่ได้ว่าคุณเป็นอิบลิสนะครับ) เพียงแต่บอกว่า พฤติกรรม ดูถูกคนอื่นว่าต่ำต้อย หรือ ด้อยกว่าตนนั้น เป็นพฤติกรรมของ"อิบลิส" ดังโองการที่ว่า

قَالَ أَنَا خَيْرٌ مِّنْهُ خَلَقْتَنِي مِن نَّارٍ وَخَلَقْتَهُ مِن طِينٍ
[38.76] มันกล่าวว่า ข้าพระองค์ดีกว่าเขา พระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์จากไฟ และทรงสร้างเขาจากดิน

..................
เพราะฉะนั้น ของใครดีกว่าของใคร ปล่อยให้ผู้อ่านที่เขามีความรู้ มีปัญญาตัดสินจะดีกว่านะครับ

........................
ส่วนประเด็นที่ว่าคุณ matt กล่าวว่า ศาสนา อิสลามเป็นสมบัติของมนุษย์ชาติ" นั้น ผมเข้าใจ อย่างนี้ คือ ศาสนาอิสลาม แน่นอนเป็นของอัลลอฮ แต่ศาสนาอิสลาม อัลลอฮประทานมาเพื่อให้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตแก่มวลมนุษย์ชาติ คือ ไม่ใช่ให้มาเผยแผ่เฉพาะ มุสลิมเท่านั้น แต่ให้เผยแผ่แก่มนุษย์ในศาสนาอื่นๆด้วย เพื่อพวกเขาจะได้นำอิสลามมาเป็นแนวทาง ส่วนพวกเขาจะยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับนั้น เราไม่มีหน้าที่ที่จะไปบังคับเขา ดังโองการที่ว่า
(فذكر إنما أنت مذكر، لست عليهم بمسيطر).
ดังนั้น เจ้าจงตักเตือนเถิด แท้จริง เจ้านั้น คือผู้ตักเตือน เจ้าไม่ใช่ผู้บังคับพวกเขา

أفأنت تُكره الناس حتى يكونوا مؤمنين

แล้วเจ้าจะบังคับผู้คนจนกระทั้ง พวกเขาเป็นผู้ศรัทธาอย่างนั้นหรือ?

คุณมุหัมหมัดอ้างอายะฮที่ว่า

ولو اتبع الحق أهواءهم لفسدت السموات والأرض

" และหากว่าสัจจะธรรมนั้น ได้ตาม อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาแล้ว ชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในนั้นต้องเสียหายอย่างแน่นอน"
...........
ตอบ
ถูกต้องครับ สัจธรรมนั้น เป็นของอัลลอฮ เพราะฉะนั้น จะเอาสัจธรรมมาคล้อยตาม อารมณ์ไม่ได้ ท่านนบีกล่าวว่า

لا يؤمن أحدكم حتى يكون هواه تبعا لما جئت به

คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะไม่ศรัทธา จนกว่า อารมณ์ของเขา จะคล้อยตามสิ่งที่ฉันได้นำมา

قال النووي في الأربعين : حديث حسن صحيح رويناه في كتاب الحجة بإسناد صحيح

....................
เพราะเหตุนี้แหละครับ คุณที่ทำบิดอะฮ ถูกเรียกว่า อะฮลุลอะฮวาอ (أهل الأهواء ) เพราะศาสนานั้น มาจากวะหยูของอัลลอฮ ไม่ใช่ความคิดเห็นที่เกิดจากอารมณ์ของมนุษย์[/B]

[matt]

เนื่องจาก ผมไม่เคยสนทนา กับ มุหัมมัด มาก่อน และเป็นที่แปลกใจ ว่า ทำไมคุณ มุหัมมัด จึงมา “ตีโพยตีพายด่าทอ แบบแต๋วๆ กับผมแทนคุณ al-farook”

ทำไมคุณ al-farook ถึงได้หลบหน้า หลบตาไป ไม่กล้าหาญเหมือน “คุณแต๋ว” ทั้งสอง ของ คุณ al-farook เลย, ที่ให้เข้ามา“ตีโพยตีพายด่าทอ แบบแต๋วๆ กับผมแทนคุณ”?

เนื่องจาก ผม ไม่ ถนัด ในการ โต้เถียง เช่นนี้ และสืบสาวเรื่องราว ให้ออกนอกทาง ที่ ตั้ง ใจไว้, ตาม ความ คิดเห็นของผมนั้น ถ้าคนมีเหตุผลและมีมรรยาท แล้ว ผมอยากคุยด้วย และให้ความ นับถือ, การที่ผมเขียนโต้ตอบคุณ คุณ al-farook เสียยืดยาวนั้น ก็เพราะ คุณ al-farook, และ “คุณแต๋ว” ของเขาเข้ามา “ตีโพยตีพายด่าทอ ผมแบบแต๋วๆ” อย่างที่คุณมุหัมมัดกำลังทำอยู่ในขณะนี้

ผมพยายามที่จะอธิบายว่า ศาสนาอิสลาม เป็นสมบัติของ มวลมนุษย์ชาติ ซึ่งรวมทั้ง มุขริกีน และั ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมด้วย และมุสลิมมีหน้าที่ๆจะต้อง ทำหน้าที่ต่อจากท่านนบี คือเผยแพร่ อิสลาม ไปในหมู่ มุขริกีน และั ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมด้วย เพื่อพวก เขาจะได้รับ สมบัติที่ประเสริฐ ที่ พระองค์อัลลอฮ์ ทรงประทานให้แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเสมอหน้ากัน


บังเอิญจริงๆที่่ผมไปพบข้อเขียนของ ผู้ใช้นามแฝง ว่า RIF ใน กระดานเสวนา ของ อ.มูรีด เขียนไว้ว่าดังนี้

No. : 8017 IRF : IP : 203.172.36.1 วันที่ส่ง: 31.1.2006 1:59:16


”…..แต่อย่าลืมนะครับว่า อิสลามไม่ใช่ศาสนาสำหรับกลุ่มชนที่เห็นแก่ตัว ตัวเองเป็น มุสลิม แล้วก็ รอดส่วนพวกกาเฟรฺ มันเกิดมาเป็นกาเฟรฺก็ช่างมัน ปล่อยมันตกนรกไป! ..ไม่ใช่ครับ

นบีกล่าวว่า "แนวทางของฉันคือดะอฺวะฮฺ"
ดังนั้นท่านนบีและซอฮาบะฮฺก็ใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับการเผยแผ่ศาสนา เรียกร้องให้มนุษย ชาติมาเข้ารับอิสลาม…”


ผมคิดว่า ผู้ที่ใช้นามแฝง IRF มีความเข้าใจดีในวัตถุประสงค์ ของ พระองค์อัลลอฮฺ ในการ ประทาน ศาสนาอิสลามมาให้ มวลมนุษย์ โดยทั่วหน้ากัน สมกับเป็นมุสลิม ที่เดินตางทาง คำสอน ของท่านนบี
ผมอ่านบทความทุกๆอย่าง ที่เกี่ยว กับศาสนาอิสลาม ไม่ว่า จะเป็น ข้อเขียน ของใคร เพราะ อยากจะทราบความคิดเห็นที่แตกต่างกันของ มุสลิม ในเมืองไทยเรา, ทั้งนี้ไม่ใช่ว่า ผมมีเวลา เหลือเฟือ (ผมทำงาน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ถ้าผมมีเวลา มากอย่างคุณ มุหัมมัด แล้ว ผมจะ ใช้เวลาไปในทางที่มี ประโยช์มาก กว่านี้)


ถึงแม้ว่า ผมจะมีความคิดออก จาก แนวโน้มของ มุสลิมไทยโดยทั่วไป แต่ผมก็ยัง มีความ เป็นมุสลิม อยู่อย่างสมบูรณ์ ทั้งในทางศรัทธาและทาง ปฏิบัติ ตามแบบฉบับ ที่คุณๆ ทุกๆ ท่าน ปฏิบัติอยู่ใน ปัจจุบันนี้, เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2006 ผมได้มีโอกาสไปส่ง ผู้ไปทำฮัจจฺ ที่ดอนเมือง มีการทำพิธีกรรมตั้งแต่ ลงกระไดบ้านและ เดินออกจากประตูบ้าน จนขึ้นรถ ไปจนถึงสนามบิน ผมก็ไม่ได้ ออกความเห็นอะไร ทั้งนี้ เพราะว่าอะไรที่ ทำให้กำลังใจ ผู้เดินทาง นั้นเป็นส่วนดี ถ้าไม่ขัดกับหลักการของอิสลาม


การ นำความคิดออกมาแสดง เพื่อ แสวงหา คำตอบที่มี เหตุผล มีประโยชน์มากกว่าความรู้ ที่ ได้รับ จาก บรร ดา ผู้ที่มีความรู้ ในทางเดียว คือประวัติศาสตร์อิสลาม, ผู้ที่ไม่ลืมหูลืมตาดู ความ ล้ม เหลว ของ สังคมมุสลิม และชื่อเสียงของ ศาสนาอิสลามในปัจจุบัน, ว่าโลกเขา มองเรา อย่างไร ? เราคอยแต่จะกล่าวโทษสิ่งแวดล้อม โดยที่ไม่หัน กลับมาดูตัวเรา ว่า การ เรียนศาสนา ของ เรา ไปในทางเดียวกันหรือไม่ มีมาตรฐานหรือไม่? อะไรเป็นสาเหตุให้ มุสลิมเราตกต่ำ?

*********************

ผมชอบที่คุณเขียนว่า,

“คุณแมทท์ครับ ผมทราบดีว่า คุณแมทท์นั้น เป็นคนที่ไม่ชอบฟังผู้อื่น ความคิด เห็น ของ ข้าถูกอย่างเดียว แม้คนอื่นสนทนาชี้แจง ก็พยายามเฉไฉ เอาความ เข้าใจที่ตน เองจะเอา เท่านั้น แล้วมาตีโพยตีพายด่าทอ แบบแต๋วๆ กับผู้ทักท้วง หากมีคนเพิ่งเข้ามาอ่าน เขา นึกว่า กระเทยแก่ เขามาสนทนาก็เป็นได้นะครับ”

*********************

ผมว่าคุณ มุหัมมัด เข้าใจผมผิด อย่างแน่นอน (ภรรยาผมไม่เห็นด้วยกับคุณ) คุณคงมั่วกับกระเทย แก่ มากไป เลยมอง เพศชายเป็นกระเทยแก่ไปหมด ถ้าคุณ ออกรับแทน เพศชาย บ่อยๆ (สิ่งซึ่งผู้ชายส่วนมากเขาไม่ทำกัน) เช่นนี้แล้ว, คุณจะเปลี่ยนนิสัย เป็นนิสัย เพศ หญิง (บางท่าน), ไปโดย ไม่รู้ตัว นะครับ ระวังตัวหน่อย, แด๊ว, จะว่าผมไม่เตือน, ส่วนมากแล้ว ผู้ชายแล้ว เขาต้อง ดำเนินการแก้ ต่าง ด้วยตนเองครับ

คุณไม่รู้จัก ผม หรอกว่า ผมเป็นคนอย่างไร? มี บุคลิกอย่างไร? ผมเพิ่งกลับไปอเมริกาเมื่อ เดือนที่แล้ว และ จะกลับมา กทม. อีก ในเร็วๆนี้ ถ้า คุณ อยู่ ใน กทม. ผมยิน ดีที่จะพบ และ สนทนากับคุณ เพื่อ เรา จะได้ รู้จักกัน และ ทานอาหารกันที่ ภัตราคาร “จันเสี้ยว” ที่ Motor Way (ถ้าผมจำถนนไม่ผิด), กับผมและครอบ ครัวก็ได้ ผมยินดี, ถ้าคุณ ชอบ Sport และ Light Music และได้คุยกับผมแล้ว คุณจะเห็น ว่าผม มีเหตุ ผลใน สิ่งที่ถูกต้องเสมอ



แมทท์

ปล.



ครับอาจารย์asan



แมทท์

[asan]

وعليكم السلام ورحمة الله
ครับ คุณ matt

[มุหัมมัด]

พอนักศึกษาเข้ามาแสดงความเห็น กระเทยแก่ อีแต๋ว ก็ด่าไม่เลือกหน้า หาว่า เข้ามาก่อกวน แต่พอนายหัว อะสัน เข้ามา ถามเกี่ยวกับ เรื่องวิธีละหมาดตะฮัจญุด คุณแมทท์ ก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบ โดยใช้คำยกยอ คุณอะสัน ว่ามีความสุภาพ ไม่อยากจะตอบโต้หักล้าง จนทำให้คุณอะสันต้องตกต้นยอตายไม่รู้กี่รอบ ต่อไปนี้ คุณอะสันจะถามอะไรก็ตาม ก็ย่อมไร้ความหมาย และจะไม่ได้รับคำตอบอีกต่อไป เนื่องจาก คุณแมทท์ ใช้คำยกยอเท่านั้นก็พอสำหรับคุณอะสัน

คุณอะสันครับ หากคุณยังสนทนากับนักสึกษาโดยใช้การหมกเม็ด ซ้อนเร้น สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้อ่านนั้น คุณอย่างหวังเลยว่า คุณจะดีกว่า นักศึกษาที่มีอามานะฮ์ในการอ้างหลักฐานนำเสนอต่อผู้อ่าน หวังว่าคุณคงเข้าใจตนเองบ้างก็ดีน่ะ

[matt]

คุณ มุหัมมัด ผมว่าคุณหยุดนิสัย เลวๆ และไม่มีมรรยาทของคุณได้แล้ว และอย่าก้าวก่ายถึงคนอื่น ทำตัวให้สม กับซื่อของคุณสักหน่อย(มูหัมมัด) ผมไม่โกรธ ที่คุณจะเรียกขานอย่าง ไร ทีแรกก็นึกว่าล้อกันเล่น พอ สนุกกันได้ แต่คุณชักจะ หยุมหยิม มาก เกินไป


ผมว่าคุณควรจะให้ คุณอัลฟารุค เข้ามาแก้ต่าง ความโง่ และความเห็นแก่ตัวของเขาเองดีกว่า




แมทท์

[asan]

มุหัมหมัดกล่าวว่า

คุณอะสันครับ หากคุณยังสนทนากับนักสึกษาโดยใช้การหมกเม็ด ซ้อนเร้น สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้อ่านนั้น คุณอย่างหวังเลยว่า คุณจะดีกว่า นักศึกษาที่มีอามานะฮ์ในการอ้างหลักฐานนำเสนอต่อผู้อ่าน หวังว่าคุณคงเข้าใจตนเองบ้างก็ดีน่ะ
.....................
ตอบ

อยากจะเรียน นายมุหัมหมัดว่า ผมไม่ทราบว่า ใครสอนคุณให้เผยแผ่ศาสนาโดยใช้นิสัยเลวๆ หรือ เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า "สำเนียงบอกภาษา กิริยาบอกสกุล หลักสูตรดะอวะฮในมหาลัยอัลอัซอัร เขาสอนให้คน ใช้วิธีการเผยแผ่แบบนี้หรือครับ หมายถึงถ้าทัศนะต่างกันหรือ เขาไม่ยอมรับทัศนะของฉัน คุณกับชวนทะเลาะ แบบนี้ถึงคุณเรียนไป คุณก็คือ เปรต ในร่างปราชณ์ ไม่ไม่เป็นบะเราะกาตหรอกครับ และจำเอาไว้ว่า ผมไม่ได้เป็นคนบ้ายอ และอวดดี และ ผมไม่ได้บีบบังคับให้คุณ matt เชื่อผม และ ผมไม่จำเป็นจะต้องเป็นศัตรูกับ คุณ matt แม้ว่า เขาจะ มีทัศนะไม่เหมือนผมก็ตาม หน้าที่ของผมคือ สนทนาธรรม ด้วยความเป็นมิตร
เพราะศาสนาที่ผมนับถืออยู่สอนอย่างนั้น

[matt]

คุณ al-farook คุณเห็นหรือ ยัง เพราะ ความโง่ และ ปากพล่อยของคุณ ที่ทำให้ เกิดการ ถกเถียง กันด้วย ถ้อยคำที่ ไม่น่าฟัง ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ ที่คุณเรียกว่า เป็นส่วนหนึ่ง ของ ศาสนาอิสลาม มากน้อยเท่าใดนั้น ไม่ใช่เรื่อง สำคัญเท่ากับ การมีเหตุผล และ การเข้าใจ หลักการ ของ อิสลาม

ความรู้ของคุณอาจจะ ประทับใจคนบางคน หรือ เด็กๆ ที่ โง่ เขลา ที่ไม่เคยเรียน หลัก การของ อิสลาม และวัตถุประสงค์ ที่แท้จริง ของ อิสลาม การใช้คนโง่ เขลา มาประดับ และปกป้อง บุคค ลิกของคุณ นั้น เป็นความโง่ของคุณอีกประการหนึ่ง

ผมจะให้ข้อคิดกับ คุณ al-farook สักข้อหนึ่ง เนื่องจากคุณยังเป็นนักศึกษาอยู่ ยังไม่รู้จัก ชีวิตที่แท้จริง ที่ต้องต่อสู้ ด้วยตัวเอง และทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง ดังนี้ คือ ผู้ที่ฉลาด และจะ ประสพความสำเร็จ ในชีวิต การงาน ของ เขา จะต้อง ห้อมล้อม ด้วย ผู้ร่วม งาน เพื่อน ฝูงที่ มีความเฉลียว ฉลาด, แต่เมื่อใดก็ตาม ถ้าเขาคบค้า หรือห้อมล้อม ไว้ด้วย ผู้ที่ มีมรรยาทเลวทราม หรือ โง่เง่า แล้ว เขาเหล่านั้น จะ นำความอัปยศ มาสู่ตัวคุณ, พวก คนโง่ รอบข้างคุณนั้น เขาจะทำให้ คุณสำคัญตัวผิด คิดว่าคุณฉลาด เหนือผู้อื่น

ในส่วนตัวผมๆคิดว่าคุณเป็น คนฉลาดในการเรียน แต่คุณขาดสติปัญญาในการ ป้องกัน ความเสียหาย ต่อบุคลิกภาพของคุณเอง จำคำเตือนของผมไว้ ถ้าคุณรายล้อมตัวคุณ ด้วย บรรดาผู้เลวทราม และโง่เขลา แล้ว คุณจะหาความเจริญในสังคม ใดๆ ยาก เพราะบรรดา ผู้โง่เขลา และเบาปัญญา เหล่านั้น จะดึงชีวิต คุณให้ตกต่ำลง

ผมหวังว่า คุณ al-farook คงจะได้สติและนำเอาคำเตือนผมไปคิดบ้าง ผมเชื่อว่า อายุหรือความรู้ไม่ มีความหมายต่อบุคคลมาก เท่ากับ มรรยาท และสติปัญญา ทัศนคติ ที่มีต่อบุคคล ในสังคมที่อยู่ร่วมกับเรา

คุณ al-farook เนื่องจากคุณเป็นนักศึกษา อย่ามกมุ่น ต่อตำราอย่างเดียว อย่า เอา ศรีษะ ฝังไว้ในทราย เยี่ยงนกกระจอกเทศ โผล่หน้าออกมาดูความเจริญ ของโลก รอบๆ เราดูบ้าง จะได้รู้จักว่า มนุษย์ เขาอยู่อย่าง สันติชน นั้น เขาอยู่กันอย่างไร จำไว้ว่า ถ้าห้อมล้อม ตัวคุณด้วยคนโง่และมรรยาทเลวแล้ว จะทำให้คุณตัวเองตกต่ำ



แมทท์

[มุหัมมัด]

ถึง คุณแมทท์แต๋ว

ความจริงไอ้กระผมไม่อยากจะสนทนากับคุณสักเท่าไหร่ ส่วนมาผมจะเข้ามาสนทนากับ พวกปากจัดๆ ได้ไร้มารยาท หรือสนทนาโดยกล่าวหาไม่เป็นธรรม แต่นี่คุณก็ยังพาดพิงถึง คุณอัล-ฟารูก ที่ยังไม่มีเวลาพอจะเข้ามา เพราะเขามีสอบจำเป็นอยู่ คุณอัล-ฟารูก เขาไปด่าพ่อแม่คุณหรืออย่างไร? ถึงได้โกรธเคืองเขานักหนา มาหาว่า เขาพูดปากพล่อย และมารยาททราม ผมอยากให้คุณลองยกคำพูดของเขามาซิครับ ที่ชี้ถึงมารยาทเลวทราม หรือปากพล่อย คณอัล-ฟารูก เพียงเข้ามาสนทนาทักท้วงคุณแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วคุณก็ปล่อยนิสัยดิบๆ เลวๆ ที่ถ่ายทอดพันธุ์กรรมมาจากพ่อแม่ของคุณ แล้วมากล่าวด่าใส่ร้ายผู้ร่วมสนทนาก่อน แบบนี้ผมในฐานะเคยเป็นศิษย์ของคุณอัล-ฟารูก ก็คงต้องเข้ามาคุยสไตย์แบบนี้ที่คุณชอบสักหน่อยนะครับ คุณแมทท์แต๋ว กระเทยแก่แห่งวงการ ผู้อ้างตนว่าเป็นมุสลิม เมื่อก่อนผมเข้ามาสนทนาแก้ต่างผู้ที่กล่าวหาใส่น้องอัลอัซฮะรีย์ แต่วันนี้ต้องมาสนทนากับคุณแมทท์แต๋ว กระเทยแก่ ที่ไม่มีอะไรทำ เที่ยวเข้ามาด่าเรี่ยราด กับคนที่ยังไม่มีเวลาพอจะเข้ามา

คุณแมทท์แต๋วครับ สิ่งที่คุณแนะนำมานั้น ผมคิดว่า คุณอัล-ฟารูก คงจะรับฟังหรือเปล่าผมไม่ทราบ เพราะมันเป็นคำพูดของคนที่เชื่อถือไม่ได้ อย่างน้อย คุณก็เป็นคนหนึ่ง ที่ อ.ฟาริด หุกุ่มว่า เป็นกาเฟร ไม่ใช่มุสลิม ผู้สนทนาวะฮาบีย์บอกว่าคุณคือ มุนาฟิก จอมกลิ้งกลอก แล้วคำพูด และการสนทนาของคุณนั้น มันจะไปมีน้ำหนักอะไร

น้องอัล-อัซฮะรีย์ ก็บอกคุณไปแล้วว่า ถ้าหากพูดกับนักศึกษาไคโร ก็ให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ขึ้นมา เพื่อจะได้คุยกันตรงไปตรงมา ในสิ่งที่คุณถาม แต่สงสัยคุณคงกลัวจะคุยไม่ได้ไกล เลยไม่กล้าตั้งกระทู้มาคุยกับนักศึกษาอียิปต์ ฮ้าๆ และอีกไม่กี่วัน คุณอัล-ฟารูกเข้ามา ก็คุยกับเขาเองก็แล้วกันนะคุณแมทท์แต๋ว และก็อย่าลืมเอาน้ำดินล้างปากตนเองด้วยนะครับ เผื่อมันจะได้สกปรกน้อยลงนะครับ

[matt]

วันนี้ผมจะให้ความรู้พื้นฐาน ของศาสนาอิสลาม เสนอ ต่อ คุณ al-farook เนื่อง จากคุณ ยังไม่ เข้าใจ คำว่า ศาสนาอิสลาม อย่างถ่องแท้ ผมทราบดีว่าคุณ เข้าใจ เรื่องประวัติศาสตร์ และ ความรู้เรื่อง หะดีษ เป็น อย่างดี แต่คุณจะเป็น มุสลิมที่ดีไม่ได้ ถ้า คุณยัง ไม่รู้ จัก คำว่า “ศาสนาอิสลาม” เป็นที่น่า เสียใจ เป็นอย่าง ยิ่ง ที่ ได้ เห็นนักศึกษา จากสถาบัน ศาสนา ชั้น สูง แสดงมรรยาท ที่ สังคมการศึกษาเขา ไม่ยอม รับกัน

ด้วยใจ จริง ผมอยาก แลก เปลี่ยน ความรู้ กับ คุณ al-farook เท่านั้น และยินดี ที่เห็น คุณเข้า มา แต่การ เข้า มาของ คุณ มา อย่าง ไม่เหมาะสม กับ อาจารย์ ผู้สอน ศาสนา ผมอ่านนิสัยของ คุณ ได้ จาก มรรยาท และ ความหยาบ คาย ของ ลูกศิษย์ คุณ

อาจารย์สอนศาสนา อิสลาม ควรจะ สอน มรรยาท สังคม ต่อ ศิษย์ ผมไม่ทราบว่า คุณ จะ กลับมาสอนอะไรต่อ สังคมมุสลิมไทยเรา เพราะ ประการแรกทีเดียว คุณ ไม่รู้จักการสอน มรรยาท สังคม คุณลองคิดดูซิ คำตอบกระทู้ของคุณ ไม่ถูกต้อง ผมยกตัวอย่าง คำอธิบาย ของคุณ RIF ให้คุณดู คุณเห็นด้วยหรือไม่? ถ้าไม่เห็นด้วย คุณมีคำอธิบาย ต่างออก ไป อย่าง ไร?


ความจริงแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะต้อง ถึงกับด่ากันเลย คุณว่าอย่างไร? คุณน่าจะสละ เวลา มาคุย กับผมสักหน่อย ผมรับรองว่า จะไม่ใช้อารมณ์ อะไรกับคุณ

ความจริงเวบมาสเตอร์ ที่เวบนี้ เขาฉลาด เขาไม่ต้องการให้ผม ไป เพ่นพ่าน ที่ เวบอื่น หรือ ใช้เวบของผมเอง เขาอนุญาติ ให้ผม ใช้เวบนี้ ระบายอารมณ์ และความอัดอั้น ที่ผมรูสึกต่อ สังคมมุสลิม เรา ทีแรกเมื่อสมัยผมเปิดเวบ muslimthaiUSA.com นั้น หลายท่านในเวบนี้ โกรธและเกลียดผมมาก จำได้ว่า คุณ Nop ถึงจะวานให้สังหารผม

ถึงแม้ว่า อาจารย์ ฟารีด และ อาจารย์ มูรีด จะไม่รับผมเป็นมุสลิม เนื่องจากผมไม่ เชื่อในเรื่อง หะดีษ ของ บุคอรีและอื่นๆ แต่ไม่ใช่ หมายความว่าผมจะต้อง ตกกระได พลอยโจน ไปกับท่านด้วย ผมอาจจะโกรธบ้าง เป็นธรรมดา แต่เมื่อ ผม อ่านบทความ และ การ บรรยาย ของอาจารย์ ทั้งสอง ผมก็เข้า ใจเจตนา

ในเรื่อง ของความศรัทธา เป็นเรื่อง สำคัญ ที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ได้ และอีกอย่างหนึ่ง เจตนาเขาดีที่จะสั่งสอนเด็ก ให้เป็น มุสลิมที่ดี การจะตกนรกหมกไหม้ เป็นเรื่องของอัลลอฮ์ ไม่ใช่เรื่องของ มนุษย์ ผมก็มะอัฟ ให้ อาจารย์ ทั้งสองในใจ และผมต้องการให้ท่านทั้ง สอง ทราบด้วย


ผมสํญญาว่า ถ้าผมสามารถที่จะคุยกันได้ ในเวบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมจะปิดเวบผม ซึ่งผมก็ทำไปแล้ว สิ่งที่ผมเห็นด้วยกับ เวบนี้ ก็คือ แนวทางแห่งความเชื่อถือ ที่เขาไม่ เชื่อในเรื่อง เมาลิด กางเต้นในกุบูร และอื่นๆ ซึ่งผมก็ ไม่เห็นด้วยมาตั้ง แต่ เด็กแล้ว

ผม ว่าถ้าหากศาสนาอิสลาม เราไม่สามารถที่ จะทำให้ มุสลิม มีมรรยาท และใช้ถ้อยคำ ที่สุภาพแล้ว จะเนื่องมาจากอะไร? จากหลักคำสอนของศาสนา จากหะดีษ หรือ จากวิธี การสอน คุณจะเห็น ว่า เหตุที่มุสลิมตกต่ำ และเป็นที่ดูถูก ของสังคม ก็เพราะว่า เยาวชน ของเรา เรียนศาสนามาเพื่อ แสดงความรอบรู้ แทนที่จะใช้ คำสอนของศาสนา มา ประยุกต์ ใช้ แต่ไม่ทราบว่าจะใช้ได้อย่างไร?

เรื่องบิดามารดา ผู้บังเกิดเกล้า ในศาสนาอิสลามเราถือว่า เป็น เรื่องสำคัญมาก มุสลิมเรา ต้องให้ ความนับถือ ต่อบิดามารดา ของเรา และของ ผู้อื่น ถึง ผมจะไม่เชื่อหะดีษ มากนัก แต่ผม ก็นำเอาหะดีษ ดีๆ มาใช้เสมอ เช่น

เคยมีผู้ เล่าว่า ท่านนบี สอนให้เรายกย่อง มารดาให้มากที่สุด ท่านกล่าวย้ำถึง 3 ครั้ง รองลงมาก็บิดา การยกย่องบิดามารดานี้ เราจะต้องยกย่องทั้ง บิดามารดาของเรา และ ของผู้อื่นด้วย มุสลิม ที่ดี ผู้ที่รัก และ เชื่อฟังท่าน รอซูล แล้ว เขาจะไม่ ใช้คำ หยาบคาย ล่วง เกิน บิดามารดาผู้อื่น

ความโมโห และความหยาบคาย มีอยู่ในจิตใจของ ทุกๆคน เหมือน เราขัง “เสือ” ไว้ เมื่อเรา ปล่อย ให้มันหลุดออกมา มันก็จะไปทำร้าย ผู้อื่น หรือ ไม่ก็ทำร้าย ตัวเราเอง คนที่ปล่อย ให้อารมณ์ โกรธออกมา และกล่าวคำหยาบคาย ออกมา เป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ และเป็น จุดอ่อน ในบุคลิก และสิ่งที่เขา แสดงออกมานั้น จะทำลายตัวของเขาเอง


ผมอยากให้ คุณ al-farook ศึกษาอิสลาม โดย ดำเนินตามแนวทางต่อไปนี้:

ยึดถือหลักแห่งความบริสุทธิและบัญญัติจากอัลกุรอาน และการตีความหมายคำสอนของท่าน นบี โดยตรง, เป็นแก่นและ เนื้อหาที่สำคัญของความ ศรัทธา และปฏิบัติทางศาสนา เป้าหมายของมุสลิมจะต้องวางอยู่ที่การทำนุบำรุง และ ทำให้อิสลามคงไว้ เช่น ในสมัย นบี ไม่กระทำการใดๆ ที่เป็น การต่อเติมเนื้อหาของศาสนา, เช่น การเชื่อในลางสังหรณ์ ต่างๆ, การดัดแปลงศาสนา, การสร้างภาคี ในแบบต่างๆ

และให้เข้าใจว่า การปฏิบัติต่อไปนี้เป็นการขัด ต่อหลักการของอิสลาม
การกล่าวชื่อ นบีใดๆ หรือ อีหม่าม หรือ เทวฑูต ในการทำละหมาด, การอ่านดุอา, คร่ำครวญ ที่หลุมฝังศพ, ไม่ว่า จะเป็นของอีมาม หรือของ นบีท่านใด, ฉลองวันเกิดของ นบีหรือ อีมาม ที่ล่วงลับไปแล้ว, ใส่ตระกุด., ห้อยอัลกุรอานที่คอ, ทำน้ำดุอา เพื่อในการรักษาโรค, ไล่ผี และเสกมนต์ , ไปหาแม่มด หมอผี, บวงสรวง ศาลเจ้าต่างของผู้ที่ตายไปแล้ว, สร้างนำวิธี การใหม่ๆ ใน การ ทำละหมาด หรือสักการะ พระเจ้า


ผมว่า คุณ คุณ al-farook คงจะนำคำแนะนำและหลักเบื้องตัน นี้ ไปสอนลูกศิษย์คุณ หลักเบื้องต้น ของอิสลาม ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ คือ การมีมรรยาท และความสุภาพ และการรู้จัก มุสลิม คือใคร คือผู้ที่ นับถืออัลลอฮ์ และปฏิบัติตามคำสอนของ ท่านรอซูล

มรรยาทที่มุสลิมทุกๆ ท่านแสดงออก ถือว่า เป็น คุณลักษณะของ ผู้ ศรัทธา ในอิสลาม ในอัลกุรอาน บัญญัติ ไว้ โดยมีความหมายทั่วๆไปว่า “เครื่องนุ่งห่ม ที่ดี คือ ความศรัทธาต่อ อัลลอฮ์ และ ประพฤติ ปติบัติ อยู๋ในทำนองครองธรรม” นี่หมายถึง ไม่ว่า เรา จะแต่งตัวแสดงความ เป็นมุสลิม อย่าง ไร ก็ตาม แต่ถ้าเราขาดคุณธรรมแล้ว เราก็ไม่ได้เชื่อว่า เป็นมุสลิม ที่ดี

แต่ถ้ากาเฟรที่ มีมรรยาทดี และใช้ชีวิตอย่างถูกทำนองครองธรรม เดินตามทางที่อัลลอฮ์ วางไว้ ถึงแม้ว่า เขายังไม่รู้จักอัลลอฮ์ ก็ตาม เขาก็จัดว่าคนดีผู้หนึ่ง แต่เขาต้องการ ผู้ที่ มี ความรู้ ช่วย แนะ นำ วิถีทาง ที่ถูกต้องให้ แก่เขา

มุสลิมที่ดีจะต้อง ไม่เข้าใจ ว่า มุชริกีน และกาเฟร เป็นคนเลว แต่บรรดาเขาเหล่านั้น เป็นผู้ที่เราจะต้อง ให้เขารับรู้ว่า อิสลาม ก็ เป็น สมบัติของบรรดาพวกเขาเช่นกัน จงหันกลับมารับอิสลามและ ศรัทธาต่อ พระเจ้า องค์เดียว เท่านั้น แล้วเขาเหล่านั้น จะไม่เสียใจ




แมทท์

[วิทยากร]

ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้ามาอ่านข้อความของสมาชิกที่โพ้สกันเข้ามาไหร่นัก และถ้าเข้าก็ไม่ไหวอ่าน แต่เมื่อทีมงานแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็จำเป็นต้องเข้ามา
เมื่อเอ่านข้อความบางช่วงบางตอนก็ตกใจและเสียใจว่า เวบไซต์เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม เพื่อการเผยแพร่ศาสนาและแลกเปลี่ยนความรู้ ได้กลายเป็นเวบของชาวตลาดไปแล้ว มีการเหน็บแนม ด่ากันไปด่ากันมา โดยคนที่มีภูมิปัญญา มีวิชาความรู้ โดยไม่ใส่ใจมารยาทที่พึงปฏิบัติต่อกัน
ที่จริงพวกเราก็โตๆกันแล้ว และแม้บางท่านจะยังเป็นนักศึกษาอยู่แต่ก็ย่อมมีวุฒิภาวะ ที่สามารถเรียนรู้เรื่องมารยาทและกาละเทสะว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ผมไม่ยินดีที่จะให้พวกท่านคุยกันด้วยภาษาเช่นนี้ ที่นี่ แต่ถ้าท่านต้องการที่จะสนทนากันต่อ ก็ต้องด้วยวิชาการและมารยาทแห่งอิสลาม หากทำตามข้อเสนอนี้ได้กรุณาแจ้งผมก่อนตามชื่อที่ login นี้ แล้วผมจะเปิดกระทู้ให้สนทนาต่อ

อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้

[fais]

ถ้าจะสนทนาโดยอ้างอิง สถาบันการศึกษา ควรที่จะคำนึงถึ่ง ชื่อเสี่ยงของสถาบันด้วยนะครับอย่างน้อยน้องๆรุ่นหลังๆ ก็จะไม่ลังเลใจในการที่จะไปศึกษาต่อในสถาบันนั้น และรุ่นพี่ๆก็จะทำงานได้อย่างมีหน้ามีตาในสังคมต่อไป ขอความกรุณาด้วยนะครับ