ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - การแบ่งเตาฮีดเป็นบิดอะฮฺหรือ (ภาค2)
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
การแบ่งเตาฮีดเป็นบิดอะฮฺหรือ (ภาค2)
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Jan 24, 2006 1:29 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
คุณคนอยากรู้
เข้ามาก็หยอดคำชมสหายอัล-อัชอารีย์และสหายมุหัมหมัด ไม่กลัวคำชมจะติดคอบ้างหรือครับ ทั้งชมทั้งประจบ แถมกล่าวหาว่า ฝ่ายตรงข้ามเป็นแม่ปูสะด้วย..ฮิฮิ ด่าบรรพบุรุษบดอ.ของตัวเองหรือป่าว แต่ขอบคุณนะที่ช่วยขอดุอาให้
คำว่า " وَلاَ الضَّالِّينَ
และมิใช่ (แนวทางของ) พวกที่หลงผิด - อัลฟาติหะฮ
อายะฮนี้ ข้าพเจ้าเกรงว่า จะเข้าตัวของคุณที่มีนามว่า "คนอยากรู้และสหายที่ทำบิดอะฮนะครับ
เพราะท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า
"وإياكم ومحدثات الأمور؛ فإن كل محدثة بدعة وكل بدعة ضلالة"
และพวกท่านพึงระวังบรรดากิจการที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่(ในศาสนา)แท้จริงสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่นั้นเป็นบิดอะฮ และทุกบิดอะฮนั้น เป็นการหลงผิด -
[رواه الإمام أحمد في "مسنده" (4/126، 127)، ورواه أبو داود في "سننه" (4/200)، ورواه الترمذي في "سننه" (7/319، 320
แบบนี้ เขาเรียกว่า กบในกะลา หรือ ไม่ก็หนอนในอาจม ใช่ไหมจ้ะ ทั้งที่ตัวเองอยู่ในกองอุจจาระ แต่ยังอวดว่า ฉันวิเศษกว่าใครในโลกา.. ฮะฮา
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Tue Jan 24, 2006 5:39 pm    ชื่อกระทู้: การแบ่ง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

wassalam บังฮะซัน
พอผมพิมตกความหมาย คำว่า" وَلاَ الضَّالِّينَ

Rolling Eyes บังก็ได้โอกาส เบ่งใส่ผมเลยนะ

อายะฮนี้ ข้าพเจ้าเกรงว่า จะเข้าตัวของคุณที่มีนามว่า "คนอยากรู้และสหายที่ทำบิดอะฮนะครับ
เพราะท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า
"وإياكم ومحدثات الأمور؛ فإن كل محدثة بدعة وكل بدعة ضلالة"

ตอบ อายะนี้ อัลลออฮ์(ซบ)กล่าวถึงคนที่มีอากีดะที่ผิดๆอย่างบังนะครับ เพราะ
บังไม่ได้ตามชนรุ่นก่อน เหมือนที่อีหม่ามทั้ง4 เขามีความเชื่อมั่นกันตั้งแต่อดีดตกาลแล้วครับ
แต่บังนั้นเพิ่งมาเชื่ออากีดะของ อิบนุตัยมียะครับ ที่ไม่ทรงรับรู้ในชาตและซีฟัตของพระองค์ ที่กล่าวไว้ในอัลกรุอ่าน ว่าคูณลักษณะของพระองค์เป็นอย่างไรบ้าง
นี่แหละน่าบังจึงไม่ รู้จัก(มะรีฟัต)ต่ออัลลออ์เสียที เพราะบังนั้น
มีซีฟัตตะกับบุร และริยะ มาเป็นตัวเมื่อเป็นเช่นนี้ หัวใจของบังก็ถูกปิดบัง มองไม่เห็นเนียะมัติของอัลลอฮ์ กลายเป็นฮิยาบ มาบดบังอีกชั้นหนึ่งมองไม่เห็นรัศมีแห่งความสวยงาน รัศมีแห่งความดี เนียะมัติต่างๆของอัลลออ์ ถูกมองข้าง เพราะถือว่า ฉันเก่ง ฉันเด่น ไม่เคยย้อนมองว่า ตัวฉันนี้เป็นใคร เป็นมาอย่างไร เป็นเอง หรือว่าถูกให้เป็น
เหล่านี้ที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นอุปสรรคในการรู้จักต่อคูฯลักษณะของอัลลอฮ์ เพราะการที่ไม่อยากรู้จักและไม่ยอมที่ตะรู้จักนี้แหละเขาเรียกว่า คนตะกับบุร กลายเป็นชิริกตัวใหญ่ที่ขวางกั้นในการรู้จักกับพระองค์ คือเรื่องที่ทำให้เราไม่อยากปฏิบัติหรือขวางเรา นี้แหละเขาเรียกว่าตัวชิริก
คอฟี่
บังครับตอนี้บังเริ่มจะมองเห็นทางสว่าง แล้วใช่ไหมครับ ถ้าบังเริ่มตาสว่าง ก็อาจจะหมายถึงว่า อัลลลฮ์(วบ)รับดุอาผมก็ได้ หรือบางที่อัลลออ์อาจจะรักบังเลยบรรดาลใจให้บังรับรู้บางสิ่งบางอย่าง ที่ละนิดๆ


ส่วนในเรื่องบิดอะที่บังเข้าใจผิดนั้น และที่ชอบยกฮาดีสมานั้น ผมว่าพวกบังชอบหากินกับฮาดีสนี้แหละส่วนมาก
โดยไม่ได้เข้าใจในความหมายเอาเลย ..ไม่ยอมที่จะตีความบ้างว่า ท่านนบีกล่าวถึงอะไรบ้าง (นี่แหละกบในกะลาตัวจริงเลยท่านผู้อ่านทั้งหลาย)และพวกท่านพึงระวังบรรดากิจการที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่(ในศาสนา)แท้จริงสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่นั้นเป็นบิดอะฮ และทุกบิดอะฮนั้น เป็นการหลงผิด -
[رواه الإمام أحمد في "مسنده" (4/126، 127)، ورواه أبو داود في "سننه" (4/200)، ورواه الترمذي في "سننه" (7/319، 320

เรื่องบิดอะ
ในมัสหับชาฟีอี คุณอัชอารีรับปากแล้วว่าจะสนทนาเองนะ บังจะได้รู้ว่าในบรรดาอุลามะของมัสหับนั้นเขาต่างก็มีความรู้มากมายนัก อิงชาอัลลออ์ บังจะได้ไม่ต้องใส่ไค้ลมัสหับอื่นอีกว่าเขาทำบิดอะ..ดีไหมครับบัง

และบิดอะในมัสหับของบังก็อย่าลืมนำมาเสนอบ้างแล้วกันนะครับ

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Tue Jan 24, 2006 7:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ทบทวนสิ่งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์ได้กล่าวไป

ดังนั้น บังอะสันลองมาดู เกี่ยวกับอายะฮ์อัลกุรอานที่กล่าวถึงซีฟาตของอัลเลาะฮ์(ที่บังอะสันเชื่ออย่างนั้น) บังอะสันจะแปลคำว่า "ฟี" ว่า"บน" ที่เป็น المجازหรือ? ในเมื่อ حقيقة (คือคำเดิม ในความหมายที่วะฮาบีย์ชอบใช้แปลซิฟัตของอัลเลาะฮ์ - คำเพิ่มเติมจากผมเอง-)นั้น แปลว่า "ใน" แล้วประเด็นเรื่องซีฟัตนี้ วะฮาบีย์เขาปฏิเสธเรื่อง المجاز ตามที่หนังสืออิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "อัตตัดมุรียะฮ์" ซึ่งผมจะนำมาทำการสนทนาอ้างอิงต่อไปในโอกาสหน้า

หากแปลว่า"อัลเลาะฮ์อยู่ในฟากฟ้า" ตามหลัก حقيقة นั้น ก็แสดงว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่ในมัคโลค แต่หากแปลว่า "บน" นั้น ก็เป็นมะญาซฺالمجاز ตามหลักภาอาหรับอันนี้ก็ไม่ตรงกันแนวทางของหลักการของกลุ่มวะฮาบีย์ ในเรื่องการเข้าใจซีฟัตของอัลเลาะฮ์

แต่หากเลือกแปลแบบ المجاز ก็กรุณาอย่างเลือกปฏิบัติ (อ้างแล้วจากข้อความของน้องอัล-อัซฮะรีย์)


แต่คุณอะสันกล่าวว่า

أين الله؟ ) قالت: في السماء. لكن ليس معنى ذلك أن الله في جوف السماء،
(อัลลอฮอยู่ที่ใหน?) นางตอบว่า “ในฟากฟ้า” (โดยท่านอธิบายว่า) แต่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น ว่า อัลลอฮอยู่ในโพรงของฟากฟ้า......

ผมขอกล่าวว่า

วะฮาบีย์เขาจะอ้างสิ่งต่างๆที่ค้านกันเอง คือพวกเขาจะอ้างว่า"พวกเขายึดคุณลักษณะตามที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาไว้ให้กับพระองค์เองเท่านั้น" และบอกอีกว่า"พวกเขาจะยึดคำเดิม(หะกีกัตในเชิงภาษาอาหรับ)ตามที่อัลกุรอานได้ระบุไว้" แต่เวลามากล่าวถึงประเด็น فى السماء ที่ระบุไว้ในอัลกุรอาน ซึ่งคำเดิม(หะกีกัต) แปลว่า"ในฟากฟ้า" ไม่ใช่บนฟากฟ้า โดยให้ความหมายคำว่า "فى" ไปเป็นความหมาย "على " ซึ่งแบบนี้ เขาเรียกว่า ใช้หลัก มะญาซฺ " المجاز " มาเข้าใจ ซึ่งแบบนี้เขาไม่เรียกว่าเป็นการตีความดอกหรือครับ? และแบบนี้เขาเรียกว่า "พวกคุณไม่ใช้คำเดิมที่อัลกุรอานได้ระบุไว้ซิครับ"

โดยที่อิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า" (อัลลอฮอยู่ที่ใหน?) นางตอบว่า “ในฟากฟ้า” (โดยท่านอธิบายว่า) แต่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น...." ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูซิครับ คำที่ว่า"แต่ไม่ได้มีความหมายอย่างนั้น" แบบนี้เขาไม่เรียกว่าตีความดอกหรือครับ ? และแบบนี้เขาไม่เรียกว่า เอาปัญญาเหตุผลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือครับ? หรือว่าหากแนวอื่นตีความแล้วใช้ปัญญาเหตุผลแล้วไม่ได้ แต่หากเป็นแนวทางของฉันล่ะก็ไม่มีปัญหา? แบบนี้มันไม่เป็นธรรมนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Tue Jan 24, 2006 7:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึงคุณคนอยากรู้
salam

ผมยินดีที่คุณเข้ามาครับ คือการที่คุณเข้ามา แล้วมาสรุปความเข้าใจในสิ่งที่เราเสนอไปนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีมากเลยครับ เพื่อจะได้สร้างความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น เหลืออีกท่านหนึ่งคือคุณชุกกรี ผมยังไม่เห็นเข้ามาเลย คุณฮาเก็มก็ยังไม่เข้ามา ก็ต้องรอกันไปล่ะครับ
แต่คำพูดของคุณที่น่าคุ่นคิดคือคำนี้ "และบิดอะในมัสหับของบัง(อะสัน)ก็อย่าลืมนำมาเสนอบ้างแล้วกันนะครับ"


wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Jan 24, 2006 11:46 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณมุหัมหมัดกล่าวว่า
โดยที่อิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า" (อัลลอฮอยู่ที่ใหน?) นางตอบว่า “ในฟากฟ้า” (โดยท่านอธิบายว่า) แต่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น...." ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูซิครับ คำที่ว่า"แต่ไม่ได้มีความหมายอย่างนั้น" แบบนี้เขาไม่เรียกว่าตีความดอกหรือครับ ?
.......................
ตอบ
เอ้า..แล้วกัน.. ก็สหายคุณแปลคำว่า في السماء ในฟากฟ้าฟ้า ผมก็บอกว่า ความหมายคำว่า في เมื่อใช้กับ السماء นั้น แปลว่า "บนฟากฟ้า" ซึ่งท่านอิบนุตัยมียะฮ ก็บอกว่า ไม่ได้มความหมายแบบนั้น ซึ่ง หมายถึง ไม่ได้มีความหมายว่า ในฟากฟ้า แล้วท่านกล่าวว่า
بل هم متفقون على أن الله فوق سماواته، على عرشه،
พวกเขา(ชาวสลัฟ)มีมติฟ้องกันว่า อัลลอฮทรงสถิตเหนือฟากฟ้าของพระองค์ อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) .....
.....................
นี่ถ้าคุณมุหัมหมัด ไม่มุ่งแต่จะต้องเอาชนะ แบบเล่นนอกกติกา คุณมุหัมหมัดจะต้องเข้าใจแน่นอน แต่นี่คุณใช้สมองส่วนล่างคิดจึงไม่รู้เรื่อง ฮะฮา

......................
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 1:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณอะสันกล่าวว่า


เอ้า..แล้วกัน.. ก็สหายคุณแปลคำว่า في السماء ในฟากฟ้าฟ้า ผมก็บอกว่า ความหมายคำว่า في เมื่อใช้กับ السماء นั้น แปลว่า "บนฟากฟ้า" ซึ่งท่านอิบนุตัยมียะฮ ก็บอกว่า ไม่ได้มความหมายแบบนั้น ซึ่ง หมายถึง ไม่ได้มีความหมายว่า ในฟากฟ้า แล้วท่านกล่าวว่า
بل هم متفقون على أن الله فوق سماواته، على عرشه،
พวกเขา(ชาวสลัฟ)มีมติฟ้องกันว่า อัลลอฮทรงสถิตเหนือฟากฟ้าของพระองค์ อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) .....

ผมขอกล่าวว่า

อิบนุตัยมียะฮ์และวะฮาบีย์นะซิ ที่บอกว่าความหมายหะกีกัต คือ"บนฟ้า" ทั้งที่ความหมาย"หะกีกัตคำเดิม"ของคำว่า "ฟี" นั้น คือแปลว่า "ใน" พวกวะฮาบีย์ไม่ใช่หรือ?ที่อ้างตนเองเหลือเกินว่า "จะยึดสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณากับพระองค์ไว้เท่านั้น" แล้ว"ยึดตามความหมายเดิม(หะกีกัต)" แต่วันนี้เขามายึด ตามความหมายของอิบนุตัยมียะฮ์ และบรรดามติอุลามาอ์(ที่อิบนุตัยมียะฮ์อ้าง)" เดี๋ยวนี้เปลี่ยนทัศนะรวมหัวกันพรรณาคุณลักษณะให้กับอัลเลาะฮ์แล้วหรือครับ?? แต่ในทางตรงกันข้าม หากคุณเชื่อตามความหมายที่อิบนุตัยมียะฮ์ต้องการ แล้วเราก็ตามความหมายตามที่อุลามาอ์ส่วนมากต้องการด้วย แล้วเราจะมีอากิดะฮ์ในแนวทางบิดอะฮ์หรือเปล่าครับ?

และคำกล่าวของอิบนุตัยมียะฮ์ที่คุณอะสันอ้าง คือ

ท่านกล่าวว่า

بل هم متفقون على أن الله فوق سماواته، على عرشه،

พวกเขา(ชาวสลัฟ)มีมติฟ้องกันว่า อัลลอฮทรงสถิตเหนือฟากฟ้าของพระองค์ อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) .....

เอ....คำกล่าวนี้มันคุ้นๆน่ะ น้องอัล-อัซฮะรีย์ได้เคยอธิบายวิจารณ์ไปแล้วนะครับ อย่ามาหมกเม็ดดีกว่า แล้วคำอ้างมติของสะลัฟ นี้หากเราตรวจสอบจริงๆแล้ว มันอยู่บนพื้นฐานของความจริงหรือไม่?? และคำพูดของอิบนุตัยมียะฮ์นี้ ก็เอามาจากอิบนุบัฏเฏาะฮ์ ที่กุหะดิษ ซึ่งสถานะภาพของเขานั้น น้องอัล-อัซฮะรีย์ได้นำเสนอไว้อย่างชัดเจนและเรียบร้อยแล้วครับ หรือว่าจะให้ผมก๊อบมาตอกย้ำอีก??
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 1:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณอะสันกล่าวว่า

คำถามของน้องอัลอัซฮารี
1. คุณแปลอีกว่า "โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" ไปเอาสายรายงานที่มีความหมายจากคำพูดของบรรดาอุลามาอ์ทั้ง 3 ท่านมาจากใหน??
ตอบ
บังอะสันขอร่วมตอบด้วยคนนะครับ เออ...น้องอัล-อัซฮารีย รู้สึกว่าสุขุมขึ้นนะ คำว่า
أمِرّوها كما جاءت بلا كيف
ปล่อยมันให้ผ่านไป ตามที่มันปรากฏ โดยไม่ต้องอธิบายว่ารูปแบบนั้นเป็นอย่างไร”............

ผมขอกล่าวว่า

ดีจังที่คุณอะสันช่วยไออาเอฟตอบคำถาม แต่เสียดายที่ตอยไม่ตรงประเด็นเลยสักนิด คือน้องอัล-อัซฮะรีย์ ถามไออาเอฟว่า (คุณแปลอีกว่า "โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" ไปเอาสายรายงานที่มีความหมายจากคำพูดของบรรดาอุลามาอ์ทั้ง 3 ท่านมาจากใหน?? ) คือเขาต้องการแค่ที่มาของคำว่า"โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" เท่านั้นเองครับ เมื่อเป็นเช่นนี้ ไออาเอฟ ก็ยังต้องตอบคำถามของน้องอัล-อัซฮะรีย์ 7 ข้อเต็มเหมือนเดิมครับ
แต่สำหรับสิ่งที่คุณอะชี้แจงความเข้าใจของวะฮาบีย์(ที่ไม่ใช่สะลัฟ) จากคำว่า

أمِرّوها كما جاءت بلا كيف

ปล่อยมันให้ผ่านไป ตามที่มันปรากฏ โดยไม่ต้องอธิบายว่ารูปแบบนั้นเป็นอย่างไร”............
ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น้องอัล-อัซฮะรีย์ ต้องมาชี้แจงคุณเองนะครับ คือผมก็อยากตอบให้เขา แต่เขาเข้าใจลึกซึ้งกว่าผมนะครับ เพราะผมก็พึ่งมาเข้าใจตำราที่อียิปต์ แต่น้องเขามีพื้นฐานมาตั้งแต่ปอเนาะแล้ว คุณรอเขาเข้ามาชี้แจงนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ซุกกรี
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 06/01/2006
ตอบ: 26


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 9:12 am    ชื่อกระทู้: การแบ่ง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam คุณอัลอัชอารี ,มูฮำมัด ,คนอยากรู้,บังหะสัน

คุณอะสันกล่าวว่า

*********คำถามของน้องอัลอัซฮารี ************
1. คุณแปลอีกว่า "โดยมิต้องตัดทอนใดๆ" ไปเอาสายรายงานที่มีความหมายจากคำพูดของบรรดาอุลามาอ์ทั้ง 3 ท่านมาจากใหน??
ตอบ
บังอะสันขอร่วมตอบด้วยคนนะครับ เออ...น้องอัล-อัซฮารีย รู้สึกว่าสุขุมขึ้นนะ คำว่า
أمِرّوها كما جاءت بلا كيف
ปล่อยมันให้ผ่านไป ตามที่มันปรากฏ โดยไม่ต้องอธิบายว่ารูปแบบนั้นเป็นอย่างไร”.....

Razz บังหะสันครับ ผมว่าบังพักผ่อนบ้างเถอะครับ อายุก็มากแล้ว อีกอย่างผมสังเกตุว่าบังก็รับผิดชอบทั้งคำถามและคำตอบอยู่แค่คนเดียว สหายบังไปไหนกันหมด ปล่อยให้คนแก่เนบัง ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมานถอดแว่นออกใส่แว่นเข้า เพราะตาก็ไม่ค่อยเห็น เฮ็อ..สงสารบังหะสันจริงๆ ใครนะจ้างคนแก่ๆเช่นบังให้มาเฝ้า .......กรุสมบัติมรดกเก่าๆที่ไร้ค่าของ... ชายชราซึ่งมีนามว่า.อะหมัด ตะกียุดดีน ... ได้อย่างใจดำใจดำ วัยนี้แล้วน่าจะพักผ่อนกับหลานดีกว่าเนอะ

อ๋อลืมไปหน้าที่การงานของบังนะครับ โทษทีๆ

Laughing คุณมูอำมัดครับ ผมว่า แค่คุณ ทั้ง3 คนก็น่าจะพอแล้วนะครับ
ลำพัง คุณกับบังหะสันนั้น บังแกก็ปวดเศียรเวียนเกล้ามากพอแล้วครับ ผมเห็นแกตอบคำถามเวียนไปเวียนมา ผมสังเกตุหลายครั้งแล้ว ไหนจะต้องมาแก้กับดักของคุณมูฮำมัดวางไว้ ไหนจะตอบคำถามของคุณอยากรู้ที่กวนแต่เรื่องอากีดะฮ์ แล้วก็ยังมานั่งทายาใส่ทิงเจอร์กับคำพูดของสหายบางคนที่สร้างแผลฉกรรจ์ไว้อีก แค่นี้ก็หนักพอแล้วนะ คุณมูฮำมัด ผมจะแอบให้กำลังใจพวกคุณนะ.....คุณนะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เลยนะ ฝากบอก อจ.ฟารุกด้วยครับว่าผมนั้นชื่นชอบในตัวอาจารย์มาก อยากให้เขาเข้ามาเสริม บ้างจะได้ครึกครื้นกันบ้างนะครับ

Confused บังหะสันครับ เพื่อไม่ให้พี่น้องทางบ้านที่เชียร์บัง ว่าเราผู้ตักลีดตามแนวทางวการให้ความรู้ ของอีหม่ามอัชชาฟีอี (รฮ)ว่าเอาเปรียบบัง เรายินดีให้ท่านเลือกตัวช่วยใครก็ได้ครับ..อย่างนี้บังคิดว่าเราแฟร์ไหมครับ...คั๊ก ค๊กๆๆๆ หัดหัวเราะแบบอาหลับ..
คุณมูฮำมัดครับ สำหรับผมนั้น พูดอะไรได้ไม่มาก ครับ เพราะการเล่นสำนวนกลับไปกลับมาเหมือนพวกวะฮาบีย์ไม่ค่อยป็นครับ

ที่ผ่านมา5-6วันที่ผมนั้นได้เข้ามาสนทนาด้วยกับคุณฟาอิส บังหะสันนั้น ผมก็ได้ข้อสรุปอากีดะหรือแนวทางยึดมั่นของวาฮะบีย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ...
เพราะ หัวข้อเรื่องถามถึง การแบ่งเตาฮีดฯใช่ไหมครับ และผมก็รู้เตาฮีด ของเขาแล้วครับ

บังหะสันครับ บังนั่นฮัธยาสัยีมากครับ แต่เสียดายมีตะอัชซุบแรงเกินไป ดเลยไม่ได้ อากีดะที่ดีๆและถูกต้องกลับไปหาอัลลอฮ์(ซบ)....เลิกฐิตินะครับ และพยามเปิใจให้กว้างและค้นควาตำราของมัสหับทั้ง4 อย่างละเอียดซิครับ แล้วบังจะพบคุณความดีพร้อมทั้งคำตอบที่ถูกต้องอยู่ในนั้นครับ
ที่คนอยากรู้กล่าวเสมอว่า เมื่อเริ่มแรกของอากีดะหรือเอียะติกอดผิดแล้ว อะไรๆที่ตามมาทีหลังก็ผิดพลาดหมดครับ...
อัลลอฮ์ตะอาลาได้กล่าว่า วาฟี อังฟูซากม อะฟาลาตับบะซีรูน แปลว่า ในตัวสูเจ้า เจ้าไม่พิจราณาบ้างดอกหรือ....
ในตัวของบังบังไม่คิดบ้างดอกหรือว่า อัลลออฮ์มีเจตนาใด...สร้างบังมาทำไม เพราะอะไร บังจึงยึดติด ว่าสิ่งเดิมๆนั้นมันไม่ถูกต้อง เป็นไปได้หรือบังว่า อดีตนานมาแล้วในเรื่องศาสนาโดยเฉพาะอุลามะของอัลลออ์จะนำสิ่งผิดพลาดมาตลอด มาทิ้งไว้กับเรา เพียงแต่ว่าเราเองเท่านั้นที่มีอคติ ไม่ยอมรับความเห็นในสติปัญญาของอุลามะแต่ก่อน ว่าเขานั้นตรากตรำค้นคว้าหาความรู้และพยายามสร้างความเข้าใจให้แก่คนยุคหลัง ได้สืบทอด สิ่งที่เขาเหล่านั้นขวนขวายไว้
เพ่อสร้างความสะดวกให้กับเราในการทำอิบาดัด แล้วทำไมท่านจึงยังไม่พอใจอะไรอีกเหรอ ครับ
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
fais
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 01/09/2005
ตอบ: 84


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 12:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam
ตอบคุณซุกกรี
เรื่องความแตกแยกในศาสนา จริงๆแล้วมันก็มีมานานตั้งแต่ในสมัยของซอฮาบัต สาเหตุก็คือจากผู้ที่เบียงเบน
จากกีตาบบุลเลาะห์และซุนนะห์ของท่านรอซูล.ซล นี้แหละ จนกระทั้งมาในสมัยปัจจุบันนี้
ความคิดของพวกเหล่านี้ก็ยังมีอยู่เต็มไปหมด และเมื่อมีผู้ที่จะมาซ่อมเพื่อเรียกร้องพาพวกเขากลับไปสู่ทางซุนนะห์
พวกเขาก็จะถูกประนามว่าเป็นพวก วาฮาบีบ้าง พวกใหม่บ้าง เป็นธรรมดาของการซ่อมย่อมจะต้องมีเสียง
บางอย่างจะต้องทุบและบางอย่างจะต้องตี และบางอย่างก็แค่ทำให้มันแน่นขึ้นก็ต้องขัน
.........................
คุณซุกรีกล่าวว่า ในหนังสือ มุนญีด หน้า 568 ระบุไว้ว่า
_.วะฮาบีย์คือส่วนหนึ่ง จากการปลีกตัวในอิสลาม ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ (1702-1787)
และถูกให้ชื่อจากฝ่ายตรงข้ามว่า.. อัล-มุวะฮ์ฮีดูน... ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับวิชาฟิกฮนั้น เขาไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้
พวกเขาเลยยึดถือหรืยึดเเนวของ มัสหับ อีหม่าม ฮัมบาลี โดยเอามาเทียบเยงความคิดเห็นกรือกดารอธิบายของ ท่านอิบนีตัยมียะ นี่คือหลักฐานครับ ว่าทำไมคนๆทั่วๆไปจึงชอบเรียก พวกท่านว่า วะฮาบีย์
..........................
นี่และเป็นต้นกำเหนิดของการกล่าวหา คุณไม่รู้คุณไม่เข้าใจเรื่อง ดะวะห์ของท่านมุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ
แล้วยังเชื่อคนที่กล่าวหาท่าน. คำว่า วาฮาบี คำนี้มาจาก ยาฮูดี ซึ่งเป็นศัพท์ทางการเมืองเพื่อที่จะให้สังคมมุสลิมแตกแยกและละทิ้งซุนนะห์ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่พวกเขาและคุณก็เอามากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการสนทนา เราเข้ามาสนทนากันในนี้เพื่อที่จะแสวงหาทางนำทางที่จะนำเราไปวันอาคีเราะห์ที่ปลอดภัยไม่ใช่เพื่อเอาชนะหรือความสะใจกันนะครับ
......................
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
في صحيح البخاري عن عائشة زوج النبي ( ص ) انها قالت : كنت أنام بين يدي رسول الله ( ص ) ورجلاي في قبلته فإذا سجد غمزني فقبضت رجلي وإذا قام بسطتهما قالت : والبيوت يومئذ ليس فيها مصابيح
ในเศาะเหียะบุคอรีจากท่านหญิงอาอีซะฮภรรยาของท่านบี ศอลฯกล่าวว่า
ฉันเคยนอนอยู่เบื้องหน้าของท่านรอซูล ซึ่งเท้าของฉันขวางอยู่ทางกิบลัต ครั้นเมื่อท่านรอซูล สุญูด ท่านรอซูล จะสัมผัสฉัน เช่นนั้นฉันก็หดเท้าทั้งสองของฉัน ครั้นเมื่อท่านรอซูล ลุกขึ้นยืน(ในรอกาอัตถัดไป)ฉันก็ยืดเท้าทั้งสองของฉัน(ตามเดิม นางกล่าวว่า "ในวันนั้น บรรดาบ้านต่างๆไม่มีตะเกียง -ดู صحيح البخاري ج 1 / 56 باب الصلاة على الفراش من كتاب الصلاة وص 141 وصحيح مسلم باب الاعتراض بين يدي المصلي ج 2 / 61

.หลักฐาน.ตัวอย่าง...ที่พวกคุณ ยกมา เป็นประเด็น ที่จะนำไปสู่ความแตกแยก..
..เมื่อคุณหนักแน่นในการสัมผัสกับสตรีนั้นทำให้เสียน้ำนมาซและจะขอถามว่าเมื่อคุณไปเตาวาฟ วายิบ
ที่บัยตุลเลาะห์ อัลฮารัม และคุณก็สวมชุด อิหรอม คุณจะทำอย่างไร?
ในเมื่อคุณหนักแน่นว่าการสัมพัสกับสตรีนั้นเสียน้ำละหมาด คุณจะเอาระบบของยาฮีลียะห์มาใช้ในเรื่องเตาวาฟ
โดยไม่มีน้ำละหมาดอย่างนั้นหรือ? อย่าลืมว่าในสมัยของท่านนบี ก็มีการเตาวาฟกัน และผู้คนก็ไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะครับ
ผมเห็นแตอูลามะห์ ที่ยึดแนวทางเหมือนอย่างคุณบางคนพวกเขา หันมาใช้เหมือน อีมาม ฮานาฟี หรือมาลิกี
หรือ ฮัมบาลี กันเยอะ นี้แสดงว่าจะละทิ้งทัศนะของอีหม่าม แล้วมายึดตาม ฮะดิษ(เศาะเฮียะ) ก็ได้นะครับ เพียงแต่ .................
คุณซุกรีกล่าว
เห็นไหมละท่านผู้อ่านช่วยตัดสินหนอยเถิดว่าใครคือต้นเหตุสร้างการแบ่งพรรพแบ่งพวก
แต่คำถามของคุณมันแย้งกับสิ่งที่ท่านเอ่ยมาเหมือนจะทุกอย่าง

...........................................
ตอบคุณซุกกรี
ส่วนต้นเหตุของการที่ผมเอาฮะดิษเรื่องการเสียน้ำนมาซ ก็เพราะว่าคุณเห็นเพื่อนของคุณปฎิบัติตามซุนนะห์และคุณคิดว่านั้นเป็นแนวทางของพวกใหม่หลงทาง. เพื่อที่จะไม่ให้ท่านผู้อ่านเข้าใจผิด ผมจำต้องเอาฮะดิษบทนี้มาแสดงเป็นหลักฐานว่าเพื่อนของคุณนั้นไม่ได้หลงทางแต่อย่างใดและคุณก็สนุกกับการชี้แจงโดยเอาหลักฐานของท่านอีหม่าม ซาฟีอี และผมก็ไม่ได้บอกว่ามันผิด เพียงแต่ผมจะชวนคุณมาปฎิบัติตามหลักฐานของ อัซซุนนะห์เท่านั้นแหละ เพราะเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุด
wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 12:35 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

ถึงคุณชุกกรีครับ

ดีใจ ที่คุณเข้ามา แล้วเราค่อยคุยกันนะครับ ผมมีธุระนิดนึง ว่างๆค่อยเข้ามาอีกนะครับ ส่วนคุณ อัล-ฟารูก นั้น ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาคุยหรือเปล่า ? เพราะเขาเคยกล่าวว่า คนชอบโกหกเขาไม่ชอบคุยด้วย แต่ก็พยายามจะไปชวนมาครับ



wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
มุหัมมัด
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 06/11/2005
ตอบ: 210


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 12:38 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึงคุณฟาอิส

เรื่องฟิกห์นั้น กรุณาอย่าเพิ่งคุยตอนนี้ได้ไหมครับ ได้โปรดเถิดครับ เพราะเขากำลังคุยเรื่องอากิดะฮ์อยู่ ได้โปรดอย่าเอาประเด็นอื่นเข้ามาแทรก ได้โปรดรักษาระเบียบหน่อยครับ ขอบคุณ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 1:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถึงคุณชุกรี
ขอบใจนะที่เป็นห่วงคนแก่ แต่..คนแก่คนนี้ก็รู้สึกเป็นห่วงคุณณชุกรีและบรรดาสหายบดอ.ทุกท่านเช่นกัน เกรงว่า จะแพร่เชื้อ เฎาะลาละอ ให้แก่พี่น้องมุสลิมผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงเผ้าระวังเพื่อไม่ให้ลุกลามเป็นไวรัสบนอินเตอร์เน็ต ลุกลามเข้าไปในสังคมมุสลิม
................
เอาแค่นี้ก่อนเดี่ยวไปทำงานต่อ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
adeel
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 172


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 2:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณมูฮัมหมัด คุณอัล-อัซฮารี คุณซุกรี คุณคนอยากรู้ และ......

ตามอ่านมานานแล้วได้ทราบตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณคือ

อะกีดะฮ์ พวกคุณยึดแนวอาชาอิเราะฮ์

ตะเซาวุฟ พวกคุณยึดแนวมาตุรีดียะฮ์

เฉพาะฟิกฮ์ พวกคุณยึดแนวซาฟีอี


อันที่จริงพวกคุณก็คือลูกผสม หรือพวกค๊อกเทล นั่นแหละ แต่ว่าผสมกันแล้วยังไม่ได้ตั้งชื่อเฉพาะเลยด้วยซ้ำไป ไหนลองบอกหน่อยซิว่า ชื่อจัดตั้งลูกผสม 3 แนวทางที่พวกคุณยึดอยู่นี้จะเรียกว่า มัซฮับอะไรดี

คุณซุกกรีพูดว่า “บังหะสันครับ บังนั้นอัธยาศัยดีมากครับ แต่เสียดายมีตะอัชซุบแรงเกินไป เลยไม่ได้ อากีดะที่ดีๆ และถูกต้องกลับไปหาอัลลอฮ์(ซบ)....เลิกฐิตินะครับ และพยามเปิดใจให้กว้างและค้นคว้าตำราของมัสหับทั้ง 4 อย่างละเอียดซิครับ แล้วบังจะพบคุณความดีพร้อมทั้งคำตอบที่ถูกต้องอยู่ในนั้นครับ ที่คนอยากรู้กล่าวเสมอว่า เมื่อเริ่มแรกของอากีดะหรือเอียะติกอดผิดแล้ว อะไรๆที่ตามมาทีหลังก็ผิดพลาดหมดครับ...”

ต้องบอกว่า "เสียดายที่อิม่ามซาฟีอีไม่ได้อากีดะที่ดีๆและถูกต้องกลับไปหาอัลลอฮ์" เพราะอิมามซาฟีอี ไม่เชื่อในอะกีดะอาซาอิเราะฮ์เหมือนพวกคุณ เนื่องด้วยพวกคุณตามอิมามซาฟีอีเฉพาะในเรื่องฟิกฮ์เท่านั้น

และสิ่งที่พวกคุณทำอยู่ก็คือ พยายามดีสเครดิตอุลาอ์อวุโสท่านอื่นๆ เพื่อเสนออะกีดะฮ์แนวอะชาอิเราะฮ์ ที่พวกคุณเชื่อว่าถูกต้อง แต่พวกคุณก็ลืมไปว่า คุณกำลังดูแคลนอิมามซาฟีอีด้วย หรือพวกคุณว่าอิมามซาฟีมีอากีดะฮ์อะซาอิเราะฮ์เหมือนกัน ชี้แจงหน่อย

คุณซุกกรีพูดว่า “คนอยากรู้กล่าวเสมอว่า เมื่อเริ่มแรกของอากีดะหรือเอียะติกอดผิดแล้ว อะไรๆที่ตามมาทีหลังก็ผิดพลาดหมดครับ”

ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่อิหม่ามซาฟีอีสอนก็ผิดไปทั้งหมด เพราะอากีดะฮ์ท่านผิด ท่านไม่มีอากีดะอะอาอิเราะฮ์ นั่นหมายถึงไม่มีอากีดะฮ์ดีๆ กลับไปหาอัลลอฮ์ อ้าว ! แล้วพวกคุณไปสังกัดมัซฮับซาฟีอีได้ยังไง

นี่ถ้าคุยกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็โผล่แนวตะรีกัต เขาเอาอิมามซาฟีอีมาโชว์เพื่อล่อพวก บดอ ก็เท่านั้น

อ้อ....อย่าลืมบอกนะว่า ค๊อกเทล ลูกผสม 3 ทางจะตั้งชื่อเฉพาะว่า มัซฮับ อะไรดี และอย่าลืมตอบด้วยว่า อิมามซาฟีอีมีอะกีดะฮ์อย่างไง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Wed Jan 25, 2006 5:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณชุกรีกล่าวว่า
บังหะสันครับ บังนั้นอัธยาศัยดีมากครับ แต่เสียดายมีตะอัชซุบแรงเกินไป เลยไม่ได้ อากีดะที่ดีๆ และถูกต้องกลับไปหาอัลลอฮ์(ซบ)....
........................................
ตอบ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้องอาดีล ที่มาช่วยตอบอีกแรง
คุณชุกรีครับ ผมยอมรับว่า ผมตะฮัศศุบ แรงมาก แต่สิ่งผมตะอัศศุบ(ยึดมั่น)นั้น คือ แก่นแท้และเนื้อในของศาสนา คือ คัมภีรของอัลลอฮ(ซ.บ) ซึ่งเป็นเป็นคำสอนของเจ้าของศาสนาที่ผมนับถืออยู่ และ สุนนะฮของท่านรซูลลอฮ ศอลฯ ที่เป็นผู้ถูกส่งมาให้ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาและเป็นแบบอย่างให้แก่ประชาชาติของท่าน ดังที่ท่านนบีอิบรอฮิม (อะลัยฮิสสลาม)ได้ขอดุอาว่า
رَبَّنَا وَابْعَثْ فِيهِمْ رَسُولاً مِّنْهُمْ يَتْلُو عَلَيْهِمْ آيَاتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيهِمْ إِنَّكَ أَنتَ العَزِيزُ الحَكِيمُ
[2.129] พระผู้อภิบาลของเรา ได้ทรงโปรดส่งรอซูลขึ้นมาคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่จะมาสาธยายอายะฮ์ทั้งหลายของพระองค์แก่พวกเขา และสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาให้แก่พวกเขา และขัดเกลาชีวิตของพวกเขาให้สะอาด แน่แท้ พระองค์คือผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ – อัล-บะเกาะเราะฮ/129
ในบรรดาคุณลักษณะ(สิฟาต)ต่างของอัลลอฮ(ซ.บ)ที่ทรง)ระบุไว้ในอัลกุรอ่านหรือที่ระบุในอัสสุนนะฮ นั้น ท่านรซูลุลลอฮ(ศอลฯ)ย่อมเข้าใจดี กว่าใคร หากสิ่งใดที่ท่านเกรงจะเกิดความสับสนและคลุมเครือ ท่านจะต้องอธิบายให้ประชาชาติของท่านให้เข้าใจอย่างแน่นอนโดยไม่ผิดบัง แต่..ปรากฏว่า อายะฮต่างๆหรือ หะดิษต่างๆที่เกี่ยวกับคุณลักษณะต่างๆของอัลลอฮ ท่านรซูลุลลอฮ ศอลฯ ไม่ได้ตีความไปเป็นอย่างอื่นหรือไม่ได้ให้รายละเอียดว่าแบบนั้น แบบนี้ ดังนั้นบรรดาอุลามาอที่ยึดมั่นในแนวทางสละฟุสศอลิห จึง ปล่อยให้เป็นไปตามความหมายที่ปรากฏโดยไม่ตีความ เช่นดังที่ ปรากฏว่า
وقال الوليد بن مسلم (سألت مالك بن أنس والثوري والليث بن سعد والأوزاعي عن الأخبار التي في الصفات فقالوا أمروها كما جاءت )
และอัลวะลิด บุตร มุสลิม ได้กล่าวไว้ว่า “ ข้าพเจ้าได้ถาม มาลิก บุตร อะนัส อัศเศารีย์ อัลลัยษ และอัลเอาซาอีย์ เกี่ยวกับบรรดาคำบอกเล่า (หะดิษ)ในเรื่องบรรดาคุณลักษณะ(ของอัลลอฮ) แล้วพวกเขากล่าวว่า “ปล่อยให้มันผ่านไปตามที่ปรากฏ (หมายถึงไม่ตีความ ไม่อธิบายว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้) -
. [[روه الدارقطني في الصفات 75، والآجري في الشريعة ص 314، والبيهقي في الأسماء والصفات 453، وابن قدامة في ذم التأويل 20 ]]
อิหม่ามอัซซะฮะบี กล่าวว่า ท่านอิหม่ามชาฟิอี (ขออัลลอฮโปรดเมตตาท่าน)กล่าวว่า

( نثبت هذه الصفات التي جاء بها القرآن ووردت بها السُّنة وننفي التشبيه عنه كما نفى عن نفسه فقال : ( ليس كَمِثْلِه شيء )
เราให้การรับรองบรรดาคุณลักษณะเหล่านี้ ที่มีมาในอัลกุรอ่านและปรากฏในอัสสุนนะฮ และเราปฏิเสธการเปรียบเทียบจากพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงปฏิเสธการเปรียบเทียบจากพระองค์เอง โดยตรัสว่า “ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์” - ดู อัสสิยะรุ เล่ม 20 หน้า 341
………………………………………..
อันที่จริงคุยกับพวกคุณนั้น ไม่มีวันจบ เพราะมัซฮับลูกผสม หรือพวกค๊อกเทล แบบทีพวกคุณยึดถืออยู่(ตามที่น้อง adeel)กล่าวนั้น พวกคุณจะไม่ยอมรับอัลกุรอ่านและ อัลหะดิษ ที่ไม่ตรงกับ มัซฮับที่พวกคุณยึดติดอยู่ อันนี้เป็นที่รู้กัน มัซฮับแบบพวกคุณ ขอเรียกแบบไทยๆว่า “มัซฮับตัวสมเสร็จ” ที่ชาวบ้านเชื่อว่า มีทั้งเนื้อหมู เนื้อหมา และเนื้อวัวผสมอยู่ในตัวเดียวกัน
قال الإمام أبو حنيفة: لا ينبغي لأحد أن ينطق في ذات الله بشيء، بل يصفه بما وصف به نفسه، ولا يقول فيه برأيه شيئاً تبارك الله تعالى ربّ العالمين

อิหม่ามอบูหะนีฟะฮกล่าวว่า “ ไม่สมควรแก่บุคคลใด กล่าวเกี่ยวกับซาตของอัลลอฮ ด้วยสิ่งใด แต่ทว่า ให้เขาอธิบายคุณลักษณะของพระองค์ ตามที่ พระองค์ได้ทรงอธิบายคุณลักษณะของพระองค์เอง และอย่ากล่าวสิ่งใดๆในเรื่องนั้น ตามความเห็นของตนเอง อัลลอฮทรงบริสุทธิ์ ทรงสูงส่ง พระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล
. [شرح العقيدة الطحاوية ج2 ص427 تحقيق د. التركي وجلاء العينين ص368
............................
จนบัดนี้ ผมเองไม่ทราบว่า “มัซฮับตัวสมเสร็จ”ของคุณชุกรี คุณมุหัมหมัด และสหาย เป็นไปในทิศทางใด มั่วตั้ว เหมือนข้าวยำ น้ำบูดูปักษ์ใต้ ที่ผสมปนเปไปด้วยหลากหลายส่วนผสม จึงไม่ทราบว่า คุณชุกรีและสหาย ไปพบกับอัลลอฮในวันกิยามะฮ ด้วยอะกีดะฮ ของชาฟิอี หรือ ของ อัชอะรีย์ หรือ ของ อัลมาตุรีดี หรือ ของชัยฏอนใหนกันแน่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Konyakroo
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 16/01/2006
ตอบ: 244


ตอบตอบ: Thu Jan 26, 2006 9:43 am    ชื่อกระทู้: การแบ่ง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam คุณฟาอิส
ผมขอเสริมแทนคุณชุกกรีแล้วกัน

คุณกล่าวว่า***เรื่องความแตกแยกในศาสนา จริงๆแล้วมันก็มีมานานตั้งแต่ในสมัยของซอฮาบัต สาเหตุก็คือจากผู้ที่เบียงเบน

Evil or Very Mad คุณฟาอิสครับ ผมไม่เห็นด้วย กับคำพูดของคูณขอให้ทบทวนคำพูดคุณใหม่นะ **ทีคุณว่าความแตกแยกในศาสนา จริงๆแล้วมันก็มีมานานตั้งแต่ในสมัยของซอฮาบัต สาเหตุก็คือจากผู้ที่เบียงเบนจากกีตาบบุลเลาะห์และซุนนะห์ของท่านรอซูล.ซล นี้แหละ จนกระทั้งมาในสมัยปัจจุบันนี้
ความคิดของพวกเหล่านี้ก็ยังมีอยู่เต็มไปหมด และเมื่อมีผู้ที่จะมาซ่อมเพื่อเรียกร้องพาพวกเขากลับไปสู่ทางซุนนะห์

คุณกล่าวต่อเนื่องมาว่า**พวกเขาก็จะถูกประนามว่าเป็นพวก วาฮาบีบ้าง พวกใหม่บ้าง เป็นธรรมดาของการซ่อมย่อมจะต้องมีเสียง
บางอย่างจะต้องทุบและบางอย่างจะต้องตี และบางอย่างก็แค่ทำให้มันแน่นขึ้นก็ต้องขัน

ใครหรือครับ ซอฮาบะท่านใดละครับที่รู้จัก มัสหับวะฮาบีย์ และพวกใหม่ที่คุณกล่าวถึง
ผมว่าคูณชนั้นซี้วั้ว ไม่มีซอฮาบะท่านไหนรู้จัก มูฮำมัด บินอัลดุลวาฮาบเลยนะครับ
***และที่คุณกล่าวหาซอฮาบะนั้น..ท่านใดหรือครับที่เบี่ยงเบน กรุณาลองยกตัวอย่างมาสักท่านซิครับตามความเข้าใจในทัศนะของคุณ
.........................
คุณฟาอิสกล่าวว่า
คุณซุกรีกล่าวว่า ในหนังสือ มุนญีด หน้า 568 ระบุไว้ว่า
_.วะฮาบีย์คือส่วนหนึ่ง จากการปลีกตัวในอิสลาม ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ (1702-1787)
และถูกให้ชื่อจากฝ่ายตรงข้ามว่า.. อัล-มุวะฮ์ฮีดูน... ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับวิชาฟิกฮนั้น เขาไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้
พวกเขาเลยยึดถือหรืยึดเเนวของ มัสหับ อีหม่าม ฮัมบาลี โดยเอามาเทียบเยงความคิดเห็นกรือกดารอธิบายของ ท่านอิบนีตัยมียะ นี่คือหลักฐานครับ ว่าทำไมคนๆทั่วๆไปจึงชอบเรียก พวกท่านว่า วะฮาบีย์
..........................
นี่และเป็นต้นกำเหนิดของการกล่าวหา คุณไม่รู้คุณไม่เข้าใจเรื่อง ดะวะห์ของท่านมุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ

ตอบขอให้คุณช่วยยกตัวอย่างหรือนำเสนอ การดาวะห์ของมุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ ด้วยครับ จะขอบคุณ

แล้วยังเชื่อคนที่กล่าวหาท่าน. คำว่า วาฮาบี คำนี้มาจาก ยาฮูดี ซึ่งเป็นศัพท์ทางการเมืองเพื่อที่จะให้สังคมมุสลิมแตกแยกและละทิ้งซุนนะห์ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่พวกเขาและคุณก็เอามากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการสนทนา เราเข้ามาสนทนากันในนี้เพื่อที่จะแสวงหาทางนำทางที่จะนำเราไปวันอาคีเราะห์ที่ปลอดภัยไม่ใช่เพื่อเอาชนะหรือความสะใจกันนะครับ

Embarassed อันนี้โดนตัวเองเต็มๆครับ ข้อความที่คุณรำพึงรำพันเรื่องความแตกแยกนี้ มันเกิดจากใครละครับ น้ำมือใครละท่าน
ลองมองตัวเองดูบ้าง ว่าปัญหาที่เราไม่สามารถเข้ากันได้หรือประนีประนอมกันได้ มันเกิดจากใคร ที่คิดว่าแนวทางตัวเองนั้นถูกต้องสุดยอด กว่าสี่มัสหับ และกล่าวหา แนวทางอื่น ว่าผิดพลาด มีแต่บิดอะ มีแต่มลทิน และไม่ใช่สลัฟยุคแรก และไม่ใช่อะลิสซุนนะ ใครละท่าน
สิ่งที่คุณพูดอยู่นี้มันสวนทางกับความคิดของคุณอย่างสิ้นเชิง
ผมเคยคุยและเคยขอร้องทางคุณหลายๆคนแล้วว่า กรุณาเพลาบ้างในการนำเสนอ อะไรที่มันกระทบกระทั้งแนวทางอื่น

ถ้าคุณอยากได้หลักฐานลองค้นหาจากเวปอจ.มุรีดซิครับ หรือจากสื่อสิ่งพิม หรือจากการบรรยายจากซีดี ฯลฯ แล้ว คูณจะรู้ว่า ต้นเหตุมาจากไหน
......................
----------------------------------------------------------------------------------------------------------แล้วที่คุณยกฮาดีสนี้มา เพื่ออะไรละ ในเมื่อคุณไม่ต้องการให้มันเกิดการแตแ ยก แล้วคุณจะถามทำไมอีกเป็นครั้งที่2แล้วนะ
في صحيح البخاري عن عائشة زوج النبي ( ص ) انها قالت : كنت أنام بين يدي رسول الله ( ص ) ورجلاي في قبلته فإذا سجد غمزني فقبضت رجلي وإذا قام بسطتهما قالت : والبيوت يومئذ ليس فيها مصابيح
ในเศาะเหียะบุคอรีจากท่านหญิงอาอีซะฮภรรยาของท่านบี ศอลฯกล่าวว่า
ฉันเคยนอนอยู่เบื้องหน้าของท่านรอซูล ซึ่งเท้าของฉันขวางอยู่ทางกิบลัต ครั้นเมื่อท่านรอซูล สุญูด ท่านรอซูล จะสัมผัสฉัน เช่นนั้นฉันก็หดเท้าทั้งสองของฉัน ครั้นเมื่อท่านรอซูล ลุกขึ้นยืน(ในรอกาอัตถัดไป)ฉันก็ยืดเท้าทั้งสองของฉัน(ตามเดิม นางกล่าวว่า "ในวันนั้น บรรดาบ้านต่างๆไม่มีตะเกียง -ดู صحيح البخاري ج 1 / 56 باب الصلاة على الفراش من كتاب الصلاة وص 141 وصحيح مسلم باب الاعتراض بين يدي المصلي ج 2 / 61

.***หลักฐาน.ตัวอย่างเหล่านี้...ที่พวกคุณ ยกมา เป็นประเด็น ที่จะนำไปสู่ความแตกแยก..
..เมื่อคุณหนักแน่นในการสัมผัสกับสตรีนั้นทำให้เสียน้ำนมาซอ้าคณฟาอิสเรื่องการเสียน้ำละหมาด คุณยังไม่เคลียร์หรือครับ ทั้งที่คุณซุกกรี ได้ยกตัวอย่างจากตำราการให้ความหมายของท่นอีหม่ามชาฟีอี (รฮ) และบรรดาอุลามะ อย่างชัดเจนแล้วนะ แล้วคุณจะอาอะไรอีก ที่คุณชกกรีนำเสนอนั้น เพราะคุณอยากรู้ไม่ใช่หรือว่าฮาดีสที่คุณนำมาหักล้างทัศนะอื่นนั้น ใช่ไม่ได้กับแรนวทางของอิหม่ามชาฟีอี

และจะขอถามว่าเมื่อคุณไปเตาวาฟ วายิบที่บัยตุลเลาะห์ อัลฮารัม และคุณก็สวมชุด อิหรอม คุณจะทำอย่างไร?
คุณชุกกรี บอกแล้วไงว่าให้คุณเปิดใจกว้างบ้าง ในการอดกลั้นอ่านตำราของบรรดาอุลามะในมัสหับของอีหม่ามชาฟีอี

นี่แหละครับ ตัวเองมองไม่เห็น ว่าสิ่งที่เป็นต้นเหตุแห่งการเอาชัยชนะ แล้วบอกว่าท่านเองไม่ใช่ตัวสร้างความแตกแยก แล้วเห็นถามมาไม่หยุด
ทั้งที่เราคุยกันเรื่องการแบ่งเตาฮีด และการเชื่อมั่น ท่านก็ดันมาถาม เรื่องฟิกฮ์

ดูกันให้ชัดพี่น้อง คุณฟาอิสบอกว่าเราไม่อยากให้เกิดการแตกแยก แต่..กลับยสร้างปัญหาเช่น....
.1..ในเมื่อคุณหนักแน่นว่าการสัมพัสกับสตรีนั้นเสียน้ำละหมาด
..2.คุณจะเอาระบบของยาฮีลียะห์มาใช้ในเรื่องเตาวาฟ
.3. โดยไม่มีน้ำละหมาดอย่างนั้นหรือ? อย่าลืมว่าในสมัยของท่านนบี ก็มีการเตาวาฟกัน และผู้คนก็ไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะครับ
ผมเห็นแตอูลามะห์ ที่ยึดแนวทางเหมือนอย่างคุณบางคนพวกเขา หันมาใช้เหมือน อีมาม ฮานาฟี หรือมาลิกี
หรือ ฮัมบาลี กันเยอะ นี้แสดงว่าจะละทิ้งทัศนะของอีหม่าม แล้วมายึดตาม ฮะดิษ(เศาะเฮียะ) ก็ได้นะครับ เพียงแต่ .................


Sad เห็นไหมละท่านผู้อ่านช่วยตัดสินหนอยเถิดว่าใครคือต้นเหตุสร้างการแบ่งพรรพแบ่งพวก
แต่คำถามของคุณมันแย้งกับสิ่งที่ท่านเอ่ยมาเหมือนจะทุกอย่าง ...ทบทวนความคิดที่จะไยอมรับบรรดาอุลามะผู้ทรงเกียริตเสียทีเถอะครับ คุณฟาอิส

...........................................
คุณกล่าวว่า
...ส่วนต้นเหตุของการที่ผมเอาฮะดิษเรื่องการเสียน้ำนมาซ ก็เพราะว่าคุณเห็นเพื่อนของคุณปฎิบัติตามซุนนะห์และคุณคิดว่านั้นเป็นแนวทางของพวกใหม่หลงทาง. เพื่อที่จะไม่ให้ท่านผู้อ่านเข้าใจผิด ผมจำต้องเอาฮะดิษบทนี้มาแสดงเป็นหลักฐานว่าเพื่อนของคุณนั้นไม่ได้หลงทางแต่อย่างใดและคุณก็สนุกกับการชี้แจงโดยเอาหลักฐานของท่านอีหม่าม ซาฟีอี และผมก็ไม่ได้บอกว่ามันผิด เพียงแต่ผมจะชวนคุณมาปฎิบัติตามหลักฐานของ อัซซุนนะห์เท่านั้นแหละ เพราะเป็นทางที่
ปลอดภัยที่สุด

ผมว่าคุณกลับไปอ่านข้อความของคุณชุกกรีที่เล่าคุณอัชอารีและคุณมูฮำมัดใหม่ดีกว่า

ผมถามคุณกลับบ้างนะว่า แล้วเมื่อทางคุณชุกกรีเขาได้หลักฐานจากการให้ความหมายของอุลามะในแนวทางของอีหม่ามที่เข่ตักลีดอยู่ แล้วคุณว่าเขาได้รับสิ่งทีผิดมาปฏิบัติหรือครับ
คุณเลย คัดค้านและนำเสนอ ฮาดีส ที่คุณยกมาอ้างนั้นถูกต้อง อย่างเดียว โดยอ้างถึงคำว่าสัมผัส ว่าคือการกระทบกันโดยตรง ระหว่างอวัยวะต่ออวัยวะ ตามที่จริงคุณมรสิทะที่จะเข้าใจนะ แต่ก็ไม่น่า จะนำเสนอว่า การให้ความหมายของท่านอีหม่ามชาฟีอี ที่บอกว่าการสัมผัสนี้ ไม่ใช่เป็นการสัมผัสโดยตรง...แต่ทานนะไม่ยอมรับ มุตะญิดของอีหม่ามนี้ใช่ไหมครับ

ในเมื่อคุณว่าการให้ความหมายของท่านอีหม่ามชาฟีอีไม่ผิด แล้วทำไมคุณต้องยกตัวอย่างฮาดีสนี้กลับมาถามอีกเป็นครั้งที่21ละครับ คุณฟาอิส


Wink ฮั้นแน่ออกมาแล้วพี่น้องครับ คุณฟาอิสกล่าวว่า*********
****เพียงแต่ผมจะชวนคุณมาปฎิบัติตามหลักฐานของ อัซซุนนะห์เท่านั้นแหละ เพราะเป็นทางที่
ปลอดภัยที่สุด ***
อ้าวแล้วที่ท่านอีหมามทั้ง4 รวมทั้งอีหม่ามชาฟีอี ไม่ได้เอาหลักฐาน อัชซุนนะ มาจาก ท่านนบีหรือครับ คุณถึงตั้วงจำกัด เฉพาะสายวาฮาบีย์เท่านั้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่อะลิสซุนนะวัญญะมาอะหรือครับ ท่านผู้รู้..คักคักคัก หัวเราะแบบคุณมูฮำมัด/คุณอัชอารี
Mad หรือว่าหลักฐานอั๙ซุนนะที่คุณกล่าวถึง ได้เฉพาะอิบนุ ตัยมียะ, อัลบานี,อิบนุกอยยิม ,ชาตบีฯลฯ เท่านนั้นหรือครับท่าน....ฟาอิด...

wassalam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   กระทู้นี้ถูกปิดคุณไม่สามารถแก้ไขคำตอบหรือตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ถัดไป
หน้า 2 จากทั้งหมด 8

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.06 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ