อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[abumujahidd]

อัยการไม่ยื่นอุทธรณ์คดีเจไอ หมอแว เตรียมลง ส.ว.

แพะเจไอ!! เฮลั่น อัยการศาลสูงสั่งไม่อุทธรณ์ รับอุทธรณ์ไปไม่ชนะแน่ ด้าน “หมอแว” เผยดีใจที่กระบวนการยุติธรรมไทยอิสระมากขึ้น เตรียมเล่นการเมือง สมัคร ส.ว. ที่บ้านเกิด พร้อมเปิดแถลงข่าวสัปดาห์หน้า ส่วนทนายชี้ เป็นไปตามคาด อัยการไม่น่าอุทธรณ์ เพราะหลักฐานอ่อน

วันนี้(6ก.ค.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายสมยศ ตาณเสวี อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาอุทธรณ์คดีเจไอว่า ล่าสุดคณะทำงานของอัยการฝ่ายคดีศาลสูง ได้พิจารณาสำนวนคดีและคำพิพากษาของศาลอาญา ที่ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดโดยรอบคอบแล้ว มีความเห็นตามที่คณะทำงานฝ่ายคดีอาญาเห็นควรไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าว

โดยมีเหตุผลสรุปว่า พยานบุคคลสำคัญที่โจทก์นำสืบ โดยเฉพาะ นายอาราฟิน บิน อาลี ชาวสิงคโปร์ กลุ่มกบฏเจไอ ที่ให้การซัดทอดจำเลย โจทก์ไม่สามารถนำมาเบิกความยืนยันได้ ทำให้รูปคดีอ่อน ประกอบกับหลักฐานอื่นโดยเฉพาะของกลางที่ได้มีไม่มากนัก อาทิ ไม่พบดินระเบิด และรถยนต์ที่ใช้นำไปก่อเหตุวินาศกรรมสถานทูต และอื่นๆ เมื่อไม่มีของกลางที่จะเพิ่มน้ำหนักในคดี ทำให้พยานหลักฐานไม่แน่นหนาพอ อัยการฝ่ายคดีอาญาและอัยการฝ่ายคดีศาลสูง เห็นว่าหากอุทธรณ์ไป ก็จะไม่ชนะคดีแน่นอน

และในวันนี้ อัยการศาลสูงจะได้เสนอความเห็นไม่อุทธรณ์คดีเจไอ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ทราบ เพื่อลงความเห็น โดยหลักการแล้วหาก ผบ.ตร.เห็นแย้ง ก็ต้องเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด แต่หาก ผบ.ตร.เห็นตามก็ถือว่าคดีนี้เป็นที่สิ้นสุด

คดีนี้สืบเนื่องจาก ที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.พ.แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ อดีตแพทย์ประจำรพ.นราธิวาสราชนครินทร์ , นายมัยสุรุ หะยีอับดุลเลาะ เจ้าของโรงเรียนปอเนาะบ้านโต๊ะนอ อ.เมือง นราธิวาส ,นายมุญาฮิด หะยีอับดุลเลาะ บุตรชายนายมัยสุรุ , นายสมาน แวกะจิ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันตระเตรียมการใดๆ เพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศจากภายนอก ,เป็นสมาชิกคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ อันมิชอบด้วยกฎหมาย, กระทำผิดฐานเป็นอั้งยี่และซ่องโจร จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าพวกจำเลยเป็นสมาชิก และวางแผนร่วมกับนายอาราฟิน บิน อาลี หรือบังริดวน สมาชิกกลุ่มเจไอ ชาวสิงคโปร์ ก่อวินาศกรรมระเบิดสถานทูต 5 แห่งในกรุงเทพฯ ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง4 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 48

ด้านนายสิทธิพงศ์ จันทรวิโรจน์ ทนายความ น.พ.แวมาหะดี จำเลยที่ 1 เปิดเผยว่า หากอัยการสั่งไม่อุทธรณ์ก็เป็นไปตามที่คาดหวังไว้แต่แรกแล้ว เพราะแต่แรกที่ต่อสู้คดีก็ยืนยันมาโดยตลอดว่า คดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่จะเอาผิดจำเลยว่าเป็นกบฏเจไอได้ โดยเฉพาะพยานบุคคลคือนายอาราฟิน บิน อาลี ที่ซัดทอดจำเลย ก็เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่สามารถนำนายอาราฟินมาขึ้นเบิกความได้ และเอกสารที่ได้จากทางสิงคโปร์เกี่ยวกับคำให้การของนายอาราฟิน ที่นำมาแสดง ก็เป็นเพียงพยานบอกเล่า

นอกจากนี้ยังไม่มีคำตกลงว่าจำเลยจะร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มกบฏดังกล่าว ส่วนแผนที่กรุงเทพฯ ที่ใช้เป็นหลักฐานว่าจะมีการก่อวินาศกรรมในแต่ละจุดนั้น ก็เป็นแผนที่ ที่ใช้โดยทั่วไป และไม่มีพยานแวดล้อมยืนยัน นอกจากนี้การไม่อุทธรณ์ของอัยการจะทำให้เกิดผลดีต่อความสมานฉันท์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อความรู้สึกของประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้

น.พ.แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ เปิดเผยความรู้สึกกับผู้สื่อข่าว ขณะที่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า พึ่งทราบข่าวว่าอัยการสั่งไม่อุทธรณ์ ซึ่งรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าการไม่อุทธรณ์น่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีขึ้น โดยประชาชนจะมั่นใจ กระบวนการยุติธรรมของไทยว่ามีความเป็นอิสระมากขึ้น โดยแต่ละฝ่ายทำงานไปตามข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว จากนี้ตนเองจะได้กำหนดทิศทางของชีวิตได้ ว่าจะเลือกทำประโยชน์ในรูปแบบใดให้กับสังคม เพราะระหว่างที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องและได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้ 1 เดือนนี้ มีชาวบ้านเข้ามาให้กำลังใจตลอดเวลา และเสนอให้ตนเองผันจากการทำงานเคลื่อนไหวภาคประชาชน ให้เป็นการเมืองระบบเลือกตั้ง โดยกำลังพิจารณาการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.จังหวัดนราธิวาส

นอกจากนี้ อาจขยายตึก 3 คูหาที่มีอยู่แล้วของครอบครัวทำโครงการ รพ.เอกชนอีกด้วย ซึ่งน.พ.แวมาหะดีกล่าวอีกว่า ประมาณสัปดาห์หน้าตนจะขึ้นไปกรุงเทพฯ เพื่อเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน