ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เมื่ออะชาอีเราะฮตายตอนจบ ใน เสวนาการเห็นอัลเลาะฮ์ในวันก
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เมื่ออะชาอีเราะฮตายตอนจบ ใน เสวนาการเห็นอัลเลาะฮ์ในวันก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:36 pm    ชื่อกระทู้: เมื่ออะชาอีเราะฮตายตอนจบ ใน เสวนาการเห็นอัลเลาะฮ์ในวันก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

การเห็นอัลเลาะฮ์ในวันกิยามะฮ์ ที่เราเคยเสวนา ถูกปิดโดยฉับพลัน แต่ก็สามารถก๊อบเก็บไว้ได้แค่บางส่วน ซึ่งบรรดาพี่น้องที่ไม่ทันอ่านต้องการทราบ ผมก็ขอนำเสนอเพียงบางส่วนที่ได้มาน่ะครับ เกี่ยวกับการมองเห็นอัลเลาะฮ์ในวันกิยามะฮ์ ตามแนวทางวะฮาบีย์และอัลอะชาอิเราะฮ์

والسلام

อัล-อัซฮะรีย์

al-azhary

เราไม่ควรที่จะให้ผู้อื่นฮุกุ่มอุลามาอ์เป็นรายบุคคล นั้นไม่ใช่เป็นมารยาทและหลักเสวนาเชิงวิชาการ แต่การนำเสนอหลักการแล้วบอกว่าหลักนี้ไม่เป็นกุฟุรและหลักการนี้เป็นกุฟุรนั้น ย่อมกระทำได้

อุลามาอ์ ของวะฮาบีย์ คือ ท่าน อัลลามะฮ์ มุฮัมมัด ค่อลีล ฮัรร๊อซฺ ได้กล่าวอธิบายในหนังสือ อัตเตาฮีด ของท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ว่า

ثم تبدى الله لنا بصورة غير صورته التي رأيناه فيها أول مرة ، وقد عاد لنا في صورته التي رأيناه فيها أول مرة فيقول أنا ربكم

"หลังจากอัลเลาะฮ์ทรงปรากฏให้แก่เรา ด้วยรูปลักษณะที่ไม่ใช่รูปลักษณะของพระองค์ที่เราเคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะของพระองค์ในครั้งแรก และแท้จริงพระองค์ก็จะหวนกลับกลายให้แก่เราในรูปลักษณะเดิมของพระองค์ที่เราได้เคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะเหมือนครั้งแรก ดังนั้น พระองค์ก็กล่าวว่า เราคือผู้อภิบาลของพวกเจ้าทั้งหลาย" ดู หน้า 156 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบอัลอิลมียะฮ์ ฮ.ศ. 1403

ดังนั้น ย่อมชัดเจนแล้วว่า รูปแบบของอัลเลาะฮ์มีการเปลี่ยนแปลงตามหลักการของวะฮาบีย์ ผลลัพธ์ตามมาก็คือ บรรดาซีฟัตที่อยู่ที่ซาตของอัลเลาะฮ์ มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอะกีดะฮ์เช่นนี้ เป็นกุฟุรครับ !! วัลลอฮุอะลัม

ผมขอกล่าวว่า ผู้ใดที่เชื่อหลักการเช่นนี้ ย่อมกุฟุรครับ ผมตอบได้เท่านี้ครับ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:39 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

asme

ไม่เข้าใน คุณ asanผมว่า ที่ทุกท่านตอบมา ก็บอกอยู่แล้วว่า การเห็นอัลลอฮ์ ในวันกิยามัต
ผมสรุปได้ว่า ได้เห็นอัลลอฮ์แน่ แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตา
และด้วยอำนาจแห่งพระองค์ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ

วิธีการเห็น ในวันนั้น วัลลอฮุอะลัม แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือเรื่อง อากีกัด ซีฟัต ของอัลลอฮ์ ของวะฮาบี มากกว่าครับ

asan

อ้างจาก: al-azhary ที่ 27 กุมภาพันธ์ 50 , 23:13
เราไม่ควรที่จะให้ผู้อื่นฮุกุ่มอุลามาอ์เป็นรายบุคคล นั้นไม่ใช่เป็นมารยาทและหลักเสวนาเชิงวิชาการ แต่การนำเสนอหลักการแล้วบอกว่าหลักนี้ไม่เป็นกุฟุรและหลักการนี้เป็นกุฟุรนั้น ย่อมกระทำได้
--------

ตอนนี้มาอ้างมารยาทหรือครับท่าน ถามท่านมาหลายครั้ง ว่า วันกิยามะฮ เห็นอัลลอฮ ด้วยตาหรือเปล่า เฝื่อจะได้นำข้อมูลไปสอนเด็ก ถ้าท่านไม่ตอบ ท่านจะกลับมาสอนอะกีดะฮชาวบ้านอย่างไรล่ะครับ เมื่อท่านตอบตรงๆและฟันธงมาเลย แล้วผมจะตอบพร้อมหลักฐานเช่นกัน และ ให้ท่านหุกุมผมด้วย แต่ระวังนะท่าน ส่วนหากท่านทำบิดอะฮ ผมฟันธงอยู่แล้วว่า ทำบิดอะฮในอิบาดะฮนั้นผิด ตอบแบบไม่ตีกรรเชียง ลองทำบิดอะฮให้ดูซิครับ

asan

อ้างจาก: asme ที่ 27 กุมภาพันธ์ 50 , 23:21
ไม่เข้าใน คุณ asanผมว่า ที่ทุกท่านตอบมา ก็บอกอยู่แล้วว่า การเห็นอัลลอฮ์ ในวันกิยามัต
ผมสรุปได้ว่า ได้เห็นอัลลอฮ์แน่ แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตา
และด้วยอำนาจแห่งพระองค์ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ

วิธีการเห็น ในวันนั้น วัลลอฮุอะลัม แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือเรื่อง อากีกัด ซีฟัต ของอัลลอฮ์ ของวะฮาบี มากกว่าครับ
----------

แล้วการเห็น เขาเห็นด้วยอะไรครับ ทำไมไม่ตอบและยกหลักฐานมา เช่น เห็นด้วยใจ เห็นด้วยมือ เห็นด้วยญานวิเศษ ตอบมาซิครับ ทำไมถามสั้นๆแค่นี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่กล้าตอบ ขนหนังสือในหอสมุดมหาลัยอัลอัซฮัรมาตอบก็ได้นี่ครับ เก่งๆทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ


al-azhary

อ้างจาก: asan ที่ 27 กุมภาพันธ์ 50 , 23:29
ตอนนี้มาอ้างมารยาทหรือครับท่าน ถามท่านมาหลายครั้ง ว่า วันกิยามะฮ เห็นอัลลอฮ ด้วยตาหรือเปล่า เฝื่อจะได้นำข้อมูลไปสอนเด็ก ถ้าท่านไม่ตอบ ท่านจะกลับมาสอนอะกีดะฮชาวบ้านอย่างไรล่ะครับ เมื่อท่านตอบตรงๆและฟันธงมาเลย แล้วผมจะตอบพร้อมหลักฐานเช่นกัน และ ให้ท่านหุกุมผมด้วย แต่ระวังนะท่าน ส่วนหากท่านทำบิดอะฮ ผมฟันธงอยู่แล้วว่า ทำบิดอะฮในอิบาดะฮนั้นผิด ตอบแบบไม่ตีกรรเชียง ลองทำบิดอะฮให้ดูซิครับ
-----------

ท่านอิมามอบูหะนีฟะฮฺกล่าวเช่นกันว่า

ولقاء الله تعالى لأهل الجنة بلا كيف ولا تشبيه ولا جهة حق

" และการที่อัลเลาะฮฺ(ตะอาลา)ทรงพบกับชาวพบสวรรค์ โดยไม่มีวิธีการ ไม่มีการคล้ายคลึง และไม่มีทิศนั้น เป็นสัจจะธรรม" ดู กิตาบ อัลวะซียะฮฺ ของอบูหะนีฟะฮฺ หน้า 4

หนังสือ อะกีดะฮ์ อัฏฏะฮาวียะฮ์ คงเพียงพอในการนำเสนอ แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นะครับ ท่านอิมามอัฏฏ่อหาวีย์ อุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ กล่าวว่า

والرؤية حق لأهل الجنة بغير إحاطة ولا كيفية كما نطق به كتاب ربنا ( وجوه يومئذ ناضرة إلى ربها ناظرة) وتفسيره على ما أراده الله تعالى وعلمه

"การเห็นอัลเลาะฮ์ เป็นสัจจริง สำหรับชาวสวรรค์ โดยไม่สามารถครอบคลุมได้และไม่มีวิธีการ เสมือนที่คำภีร์ของผู้อธิบาลของเราได้กล่าวว่า "ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" และการอธิบายมันนั้น ตามที่อัลเลาะฮ์ ตามจุดประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา และความรู้ของพระองค์"

al-azhary

ดังนั้น การเห็นด้วยกับอะไร หรือ เห็นด้วยกับลูกตาหรือเปล่า? นั้น เป็นการถามถึง "วิธีการ" كيفية หรือไม่ครับบังอะสัน ?

เสวนาไปเรื่อย ๆ ครับ กระทู้นี้ ผมขอร่วมวงเสวนาด้วยอีกคนล่ะกันนะครับ น้อง Ahmad24 และพี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ท่านอื่น ๆ แต่ขอให้เสวนาเชิงวิชาการหน่อยน่ะ เกรงว่า กระทู้จะถูกปิด และเราก็จะได้ทราบถึงอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ กับ อะกีดะฮ์วะฮาบีย์ เกี่ยวกับเรื่องการเห็นดังกล่าว กันครับ โปรดติดตามครับ อินชาอัลเลาะฮ์

asan

ท่านอิมามอบูหะนีฟะฮฺกล่าวเช่นกันว่า

ولقاء الله تعالى لأهل الجنة بلا كيف ولا تشبيه ولا جهة حق

" และการที่อัลเลาะฮฺ(ตะอาลา)ทรงพบกับชาวพบสวรรค์ โดยไม่มีวิธีการ ไม่มีการคล้ายคลึง และไม่มีทิศนั้น เป็นสัจจะธรรม" ดู กิตาบ อัลวะซียะฮฺ ของอบูหะนีฟะฮฺ หน้า 4

หนังสือ อะกีดะฮ์ อัฏฏะฮาวียะฮ์ คงเพียงพอในการนำเสนอ แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นะครับ ท่านอิมามอัฏฏ่อหาวีย์ อุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ กล่าวว่า

والرؤية حق لأهل الجنة بغير إحاطة ولا كيفية كما نطق به كتاب ربنا ( وجوه يومئذ ناضرة إلى ربها ناظرة) وتفسيره على ما أراده الله تعالى وعلمه

"การเห็นอัลเลาะฮ์ เป็นสัจจริง สำหรับชาวสวรรค์ โดยไม่สามารถครอบคลุมได้และไม่มีวิธีการ เสมือนที่คำภีร์ของผู้อธิบาลของเราได้กล่าวว่า "ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" และการอธิบายมันนั้น ตามที่อัลเลาะฮ์ ตามจุดประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา และความรู้ของพระองค์"
------------

"ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" แล้วเมื่อใช้คำว่า "ใบหน้า " ไปใช้พาดพิง กับ คำว่า "มอง " จึงอยากจะถามว่า "มองด้วยอะไร" แค่นี้ ครับ ทำไมไม่ตอบ ส่วนจะวัดใครอะกีดะฮ อะฮลุสสุนนะฮของแท้หรือของไม่แท้นั้น คนอ่านเขารู้ครับ เขามีวิจารณญานพอที่จะแยกได้ หากเขาไม่ผูกติดกับหมู่คณะ และไม่จำเป็นต้องตั้งฉายาให้ตนเองว่า ชาวอะฮลุสสุนนะฮหรอกครับ พฤติกรรมหรือการกระทำ เป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

read

อ้างจาก: asan ที่ 27 กุมภาพันธ์ 50 , 23:37
แล้วการเห็น เขาเห็นด้วยอะไรครับ ทำไมไม่ตอบและยกหลักฐานมา เช่น เห็นด้วยใจ เห็นด้วยมือ เห็นด้วยญานวิเศษ ตอบมาซิครับ ทำไมถามสั้นๆแค่นี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่กล้าตอบ ขนหนังสือในหอสมุดมหาลัยอัลอัซฮัรมาตอบก็ได้นี่ครับ เก่งๆทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ
------------

ผมเห็นบังซันได้แต่ถาม ไม่ยักอ่านที่เขาตอบมาบ้าง และไม่เห็นตอบคำถามคนอื่นถามมาเลย

คุณ Ahmad24 ได้กล่าวไว้ว่า

เป็นปัญหาที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย ซึ่งผมพอจะเข้าใจคุณ asan ดีว่า การตั้งคำถามของคุณก็เพื่อเลี่ยงที่จะไม่ตอบหรือเข้าประเด็นหัวข้อในกระทู้นี้ที่ว่า อัลอะชาอิเราะฮ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความหมายอัลกุรอาน เพราะสาเหตุที่ไม่รู้จะแย้งหลักฐานของคุณ al_azhary ได้หรือสาเหตุอันใด? แต่เมื่อคุณ asan ต้องการหลักฐานที่ว่าเห็นด้วยตาหรือไม่นั้น ผมขอยกหลักฐานจากคำพูดของท่านนะบีที่ว่า

حديث جرير بن عبد الله رضي الله عنه قال: قال النبي صلى الله عليه وسلم: ( إنكم سترون ربكم عيانا ) رواه البخاري

ฮาดิษของท่านญาริด อิบนุ อับดุลลอฮฺ (รอฏิฯ) ได้กล่าวว่า ท่านนะบี (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า "แท้จริงแล้ว ต่อไปพวกท่านจะได้เห็นพระเจ้าของพวกท่านด้วยตาเปล่า

คำว่า عَايَنَ ، عِيان ، معاينة นั้น สามารถแปลได้ว่า เห็นด้วยตา เห็นด้วยตาเปล่า

ชัดเจนแล้วหรือยังครับ

ผมไม่เห็นว่า การรู้ว่าจะเห็นอัลลอฮฺด้วยตาเปล่าหรือเห็นด้วยกับอย่างอื่นนั้น มันจะมีความสำคัญและประโยชน์ตรงไหน? ในเมื่อผลที่ได้เห็นอัลลอฮฺก็คือความสุขของผู้ได้เห็น ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับตาหรือด้วยกับอะไร

และแน่นอนคำถามพวกนี้แหละครับ ที่สร้างความวุ่นวายให้กับศาสนา นักวิชาการอิสลามจึงได้ออกมาโต้เพื่อรักษาอากิดะห์อิสลามอันบริสุทธิ์เอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความหลงผิดในหลักความเชื่อ และนี่แหละคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดวิชาเตาฮีดหรืออิลมุลกาลามขึ้นมา ซึ่งบางครั้งคำถามเหล่านี้เกิดจากความสงสัยของมุสลิมบางคน และนะบีก็ได้ห้ามถามถึงเรื่องพวกนี้ ถึงแม้กระนั้นก็ยังมีพวกนอกศาสนาที่ต้องการทำลายหลักความเชื่อของอัลอิสลามโดยดึงอายะห์ที่กล่าวแบบชุบฮะห์เพื่อสร้างความไขว่แขว่แก่ผู้สงสัย ซึ่งการโต้ตอบเพื่อรักษาหลักความเชื่ออิสลามอันบริสุทธิ์เอาไว้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น (วายิบ) ต่อนักวิชาการอิสลาม และพวกเขาจะไม่กล่าววิชานี้อย่างพร่ำเพื่อ นอกเสียจากเพื่อปกป้องความเข้าใจผิดของผู้คน

และแน่นอนสิ่งเหล่านี้มันก็ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างที่เราได้เห็นกัน จากคำถามที่ไร้ประโยชน์และสร้างฟิตนะห์ในสังคมมุสลิม

والله أعلم

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:41 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

read

ถ้าว่างช่วยตอบ คำถามที่ผมถามไว้ด้วยนะครับ

"สรุปว่า บังซันเชื่อว่าจะต้องเห็นอัลลอฮด้วยตาเท่านั้น และจะต้องเห็นเป็นรูปร่างเท่านั้น ถึงจะไม่เปลี่ยนความหมายของอัลกุรอ่าน
และมีความเชื่อนี้ เหมือนบรรดานบี ซอฮาบะฮ์ และ สลาฟ ได้เชื่อ ใช่ไหมครับ??"

asan

คุณ Ahmad24 ได้กล่าวไว้ว่า....

ท่านนะบีที่ว่า

حديث جرير بن عبد الله رضي الله عنه قال: قال النبي صلى الله عليه وسلم: ( إنكم سترون ربكم عيانا ) رواه البخاري

ฮาดิษของท่านญาริด อิบนุ อับดุลลอฮฺ (รอฏิฯ) ได้กล่าวว่า ท่านนะบี (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า "แท้จริงแล้ว ต่อไปพวกท่านจะได้เห็นพระเจ้าของพวกท่านด้วยตาเปล่า

คำว่า عَايَنَ ، عِيان ، معاينة นั้น สามารถแปลได้ว่า เห็นด้วยตา เห็นด้วยตาเปล่า

ชัดเจนแล้วหรือยังครับ
ผมไม่เห็นว่า การรู้ว่าจะเห็นอัลลอฮฺด้วยตาเปล่าหรือเห็นด้วยกับอย่างอื่นนั้น มันจะมีความสำคัญและประโยชน์ตรงไหน? ในเมื่อผลที่ได้เห็นอัลลอฮฺก็คือความสุขของผู้ได้เห็น ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับตาหรือด้วยกับอะไร
................

ตอบ

ครับ ชัดเจน และเข้าใจครับ แต่ที่ต้องการถาม คือ พวกท่านมีจุดยืนอย่างไรในหะดิษนี้ ทำไม่ไม่กล้าตอบว่า
"ใช่ครับครับ เห็นด้วยตา" หรือ เอ....ขอนอนคิดก่อน ไม่มันใจ .... ก็ไม่มีใครว่าอะไรนี่ครับ

ส่วนผมนั้นขอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า " เห็นด้วยตาครับ"

ท่านอิบนุกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

إِلَىٰ رَبِّهَا نَاظِرَةٌ } أي: تراه عياناً؛ كما رواه البخاري رحمه الله تعالى في صحيحه: " إنكم سترون ربكم عياناً " وقد ثبتت رؤية المؤمنين لله عز وجل في الدار الآخرة في الأحاديث الصحاح من طرق متواترة عند أئمة الحديث، لا يمكن دفعها ولا منعها؛ لحديث أبي سعيد وأبي هريرة، وهما في الصحيحين أنَّ ناساً قالوا: يا رسول الله هل نرى ربنا يوم القيامة؟ فقال " هل تضارون في رؤية الشمس والقمر ليس دونهما سحاب؟ " قالوا لا، قال " فإنكم ترون ربكم كذلك ". وفي الصحيحين عن جرير قال نظر رسول الله صلى الله عليه وسلم إلى القمر ليلة البدر فقال: " إنكم ترون ربكم كما ترون هذا القمر

คำตรัสที่ว่า (จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน) หมายถึง มันเห็นพระองค์ ด้วยต่าเปล่า ดังสิ่งที่อัลบุคอรี(ขออัลลอฮ ตะอาลาเมตตาต่อท่าน)ได้รายงานมันในเศาะเฮียะของท่านว่า ? แท้จริง พวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านด้วยตาเปล่า? และความจริง ได้มีการยืนยันถึง การที่บรรดาผู้ศรัทธา จะได้เห็นอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงเลิศยิ่งใน โลกอาคิเราะฮ (โลกหน้า) ระบุในบรรดาหะดิษ ที่เศาะเฮียะ จากหลายสายรายงาน หลายกระแสต่อเนื่องกันมา ในทัศนะของบรรดาอิหม่ามทางด้านหะดิษ ที่ไม่อาจจะคัดค้านและปฏิเสธได้เลย เพราะมีหะดิษอบูสะอีด และอบูฮุรัยเราะฮ โดยที่ทั้งสองหะดิษนั้นอยู่ใน เศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม ระบุว่า ? แท้จริงบรรดาผู้คน กล่าวถามว่า ?โอ้ท่านรซูลุ้ลลอฮ พวกเราจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของเราในวันกิยามะฮไหม? แล้วท่านรซูลุ้ลลอฮ กล่าวว่า ?พวกท่าน มีความยากลำบากไหม ในการเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โดยที่ ไม่มีเมฆมาบัง ? พวกเขากล่าวตอบว่า ?ไม่? ท่านรซูลุ้ลลอฮ กล่าวว่า ?พวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านอย่างนั้น ? และปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม จากท่านญะรีร กล่าวว่า ?ท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้มอง ดวงจันทร์ ในคืนจันทร์เพ็ญ แล้วกล่าวว่า ? แท้จริงพวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ดังที่พวกท่าน เห็นดวงจันทร์นี้ - ดู ตัฟสีรอิบนิกะษีร อรรถาธิบาย อายะฮที่ 22 ซูเราะฮอัลกิยามะฮ

asan

คุณ Ahmad24 ได้กล่าวไว้ว่า....

ผมไม่เห็นว่า การรู้ว่าจะเห็นอัลลอฮฺด้วยตาเปล่าหรือเห็นด้วยกับอย่างอื่นนั้น มันจะมีความสำคัญและประโยชน์ตรงไหน? ในเมื่อผลที่ได้เห็นอัลลอฮฺก็คือความสุขของผู้ได้เห็น ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับตาหรือด้วยกับอะไร

และแน่นอนคำถามพวกนี้แหละครับ ที่สร้างความวุ่นวายให้กับศาสนา นักวิชาการอิสลามจึงได้ออกมาโต้เพื่อรักษาอากิดะห์อิสลามอันบริสุทธิ์เอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความหลงผิดในหลักความเชื่อ และนี่แหละคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดวิชาเตาฮีดหรืออิลมุลกาลามขึ้นมา ซึ่งบางครั้งคำถามเหล่านี้เกิดจากความสงสัยของมุสลิมบางคน และนะบีก็ได้ห้ามถามถึงเรื่องพวกนี้ ถึงแม้กระนั้นก็ยังมีพวกนอกศาสนาที่ต้องการทำลายหลักความเชื่อของอัลอิสลามโดยดึงอายะห์ที่กล่าวแบบชุบฮะห์เพื่อสร้างความไขว่แขว่แก่ผู้สงสัย ซึ่งการโต้ตอบเพื่อรักษาหลักความเชื่ออิสลามอันบริสุทธิ์เอาไว้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น (วายิบ) ต่อนักวิชาการอิสลาม และพวกเขาจะไม่กล่าววิชานี้อย่างพร่ำเพื่อ นอกเสียจากเพื่อปกป้องความเข้าใจผิดของผู้คน

และแน่นอนสิ่งเหล่านี้มันก็ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างที่เราได้เห็นกัน จากคำถามที่ไร้ประโยชน์และสร้างฟิตนะห์ในสังคมมุสลิม

والله أعلم

-------------

แปลกนะครับคุณ read คุณอะหมัดลูกพี่คุณบอกว่าไม่เห็นด้วย ว่าการเห็นอัลลอฮฺด้วยตาเปล่าหรือเห็นด้วยกับอย่างอื่นนั้น มันจะมีความสำคัญและประโยชน์ตรงไหน?
แล้วท่านนบีบอกไม่ใช่หรือว่า

إنكم سترون ربكم عيانا

"แท้จริงแล้ว ต่อไปพวกท่านจะได้เห็นพระเจ้าของพวกท่านด้วยตาเปล่า - รายงานโดย บุคอรี

ท่านนบีได้อธิบายให้เหล่าเศาะหาบะฮเข้าใจถึงการเห็นอัลลอฮ โดยยกตัวอย่างว่า เห็นชัดเจนเหมือน กับที่พวกเขาเห็นพระจันทร์เต็มดวง แต่คุณ อะหมัด ลูกพี่ของคุณไม่เห็นด้วย แบบนี้แหละคือ บิดอะฮอะกีดะฮของแท้ของพวกท่านเองครับ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

read

อ้างจาก: asan ที่ วันนี้ เวลา 15:17
ท่านนบี
ได้อธิบายให้เหล่าเศาะหาบะฮเข้าใจถึงการเห็นอัลลอฮ โดยยกตัวอย่างว่า เห็นชัดเจนเหมือน กับที่พวกเขาเห็นพระจันทร์เต็มดวง แต่คุณ อะหมัด ลูกพี่ของคุณไม่เห็นด้วย แบบนี้แหละคือ บิดอะฮอะกีดะฮของแท้ของพวกท่านเองครับ
-----------

มีตรงไหนที่บอกว่าไม่เห็นด้วยครับ คุณอะหมัดเห็นด้วยและไม่ปฎิเสธกับฮาดิษที่กล่าวมา และไม่ได้บอกด้วยว่าการเห็นอัลลอฮ์ด้วย
ตามันเป็นไปไม่ได้

read

อ้างจาก: asan ที่ วันนี้ เวลา 15:03
แค่คำถามเด็กอนุบาล ก็ไม่กล้าตอบ ที่น้ะหมดสิทธิที่จะถามผมครับ เพราะ พวกท่านคือ นินจา ที่นอกจากจะใช้นามแฝงมาโจมตีคนอื่นแล้วยังมีอะกีดะฮ แบบไม้หลักปักขี้เลนอีกอีก
--------------

OK ต่อไปผมจะไม่ถามบังซันแล้ว นะครับ

Ahmad24

แปลกนะครับที่ผมก็ตอบไปแล้วอย่างชัดเจนและชัดเจน แต่สิ่งที่คุณ asan เข้าใจคือ เข้าใจว่าผมไม่มั่นใจในการตอบ ทั้งๆที่ผมก็ยกหลักฐานจากอัลฮาดิษที่กล่าวอย่างชัดเจน มันแปลกไหมครับ

ผมอยากบอกคุณ asan อย่างหนึ่งว่า การตัดสินอะไรหรือปัญหาใดๆก็ตาม ไม่ควรเอาความรู้สึกนึกคิดของตัวเองมาตอบ เพราะมันจะเกิดปัญหาและฟิตนะห์ในภายภาคหน้า

การตอบและการค้านคำพูดของคุณเป็นการใช้อารมณ์สะส่วนใหญ่ ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่อิสลามรังเกียรติครับ และนะบีไม่เคยใช่อารมณ์มาตัดสินปัญหาศาสนา

การที่คุณบอกว่า ถามวัวตอบควาย นี่ ผมรู้ทันทีเลยว่า เป็นการใช่อารมณ์อย่างชัดเจน และการใช่คำดาที่ไม่สุภาพเช่นนี้ ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเยาวชน ซึ่งคุณก็ได้ชื่อว่าเป็นครูไม่ใช่เหรอครับ มันไม่ดีเลยนะครับที่ครูจะเป็นตัวอย่างทีไม่ดี

ในเมื่อคำตอบที่ผมยกมาก็คือ อัลฮาดิษ คุณกลับบอกว่า สิ่งที่ผมตอบเป็นควาย อย่างนี้หมายความว่าไงครับ

อีกอย่างการดาผู้คนโดยอ้างถึงสัตว์ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไร อย่างนี้มันดูถูกสัตว์กันเหรอเปล่า สงสารมันเถอะครับ จริงอยู่วัวควายเป็นสัตว์ที่ต่ำต้อยแต่มันก็ทำนาหาข้าวให้คุณกิน

والله أعلم

asan

อ้างจาก: read ที่ วันนี้ เวลา 14:53
ถ้าว่างช่วยตอบ คำถามที่ผมถามไว้ด้วยนะครับ
สรุปว่า บังซันเชื่อว่าจะต้องเห็นอัลลอฮด้วยตาเท่านั้น และจะต้องเห็นเป็นรูปร่างเท่านั้น ถึงจะไม่เปลี่ยนความหมายของอัลกุรอ่าน
และมีความเชื่อนี้ เหมือนบรรดานบี ซอฮาบะฮ์ และ สลาฟ ได้เชื่อ ใช่ไหมครับ
.....................

แล้วอะไรบ้างครับที่เห็นด้วยตีน หรือเห็นด้วยจมูก แปลกนะครับ ยิ่งเรียนยิ่งเข้าป่า คุณเข้าใจคำว่า "ซาต" ไหมครับ แปลว่าอย่างไรครับ ส่วนที่จะไปพิเคราะห์ พิจารณาว่าอัลลอฮมีซาตเป็นอย่างไรนั้น ท่านนบี

ห้ามไว้ไม่ใช่หรือครับ ดังหะดิษที่ว่า

تفكروا في آلاء الله ، ولا تفكروا في الله عز وجل ] .( حسن

พวกท่านจงพิจารณาในความโปรดปรานของอัลลอฮ และพวกท่านอย่าได้พิจารณาใน(ซาตของ)อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง - หะดิษหะซัน ดู สิลสิละฮ อัศเศาะฮีหะฮ เล่ม 4 หน้า 395 หะดิษหมายเลข 1788

ดังนั้น เรามาพิจารณาถึงสิ่งที่อัลลอฮ ให้เราคิดพิจารณาไม่ดีกว่าหรือ

أَوَلَمْ يَتَفَكَّرُوا فِي أَنفُسِهِمْ مَا خَلَقَ اللَّهُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَمَا بَيْنَهُمَا إِلَّا بِالْحَقِّ وَأَجَلٍ مُّسَمًّى وَإِنَّ كَثِيراً مِّنَ النَّاسِ بِلِقَاء رَبِّهِمْ لَكَافِرُونَ

[30.8] พวกเขามิได้ใคร่ครวญ ในตัวของพวกเขาดอกหรือว่า อัลลอฮ์มิได้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสอง เพื่อสิ่งอื่นใดเลย เว้นแต่เพื่อความจริงและเวลาที่ถูกกำหนดไว้ และแท้จรงส่วนมากของมนุษย์เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อการพบพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา

..............
พวกคุณตามไปทุกเว็บเพื่อจะเอาชนะเรื่อง การโต้เถียงในเรื่องสิฟาตอัลลอฮ โดยคิดว่า สามารถล้มพวกที่คุณตั้งฉายาว่าวะฮบีย์ ด้วยเรื่องนี้ อย่าเลยครับ

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ
ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น
..................

asan

ครับ แล้วทำไม ไม่ตอบให้ตรงๆไปเลยครับ ว่า เห็นด้วยตา ตามที่ผมถามว่า "เห็นด้วยตาไหม? แต่กลับมาว่า ผมใช้สมองส่วนล่างคิด ลองไปทบทวนดู คำตอบลูกพี่อะหมัดของน้องบ่าวซิครับ ถ้าตอบตอนแรกก็จบ นี่ อ้างนั้น อ้างนี่ มากันเป็นทีมแต่สไตล์เดียวกัน คือ ไม่กล้าตอบตรงๆ มันอะไรกันหรือครับ กลัวอะไรหนักหนา หรือกลัวจะถูกเรียก "พวกมุญัสสิมะฮ" เฮ้อ...

Goddut

ถาม บังๆ ทุกคน เนื่องจากมีคนสอนผมว่า

หากเราอยากจะเห็น อัลลอฮฺ ในวันกิยามะ ก็ให้เราทำความดี เพราะหากเราไม่ทำความดี ก็ไม่ได้เห็นพระองค์

ดังนั้น หากบอกว่า เราจะเห็นพระองค์ ด้วยตาเท่านั้น ก็ต้องแสดงว่า คนไม่ทำความดี ในวันกิยามะตาจะบอด ?
อธิบายให้ผมฟังทีครับ ... ว่า ตกลง มันเป็นอย่างไร

ยะซากัลลอฮฺ
วัสลาม...

asan

อ้างจาก: Ahmad24 ที่ วันนี้ เวลา 15:50

ในเมื่อคำตอบที่ผมยกมาก็คือ อัลฮาดิษ คุณกลับบอกว่า สิ่งที่ผมตอบเป็นควาย อย่างนี้หมายความว่าไงครับ

อีกอย่างการดาผู้คนโดยอ้างถึงสัตว์ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไร อย่างนี้มันดูถูกสัตว์กันเหรอเปล่า สงสารมันเถอะครับ จริงอยู่วัวควายเป็นสัตว์ที่ต่ำต้อยแต่มันก็ทำนาหาข้าวให้คุณกิน

والله أعلم
---------

คุณ Ahmad24 นี่ก็แปลก ผมถามพวกคุณว่า เราเห็นอัลลอฮ ด้วยอะไร ด้วยตาไหม? ถ้าคุณตอบว่า yes เห็นด้วยตา แล้วก็ยกหะดิษมาอ้างอิง ก็จบ แต่นี้ กลับบอกว่า ไม่สำคัญบ้างอะไรบ้าง

เลยผมเปรียบเทียบว่า ถามอย่างหนึ่ง กลับไปตอบอีกแบบ เค้าเรียกว่า "ถามวัว แต่เอาควายมาตอบ หรือ ที่เรียกว่า "ไปใหนมาสามวาสองศอก"
ผมไม่ชอบเถียงหรอก แต่ผมไม่กลัวแม้พวกคุณจะมากันเป็นร้อยก็ตาม สิ่งที่พวกคุณตามล่าตามเช็ดในทุกเว็บคือ ตั้งกระทู้เรื่อง สิฟัตอัลลอฮ แล้วกล่าวหาว่า ผู้ที่เชื่อไม่ตรงกับพวกตนเองว่า "มีอะกีดะฮหลุ่มหลง มีอะกีดะฮที่เป็นกาเฟร แต่พอถามว่า "ข้านี่แหละ เชื่อว่า อัลลอฮ ทรงสถิตย์บนบัลลังค์" แล้วข้าเป็นกาเฟรไหม ? พวกเองก็บ่ายเบี่ยงบอกว่า "โดยมารยาทเราจะไม่ตัดสินตัวบุคคล " นี่คือ พฤติกรรมของพวกเอ็ง ที่ไร้จุดยืน พวกเองเชื่อตามอะฮลุสสุนนะฮจริงหรือ มั่นใจหรือ ที่ตามล่า ตามล้าง แล้ว เป็นไง ปิดไปกี่กระทู้แล้ว เพราะใคร?

read

บังซันครับ พี่น้องมุสลิมกัน ทั้งนั้น สงบสติอารมณ์ หน่อยนะครับ

al-um

จริงๆแล้วก็อดทนอ่านมานานพอสมควร พยายามเข้าหลายครั้งแล้วแต่ก็เข้าไม่ได้และผมว่าหลายๆคนก็พยายามเหมือนผม

น้องรีดน้องอะมัด24 และหลายๆคนมีเหตุผลและหลักการชัดเจนกว่าคนแก่ที่มีดีกีรที่เป็นครูสอนโรงเรียนวะฮาบีย์บางคนที่เอาแต่อารมณ์ ด่ากราดไม่เลือกหน้า

ทั้งที่คุณอัชชาฟีอียะพยายามเปรียบเทียบให้เห็นว่า การที่จะเห็นอัลลออ์ด้วยตาที่ใช้ในการมองมัคโลกโลกนี้นั้น มนไม่สามารถเห็นพระองค์ได้ปล่าวนั้นมัน ดูน้องๆตอบชัดเจนแล้ว แต่ด้วยความบ้าคลั่งและด้วยการเข้าใจของตนเองตามการให้ความหมายของนักปราชญ์ที่ชื่ออิบนุ กะษีร ครุเลยสรุปว่า เราสามารถเห็นพระองค์ได้ ด้วยตาเปล่าหรือตาที่ใช้ในโลกนี้ วัลอิยาซุ้บิลลา นี่หละ อะกีดะวะฮสบีย์ที่ผิดเพี้ยน แม้กระทั้ง การปลูกฝังเยาวชนเด็กๆให้เชื่อว่า อัลลออ์นั้นอยู่บนฟ้า..โดยการวาดภาพและจิตนาการให้เขาได้เห็น....มาดูท่านอิมามอบูหะนีฟะฮฺพูดไว้ว่า...

ولقاء الله تعالى لأهل الجنة بلا كيف ولا تشبيه ولا جهة حق

" และการที่อัลเลาะฮฺ(ตะอาลา)ทรงพบกับชาวพบสวรรค์ โดยไม่มีวิธีการ ไม่มีการคล้ายคลึง และไม่มีทิศนั้น เป็นสัจจะธรรม" ดู กิตาบ อัลวะซียะฮฺ ของอบูหะนีฟะฮฺ หน้า 4
......
เมื่อเป็นเช่นนี้ ความแตกต่างความเข้าใจระหว่างอุลามะในการยืนยันเรื่องการเห็นนั้นย่อมแตกต่างกัน ..

แล้วทำไมครูอะสันถึงต้องปักใจเชื่อคำอธิบายของ อินุกะษีรท่านเดียวละครับ ถึงขนาดพยายามหยัดเหยียดความเชื่อให้แก้เราชาวชาวอาชาอิเราะ.............................วะฮาบีย์ก็เชื่อตามวะฮาบีย์ไปซิครับ....แต่เราไม่เชื่อตามนั้น เราถือว่าวิธีการเห็นพระองค์นั้นมากมายแต่เห็นอย่างไรนั้น วัลลอฮุอะลัม

asan

อ้างจาก: Goddut ที่ วันนี้ เวลา 16:32

ถาม บังๆ ทุกคน เนื่องจากมีคนสอนผมว่า

หากเราอยากจะเห็น อัลลอฮฺ ในวันกิยามะ ก็ให้เราทำความดี เพราะหากเราไม่ทำความดี ก็ไม่ได้เห็นพระองค์

ดังนั้น หากบอกว่า เราจะเห็นพระองค์ ด้วยตาเท่านั้น ก็ต้องแสดงว่า คนไม่ทำความดี ในวันกิยามะตาจะบอด ?
อธิบายให้ผมฟังทีครับ ... ว่า ตกลง มันเป็นอย่างไร

ยะซากัลลอฮฺ
วัสลาม...

-----------

คุณ Goddut

คุณถามก็เป็นคำถามที่ดี แต่อย่าเอาคำตอบผมไปแอบวิจารณ์กันในเว็บ สุนนะฮสะติวเด้นอีกล่ะ ถ้าคบคนต้องดีต่อหน้าและลับหลังครับน้องบ่าว

ที่นี้มาดู อายะฮที่ว่า

وَمَن كَانَ فِي هَـذِهِ أَعْمَى فَهُوَ فِي الآخِرَةِ أَعْمَى وَأَضَلُّ سَبِيلاً

[17.72] และผู้ใดบอดในโลกนี้ดังนั้นเขาก็จะบอดในปรโลกด้วย และหลงทางอย่างไกลยิ่ง

قَالَ اِبْن عَبَّاس وَمُجَاهِد وَقَتَادَة وَابْن زَيْد " وَمَنْ كَانَ فِي هَذِهِ " أَيْ فِي الْحَيَاة الدُّنْيَا " أَعْمَى " أَيْ عَنْ حُجَّة اللَّه وَآيَاته وَبَيِّنَاته " فَهُوَ فِي الْآخِرَة أَعْمَى " أَيْ كَذَلِكَ يَكُون "

อิบนุอับบาส,มุญาฮิด,เกาะตาดะฮและอิบนุเซด กล่าวว่า " และผู้ใดในนี้ หมายถึง ในการดำชีวิตในโลกนี้ "ตาบอด" หมายถึง บอดจาก หลักฐานของพระองค์,บรรดาสัญญานต่างๆของพระองค์และ หลักฐานอันชัดแจ้งของพระองค์ " แล้วในโลกหน้า จะบอด หมายถึง จะเป็นในทำนองเดียวกัน (คือบอดทั้งในดุนยา โดยเป็นเห็นคุณค่าของคำสอนและในอาคีเราะฮก็บอด) - ตัฟสีรอิบนุกะษีร
.............

แล้วคุณต้องการจะตีความว่า "ในวันอาคีเราะฮ ไม่ใช่ตาบอด และ ไม่ได้เห็นด้วยตา อย่างนั้นหรือครับ หรือยังไม่จะชนะ ต้องดันทุรังต่อ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

MPW.SO

อ้างจาก: al-azhary ที่ 27 กุมภาพันธ์ 50 , 23:13

เราไม่ควรที่จะให้ผู้อื่นฮุกุ่มอุลามาอ์เป็นรายบุคคล นั้นไม่ใช่เป็นมารยาทและหลักเสวนาเชิงวิชาการ แต่การนำเสนอหลักการแล้วบอกว่าหลักนี้ไม่เป็นกุฟุรและหลักการนี้เป็นกุฟุรนั้น ย่อมกระทำได้

อุลามาอ์ ของวะฮาบีย์ คือ ท่าน อัลลามะฮ์ มุฮัมมัด ค่อลีล ฮัรร๊อซฺ ได้กล่าวอธิบายในหนังสือ อัตเตาฮีด ของท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ว่า

ثم تبدى الله لنا بصورة غير صورته التي رأيناه فيها أول مرة ، وقد عاد لنا في صورته التي رأيناه فيها أول مرة فيقول أنا ربكم

"หลังจากอัลเลาะฮ์ทรงปรากฏให้แก่เรา ด้วยรูปลักษณะที่ไม่ใช่รูปลักษณะของพระองค์ที่เราเคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะของพระองค์ในครั้งแรก และแท้จริงพระองค์ก็จะหวนกลับกลายให้แก่เราในรูปลักษณะเดิมของพระองค์ที่เราได้เคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะเหมือนครั้งแรก ดังนั้น พระองค์ก็กล่าวว่า เราคือผู้อภิบาลของพวกเจ้าทั้งหลาย" ดู หน้า 156 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบอัลอิลมียะฮ์ ฮ.ศ. 1403

ดังนั้น ย่อมชัดเจนแล้วว่า รูปแบบของอัลเลาะฮ์มีการเปลี่ยนแปลงตามหลักการของวะฮาบีย์ ผลลัพธ์ตามมาก็คือ บรรดาซีฟัตที่อยู่ที่ซาตของอัลเลาะฮ์ มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอะกีดะฮ์วะฮาบีย์ดังกล่าวนี้ เป็นกุฟุรครับ !! วัลลอฮุอะลัม
ผมขอกล่าวว่า ผู้ใดที่เชื่อหลักการเช่นนี้ ย่อมกุฟุรครับ ผมตอบได้เท่านี้ครับ
-------------

คุณอัซฮารีครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมออกมาทักท้วงคุณแบบตรงๆ และครั้งนี้รู้สึกว่า คำพูดของคุณข้างต้นเป็นสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดที่น่าจะกระทบต่อตัวคุณเองต่อสิ่ง
ที่คุณกำลังเชื่อและกล่าวหาอยู่ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ เพราะคำพูดของคุณข้างต้นไม่ได้เป็นเพียงการกล่าวหาผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศจุดยืนที่ปฏิเสธหะดีษนบี และกล่าวหาบุคคลที่แม้แต่คุณอัซฮารีเองยังพยายามปกป้องอย่างออกหน้าออกตา !

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ: قَالَ أُنَاسٌ: يَا رَسُولَ اللَّهِ هَلْ نَرَى رَبَّنَا يَوْمَ الْقِيَامَةِ؟، فَقَالَ: هَلْ تُضَارُّونَ فِي الشَّمْسِ لَيْسَ دُونَهَا سَحَابٌ؟، قَالُوا: لَا يَا رَسُولَ اللَّهِ، قَالَ: هَلْ تُضَارُّونَ فِي الْقَمَرِ لَيْلَةَ الْبَدْرِ لَيْسَ دُونَهُ سَحَابٌ، قَالُوا: لَا يَا رَسُولَ اللَّهِ، قَالَ: فَإِنَّكُمْ تَرَوْنَهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ كَذَلِكَ، يَجْمَعُ اللَّهُ النَّاسَ، فَيَقُولُ: مَنْ كَانَ يَعْبُدُ شَيْئًا فَلْيَتَّبِعْهُ، فَيَتْبَعُ مَنْ كَانَ يَعْبُدُ الشَّمْسَ، وَيَتْبَعُ مَنْ كَانَ يَعْبُدُ الْقَمَرَ، وَيَتْبَعُ مَنْ كَانَ يَعْبُدُ الطَّوَاغِيتَ، وَتَبْقَى هَذِهِ الْأُمَّةُ فِيهَا مُنَافِقُوهَا، فَيَأْتِيهِمْ اللَّهُ فِي غَيْرِ الصُّورَةِ الَّتِي يَعْرِفُونَ، فَيَقُولُ: أَنَا رَبُّكُمْ، فَيَقُولُونَ: نَعُوذُ بِاللَّهِ مِنْكَ، هَذَا مَكَانُنَا حَتَّى يَأْتِيَنَا رَبُّنَا فَإِذَا أَتَانَا رَبُّنَا عَرَفْنَاهُ، فَيَأْتِيهِمْ اللَّهُ فِي الصُّورَةِ الَّتِي يَعْرِفُونَ، فَيَقُولُ: أَنَا رَبُّكُمْ، فَيَقُولُونَ أَنْتَ رَبُّنَا، فَيَتْبَعُونَهُ...
(متفق عليه: صحيح البخاري، الرقم 6088، كتاب الرقاق، باب الصراط جسر جهنم، وصحيح مسلم، الرقم 267، كتاب الإيمان، باب معرفة طريق الرؤية)

อบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า

ผู้คน (บรรดาเศาะหาบะฮฺ) ได้กล่าวว่า ?โอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ พวกเราจะสามารถมองเห็นพระผู้อภิบาลของเราไหมในวันกิยามะฮฺ??

ท่านกล่าวว่า ?พวกท่านจะยื้อแย่งกันไหมใน (การมองดู) ดวงอาทิตย์ที่ไม่มีเมฆมาบดบัง??

พวกเขากล่าวว่า ?ไม่เลยโอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ?

ท่านกล่าว (ต่อไป) ว่า ?พวกท่านจะยื้อแย่งกันไหมใน (การมองดู) ดวงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญที่ไม่มีเมฆมาบดบัง??

พวกเขากล่าวว่า ?ไม่เลยโอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ?

ท่านกล่าวว่า ?แท้จริงพวกท่านจะมองเห็นพระองค์ในวันกิยามะฮฺในสภาพเช่นนั้นเหมือนกัน อัลลอฮฺจะทรงรวมมนุษย์ แล้วตรัสว่า ?ผู้ใดที่กราบไหว้สิ่งใดก็จงติดตามสิ่งนั้นไป? ดังนั้นผู้ที่กราบไหว้ดวงอาทิตย์ก็จะติดตามดวงอาทิตย์ไป และผู้ที่กราบไหว้ดวงจันทร์ก็จะติดตามดวงจันทร์ไป และผู้ที่กราบไหว้ฏอฆูตก็จะติดตามฏอฆูตไป จนเหลือแต่ประชาชาตินี้เท่านั้น ซึ่งจะมีพวกมุนาฟิกรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นอัลลอฮฺจะทรงเสด็จมายังพวกเขาในรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่ (รูปลักษณ์ที่) พวกเขารู้จัก แล้วพระองค์ก็ตรัสว่า ?ฉันคือพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า? พวกเขากล่าวว่า ?เราขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺจาก (การหลอกลวงของ) ท่าน นี่คือสถานที่ของเรา (เราจะไม่ไปไหน) จนกว่าพระผู้อภิบาลของเราจะมาหาเรา เมื่อพระผู้อภิบาลของเรามาหาเรา เราก็จะรู้จักพระองค์? ดังนั้นอัลลอฮฺจึงเสด็จไปหาพวกเขาในรูปลักษณ์ที่พวกเขารู้จัก แล้วตรัสว่า ?ฉันคือพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า? ดังนั้นพวกเขาก็จะกล่าวว่า ?พระองค์คือพระผู้อภิบาลของพวกเรา? แล้วพวกเขาก็ติดตามพระองค์ไป...?
(หะดีษมุตตะฟักอะลัยฮฺ, เศาะหีหฺอัลบุคอรีย์, เลขที่ 6088, เศาะหีหฺมุสลิม, เลขที่ 267)

อิบนุหะญัรกล่าวอธิบายในฟัตหุลบารีย์ภายใต้หะดีษข้างต้นว่า ?ในหะดีษของอบูสะอีดที่จะถึงในเรื่อง อัตเตาหีด (ระบุว่า)

" فِي صُورَةٍ غَيْر صُورَتِهِ الَّتِي رَأَوْهُ فِيهَا أَوَّل مَرَّة "

แปลว่า ?ในรูปร่างที่ไม่ใช่ รูปลักษณ์ของพระองค์ที่พวกเขาเคยเห็นเมื่อครั้งแรก?

และในรายงานของฮิชาม บิน สะอัด (ระบุว่า)

" ثُمَّ يَتَبَدَّى لَنَا اللَّهُ فِي صُورَةٍ غَيْرِ صُورَتِهِ الَّتِي رَأَيْنَاهُ فِيهَا أَوَّل مَرَّة "

แปลว่า ?หลังจากอัลเลาะฮฺจะทรงปรากฏให้แก่เราในรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่รูปลักษณ์ของพระองค์ที่เราเคยเห็นพระองค์ในครั้งแรก?

คุณอัซฮารีครับ ถ้าหากว่าสิ่งที่เชคฮัรรอสได้นำเสนอมานั้น (ซึ่งเป็นท่อนหนึ่งของหะดีษมุตตะฟักอะลัยฮฺ) เป็นความเชื่อที่กูฟุร แล้วบรรดาเศาะหาบะฮฺที่ชุมนุมอยู่ตามหะดีษข้างต้น อย่างเช่นอบูฮุร็อยเราะฮฺและท่านอื่นๆที่เชื่อตามที่นบีบอกจะเป็นอย่างที่คุณกล่าวหาด้วยหรือเปล่า แล้วคนที่เล่าเรื่องดังกล่าวหละ (หมายถึงท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) จะเป็นอย่างไรในทัศนะของคุณ ?

ปล. ผมไม่อยากได้คำตอบหรือคำแก้ตัวจากคุณอัซฮารี แต่ที่ผมถามแบบนี้เพียงอยากให้พวกเราทุกคนได้ตระหนักและนำไปคิด ว่าเรื่องละเอียดอ่อนที่เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮฺไม่ใช่ของเล่นที่ใครๆจะเอามาพูดวิจารณ์กันอย่างสนุกปากโดยปรากจากการศึกษาอย่างรอบคอบ

ผมหวังว่ากระทู้นี้น่าจะจบเพียงแค่นี้ พอเถอะครับ มันไม่สนุกเลยที่เราจะนำคุณลักษณะของอัลลอฮฺมาวิจารณ์เล่น ถ้าไม่รู้จริงต้องขอมาอัฟด้วยถ้าหากคำพูดของผมมันรุนแรงไป แต่ผมคิดว่านี่คือคำอธิบายที่ดีที่สุดแล้วสำหรับพวกเราในตอนนี้

MPW.SO

ดูคำอธิบายเกี่ยวกับการมองเห็นอัลลอฮฺ และการแปลงรูปลักษณ์ในวันอาคีเราะฮฺตามทัศนะของอุละมาอฺอะชาอิเราะฮฺ อาทิ อัลค้อตฏอบีย์ อิมามอันนะวะ ในชัรหฺเศาะหีหฺมุสลิมตรงหะดีษที่อ้างมาข้างต้น เช่นเดียวกับทัศนะของอิบนุหะญัรใน ฟัตหุลบารีย์ ว่าเขาเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่นำเอาความคิดทื่อๆของเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างพวกเรามาเป็นเกณท์ตัดสิน ولا حول ولا قوة إلا بالله

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary

อ้างจาก: MPW.SO ที่ วันนี้ เวลา 17:41
ดูคำอธิบายเกี่ยวกับการมองเห็นอัลลอฮฺ และการแปลงรูปลักษณ์ในวันอาคีเราะฮฺตามทัศนะของอุละมาอฺอะชาอิเราะฮฺ อาทิ อัลค้อตฏอบีย์ อิมามอันนะวะ ในชัรหฺเศาะหีหฺมุสลิมตรงหะดีษที่อ้างมาข้างต้น เช่นเดียวกับทัศนะของอิบนุหะญัรใน ฟัตหุลบารีย์ ว่าเขาเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่นำเอาความคิดทื่อๆของเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างพวกเรามาเป็นเกณท์ตัดสิน ولا حول ولا قوة إلا بالله
-----------

คุณ MPW.SO ครับ กรุณาอย่าปกป้องความกุฟุรของ ชัยค์ อัลฮัรร๊อซแบบงมงายตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่คุณพยายามปกป้องซิครับ การเห็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่หมายความว่า "คุณลักษณะของอัลเลาะฮ์เปลี่ยนแปลง" !!

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:48 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Goddut

อ้างจาก: asan ที่ วันนี้ เวลา 17:18
ที่นี้มาดู อายะฮที่ว่า
وَمَن كَانَ فِي هَـذِهِ أَعْمَى فَهُوَ فِي الآخِرَةِ أَعْمَى وَأَضَلُّ سَبِيلاً
[17.72] และผู้ใดบอดในโลกนี้ดังนั้นเขาก็จะบอดในปรโลกด้วย และหลงทางอย่างไกลยิ่ง

قَالَ اِبْن عَبَّاس وَمُجَاهِد وَقَتَادَة وَابْن زَيْد " وَمَنْ كَانَ فِي هَذِهِ " أَيْ فِي الْحَيَاة الدُّنْيَا " أَعْمَى " أَيْ عَنْ حُجَّة اللَّه وَآيَاته وَبَيِّنَاته " فَهُوَ فِي الْآخِرَة أَعْمَى " أَيْ كَذَلِكَ يَكُون "

อิบนุอับบาส,มุญาฮิด,เกาะตาดะฮและอิบนุเซด กล่าวว่า " และผู้ใดในนี้ หมายถึง ในการดำชีวิตในโลกนี้ "ตาบอด" หมายถึง บอดจาก หลักฐานของพระองค์,บรรดาสัญญานต่างๆของพระองค์และ หลักฐานอันชัดแจ้งของพระองค์ " แล้วในโลกหน้า จะบอด หมายถึง จะเป็นในทำนองเดียวกัน (คือบอดทั้งในดุนยา โดยเป็นเห็นคุณค่าของคำสอนและในอาคีเราะฮก็บอด) - ตัฟสีรอิบนุกะษีร
-----------

ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายถึง เป็นคนตาบอดจริงๆ ( คือคนที่ต้องใช้ไม้เท้า หรือสุนัขนำทาง )
ดังนั้นหากกล่าวว่า บอดในวันกิยามะ ไม่ใช่ที่อวัยวะที่ตาบอดแล้ว ก็ต้องหมายถึง การบอด เนื่องจากเขานั้นไม่ได้รับรู้ จากสัญญาณของพระองค์
แล้วการที่เราจะเห็นพระองค์ได้ในวันกิยามะนั้น ก็ต้องหมายถึง การไม่บอด เนื่องจากเขานั้นได้รับรู้ จากสัญญาณของพระองค์

สรุปแล้ว ผู้ที่มองเห็นหรือไม่เห็นพระองค์ในวันกิยามะนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับพระองค์ ไม่เกี่ยวกับอวัยวะตา ว่ามีดวงตา หรือไม่มีดวงตา

กล่าวเช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ ?

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

Goddut

ผมขอทำความเข้าใจฮะดีส ที่ยกมานะครับ พี่น้องช่วยตรวจสอบด้วย

ในความหมายของการเห็นดวงอาทิตย์ที่ไม่มีเมฆ และไม่ต้องยื้อแย่งกัน

หมายถึง

เมื่อเรายืนมองดูดวงอาทิตย์ ใครๆ ก็มองดวงอาทิตย์

มันไม่ได้หมายถึงว่า หากเรามองดวงอาทิตย์แล้ว คนอื่นจะมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ ทำให้เข้าใจได้ว่า มันไม่จำเป็นต้องแย่งกันดูดวงอาทิตย์เลย
วัลลอฮฺอะลัม

ในความหมายลักษณะของพระเจ้า(ต่าง)ที่เรารู้

หมายถึง

อันเป็นลักษณะ ที่มนุษย์ ทุกคนบูชา หรือได้ศรัทธาเมื่อเขามีชีวิตอยู่ เมื่อพระเจ้าของเขาเป็นดวงอาทิตย์ เขาจะเข้าใจว่านั่นคือพระเจ้าของเขา
คุณลักษณะเช่นใดนั้น ในวันนั้น มนุษย์ ทุกคนจะเข้าใจได้เนื่องด้วยจากตัวเขาเอง จากความศรัทธาของเขาเอง
ไม่กำหนดว่า สิ่งที่แสดงนั้นมีลักษณะเช่นไร แต่ตัวกำหนดคือศรัทธาของเราที่จะเข้าใจว่า พระเจ้าของเรามีลักษณะเช่นไร
และนั่นคือ ลักษณะที่เรารู้...

วัลลอฮฺอะลัม

ขอพระองค์ทรงโปรดประทานทางนำแด่ข้าพระองค์ และพี่น้องทั้งหลายของข้าพระองค์ด้วยเถิด อามีน

วัสลาม...

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary

ท่านอัล-ฮัรร๊อซได้กล่าวอธิบายไว้ในหนังสือ อันนูนียะฮ์ ของท่านอิบนุ อัลก๊อยยิมความว่า

قالَ مجاهدٌ: إن اللهَ يُجْلِسُ رسولَهُ معهُ على العرشِ

"ท่านมุญาฮิดกล่าวว่า แท้จริง อัลเลาะฮ์ทรงให้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์นั่งพร้อมกับพระองค์บนอารัช"

เขาได้กล่าวไว้ในหน้าที่ 774 เช่นกันว่า

فرفعوا رؤوسهم فإذا الجبار قد أشرف عليهم من فوقهم

"ดังนั้น พวกเขายังยกศีรษะ(เงยหน้า)ขึ้นไป ทันใดนั้นอัลเลาะฮ์ก็ทรงดูพวกเขาจากเบื้องบนของพวกเขา"

อุลามาอ์ ของวะฮาบีย์ คือ ท่าน อัลลามะฮ์ มุฮัมมัด ค่อลีล ฮัรร๊อซฺ ได้กล่าวอธิบายในหนังสือ อัตเตาฮีด ของท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ว่า

ثم تبدى الله لنا بصورة غير صورته التي رأيناه فيها أول مرة ، وقد عاد لنا في صورته التي رأيناه فيها أول مرة فيقول أنا ربكم

"หลังจากอัลเลาะฮ์ทรงปรากฏให้แก่เรา ด้วยรูปลักษณะที่ไม่ใช่รูปลักษณะของพระองค์ที่เราเคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะของพระองค์ในครั้งแรก และแท้จริงพระองค์ก็จะหวนกลับกลายให้แก่เราในรูปลักษณะเดิมของพระองค์ที่เราได้เคยเห็นพระองค์ในรูปลักษณะเหมือนครั้งแรก ดังนั้น พระองค์ก็กล่าวว่า เราคือผู้อภิบาลของพวกเจ้าทั้งหลาย" ดู หน้า 156 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบอัลอิลมียะฮ์ ฮ.ศ. 1403

คุณ MPW.SO ใครที่อธิบายอย่างนี้บ้างครับ

وقد عاد لنا في صورته

"แท้จริงพระองค์ก็จะหวนกลับกลายให้แก่เราในรูปลักษณะเดิมของพระองค์ที่เราได้เคยเห็นพระองค์"

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:50 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

MPW.SO

อ้างจาก: al-azhary ที่ วันนี้ เวลา 17:56
คุณ MPW.SO ครับ กรุณาอย่าปกป้องความกุฟุรของ ชัยค์ อัลฮัรร๊อซแบบงมงายตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่คุณพยายามปกป้องซิครับ การเห็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่หมายความว่า "คุณลักษณะของอัลเลาะฮ์เปลี่ยนแปลง" !!

--------

สลามถึงคุณอัซฮารี

เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปของอัลลอฮฺและกลับคืนร่างใหม่ อยากให้คุณช่วยเปิดชัรหฺเศาะหีหมุสลิมของอิมามอันนะวะวี และฟัตหุลบารีของอิบนุหะญัรดูให้ทั่วก่อนที่คุณจะตัดสินว่าใครคนไหนเป็นกุฟูร

เพราะที่เชคเขานำเอามานั้น เป็นท่อนหนึ่งของหะดีษ และแม้แต่อุละมาอฺอะชาอิเราะเองก็ยังมีทัศนะที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความหมายของ ซูเราะฮฺดังกล่าว
ผมขอพูดแค่นี้แหละ วัลลอฮุอะอฺลัม

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:51 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

asan

อ้างจาก: Goddut ที่ วันนี้ เวลา 17:56
ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายถึง เป็นคนตาบอดจริงๆ ( คือคนที่ต้องใช้ไม้เท้า หรือสุนัขนำทาง )
ดังนั้นหากกล่าวว่า บอดในวันกิยามะ ไม่ใช่ที่อวัยวะที่ตาบอดแล้ว ก็ต้องหมายถึง การบอด เนื่องจากเขานั้นไม่ได้รับรู้ จากสัญญาณของพระองค์
แล้วการที่เราจะเห็นพระองค์ได้ในวันกิยามะนั้น ก็ต้องหมายถึง การไม่บอด เนื่องจากเขานั้นได้รับรู้ จากสัญญาณของพระองค์

สรุปแล้ว ผู้ที่มองเห็นหรือไม่เห็นพระองค์ในวันกิยามะนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับพระองค์ ไม่เกี่ยวกับอวัยวะตา ว่ามีดวงตา หรือไม่มีดวงตา

กล่าวเช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ ?

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
------------

หมายความว่า "คุณยังงมโข่งอยู่อีกหรือครับ อย่ามาเล่นสำนวนซิครับ คำว่า "

สรุปแล้ว ผู้ที่มองเห็นหรือไม่เห็นพระองค์ในวันกิยามะนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับพระองค์ ไม่เกี่ยวกับอวัยวะตา ว่ามีดวงตา หรือไม่มีดวงตา[

ข้างต้นคุณยังเอาความเห็นมาสรุป ทั้งที่ เรื่อง การเห็นอัลลอฮ มีหะดิษชัดเจนอยู่แล้ว ขอโพสต์ซ้ำคำอธิบายของอิบนิกะษีรอีกครั้ง


ท่านอิบนุกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

إِلَىٰ رَبِّهَا نَاظِرَةٌ } أي: تراه عياناً؛ كما رواه البخاري رحمه الله تعالى في صحيحه: " إنكم سترون ربكم عياناً " وقد ثبتت رؤية المؤمنين لله عز وجل في الدار الآخرة في الأحاديث الصحاح من طرق متواترة عند أئمة الحديث، لا يمكن دفعها ولا منعها؛ لحديث أبي سعيد وأبي هريرة، وهما في الصحيحين أنَّ ناساً قالوا: يا رسول الله هل نرى ربنا يوم القيامة؟ فقال " هل تضارون في رؤية الشمس والقمر ليس دونهما سحاب؟ " قالوا لا، قال " فإنكم ترون ربكم كذلك ". وفي الصحيحين عن جرير قال نظر رسول الله صلى الله عليه وسلم إلى القمر ليلة البدر فقال: " إنكم ترون ربكم كما ترون هذا القمر

คำตรัสที่ว่า (จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน) หมายถึง มันเห็นพระองค์ ด้วยต่าเปล่า ดังสิ่งที่อัลบุคอรี(ขออัลลอฮ ตะอาลาเมตตาต่อท่าน)ได้รายงานมันในเศาะเฮียะของท่านว่า ? แท้จริง พวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านด้วยตาเปล่า? และความจริง ได้มีการยืนยันถึง การที่บรรดาผู้ศรัทธา จะได้เห็นอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงเลิศยิ่งใน โลกอาคิเราะฮ (โลกหน้า) ระบุในบรรดาหะดิษ ที่เศาะเฮียะ จากหลายสายรายงาน หลายกระแสต่อเนื่องกันมา ในทัศนะของบรรดาอิหม่ามทางด้านหะดิษ ที่ไม่อาจจะคัดค้านและปฏิเสธได้เลย เพราะมีหะดิษอบูสะอีด และอบูฮุรัยเราะฮ โดยที่ทั้งสองหะดิษนั้นอยู่ใน เศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม ระบุว่า ? แท้จริงบรรดาผู้คน กล่าวถามว่า ?โอ้ท่านรซูลุ้ลลอฮ พวกเราจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของเราในวันกิยามะฮไหม? แล้วท่านรซูลุ้ลลอฮ กล่าวว่า ?พวกท่าน มีความยากลำบากไหม ในการเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โดยที่ ไม่มีเมฆมาบัง ? พวกเขากล่าวตอบว่า ?ไม่? ท่านรซูลุ้ลลอฮ กล่าวว่า ?พวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านอย่างนั้น ? และปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม จากท่านญะรีร กล่าวว่า ?ท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้มอง ดวงจันทร์ ในคืนจันทร์เพ็ญ แล้วกล่าวว่า ? แท้จริงพวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ดังที่พวกท่าน เห็นดวงจันทร์นี้ - ดู ตัฟสีรอิบนิกะษีร อรรถาธิบาย อายะฮที่ 22 ซูเราะฮอัลกิยามะฮ

ท่านอิหม่ามมาลิก (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

الناس ينظرون إلى الله عز وجل يوم القيامة بأعينهم

มนุษย์นั้น พวกเขามองไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง ในวันกิยามะฮ ด้วยบรรดาดวงตาของพวกเขา

(الشريعة للآجري ص254 الللالكائي في شرح أصول السنة3/501 سير الأعلام للذهبي8/102 وأبو نعيم في الحلية6/326

....................

มีหะดิษยืนยัน แต่คุณกลับพยายามลากอายะฮอื่นมาโยง มันได้อะไรขึ้นมาหรือครับ ถ้าคุณเอาชนะคำสอนของท่านนบี
ด้วยเหตุผลของคุณ

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary

สลามถึงคุณอัซฮารี
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปของอัลลอฮฺและกลับคืนร่างใหม่ อยากให้คุณช่วยเปิดชัรหฺเศาะหีหมุสลิมของอิมามอันนะวะวี และฟัตหุลบารีของอิบนุหะญัรดูให้ทั่วก่อนที่คุณจะตัดสินว่าใครคนไหนเป็นกุฟูร
เพราะที่เชคเขานำเอามานั้น เป็นท่อนหนึ่งของหะดีษ และแม้แต่อุละมาอฺอะชาอิเราะเองก็ยังมีทัศนะที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความหมายของ ซูเราะฮฺดังกล่าว
ผมขอพูดแค่นี้แหละ วัลลอฮุอะอฺลัม
-----------

وعليكم السلام ورحمة الله

คุณเชื่อว่า มีการเปลี่ยนแปลงรูปของอัลเลาะฮ์ แบบนี้เราขออัลอิชาอิเราะฮ์ของปฏิเสธ แต่ในบทของอัลหะดิษนั้น เราเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรง تجلى (ตะญัลลีย์) ให้เราเห็น แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณลักษณะของอัลเลาะฮ์มีการเปลี่ยนแปลง

asan

น้องบ่าว al-azhary ครับ ถ้าคิดชนะเอาชนะลูกเดียว แม้ตัวเองจะฉิบหายก็เชิญครับ ใครบ้างครับที่เป็นกาเฟรอีก วะฮบีย์คนใหนอีกครับ

al-azhary

บังอะสันครับ การปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ มันเป็นการเอาชนะหรือครับ? เราจะยอมวิบัติด้วยความเชื่อที่ว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีคุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลงหรือครับ? แล้วบังอะสันจะปกป้องมันไปถึงใหน?

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:54 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary

อ้างจาก: MPW.SO ที่ วันนี้ เวลา 17:41
ดูคำอธิบายเกี่ยวกับการมองเห็นอัลลอฮฺ และการแปลงรูปลักษณ์ในวันอาคีเราะฮฺตามทัศนะของอุละมาอฺอะชาอิเราะฮฺ อาทิ อัลค้อตฏอบีย์ อิมามอันนะวะ ในชัรหฺเศาะหีหฺมุสลิมตรงหะดีษที่อ้างมาข้างต้น เช่นเดียวกับทัศนะของอิบนุหะญัรใน ฟัตหุลบารีย์ ว่าเขาเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่นำเอาความคิดทื่อๆของเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างพวกเรามาเป็นเกณท์ตัดสิน ولا حول ولا قوة إلا بالله
-------------

แล้วอิมามท่านใหนบ้างล่ะครับ ที่บอกว่า "รูปลักษณ์ของอัลเลาะฮ์มีการเปลี่ยนแปลง" และคุณเองก็เข้าใจว่า อัลเลาะฮ์มีคุณลักษณะหรือรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลง หะดิษระบุไว้ตามที่คุณเข้าใจอย่างนั้นหรือ? ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ท่านอิมามอิบนุหะญัร เชื่อว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงกระนั้นหรือ? แต่ผมเชื่อว่า อะกีดะอ์วะฮาบีย์ต่างหากที่เชื่อว่า รูปลักษณะหรือคุณลักษะของอัลเลาะฮ์มีการแปลงรูปลักษณะของพระองค์

ตามที่ผมได้เคยบอกหลายครั้งต่อหลายครั้งแล้วว่า อัล-อะชาอิเราะฮ์มีอยู่ 2 แนวทาง ดังนั้น การอธิบายหะดิษดังกล่าวตามทัศนะของอัลอะชาอิเราะฮ์นั้นมีดังนี้

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวอธิบายว่า

اعلم أن لأهل العلم في أحاديث الصفات وآيات الصفات قولين

"ท่านจงรู้เถิดว่า แท้จริงให้กับนักปราชญ์ เกี่ยวกับบรรดาหะดิษซิฟาตและบรรดาอายาตซีฟาตนั้น มี 2 ทัศนะ" คือ

أحدهما : وهو مذهب معظم السلف أو كلهم أنه لا يتكلم في معناها , بل يقولون : يجب علينا أن نؤمن بها ونعتقد لها معنى يليق بجلال الله تعالى وعظمته مع اعتقادنا الجازم أن الله تعالى ليس كمثله شيء وأنه منزه عن التجسم والانتقال والتحيز في جهة وعن سائر صفات المخلوق , وهذا القول هو مذهب جماعة من المتكلمين , واختاره جماعة من محققيهم وهو أسلم

ทัศนะที่หนึ่ง คือมัซฮับส่วนมากของสะลัฟหรือทั้งหมด กล่าวคือ จะไม่มีการพูดกันในความหมายของมัน แต่พวกเขากล่าวว่า จำเป็นบนเราต้องศรัทธาเชื่อด้วยกับมัน(บรรดาอายะฮ์และหะดิษซีฟาต) และเราเชื่อมันกับความหมายที่เหมาะสมกับความเกรียงไกรและความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา พร้อมกับให้เราเชื่อมั่นว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ ตะอาลา "ไม่มีผู้ใดที่มาคล้ายเหมือนกับพระองค์" และพระองค์ทรงปราศจากการเป็นร่างกาย(ตัวตน) ปราศจากการเคลื่อนไหว ปรากจากการอยู่ในทิศใดทิศหนึ่ง และปราศจากการเหมือนบรรดาคุณลักษณะอื่น ๆ ของบรรดามัคโลค และนี้คือทัศนะคำกล่าวของมัซฮับกลุ่มหนึ่งจากอุลามาอ์กะลาม และกลุ่มหนึ่งจากอุลามาอ์กะลามที่ทรงความรู้อันแน่นแฟ้นได้เลือกเฟ้น และมันคือทัศนะที่ปลอดภัยกว่า"

والقول الثاني : وهو مذهب معظم المتكلمين أنها تتأول على ما يليق بها على حسب مواقعها , وإنما يسوغ تأويلها لمن كان من أهله بأن يكون عارفا بلسان العرب وقواعد الأصول والفروع , ذا رياضة في العلم

ทัศนะที่สอง คือมัซฮับส่วนมากของอุลามาอ์มากะลาม กล่าวคือ บรรดาอายะอ์และหะดิษจะถูกตีความ(ตะวีล)บนคุณลักษณะที่เหมาะสมตามแต่สถานที่ของมัน และแท้จริง อนุญาตให้ทำการตีความมันได้ สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเท่านั้น โดยเขาต้องมีความรู้ภาษาอาหรับและกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ของหลักพื้นฐานและข้อปลีกย่อย อีกทั้งต้องมีความชำนาญปราดเปรื่องในวิชาความรู้"

ท่านอิมามอันนะวาวี กล่าวอธิบายว่า

وأما قوله صلى الله عليه وسلم : ( فيأتيهم الله في صورته التي يعرفون ) فالمراد بالصورة هنا الصفة , ومعناه : فيتجلى الله سبحانه وتعالى لهم على الصفة التي يعلمونها ويعرفونه بها , وإنما عرفوه بصفته وإن لم تكن تقدمت لهم رؤية له سبحانه وتعالى لأنهم يرونه لا يشبه شيئا من مخلوقاته , وقد علموا أنه لا يشبه شيئا من مخلوقاته , فيعلمون أنه ربهم فيقولون : أنت ربنا , وإنما عبر بالصورة عن الصفة لمشابهتها إياها ولمجانسة الكلام فإنه تقدم ذكر الصورة

"สำหรับคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ดังนั้นอัลเลาะฮ์ทรงมาที่พวกเขาในรูปลักษณ์ของพระองค์ที่พวกเขารู้จัก) จุดมุ่งหมาย คำว่ารูปลักษณ์ หมายถึง ซีฟัต(คุณลักษณะ) ซึ่งหมายความว่า อัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮูตะอาลา ทรงตะญัลลี (สำแดง) ให้กับพวกเขา(เห็น)ตามคุณลักษณะที่พวกเขารู้ได้และรู้จักได้ และพวกเขาก็เคยรู้จักพระองค์ด้วยคุณลักษณะ(ซีฟัต)ของพระองค์แล้ว ถึงหากแม้นว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นพระองค์มาก่อน เนื่องจากพวกเขาจะได้เห็นพระองค์โดยไม่คล้ายคลึงกับสิ่งใดจากบรรดามัคโลคเลย โดยที่แท้จริงพวกเขาก็รู้แล้วว่า พระองค์ไม่ทรงคล้ายคลึงกับสิ่งใดจากบรรดามัคโลคของพระองค์ ดังนั้น พวกเขาจึงรู้ว่า แท้จริงพระองค์คือผู้อภิบาลของพวกเขา แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า พระองค์ท่านคือพระผู้อภิบาลแห่งเรา" ดู หนังสือ ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม ของอิมามอันนะวาวีย์ เล่ม 2 หน้า 29

แล้วใหนครับ คุณ MPW.SO ที่นักปราชญ์อิสลามเข้าใจว่า อัลเลาะฮ์ทรงเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ รูปลักษณ์ของพระองค์ ! ดังนั้น อัลอะชาอิเราะฮ์มีจุดยืนตามที่อิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวอธิบายไว้ข้างต้นครับ

วัลลอฮุอะลัม

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Tue Apr 24, 2012 10:55 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

al-azhary

อ้างจาก: al-azhary ที่ วันนี้ เวลา 17:56
คุณ MPW.SO ครับ กรุณาอย่าปกป้องความกุฟุรของ ชัยค์ อัลฮัรร๊อซแบบงมงายตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่คุณพยายามปกป้องซิครับ การเห็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่หมายความว่า "คุณลักษณะของอัลเลาะฮ์เปลี่ยนแปลง" !!
------------

ผมขอถอนคำพูดที่ว่า "ปกป้องความกุฟุรของชัยค์ อัลฮัรร๊อซ" ไปเป็น "ปกป้องหลักการอันกุฟุกรของ ชัยค์ อัลฮัรร๊อซ" ครับ ผมไม่ตั้งใจจะพาดพิงฮุกุ่มถึงบุคคล แต่ผมต้องการพาดพิงเพียงแค่หลักการเท่านั้น เพราะบางครั้งท่านอัลฮัรร๊อซ อาจจะเตาบะฮ์จากหลักการนั้นก่อนเสียชีวิตก็เป็นได้ อินชาอัลเลาะฮ์


http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,300.0.html

การเสวนาตอนแรก อะชาอีเราะฮ กล่าวหาเช็ค อัรรอ็ซ ว่าเป็นกุฟุร แต่มาตอนจบ เมื่อเจอทางตัน ในตัวหนังสือสีแดง ก็ถอนคำพูด

_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> หลักความเชื่อ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.09 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ