ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 12:33 am ชื่อกระทู้: |
|
|
asan บันทึก: | kolis_mala บันทึก: |
บัง asan บอกว่า
ท่านนบี เคยทำขณะดุอาที่กุบูรบาเกียะ- ดู ชัรหุมุสลิม เล่ม ๒ หน้า ๖๗๐ กิตาบุลญะนาอิซ
ผมถามบังว่า แล้ว หะดีษบทนี้เป็น العام หรือ الخاص
แล้ว อีหม่าม อัลนาวาวีย์ อธิบายว่าอย่างไร ท่าน อธิบายหรือว่า ดุอา เยี่ยม กุโบร มันคืออันเดี่ยว
กันกับ ดุอาตัสบีต
งั้นบังช่วย ตอบผมหน่อย ว่า คำว่า زار القبور แปลว่า อะไร
และคำว่า تثبيت แปลว่าอะไร
ผมไม่ได้ต้องการหักหน้าหรือ ทำให้บัง เสือมเสีย แต่ผม อยากให้ ความถูกต้องนำหน้า ทุกสิ่ง
ถ้าทำให้ไม่พอใจ มะอัฟ ด้วย
______________________________________________________________
จะยืนหยัด บนความถูกต้อง ان شاء الله |
|
ผมไม่เคยแต่จะคิดเรื่องเสียหน้า เพราะผมไม่ได้หากินทางด้านนี้ ที่เข้ามาตอบ ก็ตอบไปตามความรู้ที่อัลลอฮให้นิดหน่อย เพื่อให้ตนเองได้มีส่วนร่วมในการทำงานศาสนาบ้าง
คำว่า เยี่ยมกุบูร มันเป็นคำถามที่ชาวบ้านธรรมดา เขาคงตอบได้ แต่เจตนารมณ์หรือสาระของมันอาจจะมีคนไม่เข้าใจ
จุดประสงค์ในการเยี่ยมกุบูร ตามที่รู้มาแบบงูๆปลาๆคือ
๑. เพื่อให้ระลึกถึงความตาย
๒. เพื่อดุอาให้แก่ชาวกุบูร
ส่วนที่ถามว่า "ตัษบีต" คืออะไร ก็ขอตอบแบบคนรู้งูๆปลาๆดังนี่
๑. ตัษบีตในที่นี้ คือ เพื่อให้มัยยิตได้มีความมั่นคงในกะลิมะฮชะฮาดะฮ สามารถตอบคำถามมลาอิกะฮได้
๒. ชื่อดุอาตัษบีต ใครตั้งชือล่ะ นบี ตั้งชื่อหรือเปล่า เพราะในหะดิษ มีคำว่า استغفروا จงขออภัยโทษ แล้วถ้าเรียกว่า ดุอาอิสติฆฟัร ได้ไหม หรือ เป็นบิดอะฮ อันนี้ น้องบ่าวเราต้องตอบแน่
๓لآ ดุอาเยี่ยมกุบูร ก็คือดุอา และอ่านที่กุบูร
๔لآ และดุอาที่เรียกว่าดุอาตัษบีต ก็คือดุอา และอ่านที่กุบูร
๕ ปรากฏหลักฐานว่า นบี เคยยกมือดุอาที่กุบูร เพราะฉะนั้น การยกมือดุอาใดๆก็ตามที่ขอให้มัยยิต เวลาอยู่ที่กุบูร ย่อมกระทำได้ นี้คือข้อสรุป ที่เป็นคำตอบออกมา
ท่านบินบาซเอง ก็มีคนถามแบบกว้างๆว่ายกมือดุอาที่กุบูรได้ไหม
هل يكون الدعاء عند قبر الميت برفع اليدين؟
ท่านก็ตอบและอ้างหลักฐานว่า
إن رفع يديه فلا بأس، لما ثبت عن النبي في حديث عائشة رضي الله عنها: أنه زار القبور ورفع يديه ودعا لأهلها. (رواه مسلم).
ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องอธิบายว่าไม่เห็นด้วยอย่างไร ผู้อ่านก็จะได้ความรู้และตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร
การโต้ตอบเรื่องศาสนาโดยใช้อารมณ์มันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันได มิหนำซ้ำ มันอาจจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อวงการได้ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:03 am ชื่อกระทู้: |
|
|
บังถ้าโกรธ ขอมาอัฟด้วย
บังผมไม่ได้ต้องการจะตอบโต้บังว่า บังผิด ผมอยากนำเสนอ วิชาการว่า
ท่านนบียกมือหรือไม่ ใน ดุอาตัสบีต เพราะผม ค้นมาแล้วว่า ดุอามีอยู่ 2 แบบ แบบยกมือกลับไม่ยก ส่วนการยกมันมีทั้งที่เป็น เฉพาะท่านนบี เช่น นบี ผ่านไปเจอ กุโบรอยู่ 2 หลุ่ม ท่านก็หยิบก้านอินทผาลัม มาแล้ว ฉีกเป็น 2 ซีก แล้ว ขอดุอาให้ การลงโทษดังกล่าวผ่อนเบา
ถ้าผม ไม่ถูกบังชี้แจ้งได้คับ ผมคิดเสมอว่าบังคือพี่ชาย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:06 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | ท่านบินบาซเอง ก็มีคนถามแบบกว้างๆว่ายกมือดุอาที่กุบูรได้ไหม
هل يكون الدعاء عند قبر الميت برفع اليدين؟
ท่านก็ตอบและอ้างหลักฐานว่า
إن رفع يديه فلا بأس، لما ثبت عن النبي في حديث عائشة رضي الله عنها: أنه زار القبور ورفع يديه ودعا لأهلها. (رواه مسلم |
ส่วนฟัตวานี้ เชคท่านพูดไว้โดยบอกในท้ายว่า คือการเยี่ยมเยียนกุโบร
บังชี้แนะด้วย ผมผิดผมยอมรับคับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:17 am ชื่อกระทู้: |
|
|
หะดิษที่บันทึกโดยอีหม่ามติรมีซียและอบูดาวูดเล่าโดยท่านซันมานอัลฟารีซียตามที่อิบนุฮะญัรได้นำมาลงเอาไว้ใน ฟัตรุลบารีย์ เล่มที่ 11 แผ่นที่ 143 บทที่ว่าด้วยการยกมือดุอา ท่านนบีกล่าวว่า พระองค์อัลลอฮทรงดำรงไว้ซึ่งชีวิต และทรงเพื่อแผ่ ต่อมนุษย์ พระองค์ทรงละอายต่อบ่าวของพระองค์ที่เขายกมือทั้งสองไปสู่พระองค์โดยมิได้ตอบรับคำขอโดยไห้มือทั้งสองของบ่าวกลับมาโดยว่างเปล่า
إن الله حي كريم يتحي من عبده إدا رفع يده إليه أن يردهما صفرا
หะดีษบทนี้เรียกว่า عام แล้วหะดีษที่เป็น خاص อยู่ที่ไหน งั้นผมขอนำเสนอดังนี้
1.หะดีษของอับดุลลอฮมาน บินสะมุเราะห์ ปรากฎว่าท่านนบีได้ยกมือทั้ง 2 ในละหมาด อัลกุซูฟ
2.หะดีษของท่านหญิงอาอิชะห์ ที่บอกว่านบียกมือทั้ง 2 ข้างของท่านในละหมาดกุซูฟเช่นเดี่ยวกัน
3.หะดีษของท่าน الطقيل الدوي ได้มาฟ้องท่านนบี ท่านนบีจึงยกมือทั้ง 2 ขอดุอา ให้อัลลอฮนำทางพวกพ้องของท่าน (รายงานโดย บุคคอลี ใน อาหรับ มุฟรอด) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:28 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ต่อจากด้านบน
4.ได้มีหะดีษที่ศอเฮียห์ว่าท่านนบีได้ยกมือขอดุอาให้กับท่านอบูอามิร (บันทึกโดย บุคคอลี หะดีษเลขที่ 4323)
5.หะดีษของท่านหญิงอาอิชะห์ ว่าท่านนบี ได้ยกมือทั้ง 2 ของท่านให้ชาว บะเกี่ยร์ โดยยกมือสองข้างยก3ครั้ง (บันทึกโดยมุสลิม 974)
บัง asan ที่ผมนำเสนอมานี้ คือสิ่งที่เป็น خاص นะคับ
5.หะดีษของท่านหญิงอาอิชะห์ ว่า ท่านนบีเคยยกมือทั้งสองข้างของท่านพร้อมกับกล่าวว่า อุมมะตีย์ อุมมะตีย์ (บันทึกโดยอีหม่าม มุสลิม 202)
6.หะดีษของท่าน ก็อซ บิน สะอัด รอดิยัลลอฮุอันฮุมา ว่าท่านนบี ได้ยกมือทั้ง 2 ของท่านให้กับ
ตะกูลของท่านซะอ์ บินอุบาดะห์(บันทึกโดยอบูดาวุด 5185) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:42 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ต่อจากด้านบน
7. ท่านนบีเคยแต่ตั้งท่านอาลี เป็นผู้นำทัพ(แม่ทัพ) โดยท่านนบีได้ยกมือขอดุอาต่ออัลลอฮว่า
อย่าให้ท่านได้เสียชีวิตก่อนที่ อาลีจะกลับมา จากการรบเสียก่อน (บันทึกโดย ติรมีซีย์ 3737)
8.ในดุอากุนูตท่านนบีได้ยกมือทั้ง 2 ของท่าน(หะดีษบันทึกโดย อะหมัดและบัยฮะกีย์เล่าโดยอานัสบินมาลิก)
อิบนุตัยมียะห์กล่าวว่า
หะดีษของอานัสบินมาลิก ที่กล่าวว่า ไม่ปรากฎว่าท่านนบียกมือทั้งสองของท่านในเรื่องหนึ่งเรื่องใด เว้นแต่ ! การขอฝนเท่านั้น
นอกจากหะดีษของ อบีอัยยูบ สุไลมาน บินมูสา อัลดิมัชกิ เล่าว่าไม่มีการบอกเล่าเป็นที่ชัดเจนว่าท่านนบีนั้นได้ยกมือขอดุอาทุกๆ สถานการ เว้นแต่ 3 สถานะภาพเท่านั้น
1. ขอฝน
2.การขอความช่วยหลือหรือให้ได้รับชัยชนะในสงคลาม
3.ดุอาวันอารอฟะห์
จากหนังสือ รวมหะดีษ มุรซัล โดยอีหม่ามอบูดาวุดตรวจทานโดย ดอกเตอร์ อับดุลลอฮอัซซะห์รอนีย์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 1:56 am ชื่อกระทู้: |
|
|
จึงสรุปได้ว่า
เหตุการใดที่ท่านนบีไม่เคยยกมือ ทั้ง 2 ของท่าน ขอดุอาโดยไม่มีตัวบทจากศาสนา ยืนยันเป็นที่ชัดเจน อันนี้ถือว่า ห้ามยกเด็ดขาด!
เนื่องจากว่าการกระทำของท่านนบีนั้นเป็นซุนนะห์ แบบฉบับให้เราปฎิบัติตาม
และการละทิ้ง ของนบีก็นับว่าเป็นซุนนะห์(หมายถึงให้เราละทิ้ง) เนื่องจากท่านนบีนั้นเป็นแบบอย่างที่ดีงามของอุมมะห์ในเรื่องการใช้และข้อห้าม
ฉนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเราที่จะต้องละทิ้งในสิ่งที่นบีไม่ทำ!
บัง asan ผมขอคำชี้แนะด้วยหากผมผิด ผมควร ค้นหาที่ไหนหนังสื่อเล่มไหนหน้าไหน
ของใร โรงพิมพ์ไหน ช่วยแนะน้องคนนี้ด้วย หากผมผิด ขอกล่าวตรงนี้เลยว่า
อย่าตามสิ่งที่ผมนำมา หากขัดกับ อัลกรุอ่านและซุนนะห์(นบี) และศอฮาบะห์
_____________________________
จะยืนหยัด บนความถูกต้อง ان شاء الله
ผมเป็นคนหนึ่งที่ยืนยัดอยู่บนความจริง บ้างเรื่องผมไม่รู้ บัง asan คงจำได้ผมถามบังอยู่เสมอ
ตั้งแต่ผมรู้จักบังมา แม้ไม่เคยเจอ ผมก็ เทิดทูนในความรู้ของบังคับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 7:54 am ชื่อกระทู้: |
|
|
kolis_mala บันทึก: | คำพูด: | ท่านบินบาซเอง ก็มีคนถามแบบกว้างๆว่ายกมือดุอาที่กุบูรได้ไหม
هل يكون الدعاء عند قبر الميت برفع اليدين؟
ท่านก็ตอบและอ้างหลักฐานว่า
إن رفع يديه فلا بأس، لما ثبت عن النبي في حديث عائشة رضي الله عنها: أنه زار القبور ورفع يديه ودعا لأهلها. (رواه مسلم |
ส่วนฟัตวานี้ เชคท่านพูดไว้โดยบอกในท้ายว่า คือการเยี่ยมเยียนกุโบร
บังชี้แนะด้วย ผมผิดผมยอมรับคับ
|
น้องเข้าใจผิดแล้ว ท่านบินบาซ บอกว่า อนุญาตยกมือดุอา ที่กุบูรได้ แล้วท่านก็อ้างหะดิษ การยกมือดุอาของท่านนบี ตอนดุอาให้แก่ครอบครัวของท่านหญิงอาอีฉะฮตอนทีท่านเยี่ยมกุบูร
เห็นบ่าวว่าบังโกรธ ไม่รู้จะโกรธเพราะอะไร เพราะถ้าไปโกรธ คนที่เห็นต่างป่านนี้คง
ประสาทไปแล้ว ขอให้สบายใจได้ ไม่มีปัญหา เขียนต่อไปเถอะ ผู้อ่านเขาตัดสินใจเอง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 8:49 am ชื่อกระทู้: |
|
|
kolis_mala บันทึก: | จึงสรุปได้ว่า
เหตุการใดที่ท่านนบีไม่เคยยกมือ ทั้ง 2 ของท่าน ขอดุอาโดยไม่มีตัวบทจากศาสนา ยืนยันเป็นที่ชัดเจน อันนี้ถือว่า ห้ามยกเด็ดขาด!
|
มีนักวิชาการท่านใดหรือที่ฟันธงแบบนี้ในกรณีนี้ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 9:44 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ลองมาพิจารณา คำถาม คำตอบ และข้อสรุปตอนท้ายของคำตอบจากฟัตวานี้
ما حكم رفع الأيدي عند الدعاء للميت بالتثبيت عندما يدفن أو الدعاء في المقبرة للأموات مع الدليل إذا وجد وجزاكم الله خيراً
الأصل في الدعاء رفع الأيدي وهو من أسباب الإجابة ، يقول صلى الله عليه وسلم : ( إن ربكم حيي سِتِّير يستحي من عبده إذا رفع يديه إليه أن يردهما صفرا ) ، ويقول صلى الله عليه وسلم : ( إن الله تعالى طيب لا يقبل إلا طيبا ، وإن الله أمر المؤمنين بما أمر به المرسلين ، فقال تعالى : (يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُلُوا مِنْ طَيِّبَاتِ مَا رَزَقْنَاكُمْ وَاشْكُرُوا لِلَّهِ) وقال سبحانه : (يَا أَيُّهَا الرُّسُلُ كُلُوا مِنَ الطَّيِّبَاتِ وَاعْمَلُوا صَالِحًا) ثم ذكر الرجل يطيل السفر أشعث أغبر ، يمد يديه إلى السماء ، يا رب ، يا رب ، ومطعمه حرام ، ومشربه حرام ، وملبسه حرام ، وغذي بالحرام ، فأنى يستجاب له ) رواه مسلم في صحيحه .
فجعل من أسباب الإجابة رفع اليدين . ومن أسباب المنع ، وعدم الإجابة : أكل الحرام والتغذي بالحرام . فدل على أن رفع اليدين من أسباب الإجابة ، فالمسلم إذا دعا رفع يديه إلا في المواضع التي لم يرفع فيها النبي صلى الله عليه وسلم فلا نرفع فيها ، مثل خطبة الجمعة ، فلم يرفع فيها يديه ، إلا إذا استسقى فهو يرفع يديه فيها . وكذلك بعد السلام من الصلوات الخمس ، كأن يأتي بالأذكار الشرعية ولا يرفع يديه ، فلا نرفع في ذلك أيدينا اقتداء به صلى الله عليه وسلم لأن فعله حجة وتركه حجه ، أما المواضع التي رفع صلى الله عليه وسلم فيها يديه ، فالسنة فيها رفع اليدين تأسيا به صلى الله عليه وسلم ؛ ولأن ذلك من أسباب الإجابة ، وهكذا المواضع التي يدعو فيها المسلم ربه ولم يرد فيها عن النبي رفع ولا ترك ، فإنا نرفع فيها للأحاديث الدالة على أن الرفع من أسباب الإجابة كما تقدم . وأما عند الدعاء للميت فقد روى مسلم من حديث أم المؤمنين عائشة رضي الله عنها (أن رسول الله صلى الله عليه وسلم زار القبور ورفع يديه ودعا لأهلها ) .
والله أعلم
http://islamlight.net/index.php?option=com_ftawa&task=view&Itemid=31&catid=416&id=28739 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 9:48 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ลองมาดูข้อพิจารณาฟัตวาข้างต้น
ما حكم رفع الأيدي عند الدعاء للميت بالتثبيت عندما يدفن أو الدعاء في المقبرة للأموات مع الدليل إذا وجد وجزاكم الله خيراً
การยกมือดุอาตัษบีต แก่มัยยิต เมื่อฝังหรือ ในสุสานให้แก่บรรดามัยยิต มีหุกุมว่าอย่างไร พร้อมหลักฐาน เมื่อพบขออัลลอฮ โปรดตอบแทนความดีพวกท่านด้วย
(ข้างบนคือ คำถาม เรื่องดุอาตัษบีตว่ายกมือได้ไหม )
แล้ว เช็คอับดุลอะซีซ บิน สาลิม อัลอัมรุ ตอบคำถามนี้ว่า
لأصل في الدعاء رفع الأيدي وهو من أسباب
الإجابة ، يقول صلى الله عليه وسلم : ( إن ربكم حيي سِتِّير يستحي من عبده إذا رفع يديه إليه أن يردهما صفرا ) ، ويقول صلى الله عليه وسلم : ( إن الله تعالى طيب لا يقبل إلا طيبا ، وإن الله أمر المؤمنين بما أمر به المرسلين ، فقال تعالى : (يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُلُوا مِنْ طَيِّبَاتِ مَا رَزَقْنَاكُمْ وَاشْكُرُوا لِلَّهِ) وقال سبحانه : (يَا أَيُّهَا الرُّسُلُ كُلُوا مِنَ الطَّيِّبَاتِ وَاعْمَلُوا صَالِحًا) ثم ذكر الرجل يطيل السفر أشعث أغبر ، يمد يديه إلى السماء ، يا رب ، يا رب ، ومطعمه حرام ، ومشربه حرام ، وملبسه حرام ، وغذي بالحرام ، فأنى يستجاب له ) رواه مسلم في صحيحه .
รากฐานในการดุอานั้น คือ การยกมือ และมันคือ สาเหตุของการตอบรับดุอา ,ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัล กล่าวว่า (แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ขี้อาย ทรงชอบปกปิด(ความอายของบ่าว) ทรงอายบ่าวของพระองค์ เมื่อเขายกมือทั้งสองขึ้น วิงวอนต่อพระองค์ โดยที่เขาลดมือทั้งสองลง ไม่ได้อะไรเลย, และนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
แท้จริงอัลลอฮผู้ทรงสูงส่ง ทรงดีเลิศ ทรงไม่รับนอกจากสิ่งที่ดี และแท้จริงอัลลอฮทรงใช้บรรดาผู้ศรัทธา ด้วยสิ่งที่ทรงใช้แก่บรรดารอซูล อัลลอฮ ตะอาลาตรัสว่า ( โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคบรรดาสิ่งที่ดี สิ่งซึ่งเราได้ประทานให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และจงขอบคุณต่ออัลลอฮเถิด) และอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า (โอ้บรรดารอซูล จงบริโภคบรรดาสิ่งที่ดีและจงประกอบการดี) หลังจากนั้นท่านเราะสูล ﷺ ได้เล่าถึงชายคนหนึ่งที่เดินทางเป็นระยะเวลายาวนาน จนผมเผ้ายุ่งเหยิง คละเคล้าไปด้วยฝุ่น เขายื่นมือทั้งสองสู่ท้องฟ้า (พลางวิงวอนว่า) โอ้พระผู้อภิบาลของข้า! โอ้พระผู้อภิบาลของข้า! ในขณะที่อาหารที่เขาบริโภคนั้นหะรอม เครื่องดื่มที่เขาดื่มนั้นหะรอม เครื่องนุ่งห่มที่เขาสวมใส่นั้นหะรอม และยังชีพอยู่ด้วยกับสิ่งหะรอม อย่างนี้แล้วดุอาอ์ของเขาจะถูกตอบรับได้อย่างไร ? หะดีษบันทึกโดยมุสลิมในเศาะเฮียะของท่าน
فجعل من أسباب الإجابة رفع اليدين . ومن أسباب المنع ، وعدم الإجابة : أكل الحرام والتغذي بالحرام . فدل على أن رفع اليدين من أسباب الإجابة ، فالمسلم إذا دعا رفع يديه إلا في المواضع التي لم يرفع فيها النبي صلى الله عليه وسلم فلا نرفع فيها ، مثل خطبة الجمعة ، فلم يرفع فيها يديه ، إلا إذا استسقى فهو يرفع يديه فيها . وكذلك بعد السلام من الصلوات الخمس ، كأن يأتي بالأذكار الشرعية ولا يرفع يديه ، فلا نرفع في ذلك أيدينا اقتداء به صلى الله عليه وسلم لأن فعله حجة وتركه حجه ، أما المواضع التي رفع صلى الله عليه وسلم فيها يديه ، فالسنة فيها رفع اليدين تأسيا به صلى الله عليه وسلم ؛ ولأن ذلك من أسباب الإجابة ، وهكذا المواضع التي يدعو فيها المسلم ربه ولم يرد فيها عن النبي رفع ولا ترك ، فإنا نرفع فيها للأحاديث الدالة على أن الرفع من أسباب الإجابة كما تقدم
ดังนั้น การยกมือทั้งสอง จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งจาก สาเหตุการตอบรับดุอา และ ส่วนหนึ่งจากสาเหตุของการห้ามและการไม่ตอบรับดุอา คือ การบริโภคสิ่งหะรอม และยังชีพด้วยสิ่งหะรอม ก็แสดงบอกให้รู้ว่า การยกมือทั้งสอง เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุการตอบรับดุอา
มุสลิม เมื่อเขาดุอา เขาก็ยกมือทั้งสองของเขา ยกเว้น ในบางสถานที่ที่ ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม ไม่ยกมือในสถานที่นั้น เขาก็จะไม่ยกมือ เช่น ตอนอ่านคุฏบะฮญุมอัต เขาก็ไม่ยกมือทั้งสองในนั้น ยกเว้นเวลาดุอาขอฝน เขาก็จะยกมือในนั้น และในทำนองเดียวกัน หลังจากสล่ามจากบรรดาละหมาดห้าเวลา ปรากฏว่า เขาได้แสดงบรรดาซิกีรต่างๆที่ศาสนาบัญญัติไว้ โดยที่เขาจะไม่ยกมือ เราก็ไม่ยกมือในดังกล่าวนั้น เพื่อเจริญรอยตามท่านนบีศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม เพราะการกระทำของท่านนบี เป็นหลักฐานและการละทิ้งของนบี เป็นหลักฐาน(เช่นกัน) สำหรับบรรดาสถานที่ที่ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัมยกมือทั้งสองของท่าน ตามสุนนะฮนนั้น คือ การยกมือ เพื่อเป็นการเอาแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม และเพราะดังกล่าวนั้น เป็นบรรดาสาเหตุของการตอบรับดุอา และในทำนองนี้แหละคือ บรรดาสถานที่ ที่มุสลิมวิงวอนต่อพระเจ้าของเขาในนั้น และที่ไม่ปรากฏรายงานจากท่านนบีว่าท่านได้ยกหรือ ไม่ปรากฏว่าท่านได้ละทิ้ง เราก็ยกมือในสถานที่นั้น เพราะมีบรรดาหะดิษ ที่แสดงบอกว่า การยกมือนั้น เป็นสาเหตุของการตอบรับดุอา ดังที่กล่าวมากอ่นหน้านี้แล้ว
(แล้วผู้ฟัตวาได้สรุปว่า)
. وأما عند الدعاء للميت فقد روى مسلم من حديث أم المؤمنين عائشة رضي الله عنها (أن رسول الله صلى الله عليه وسلم زار القبور ورفع يديه ودعا لأهلها
والله أعلم .
และสำหรับ เมื่อดุอาแก่มัยยิต แท้จริงมุสลิม ได้รายงานจากหะดิษมารดาแห่งศรัทธาชน อาอีฉะฮ (ร.ฏ)ว่า (แท้จริงรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม ได้เยี่ยมกุบูรแล้วยกมือทั้งสองของท่าน ดุอาให้แก่ครอบครัวของนาง
วัลลอฮุอะอลัม
...................
ในฟัตวานี้ เขาได้อ้างหลักฐานว่าสถานที่กุบูร เมือดุอาให้แก่มัยยิต สามารถยกมือดุอาได้ เพราะนบี
นบี เคยยกมือเมื่อดุอาให้แก่มัยยิตในกุบูร นี้คือข้อสรุป ส่วนน้องเห็นต่างก็นำหลักฐานมาอธิบายด้วยเพื่อ ผู้อ่านเขาจะได้ตัดสินใจเลือกแนวปฏิบัติ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 10:47 am ชื่อกระทู้: |
|
|
มาดูฟัตวาของนักวิชาการซุนนะฮอีกท่านคือ เช็ค ดร. ศอลิหฺ บิน เฝาซาน อัลเฝาซาน
ما حكم رفع اليدين عند الدعاء بعد دفن الميت؟
การยกมือทั้งสอง ขณะดุอาหลังจากฝังมัยยิต มีหุกุม(ข้อตัดสินว่าอย่างไร
ตอบ
- النبي [ لما دفن ميتا وقف على قبره، هو وأصحابه، وقال لأصحابه: ;استغفروا لأخيكم، واسألوا له التثبيت؛ فإنه الآن يسأل من الملكين، فلا بأس برفع الأيدي؛ لأن الأصل في الدعاء رفع الأيدي إلا في المواطن التي صح أن النبي دعا فيها ولم يرفع يديه، وأما ما عدا ذلك فالأصل رفع الأيدي في الدعاء، لا بأس.
المفتي : الشيخ الدكتور صالح بن فوزان الفوزان
ท่านนบีนั้น เมื่อฝังมัยยิตคนใดคนหนึ่งแล้ว ท่านได้ยืนบนหลุมศพของเขา ตัวท่านนบีเองและเหล่าสาวกของท่านด้วย
และท่านนบีได้กล่าวแก่บรรดาสาวกว่า พวกท่านจงขออภัยโทษแก่พี่น้องของพวกท่าน และจงขอความมั่นคงให้แก่เขา
เพราะแท้จริงขณะนี้เขากำลังถูกสอบสวนจากมลาอิกะฮสองท่าน) ดังนั้น การยกมือทั้งสองนั้นไม่เป็นไร เพราะรากฐานในการดุอานั้น คือ การยกมือทั้งสอง ยกเว้นในบรรดาสถานที่ซึ่งมีรายงานเศาะเฮียะว่าท่านนบี ดุอาในมัน โดยที่ท่านไม่ได้ยกมือ และสำหรับสิ่งที่นอกเหนือจากดังกล่าวนั้น ตามรากฐาน(ตามหลักการ)แล้ว การยกมือทั้งสอง นั้น ไม่เป็นไร
- ผู้ฟัตวา เช็ค ดร. ศอลิหฺ บิน เฝาซาน อัลเฝาซาน
http://www.al-forqan.net/fatawa/191.html
การดุอาหลังจากฝัง ก็คือ ดุอาตัษบีตนั้นเอง และนักวิชาการเขาอ้างหลังฐานเรื่องสถานที่ คือ สถานที่กุบูร ท่านนบีเคยยกมือดุอาแก่มัยยิต เขาไม่ได้พิจารณา เรื่อง เวลา ว่า ตอนเยี่ยม หรือ ตอนฝัง หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 10:55 am ชื่อกระทู้: |
|
|
kolis_mala บันทึก: |
บัง asan ผมขอคำชี้แนะด้วยหากผมผิด ผมควร ค้นหาที่ไหนหนังสื่อเล่มไหนหน้าไหน
ของใร โรงพิมพ์ไหน ช่วยแนะน้องคนนี้ด้วย หากผมผิด ขอกล่าวตรงนี้เลยว่า
อย่าตามสิ่งที่ผมนำมา หากขัดกับ อัลกรุอ่านและซุนนะห์(นบี) และศอฮาบะห์
_____________________________
|
ขอให้สบายใจได้ไม่มีปัญหา ไม่ได้ติดใจอะไร และน้องและผู้อ่านก็จะพิสูจน์ได้แล้วว่า บังอยู่เหนือความขัดแย้งของสองฝ่ายคือ คณะเก่าและคณะใหม่ ตามฉายาที่เขาตั้งกัน เพราะคำตอบ ไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเสียเปรียบ บังก็จะไม่ใส่ใจ เพราะถือ สิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง แม้จะขมขื่นก็ตาม การดูแลกระดานบอร์ดบังได้อามานะฮจาก อ. ฟารีด แต่จุดยืน บังมีจุดยืนของตัวเอง อย่างเต็มที่ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 12:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ดีครับ อาจารย์อะซัน และคุณคอลิส
ผมชอบตรงนี้แหล่ะ ที่เราสามารถจะแย้งกันได้ ไม่จำเป็นต้องตามกันเป็นกองคาราวาน
เหมือนกับพวกตะอัซซุบ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sun Jan 30, 2011 3:57 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | ขอให้สบายใจได้ไม่มีปัญหา ไม่ได้ติดใจอะไร และน้องและผู้อ่านก็จะพิสูจน์ได้แล้วว่า บังอยู่เหนือความขัดแย้งของสองฝ่ายคือ คณะเก่าและคณะใหม่ ตามฉายาที่เขาตั้งกัน เพราะคำตอบ ไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเสียเปรียบ บังก็จะไม่ใส่ใจ เพราะถือ สิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง แม้จะขมขื่นก็ตาม การดูแลกระดานบอร์ดบังได้อามานะฮจาก อ. ฟารีด แต่จุดยืน บังมีจุดยืนของตัวเอง อย่างเต็มที่
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
คำพูด: | ดีครับ อาจารย์อะซัน และคุณคอลิส
ผมชอบตรงนี้แหล่ะ ที่เราสามารถจะแย้งกันได้ ไม่จำเป็นต้องตามกันเป็นกองคาราวาน
เหมือนกับพวกตะอัซซุบ |
ผมก็ไม่ใส่ใจเหมือนกันว่า จะเสียเปรียบหรือได้เปรียบ แต่ ณ จุดนี้ คำตอบเรื่องนี้ ผมได้รับคำตอบแล้ว ว่า อนุญาติให้ ยกได้จากหลักฐานการนำเสนอของ พี่ชายของเราคือ บัง asan
คับบัง ผมไม่อยากให้บังโกรธ ผมก็มีจุดยืนเหมือนกันว่า ความถูกต้องของศาสนาต้องมา
ก่อนทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้อง ไม่สบายใจก็ตาม
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณบัง asan และขอให้บังช่วยเป็นที่ปรึกษาในคราวต่อไปด้วย
เพราะ แม้แต่ผม หรือ บัง ไม่มีใครกล้าพูดว่ารู้ทุกอย่างใช่ไหมคับ
บ้างเรื่องผมอาจรู้บังอาจไม่รู้ แต่ผมขอให้บังเป็นที่ ปรึกษาด้วย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|