بسم الله الرحمن الرحيم
อัสลามุอาลัยกุม
ท่านรอซูล(ซ.ล) กล่าวว่า
مَا مِنْ مُسْلِمَيْنِ يَلْتَقِيَانِ فَيَتَصَافَحَانِ إِلَّا غُفِرَ لَهُمَا قَبْلَ أَنْ يَفْتَرِقَا
"ไม่มีจากมุสลิมสองคนที่ได้พบปะกัน แล้วทั้งสองก็ทำการจับมือซึ่งกันและกัน นอกจากทั้งสองจะถูกอภัยโทษให้ ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไป" รายงานโดยติรมีซีย์ (2651) ฮะดิษหะซันในสายรายงานหนึ่งของท่านอบูดาวูด ระบุว่า
إِذَا اِلْتَقَى الْمُسْلِمَانِ فَتَصَافَحَا وَحَمِدَا اللَّهَ وَاسْتَغْفَرَاهُ غُفِرَ لَهُمَا
"เมื่อมุสลิมสองคนได้พบปะกัน แล้วทั้งสองได้จับมือ กล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์ และอิสติฆฟารต่ออัลเลาะฮ์ ทั้งสองก็จะถูกอภัยโทษให้"
ดังนั้น เมื่อเมื่อมุสลิมได้พบปะกันและจับมือสลาม ก็ให้กล่าวว่า
اَلْحَمْدُ لِلّهِ
"อัลฮัมดุลิลลาฮ์"
"มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์"
หรือทำการกล่าวอิสติฆฟาร ว่า
يَغْفِرُ اللَّهُ لَنَا وَلَكُمْ
"ยัฆฟิรุลลอฮุ ละนา วะ ละกุ้ม"
ท่านอิบนุ อัซซุนนีย์ ได้รายงานจากท่านอะนัส ว่า
مَا أَخَذَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِيَدِ رَجُلٍ فَفَارَقَهُ حَتَّى قَالَ اللَّهُمَّ آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الْآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ได้ทำการจับมือชายคนหนึ่ง แล้วทำการแยกย้ายกันไป จนกว่านั้นจะกล่าวว่า อัลลอฮุมม่า อาตินา ฟิดดุนยา หะซะนะฮ์ วะฟิลอาคิร่อติ หะซะนะฮ์ วะกินา อะซฺาบันนาร"
รายงานจากท่านอะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เช่นกันว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
مَا مِنْ عَبْدَيْنِ مُتَحَابَّيْنِ فِي اللَّهِ يَسْتَقْبِلُ أَحَدُهُمَا صَاحِبَهُ فَيُصَافِحُهُ فَيُصَلِّيَانِ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَّا لَمْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى تُغْفَرَ ذُنُوبُهُمَا مِمَّا تَقَدَّمَ مِنْهَا وَمَا تَأَخَّرَ
"ไม่มีจากบ่าวสองคนที่มีความรักใคร่ต่อกันในอัลเลาะฮ์ โดยคนหนึ่งจากทั้งสองได้ทำการต้อนรับมิตรสหายของเขา แล้วทำการจับมือ จากนั้นทั้งสองก็ทำการซอลาวาตต่อท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นอกจากเสียว่าทั้งสองจะไม่แยกย้ายกันไป จนกว่าบาปของทั้งสองถูกอภัยโทษให้จากสิ่งที่ล่วงผ่านมาแล้วและสิ่งที่จะมีต่อไปภายหลัง"
ท่านอัลมุนซิรีย์ ได้รายงานไว้ในหนังสือ อัตตัรฆีบ วัตตัรฮีบ จากท่าน หุซัยฟะฮ์ บิน อัลยะมาน จากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า
إِنَّ الْمُؤْمِنَ إِذَا لَقِيَ الْمُؤْمِنَ فَسَلَّمَ عَلَيْهِ وَأَخَذَ بِيَدِهِ فَصَافَحَهُ تَنَاثَرَتْ خَطَايَاهُمَا كَمَا يَتَنَاثَرُ وَرَقُ الشَّجَرِ
"แท้จริงผู้ศรัทธานั้น เมื่อเขาได้พบปะกับผู้ศรัทธาด้วยกัน แล้วทำการให้สลามแก่เขาและจับสัมผัสมือให้สลาม บรรดาบาปของทั้งสองจะร่วงหล่น ประดุจดังใบไม้ร่วง" รายงานโดยอัฏฏ๊อบรอนีย์ บรรดานักรายงานไม่ได้ถูกตำหนิ
รายงานจากท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์ จากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า
إِنَّ الْمُسْلِمَ إِذَا لَقِيَ أَخَاهُ فَأَخَذَ بِيَدِهِ تَحَاتَّتْ عَنْهُمَا ذُنُوبُهُمَا كَمَا يَتَحَاتَّ الْوَرَقُ عَنْ الشَّجَرَةِ الْيَابِسَةِ فِي رِيحِ يَوْمٍ عَاصِفٍ وَإِلَّا غُفِرَ لَهُمَا وَلَوْ كَانَتْ ذُنُوبُهُمَا مِثْلَ زَبَدِ الْبَحْرِ
"แท้จริงมุสลิมคนหนึ่งที่พบปะพี่น้องของเขา แล้วทำการจับมือ บรรดาบาปของทั้งสองก็ร่วงหล่น ประดุจดังใบไม้ร่วงจากต้นไม้แห้งในวันที่มีลมพายุพัด และนอกจากว่าทั้งสองจะได้รับการอภัยโทษ หากแม้นว่าบาปของทั้งสองประหนึ่งฟองน้ำในทะเล" รายงานโดย อัฏฏ๊อบรอนีย์ ด้วยสายรายงานที่หะซัน
ส่วนหลักการจับมือนั้น ซุนนะฮ์ให้จับมือเดียว หมายถึง มือข้างขวาของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะในขณะที่พบปะกันหรือให้สัตยาบัน ดังกล่าว เป็นทัศนะของอุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ มัซฮับชาฟิอีย์ และมัซฮับฮัมบาลีย์
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "การจับมือด้วยมือขวาเป็นสิ่งชอบให้กระทำ(มุสตะฮับ)และการจับด้วยมือขวาย่อมเป็นสิ่งที่ดีเลิศกว่า"ตั๊วะห์ฟะตุลอะห์วาซีย์อธิบายสุนันอัตติรมีซีย์
ดังนั้น การจับด้วยสองมือเป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้ แต่ทว่าจับมือข้างขวามือเดียวย่อมดีเลิศกว่า และตอนที่ขณะจับมือ จะกล่าวว่า อัลฮัมดุลิลลาฮ์ หรือกล่าวอิสติฆฟาร หรือกล่าวซอลาวาต หรือกล่าวดุอาอ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่าได้ซุนนะฮ์ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วครับ
ท่านอิมามอัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์ กล่าวว่า "ถือเป็นมักโระฮ์โดยกับจับมือกับผู้ที่เป็นโรคติดต่อ เช่น โรคเรื้อนและโรคด่าง และถือเป็นมักโระฮ์โดยการสวมกอด(เมื่อเจอกัน)และจูบที่ศีรษะ หากแม้นว่าผู้ที่จูบและผู้ที่ถูกจูบจะเป็นคนที่มีคุณธรรมก็ตาม เพราะท่านนบีได้ห้ามจากสิ่งดังกล่าว ซึ่งรายงานโดยท่านอัตติรมีซีย์ นอกจากเสียว่า ให้ทำการสวมกอดได้กับผู้ที่เดินทางกลับมาหรือพบปะกันนานครั้งตามธรรมเนียมที่คนทั่วไปคิดว่านาน เพราะมันเป็นซุนนะฮ์และเจริญรอยตามท่านนบี ซึ่งได้รายงานดังกล่าวโดยท่านอัตติรมีซีย์เช่นกัน" มุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ 4/231
والله تعالي أعلى وأعلم