ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
gismad มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 21/08/2008 ตอบ: 96
|
ตอบ: Mon Aug 25, 2008 8:01 pm ชื่อกระทู้: ดุอา ละศีลอด ที่เราต้องใช้ |
|
|
หะดีษ ฎออีฟ(หะดีษที่นำมาเป็นหลักฐานไม่ได้)
ดุอา ละศีลอด
ท่านมุสัดดัด ฟังจากท่าน ฮุชัยม์ จากท่านมุอาซ บุตรของ ซุฮเราะฮ มีรายงานมาถึงเขาว่า
كَانَ إِذَا أَفْطَرَ قال اللهُم لَكَ صُمتُ وَعَلَىْ رِزْقِكَ أَفْطَرْتُ {ضَعِيْفٌ}
อัลลอฮุมมะ ละกะสุมตุ วะอะลาริสกิกา อัฟตอรตุ
คำแปล........โอ้อัลลอฮ ฉันถือศีลอดนี้เพื่อพระองค์ และฉันละศีลอดด้วยริสกีย์ ของพระองค์ ด้วยเช่นกัน
สาเหตุทำไมถึง ฎออีฟ(อ่อนหรือใช้ไม่ได้) ดังต่อไปนี้
1. นักรายงานคนหนึ่งที่ชื่อ ฮุชัยม์ บุตรของ บะซีร บุตรของกอสิม เป็นตาบีอีนกุบรอ(บุคคลที่ทันพบศอฮาบะห์ เป็นจำนวนมาก) มีชื่อรองว่า อบูมุอาวิยะห์ พำนักในเมืองฮีต และสิ้นชีวิตในเมืองบัตดาด ในปี ฮ.ศ ที่ 183 เขาเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ แต่สับสนเป็นอย่างมาก(หนังสือ ตักรีบุตตะฮซีบ ลำดับบุคคลที่ 7312
2.นักรายงานที่ชื่อ หุศัยน์ บุตรของอับดุรรอฮมาน อัสสุละมีย์ เป็นตาบีอีนศุฆรอ(บุคคลที่ทันพบศอฮาบะห์ เพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น) มีชื่อรองว่าอบุลฮุซัยล์ พำนักที่อยู่ที่เมือง กูฟะฮฺ สิ้นชีวิตในปี ฮ.ศ ที่ 136 เขาเป็นบุคคลที่เชือถือได้ แต่ในช่วงท้ายชีวิตของเขา มักจะเปลี่ยน ในสิ่งที่เขาเคยท่องจำมา (หนังสือ ตักรีบุตตะฮซีบ ลำดับบุคคลที่ 1369
3. หะดีษข้างต้นถือเป็นหะดีษ มุรสัล (หมายถึง บุคคลที่ไม่พบนบี แต่พบศอฮาบะฮ ในสภาพที่เป็นมุสลิมและสิ้นชีวิตในสภาพที่เป็นมุสลิมเช่นกัน) ได้อ้างว่ามาจากนบีดังนั้นหะดีษข้างต้นนักงายงานหะดีษคนหนึ่งที่ชื่อท่านมุสัดดัดซึ่งเป็นตาบีอีนวุสตอ (บุคคลที่ทันพบศอฮาบะห์ เพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น) ท่านมุสัดดัดได้ยินหะดีษดังกล่าวจากท่านรซูลโดยไม่ได้กล่าวถึงศอฮาบะห์ซึงอยู่ระหว่างเขากับรอซูล นั้นหมายถึงผู้รายงานหะดีษที่เป็ศอฮาบะห์ได้ขาดหายไป ซึงหุกมของหะดีษมุรสัล คือ หะดีษฎออีฟ มัรดูด เป็นทัศนะส่วนใหญ่ของนักวิชาการหะดีษ บรรดานักวิชาการอุซูล และนักวิชาการฟิกฮ ( หนังสือ ตัยสีรมุสเฎาะละหุลหะดีษ หน้า 71-72)
ส่วนหลักฐานที่ถูกต้อง นำมาใช้เป็นหลักฐานได้คือ
ดุอาอ์ละศีลอด
ذهَبَ الظمَأوَابْتَلَّتِ الْعُرُوْقُ وَثَبَتَ الأَجْرُ إِنْ شَاءَ الله [حَسَنٌ]
ซะฮะบัซเซาะมะอุ วับตัลละติลอุรูกุ วะษะตัลอัจญ์รุ อินชาอัลลอฮฺ
ความหิวกระหายได้หมดไป โดยเส้นเลือดได้รับความชุ่มชื่น ซึ่งรางวัลแห่งการตอบแทนย่อมได้รับอย่างแน่นอน หากพระองค์อัลลอฮฺทรงประสงค์
หะดีษ ต้นนี้ถือว่าเป็นหะดีษ ที่ หะซัน(ดี) สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้ รายงานโดย อีมมามบุคคอรี
เพราะฉะนั้นแล้วเราได้รู้ถึงสิ่งที่ถูกต้องกว่า สิ่งที่เราเคยได้ยิน เคยได้ฟัง เคยได้เรียนรู้และศึกษามานั้นมันไม่ถูกต้อง แล้วทำไมเล่า เราไม่เลือก สิ่งที่ทำแล้วถูกต้อง มาใช้ในการทำอิบาดะฮของเรา
ยังมีอีกมากมายที่บ่าวของอัลลอฮซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้นกระทำในเรื่องที่ผิดหรือถูกโดยไม่ได้ไตรตรองดูว่าถูกหรือผิดอย่างไร เพราะฉะนั้นอิสลามนั้นมีหลักฐานในทุกเรื่องทุกด้าน ท่านนบีของเรานั้นได้บอกไว้อย่างละเอียด ท่านนบีสอนเราตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั้งเข้านอน แม้กระทั้ง การปัสวะหรืออุจาระ ท่านยังสอนเรา แล้วทำไมเล่าเราไม่ขวนขวาย หาสิ่งที่นบีทำไว้ มีหะดีษอยู่หะดีษหนึ่งเกี่ยวกับความรักต่อท่านนบีของเรา
عن أنس : قال النبي صلى الله عليه وسلم : "لا يؤمن أحدكم حتى أكون أحب إليه
من والده وولده والناس أجمعين"
(คำแปล)จากท่านอานัส บินมาลิก ท่านนบีได้กล่าวว่า คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้า
จะยังไม่สัทธา จนกระทั้งฉันจะเป็นที่รักของเขามากกว่าพ่อและลูกของเขาและบรรดามนุษย์ทั้งหลาย
ผู้เขียนขอฝากเป็นคติเตือนใจ ให้กับบรรดา พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย เรารักตัวเราพี่น้องของเรา บรรดาคนทั่วไปมากกว่าท่านนบีของเราหรอกหรือแม้กระทั้งมันคือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย กลับมาตามสิ่ง
ที่ท่านนบีนำมาให้เรา ด้วยความอยากลำบากด้วยเทิด อามีน
وباالله توفيق |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
gismad มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: 21/08/2008 ตอบ: 96
|
ตอบ: Mon Aug 25, 2008 8:07 pm ชื่อกระทู้: ถูกหรือเปล่า อาจารณ์ ฟาริด เฟ็นดี้ |
|
|
มีอะไรผิดตรงไหนแจงด้วยด่วน เพราะไรถึงผิด |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|