ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Sep 14, 2007 10:07 pm ชื่อกระทู้: คุณค่าของการถือศีลอด |
|
|
คุณค่าของการถือศีลอด
1. การถือศีลอดเป็นหนทางสู่การตักวา
ดังที่อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
[2.183] บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอด นั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ที่อยู่ก่อนหน้าพวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง
อิหม่ามอัลบัฆวีย์ อธิบายว่า
﴿لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ﴾ يعني بالصوم ؛ لأن الصوم وصلة إلى التقوى لما فيه من قهر النفس وكسر الشهوات
(เพื่อพวกเจ้าจะได้ยำเกรง) หมายถึง ด้วยการถือศีลอด เพราะการถือศีลอด นั้น นำไปสู่การตักวา(การยำเกรง) เพราะในการถือศีลอดนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากการบังคับตนเองและการทำลายความปรารถนาของตัญหา ตัฟสีรมาอาลิมุลตันซีล 1/196
อิบนิกะษีร อธิบายว่า
لأن الصوم فيه تزكية للبدن وتضييق لمسالك الشيطان
เพราะในการถือศีลอดนั้น เป็นการขัดเกลาร่างกายให้บริสุทธิ์และเป็นการปิดทางเดินของมารร้ายให้แคบลง ตัฟสีรอิบนิกะษีร 1/318
2. อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้เตรียมการอภัยโทษและผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่แก่บรรดาผู้ถือศีลอด
إِنَّ الْمُسْلِمِينَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ وَالْقَانِتِينَ وَالْقَانِتَاتِ وَالصَّادِقِينَ وَالصَّادِقَاتِ وَالصَّابِرِينَ وَالصَّابِرَاتِ وَالْخَاشِعِينَ وَالْخَاشِعَاتِ وَالْمُتَصَدِّقِينَ وَالْمُتَصَدِّقَاتِ وَالصَّائِمِينَ وَالصَّائِمَاتِ وَالْحَافِظِينَ فُرُوجَهُمْ وَالْحَافِظَاتِ وَالذَّاكِرِينَ اللَّهَ كَثِيراً وَالذَّاكِرَاتِ أَعَدَّ اللَّهُ لَهُم مَّغْفِرَةً وَأَجْراً عَظِيماً
[33.35] แท้จริง บรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิง บรรดาผู้ภักดีชายและหญิง บรรดาผู้สัตย์จริงชายและหญิง บรรดาผู้อดทนชายและหญิง บรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง บรรดาผู้บริจาคทานชายและหญิงบรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิง บรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิง บรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น อัลลอฮได้เตรียมการอภัยโทษและการตอบแทนอันยิ่งใหญ่ให้แก่พวกเขา
.......
อินชาอัลลอฮมีต่อ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Sep 14, 2007 10:48 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
3. การถือศีลอดเป็นโล่ห์(ป้องกันความชั่ว)
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال قال رسول الله صلى الله عليه وسلم (قال الله كل عمل ابن آدم له إلا الصيام، فإنه لي وأنا أجزي به، والصيام جُنّة، وإذا كان يوم صوم أحدكم فلا يرفث ولا يصخب، فإن سابّه أحد أو قاتله فليقل إني امرؤ صائم، والذي نفس محمد بيده لخلوف فم الصائم أطيب عند الله من ريح المسك، للصائم فرحتان يفرحهما إذا أفطر فرح، وإذا لقي ربه فرح بصومه
รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ (ร.ฎ)ว่า รซูลุ้ลลอฮ กล่าวว่า (อัลลอฮตรัสว่า ทุกการงานของมนุษย์นั้น เป็นสิทธิ์ของเขา ยกเว้นการถือศีลอด มันเป็นของข้าและข้าจะตอบแทนมันเอง และการถือศีลอดนั้น เป็นโล่ห์ (ป้องกันความชั่ว) และเมื่อวันถือศีลอด เป็นของคนใดในหมู่พวกท่าน เขาจงอย่าพูดจาหยาบคายและอย่าพูดจาก้าวร้าว แล้วหากมีผู้ใดด่าว่าเขาหรือชวนเขาทะเลาะ เขาจงกล่าวว่า ฉันเป็นผู้ที่กำลังถือศีลอด และขอสาบานด้วยพระเจ้าผู้ซึ่งชีวิตมุหัมหมัด อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ อันที่จริงกลิ่นปากของคนถือศีลอดนั้น ณ อัลลอฮแล้ว หอมยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียงเสียอีก สำหรับผู้ถือศีลอดนั้น มีความดีใจอยู่สองวาระ ซึ่งเขาดีใจต่อมันทั้งสอง เมื่อเขาแก้ศีลอด เขาก็ดีใจและเมื่อเขาได้พบพระเจ้าของเขา เขาก็ดีใจด้วยการถือศีลอดของเขา บันทึกโดย บุคอรี หะดิษหมายเลข 1904 และมุสลิม หะดิษหมายเลข 1151
อิบนุอับดิลบีรริ กล่าวว่า
والجُنّة: الوقاية والستر من النار، وحسبك بهذا فضلاً للصائم
และคำว่า ญุนนะฮคือ การรักษาและการปิดกั้นจากนรก และพอเพียงแล้วสำหรับท่าน ด้วยความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่นี้ อัตตัมฮีด 19/54
อัลกอฎีย์ อิยาด กล่าวว่า
"(جُنّة) أي سِتْر ومانع من الرفث والآثام أو مانع من النار وساتر منها أو مانع من جميع ذلك
ญุนนะฮ หมายถึง การปิดกั้น และ สิ่งที่ยับยั้ง จากคำพูดที่หยาบคายและเป็นบาป หรือ ยับยั้งจากนรก ปิดกั้นจากมันหรือยับยั้งจากทั้งหมดนั้น อัลอิกมาล 4/110
อิบนุหะญัร กล่าวว่า
فالحاصل أنه إذا كفّ نفسه عن الشهوات في الدنيا كان ذلك ساتراً له من النار في الآخرة
สรุปว่า เมื่อเขายับยั้งตนเองจากการตามปรารถนาของตัณหา ในโลกนี้ ดังกล่าวนั้น ก็เป็นสิ่งปิดกั้นจากนรกให้แก่เขาในวันปรโลก - ฟัตหุ้ลบารีย์ 4/125 |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Sep 15, 2007 6:57 am ชื่อกระทู้: |
|
|
4. การถือศีลอด จะขอความช่วยเหลือ(อัชชะฟาอะฮ)ต่ออัลลอฮ ให้แก่เจ้าของของมัน
عن عبد الله بن عمرو رضي الله عنهما عن النبي صلى الله عليه وسلم (الصيام والقرآن يشفعان للعبد يوم القيامة يقول الصيام أي رب منعته الطعام والشهوة فشفعني فيه، ويقول القرآن منعته النوم بالليل فشفعني فيه، قال: فيشفعان
รายงานจากอับดุลลอฮ บุตร อัมริน (ร.ฎ) จากท่านนบี ว่า การถือศีลอดและอัลกุรอ่าน มันทั้งสองจะขอความช่วยเหลือให้แก่บ่าว ในวันกิยามะฮ โดย การถือศีลอดกล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้า พระองค์ท่านได้ห้ามไม่ให้เขารับประทานอาหารและห้ามไม่ให้สนองความต้องการของอารมณ์ ดังนั้นได้โปรดให้ข้าพระองค์ได้ให้การช่วยเหลือ(ชะฟาอะฮ) ในมัน และอัลกุรอ่านกล่าวว่า พระองค์ท่านได้ห้ามเขาไม่ให้นอน ในตอนกลางคืน ดังนั้นได้โปรดให้ข้าพระองค์ได้ให้การช่วยเหลือ(ชะฟาอะฮ) ในมัน เขา(ท่านนบี)กล่าวว่า แล้วมันทั้งสองได้ให้การช่วยเหลือ - ดูที่มาของหะดิษข้างล่าง
رواه أحمد في مسنده ( 2 / 174 6626 )، والحاكم في المستدرك ( 1 / 740 )، وقال: " صحيح على شرط مسلم "، وقال الهيثمي في مجمع الزوائد ( 3 / 181 ): " رواه أحمد والطبراني في الكبير ورجال الطبراني رجال الصحيح "، وصححه الألباني في صحيح الترغيب ( 1 / 483 )، ولم أعثر عليه عند
الطبراني.
อัฏฏีบีย์ กล่าวว่า
والقول من الصيام والقرآن إما أن يُأَوَّل أو يجرى على ما عليه النص، هذا هو المنهج القويم والصراط المستقيم، فإن العقول البشرية تتلاشى وتضمحل عن إدراك العوالم الإلهية ولا سبيل لها إلا الإذعان له والإيمان به
และ คำพูดที่มาจาก การถือศีลอดและอัลกุรอ่านนั้น บางที่ได้มีการตีความ หรือไม่ก็ให้ดำเนินไปตามตัวบท นี้คือ หนทางที่มั่นคงและแนวทางที่เที่ยงตรง เพราะสติปัญญาของมนุษย์นั้น ไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงความรอบรู้แห่งพระเจ้าได้เลย และไม่มีทาง สำหรับมันเลย นอกจากการยอมรับและศรัทธาต่อมันเท่านั้น -ดู ชัรหุ อัฏฏีบีย์ อะลัลมิชกาต เล่ม 4 หน้า 141
อัลมะลา อาลีกอรีย์ กล่าวว่า
" وهذا دليل على عظمتهما
และนี้คือ หลักฐานแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของมันทั้งสอง - ดู อัลมิรกอต อะลัลมิชกาต เล่ม 4 หน้า 454 |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|