| ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป   | 
	
	
	
		| ผู้ส่ง | 
		ข้อความ | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Fri Jul 16, 2004 12:53 am    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ประการที่สี่  กำหนดให้เครื่องแต่งกายของผู้หญิงนั้น  ต้องยาวคลุ่มสิ่งพึงสงวนทุกอย่าง
 
ยกเว้นในหน้าและฝ่ามือ  อันนี้เฉพาะใบหน้าของนางหรือระหว่างมะฮฺเร็ม
 
(ผู้ที่ห้ามแต่งงานกับนาง)ของนาง  เมื่อนางออกนอกบ้านหรือพูดคุยกับผู้อื่น
 
ที่มิใช่มะฮฺเร็มของนาง  ต้องคลุมผ้าปิดใบหน้าที่สวยงามและเครื่องประดับของนาง(1)
 
(1)  การปิดใบหน้าของสตรี  เรื่องของการคลุมหิญาบนั้น  อุละมาอฺมีความเห็น
 
ต่างกันเป็นหลายความเห็น
 
ความเห็นแรก.  ต้องคลุมผ้า  ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของท่านของท่านรอซูลหรือคนอื่นก็ตาม
 
โดยถือว่าใบหน้านั้นเป็นเอาเราะฮฺ  คืออวัยวะต้องปกปิด
 
ความเห็นที่สอง . ใบหน้านั้นมิได้เป็นเอาเราะฮฺ  และไม่จำเป็นต้องปิด  
 
แต่ถ้าปิดได้ก็เป็นการดีเพื่อเป็นการป้องกันความไม่ดีงาม | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Fri Jul 16, 2004 12:55 am    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				อัลลอฮฺ ตรัสว่า
 
เหล่านางทั้งหลายจงคลุมผ้าเหนือต้นคอของนาง  และอย่าได้เผยซีนะฮฺ(1)ของนาง
 
เว้นแต่แก่เหล่าสามีของนาง(ทั้งหลาย) ##
 
(1) คำว่าซีนะฮฺ หมายถึง  เครื่องประดับหรือความงามของเรือนร่าง
 
ประการที่ห้า# ห้ามชายสวมเครื่องแต่งกายที่เป็นผ้าไหม  และสวมแหวนทองคำ
 
สิ่งทั้งสองอนุญาตให้แก่สตรีเพศเท่านั้น
 
ท่านรอซูล     ได้กล่าวโดยที่ท่านถือผ้าไหมและทองคำไว้ในมือทั้งสองว่า
 
สองสิ่งนี้เป็นที่ต้องห้ามแก่ชายในประชาชาติของฉัน
 
แต่เป็นที่อนุมัติแก่บรรดาหญิง | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Fri Jul 16, 2004 12:57 am    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ความสะอาด  อิสลามใช้ให้มุสลิมทำความสะอาด 
 
 โดยบัญญัติให้มีการทำวุฎูอเพื่อประฎิบัติละหมาด
 
  บังคับให้ชำระล้างอาบน้ำเมื่อมีญะนาบะฮฺ  ใช้ให้มีการอาบน้ำชำระล้าง
 
ทุกๆวันศุกร์  วันศุกร์ส่งเสริมให้ใช้เครื่องหอม 
 
 สวมเสื้อผ้าที่สะอาดและส่งเสริมให้ใช้สีขาว
 
  เพื่อให้มุสลิมมีความสะอาดอย่างสมบูรณ์นั่นเอง | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:18 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				  
 
    คัดจากหนังสือ     มุสลิมที่แท้จริง
 
เรียบเรียงโดย   เชคอบูบักรฺ  อัลญะซาอิรี
 
แปลโดย  อาจารย์  อิสหาก  พงษ์มณี
 
พฤษภาคม  2532
 
* ญะซากุมุ้ลลอฮฺคอยรอน 
 
อินชาอัลลอฮฺ  จะได้เริ่มพิมพ์จากหนังสือเล่มต่อไป | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:21 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				การทำอิบาดะฮฺที่ประเสริฐยิ่งอย่างหนึ่งก็คือ  การให้เอกภาพต่อ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
 
เพราะพระองค์คือพระผู้ทรงสร้างมนุษย์และสรรสิ่งทั้งมวลมา  เพื่อให้เคารพภักดีต่อพระองค์
 
แต่เพียงผู้เดียว  ไม่นำเอาสิ่งอื่นมาเสมอด้วยพระองค์ในการเคารพภักดี
 
จึงเห็นได้ว่า  เป้าหมายในการประทานคัมภีต่างๆมา  หรือส่งบรรดารอซูลมาเผยแผ่นั้น
 
ก็เพื่อให้ความสำคัญต่อการให้เอกภาพนี้  พระองค์ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺ อัลนะฮฺลิ อายะที่36ว่า
 
##และแท้จริงเราได้แต่งตั้งให้มีศาสนทูตมาในแต่ละประชาชาติ
 
เพื่อให้เขาเหล่านั้นเคารพกราบไหว้อัลลอฮฺ  
 
และปลีกตัวออกห่างไกลจากบรรดาสิ่งกราบไหว้อื่นๆ ## | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:23 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ส่วนผู้ที่ให้เอกภาพในการเคารพพระองค์นั้น  เขาจะได้รับความสุขในสวนสวรรค์อย่างแน่นอน
 
เป็นหน้าที่ ที่พระองค์  อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนให้แก่เขา  ถึงแม้ว่าจะมีโทษอื่นอยู่บ้างก็ตาม
 
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า 
 
แท้จริงอัลลอฮฺ  จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ตั้งภาคีต่อพระองค์
 
แต่จะทรงอภัยโทษบาปอื่นจากนี้ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์
 
(ซูเราะฮฺอันนิซาอฺ  อายะที่ 48)
 
และแน่นอนอีกเช่นเดียวกัน  ผู้ที่ตั้งภาคีต่อพระองค์นั้นเขาจะต้องได้รับการ
 
ทรมานในไฟนรกตลอดไป  ถึงแม้ว่าเขาจะมีผลบุญจากการงานที่ดีอยู่มากก็ตาม
 
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
 
และเราได้กลับมาดูงานอย่างหนึ่งที่เขาทั้งหลายได้กระทำไว้
 
ดังนั้น เราได้บันดาลให้มันเป็นฝุ่นที่ลอยไปในอากาศ
 
(ซูเราะฮฺอัลฟุรกอน  อายะฮฺที่23) | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:25 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ส่วนผู้ที่ให้เอกภาพในการเคารพพระองค์นั้น  เขาจะได้รับความสุขในสวนสวรรค์อย่างแน่นอน
 
เป็นหน้าที่ ที่พระองค์  อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนให้แก่เขา  ถึงแม้ว่าจะมีโทษอื่นอยู่บ้างก็ตาม
 
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า 
 
แท้จริงอัลลอฮฺ  จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ตั้งภาคีต่อพระองค์
 
แต่จะทรงอภัยโทษบาปอื่นจากนี้ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์
 
(ซูเราะฮฺอันนิซาอฺ  อายะที่ 48)
 
และแน่นอนอีกเช่นเดียวกัน  ผู้ที่ตั้งภาคีต่อพระองค์นั้นเขาจะต้องได้รับการ
 
ทรมานในไฟนรกตลอดไป  ถึงแม้ว่าเขาจะมีผลบุญจากการงานที่ดีอยู่มากก็ตาม
 
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
 
และเราได้กลับมาดูงานอย่างหนึ่งที่เขาทั้งหลายได้กระทำไว้
 
ดังนั้น เราได้บันดาลให้มันเป็นฝุ่นที่ลอยไปในอากาศ
 
(ซูเราะฮฺอัลฟุรกอน  อายะฮฺที่23) | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:29 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ไม่ทราบว่ารูปคนใส่แว่นมาได้อย่างไร
 
post สองหนก็ยังคงมี  รูปคนใส่แว่น  ขออีกครั้ง
 
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า 
 
แท้จริงอัลลอฮฺ จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ตั้งภาคีต่อพระองค์ 
 
แต่จะทรงอภัยโทษบาปอื่นจากนี้ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ 
 
(ซูเราะฮฺอันนิซาอฺ อายะที่ 4 8 | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Sun Jul 18, 2004 11:34 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ทำอะไรบ้างที่ถือว่าเป็นการตั้งภาคีต่อ อัลลอฮฺ
 
อุละมาอฺ  ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า
 
# ใครที่เชื่อว่า  สิ่งหนึ่งสิ่งได  สามารถให้คุณหรือให้โทษแก่เขาได้
 
นอกจาก พระองค์ อัลลอฮฺ  เขาได้ตั้งภาคีแล้ว #
 
  มีการกระทำหลายอย่างหลายประการด้วยกันที่เมื่อได้ทำลงไปแล้ว
 
ถือว่าเป็นการตั้งภาคีต่อ อัลลอฮฺ  ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นจากการเขลาไป
 
หรือไม่ก็หลงลืมไป  ดังนั้น  จึงต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ  และจะต้องปลีกตัวออกจาก
 
การที่จะตกไปในสิ่งนั้น  ท่านจะได้รอดพ้นจากผู้ที่พระองค์
 
ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอาน  ว่า
 
แท้จริงผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺนั้น  อัลลอฮฺได้ทรงห้ามเขาจากสวรรค์
 
และที่พำนักของเขาคือนรก
 
(ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ  อายะที่72) | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Mon Jul 19, 2004 8:19 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				สิ่งต่างๆที่จะทำให้เราและท่านต่างตกเป็นผู้ตั้งภาคีต่อ อัลลอฮฺ  มีดังต่อไปนี้
 
1  การไปหาสุสานของบรรดาคนซอและหฺ (คนที่มีคุณธรรมมาก)
 
เพื่อแสวงหาประโยชน์หรือเพื่อขอความคุ้มครอง  ซึ่งการขอความคุ้มครองนั้น
 
ก็ให้ขอจากพระองค์  อัลลอฮฺแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
 
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
 
และเจ้าอย่าได้ขอกับสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ  
 
สิ่งซึ่งมิอาจให้ประโยชน์และโทษได้  หากเจ้ากระทำเช่นนั้น
 
เจ้าก็เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้อธรรม (ซูเราะฮฺยูนุส  อายะฮฺที่106)
 
2  การให้ความสำคัญต่อผู้หนึ่งผู้ไดจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว  
 
ท่านรอซูล      กล่าวว่า
 
จะไม่มีการเชื่อฟังผู้ที่ถูกสร้าง  ในสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนต่อผู้สร้าง | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Mon Jul 19, 2004 8:22 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				3  การเชื่อในสิ่งที่โหรหรือหมอดูทำนายทายทักเอาไว้  เพราะการทำนายในสิ่งที่
 
ยังมองไม่เห็นนั้น  พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะทรงล่วงรู้ได้  มนุษย์ทั่วไปมิอาจรู้ล่วงหน้าได้
 
มีรายงานหะดีษที่เชื่อถึอได้จาก
 
ท่านรอซูล    กล่าว ว่า
 
บุคคลไดไปหาหมอดูหรือหมอเวทมนต์  แล้วเชื่อในสิ่งที่เขาบอก
 
ก็เท่ากับเขาได้ปฎิเสธต่อสิ่งที่ถูกประทานมาให้ท่าน นบีมุฮัมมัด (หมายถึงอัลกุรอาน)
 
(บันทึกโดยอะฮฺหมัดและอัลฮากิม)
 
4  รักสิ่งอื่นมากกว่ารักอัลลอฮฺ  ซุบฮานะฮุวะตะอาลา
 
อัลลอฮฺตรัสว่า
 
และในหมู่มนุษย์นั้น  มีผู้ที่ยึดถือบรรดาภาคี(ที่ถูกเคารพนับถึอเทียบอัลลอฮฺ)
 
อื่นจากอัลลอฮฺ  ซึ่งพวกเขารักภาคีเหล่านั้นเช่นเดียวกับรักอัลลอฮฺ
 
แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นผู้ที่รักอัลลอฮฺมากยิ่งกว่า
 
(ซูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 106)
 
จึงเห็นได้ว่า  ผู้ที่รักเทิดทูนบุคคลหรือสิ่งไดก็ตามมากกว่าความรักที่มีต่อ อัลลอฮฺ
 
การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการตั้งภาคีเช่นกัน | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Mon Jul 19, 2004 8:24 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				5  การที่มุสลิมบางคนนำสิ่งหนึ่งมาผูกที่ข้อมือหรือแขวนไว้ที่คอ 
 
โดยยึดถือว่าสิ่งนั้นจะห้ามมิให้ตัวของเขาเป็นคนไม่ดีหรือจะนำสิ่งที่ดีมาให้
 
หรือสามารถปกป้องสิ่งที่เลวร้ายต่างๆได้  การเชื่อเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นการตั้งภาคี
 
อีกชนิดหนึ่งเช่นกัน
 
ท่านรอซูล     ได้กล่าวว่า
 
ใครที่แขวนเครื่องรางหรือวัตถุใดๆที่เก็บไว้เพื่อนำเคราะห์ดีมาให้
 
เท่ากับเขาผู้นั้นได้ตั้งภาคีแล้ว (บันทึกโดยอะฮฺหมัดและอัลฮากิม)
 
6  การสาบานกับสิ่งอื่นจากอัลลอฮฺ  เพราะการสาบานกับสิ่งอื่นนั้นแสดงว่า
 
สิ่งนั้นยิ่งใหญ่และสำคัญ  จึงไม่เป็นการสมควรที่จะสาบานกับสิ่งอื่น
 
ท่าน นบี     สอนว่า
 
ใครสาบานอื่นจากอัลลอฮฺ  ดังนั้นเขาได้ตั้งภาคีแล้ว (บันทึกโดยอะฮฺหมัด)
 
นอกจากนั้น  ท่านนบี ฯ ยังได้กล่าวอีกว่า
 
ท่านทั้งหลายอย่าสาบานต่อบิดามารดา  สาบานต่อบรรดาภาคีต่างๆ
 
และอย่าสาบานอื่นจากอัลลอฮฺ  และอย่าสาบานนอกเสียจาก
 
ว่าท่านสัจจริงเท่านั้น (บันทึกโดยอะบูดาวูดและอันนะซาอี) | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Mon Jul 19, 2004 8:25 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				7  การทำอิบาดะฮฺต่างๆด้วยความโอ้อวดเช่น 
 
 ทำละหมาดอย่างดีเพื่อให้คนอื่นชื่นชมเป็นต้น
 
ท่านรอซูล     กล่าวว่า
 
ใครที่ต้องการชื่อเสียง  อัลลอฮฺจะทรงให้เขามีชื่อเสียง
 
และใครที่โอ้อวด  อัลลอฮฺจะทรงให้เขาเป็นคนโอ้อวด
 
(บันทึกโดยมุสลิม)
 
##แบบฉบับของท่านร่อซูลนั้นเหมือนกับอัลกุรอาน##
 
ในการวางข้อบังคับต่างๆของศาสนา
 
บทบัญญัติของอิสลามนั้น  ได้วางข้อบังคับต่างๆให้ผู้ที่เป็นมุสลิมทุกคนต้องปฎิบัติ
 
ตามความแตกต่างกับ ดังนี้
 
1 อัลวุญูบ  หรือที่เรียกว่า  วาญิบ คือ  เมื่อบุคคลไดไม่ยอมปฎิบัติสิ่งนั้น
 
จะได้รับการลงโทษเป็นผลตอบแทน เช่น  อัลลอฮฺทรงใช้ว่า
 
เจ้าทั้งหลายจงดำรงละหมาดและจงออกซะกาต (ทานบังคับ) | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Tue Jul 20, 2004 9:32 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				คำสั่งที่ใช้นี้  หากปฎิบัติตามจะได้ผลบุญ  และหากละทิ้งก็จะถูกลงโทษ
 
คำสั่งของท่านรอซูลก็มีผล  เช่นเดียวกัน  
 
ท่านรอซูล    ใช้ว่า
 
จงให้การรุกัวะอฺและสุญูดสมบูรณ์แบบ 
 
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ  มุสลิม  อะฮฺหมัด  อันนะซาอี)
 
หากไม่ปฎิบัติตาม  ก็ถือว่าทำให้ขาดความสมบูรณ์ลงไป | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		addullslam มือเก๋า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
  
  | 
		
			
				 ตอบ: Tue Jul 20, 2004 9:37 pm    ชื่อกระทู้:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				4  อัลกะรอฮะฮฺ  หรือ  มักรูฮฺ   คือผู้ที่ละทิ้งสิ่งที่ระบุไว้ในตัวบทจะได้รับผลบุญ
 
แต่ถ้าไม่ทิ้งก็จะได้รับโทษตอบแทน
 
เช่น  คำกล่าวของท่านรอซูล      ที่ว่า
 
ฉันจะเป็นหัวหน้าบ้านหลังหนึ่งในสวรรค์สำหรับบุคคลที่ทิ้งการหยอกล้อ
 
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม (บันทึกโดย  อะบูดาวูด)
 
เพราะฉนั้น  การหยอกเล่นนั้นหากทิ้งได้จะได้บุญ  แต่ถ้าไม่ทิ้งก็ไม่เป็นบาป
 
5  อัลอิบาฮะฮฺ  คือ  ให้เลือกได้ทั้งสองทาง  จะละทิ้งไม่กระทำก็ได้
 
จะเลือกกระทำก็ได้ เช่น  
 
คำดำรัสของ  อัลลอฮฺ  ที่ว่า
 
ได้ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้าซึ่งสัตว์ล่าในทะเล(อนุมัติให้จับปลาในทะเล  ขณะอยู่ในอิหฺรอม)
 
และอาหารจากทะเล  ทั้งนี้เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกแก่พวกเจ้า
 
และแก่บรรดาผู้เดินทาง (ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ  อายะฮฺที่ 96)
 
และอีกตัวอย่างหนึ่งคือ  คำกล่าวของท่าน  รอซูล     ที่ว่า
 
สัตว์ตายเองที่อนุมัติให้กินได้มี 2 ชนิด  
 
และเลือดที่กินได้มี 2 ชนิด  ดังนี้
 
สัตว์ตายเองที่กินได้คือ  ปลาและตั๊กแตน
 
ส่วนเลือดก็คือ  ตับและม้าม | 
			 
		  | 
	
	
		| กลับไปข้างบน | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		 |