ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
dabdulla มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 10:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีครับ คุณ israya
อายะห์ที่ 21 นั้นสอดคล้องกับฮาดิษของท่านนบี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยครับ
ถ้าหากปฏิบัติตามแนวทางซุนนะห์แล้ว จะไม่เคลือบแคลงเลยครับ
อายะห์ที่ 21 อัลลอฮ ซบ ทรงบอกเราว่า พระองค์เปิดเผยความลับในเรื่องนี้ ให้แก่บรรดาชาวเมืองได้ทราบ เพื่อที่พระองค์ต้องการให้พวกเขาได้รู้ว่าสัญญาของอัลลอฮเป็นจริง แต่พวกเขากลับถกเถียงกันเกี่ยวกับพวกเขา แทนที่จะยำเกรงอัลลอฮให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก
แต่คนเหล่านั้นดันเถียงกัน ว่าจะเอายังงัยดี จะกั้นกำแพงเลยมั้ย แต่ว่าตัวใหญ่ของพวกเขา
เสนอให้สร้างกุโบร์เพื่อรำลึกถึงพวกเขา
อัลลอฮ ซบ กำลังชี้ให้เห็นถึงความหลงผิดของพวกเขาเหล่านั้น เพราะแทนที่จะนึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮที่ทรงมีแด่ชาวถ้ำเพื่อเป็นสัญญาณ แต่พวกเขาดันทำชิริกแทน
ซึ่งหากไปดูในฮะดิษของท่านนบี ในเรื่องนี้ ท่านจะเห็นความกลมกลืนกันเป็นเนื้อเดียว
ชนิดที่ไม่สามารถแยกได้ ดังนี้คือ
1 ท่านนบีกล่าวว่า จงระวังบรรดาคนที่ล่วงลับไปก่อนหน้าสูเจ้าที่ได้ทำให้หลุมศพของนบีของพวกเขาเป็นที่เคารพสักการะ ฉันห้ามพวกท่านทำเช่นนั้น (บันทึกโดย มุสลิม)
2. อัลลอฮได้ทรบสาปแช่งพวกยิวและคริสเตียนเพราะพวกเขาได้ทำให้หลุมศพของนบีของพวกเขาเป็นสถานที่เคารพสักการะ (โดย อะหมัด บุคอรี มุสลิม และนะซาอี)
ยังมีอีกหลายฮะดิษ ซึ่งซอแฮะห์ทั้งนั้น แต่เอาเฉพาะแค่นี้ พอเรียกน้ำย่อยก่อน
การทำเราไม่ทำสุสานของท่านฮุเซนให้เป็นมัสยิด นั่นก็เพราะอะห์ลุซซุนนะห์ทั้งหมดต้องการจะได้พบกับท่าน และอยู่ร่วมกับท่านในสรวงสวรรค์ของอัลลอฮ วัลลอฮุอะอ์ลัม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
dabdulla มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 10:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอแก้ตรงสร้างกุโบร์ เป็นการสร้างสถานที่เคารพสักการะเพื่อรำลึกถึงชาวถ้ำครับ
ยังชิริกเหมือนเดิมนะครับ แต่ผมพิมพ์ผิด |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 9:37 am ชื่อกระทู้: |
|
|
พวกชีอะ ไม่ได้สุญูดบนดินที่ขุดจากสุสาน แต่ได้อธิบายตลอดมา ตามฮะดีษศอฮีฮว่า จำเป็นต้องสุญูดบนดินทั่วไปที่ไหนก็ได้ ไม่เฉพาะเจาะจง ต้องเป็นดินแห่งเมืองกัรบะลา
แต่ปัญหาสำหรับพวกคุณวะฮาบีคือ สุสาน และอายะนี้เป็นหลักฐานที่คัดค้านความคิดของพวกวะฮาบี วะฮาบีพยายามยัดเยียดว่า คนซอลิห์ผู้นี้ เป็นมุชริก ที่จริงถ้าหากดูตัฟซีร ทุกเล่มจะบอกว่า ชายคนนี้ เป็นคนที่ยึดในหลักเอกภาพของอัลลอฮ์
อัลลอฮ์ มิได้ตำหนิชายคนนี้ พวกวาฮาบีจะใช้ทัศนะตำหนิเขาได้อย่างไร ??หรือว่า เข้าใจหลักเตาฮีดมากก่า อัลลอฮเอง ไม่อยากเชื่อ
อายะนี้ มิได้ให้ความหมายว่า คนซอและฮ์สุญูดสุสาน หรือทำชิร์ก โปรดดูตัฟซีรต่างๆได้ทุกเล่ม แต่ชายคนนั้น ต้องการสร้างที่สุญูดต่ออัลลอฮบนสุสานและอัลลอฮ ก็ไม่ได้ประณามเขา
ฮะดีษห้ามสุญูดสุสานไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการกระทำกับชายคนนั้น
พวกชีอะเอง ก็ไม่ได้สุญูดบนสุสาน และไม่ได้สุญูดสุสานด้วย ดินกัรบะลาที่เอามารองหน้าผาก ก็
ไม่ได้ขุดขึ้นมาจากสุสาน แล้วจะผิดอะไร[B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 9:41 am ชื่อกระทู้: |
|
|
การตัฟซีรอายะกุรอานไปตามจินตนาการของตนเอง ถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง ขอให้สังเกตตัฟวีรต่างๆนะครับ ไม่มีอายะไหนที่ตำหนิชายคนนั้น นอกจากอธิบายกันไปตามมโนภาพกันเอง ยึดความเห็นมาเป็นหลักฐานไม่ได้ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 10:02 am ชื่อกระทู้: กินของต้องห้าม |
|
|
จะขอเรียนเสริมหน่อยนะครับว่า การเป็นชิริก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าสุญูดบนอะไร ต่อให้คุณสุญุด
ตรงต้นไม้ ตรงฝาผนังมัสยิด หรือสุญูดลงบนผ้าสะญะดะ หรือสุญูดบนพื้นในมัสนยิด ก็สามารถ
เป็นชิริกได้ทั้งสิ้น ถ้าหากเนียตของเขา ต้องการเคารพบูชาสิ่งนั้นๆ
คือว่า การทำชิริกนั้น คุณสามารถทำได้เสมอ แม้กระทั่งในยามนอนเฉยๆ คุณก็สามารถทำชิริก
ได้ เพราะการเป็นชิริก มันอยู่ที่จิตใจของคุณต่างหากว่า คุณคิดอย่างไรกับอัลลอฮ์
แน่นอน การสุญูดสุสาน เป็นฮะรอม เป็นสิ่งต้องห้าม แต่ทว่า ทุกๆการงานที่ต้องห้าม ก็มิใช่ว่า
จำเป็นต้องเป็นชิริกเ็เสมอไป เช่น ถ้าคุณกินหมู ก็เท่ากับคุณกินของ ฮะราม จะว่าคุณเป็นชิริก
หรือไม่ ต้องดูว่า คุณคิดอย่างไร กับหมู เสียก่อน ฮะรอม เรื่องหนึ่ง ชิริก ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ฉะนั้นสำหรับคนที่เนียตไม่บริสุทธิ์ตรงต่ออัลลอฮ์องค์เดียว หรือคนที่ยึดถือหลักการอื่น นอก
เหนือจากสุนนะของท่านนบี แล้วไปสุญูดบนผ้าสะญะดะ ที่ทำมาจากเกาหลี โดยฝ่าฝืนคำสั่งของ
ท่านนบี ก็สามารถเป็นมุชริกได้สบายๆ โดยไม่ต้องถึงกับไปสุญูดที่กุโบ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
dabdulla มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 2:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีคนตั้งกระทู้ขึ้นใหม่แล้ว กรณีสร้างมัสยิด เพื่อกราบกุโบร์
กระทู้นี้ ก็พูดถึงเรื่องดินจตุคามกันต่อนะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 5:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอให้ตรวจสอบได้เลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่ผมถกปัญหาเรื่องการสุญูดบนดินกับพวกคุณ ผมได้แสดงหลักฐานที่มั่นคง หนักแน่นและถูกต้อง ตรงตามกระทู้ ตามมาตรฐานวิชาการ มาโดยตลอด
แต่พวกคุณเองได้พยายามใช้เล่ห์ เพทุบาย เหมือนมวยวัด หาทางติดเล็ดตอดน้อย ถ่มน้ำลายใส่หน้าบ้าง กัดใบหูบ้าง งัดเล่หืกลทุกรูปแบบ เพียงเพื่อหวังเอาชนะผมให้ได้อย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและความถูกต้อง ความผิดพลาดแต่อย่างใด
พฤติกรรมของพวกคุณที่มีต่อการเสวนาวิชาการทางศาสนา เหมือนนักเลงอันธพาล ไม่มีความอีมานศรัทธา และความเกรงกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้าแม้แต่น้อย แต่หวังว่า ผู้อ่านทั้งหลายที่มีใจเป็นธรรมคงจะเข้าใจ และมองเเห็นได้อยู่แล้ว
ปัญหาของวาฮาบี กับมุสลิมในมัซฮับต่างๆ ของอิสลามนั้น ใครๆก็รู้ว่า ความตื้นเขินทางความคิด และความรู้เกี่ยวกับอุศูลุดดีน และฟุรูอุดดีน พวกคุณพยายามกดดัน ด่าทอ ประณาม เหยียดหยามอย่างหยาบคาย ต่อคนมุสลิมด้วยข้อหากาเฟร มุชริก และบิดอะ ตลอดมา เพียงเพื่อความสะใจ ไม่ใช่เพื่อชี้นำ ตักเตือนหรือสั่งสอนแต่อย่างใด
ผมพยายามยกหลักฐานต่างๆจากตำราศอฮีฮ์ของพวกคุณมาแสดง ก็เพื่อให้พวกคุณเห็นว่า ความจริงแล้ว ตำแหน่งหน้าผากในเวลาสุญูดนั้น สำคัญใหญ่หลวงนัก วาญิบเดิมที่แท้จริง คือต้องวางบนดิน
ส่วนจะเป็นพื้นดิน หรือก้อนดิน หินทราย หรือแท่งดินที่ทำขึ้นมาเอง ที่พวกคุณพยายามโยกโย้ด้วยเล่ห์อย่างสุดเดชสุดฤทธิ์ นั้น ที่แท้ ก็คือดินที่ท่านนบีกำหนดให้ใช้เป็นที่สุญูดทั้งสิ้น
แต่เนื่องจากพวกคุณส่วนหนึ่งเป็นคนทางใต้ อาจคลุกคลีอยู่กับญาติมิตรพรรคพวกต่างศาสนิกที่มีธุรกิจมีผลประโยชน์กับจาตุคาม ลึกๆพวกคุณอาจรู้สึกได้ถึงความสำคัณของเจ้าจาตุคาม
จึงคาใจอยู่กับสิ่งนั้น ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งสำหรับคนต่างศาสนา ไม่มีในความเชื่อของมุสลิม ถึงแม้พวกคุณจะมีภาพหลอนในหัวใจอยู่กับจาตุคาม
พวกคุณอาจเชื่อถือ เข้าใจในสรรพคุณต่างๆนานาว่า มันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเหตุนี้ พวกคุณพยายามโยงเข้ามาหาเรื่องดินกัรบะลา เพื่อกลบเกลื่อนประเด็นการพูดคุยว่า การสุญูดบนผ้าของพวกคุณนั้นเป็นบิดอะ
แต่พวกคุณใช้เล่ห์ ชิงพาประเด็นไปหาความเชื่อในเรื่องจาตุคาม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อยากบอกพวกคุณว่า การสุญูดบนดิน คนมุสลิมในสายอิมามียะ เขาปฏิบัติกันมาอย่างนี้ต่อเนื่องนับพันปีมาแล้ว
ไม่ได้เกี่ยวตรงไหนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณที่ชื่อว่าจาตุคาม การสุญูดบนดิน ต่างจากผ้าสะญะดะที่ผลิตจากเกาหลี จากจีน ซึ่งถ้ามองในฮะดีษจะเห็นได้ชัดว่า เป็นสิ่งบิดอะอย่างชัดเจน และไม่มีทางเถียงได้
เพราะไม่มีฮะดีษศอฮีฮ์อนุญาตให้สุญูดบนผ้าเด็ดขาด ในยามปกติ และพวกคุณก็ยืนยันเสียงแข็งอย่างไม่รู้สึกละอายใจว่า พวกคุณจะไม่ปฏิบัติตามฮะดีษที่ให้สุญูดบนดิน และหาได้แยแสไม่ว่า การยืนกรานว่าจะไม่ปฏิบัติตามฮะดีษของท่านนบี ก็เท่ากับเป็นกาเฟรอย่างไม่มีทางเลี่ยง
การยกเอานัฟซูหรืออารมณ์ของตนเองเป็นใหญ่ ก็เท่ากับเอาอารมณ์เป็นพระเจ้า หรืออิลาฮ์ ในที่สุดก็เป็นมุชริกนั่นเอง
การสุญูดบนผ้า มิอาจกระทำได้ เด้ดขาด นอกจากในยามอยู่ในทะเลทรายอันร้อนระอุจนวางหน้าผากลงไปบนดินไม่ได้เท่านั้น พวกคุณต่างหากที่ทำบิดอะ พลิกแพลง ล้มล้าง ทำลายคำสอน และแบบอย่างของท่านรอซูลให้หมดไปจากสังคมของพวกคุณ
แล้วยังหน้าด้านโฆษณาตัวเองว่าเป็นพวกที่ทำตามแบบอย่างของท่านนบี อย่างไม่มีความละอายแม้แต่น้อย อีกละหรือ?
พวกชีอะไม่มีความผิดใดๆเลย กับการที่พวกเขาสุญูดบนดินจากเมืองกัรบะลา ดินที่พวกชีอะเอามารองสุญูดในประเทศนี้ มาจากหลายสถานที่ ไม่ได้มาจากกัรบะลาแห่งเดียว
ดินเหล่านี้ ไม่ใช่จาตุคามที่พวกคุณเชื่อ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีอภินิหารใดๆในดินกัรบา และดินกัรบะลา ไม่มีผลทางไสยาศาตร์ตามที่พวกคุณสังหรณ์ และสร้างจินตนาการหลอนหลอกตนเอง
พวกวาฮาบีนั้น เป็นที่รู้ว่า มีความคลั่งไคล้ในแนวความคิดแบ่งแยกคนมุสลิมออกจากพวกตน ถนัดเหลือเกินกับการประณามคนมุสลิม พวกเขาจะมองว่า พวกสุญูดบนดิน เป็นพวกที่โง่เชลา งมงาย และไม่มีความรู้จริง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของพวกเขา และเป็นเพราะการมองคนในแง่ร้ายของพวกเขาเท่านั้นเอง
[B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
AntiRafidah มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 6:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
israya บันทึก: |
ขอให้ตรวจสอบได้เลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่ผมถกปัญหาเรื่องการสุญูดบนดินกับพวกคุณ ผมได้แสดงหลักฐานที่มั่นคง หนักแน่นและถูกต้อง ตรงตามกระทู้ ตามมาตรฐานวิชาการ มาโดยตลอด
แต่พวกคุณเองได้พยายามใช้เล่ห์ เพทุบาย เหมือนมวยวัด หาทางติดเล็ดตอดน้อย ถ่มน้ำลายใส่หน้าบ้าง กัดใบหูบ้าง งัดเล่หืกลทุกรูปแบบ เพียงเพื่อหวังเอาชนะผมให้ได้อย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและความถูกต้อง ความผิดพลาดแต่อย่างใด
|
ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ารอฟิเฎาะ israya ไม่ได้ยกหลักฐานที่ตรงตามกระทู้โดยตลอดตามที่กล่าวอ้าง
แต่กลับได้พยายามใช้เล่ห์ เพทุบาย เหมือนมวยวัด แอบอ้างฮะดีษแบบหมกเม็ด ตัดตอนเอาท่อนหนึ่ง
ของฮะดีษมาแอบอ้างแล้วบิดเบือนเป้าหมาย ดังการเปิดโปงของคุณ ali ในหน้าที่ 12 ข้อความที่ 9 ดังนี้
ali บันทึก: |
ยังไม่พออีกนะ ลงทุนตัดตอนท่อนหนึ่งของฮะดีสมาแอบอ้าง โดยบิดเบือนเป้าหมายของฮะดีสดังนี้
มีริวายะฮ์บางกลุ่มได้สนับสนุนทัศนะดังกล่าวโดยกล่าวว่า ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ได้เชิญชวนบรรดามุสลิมให้สุญูดลงบนดิน ดังที่ท่านหญิงอุมมุซะละมะฮฺ (ภรรยาท่านหนึ่งของท่านศาสดา) ได้รายงานจากท่านศาสดาว่า
ترّب وجهك لله
จงนำใบหน้าของเจ้าวางบนดินเพื่ออัลลอฮฺ
ทำไมผมถึงบอกว่าชีอะฮ์ ตัดตอนเอาท่อนหนึ่งของฮะดีษมาแอบอ้างแล้วบิดเบือนเป้าหมาย เหตุเพราะที่มาของฮะดีสบทนี้คือ
عَنْ أمِّ سَلَمَةَ قَالَتْ رَآى النَبِيُّ صَلَّى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ غُلاَماً لَنَا يُقَالُ لَهُ أفْلَحُ إِذاَ سَجَدَ نَفَخَ فَقَالَ يَا أفْلَحُ تَرِّبْ وَجَّهَكَ
จากอุมมุซะละมะห์ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เห็นเด็กคนหนึ่งที่อยู่กับเรา กล่าวกันว่า เขาชื่อ อัฟลาฮ์ เมื่อเขาสุญูดก็จะเป่า (ฝุ่น) ท่านจึงกล่าวว่า โอ้อัฟลาฮ์เอ๋ย จงให้ฝุ่นติดหน้าของเจ้า ติรมีซี 348
เป็นยังไงละน้องบ่าวเรา ความแตกแล้วไหมละ ตัวบทเต็มๆ นั้นพูดถึงเรื่องการเป่าฝุ่น ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการเอาดินมารองสุญูด
ส่วนในมุสนัดอิหม่ามอะห์หมัด จากอุมมุซะละมะห์ เช่นเดียวระบุว่า
فَلَمَّا سَجَدَ نَفَخَ التُرَابَ
เมื่อเขาสุญูด เขาก็เป่าฝุ่น
นอกจากนี้ท่านติรมีซี ยังได้กล่าวตอนท้ายฮะดีสว่า
وَاخْتَلَفَ أهْلُ العِلْمِ في النَفْخِ فِي الصِلاََةِ
และบรรดานักวิชาการมีความเห็นต่างกันเรื่องการเป่าฝุ่นในขณะละหมาด
เห็นไหมละ น้องบ่าว Israya มั่วได้สะเด็ดยาดเลยจริงๆ
. |
ถ้านำเสนอได้ถูกต้องตรงตามมาตรฐานวิชาการจริง ทำไมจึงถูกเปิดโปงว่าหมกเม็ด
และโดนแฉว่าพลิกลิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
ฉนั้นที่รอฟิเฎาะ israya เขียนมา ก็ไม่มีอะไรนอกจากจะพยายามสร้างเครดิตให้ตัวเอง
หลังจากความน่าเชื่อถือมันกระจุยกระจายไปหมดแล้วนั่นเอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
ali มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 7:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
Israya เอ๋ย
หลักฐานที่มั่นคงของคุณนะ ยังหาไม่เจอหรืออย่างไร ที่พี่น้องซุนนะฮ์เขาถามว่า
มีไหมที่ท่านนบี เอาดินมารองสุญูด ทำไมไม่ยอมตอบ ได้แต่แถไถลเอาตัวรอดไปวันๆ
ถ้ามีหลักฐานว่า ท่านนบีพกดินติดตัว เวลาจะสุญูดก็เอามารองหน้าผาก ถ้ามีหลักฐานที่มั่นคงอย่างว่าก็เอามาแสดง แต่เพราะไม่มี ท่านนบีไม่เคยทำเช่นนั้น
ถ้า Israya เข้ามาแล้วไม่มีหลักฐานหรือวิชาการอันใดมานำเสนอก็หยุดซะ
บอกแล้วไงว่า ผมไม่ฆ่าคุณหรอก แต่คุณอย่ามาฆ่าตัวตายที่นี่แล้วกัน
แล้วโดนคุณ แอนตี้ เอามาแฉจะจะกันอย่างนี้ งามไส้ไหมละ
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Oct 16, 2009 9:52 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ช่วงนี้มีภารกิจยุ่ง เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเสวนากับ คุณ ชีอะฮ israya และวันจันทร์นี้ก็ไปพักผ่อนต่างประเทศใกล้ๆ สามวัน
วันนี้ขอร่วมเสวนาต่อสักเล็กน้อย
คือว่า การสุญุดของชาวอะฮลุสสุนนะฮนั้น เขาสูญูด บนพื้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นอะไรก็ตามที่อยู่บนโลก ที่สะอาด และไม่มีข้อห้ามระบุไว้ ส่วนชีอะฮ เขาสุญูดโดยใช้ดินสุสานอิหม่ามหุสัยน์ที่กัรบาลา ที่ปั้นเป็นรูปวงกลมแกะสลัก เป็นการสุญูดเพราะการเทิดทูลท่านอิหม่ามหุสัยน์ ที่พวกเขายกเกียรติ เทียบเท่าบรรดานบีของอัลลอฮ หรืออาจจะเหนือกว่านบี ด้วยซ้ำ เพราะไม่ปรากฏว่า เขานำดินกุบูรนบีที่นครมะดีนะฮมาปั้นรองหน้าผากแต่อย่างใด พูดไปก็เหมือนอยู่คนละฝั่งทะเล จะตะโกนให้คอแตก ก็ไม่เกิดประโยชน์
อัลกุรอ่านตามความเชื่อของชีอะฮ มี 17,000 อายะฮ ดังที่ตำราชีอะฮระบุไว้คือ
أخرج الكليني: (عن أبي عبدالله عليه السلام قال: إن القرآن الذي جاء به جبريل عليه السلام إلى محمد صلى الله عليه وسلم سبعة عشر ألف آية
อัลกุลัยนีย์ ได้บันทึกจาก อบีอับดุลลอฮ อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า แท้จริงอัลกุรอ่านที่ญิบรีลนำมันมายังมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จำนวน 17,000 อายะฮ (1)
ยิ่งไปกว่านั้น อุลามาอฺชีอะฮชื่อ อัลหุสัยนฺ อันนูรีย์ อัฏฏอ็บริสีย์ กล่าวว่า
يروى عن كثير من قدماء الروافض أن هذا القرآن الذي عندنا ليس هو الذي أنزل الله على محمد صلى الله عليه وآله، بل غير وبدل وزيد فيه ونقص عنه
ได้ถูกรายงานจากบรรดาเราะฟิเฏาะฮยุคก่อน จำนวนมาก ว่า แท้จริง อัลกุรอ่าน ที่อยู่ ณ ที่เรา ไม่ใช่อัลกุรอ่านที่อัลลอฮ ประทานแก่มุหัมหมัด แต่ ทว่า มันถูกบิดเบือน,เปลียนแปลง ,ถูกเพิ่มเติมในมัน และถูกตัดตอนจากมัน(2)
.
เพราะฉะนั้น การสนทนาข้อปลีกย่อยกับชีอะฮ เขาใช่เหล่เหลี่ยม หมกเม็ดได้ตลอดเวลา เพราะเขาไม่ศรัทธาในอกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ และไม่ให้ความสำคัญกับท่านนบีมุหัมหมัดแต่อย่างใด ซึ่งพิสูจน์ได้จาก
ตำราชีอะฮดังนี้
روي النعماني عن الإمام محمد الباقر عليه السلام أنه قال: لما يظهر الإمام المهدي يؤيده بالملائكة وأول من يبايعه محمد عليه الصلاة والسلام ثم علي عليه السلام
อัลนุอฺมานีย์ รายงานจากอิหม่ามมุหัมหมัด อัลบากีร อะลัยฮิสสลาม ว่า เขากล่าวว่า เมื่ออิหม่ามอัลมะฮดีย์ปรากฏตัว โดยที่เขาได้รับการสนับสนุนด้วยบรรดามลาอิกะฮ และบุคคลแรกที่ทำสัตยาบันกับเขา คือมุหัมหมัด อะลัยฮิสสลามหลังจากนั้น อาลี อะลัยฮิสสลาม (3)
......................
แสดงให้เห็นว่า อิหม่ามมะฮดีย์ของพวกเขามีฐานะสูงกว่านบี ซ้ำรายไปกว่านั้นยังอุปโลกน์หะดิษทำลายอาอีฉะฮ ภรรยาของท่านนบี อีกด้วยดูข้างล่างนี้
อัลมัจญลิสีย์ กล่าวว่า
( إذا ظهر المهدي فأنه سيحيي عائشه ويقيم عليها الحد )
เมื่ออัลมะฮดีย์ ปรากฏตัว แล้วเขาจะให้อาอีฉะฮ มีชีวิตขึ้นใหม่ และเขาจะสำเร็จโทษนาง (4)
----------------------
(1) أصول الكافي طبعة الهند ص671
(2) فصل الخطاب طبعة إيران ص32.
(3) حق اليقين، بالفارسية، لمحمد الباقر المجلسي، ص347
(4) حق اليقين للمجلسي ص 347 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Sat Oct 17, 2009 11:22 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอให้ศึกษาภาษาอาหรับให้มากกว่านี้นะ ผมละอายเด็กเหลือเกินด้วยการมาถกปัญหาคำศัพท์อาหรับกับพวกคุณ จริงๆนะครับ มิใช่ดูถูก และผมก็สามารถเดาพื้นฐานความรู้ของพวกคุณได้ ว่า จะเข้าใจภาษาอาหรับสักแค่ไหน คำว่า ตุรอบ คำว่า อัรฎ์ ตามที่ผมแปลมาทั้งหมด ไม่ได้ผิดพลาด คลาดเคลื่อนจจากความเป็นจริง ที่เจ้าของภาษาเขาเข้าใจกันอยู่ คำว่าตุรอบ อาจแปลว่า ฝุ่นก็ได้ แต่ต้องหมายถึงฝุ่นที่เกิดจากดิน หรือฝุ่นดิน ตามทีมีปรากฎในอัลกุรอาน [/B
][B] إِنَّا أَنْذَرْنَاكُمْ عَذَابًا قَرِيبًا يَوْمَ يَنْظُرُ الْمَرْءُ مَا قَدَّمَتْ يَدَاهُ وَيَقُولُ الْكَافِرُ يَا لَيْتَنِي كُنْتُ تُرَابًا﴿٤٠﴾
40. แท้จริงเราได้เตือนพวกเจ้าแล้วถึงการลงโทษอันใกล้ (*1*) วันที่มนุษย์จะมองไปยังสิ่งที่สองมือของเขาได้ประกอบไว้ และผู้ปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า โอ้..ถ้าฉันเป็นฝุ่นดินเสียก็จะดี (*2*)
ฉะนั้นการสุญูดลงบนดิน ไม่ว่าจะเป็นดินพื้น ดินแท่ง ก้อนดิน มักจะทำให้หน้าผากติดรอยฝุ่นจากดินนั้นๆ และนั่นคือ จุดประสงค์ของการสุญูดบนดิน |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
israya มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Sat Oct 17, 2009 11:27 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมไม่คิดอะไรหรอก ใครจะอยู่ หน้าจอ หรือใครจะไปไหน คิดอยู่แต่ว่า ถ้าเขาต้องการทำตามสุนนะนบีจริงๆ แล้วทำไมเขาไม่เลิกสุญูดบนผ้าไหมพรม รูปแบบต่างๆ
และทำไมเขาพูดออกมาได้ว่า พวกเราไม่ยึดถือฮะดีษพวกนั้นกันหรอก
بَاب السُّجُودِ عَلَى الثَّوْبِ فِي شِدَّةِ الْحَرِّ وَقَالَ الْحَسَنُ كَانَ الْقَوْمُ يَسْجُدُونَ عَلَى الْعِمَامَةِ وَالْقَلَنْسُوَةِ وَيَدَاهُ فِي كُمِّهِ
378 حَدَّثَنَا أَبُو الْوَلِيدِ هِشَامُ بْنُ عَبْدِ الْمَلِكِ قَالَ حَدَّثَنَا بِشْرُ بْنُ الْمُفَضَّلِ قَالَ حَدَّثَنِي غَالِبٌ الْقَطَّانُ عَنْ بَكْرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ كُنَّا نُصَلِّي مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَضَعُ أَحَدُنَا طَرَفَ الثَّوْبِ مِنْ شِدَّةِ الْحَرِّ فِي مَكَانِ السُّجُودِ
باب السجود على الثوب في شدة الحر وقال الحسن كان القوم يسجدون على العمامة والقلنسوة ويداه في كمه
378 حدثنا أبو الوليد هشام بن عبد الملك قال حدثنا بشر بن المفضل قال حدثني غالب القطان عن بكر بن عبد الله عن أنس بن مالك قال كنا نصلي مع النبي صلى الله عليه وسلم فيضع أحدنا طرف الثوب من شدة الحر في مكان السجود
الحاشية [/B]
ฮะดีษศอฮีฮ์จากนัยลุลเอาฏอรที่ท่านร้องของมานาน ระบุว่า ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
ali มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003 ตอบ: 295
|
ตอบ: Sat Oct 17, 2009 12:39 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หลักฐานภาษาอาหรับที่ Israya ยกมาว่า
بَاب السُّجُودِ عَلَى الثَّوْبِ فِي شِدَّةِ الْحَرِّ وَقَالَ الْحَسَنُ كَانَ الْقَوْمُ يَسْجُدُونَ عَلَى الْعِمَامَةِ وَالْقَلَنْسُوَةِ وَيَدَاهُ فِي كُمِّهِ
378 حَدَّثَنَا أَبُو الْوَلِيدِ هِشَامُ بْنُ عَبْدِ الْمَلِكِ قَالَ حَدَّثَنَا بِشْرُ بْنُ الْمُفَضَّلِ قَالَ حَدَّثَنِي غَالِبٌ الْقَطَّانُ عَنْ بَكْرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ كُنَّا نُصَلِّي مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَضَعُ أَحَدُنَا طَرَفَ الثَّوْبِ مِنْ شِدَّةِ الْحَرِّ فِي مَكَانِ السُّجُودِ
باب السجود على الثوب في شدة الحر وقال الحسن كان القوم يسجدون على العمامة والقلنسوة ويداه في كمه
378 حدثنا أبو الوليد هشام بن عبد الملك قال حدثنا بشر بن المفضل قال حدثني غالب القطان عن بكر بن عبد الله عن أنس بن مالك قال كنا نصلي مع النبي صلى الله عليه وسلم فيضع أحدنا طرف الثوب من شدة الحر في مكان السجود
الحاشية
แล้วกล่าวตอนท้ายว่า
"ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า"
ทำไม Israya ถึงโกหกได้เพียงนี้ ยกภาษาอาหรับมาโชว์ แต่ไม่แปลความหมาย เพียงต้องการหลอกคนไม่รู้ภาษาอาหรับให้หลงเคลิ้มไปกับความมั่วของคุณ ภาษาอาหรับที่คุณแสดงมานี้ ไม่เกี่ยวกันเลยกับคำพูดของคุณที่ว่า ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า มิหนำซ้ำยังเป็นการกล่าวเท็จต่อท่านนบีอีกด้วย
ผมให้โอกาสคุณอีกที โดยผมจะยังไม่แปลข้อความนี้เพื่อประจานความมั่วของคุณ
แต่ให้โอกาสคุณแปลข้อความด้วยตัวคุณเอง และเปลี่ยนคำพูดของคุณในตอนท้ายเสียใหม่
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
AntiRafidah มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Sat Oct 17, 2009 12:39 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
รอฟิเฎาะหน้าโง่ israya กล่าวว่า
israya บันทึก: |
ขอให้ศึกษาภาษาอาหรับให้มากกว่านี้นะ ผมละอายเด็กเหลือเกินด้วยการมาถกปัญหาคำศัพท์อาหรับกับพวกคุณ จริงๆนะครับ มิใช่ดูถูก และผมก็สามารถเดาพื้นฐานความรู้ของพวกคุณได้ ว่า จะเข้าใจภาษาอาหรับสักแค่ไหน คำว่า ตุรอบ คำว่า อัรฎ์ ตามที่ผมแปลมาทั้งหมด ไม่ได้ผิดพลาด คลาดเคลื่อนจจากความเป็นจริง ที่เจ้าของภาษาเขาเข้าใจกันอยู่ คำว่าตุรอบ อาจแปลว่า ฝุ่นก็ได้ แต่ต้องหมายถึงฝุ่นที่เกิดจากดิน หรือฝุ่นดิน ตามทีมีปรากฎในอัลกุรอาน [/B
|
อย่ามาโม้ให้อายคนดีกว่าครับ ความรู้เรื่องภาษาอาหรับของคุณนั่นแหละครับที่มีปัญหา
ไปถามเจ้าของภาษาก็ไม่มีใครเขาเข้าใจว่าเป็นอันเดียวกันระหว่างอัลอัรฎ กับตุรอบ
แต่เข้าใจว่าตุรอบ เป็นส่วนหนึ่งของอัลอัรฎ และอัลอัรฎก็ไม่ได้มีแค่ตุรอบอย่างเดียว
แต่ยังมีอย่างอื่นเช่นอัลมาอฺด้วย เป็นต้น อะไรเนี่ย ไปสอนหนังสือได้ไง ถ้าแค่นี้ก็ยัง
แยกแยะไม่ออก ก็เพราะมีครูโง่ๆ แบบคุณเนี่ยแหละครับ พวกลูกศิษย์มันถึงได้โง่ตามๆ กันไปหมด
คุณลองไปดูในกอมูซสิครับ ว่าคำว่าอัลอัรฎกับอัตตุรอบมันเป็นคำเดียวกันหรือเปล่า
พื้นฐานความรู้คุณมันอ่อน แม้แต่กอมูซก็ไม่เปิดดู และก็อย่างที่เด็กเรียนศาสนาเค้าพูดกัน
นั่นแหละครับว่า ถ้าคุณไม่เปิดกอมูซ คุณก็เป็นญามูซ อ๋อ คุณรอฟิเฎาะ israya ไม่เปิด
กอมูซนั่นเองถึงได้กลายเป็นญามูซอยู่แบบนี้
และส่วนหนึ่งในความหน้าโง่ทั้งหลายของรอฟิเฎาะ israya ก็คือ มันเชื่อว่าการสูญูดบนพรมหรืออะไรต่างๆ ของเรา
เป็นสิ่งที่เราถือว่าวาญิบ เหมือนกับที่มันเองเชื่อว่าการสูญูดบนก้อนดินเป็นวาญิบ
israya บันทึก: |
ผมไม่คิดอะไรหรอก ใครจะอยู่ หน้าจอ หรือใครจะไปไหน คิดอยู่แต่ว่า ถ้าเขาต้องการทำตามสุนนะนบีจริงๆ แล้วทำไมเขาไม่เลิกสุญูดบนผ้าไหมพรม รูปแบบต่างๆ
และทำไมเขาพูดออกมาได้ว่า พวกเราไม่ยึดถือฮะดีษพวกนั้นกันหรอก
|
เราไม่เคยเนียตจะเคารพบูชา หรือรำลึกถึงผ้าสัจญะดะอะไรใดๆ เหมือนกับการสูญูดบนก้อนดิน
ที่ต้องการจะรำลึกถึงท่านอาลี หรือท่านฮูเซนในการละหมาดด้วยเพราะคลั่งใคล้ในตัวท่านเหล่านั้นแบบรอฟิเฎาะชีอะห์เลย
และคุณก็บอกเองแบบด้านล่างนี้ คิดว่าคงจะไม่หน้าโง่ซื่อบื้อเล่นประเด็นชีริกกับผ้าสะญะดะของเราให้อายคนเล่น
israya บันทึก: |
จะขอเรียนเสริมหน่อยนะครับว่า การเป็นชิริก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าสุญูดบนอะไร ต่อให้คุณสุญุด
ตรงต้นไม้ ตรงฝาผนังมัสยิด หรือสุญูดลงบนผ้าสะญะดะ หรือสุญูดบนพื้นในมัสนยิด ก็สามารถ
เป็นชิริกได้ทั้งสิ้น ถ้าหากเนียตของเขา ต้องการเคารพบูชาสิ่งนั้นๆ
|
ส่วนหลักฐานที่มีศอฮาบะสูญูดบนผ้าในขณะทีท่านนบีอยู่ด้วย แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไร
ไม่ได้ห้ามอะไร และที่ท่านนบีสูญูดบนเสื่อเองก็ยังมี ตามที่ อาจารย์อะสันก็เสนอไปแล้ว
ในหน้า 13 ข้อความที่ 8 แต่คุณรอฟิเฎาะ israya มันหน้าซื่อบื้อไม่ยอมอ่านเอง
asan บันทึก: |
.....................
ไม่เห็นคุณนำหลักฐานมายืนยันการปั้นดินกัรบาลามารองหน้าผาก มายืนยันว่าท่านนบี ทำหรือไม่ เพราะหะดิษข้างต้น เป็นเหตุจำเป็น เพราะพื้นดินร้อน จึงหาดินที่ทำให้เย็นแล้วมารอง และดินนั้น ไม่ได้จำกัดเจาะจงว่าดินที่ใหน และ บางครั้งสาวกของท่านนบี ก็เอาผ้ามารองหน้าผากเวลาสุญูด เพราะพื้นดินร้อน ดังหะดิษ
عن أنس بن مالك قال : كنَّا نُصلِّي مع النَّبي صلى الله عليه وسلم فَيَضعُ أحدُنا طرفَ الثوبِ من شدَّة الحرِّ في مكان السجود .
รายงานจากมาลิก บิน อะนัส กล่าวว่า " พวกเราละหมาดพร้อมกับนบี แล้วคนหนึ่งในหมู่พวกเราได้วางชายผ้าในที่ที่สุญูด เนื่องจากร้อนจัด - รายงานโดย บุคอรี(หะดิษหมายเลข 378 และมุสลิม หะดิษหมายเลข 620
[B]ในยามปกติบางครั้งท่านนบี สุญูดบนเสื่อ ขณะละหมาด
عنْ جَابِرٍ قال : حَدَّثَنِي أَبُو سَعِيدٍ الْخُدْرِيُّ أَنَّهُ دَخَلَ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : فَرَأَيْتُهُ يُصَلِّي عَلَى حَصِيرٍ يَسْجُدُ عَلَيْهِ
รายงานจากญาบีร กล่าวว่า อบูสะอีดอัลคุดรีย ได้เล่าเราว่า เขาเข้าไปหาท่านนบี โดยเขากล่าวว่า ฉันได้เห็นท่านนบี ละหมาดโดยสุญูดบนเสื่อ - รายงานโดยมุสลิม
ส่วนการสุญด บนดินปั้นจากกัรบาลา โดยทำเป็นรูปคล้ายจตุคาม พร้อมแกะสลักดังภาพข้างล่าง นั้น คุณเอาหลักฐานมาจากใหน แน่นอนมันคือบิดอะฮที่ถูกอุปโลกน์มาจากความคลั่งใคล้ในตัวอิหม่ามหุสัยน์ใช่หรือไม่?[/b]
|
ก็รายงานจากตำราศอเฮียะของเราเอง ที่รอฟิเฎาะ israya
เคยยกฮะดีษอื่นๆ จากที่เดียวกันมาแล้วบอกว่าเป็นตำราที่เราต้องเชื่อไม่ใช่หรือ?
นอกจากซื่อบื้อมองไม่เห็นที่อาจารย์อะสันชี้เเจงแล้ว ยังซื่อบื้ออีก 2 อย่าง คือ
1.ซื้อบื้อที่ถามคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ที่คุณถามนั้น เขาตอบไปตั้งนานแล้ว แต่คุณไม่อ่านเอง
2.เหตุที่ทำซื้อบื้อไม่อ่าน ก็เพราะว่าต้องการจะหลบเลี่ยงคำถามของอาจารย์อะสันที่ถามรอฟิเฎาะแบบคุณ
มาทำหน้าโง่ตรวจสอบหลักฐานของเรา แต่ของๆ ตัวเองก็ยังไม่เคลียว่ามีหลักฐานหรือเปล่า
ถ้ามีก็ตอบที่อาจารย์อะสันเขียนถามไว้ซะด้วย อย่าเอาแต่ขี้โม้ไปวันๆ มันไม่ได้สาระอะไร |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
AntiRafidah มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Sat Oct 17, 2009 12:42 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
โอพี่น้องมุสลิมทุกท่านครับ ท่าทางเราจะได้เปิดโปงการหมกเม็ดของรอฟิเฎาะชีอะห์อีกครั้งแล้ว ตามข้อความที่คุณ ali ได้เขียนไว้ในหน้าก่อน
ali บันทึก: |
หลักฐานภาษาอาหรับที่ Israya ยกมาว่า
بَاب السُّجُودِ عَلَى الثَّوْبِ فِي شِدَّةِ الْحَرِّ وَقَالَ الْحَسَنُ كَانَ الْقَوْمُ يَسْجُدُونَ عَلَى الْعِمَامَةِ وَالْقَلَنْسُوَةِ وَيَدَاهُ فِي كُمِّهِ
378 حَدَّثَنَا أَبُو الْوَلِيدِ هِشَامُ بْنُ عَبْدِ الْمَلِكِ قَالَ حَدَّثَنَا بِشْرُ بْنُ الْمُفَضَّلِ قَالَ حَدَّثَنِي غَالِبٌ الْقَطَّانُ عَنْ بَكْرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ كُنَّا نُصَلِّي مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَضَعُ أَحَدُنَا طَرَفَ الثَّوْبِ مِنْ شِدَّةِ الْحَرِّ فِي مَكَانِ السُّجُودِ
باب السجود على الثوب في شدة الحر وقال الحسن كان القوم يسجدون على العمامة والقلنسوة ويداه في كمه
378 حدثنا أبو الوليد هشام بن عبد الملك قال حدثنا بشر بن المفضل قال حدثني غالب القطان عن بكر بن عبد الله عن أنس بن مالك قال كنا نصلي مع النبي صلى الله عليه وسلم فيضع أحدنا طرف الثوب من شدة الحر في مكان السجود
الحاشية
แล้วกล่าวตอนท้ายว่า
"ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า"
ทำไม Israya ถึงโกหกได้เพียงนี้ ยกภาษาอาหรับมาโชว์ แต่ไม่แปลความหมาย เพียงต้องการหลอกคนไม่รู้ภาษาอาหรับให้หลงเคลิ้มไปกับความมั่วของคุณ ภาษาอาหรับที่คุณแสดงมานี้ ไม่เกี่ยวกันเลยกับคำพูดของคุณที่ว่า ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า มิหนำซ้ำยังเป็นการกล่าวเท็จต่อท่านนบีอีกด้วย
ผมให้โอกาสคุณอีกที โดยผมจะยังไม่แปลข้อความนี้เพื่อประจานความมั่วของคุณ
แต่ให้โอกาสคุณแปลข้อความด้วยตัวคุณเอง และเปลี่ยนคำพูดของคุณในตอนท้ายเสียใหม่
.
|
เอ้า รอฟิเฎาะ israya มาแปลหน่อยเร็ว รอเปิดโปงความหมกเม็ดของญะมูซแบบคุณอยู่นะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|