ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sat Jun 26, 2004 10:42 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แก้ไข......
4. ฮาดิษมาจากรอซูล และที่คุณว่าไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในสมัยนี้ ฮาดิษใหน และคุณจะยืนยันไหม ว่าสิ่งที่มาจาก รอซูลนั้น ใช้ไม่ได้?
ผมไม่เคยบอกว่าผมไม่เชื่อ ฮาดีษ ที่มาจากปากของท่านรอซูลโดยตรง เช่น ในอายะ 6-114 ผมบอกว่าผมไม่เชื่อ ในความแท้จริงของ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ รวมทั้ง ฮะดีษ อื่นๆ ด้วย
ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ที่ ท่าน อีหม่าม มุสลิม, บุคอฮ์รี จัดรวบรวมมา พิสูจน์ ไม่ได้ว่า เป็น คำพูด คำสอน ของ ท่าน รอซูลที่แท้จริง ไม่ว่าท่านจะว่าแท้จริงเท่าใด ไม่มีคำรับ รองจาก อัลกุรอาน การจดจากการบอกเล่า ปากต่อปาก ว่า เป็น คำกล่าว ของท่าน รอซูล, ไม่ใช่ วะฮีย์" อัลกุรอานเท่านั้น ที่เป็น วะฮีย์ มาจาก อัลลอฮ์, ส่วน ฮะดีษ ศอเฮียะห์ อาจจะเป็นคำพูดเพ้อเจ้อ จาก ผู้เล่า หรือ จาก ความฝัน ของ บุคคล ต่างๆ ของผู้เล่าก็ได้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
yoohoo มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: 17/02/2004 ตอบ: 65
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 12:08 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขออนุญาตเรียนถามคุณ matt นิดนึงครับว่า คุณไม่เชื่อฮะดีษที่รายงานจากสายรายงานการบันทีกของอิมามบุคอรี และคนอื่นๆ แล้วคุณจะเชื่อสายรายงานของอะฮฺลุลบัยต์ และบรรดาอิมามต่าง ๆ ทางสายนี้มั้ย หรือว่าคุณก็ปฏิเสธเช่นเดียวกันว่าใช้ไม่ได้เหมือนกัน และอีกคำถามนึงว่า คุณเลือกที่จะปักใจเชื่อประวัติศาสตร์ที่มีผู้บันทึกไว้ว่าถูกต้องมากกว่ามาตรฐานของฮะดีษใช่มั้ยครับ เพราะเหตุใด ? ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นเรื่องที่มนุษย์ที่ไหนก็ไม่ทราบได้เขียนบันทึกขึ้นมา จะจริงหรือเท็จคุณพิสูจน์ได้อย่างไร พิสูจน์โดยใช้อัลกุรอานอย่างเดียวหรือไม่ครับ ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kodomo มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 30/12/2003 ตอบ: 15 ที่อยู่: bkk
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 1:56 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: |
ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ที่ ท่าน อีหม่าม มุสลิม, บุคอฮ์รี จัดรวบรวมมา พิสูจน์ ไม่ได้ว่า เป็น คำพูด คำสอน ของ ท่าน รอซูลที่แท้จริง ไม่ว่าท่านจะว่าแท้จริงเท่าใด ไม่มีคำรับ รองจาก อัลกุรอาน การจดจากการบอกเล่า ปากต่อปาก ว่า เป็น คำกล่าว ของท่าน รอซูล, ไม่ใช่ วะฮีย์" อัลกุรอานเท่านั้น ที่เป็น วะฮีย์ มาจาก อัลลอฮ์, ส่วน ฮะดีษ ศอเฮียะห์ อาจจะเป็นคำพูดเพ้อเจ้อ จาก ผู้เล่า หรือ จาก ความฝัน ของ บุคคล ต่างๆ ของผู้เล่าก็ได้
|
ช่วยตอบด้วย !
อัลกุรอานได้มาอย่างไร ?
แล้วคุณเชื่อถือและศรัทธาอัลกุรอานได้อย่างไร ?
ในเมื่อคุณไม่เชื่อฮาดีษที่คุณว่าเป็นคำพูดที่เพ้อเจ้อ
...เอ๊ะ..หรือคุณได้รับวาฮีเอง !?!
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 3:52 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุมคุณ tohtah และคุณ Yoohoo
ต้องขออภัย คุณยูฮู ก่อนนะครับ ตอนนี้ในสหรัฐอเมริกา ทางตะวันออกนี้ ประมาณ 4 โมงเย็น คำถามของคุณผมจะสนทนาด้วยในคืนวันนี้ ก็เป็น เวลาเช้าวันอาทิตย์ ของคุณ หลัง จากทำงานที่ร้านแล้ว
ของคุณ Tohtah นี้ตอบง่ายมาก เลยขอตอบก่อน
คำถาม:
อัลกุรอานได้มาอย่างไร ?
แล้วคุณเชื่อถือและศรัทธาอัลกุรอานได้อย่างไร ?
ในเมื่อคุณไม่เชื่อฮาดีษที่คุณว่าเป็นคำพูดที่เพ้อเจ้อ
...เอ๊ะ..หรือคุณได้รับวาฮีเอง !?!
คำตอบ:
ถ้าคุณสังเกตให้ดี จะเห็นว่า ผมขึ้นต้นการตอบปัญหาเหล่านี้ ในเวบนี้ ด้วย หลักความศรัทธา ต่อความมีอยู่, คงอยู่, หรือ สถิต อยู่ ของพระเจ้า ผู้สูงสุด องค์ เดียว เท่านั้น นั้นก็คือ คำว่า อัลลอฮ์ ในภาษา อรับ
1. ส่วนหนึ่งเป็นคำปฏิญาณและสาบานยืนยันความศรัทธาที่เชื่อมั่นในสภาพคงอยู่ของ อัลลอฮ์ (ตามที่อธิบายไว้ ข้างต้น)
2. อีกส่วนหนึ่งเป็นการยืนยันว่าเรามีความเชื่อมั่นว่า ท่านนบีมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตที่แท้จริงของอัลลอฮ์
ถ้าคุณมีความเชื่อมั่น หรือ ศรัทธาที่แท้จริง ใน สองข้อนี้แล้ว ความศรัทธา ใน"ความแท้จริง ความมีรายละเอียด และความสมบูรณ์ ของ ข้อความ บัญญัติไว้ ใน อัลกุรอาน, โดย อัลลอฮ์ วะฮีย์ ให้ท่าน นบีมูฮัมมัด เปล่งเสียง หรือ กล่าวบัญญัติ นั้นๆ ออกมา ก็จะ ตามมา โดย ไม่มีเงื่อนไข
แต่ถ้าคุณปฏิญาณ ในสองข้อข้างบน ตามประเพณีแล้ว คุณ จะไมม่มีความเกรงกลัว ต่อ อัลลออ์ แต่คุณ จะเกรงกลัว มนุษย์ ธรรมดา และ ปฏิบัติ ตามคำสั่ง ของ เขา เหล่านั้น มากกว่าตาม คำสั่ง ของ อัลลออ์ ที่มีบัญญัติ ไว้ ในอัลกุรอาน
คุณอ่านกระทู้เรื่อง รู้ไว้ได้ประโยชน์เรื่องของ 4 อิมาม ของคุณ addullslam ผมว่าเราจะได้ความคิดในหลักการ ของ อิสลาม ดีทีเดียว เพราะว่า ท่าน อีหม่าม ทั้ง สี่ ใช้ อัลกุรอาน เป็น หลักตัดสินในความศรัทธา แม้แต่ว่า ถ้ามีความ สงสัย ในซุนนะใดๆ ของ ท่าน นบี ถ้าไม่ตรงกับอัลกุรอาแล้ว เป็น อัน ว่า ใช้ อะไร ไม่ได้ ต้องโยนทิ้งไป
แต่ท่านอีหม่ามผู้จดบันทึก คำบอกเล่า ผ่าน ปาก ต่อ ปาก บางครั้ง ไม่มีพยาน เป็นคำเล่า คำกล่าว เกี่ยว กับ ท่าน นบี มูฮัมมัด ไม่ด้ระบุหรือ ใส่ ไว่ ใน คำบรรยาย ว่า ถ้าเรื่องที่เล่า มานี้ ไม่ตรง กับอัลกุรอาน ที่บัญญัติไว้ แล้ว ขอให้ อย่าใส่ใจ
แทนที่จะใช้อัลกุรอานเป็นหลักการอันดับหนึ่่ง จัดอันดับ ตั้ง แต่ เรื่องเล่า ที่ ไม่มีความจริง ไปจนถึงเรื่อง ที่ เขาเหล่านั้น คิด ว่า มีความจริง อย่างที่สุด แม้กระนั้น ฮาดีษ ซอเฮียะฮ์ เหล่านั้น ก็ยังมีความไม่จริง ปนอยู่
จากคำถาม... แล้วคุณเชื่อถือและศรัทธาอัลกุรอานได้อย่างไร ?
ในเมื่อคุณไม่เชื่อฮาดีษที่คุณว่าเป็นคำพูดที่เพ้อเจ้อ
ต้อง มีศรัทธาในอัลลออ์เสียก่อน อ่านอายะห์ 6-112 ถึง 6-117
ฮะดีษ แปลว่าเรื่อง เล่าต่อๆ กันมา เกี่ยวกับ ว่า เคย เห็น หรือ เคย ได้ ยิน ว่า ท่าน นบี พูดหรือทำอะไร, หนังสือ อะฮาดีษ เหล่านี้ ไม่มี พยาน โดย อัลลอฮ์ หรือ ท่านรอซูลล์ ตัวท่านเอง ฮะดีษ ถูกประดิษฐ์ ขึ้นหลังจาก ท่าน รอซูลล เสีย ชีวิตไปแล้ว ประมาณ 200ปี มันเป็นแค่การจดบันทึกของเรื่อง เล่า เท่านั้น ไม่มีน้ำหนัก เท่าอัลกุรอาน และจะเอามาเสมอกันไม่ได้ หรือ ใช้ อธิบายอัลกุรอานก็ไม่สมควร จะนำมาเทิดทูลเหนือ หัว ก็ไม่ได้ ซึ่งการ ทำ เช่นนั้น เท่า กับการ ซูยูด ให้กับ หนังสือเล่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งขัดต่อหลักการ ของอิสลาม
แต่อัลกุรอาน ท่านรอซูล ท่านตรวจสอบด้วยตัวท่านเอง และรับรอง ว่า เป็น หนังสือ และบัญญัติ จาก อัลลออ์
เชื่อผมเถิดคุณ ถ้าคุณ เข้าใจความหมายของ ชะฮะดะห์ ที่แท้ จริง แล้ว คุณ จะไม่มีคำถามเหล่านี้ เกิด ขึ้น ในหัวใจคุณเลย
ถ้าคุณจะถามผมหรือคัดค้าน หลักวิชาอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับความศรัทธาแล้ว คงเป็นเรื่อง ธรรมดา แต่ ถ้าเราขาดศรัทธา แล้ว ยากที่จะ ตอบ ให้คุณเชื่อได้ว่า อายะห์ 6-114 นั้น เป็น บัญญัติของอัลลออ์ ที่แท้จริง
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
addullslam มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 19/05/2004 ตอบ: 672
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 9:58 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อย่าใช้วิธีตัด net มันไม่ถูกต้อง
อัสสะลามมุอะลัยกุม ขอทำความเข้าใจให้ถูกต้อง เพื่อคุณ matt และมุสลิมจะได้เข้าใจให้ถูกต้อง
เรื่องคำพูดของ 4 อิมาม ทั้ง 4 อิมามได้พูดว่า ถ้าคำพูดของฉันค้านกันกับ อัลกุรอานและหะดีษ
ก็ให้ไปยืด อัลกุรอานและหะดีษ และโยนคำพูดของฉันทิ้งไป
แต่คุณกลับเข้าใจว่า @
คุณอ่านกระทู้เรื่อง รู้ไว้ได้ประโยชน์เรื่องของ 4 อิมาม ของคุณ addullslam ผมว่าเราจะได้ความคิดในหลักการ ของ อิสลาม ดีทีเดียว เพราะว่า ท่าน อีหม่าม ทั้ง สี่ ใช้ อัลกุรอาน เป็น หลักตัดสินในความศรัทธา แม้แต่ว่า ถ้ามีความ สงสัย ในซุนนะใดๆ ของ ท่าน นบี ถ้าไม่ตรงกับอัลกุรอาแล้ว เป็น อัน ว่า ใช้ อะไร ไม่ได้ ต้องโยนทิ้งไป $
ซึ่งไม่ถูกต้อง
อัลลอฮฺ ตรัสว่า ถ้าท่านทั้งหลายกลัวอัลลอฮฺอย่างจริงใจอัลลอฮฺจะประทาน อัลฟุรกอนให้แก่ท่าน##
อยู่ในโองการได ผู้รู้คงไม่ต้องหามาให้ แต่ท่านได้หรือยังหรือไม่กลัว อัลลอฮฺอย่างจริงใจ
วัสสะลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 10:37 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุมคุณ addullslam
ผมต้องขอมะอัฟด้วยไม่มีเจตนาจะตัดข้อเขียนของคุณด้วยเจตนา อันใดเลย อาจจะเป็น เพราะ ความเข้าใจ ทีฝัง ลึกอยู่กับความรู้สึกของผมเกี่ยวกับหลักการใน การตัดสิน ความแท้จริง ของฮาดีษ โดย อาศัยอัลกุรอานเป็นหลัก และการติด ตามอ่านเรื่อง สี่อีหม่าม ของคุณมาเป็นเวลานาน ผมอาจจะจำคลาดเคลื่อนไป ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจ มีส่วนไหน ตอน ไหน ที่ผม อ้าง และ ผิดไปจาก ความหมายที่คุณ ตั้ง ใจไว้ ช่วยกรุณา บอก ด้วย, ผมว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ ให้ความรู้ที่ดี ถ้าคุณจะกรุณาผมอยากจะทราบ ระยะช่วง เวลา ของ ท่านอีหม่ามทั้ง สี่ ที่ท่านมีชีวิตอยู่ ของแต่ละท่าน ถ้าคุณจะช่วยกรุณาหาให้ผมได้ จะขอบคุณอย่างยิ่ง
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 11:40 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอะลัยกุมคุณ Ahlussunnah
เรียนคุณ Ahlussunnah ที่นับถือ ผมต้องขอ อนุญาต เอากระทู้ที่คุณเปิด มาตอบในที่นี้ และขอ ใช้การเขียนด้วย ภาษาไทยกับคุณ นะครับ หวัง ว่าคุณ คง ให้อภัย เพราะ ว่า ผมอยู่อเมริกา มาประมาณ เกือบ 40 ปีแล้ว และท้องที่ๆ ผมอยู่ ก็ไม่มีคนไทยที่ จะคุยกัน ได้ แบบไทยๆ เลย ผมเลยกลาย เป็น บุคคล ประเภท ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ ภาษาไทยก็เลอะ, ซึ่งคุณคงเห็นจาก การเขียน ทั้ง ภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ ของผม ผมหวัง ว่าคุณคง ไม่รังเกียจ ที่จะคุยกันด้วยภาษาไทย นะครับ ความจริง แล้วผมไม่ทราบว่า คุณตั้งใจจะถามอะไร จากผม แต่พอจะเข้า ใจว่า คุณคาดคะเนเอาเอง เกี่ยวกับความศรัทธาของผม ผมจึงอยากจะตอบคุณ ในรูปนี้
ผมไม่แน่ใจว่าคุณทราบหรือไม่ว่า การที่แบ่งแยกศาสนาออกเป็นนิกายต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถุกต้อง ตามหลักการของอิสลาม(ซูเราะฮฺ อัล-อันอาม (6) อายะ 159) เพราะเป็นการกระทำที่ ไม่ได้กระทำตามคำสอนของท่านรอซูล ซึ่งท่านรอซูล,ไม่มีส่วนเกี่ยวของด้วย พวกที่แบ่งแยกศาสนาออกเป็นนิกายต่างๆนั้น จะถูกตัดสิน โดยพระองค์ อัลลอฮ์ที่ ซึ่งพระองค์อัลลอฮ์ จะเป็นผู้แจกแจง ความผิดของเขา ทั้งนี้เพราะ หลักการของศาสนาอิสลามห้าม การแตกแยก ออกเป็นกลุ่มหรือ นิกายต่างๆ ที่เป็นอยู่ กัน ในทุกๆวันนี้ ถ้าผู้ใดก็ตามตั้งนิกายขึ้นมา ถือว่าไม่ได้ตามซุนนะห์ ของท่านรอซูล
พระองค์อัลลอฮ์ ทรงบัญญัติไว้อีกว่า (ซูเราะฮฺ อัรฺรูม(30) อายะ 32) พวกที่แบ่งศาสนาออกเป็นนิกายต่างๆ ก็เปรียบเหมือน ตกอยู่ ในหมู่ ของพวกที่บูชารูปปั้น เพราะ ต่างกลุ่ม ต่าง ก็ ยินดี และพอใจกับหลักการที่เขาสร้าง ขึ้น นอกเหนือไปจาก หลักการที่แท้จริง ในอัลกุรอาน
จากความ หมายของ อัลกุรอาน ทั้งสอง อายาตนี้ เห็น ได้อย่างชัด เจน ว่า ศาสนาอิสลาม ห้ามการ แตกความสามัคคีกัน การแบ่งกลุ่ม แตก ออก เป็นนิกาย ต่างๆ ทำให้ มุสลิม อ่อนแอ นี่ก็เป็น สาเหตุหนึ่ง ที่เป็นจุด อ่อน ของมุสลิมทุกวันนี้
ถ้าถามผมว่า เป็น ชีอะต์ หรือ ซุนนีย์ หรือ มุสลิมในนิกายใดๆ แล้ว ผมคง ตอบ ได้แต่เพียง ว่า ผมเป็น มุสลิมผู้หนึ่่ง ที่ยึดอยู่ ในประเพณี ที่ถ่ายทอดกันเป็น เวลานาน หลายชั่วคนทีเดียว, ผมมองเห็นความแตกแยก ของพี่น้อง มุสลิม แทบทุกสังคม ในโลก เลยทำให้เกิด ความสนใจ ในการหาค้น หาว่า เพราะ เหตุใด มุสลิมถึงแตกแยก กัน เป็น นิกายต่างๆ ประมาณ 72-73 นิกาย และสงสัยว่า ทำไม ซุนนีย์ มุสลิม จึงไม่ยอมรับ ชีอะต์ มุสลิม ในเมื่อ เชื่อ ถือ ใน ฮะดีษ เช่นกัน ผมยิ่งสงสัยมากขึ้นเมื่อ เห็น ฮะดีษ ซอเฮียะ ต่อไปนี้ ที่ถุกบันทึกในเวลาเดียวกัน จากการเทศนาครั้งสุดท้าย ของ ท่าน ศาสดามูฮัมมัด ที่ถุก บันทึก ไว้ 3 ภาคที่ต่างกัน คือ
ภาคที่1. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน อัลกุรอาน และ ซุนนะห์ (มุวัตตะ, 46/3)
ภาคที่2. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน อัลกุรอาน และ อะฮ์ลาลบัยต์ (อะฮ์ลุลบัยต์)
(มุสลิม 44/4, นู2408; อิบนฺ ฮะนะบาล4/366; ดอริมิ23/1; นู 3319)
ภาคที่3. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก ท่าน (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56)
ภาคที่ 1. คือภาคที่ มุสลิมส่วนใหญ่ ซุนนีย์ มุสลิม เชื่ิอ ว่า แท้จริง
ภาคที่ 2. คือภาคที่ มุสลิม ชิอะต์ เชื่อว่าแท้จริง
ส่วนภาที่ 3. นั้น คงหามุสลิมเชื่อว่า แท้จริง ยากมาก แต่อย่างไรก็ตาม
ภาคที่ 3 ที่กล่าวว่า เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก ท่าน ภาคที่ 3 นี้มี ฮะดีษ ซอเฮียะ หลายสายที่สนับสนุน ตัวอย่างเช่น
1. ฮะดีษ ซอเฮียะ มุสลิม เล่ม 7เลขที่ 2803/1 ฮัจจฺ (กีตาบ- อัลขฮัจจฺ) กล่าวถึง คุตอบะฮ์ ครังสุดท้ายของท่าน รอซูลล บรรยายโดย ญาบิรอิบนฺ อับดุลลอฮ์ ว่า
ท่านรอซูลล........กล่าวว่า ฉัน(มูฮัมมัด) ทิ้งหนังสือของอัลลอฮ์ (อัลกุรอาน), และถ้าพวกท่านยึดถืออัลกุรอาน(เป็นทางดำเนินชีวิต) อย่างมั้่นคงแล้ว ท่านจะไม่หลงทางอย่างแน่นอน.
2. ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บุคอรีย์, หมวด 9, เล่ม 92, เลขที่ 374
บรรยายโดย....อะนัสบินมาลิก : ว่า เขาได้ยิน อุมมาร์ กล่าว ขณะที่ท่านยืน อยู่บน แท่น คุตอบะห์ ของท่านรอซูลล์(ฮัมมัด) ในเวลาเช้า, หลังจาก วันที่ท่านรอซูลล์(มูฮัมมัด) ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว , เมื่อฝูงชนกล่าวปฏิญาณให้ความสวามิภักดิ์ ต่อ อะบูบาคร์. ท่านอุมาร์ผู้นั้น กล่าวว่า, ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์อัลลออ์ โดยยกนื้วชี้้ของมือขวา ขึ้น และลดนิ้วชี้นั้นลงเมื่อ กล่าว ชาฮาดะห์จบต่อหน้า อาบูบาคร์, และกล่าว, ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง, พระองค์อัลลอฮ์, ได้เลือกเฟ้น ท่านรอซูลล์ ให้อยู่กับพระองค์ บนสรวงสวรรค์ แทนที่จะให้อยู่กับพวกเราบนโลกมนุษย์, สิ่งนี้คือหนังสือ(อัลกุรอาน) สิ่งซึ้ง ฮัลลอฮ์ ได้ใช้ให้ เป็น หลัก แนะแนวทางปฏิบัติ ของท่านนบีมูฮัมมัด, ดังนั้นจงยึดมั่นต่ออัลกุรอาน, เพื่อที่ว่าท่านจะได้รับแนวทางที่ถูกต้องเช่นเดียวกับที่ อัลลออ์ ใช้เป็นสิ่งแนะนำแนวทาง แก่ รอซูลล์(มูฮัมมัด) ของท่าน
3. ซอเอียะ บุคอรี, ซอเอียะ Mมุสลิม, ฟัตขฮุล บะรี, ตับรอนิ, ตอริคฮ์ อะฮ์มะดิ
เพื่อตัดความให้สั้นลงโดยไม่ถอยหลังกลับไปเล่าประวัติศาสตร์ ้ ไปถึง อุมายยิดและอับบาซิด คอลิฟ....ท่านอุมมาฮ์ผู้โชคร้ายผู้หนึ่งได้ตัดสินใจผิด, หลังจากการจากไปของท่านรอซูล, แม้แต่กระทั่งจนวินาทีสุดท้ายท่านอุมาฮ์ ท่านนี้ขอร้องให้ผู้ติดตามท่านให้นำ กระดาษและปากกาเพื่อว่า ท่านอุมมาฮ์ผู้นั้น จะได้เขียนข้อความที่จะป้องกัน พวกเขาจากการ หลงทางแห่งความศรัทธา ภายหลังจากท่าน, แต่ผู้คนที่อยู่รอบข้างท่าน ไม่ต้องการให้ท่านอุมมาฮ์ บอกความตั้งใจของท่านด้วยการจดบันทึก, และมีสาวกผู้หนึ่งกล่าวว่า
หนังสือของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน)นั้นเพียงพอสำหรับเราแล้ว
4. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก
ท่าน (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56)
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทำไม ภาค ที่ 3 ถึงไม่มีผู้ที่ เชื่อถือใน ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ยึดถือ เหมือน ภาคที่ 1 และ 2 ทั้งๆ ที่ มี การบันทึกยืนยัน อยู่ มากกว่าทุกๆ ภาค แม้กระนั้น ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บทนี้ ตรงตามบัญญัติ ในอัลกุรอาน อายะ 6-114, และมุสลิมบางท่าน แทบจะไม่เคยเห็น ฮะดีษ เหล่านี้ เลย โดยเฉพาะ ยุวมุสลิมที่ ไม่ชอบอ่าน ฮะดีษ แต่ชอบ นั่งฟัง เท่านั้น แบบนี้จะถือว่าเขาเหล่านั้นปฎิเสธ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ หรือไม่?
และถ้าเขาปฎิเสธ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บทนี้ แล้วจะ ถือว่า เป็น กาเฟร หรือไม่ ?
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nuroiya มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003 ตอบ: 41
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 1:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | "nuroiya"
สวัสดี คุณ Matt ค่ะ
ดิฉันได้โพสต์เกี่ยวกับวิธีการละหมาดถามคุณมาหลายรอบแล้วน่ะค่ะ แต่คุณก็ไม่เคยตอบซักที กลิ้งไปกลิ้งมา คุณยังไม่ต้องไปตอบเรื่องอื่น ๆ หรอก คุณเอาเรื่องง่าย ๆ ก่อนเถอะ ดิฉันจะเอาคำถามเก่ามาถามคุณ
ดิฉันได้อ่านแล้วเข้าใจว่าไม่มีใครหน้าไหนที่จะหาญกล้าปฏิเสธ อัล-กุรอาน หรอก แต่จะต้องนำ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม มาประพฤติปฏิบัติเป็นรูปแบบ
ตัวอย่างเช่น เวลาเราจะละหมาด เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เราจะต้องยกมือตักบีรอย่างไร เราจะต้องรู่กัวะอย่างไร เราจะต้องสู่หยูดอย่างไร เราจะต้องตะฮิยัตอย่างไร และเวลาคุณละหมาด คุณอ่านอะไรบ้าง ดิฉันอยากรู้ค่ะ ถ้าต้องการถามดิฉันว่าอ่านอะไรบ้าง แจ้งมาค่ะ จักบอก......ให้
|
ดิฉันจะถามอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะได้รับคำตอบ เพื่อที่จะได้ให้สังคมมุสลิมกระจ่างชัดเจน
เมื่อใดที่คุณยังไม่ตอบ สังคมก็จะได้รู้ว่าคุณนั้นบิดเบือนศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูว่าตะอาลา _________________ "จงยึดมั่นในสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮฺโดยพร้อมเพรียงกัน และอย่าได้แตกออก หรือแตกต่างจากศาสนาของอัลลอฮฺ"
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Sun Jun 27, 2004 10:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามมุอะลัยกุมคุณ "nuroiya"
มะอัฟให้ผมด้วย ในเรื่อง ที่ผมเสนอ มา, คือเรื่อง
เราควรจะเชื่อถือ ฮะดีษ ต่างๆ รวมทั้ง ฮะดีษ ซอเฮียะ ว่า เป็น สิ่งที่ควรจะเทิดทูลขึ้นเหนือเกล้า เหนือ กระหม่อม หรือ? และคนที่ไม่เชื่อ ฮะดีษ ซอเฮียะ นั้น เป็น กาเฟร หรือ?
ถ้าข้อเขียนผมกระทบกระเทือนความ ศรัทธา ของคุณ หวังว่า คุณ คงอภัยให้ผมด้วย เนื่องจาก ท่านวิทยากร กล่าวว่า การที่ท่านตอบกระทู้กับผม ท่านคิดว่าท่าน กำลังคุยอยู่กับ กาเฟร ผู้หนึ่ง, ซึ่งผมหวังว่า อัลลอฮ์ คงได้ให้อภัยท่านแล้ว
แต่ก็ยังดีใจที่ยังมีสมาชิก บางท่าน ให้ สลามผม ผมไม่มีเจตนา จะ หลบหลีกคำถามของคุณหรอก และอยาก จะสนทนากับคุณ เสมอ เรื่องนั้น ขอติด ไว้ก่อน สักหน่อยก่อน ผมถูกถามเรื่องนี้ มา เมื่อ ปีที่แล้ว ใน muslimthai.com แต่ไม่มีโอกาสได้ตอบ เนื่องจากไม่มีเวลาและ ประจวบด้วย คุณซายยิด ปิดการ สนทนาของผม ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่สนใจจะเข้า ไปสนทนากับ เวบมุสลิม ใดๆเลย ผมจึงเปิด เวบ muslimthaiusa.com ขึ้น จน คุณ NES ชวนผมเข้ามาใน เวบนี้ และคำถามนี้ ก็ถูกนำมาถามอีก ผมจะต้องนำมาตอบให้คุณทราบ แต่ว่าคุณ จะพอใจหรือไม่นั้น ผมไม่อาจจะ เดาได้ ขอเวลาหน่อยแล้วกัน
ผมขอถามเหตุผลของ ฮะดีษ ซอเฮียะ ที่ตามมานี้ เพื่อความรู้ความเข้า ใจของ ผม ๆ อยากให้ท่านที่เรียนรู้ภาษาอรับ ที่ดี ช่วยกรุณา ค้นดูว่า ต้นฉบับ ภาษาอรับ ของฮาดีษ เหล่านี้ มีว่าอย่างไร, เพราะผมถูกกล่าว หาว่า บิดเบือน ภาคที่ 3 ของ ฮะดีษนี้ เนื่องจากผมเองไม่เข้าใจภาษาอรับดีพอ ถ้าท่านสามารถ หาต้น ฉบับภาษา อรับมายืนยันได้ว่า แปลมาไม่ถูกต้อง ผมจะแก้ไขให้ถูกต้อง
ดังนั้นผมขอความกรุณาจากคุณช่วยค้นคว้าให้ผมด้วย...
ฮะดีษต่อไปนี้ เป็น ฮะดีษ ซอเฮียะ ที่ถุกบันทึกในเวลาเดียวกัน จาก คุตบะ๊หฺ ครั้งสุดท้าย ของ ท่าน ศาสดามูฮัมมัด ที่ถุก บันทึก ไว้ 3 ภาคที่ต่างกัน คือ
ภาคที่1. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน อัลกุรอาน และ ซุนนะห์ (มุวัตตะ, 46/3)
ภาคที่2. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน อัลกุรอาน และ อะฮ์ลาลบัยต์ (อะฮ์ลุลบัยต์)
(มุสลิม 44/4, นู2408; อิบนฺ ฮะนะบาล4/366; ดอริมิ23/1; นู 3319)
ภาคที่3. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก ท่าน (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56)
ภาคที่ 1. คือภาคที่ มุสลิมส่วนใหญ่ ซุนนีย์ มุสลิม เชื่ิอ ว่า แท้จริง
ภาคที่ 2. คือภาคที่ มุสลิม ชิอะต์ เชื่อว่าแท้จริง
ส่วนภาที่ 3. นั้น คงหามุสลิมเชื่อว่า แท้จริง ยากมาก แต่อย่างไรก็ตาม
ภาคที่ 3 ที่กล่าวว่า เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก ท่าน ภาคที่ 3 นี้มี ฮะดีษ ซอเฮียะ หลายสายที่สนับสนุน ตัวอย่างเช่น
1. ฮะดีษ ซอเฮียะ มุสลิม เล่ม 7เลขที่ 2803/1 ฮัจจฺ (กีตาบ- อัลขฮัจจฺ) กล่าวถึง คุตอบะฮ์ ครังสุดท้ายของท่าน รอซูลล บรรยายโดย ญาบิรอิบนฺ อับดุลลอฮ์ ว่า
ท่านรอซูลล........กล่าวว่า ฉัน(มูฮัมมัด) ทิ้งหนังสือของอัลลอฮ์ (อัลกุรอาน), และถ้าพวกท่านยึดถืออัลกุรอาน(เป็นทางดำเนินชีวิต) อย่างมั้่นคงแล้ว ท่านจะไม่หลงทางอย่างแน่นอน.
2. ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บุคอรีย์, หมวด 9, เล่ม 92, เลขที่ 374
บรรยายโดย....อะนัสบินมาลิก : ว่า เขาได้ยิน อุมมาร์ กล่าว ขณะที่ท่านยืน อยู่บน แท่น คุตอบะห์ ของท่านรอซูลล์(ฮัมมัด) ในเวลาเช้า, หลังจาก วันที่ท่านรอซูลล์(มูฮัมมัด) ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว , เมื่อฝูงชนกล่าวปฏิญาณให้ความสวามิภักดิ์ ต่อ อะบูบาคร์. ท่านอุมาร์ผู้นั้น กล่าวว่า, ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์อัลลออ์ โดยยกนื้วชี้้ของมือขวา ขึ้น และลดนิ้วชี้นั้นลงเมื่อ กล่าว ชาฮาดะห์จบต่อหน้า อาบูบาคร์, และกล่าว, ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง, พระองค์อัลลอฮ์, ได้เลือกเฟ้น ท่านรอซูลล์ ให้อยู่กับพระองค์ บนสรวงสวรรค์ แทนที่จะให้อยู่กับพวกเราบนโลกมนุษย์, สิ่งนี้คือหนังสือ(อัลกุรอาน) สิ่งซึ้ง ฮัลลอฮ์ ได้ใช้ให้ เป็น หลัก แนะแนวทางปฏิบัติ ของท่านนบีมูฮัมมัด, ดังนั้นจงยึดมั่นต่ออัลกุรอาน, เพื่อที่ว่าท่านจะได้รับแนวทางที่ถูกต้องเช่นเดียวกับที่ อัลลออ์ ใช้เป็นสิ่งแนะนำแนวทาง แก่ รอซูลล์(มูฮัมมัด) ของท่าน
3. ซอเอียะ บุคอรี, ซอเอียะ มุสลิม, ฟัตขฮุล บะรี, ตับรอนิ, ตอริคฮ์ อะฮ์มะดิ
เพื่อตัดความให้สั้นลงโดยไม่ถอยหลังกลับไปเล่าประวัติศาสตร์ ้ ไปถึง อุมายยิดและอับบาซิด คอลิฟ....ท่านอุมมาฮ์ผู้โชคร้ายผู้หนึ่งได้ตัดสินใจผิด, หลังจากการจากไปของท่านรอซูล, แม้แต่กระทั่งจนวินาทีสุดท้ายท่านอุมาฮ์ ท่านนี้ขอร้องให้ผู้ติดตามท่านให้นำ กระดาษและปากกาเพื่อว่า ท่านอุมมาฮ์ผู้นั้น จะได้เขียนข้อความที่จะป้องกัน พวกเขาจากการ หลงทางแห่งความศรัทธา ภายหลังจากท่าน, แต่ผู้คนที่อยู่รอบข้างท่าน ไม่ต้องการให้ท่านอุมมาฮ์ บอกความตั้งใจของท่านด้วยการจดบันทึก, และมีสาวกผู้หนึ่งกล่าวว่า
หนังสือของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน)นั้นเพียงพอสำหรับเราแล้ว
4. เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก
ท่าน (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56)
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทำไม ภาค ที่ 3 ซึ่งเป็น ฮะดีษ ศอเฮียะ เช่นกัน แต่กลับไม่มีผู้ใด ปฏิบัติตาม หรือ เชื่อถือใน และ ยึดถือ เหมือน ฮะดีษ ศอเฮียะ ภาคที่ 1 และฮะดีษ ศอเฮียะ ภาค 2 ทั้งๆ ที่ มี การบันทึกยืนยัน อยู่ มากกว่าทุกๆ ภาค
แม้กระนั้น ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ภาคที่ 3 บทนี้ ตรงตามบัญญัติ ในอัลกุรอาน อายะ 6-114, และ และในอีกหลาย อายาต ที่สนับสนุน ฮะดีษ ศอเฮียะ ภาคที่ 3 นี้ มุสลิมบางท่าน แทบจะไม่เคยเห็น ฮะดีษ เหล่านี้ เลย โดยเฉพาะ ยุวมุสลิมที่ ไม่ชอบอ่าน ฮะดีษ แต่ชอบ นั่งฟัง เท่านั้น
การจดบันทึก ฮะดีษ ศอเฮียะ จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ครั้ง เดียวกัน, จากท่าน รอซูลคนเดียวกัน และ ในเวลาเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากมายเช่นนี้
1. เกิดขึ้นได้อย่างไร?
2. มีการปลอมแปลงฮะดีษ ศอเฮียะ บทนี้ หรือไม่?
3. เพราะเป็นที่น่าสงสัยว่า ทำไม ฮะดีษ ศอเฮียะ ในเรื่องนี้ ของซุนนีย์ กับของ ชีอะต์ จึงแตกต่างกัน และ สนับสนุน ความเชื่อถือของแต่ละฝ่าย?
ส่วนภาค 3 นั้น ตามหลักการ วิชาการฮะดีษแล้ว ผมว่าถูกต้องที่สุด เพราะมี อัลกุรอาน สนับสนุน อยู่ หลายอายาต, แต่ มุสลิมส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับ ฮะดีษ ศอเฮียะ ที่ว่า,
เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก
ท่าน อย่างเดียวเท่านั้น
ผมอยากให้คุณช่วยกรุณา นำคำถามนี้ไปคิดหาคำตอบและคำอธิบาย ว่า,
การ ปฎิเสธ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ภาค 3 ที่ว่า "เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่าง เดียว เท่านั้น เพื่อให้เป็นสิ่งยึดถือของ พวก ท่าน, (มุสลิม 15/19, นู 1218, อิบนุมาญะฮ์ 25/84, อะบูดาวูด 11/56), จะเป็น "กาเฟร" หรือไม่?
ถ้าคุณ "nuroiya" จะกรุณา หาคำอธิบายโดยละเอียด มาอธิบายให้ผมทราบได้ อาจจะช่วยให้ผมเห็นทางสว่างที่คุณคิดว่าถูกต้องได้, คุณยังมีเวลาอีกมาก ในการค้นคว้า เรื่องนี้ ในขณะที่รอคำตอบเรื่อง การทำละหมาดจากอัลกุรอาน จากผม ในสายตาและความเข้าใจ จากข้อเขียนของผม, คุณ"nuroiya" ได้ตัดสินว่าผมเป็น กาเฟร หรือยังครับ?
ถ้าอาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้ ไม่ตาม ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บทนี้ ท่านจะเป็น, กาเฟร เช่นเดียวกับที่ท่านตัดสินผม หรือไม่? หรือถ้ามุสลิมเลือก ถือตาม ฮะดีษศอเฮียะห์ แต่เฉพาะที่ สนับสนุนความเชื่อถือของตน เช่น ซุนนีย์มุสลิม ใช้ ภาคที่1 และ ชีอะต์มุสลิม ใช้ ภาคที่ 2 จะตกอยู่ในฐานะใด? ทำไมผมเชื่อถือตามภาคที่ 3 (อัลกุรอานเท่านั้น) จึงถูกตัดสินว่าเป็น กาเฟร ไปแล้วทันที?
เหตุที่ผมถามเช่นนี้ ก็ เพราะว่า คุณ ฟารีด เฟ็นดี้ กล่าวถึงผมว่าดังนี้....
คำตอบโดยอาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมพูดจริงๆว่า คนที่ปฏิเสธฮะดีษศอเฮียะห์เป็นกาเฟร หรือสิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิม เพราะฮะดีษศอเฮียะห์นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นตามกระบวนการวิชาฮะดีษ จนมั่นใจว่า เป็นคำพูด การกระทำ หรือการยอมรับของท่านนบีจริงๆ
ถ้าคุณพบกับ คุณฟารีด เฟ็นดี้ ช่วยกรุณาถามท่านด้วยว่าตามที่ท่าน กล่าวว่า, ...ฮะดีษศอเฮียะห์ นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นตามกระบวนการวิชา ฮะดีษ จนมั่นใจว่า เป็นคำพูด การกระทำ หรือการยอมรับของท่าน นบีจริงๆ
ผมใคร่จะถามว่าการยอมรับในที่นี้ใครเป็นผู้ยอมรับ? และยอมรับอะไร?
ผมว่าคุณฟารีด เฟ็นดี้ คงไม่หมายถึงว่า ท่าน นบีมูฮัมมัด ยอมรับ ฮะดีษ ศอเฮียะห์ เป็นแน่, ถ้าเป็นเช่นนั้นนั้นประโยคที่ว่า หรือการยอมรับของท่านนบีจริงๆ ควรจะเปลี่ยนเป็นว่า
..หรือการยอมรับว่าเป็น, ฮาดีษ และ ซุนนะห์ ของท่าน นบีจริงๆ.. ซึ่งจะได้ความว่าดังนี้...
...ฮะดีษศอเฮียะห์นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นตามกระบวนการวิชาฮะดีษ จนมั่นใจว่า เป็นคำพูด การกระทำ หรือการยอมรับว่าเป็น, ฮาดีษ และ ซุนนะห์ ของท่านนบีจริงๆ..
แต่ ถ้า คุณฟารีด เฟ็นดี้ ยืนยันว่า ประโยคของท่านถูกต้อง กรุณาเตือนท่านให้ทราบด้วยว่า การจดบันทึก ฮะดีษ นั้นทำกันหลังจากท่านรอซูล สิ้นชีวิต ไปแล้ว ประมาณ 200 ปี ท่านรอซูลไม่สามารถจะมายืนยันยอมรับ ฮะดีษ เหล่านั้นได้
ผมเชื่อว่าคุณ "nuroiya" คงเป็นนักวิชาการทางศาสนาที่มีความเที่ยงธรรมพอที่จะรับฟัง ข้อเสนอแนะและการขอร้องของผมไปพิจารณา ด้วย
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 1:48 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สลามพี่น้องมุสลิมที่รักทุกท่าน
สวัสดีคุณ matt
ดีใจที่คุณกลับมาตอบกระทู้อีกครั้ง แต่เสียใจด้วยที่รับสลามของคุณไม่ได้ เพราะคุณยังไม่ได้เป็นมุสลิม..โดยปกติแล้วผมสุภาพเสมอสำหรับพี่น้องมุสลิม และกาเฟรที่ไม่เป็นภัยต่ออิสลาม แต่สำหรับคุณนอกจากจะไม่ได้เป็นมุสลิมแล้ว ยังล่อลวงมุสลิมให้ออกจากอิสลามด้วย
ผมสนทนากับคุณด้วยดีตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งที่สมาชิกบางท่านเสนอว่า ไม่สมควรจะสนทนากับคุณต่อไป แต่ผมก็ยังหวังว่าจะทำให้คุณหันมาน้อมรับในคำสอนของท่านรอซูลได้ ผมเชิญชวนและเตือนคุณแล้วมากกว่า 3 ครั้ง แต่เมื่อคุณยังดื้อดึง ผมจึงได้กล่าวว่า ผมคุยกับกาเฟรที่ทำลายอิสลาม
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 1:55 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมพูดเสมอว่า ผมไม่รีบร้อน ขอคุยทีละประเด็น แต่คุณ matt ก็กระโดดไปกระโดดมา หลายเรื่องที่ผมติว่าคุณแปลผิด อธิบายผิด แต่คุณก็ไม่ใส่ใจที่จะแก้ไข ยังคงร่ายข้อความเพี้ยนๆ ของคุณต่อไปอีก รวมถึงฮะดีษที่คุณตั้งข้อสงสัยด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยชี้แจงให้แล้วในเบื่องต้นว่าคุณบิดเบือนข้อความ และเติมคำของคุณเองลงในฮะดีษคือ
"เราทิ้งไว้ให้พวกท่าน, อัลกุรอาน อย่าง เดียว เท่านั้น คุณไปเอาคำว่า อย่างเดียวเท่านั้น มาจากไหน ซึ่งข้อความนี้ไม่มีระบุในรายงาน ผมเคยท้วงติงไปแล้วมิใช่หรือ แต่คุณก็ยังนำข้อความบิดเบือนเช่นนี้กลับมาโพสต์อีก การเพิ่มคำว่า อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เนื้อหาของฮะดีษเปลี่ยนไป
ถ้าจะคุยกันด้วยภาษาฮะดีษหรือภาษาศาสนาคุณคงแกล้งไม่เข้าใจอีก ถ้าเช่นนั้นผมขอยกตัวอย่างเป็นภาษาไทยให้คุณเห็นดังนี้คือ
1 - คุณ matt เป็นคนไทย 2 - คุณ matt คนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนไทย
ถ้าคุณเข้าใจภาษาไทยที่ยกมาเปรียบเทียบให้เห็นนี้ จะทำให้คุณเข้าใจความหมายของฮะดีษได้ดีขึ้น
แต่ผมว่า คุณก็คงจะแกล้งฉลาดน้อยอีกตามเคย
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 2:01 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เมื่อคุณ matt แปลผิดแล้วจะเข้าใจถูกได้อย่างไร
นอกจากนั้นแล้วคุณยังไม่เข้าใจความเป็นมาของฮะดีษอีกด้วย เช่นการที่คุณกล่าวว่า
การจดบันทึก ฮะดีษ นั้นทำกันหลังจากท่านรอซูล สิ้นชีวิต ไปแล้ว ประมาณ 200 ปี ท่านรอซูลไม่สามารถจะมายืนยันยอมรับ ฮะดีษ เหล่านั้นได้
นี่เป็นความเขลาที่นำไปสู่การเข้าใจผิดและบิดเบือน ความจริงได้มีการจดบันทึกฮะดีษกันตั้งแต่ท่านนบียังมีชีวิตอยู่ และเป็นคำสั่งใช้ของท่านรอซูลเสียด้วย เช่นบันทึกของอะบีชาฮ์ หรือบันทึกของ อิบนุอัมร์ เป็นต้น
ผมชี้แนะให้คุณ matt ดูตำราใหม่ก่อนที่จะประจานตัวเอง
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วิทยากร อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เข้าร่วมเมื่อ: 13/01/2004 ตอบ: 158
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 2:05 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เรื่องของฮะดีษนี้ ผมชี้แจงวันละนิด เพื่อให้พี่น้องได้ศึกษา แต่ไม่ได้มุ่งหวังจะให้คุณ matt เข้าใจ เพราะตราบใดที่เขา <matt> ยังปฏิเสธอัลกุรอานอยู่ ก็ป่วยการที่จะคุยเรื่องฮะดีษ
คุณ matt ปฏิเสธอัลกุรอ่านหรือ.... ?
ใช่ครับ..คุณ matt ปฏิเสธอัลกุรอาน ทั้งๆที่ปากประกาศว่า ตามอัลกุรอานอย่างเดียว
من يطع الرسول فقد أطاع الله
ผู้ใดฏออัตต่อรอซูล เขาได้ฏออัตต่ออัลลอ์ ซูเราะห์อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 80
คำว่า ฏออะห์ หมายถึงเชื่อฟัง น้อมรับ และปฏิบัติตาม แต่สำหรับคุณ matt แล้วไม่ได้ฏออัตต่อรอซูลและก็ไม่ได้ตออัฏต่ออัลลอฮ์ด้วย
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
matt มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004 ตอบ: 254 ที่อยู่: usa
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 7:31 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามมุอะลัยกุม ท่านวิทยากร
ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะต้อง มาทะเลาะกัน และกล่าว วาจาประณาม กัน เพราะ ที่เรามีความเห็น ไม่ตรง กัน ทุกครั้ง ที่ผม นำความจริงมา แสดง พร้อมด้วย เอกสารอ้างอิง คุณ บอกว่า ผมแปล ผิด และ บิด เบือน, แต่เมื่อ ผมนำ ฮะดีษ ซอเอี๊ยะ มุสลิม, เล่มที่ 7 (กิตาบ อัล- ฮัจจฺ) เลขที่ 2803.1 มาแสดงต่อ คุณ แล้ว
แม้กระนั้น ผมยัง ขอให้คุณ ช่วยกรุณา หาต้นฉบับภาษา อรับ มาแสดง ให้ผมและ สมาชิก ทั้ง หลาย ที่นี่ ได้ เห็น คำแปลที่ถูกต้อง หากว่าผมผิดพลาด ในการแปล ผมจะได้แก้ ไขให้ ถูกต้อง แต่คุณ ก็ไม่เอามาแสดง .ให้ผมเห็นว่า ส่วน ไหนที่ผมแปล ผิดพลาด, ถ้าคุณว่าผมแปลภาษา อรับ ไม่ได้ เพราะผมไม่มีความรู้ภาษา อรับ ดีพอที่จะ เข้า ใจ ภาษา ฮาดีษ ขอให้คุณไปเอาต้นฉบับภาษา อรับ มา เถิด, ผมมีผู้ทรงคุณวุฒิ มาก มาย ทางนี้ ที่จะ ช่วย อธิบาย ให้ผม เข้าใจ และ แปล ได้ถูกต้อง เพราะ ผมไม่ต้องการเห็น ที่แปลมาเป็น ภาษาอังกฤษ เพราะอาจจะมีการผิด พลาด
ผมจะลองแปลให้คุณใหม่ ฮะดีษ ซอเอี๊ยะ มุสลิม, เล่มที่ 7 (กิตาบ อัล- ฮัจจฺ) เลขที่ 2803.1 ในคุตฺบะฮฺ ครั้งสุด ท้าย ของท่าน นบีมูฮัมมัด ตอนหนึ่งมีความว่า,
ฉัน (มูฮัมมัด) ได้ทิ้งหนังสือของ อัลลอฮ์ เล่มนั้น (อัลกุรอาน) ไว้กับพวกท่านทั้งหลายแล้ว, และถ้าท่านทั้งหลายยึดถือมัน (อัลกุรอาน) อย่างมั่นคง, พวกท่านทั้งหลายจะไม่หลงไปในทางที่ผิด.
(ใน ฮะดีษ ซอเอี๊ยะ นี้ไม่มีคำว่า และ ซุนนะห์ จองฉัน หรือ และ อะฮ์ลัลบัยต์ มีแต่ว่าหนังสือของ อัลลอฮ์ เล่มนั้น)
การแปลของผม เช่นนี้ คุณ จะพอใจหรือไม่ และคุณว่า ถูกต้องไหม?, ถ้าคุณพอใจ คำแปลนี้ คุณ จะกรุณา ตีความหมายทาง ภาษาฮะดีษ ให้ผมฟังได้ไหม? ว่า มีความหมายอย่าง ไร?
สมมติว่าคุณพอใจกับการแปลสำนวนใหม่ของผม แล้ว, คุณช่วยอธิบาย กรุณา อธิบาย ฮะดีษ บทนี้ ตามภาษา ฮะดีษ ให้ผมฟังซิว่า มีอยู่จริงไหม? และมีความหมายว่าอย่างไร? จาก ฮะดีษ ศอเฮียะห์ บุคอรีย์, หมวด 9, เล่ม 92, เลขที่ 374
บรรยายโดย....อะนัสบินมาลิก: ว่า เขาได้ยิน อุมมาร์ กล่าว ขณะที่ท่านยืน อยู่บน แท่น คุตบะห์ ของท่านรอซูลล์ (ฮัมมัด) ในเวลาเช้า, หลังจาก วันที่ท่านรอซูลล์ (มูฮัมมัด) ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว, เมื่อฝูงชนกล่าวปฏิญาณให้ความสวามิภักดิ์ ต่อ อะบูบาคร์. ท่านอุมาร์ผู้นั้น กล่าวว่า, ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์อัลลออ์ โดยยกนื้วชี้้ของมือขวา ขึ้น และลดนิ้วชี้นั้นลงเมื่อ กล่าว ชาฮาดะห์จบต่อหน้า อาบูบาคร์, และกล่าว, ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง, พระองค์อัลลอฮ์, ได้เลือกเฟ้น ท่านรอซูลล์ ให้อยู่กับพระองค์ บนสรวงสวรรค์ แทนที่จะให้อยู่กับพวกเราบนโลกมนุษย์, สิ่งนี้คือหนังสือ(อัลกุรอาน) สิ่งซึ้ง ฮัลลอฮ์ ได้ใช้ให้ เป็น หลัก แนะแนวทางปฏิบัติ ของท่านนบีมูฮัมมัด, ดังนั้นจงยึดมั่นต่ออัลกุรอาน, เพื่อที่ว่าท่านจะได้รับแนวทางที่ถูกต้องเช่นเดียวกับที่ อัลลอฮ์ ใช้เป็นสิ่งแนะนำแนวทาง แก่ รอซูลล์(มูฮัมมัด) ของท่าน
ฮะดีษ ศอเฮียะห์ ข้างบนนี้ มีอยู่จริงไหม? มีความหมายต่อมุสลิมว่า อย่างไร? ผมว่าบรรดาสมาชิกทั้ง หลาย ในที่นี้ ต้องการฟังคำอธิบายเช่นกัน
ข้อต่อไป.....ในเมื่อ คุตบะฮฺ เกิดขึ้น ในวันและเวลาเดียวกัน ทำไมการจดบันทึกต่อไปนี้ จึงต่างกัน และถ้าอะฮ์ลัลบัยต์ 1. ฉันทิ้งไว้ให้พวกท่านสองสิ่ง นั้นคือ อัลกุรอาน และ ซุนนะห์ ของฉัน (มูวัตตะ, 46/3) ซุนนีย์ มุสลิม46/3)......
2. ฉันทิ้งไว้ให้พวกท่านสองสิ่ง นั้นคือ อัลกุรอาน และ อะฮ์ลัลบัยต์ (มุสลิม 44/4, นุ2408, อิบนุฮันบาล4/366.ดอริมิ23/1, นุ3319) ชีอะต์ มุสลิม.
ทำไม ในฮะดีษทั้งสองกันจึงแตกด่างกัน ในเมื่อ บันทึกพร้อมๆกันอยู่ในวันเดียวกัน
สำหรับเรื่องการจดบันทึกฮาดีษนั้น ในขณะที่ท่านรอซูลมีชีวิตอยู่ ท่านสั่งไว้อย่างเด็ดขาด ห้ามจดบันทึกสิ่งใด ที่ท่านพูด นอกจาก อัลกุรอานเท่านั้น ผู้ที่มีความรู้อย่างคุณ และ เพื่อนคุณ คงทราบดี ทั้งนี้ คำสั่งนี้ อยู่ ใน ฮะดีษ ศอเฮียะห์ เช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะประณาม ผมอย่างไร ก็ตาม ผมจะไม่ใช้ มาตรฐานเดียวกับคุณ โต้ตอบคุณ นอกเสีย จะ ขอบคุณๆ ที่ผม ได้ มีโอกาส เข้ามา ในเวบนี้ และ ได้เรียนรู้ สิ่งต่างๆ หลายอย่างที่นี่ หวังว่ามรดกที่จะตกทอด ให้ ลูกหลานมุสลิม ของ เรา ตรง กับที่ อัลลอฮ์ พระองค์ ทรงมุ่งหมายไว้
คำถามผมคุณจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เพราะ ส่วนตัว ผมทราบคำตอบอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นประโยชน์ กับสมาชิกของคุณเอง ผมไม่มีคำอะไรจะกล่าวกับคุณอีก นอกจาก ขอให้อัลลออ์ คุมครองคุณ เท่านั้น
วัสลาม
แมทท์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ahlussunnah มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 25/06/2004 ตอบ: 43
|
ตอบ: Mon Jun 28, 2004 7:35 am ชื่อกระทู้: |
|
|
Matt
You don't need to post a lot of message. You just answer a little bit and a little bit of talking but follow to a point.I belive everybody did not read all of your messages.
Muslim thai in USA.
Asslamualaikum unless Matt
Ahlussunah Walyamaah |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|
|
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้ คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
Powered by phpBB
ฉ 2001, 2002 phpBB Group
|